29...อยากให้รู้ว่ารัก
.
.
.
>...กาย...<
ตอนนี้พวกผมอยู่หน้าห้องคนป่วยฮะ เรามาเยี่ยมพี่แดนกัน มีผม ฟ้า แล้วก็ฝ้าย แต่เต้มาไม่ได้เพราะเต้ต้องไปทำธุระกับคุณแม่ที่ต่างจังหวัดฮะ ตอนแรกที่รู้ข่าวนะผมตกใจมากเลย ฟ้าโทรไปบอกตั้งแต่เมื่อคืนแล้วอะฮะว่าพี่แดนโดนทำร้ายแล้วก็พี่ฟิล์มถูกแทงด้วยT^T ผมร้องไห้ทั้งคืนเลย เป็นห่วงพี่ฟิล์มมากๆ ด้วย แต่พอมารู้จากฟ้าอีกทีว่าพี่ฟิล์มไม่ได้เป็นอะไรก็ค่อยโล่งใจได้หน่อยนึง แต่ยังไงก็ยังห่วงอยู่ดีล่ะฮะ-_-
ฝ้ายเป็นคนเปิดประตูและเข้าไปในห้องเป็นคนแรก จากนั้นผมกับฟ้าก็เดินตามเข้าไป เราเอาผลไม้กับขนมมาเยี่ยมพี่แดนด้วยฮะ
“รออยู่เลยนะเนี่ย” พี่แดนเปิดรอยยิ้มกว้างมาให้พวกผม ถึงจะเป็นคนป่วยแต่พี่แดนยังดูร่าเริงเหมือนเคยเลยฮะ
“พี่แดน เจ็บมากมั้ยฮะ” ฟ้าตาแดงกร่ำเลยอะ พี่นัทที่นั่งอยู่ข้างเตียงพี่แดนถึงกับต้องเอื้อมมือมาลูบหัวคนขี้แยเลยล่ะ
“นิดหน่อยเอง”
“พี่แดน เรื่องนั้นผมจัดให้แล้วนะ”
ผมกับฟ้าหันไปมองฝ้ายเลยฮะ เรื่องนั้นที่ว่าจัดให้น่ะเรื่องไหนกันนะ แล้วทำไมพี่แดนถึงได้ยิ้มกว้างขนาดนั้น บอกขอบใจฝ้ายใหญ่เลย อ่า~ชักจะอยากรู้ขึ้นมาซะแล้วสิเนี่ย
“เดี๋ยวผมส่งคลิปมาให้ดูเย็นนี้นะ” ฝ้ายบอกพลางยิ้ม ดูเหมือนว่าจะคุยกันแค่สองคนเอง แต่พี่นัทก็ดูเหมือนจะเข้าใจนิดๆ นะฮะ แต่ผมงงอะ
“พี่ฟิล์มล่ะฮะพี่นัท” ฟ้าหันไปถามพี่นัทฮะ เป็นคำถามที่ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันนะ ถึงจะรู้สึกผิดกับเต้ก็เถอะฮะT-T
“ฟิล์มออกไปซื้อของน่ะครับน้องฟ้า เดี๋ยวก็มาแล้วล่ะ”
นี่ผมกำลังจะได้เจอพี่ฟิล์มในรอบเดือนนึงเลยนะฮะ ไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงเหมือนกันนะ กลัวว่าพี่ฟิล์มจะไม่อยากเจอผมด้วยล่ะT^T
“กาย ไปเอาของที่รถให้หน่อยดิ”
“หือ...ของอะไรอะ” ผมเงยหน้าไปถามฝ้าย
“โทรศัพท์กูอะ สงสัยจะลืมไว้ในรถว่ะ” ฝ้ายทำหน้านิ่วเมื่อหาโทรศัพท์ไม่เจอ “เผื่อพ่อโทรหา”
ผมพยักหน้าก่อนจะรับกุญแจรถจากฝ้ายแล้วเดินออกจากห้อง ฝ้ายจอดรถไว้ที่ลานจอดรถชั้นสองฮะ เพราะงั้นผมก็เลยต้องรอลิฟท์ก่อน เพราะไม่มีลิฟท์ตัวไหนว่างเลยซักตัว
พอประตูลิฟท์ตัวหน้าเปิดออกผมก็ยืนรอให้คนข้างในออกมาก่อน นี่ตาของผมไม่ฝาดไปใช่มั้ยฮะ คนที่เดินคุยโทรศัพท์และมืออีกข้างถือถุงข้าวของออกมาจากในลิฟท์นั่นเป็นพี่ฟิล์ม
“พี่ฟิล์ม”
แต่พี่ฟิล์มไม่ได้มองมาที่ผมเลย พี่เขาเหมือนไม่เห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ เพราะพี่ฟิล์มคุยโทรศัพท์ไปก็หัวเราะไปแล้วก็เดินไปที่หน้าห้องของพี่แดน ผมมองเห็นแม้กระทั่งพี่เขาเปิดประตูห้องก่อนจะหายเข้าไปในห้องนั้น
รู้สึกเศร้าจังเลยนะ ผมพลาดลิฟท์ตัวนั้นไปแล้วเพราะมันทะยานขึ้นไปรับคนที่ชั้นบนแล้ว ผมยืนรอลิฟท์ตัวใหม่ในขณะที่หัวใจรู้สึกเจ็บนิดๆ กับอาการเฉยเมยของพี่ฟิล์ม
ผมหวังอะไรกันนะ หวังว่าทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมงั้นเหรอ หวังว่าพี่ฟิล์มจะเป็นพี่ชายที่ยิ้มให้ผมทุกครั้งที่เจอรึไง ในเมื่อก่อนหน้านั้นพี่ฟิล์มก็ไม่ใช่คนแบบนั้นเลย เราสองคนไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนั้นซะหน่อย ผมคงตั้งความหวังมากเกินไป ถึงได้เจ็บใจอยู่แบบนี้
.
.
.
>...ฟิล์ม...<
“พี่ฟิล์ม”
ผมเปิดรอยยิ้มกว้างให้น้องฟ้าก่อนที่เจ้าตัวยุ่งของผมจะวิ่งมากอด เจ้าเด็กดื้อทำหน้ายุ่งนิดๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาหาผมด้วยล่ะ งอนอะไรอีกนะ
“เมื่อวานนี้สัญญาแล้วจำได้มั้ยฮะ”
“จำได้ครับ” ผมตอบ แน่สิว่าจำได้ครับ เพราะสัญญากับฟ้าไว้ว่าจะกลับไปอยู่บ้าน แล้วดูเหมือนว่าคราวนี้คงจะบ่ายเบี่ยงไม่ได้อีก เพราะเมื่อครู่นี้แม่เพิ่งจะโทรมาเฉ่งผมT^T โชคดีอยู่หน่อยที่ผมบอกว่าจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนั่นล่ะแม่ถึงได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“กลับวันนี้เลยนะฮะ” ฟ้าบังคับอะ พอผมพยักหน้าตอบน้องชายตัวดีก็ยิ้มแฉ่ง อารมณ์ดีขึ้นทันควันเชียว^^
“พี่ฟิล์มไม่เจอกายเหรอครับ” ฝ้ายถาม
“หือ? ไม่นี่” ผมเลิกคิ้วงงๆ เมื่อครู่นี้ก็คิดอยู่นะว่าไม่เห็นน้องกายในห้อง สงสัยคงจะไม่มาด้วย แต่ฝ้ายถามแบบนี้แสดงว่ากายมาล่ะสิ แล้วไปไหนซะล่ะ ผมอยากเจอนะเนี่ย
“พี่ฟิล์ม” ฟ้ากระตุกชายเสื้อผมพลางร้องเรียก “กายอยู่ที่ลานจอดรถชั้นสองฮะ”
เท่านั้นล่ะครับผมรีบออกจากห้องเลย ลงลิฟท์ไปที่ลานจอดรถทันทีเลย ทำไมก่อนหน้านี้ผมไม่เห็นกายนะ ไม่อย่างนั้นคงได้คุยกันไปแล้ว
พอเปิดประตูออกมาที่ชั้นจอดรถแล้วผมก็มองหากายทันที แต่ก็ไม่เห็นเลย ผมเลยเสี่ยงเดินหาตามรถทีละคัน หวังว่าจะไม่คลาดกันอีก
ผมหยุดที่รถคันสีขาว ลมหายใจแทบสะดุดเมื่อมองเข้าไปยังที่นั่งด้านข้างคนขับและเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่ในนั้น ผมคงจะไม่สนใจและมองผ่านเลยไปถ้าเด็กผู้ชายคนนั้นไม่ใช่น้องกาย...คนที่ผมรัก
ผมยื่นมือไปเคาะกระจก และทันทีที่กายเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมกายก็รีบเช็ดน้ำตาออกจากแก้มก่อนจะเปิดประตูรถออกมาหา
มีคำที่อยากพูดมากมายหลายร้อยคำ มีความรู้สึกมากมายที่อยากบอกให้รับรู้ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้พูดและทำสิ่งเหล่านั้น ผมแค่ดึงกายเข้าไปกอด ไม่ได้สนใจว่ากายจะคบกับใครหรือรักผมบ้างมั้ย ผมรู้แค่ว่าผมรักและคิดถึงคนที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของผม
“พี่รักกาย”
คำนี้ที่ผมอยากบอกมาตลอด ตอนนี้ได้บอกออกไปแล้ว ผมได้ยินเสียงกายร้องไห้ มือทั้งสองข้างกำแน่นที่เสื้อเชิ้ตของผม ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทุบเบาๆ ที่แผ่นหลัง ในขณะที่กายสะอื้นผมได้ยินเสียงแผ่วเบาผ่านออกมาจากริมฝีปากที่กำลังสั่นระริก
“กายรักพี่ฟิล์ม”
แค่นี้พอแล้ว ผมบอกตัวเองขณะที่กอดกายแนบแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม กอดให้สมกับความรักและความคิดถึงมากมาย คำนี้คำเดียวที่ทำให้ผมมีแรงกายและแรงใจสู้เพื่อคนที่ผมรัก
เราไม่ได้ทำอะไรกันมากไปกว่านั้น ผมแค่กอดกายเอาไว้ ผมรู้ดีถึงฐานะตัวเองว่าตอนนี้ยืนอยู่ตรงจุดไหน ผมเคยว่าเต้เรื่องการนอกใจเพราะอย่างนั้นผมจะไม่มีทางทำให้กายถูกมองเป็นคนเลวแบบนั้นเด็ดขาด
“กาย พี่ขอโอกาสอีกครั้งได้มั้ย”
กายเงยหน้าขึ้นมามองผม แววตาของน้องมีความกังวลฉายชัดในแววตา และผมเห็นชัดเจน ผมเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากแก้มใสในขณะที่กายเริ่มจะรู้สึกได้ว่าทำสิ่งที่ไม่ควรและคงรู้สึกผิดกับเต้ด้วย กายเป็นแบบนี้เสมอ เพราะกายเป็นเด็กอ่อนโยนแบบนี้ผมถึงได้รัก
“ถ้ากายเลือกใหม่ได้กายจะเลือกพี่ได้มั้ยครับ”
“พี่ฟิล์ม กาย...”
ผมยิ้มขณะที่ปล่อยมือจากกายก่อนจะเดินนำน้องกลับออกไปจากชั้นจอดรถ แค่ตอนนี้เท่านั้นที่ผมจะปล่อยมือกาย อีกไม่นานผมจะกุมมือนี้ไว้และจะไม่ปล่อยให้มือคู่นั้นไปจับมือใครได้อีก...นอกจากผมคนเดียว...
.
.
.
To Be Con
ขอบคุณค่ะ