สวัสดีครับ โทษทีมาโพสช้าเพราะไปให้หมอฟัน เ๊อ๊ย ไปทำฟันอยู่ครับ วันนี้รอบแรก ทำอุ้งปากด้านซ้าย อาทิตย์หน้าอุ้งปากขวา อาทิตย์ถัดไป หน้าบน อีกอาทิตย์ก็ล่างซ้าย คิวหมอยาวมาก นัดได้อาทิตย์ละครั้งแล้วก็ต้องเว้น
มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน ให้เรียนหมอฟันนะครับ
13
บารมีหน้ามุ่ยเมื่อโดนคนที่อยู่ๆ ก็อยากจะเข้าไปเที่ยวในคลับ The Dazzle ขู่เข็ญให้พาเข้าไปให้ได้ในวันเสาร์ที่จะถึง วิธวินท์ถึงกับมาหาเขาที่ทำงานแล้วชวนไปเที่ยวกันเพียงสองคน
"ยังไม่เข็ดอีกหรือวินท์ โดนโยนออกมาครั้งนั้นแล้วนี่จะเสี่ยงให้เราโดนยกเลิกสมาชิกหรือไง"
"เรารู้ว่านายรักเพื่อน" วิธวินท์ชม "และเราก็รู้ว่านายเก่ง เรื่องแค่นี้ไม่เกินความสามารถของบารมีหรอกใช่หรือเปล่า"
"แล้วนี่เกิดเฮี๊ยนอะไรขึ้นมาถึงอยากไปเที่ยว จำได้ว่านายไม่ชอบไม่ใช่หรือ" บารมียกมือขึ้นแตะหน้าผากของวิธวินท์ที่เรียบเอียงหน้าหนี
"คราวก่อนไปแล้วติดใจ"
"ภมรรู้โดนด่าตายที่ไม่ชวนมัน" บารมีบ่นอุบอิบ
"เราไม่พูด นายไม่พูด จะรู้ได้ยังไง"
"แบบนี้ต้องมีสิ่งตอบแทน" บารมียิ้มกว้าง "นายมาช่วยเราทำงานซักสองสามวัน"
"บ้าหรือ ไปคลับแค่คืนเดียว แลกกับแรงงานสองสามวัน ไม่ยุติธรรม"
"ค่าสมาชิกรายปีหลายแสนเลยนะคร้าบ" บารมีเสียงดัง "แล้วค่าผ่านประตูก็หลายพัน นายได้เข้าฟรี แล้วยังจะมาเรียกร้องความยุติธรรมอะไรอีก อีกอย่าง ถ้าโดนโยนออกมาอีกล่ะ เกิดเขารู้ว่าเราพาเข้า บารมีจะซวยรู้หรือเปล่า"
"เป็นสมาชิกคลับหรู ค่าสมาชิกปีเดียวส่งเด็กขยันเรียนคนหนึ่งจบมหาวิทยาลัยได้" วิธวินท์กรอกตา ทำเสียงเข้มใส่บารมี
"แล้วถ้างั้นมาให้เราพอเข้าอีกทำไม รู้หรือเปล่าว่ามันก็เสี่ยงเหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรตอบแทนให้คุ้มเราก็ไม่ค่อยอยากเสี่ยง" บารมีเบป้าก ทำหน้ากังวลใจยิ่งนัก
"ได้ เราจะล้างไวรัสใสคอมพิวเตอร์ที่บริษัทนายทดแทนสามวัน"
"คุ้มมากเลยล่ะ"
"แล้วจะให้ทำไง" วิธวินท์เอียงหน้าถาม
"เอางี้" บารมีนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่เพื่อใช้ความคิด "อืม ไปเป็นเพื่อนเราเล่นเวคบอร์ดที่บางนา แล้วเล่นโกคาร์ด แล้วโยนโบวลิ่ง แล้วก็อะไรดีว๊า..."
"บ้าหรือเปล่า"
"ไปเป็นลูกคู่ให้เราได้สั่ง ได้แสดงความเป็นผู้นำ แล้วห้ามเถียงอะไรทั้งสิ้น ทำตัวเป็นแมวน้อยเชื่องๆ คอยเดินตาม แล้วเป็นคนนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์" บารมียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นันย์ตาวิบวับคล้ายเด็กจะได้ของเล่นถูกใจ
"บารมี นายมีปัญหาทางจิตแล้วนะนี่" วิธวินท์ยกมือชี้หน้าบารมี
"เพราะทุกครั้งเวลาเราไปกับใครต้องเป็นฝ่ายรองมือรองเท้าเขาทุกที" บารมีทำหน้ามุ่ย แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง "แต่ก่อนอื่น วินท์ต้องไปเปลี่ยนลุคส์เสียใหม่ ขืนไป The Dazzle ด้วยภาพลักษณ์แบบที่เป็นอยู่นี่ได้โดนโยนออกมาแน่ๆ"
"ต้องทำขนาดนั้นเลยหรือ"
"ก็แล้วอยากเข้าไปทำไมล่ะ คลับหรู ก็ต้องแต่งตัวหรู ถ้าไม่อยากเสียเงินเยอะ ซื้ออาร์มานี่ปลอมก็ได้ ดีเคเอ็นวายก็มี เดี๋ยวเราพาไปช้อป" บารมีลุกขึ้น คว้ามือเพื่อนให้เดินตาม
"เดี๋ยวนี้เลยหรือ"
"เสียดาย ถ้าผมวินท์ยาวจะพาไปทำผมด้วย แต่นี่ตัดสั้นซะเกรียนขนาดนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว" บารมีขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อน
วิธวินท์ยอมให้บารมีลากออกมานอกบริษัทเพื่อไปหาซื้อเครื่องแต่งตัวเสียใหม่ ขณะที่กำลังจะขึ้นรถสปอร์ตสีเหลืองสดของลูกชายเจ้าของโรงแรม The Gates บารมีก็หันมามองวิศวกรคอมพิวเตอร์จากหัวจรดเท้าแล้วถอนหายใจ
"งานนี้คงเสียเงินและเสียเวลาไม่ใช่น้อย ทั้งตัวเลยนะเนี่ยวินท์ จากรองเท้าถึงปลายผมจริงๆ"
"หยุดพูดได้แล้วบารมี จะไปก็ไปเถอะ" วิธวินท์ทำท่าฮึดฮัด
"คิดยังไงอยากจะไปเที่ยว The Dazzle" บารมีถามอีกครั้ง
...คิดเล่นอะไรสนุกๆ ละสิ ถามได้...
...ดูซิว่าหากเขาโดนยามหิ้วปีก โยนออกมานอกคลับครั้งที่สอง ธีรดนย์จะทำหน้าอย่างไร...
...และหากโดนครั้งที่สามล่ะ...
...ดูถูกเขาดีนัก จะปั่นหัวให้หัวหมุนเลยคอยดูสิ...
เมธัสหันไปมองเจ้าของ The Dazzle ด้วยสายตาเซ็งๆ ธีรดนย์ดูแตกต่างไปจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง วันนี้ชายหนุ่มดูเนือยๆ มาถึงคลับก็เอาแต่นั่งอยู่เฉยๆ สลับกับการยกโทรศัพท์มือถือมากดดูเล่น นานๆ ถึงจะเงยหน้ามายิ้มบางๆ ให้เขาบ้าง
...ที่จริงๆ ธีรดนย์คนที่อยู่ในห้องนอน ต่างจากคนที่แต่งตัวเรียบร้อยนอกห้องนอนเช่นกัน บนเตียง ชายหนุ่มรูปหล่อช่างอ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน บทรักเนิบนาบสลับรุนแรง ปากหวาน มีเสน่ห์ เวลาธีรดนย์พร่ำรำพันอยู่ข้างหูเขารู้สึกเหมือนล่องลอยขึ้นสวรรค์ แต่เมื่ออยู่นอกห้อง กลับเหมือนอยู่ในโลกของตัวเองที่ใครก็ผ่านเข้าไปไม่ได้...
ประตูห้องควบคุมเปิดออก นิวัตน์ผู้ช่วยของธีรดนย์เดินเข้ามาหาแล้วกระซิบอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เจ้าของคลับหรูลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปก้มมองจอคอมพิวเตอร์ของระบบรักษาความปลอดภัยด้วยใบหน้าเคร่งขรึมแล้วจึงยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"ให้จัดการเลยไหมครับ" นิวัตถาม ค่อนข้างแปลกใจที่เห็นเจ้านายอมยิ้มเมื่อเขาเดินเข้ามารายงานสถานการณ์ที่มีคน 'แอบ' เข้ามาในคลับอีกแล้ว
"ไม่ต้อง คราวนี้เข้ามาได้ยังไง"
"ประตูหน้าเลยครับ มากับแขกคนหนึ่งที่สนิทกับการ์ดหน้าประตูมาก"
"การ์ดก็ไม่กลัวซักที" ธีรดนย์ส่ายหน้าช้าๆ "ให้ออกไปเลย"
"ได้ครับ" นิวัตพยักหน้าแล้วหันหลังเดินกลับไปที่ประตู แต่ก็ต้องชะงักเมื่อธีรดนย์ส่งเสียงตามมา
"การ์ดนะที่ออก ไม่ใช่คนที่แอบเข้ามา"
นิวัตเลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่ค่อยเข้าใจการตัดสินใจของเจ้านาย
"ส่วนคนที่ชอบของฟรี ผมจะจัดการเอง คราวที่แล้วไม่เข็ด คราวนี้แต่งองค์ทรงเครื่องจนเป็นคนใหม่"
"ไม่เข็ด..." นิวัตพึมพำ
"จำไม่ได้หรือนิวัต นั่นน่ะคนเดิมนะ คนที่แต่งตัวเฮ้วๆ ใส่กางเกงคาร์โก้เมื่อคืนก่อนที่การ์ดหิ้วปีกลงไปจาก Dusitia " ธีรดนย์ยิ้มเหี้ยม แล้วพยักหน้าอนุญาตให้นิวัตออกไปได้ ก่อนจะหันไปหานักร้องหนุ่มที่ยืนทำฟังอยู่เงียบๆ
"ผมต้องไปจัดการเรื่องปัญหาบางอย่าง คุณไปหาอะไรดื่มที่ Dusitia นะครับ"
"แล้วคืนนี้" เมธัสหมายความว่าคืนนี้เขากับธีรดนย์จะลงเอยที่ไหน
"คืนนี้ผมต้องกลับไปนอนบ้าน พรุ่งนี้เช้าตรู่มีธุระต้องคุยกับพ่อ" ธีรดนย์ยื่นมือไปจับแขนนักร้องหนุ่มแล้วจูงให้เดินตามไปที่ประตู ก่อนจะหันมาโอบร่างเมธัสเอาไว้ในอ้อมแขนเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นทำหน้ามุ่ย "ไว้ค่อยเจอกัน ตอนนี้ผมมีธุระด่วน"
"คุณทำธุระเสร็จแล้วก็ค่อย..."
"ธุระนี้เรื่องสำคัญ อาจต้องใช้เวลา" ธีรดนย์ก้มลงจูบแก้มของเมธัสแล้วพูดปลอบไม่ให้น้อยใจเพราะยังไงๆ เมธัสก็เป็นคนพิเศษของเขาอยู่แล้ว
นักร้องหนุ่มเดินออกจากห้อง ธีรดนย์เดินย้อนกลับมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มองดูภาพจากกล้องที่จับภาพ 'แขกที่ไม่ได้รับเชิญ' ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า "สวัสดีครับวิธวินท์ อยากเข้ามาในคลับนัก คืนนี้เข้ามาเป็นดาวซักคืนเถอะ แต่เข้ามาแล้ว อย่าหวังจะได้เดินออกไปแบบสบายใจ"
"ขอต้อนรับ The Super VIP คนใหม่ จากนี้ไปเดือนธันวาคมและมกราคมของทุกปี ทุกคืนวันเสร์ เมื่อเวลาเที่ยงคืน สปอตไลท์จับอยู่ที่ใคร คุณคือคนพิเศษของ The Dazzle กรุรายืนอยู่นิ่งๆ อย่าขยับตัว" จู่ๆ เสียงประกาศก็ดังขึ้นทั่ว The Arena ฟลอร์เต้นรำขนาดใหญ่กลางคลับ ก่อนจะตามด้วยเสียงนับถอยหลังพร้อมด้วยเสียงของแขกที่มาเที่ยวนับตาม แสงไฟเริ่มหรี่ลงจนมืดสลัว จากนั้นแสงสปอตไลท์ก็ฉายวูบวาบประหนึ่งกำลังหาตัวผู้ได้รับเลือกเป็นแขกซุปเปอร์วีไอพีคนใหม่
"เก้า แปด เจ็ด หก ห้า สี่ สาม สอง..."
เมื่อนับถึงสอง เสียงปรบมือและเสียงเป่าปากโห่ร้องแสดงความยินดีก็ดังกึกก้องเมื่อลำแสงของดวงไฟขนาดใหญ่ส่องลงมาจับอยู่ที่ร่างสูงขอบชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูทสีขาวทรงพอดีตัวทันสมัยผู้ที่ยืนนิ่งอยู่กลางฟลอร์เต้นรำด้วยสีหน้างงๆ
"วินท์" บารมีอุทาน ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ จากนั้นเปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ยเมื่อเสียงประกาศดังขึ้น
"ขอเชิญ The VIP คนใหม่ขึ้นมาบน Dusitia เพื่อรับบัตรและการต้อนรับระดับ World Class จากเรา ขอบคุณครับ"
สิ้นเสียงผู้ประกาศ ดนตรีจังหวะเต้นรำดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง แสงไฟวูบวาบฉายไปมา ภาพของวิธวินท์ยังปรากฏบนจอขนาดยักษ์ที่แขวนอยู่กลางฟลอร์เต้นรำ แล้วหมุนไปรอบๆ โคมไฟคริสตอบขนาดใหญ่ สลับการตัวหนังสือกะพริบว่า Welcome Super VIP
...ไปดีกว่า ไม่อยู่แล้ว นึกว่าจะโดนจับโยนออกมาสนุกๆ ที่ไหนได้ กลายเป็นซุปเปอร์วีไอพีหน้าตาเฉย ธีรดนยกำลังเล่นอะไรอยู่นี่...
วิธวินท์ตะโกนบอกบารมีว่าจะกลับแล้ว อีกฝ่ายส่ายหน้าอย่างขัดใจจึงถูก 'ซุปเปอร์วีไอพี' คนใหม่ลากออกไปนอกฟลอร์เต้นรำเพื่อที่จะคุยกัน กระนั้นก็ยังสื่อสารกันไม่ถนัด บารมีจึงจูงวิธวินท์ไปหน้าห้องน้ำ
"ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว รีบกลับทำไม"
"เขาจับได้แล้ว นายจะยังอยู่หรือ ไม่รู้อะไรซะบ้างเลย" วิธวินท์กระชากเสียง
"แต่ว่านายได้เป็นซุปเปอร์วีไอพีนี่นา เราว่าสปอตไลท์มันสุ่มหานะ พอดีส่องลงตรงที่นายยืน"
"แล้วไง พอเราเดินขึ้นเวทีไปรับมงกุฏ กรรมการก็จะบอกว่า เอ้า ไอ้นี่ แกเข้ามาได้ยังไง ไม่ใช่สมาชิกนี่หว่า" วิธวินท์ส่ายหน้า แล้วพูดต่อว่า "จะอยู่ก็อยู่เถอะ เรากลับแล้ว"
"วินท์ ไม่เอาน่า กำลังสนุก ถ้าไม่อยากเป็นวีไอพีไม่ต้องขึ้นไปก็ได้ อยู่เต้นรำกับเราต่อเถอะ" บารมีทำหน้าอ้อนวอน "อุตส่าห์มาเที่ยวด้วยกัน นายเป็นคนบังคับให้เราพามาเองนะ"
"แล้วนี่ก็บังคับให้พากลับ" วิธวินท์เสียงห้วน
"จริงๆ เล๊ย" บารมีส่ายหน้าเพราะรู้อยู่ว่าวิธวินท์นั้นเป็นคนหัวแข็ง ลองได้พูดอะไรแล้วยากที่จะเปลี่ยนใจ
บารมียกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างหงุดหงิดแล้วเดินนำเพื่อนออกมาจากหน้าห้องน้ำ แต่ครั้นใกล้จะถึงหน้าบาร์เหล้าใน The Arena สองหนุ่มก็ต้องชะงักเมื่อการ์ดร่างยักษ์สองคนและชายหนุ่มหน้าเคร่งในชุดสูทสีขาวเดินเข้ามาขวางทาง
"เชิญทางนี้ครับ" ชายในชุดขาวผายมือ
"เชิญไปไหน" วิธวินท์ถาม
"Dusitia ห้อง Royal Super VIP ครับ" ชายชุดขาวตอบชัดเจน "The Dazzle ยินดีต้อนรับคุณวิธวินท์"
"ซุบเปอร์วีไอพีผมไม่เป็นก็ได้ พอดีผมกำลังจะกลับบ้าน"
"อย่าเพิ่งกลับเลยครับ ดื่มเครื่องดื่มพิเศของเราซะก่อน CEO ของคลับรอมอบบัตรซุปเปอร์วีไอพีให้คุณอยู่"
"บอกแล้วไงว่าไม่เป็น" วิธวินท์เสียงเข้มขึ้น
"เราอยากให้คุณเป็น" ชายหนุ่มในชุดขาวก็เสียงเข้มขึ้นเช่นกัน ท่าทางจะไม่ยอมให้วิธวินท์กับบารมีเดินจากไปโดยง่าย เจ้าหน้าที่ของคลับคนนี้ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ตาแข็งกร้าวพร้อมที่จะสั่งการ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆ ให้ขยับตัวทันที่หากสองหนุ่มคิดจะ 'หนี'
"คุณบารมีเชิญสนุกต่อได้เลยครับ" ชายในชุดขาว 'ไล่' บารมี
...เอาวะ ไหนๆ ก็เหยีบบถ้ำเสือแล้ว ไปทักทายเสือหน่อยจะเป็นไรไป...
วิธวินท์ยักไหล่ แล้วเดินตามชายชุดชาวไปโดยมีการ์ด์ร่างยักษ์เดินตามหลัง ทิงให้บารมียืนมองดวยใบหน้ายากจะบรรยาย
ชั้นบนของคลับที่มีชื่อเรียกกันว่า Dusitia นั้นตกแต่งอย่างหรูหราในแบบไทยประยุกต์ ดังจะเลียนแบบสวรรค์ชั้นดุสิตเพราะวิธินท์เหลือบไปเห็นตัวหนังสือภาษาไทยสีทองที่อยู่บนผนังด้านขวามือเมื่อเดินขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายมายืนบนพื้นกระจกสีดำสนิทที่สองแสงระยิบระยับเหมือนมีไฟดวงจิ๋วนับพันดวงกะพริบอยู่ใต้พื้น
ทางเดินทอดยาวประมาณสิบกว่าเมตรมีผ้าม่านสีดำปักลายไทยสีทองเปล่งประกาย เพดานสูงมากจนวิธวินท์กะว่าน่าจะสูงเกือบสิบเมตร เมื่อสุดทางเดิน ชายหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างเพราะชั้นบนนี้กว้างมากเกินครึ่งหนึ่งของ The Dance Arena ชั้นล่าง ต่างกันตรงที่หลังคาเป็นกระจกใสรูปโดมขนาดมหึมา มองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนและพระจันทร์เต็มดวง
"เชิญห้อง Royal VIP ครับ" ชายในชุดขาวผายมือแล้วนำวิธวินท์เดินไปทางด้านขวา วิศวกรหนุ่มเดินตามช้าๆ สายตากวาดมองไปรอบๆ เห็นแขกของคลับแต่งกายหรูหราท่าทางบ้างก็ยืนคุยกัน บ้างก็เต้นรำกันเป็นคู่ๆ หลายคนเป็นดารานักร้องที่เขารู้จัก รวมถึงดาราต่างประเทชื่อดังอีกสามคนที่ยืนคุยกันอยู่ใกล้ๆ กับน้ำพุ
...หรูหราจริงๆ มิน่า วันนั้นเขาใส่เสื้อเชิร์ทกับกางเกงคาร์โก้ขึ้นบันไดมายังไม่ถึงขั้นสุดท้ายด้วยซ้ำก็โดนหิ้วปีกออกไปโยนทิ้งหน้าคลับ
...คราวนี้ได้รับเชิญขึ้นมา...
...ไปห้อง Royal Super VIP ซะด้วยสิ ที่นี่มีวีไอพีกี่ระดับกันนะ...
"ไม่เข้าไปด้วยกันหรือครับ" วิธวินท์หันไปพูดกับชายชุดขาวที่เดินมาส่งเขาถึงที่แล้วเปิดประตูออก รอให้เขาเดินเข้าไป
"พูดด้วยก็ไม่พูด ไม่มีมารยาท" วิธวินท์พึมพำเบาๆ อยู่คนเดียวเมื่อชายหน้าเคร่งขรึมเดินจากไป จากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องที่จัดไว้ต้อนรับ Super VIP คนแรกที่ได้รับเลือกจากไฟสปอตไลท์
...ธีรดนย์เจ้าใจเล่น อยากรู้นักว่าเดือนมกราคมใครจะได้รับเลือก คืนวันเสาร์ตอนหกทุ่ม สงสัยแขกที่มาเที่ยววิ่งไล่ตามสปอตไลท์กันจ้าละหวั่น...
...คอยดูนะ ถ้าทำอะไรเขา และหากเขารอดไปได้ จะส่งไวรัสเข้ามาทำลายระบบคอมพิวเตอร์ของ The Dazzle ให้พังทั้งระบบ...
"คุณวิธวินท์" เสียงห้าวๆ ดังขึ้น "วีไอพีของผม"
"คุณต้องการอะไร" วิธวินท์หันขวับไปยังต้นเสียง
"คุณต่างหากต้องการอะไร ถึงใจกล้าแอบเข้ามาในคลับของผม" ธีรดนย์ตอบเสียงเรียบ
"ผมไม่ได้แอบ ผมเดินเข้าประตูหน้าอย่างสง่าผ่าเผย" วิธวินท์เถียง
ธีรดนย์อมยิ้ม เดินเข้ามาใกล้ มือล้วงกระเป่าอย่างใจเย็นแล้วหยุดยืนห่างจากวิธวินท์ประมาณสองก้าว
"การ์ดที่ประตูหน้าต้องโดนผมไล่ออกโดยไม่ได้รับเงินชดเชยแม้แต่บาทเดียว"
"คุณทำได้อยู่แล้ว คุณเป็นนายจ้าง"
"ส่วนคนที่พาคุณเข้ามาก็จะโดนยกเลิกสมาชิกและห้ามเข้า ชื่ออะไรนะ" ธีรดนย์เอียงหน้าทำท่าคิด "บารมีใช่หรือเปล่า ลูกชายคุณบวรณ์ เจ้าของโรงแรงชื่อดัง"
"นั่นคุณก็ทำได้ คุณเป็นเจ้าของคลับนี่"
"น่าอาย ถูกไล่ออกจากคลับ ถูกปฏิเสธการเป็นสมาชิก เรื่องแบบนี้ในแวดวงไฮโซเขากลัวกันมากเลยรู้ไหม" ธีรดนย์พูดยิ้มๆ
"ไม่รู้ครับ ผมไม่ได้อยู่ในแวดวงไฮโซ" วิธวินท์ยักไหล่
"และถูกปรับเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเพราะทำผิดกฏการเป็นสมาชิกซุปเปอร์วีไอพี"
วิธวินท์เลิกคิ้ว ไม่นึกว่าบารมีจะเป็นสมาชิกคลับ 'อีกระดับ'
"อยากจะรู้ไหมครบว่ากี่บาท แต่คู่ควงของคุณเขาคงมีเงินพอจ่าย ไม่ต้องกังวลแทนเขาหรอก กังวลแทนตัวเองเถอะ" ธีรดนย์ยิ้มหยัน
"เลิกเยิ่นเย้อซะทีเถอะครบ จะเอายังไงก็ว่ามา" วิธวินท์ใกล้จะหมดความอดทน ใบหน้าและรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของธีรดนย์ทำให้เขารู้สึกหมั่นใส้
"เปล๊า" ธีรดนย์ยักไหล่ "ผมไม่ได้จะเอายังไง คุณได้รับเลือกเป็นซุปเปอร์วีไอพี ก็แค่นั้น ผมเชิญคุณมารับบัตรสมาชิก แล้วให้การต้อนรับในฐานะเจ้าของคลับที่โดนคุณทำประแจหล่นใส่หัวตั้งสองครั้งสองครา"
"ครั้งเดียวครับ ครั้งเดียวที่โดน ทั้งที่ผมอยากให้เป็นทั้งสองครั้ง"
"อ๋อ นี่คุณคงคิดแบบนี้มาตลอดละสิ แล้วครั้งที่โดนจริงๆ นี่ตั้งใจใช่หรือเปล่า" ธีรดนย์กัดฟัน เสียงเข้มขึ้นมาทันใด
"ช่วยไม่ได้" วิธวินท์ยักไหล่
"แต่เรื่องที่คุณแอบเข้ามาคราวนั้นเป็นคนละกรณี" ธีรดนย์หันหลังเดินไปที่บาร์เหล้า หยิบแก้วเครื่องดื่มมายื่นส่งให้วิธวินท์แต่ชายหนุ่มยืนเอามือไพร่หลัง ไม่ยอมรับแก้วที่ธีรดนย์ยื่นให้
"ตกลงคุณจะไม่รับ" ธีรดนย์เลิกคิ้วข้างเดียว
"ไม่ ผมไม่อยากจะมาเที่ยวที่นี่ ที่มาคืนนี้ก็เพราะนึกสนุก แต่คิดว่าคงไม่ไหวแล้ว ผมมาเที่ยวที่แบบนี้ไม่ได้หรอก อย่างผมต้องผับตะวันแดงแถวนวมินทร์ สนุกมีชีวิตมากกว่าที่นี่เยอะเลย" วิธวินท์ยักไหล่ เบ้ปาก ทำหน้ากวนๆ
"ดูถูก"
"ดูถูกดีกว่าดูผิด" วิธวินท์ยิ้มมุมปาก รู้สึกสะใจเล็กน้อยที่ทำให้ธีรดนย์อารมณ์เสียได้ "นี่ผมไปได้หรือยังครับ"
"เชิญ" ธีรดนย์ผายมือไปยังประตู
...ทำไมง่ายแบบนี้ ก็แค่นี้ล่ะ ธีรดนย์ก็ไม่เห็นมีฤทธิ์เดชอะไร...
วิธวินท์หมุนตัวช้าๆ เดินตัวตรงไปยังประตู แต่เมื่อเอื้อมมือจะดึงประตูก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของธีรดนย์ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ถ้าคุณยอมเป็นสมาชิก ผมจะไม่ไล่คุณบารมีออก และจะเซ็นเช็คค่าวางระบบคอมพิวเตอร์ที่บริษัทและค่าซ่อมระบบคอมพิวเตอร์ที่ The Dazzle รวมทั้ง..." ธีรดนย์จงใจไม่พูดคำสุดท้าย เพราะตั้งใจว่าจะเก็บไว้เป็น 'ไม้ตาย' ไว้จัดการกับวิธวินท์ในอนาคตหากเกิดดื้อรั้นจนคุมไม่อยู่
...อยากชกหน้าธีรดนย์จังเลยให้ตายสิ...
"ผมไปพบที่บริษัทคุณแล้วตามที่คุณสั่ง" วิธวินท์หันมาทำเสียงแข็ง
"ตอนนั้นผมเสนอเงื่อนไขนี้หรือครับ" ธีรดนย์ยักไหล่ ยกเหล้าขึ้นจิบแล้วก้มลงมองแก้วเหล้าของตัวเองอย่างใจเย็น
วิธวินท์กัดฟัน ถอนหายใจลึกๆ ใบหน้าของศรายุธฉายวาบขึ้นมาในความคิดก่อน ตามมาด้วยใบหน้าของบารมีและคนอื่นๆ ในบริษัท
...คิดว่าตัวเองจะชนะได้ง่ายๆ หรือ แข่งรถยังแพ้เขาทุกที ธีรดนย์ก็เก่งเฉพาะในห้องปิดที่มีผนังรอบด้านแบบนี้ล่ะ...
...วิธวินท์เคยยอมใครที่ไหนล่ะ...
******13********
ขอถามหน่อยครับ
คุณจะอยู่กับใคร จะเลือกใคร
ระหว่างคนที่ใจคุณรัก กับคนที่เหมาะสมและคู่ควร