42 - พี่รอน้องกายได้อยู่แล้ว
.
.
>...ฟิล์ม...<
ผมนั่งรอเพื่อนของน้องชายอยู่ที่ม้านั่งในสนามเด็กเล่นภายในหมู่บ้าน ผมไม่แน่ใจว่าเพื่อนของน้องชายต้องการจะคุยอะไรกับผม แต่ถ้าให้เดาผมคิดว่าตัวเองเดาถูกว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับน้องกาย แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรผมก็พร้อมเคลียร์ครับ
ในที่สุดผมก็มองเห็นรถยนต์สีขาวแล่นมาจอดที่ข้างรถผม ก่อนที่ร่างของคนคุ้นหน้าสองคนจะเดินผ่านสนามมาหาและหยุดลงตรงหน้า ทั้งคู่ยกมือขึ้นไหว้ผม ส่วนผมก็รับไหว้ฝ้ายกับเต้เหมือนกันครับ
“ผมให้พี่กับเต้คุยกันเองดีกว่า” ฝ้ายบอกอย่างนั้นแล้วน้องมันก็เดินกลับไปที่รถครับ
ตอนนี้เลยเหลือแค่ผมกับไอ้เด็กเต้ เราจ้องตากันขณะที่เริ่มรับรู้ว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวมืดลงทุกขณะ...พลบค่ำแล้วสินะ
“กายขอเลิกกับผม” ในที่สุดไอ้เด็กคนนี้มันก็เปิดปากพูดครับ
“แล้วยังไง” ผมถามกลับไป ไม่ได้กวนนะครับ เรื่องน้องกายกับเต้มันเป็นเรื่องของคนสองคนใช่มั้ยล่ะ จะตกลงคบกันหรือเลิกกันผมไม่มีสิทธิ์เข้าไปสั่งการอะไรอยู่แล้ว “มาบอกพี่ทำไม”
เต้มันยังจ้องผมเขม็ง “ผมจะปล่อยกายไป” มันว่าพลางหยักยิ้ม “ถ้าพี่ชนะผมได้!”
ผมไม่เข้าใจที่เต้มันพูดเลยครับ จนกระทั่งถูกกำปั้นหนักๆ สวนเข้าที่ข้างแก้มนั่นล่ะ ได้รสเลือดเชียว “เอาแบบนี้ใช่มั้ย!” ได้! ถ้ามั่นใจว่าจะตัดสินด้วยกำลังล่ะก็ ผมเอาด้วย! ตายเป็นตายล่ะวะ!
ไอ้เต้มันสวนหมัดกลับมาทันทีที่ผมต่อยหน้ามัน หลังจากนั้นเราก็กระโจนเข้าใส่กัน หมัด เข่า ศอก มีเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง ผมเพิ่งตระหนักว่าเต้เป็น ‘ผู้ชาย’ ไม่ใช่ ‘เด็กชาย’ ก็วันนี้เอง ไม่อยากยอมรับเลย แม่ง! มันรักกายไม่น้อยไปกว่าผมเลยด้วยซ้ำ!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ในความรู้สึกเหมือนว่าจะนานมากอยู่เหมือนกันครับ กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีผมก็จ้องตากับไอ้เต้เขม็งแล้ว มันล้มไปกองอยู่ที่พื้นส่วนผมก็กำลังคล่อมทับมันอยู่ด้านบน มือของเราทั้งคู่ยังกำหมัดกันอยู่เลย ก่อนที่ผมจะตัดสินใจผละห่างออกมา คิดว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว
“พี่ชนะ”
เต้มันขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ตามันบอกผมว่ามันไม่ได้ยอมแพ้ผมเลยซักนิด ผมอาจจะชนะมันด้วยพละกำลังที่มีมากกว่าก็เท่านั้น
“จะพิสูจน์อะไรอีกมั้ย”
คราวนี้เต้มันส่ายหน้า “ผมแพ้พี่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น” มันพูดทั้งๆ ที่มือยังแตะปากที่เลือดไหลอยู่เลย “เพราะกายรักพี่ผมถึงต้องยอม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พี่ทำกายเจ็บ ผมจะเอากายคืนมา จำไว้นะพี่ฟิล์ม!”
“เต้ก็จำไว้เหมือนกันนะ” ผมจ้องหน้าไอ้เต้ขณะที่พูดประโยคนี้ “ไม่มีวันนั้นที่เต้หวังหรอก” พูดแค่นั้นผมก็เดินออกมา ทิ้งไอ้เต้ไว้ที่สนาม ไม่มีเหตุอะไรให้ต้องเคลียร์แล้วครับ ทุกอย่างชัดเจนแล้ว
ก่อนจะขึ้นรถผมสบตากับฝ้ายที่ยืนมองอยู่ข้างประตูรถไอ้เต้ น้องเพียงแต่ส่งยิ้มจางๆ มาให้ก่อนที่จะเดินไปดูเพื่อนซึ่งยังนั่งอยู่ในสนาม ผมมองตามเห็นฝ้ายตบไหล่ไอ้น้องเต้สองสามทีและไม่ได้ยินว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน ได้แต่ถอนใจก่อนจะขึ้นรถและขับออกมาจากตรงนั้น อย่างน้อยผมควรเคารพต่อความรู้สึกของเต้ เวลาเศร้าเสียใจไม่มีใครอยากให้คนอื่นเห็นใช่มั้ยล่ะครับ
“พี่ฟิล์ม หน้าพี่ฟิล์มไปโดนอะไรมาครับ”
พอเข้าบ้านมาก็เจอฟาร์ทักเลยครับ ผมยังไม่เห็นหน้าตัวเองนะ แต่เดาว่าคงดูแย่พอควรไม่งั้นฟาร์ไม่ร้องทักเสียงหลงขนาดนี้หรอก
“เกิดอะไรขึ้นครับ พี่ฟิล์มไปมีเรื่องกับใครมาอะ”
“ไม่มีอะไร” ผมบอกปัดน้องไป “เย็นนี้พี่ไม่กินข้าวนะ” บอกแค่นั้นแล้วเดินขึ้นห้องเลยครับ ไม่อยากให้พวกฟาร์เป็นกังวลไปด้วย
พอเข้าห้องมาได้ก็ส่องกระจกเลยครับ อืม...ไอ้เต้นี่หมัดหนักแฮะ หน้าผมช้ำไปเป็นแถบT_Tแถมเสื้อผ้าก็มีรอยรองเท้าด้วย แต่ช่างมันเถอะ เจ็บแค่นี้ทนได้อะครับ เพราะเจ็บแค่ร่างกายแต่หัวใจผมกำลังมีความสุขนี่นะ^^
ใช้เวลาอาบน้ำพอสมควรครับและพอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นตัวปัญหาสามคนนั่งจุ้มปุ๊กรออยู่ในห้องนอนแล้ว ฟางกับฟ้านี่ตาโตเลยทันทีที่เห็นหน้าผม เฮ้อ! ไม่อยากให้เจอในสภาพแบบนี้แล้วเชียว
“ไปทำอะไรมากันคะเนี่ย” ฟางทำหน้าแหยใส่รอยช้ำบนหน้าผม “เดี๋ยวฟางลงไปเอาน้ำแข็งมาประคบให้นะ” ว่าแล้วน้องสาวคนดีของผมก็รีบลุกออกไปจากห้องเลยครับ
ทีนี้ก็เหลือเจ้าตัวดีที่นั่งจ้องผมเขม็งอยู่นี่ล่ะ “พี่ฟิล์มไปมีเรื่องกับใครมาฮะ ใครทำอะไรพี่ฟิล์มอะ”
ผมยิ้มให้ฟ้าที่เริ่มจะโวยวาย นี่ละนะเด็กหวงพี่อะ^^ “ไม่มีอะไรครับ แค่เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ตอนนี้เคลียร์แล้วเรียบร้อย”
“เคลียร์กันด้วยกำปั้นนี่นะครับ คู่กรณีของพี่ฟิล์มท่าจะอารมณ์ร้อนน่าดู” ฟาร์ว่าพลางส่ายหน้า น้องคนนี้มันไม่ชอบเรื่องชกต่อยอยู่แล้วล่ะครับ เลยออกจะไม่เห็นด้วยสินะกับการตัดสินกันด้วยกำลังน่ะ
“แต่พี่ฟิล์มเจ็บหนักน่าดูเลย” เจ้าฟ้าว่าพลางเอานิ้วมาจิ้มที่มุมปากของผม ได้การเลย ผมร้องลั่นสิ มันเจ็บนี่นา “ขอโทษฮะT-T”
“อย่าเล่นแบบนี้สิครับ” ผมบอกเสียงอ่อย ตอนต่อยกันน่ะไม่เจ็บ แต่ตอนนี้ชักเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันเจ็บนิดๆ แล้วเจ้าดื้อนี่เล่นเอามือมาจิ้มๆ เล่นซะงั้น
“ให้ฟ้าตามพยาบาลให้มั้ย” ฟ้าตาใสถามผมครับ และโดยไม่รอคำตอบเจ้าตัวดีก็หุนหันวิ่งออกไปจากห้อง รู้เลยทีเดียวว่าต้องไปตามพยาบาลที่ว่านั่นแน่ เฮ้อ!
“พี่ฟิล์มไม่อยากให้น้องกายเห็นเหรอครับ” ฟาร์ถามเมื่อได้ยินเสียงผมถอนหายใจยาว
“อืม” ผมพยักหน้าตอบ “พี่ไม่อยากให้กายคิดมาก”
“พี่ฟิล์มต่อยกับใครครับ” ฟาร์ถามจนได้สิน่า “อย่าบอกนะว่าน้องเต้น่ะ” ไม่เคยปิดเจ้านี่ได้เลยสิน่า
“ใช่เลย” ผมยอมรับแต่โดยดี “เต้ขอเคลียร์กับพี่ พอมาถึงก็นี่เลยต่อยเข้านี่” ผมชี้ที่แก้มซีกซ้าย “เต้บอกว่าถ้าพี่ชนะได้เขาจะยอมเลิกกับน้องกาย ซึ่งพี่ก็ชนะอะนะ”
“แล้วยังไงครับ” ฟาร์ถามต่อ “รู้สึกเหมือนพี่ฟิล์มไม่มีความสุขอะ”
“ก็...จะว่าไม่มีความสุขมันก็ไม่ได้นะ” ผมถอนใจ “ตอนนี้เหลือแค่พี่พูดกับกายทุกอย่างก็น่าจะโอเคแล้วใช่มั้ยล่ะ แต่มันรู้สึกแปลกๆ พี่ก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่ไม่ชอบเลยที่ต้องมาต่อยกับเต้แบบนี้” จะว่าไปแล้วเต้มันก็เคยเป็นน้องผมคนนึงนี่นะ ถึงจะไม่สนิทกันมากแต่ก็ไม่เคยมองกันด้วยสายตาไม่ชอบอีกฝ่ายแบบนี้เลยนี่นา เห็นแล้วก็เศร้าเล็กๆ แฮะT-T
“ถ้าพี่ฟิล์มไม่อยากรู้สึกผิดกับเต้ก็ดูแลน้องกายดีๆ สิครับ”
ผมถอนใจอีกครั้งกับคำพูดของน้อง “พี่ไม่ได้รู้สึกผิดกับเต้มันซะหน่อย” ผมว่างั้น ส่วนฟาร์ก็เอาแต่ส่ายหน้ายิ้มๆ เฮ้อ!
“ถอนหายใจทำไมคะ เจ็บแผลเหรอ”
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะนั่งนิ่งๆ ให้น้องฟางประคบน้ำแข็งให้ อืม...เจ็บว่ะT^T
“พี่ฟางไม่ต้องทำหรอกฮะ เดี๋ยวให้พยาบาลคนนี้จัดการเอง” เสียงเจ้าฟ้าดังมาก่อนตัวซะอีกครับ เจ้าตัวดีเดินเข้าห้องมาและทำหน้าตาแบบภูมิใจนำเสนอมากครับ ใช่แล้ว คนที่เดินตามหลังมาน่ะน้องกายครับ^^
“พี่ฟิล์มไปโดนอะไรมาน่ะฮะ” น้องกายถึงกับตาโตเลยทีเดียว รีบทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผมเลยครับ หน้าน้องนี่แหยไปแล้วเมื่อเห็นแผลชัดๆ
ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไร น้องๆ ที่น่ารักทั้งสามคนของผมก็สะกิดกันยิกๆ แล้วพร้อมใจกันเดินออกจากห้องไปซะงั้นอะ^^ เลยเหลือผมกับน้องกายกันแค่สองคนครับ แต่ดูเหมือนน้องกายจะไม่สนใจอะไรนอกจากหยิบน้ำแข็งใส่ผ้าขนหนูสีขาวแล้วเอามาประคบหน้าให้ผมครับ
“เจ็บมั้ยฮะ”
ผมส่ายหน้า “ตอนนี้ไม่เจ็บแล้วครับ” แน่ล่ะ ได้พยาบาลน่ารักมาคอยดูแลนี่นา^^
“ไปทะเลาะกับใครมากันนะพี่ฟิล์ม” น้องกายบ่นหน่อยๆ ด้วยครับ มือก็ยังประคบแก้มผมอยู่เลย แต่แปลกที่ผมไม่รำคาญเสียงบ่นนั่นเลยซักนิด ชอบฟังซะอีก น้องกายบ่นเพราะเป็นห่วงผมล่ะน่า^^ “เอายาแก้ปวดมั้ยฮะ”
“หือ...ไม่ต้องหรอกครับ แค่นี้ก็พอแล้ว” โธ่~ผมไม่ได้บอบบางขนาดนั้นนะ แค่ต่อยกันไม่ถึงกับเป็นไข้หรอกน่า
น้องกายมองหน้าผมเขม็งเลย แต่พอผมยืนยันอีกทีว่าไม่เป็นอะไรมากน้องก็เลยยอมตามใจครับ “แล้วพี่ฟิล์มทานมื้อเย็นรึยังฮะ”
“ยังเลย น้องกายล่ะ”
“กายก็ยังเหมือนกัน” น้องตอบพลางยิ้ม “กายเพิ่งตื่นตอนที่ฟ้าโทรไปเรียกแหละ”
รู้สึกดีชะมัดเลย^O^ ได้ยินแบบนี้นี่ทำเอาผมอารมณ์ดีเลยล่ะครับ “เป็นห่วงพี่เลยรีบมาใช่มั้ย” ผมถามด้วยรอยยิ้ม เห็นแก้มแดงๆ แล้วอดใจไม่ไหวเลยต้องก้มลงไปหอมซะเลยครับ^^
“อย่าทำแบบนี้สิฮะ-///-“
“ทำไมล่ะ” อ่า~เห็นน้องกายอายแล้วน่ารักจัง ผมชอบมองนะ^^
“เรายังไม่ได้คุยกันเลย” น้องบอก “แล้วกายก็ยังไม่ได้เคลียร์กับเต้ด้วย” ประโยคนี้ล่ะครับที่ทำให้หน้าน้องกายเจื่อนลง
“พี่เข้าใจ” ผมบอกให้น้องสบายใจ ผมเข้าใจดีว่าน้องกายเป็นเด็กดีและน่ารักแค่ไหน กายคงกำลังไม่สบายใจแน่ๆ ล่ะที่เป็นแบบนี้ น้องรักผมแน่ผมรู้และแน่ใจ “ไว้เราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้อีกที ตอนนี้ลงไปทานข้าวกัน” ผมบอกพร้อมกับดึงมือกายให้ลุกจากเตียง แล้วพาเดินออกไปจากห้องครับ
“พี่ฟิล์มไม่โกรธกายนะ” เสียงเล็กๆ นั่นถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ แบบนี้จะโกรธลงได้ยังไงกัน
“ไม่โกรธครับ” ผมบอกพลางยิ้ม “พี่รอกายได้อยู่แล้ว”
“ขอบคุณฮะ” น้องยิ้ม ร่าเริงขึ้นมาได้หน่อยแล้วสินะ
เราลงมาที่โต๊ะอาหาร น้องๆ ผมนั่งรอกันอยู่แล้วครับ ฟ้ากับฟาร์มองมาที่มือของผมกับน้องกายซึ่งกุมกันอยู่แล้วสองคนนี้ก็ส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้กายได้หน้าแดง น้องได้ก้มหน้างุดทรุดตัวลงนั่งข้างผมและแทบจะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาเจอสายตาแซวของพวกฟาร์เลยล่ะ
“ทานข้าวได้แล้วค่ะน้องฟ้า” เพราะฟางปรามไว้นั่นล่ะครับ ฟ้าถึงได้ยังไม่ส่งเสียงแซวมาให้น้องกายอายไปมากกว่านี้
“ทานข้าวครับน้องกาย” ผมกระซิบบอกคนขี้อาย แล้วจัดการตักอาหารไปใส่จานให้ นั่นล่ะครับน้องกายถึงได้ยอมเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้และเริ่มทานอาหารได้
หลังจากทานมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วน้องกายก็ถูกฟ้ายึดตัวไปครับT^T พากันไปนั่งดูทีวีกันในห้องนั่งเล่น ส่วนผมก็นั่งคุยกับฟางและฟาร์อยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านครับ กำลังให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนกับน้องฟางครับ
“พี่ฟิล์ม กายจะกลับบ้านแล้วฮะ” น้องกายเดินออกมากับน้องฟ้าครับ แล้วก็บอกประโยคนี้กับผม เพราะก่อนหน้านั้นผมบอกน้องไปแล้วว่าจะออกไปส่งเอง น้องไม่ยอมนอนที่นี่T^T
“ไปครับ”
กายเดินตามผมมาเงียบๆ ก่อนที่น้องจะอมยิ้มเมื่อผมรั้งข้อมือเล็กให้มาเดินด้วยกัน เราไม่ได้คุยอะไรกันเลยครับ แต่ผมไม่อึดอัดนะ ชอบซะอีก
“พรุ่งนี้พี่มารับนะ” ผมบอกเมื่อเข้ามาส่งน้องกายถึงในบ้านเลยครับ
“อื้อ” น้องพยักหน้ารับคำ “ฝันดีฮะ” น้องบอกลาพร้อมรอยยิ้ม
“เข้าบ้านไปครับ” ผมบอกลาด้วยรอยยิ้มเหมือนกันครับ มองจนน้องกายเดินขึ้นบันไดไปแล้วนั่นล่ะผมถึงได้หันหลังกลับเดินออกไปที่หน้าประตู พี่ติ่งรอปิดประตูอยู่ด้วยครับ
“กลับดีๆ นะคะคุณฟิล์ม”
“ขอบคุณครับ” ผมบอกขอบคุณพี่ติ่งไปแล้วก็เดินกลับบ้าน
แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากหันกลับไปมองบ้านของน้องกายอีกรอบนะ พอหันไปมองยังชั้นบนของตัวบ้านผมก็ยิ้มเลยครับ ทายสิว่าผมเห็นอะไร^^
ใช่แล้ว น้องกายยืนมองผมอยู่ที่หน้าต่างห้องนอนของน้องล่ะครับ ผมโบกมือให้นั่นล่ะน้องถึงได้ยอมปิดหน้าต่าง ส่วนผมก็เดินกลับบ้านอย่างคนที่มีความสุขเต็มเปี่ยมและมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าครับ^^
.
.
To Be Con
ใกล้จะได้เวลาโบกมือลาฟิล์มกายกันแล้วค่ะ^^