น่ารัก(ว่ะ) 2
24...ห่างไกล
.
.
.
>...ฟิล์ม...<
คาบเรียนสุดท้ายจบลงแล้วครับ ระหว่างนี้พวกเพื่อนๆ ของผมกำลังวุ่นวายกันอยู่กับการตกลงกันว่าจะไปต่อกันที่ไหน ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วครับที่จะพากันไปหาร้านเหล้านั่งดื่มกัน
“ตกลงเป็นร้านแถวบ้านกูนะ”
ผมพยักหน้าตอบไอ้นัทไปก่อนจะกดรับสายจากแม่ครับ ช่วงนี้คุณนายโทรหาผมบ่อยมาก^^
“วันนี้ฟิล์มเข้าบ้านด้วยนะ”
“แม่ครับ ผมมีนัดกับเพื่อนแล้ว”
“กลุ่มนัทใช่มั้ย งั้นบอกให้มาทานข้าวที่บ้านสิ”
“แต่พวกมันจะดื่มกันนะครับ”
“ทุกทีก็มาที่บ้านได้ ฟิล์มอย่าหาเรื่องผลัด วันนี้แม่ต้องได้เห็นหน้าลูก เวลาอาหารเย็นเริ่มหกโมง เข้าใจมั้ยคะ”
“ครับ” ผมรับคำอย่างเซ็งก่อนที่แม่จะเป็นฝ่ายวางสายไป เฮ้อ!~ไม่อยากเข้าบ้านเลยครับ “แม่กูบอกให้พวกมึงไปบ้านกู” ผมหันไปบอกเพื่อน ไม่มีใครมีปัญหาหรอกครับ ยกเว้นไอ้คริสคนเดียวที่เงียบกริบ และผมรู้ว่ามันต้องปลีกตัวไม่ไปแน่ๆ ก็นะ มันยังอยู่ในช่วงสัญญาสามเดือนนี่นา ใจจริงก็อยากลากมันไปเป็นเพื่อนผมด้วยหรอก แต่ก็ไม่อยากให้มันพยายามสูญเปล่า จะว่าไปแล้วตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกอยากเจอแต่เจอไม่ได้ของไอ้คริสดีเลยครับ
.
.
“แล้วมึงจะค้างที่บ้านรึเปล่าวะ” ไอ้แดนถามผมระหว่างที่เรากำลังนั่งรถไปที่บ้านผมครับ
“นอนห้องมึงน่ะแหล่ะ” ผมตอบ เกือบสองเดือนแล้วล่ะครับที่ผมค้างอยู่ที่ห้องไอ้แดนซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้หนีอะไรหรอกครับแต่เรียนเริ่มหนักขึ้นนะ แล้วผมก็คิดว่าคงดีกว่าถ้าไม่ต้องเจอกัน เดี๋ยวอีกฝ่ายจะพาลลำบากใจซะเปล่าๆ พอคิดอย่างนั้นก็เลยเป็นฝ่ายหลบออกมาเองน่ะครับ
“แล้วเรื่องเหล้าล่ะเอาไง” ไอ้นัทถามบ้างครับ
“ตามเดิมแหล่ะ” ผมตอบไป “กินข้าวแล้วค่อยออกไป มึงโทรบอกไอ้คริสให้ไปเจอเราที่ร้านแล้วกัน”
ไอ้นัทพยักหน้าว่าเข้าใจ มันกดโทรหาไอ้คริสระหว่างที่ผมกำลังจะเลี้ยวรถเข้าหมู่บ้าน จะว่าไปในรอบเดือนนี้ผมกลับบ้านครั้งนี้เป็นครั้งที่สามเองครับ ก็ไม่แปลกอะนะถ้าจะถูกแม่ด่าT-T
“น้องกายนี่หว่า”
ผมหันไปมองตามเสียงร้องของไอ้นัทก่อนจะหันกลับมามองที่ด้านหน้าและตั้งใจอย่างเต็มที่ในการขับรถไปบ้านตัวเอง
“มึงนะมึง!” ไอ้แดนบ่นใส่ไอ้นัท
“โทษที” ไอ้นัทพูดงึมงำข้างผม “ลืมไปว่าแฟนน้องกายก็อยู่ด้วย”
ผมไม่ได้พูดอะไรนอกจากเลี้ยวรถเข้าไปจอดในบ้าน ระหว่างที่กำลังเดินเข้าไปในบ้านผมพยายามบอกตัวเองซ้ำๆ ให้ลืมภาพที่เห็นก่อนหน้านี้ ให้ลืมว่าเคยเห็นน้องกายกำลังยิ้มระหว่างที่เดินจูงซาซา ให้ลืมว่าข้างน้องกายมีเต้อยู่ด้วย ลืมให้หมดทุกอย่างแล้วจะได้ไม่เจ็บหนึบแบบตอนนี้
“แม่นึกว่าฟิล์มจะจำทางกลับบ้านไม่ถูกซะแล้ว”
“ขอโทษครับ” ผมรีบเข้าไปกอดแม่เมื่อผู้หญิงที่ผมรักเริ่มจะทำหน้าดุตาเขียวใส่ผมแล้ว “เรียนหนักจริงๆ นะครับแม่” ไม่วายอ้อนครับ มีแค่คนนี้ล่ะที่ยอมให้ทุกอย่างอะ
“ไม่ต้องมาพูดเลยเรา” แม่เริ่มยิ้มออกก่อนจะหันไปทักเพื่อนผมครับ
“ขอฝากท้องที่นี่นะครับแม่” ไอ้แดนมันอ้อนแม่ผมครับ แม่ก็ชอบนะ แม่ชอบเพื่อนผมทุกคนเลยครับ
“มากันแค่นี้เอง แล้วคริส เป้ ตี๋ น้ำล่ะลูก” บอกแล้วว่าแม่ชอบเพื่อนผม จำได้ทุกคนเลยครับ
“พวกนั้นต้องทำรายงานครับแม่แต่คราวหน้าพวกมันไม่พลาดอาหารฝีมือแม่แน่นอนครับ” นัทเป็นคนตอบครับ
แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับนอกจากยิ้มรับแล้วไล่ให้พวกผมไปนั่งเล่นรอก่อนเพราะอาหารยังไม่เรียบร้อย แม่เข้าครัวไปแล้วส่วนพวกผมก็พากันออกไปนั่งเล่นที่สนามหน้าบ้านครับ
เรานั่งคุยกันได้ไม่เท่าไหร่ตัวป่วนแสนน่ารักของผมก็วิ่งมากอดผมใหญ่เลยครับ คิดว่าน่าจะทายกันถูก น้องฟ้าน่ะแหล่ะครับ^^ นี่ยังอยู่ในชุดนักเรียนอยู่เลย ทั้งๆ ที่เลยเวลาเลิกเรียนมาได้เกือบสามชั่วโมงแล้วนะเนี่ย
“พี่ฟิล์มไม่ยอมกลับบ้าน” ดูท่าว่าผมจะถูกงอนซะแล้วT^T
“พี่งานเยอะนี่นา” ผมบอกพลางลูบผมเจ้าตัวยุ่งไปด้วย ไอ้นัทกับไอ้แดนก็พากันนั่งมองพวกผมสองพี่น้องกันยิ้มๆ พวกมันชินแล้วครับ ฟ้านี่อ้อนได้ตลอดเวลาล่ะ^^”ไม่โกรธกันนะ” ง้ออีกหน่อยครับแล้วก็หอมแก้มใสๆ ไปฟอดใหญ่เลย แค่นั้นล่ะลูกแหง่ติดพี่อย่างน้องฟ้าก็ยิ้มแก้มปริแล้ว
“คืนนี้นอนบ้านนะ ฟ้ามีเรื่องอยากเล่าให้พี่ฟิล์มฟังเยอะแยะเลย”
“คืนนี้ไม่ได้ครับ” ผมบอกปัดไป
“ทำไมอะTvT”
“พี่นัดเพื่อนไว้แล้ว” ถึงบอกแบบนั้นแต่เจ้าตัวดีของผมก็ยังแก้มป่องหน้ามุ่ยครับ “ฟ้าไม่โกรธพี่ใช่มั้ยครับ”
“โกรธ” แน่ะ มียกนิ้วโป้งให้ด้วย “ดื่มเหล้าอีกแล้วใช่มั้ยฮะ”
“สัญญาว่าจะไม่เมา” พอผมบอกแบบนั้นพวกไอ้แดนนี่ขำกันใหญ่เลย ก็นะ-//- มีน้องก็เหมือนมีแม่ครับ
“สัญญาว่าต่อจากนี้ต้องกลับมานอนบ้านด้วยฮะ”
เฮ้อ~เจ้าดื้อนี่จริงๆ เลย “โอเค” ผมต้องยอมตามใจอีกแล้วครับ ก็นะ ตามใจกันมาตลอดนี่ครับ ทำไงได้ล่ะน้า~
“พี่ฟิล์มน่ารักที่สุด^^” อ่า~แล้วผมก็ได้รับรางวัลเป็นการหอมแก้มฟอดใหญ่กลับมาด้วยครับ แอบเห็นล่ะว่าไอ้นัทมันทำหน้าอิจฉา ฮึ่ม! “ฟ้าไปอาบน้ำก่อนดีกว่าแล้วจะลงมาคุยด้วยนะฮะ อย่าเพิ่งไปไหนนะ” พอได้รับคำยืนยันจากผมแล้วฟ้าก็วิ่งกลับเข้าบ้านไปครับ
ผมก็นั่งคุยเล่นกับเพื่อนต่ออีกพักใหญ่ครับก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ก็พอดีกับที่อาหารเสร็จแล้วและน้องๆ ของผมก็พร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้วด้วยครับ
ฟากับฟางน่ะผมเจอที่มหาลัยแทบทุกวันครับ มีแต่น้องฟ้านี่ล่ะที่ไม่ค่อยได้เจอกันนักเพราะอย่างนั้นเจ้าเด็กดีของผมเลยติดผมแจครับ ตักนั่นตักนี่ใส่จานให้ผมตลอดเลย^^
“เดือนหน้าแม่จะไปทัวร์กับพ่อนะ ฟิล์มต้องกลับมาอยู่บ้านด้วยล่ะ”
“ครับ” ผมรับคำแม่ไปเพราะนอกจากคุณนายจะส่งเสียงมาบอกแล้วยังส่งสายตาบังคับมาให้อีกด้วยครับT^T มีหวังถ้าผมไม่ตอบรับแม่คงได้ฉีกอกผมกลางโต๊ะอาหารเป็นแน่
“คราวนี้ไปไหนคะแม่” ฟางถามพลางตักอาหารไปให้แม่ด้วยครับ
“ไปสวิสต์จ๊ะ” แม่อมยิ้มดูจะพอใจมากเลยครับที่บังคับให้ผมกลับบ้านได้ ซ้ำยังจะได้ไปเที่ยวกับพ่ออีกด้วย “ตอนแรกแม่ว่าจะรอให้ทุกคนปิดเทอมกันก่อนแล้วค่อยไป แต่คิดอีกทีฟิล์มน่าจะกลับมาอยู่บ้านตัวเองได้แล้วแม่เลยตัดสินใจไปเดือนหน้าซะเลย” แน่สิครับ เดือนหน้าที่แม่ว่ามันมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้วใช่มั้ยล่ะT_T
“ดีจัง ฟ้านะอยากให้พี่ฟิล์มกลับมาอยู่บ้านตั้งนานแล้วฮะ”
เพราะเจ้าเด็กดื้อของผมพูดแบบนั้นผมเลยต้องอมยิ้มตามไปด้วย และคิดว่าคงต้องยอมกลับมาอยู่บ้านจริงๆ ล่ะครับ ไม่ใช่เพราะคำสั่งแม่อย่างเดียวเท่านั้นแต่ผมคิดว่าตัวเองโอเคขึ้นมากแล้วด้วยที่จะกลับมาเจอน้องกาย
.
.
.
>...กาย...<
ผมยืนมองตามท้ายรถยนต์คันคุ้นตาไปจนกระทั่งรถคันนั้นแล่นผ่านหน้าบ้านและออกไปถึงหน้าหมู่บ้าน ไกลจนสุดสายตาของผมแล้วล่ะฮะผมถึงได้ยอมถอนสายตาและละห่างจากบานหน้าต่าง แม้จะไม่ได้เห็นชัดเจนนักแต่อย่างน้อยก็คิดว่าพี่ฟิล์มคงสบายดี
“ดีแล้ว” ผมได้แต่บอกตัวเองแบบนี้
แม้จะเศร้ากับเรื่องที่ผ่านมาแต่ผมก็เข้าใจดีว่าทำไมพี่ฟิล์มถึงได้ไกลห่างออกไป และแม้ผมจะเคยร้องไห้แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความหวังดีที่พี่ฟิล์มส่งผ่านมาทางการห่างหาย ผมรู้ดีฮะว่าพี่ฟิล์มกลัวว่าผมจะลำบากใจพี่ฟิล์มถึงได้เลือกจะห่างออกไปแทน
เสียงเคาะประตูห้องทำให้ผมจำต้องลืมสิ่งที่ค้างอยู่ในใจ ผมลุกไปเปิดประตูห้องและเป็นเต้ที่ยืนยิ้มอยู่ เขาเอ่ยชวนให้ลงไปทานอาหารเพราะเต้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะกุมมือผมพาเดินลงไปข้างล่าง
อาหารหน้าตาน่าทานที่ผมรู้ว่าเต้ต้องพยายามมากๆ เพื่อจะทำมันขึ้นมาถูกเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าผม เต้มองอย่างคาดหวังระหว่างที่ผมตักทานก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อผมยืนยันด้วยคำชมว่าอร่อยไม่ขาดปาก
“ดีแล้วที่กายชอบ” เต้บอกพลางยิ้มก่อนจะลงมือทานอาหารของตัวเองบ้าง ทิ้งผมไว้กับคำว่าดีแล้วของเขา
ระหว่างที่กำลังทานอาหารกันอยู่ผมได้แต่คิดถึงคำพูดนี้...ดีแล้ว...อย่างนั้นเหรอ เป็นแบบนี้มันดีแล้วจริงๆ เหรอ พี่ฟิล์มที่ห่างไปไกลขึ้นเรื่อยๆ กับเต้ที่แม้จะยิ้มแต่ดวงตาก็ไม่ฉายแววสดใสร่าเริงแบบที่เต้เคยมี และผมที่ทำตามความต้องการของใครต่อใครเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึก เอาแต่ยิ้มไปวันๆ และร้องไห้ในยามค่ำคืน เรา...เป็นแบบนี้กันแล้วมันดีแล้วจริงๆ น่ะเหรอ?
“กายคิดอะไรอยู่”
ผมส่ายหน้าตอบก่อนจะแกล้งทำเป็นอร่อยกับอาหารของเต้ ไม่อยากให้เต้ลำบากใจไปมากกว่านี้ ไม่อยากให้เต้อึดอัดกับความงี่เง่าของผม
.
.
.
To Be Con
หายไปนานเลย ขอโทษค่ะT-T