ตอนที่ 4 ความในใจ
"เห้ย เดียวเมิงจะลากกูไปไหน" ผมเริ่มสุภาพใส่มัน(ปรกติผมจะไม่ใช้กู-มึงกับน้อง)
"..." บ่ฮือมีเสียงตอบฮับ จากหมายเลขที่ท่านเอิ้น...
...ตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจมันเป็นอะไร โกรธผมเหรอ? ผมทำอะไรผิดอ่ะ จะลากผมไปกระทำชำเรา? ไม่มีทางมันเป็นผู้ชาย แล้วผมเป็นพี่รหัสมัน งานนี้ผมมีต่อยแน่(ทั้งที่ไม่เคยต่อยใครมาก่อน) ผมกับแซนเดินออกมาจากคอนเสิร์ตออกมาเรื่อยๆ จนถึงบริเวรโดมอยู่ดีๆ เจ้าแซนก็หยุดกระทันหันแล้วหมุนตัวกลับมาหาผม ผมที่กำลังคิดวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ไม่ได้ติดเบรคด้วย ผมเดินชนเจ้าแซนอย่างจัง แต่นั้นมันยังไม่น่าตกใจเท่าไร สิ่งที่ทำให้สติผมดับวูปคือ...ตอนนี้ริมฝีปากกับแซนติดกันอยู่ หรือเรียกง่ายๆคือเราจูบกัน ตัวผมอึ้ง ตัวแซนก็อึ้ง พอต่างคนต่างมีสติก็ผละออกจากกัน ไอ้เด็กเวรมันยืนม้วนอายอยู่หน้าผม หน้าแซนแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนที่ต้องอายและหน้าแดงต้องผมซิ(TT-TT) อยู่ดีไม่ว่าดี เข้าไปจูบกับผู้ชายสะงั้น
"แล้วลากออกมาทำไม" ผมเริ่มเซ็งกับอาการของมัน
"เออ...ก็..." มันยังไม่หยุดอาย
"ถ้าลากออกมาไร้สาระพี่กลับเข้าไปดูคอนเสิร์ตแล้วนะ" เริ่มอาย ต้องหนีความอาย
"เดี่ยวเซ่พี่..." แซนจับมือผมแน่นเหมือนรั้งไม่ให้ไป
"แล้วตกลงเอาไงครับ ลากพี่ออกมาทำไม"
"คือ...ผมหิวข้าว พี่ไปกินข้าวกับผมหน่อยสิ" ลากมาเพราะเรื่องแค่นี้
"บอกกันดีๆก็ได้ครับน้อง" ผมเซ็งหนัก
"นะ นะ นะ น่า..." เหมือนแซนมันรู้ อ้อนใหญ่เลย
"เออ...แกมันเหลนรหัสพี่นิ จะกินอะไรอ่ะ" ผมบอกมันพลางลูบหัวเจ้าแซน ฝ่ายเจ้าแซนก็ทำหน้าเหมือนสุนัขเวลาเจ้าของเล่นด้วย เห้ยน้องตู
"ไม่รู้อ่ะ พี่พาไปหน่อยดิ"
"เคยกินข้าวมันไก่หน้า ม. ยัง?" ฝ่ายเจ้าแซนส่ายหัวเป็นคำตอบ ผมเอามือออกจากหัวมันครับ(อย่างน้อยผมก็รู้ว่าผมกับมันสูงไล่เลี่ยกัน ถึงว่าปากผมถึงชนปากมัน(--*--")) "เห้ย รถพี่จอดไกลอ่ะ หาที่จอดก็ยากแล้วจะไปอย่างไงอ่ะ" ผมพูดขึ้นเพราะพึ่งนึกได้ว่ารถจอดไกลมาก
"เอามอไซค์ผมไปก็ได้"
"รถแกอยู่ไหน" มันชี้ไปจอดอยู่ข้างหน้าเราครับ ข้างหน้าจริงๆ
"เดียวไหนแกบอกไม่มีรถ"
"ผมบอกตอนไหนว่าไม่มีรถ" มันทำเป็นมองไปที่อื่น ท่าทางกวนตรีน
"ก็บอกว่ามากับเพื่อนนิ"
"ก็มากับเพื่อนเพราะอยู่คนเดียวมันเหงา ขับรถคนเดียวมันเหงา..." มันส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาทางผม
"พอเลยงั้นแกขับ" ผมพูดแล้วเดินไปที่รถมอไซค์ทันที
...พอถึงฟีโน่สีดำ แม่งแต่งโดนใจว่ะ(แม่หนูจะเอาแบบนี้ๆ แต่กูขับรถยนต์นี่หว่าเหอะๆ ขืนขับมอไซค์มา ม. คงนอนใต้รถสิบล้อแน่) เจ้าแซนขับ ส่วนผมซ้อนท้ายมันครับ มันขี่ออกจาโดมซึ่งเป็นทางวันเวย์จนมาถึงบริเวรทางแยกที่เราต้องเลี้ยวขวาออกไปทางหน้า ม. ผมบอกมันตั้งแต่เนิ้นๆ พอถึงทางแยกมันไม่เปิดไฟเลี้ยวไม่เท่าไร มันมองทางขวาไม่มีรถมันก็ออกไปเลยครับ
"เห้ยเบรค!!!" ผมตะโกน มันหยุดกึ๊ก ดีนะที่เพิ่งออกตัวเลยเบรคทัน อย่างที่บอกครับมันมองแต่ทางขวา มันไม่ได้ดูซ้ายเลย ทางซ้ายมีรถยนต์ขับมาเร็วมาก ถ้าเมื่อกี่แซนออกไปเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน "มึงขับรถแข็งเปล่าว่ะ"
"เพิ่งหัดพี่ วันนี้วันที่ 3 ที่ผมขับมอไซค์" มันตอบสบายใจ
"เวร กูเอาชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้ายบางแล้ว"
"ว่าไงนะพี่"
"ขับไปดีๆ ขับช้าๆ ไม่ต้องรีบ ขากลับพี่ขับเอง" อย่างที่โบราณเขาว่าครับ คนกำลังจะรับปริญญา บวช หรือ แต่งงาน ห้ามออกไปไหน ผมปี 4 แล้วกำลังจะรับปริญญาไม่ควรๆ
"ครับ" แล้วมันก็บขับช้าจริงๆครับ 20 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน ผมอยากจะร้องไห้
...พอถึงร้านข้าวผมรู้จักกับเจ้าของร้านดี ลูกสาวร้านข้าวมันไก่เขาเคยทำกิจกรรมกับผม วันนี้ลูกสาวเขาก็เขาไปทำกิจกรรมใน ม. นั้นแหละ ผมกับแซนสั่งข้าวหมกไก่ทอด ข้าวหมกไก่จานใหญ่อภินันทนาการจากเจ้าของร้าน สั่งธรรมดาให้พิเศษ พร้อมกับน้ำซุปชามใหญ่พร้อมซี่โครงไก่ ผมนั่งทานไปคุยกันไปครับ ดูไอ้เด็กแสบอารมณ์ดีขึ้นเยอะ ถึงแม้นตามันยังแดงๆ ก็เถอะ พอทานกันผมจ่ายตังค์เลี้ยงเจ้าเด็กแสบครับ ปลอบใจมัน ผมคว้าฟีโน่มันก็ซ้อนครับ(ไม่ขัดขืนหน่อยเหรอรถมึงนะ) พอสตาร์ทเสร็จผมก็ขับเข้า ม.
"พี่ ขับรถวนรอบ ม. ได้ไหม"
"ทำไมอ่ะ"
"ผมยังไม่อยากกลับ...หรือพี่อยากดูคอนเสิร์ต" เวรไซโครกูสะงั้น ผมมาดูคอนเสิร์ตเพราะเพื่อนไม่งั้นผมก็ไม่มาหรอก
"อืมก็ได้" ผมเปิดไฟเลี้ยวครับ แล้วเริ่มขับรถวนรอบ ม. อากาศตอนกลางคืนก็เย็นดีเหมือนกัน ผมขับไม่เร็วครับ 40 กม. ต่อ ชม. ขับไปได้สักพักเริ่มมีมือมาเกาะเอวผมแล้วเริ่มแน่นขึ้นเรื่อย จนไอ้เจ้าแซนมันเอาหน้ามาผิงหลังผม
"เย็นเหรอ"
"ครับ" ผมบิดช้าลง บรรยากาศ ม. ตอนกลางคืนเงียบสงบดีครับ ผมว่าจิตใจคนที่กอดผมตอนนี้คงสงบเหมือนกัน
"แซน..."
"ครับพี่โอ๊ต"
"แซนบอกพี่ได้ไหม...ทำไมถึงร้องไห้?"
"..."
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อีกด้านหนึ่ง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...วันนี้ผมมีความสุขมากเลยครับ ทั้งที่พี่เขามาเป็นกำลังใจให้ ให้ผมใส่เสื้อผ้าของพี่เขา ได้ทานข้าวกันสองต่อสอง และเรื่องบังเอิญที่ผมได้จูปกับพี่โอ๊ต และตอนนี้ผมยิ่งมีความสุข ผมได้กอดคนที่ผมรักถึงแม้นอากาศข้างนอกจะหนาวเย็นแค่ไหน แต่ในใจมันอบอุ่นครับ รู้สึกสบายใจพี่ผมไม่ได้เป็นเดือนพี่เขาก็ยังให้ความสำคัญกับผม
"แซน..." พี่โอ๊ตเรียกผม
"ครับพี่โอ๊ต"
"แซนบอกพี่ได้ไหม...ทำไมถึงร้องไห้?" พี่โอ๊ตถามผมอึ้งเลย จะควรจะตอบอย่างไงดี จะบอกไปเลยว่า 'ผมคิดถ้าผมเป็นเดือนพี่จะสนใจผมมากขึ้น จนไม่ต้องไปนั่งคุยกับไอ้บ้านั้น' ผมว่าไม่เหมาะ ผมตอบอะไรดี...
"แซนเป็นอะไรหรือเปล่า?"
"เปล่าครับ...ที่ผมร้องไห้เพราะคนที่ประกวดดาว-เดือน มีผมคนเดียวที่มีพี่มาคอยดูแล มาให้กำลังใจ ผมเลยอยากจะพยายามให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้รางวัลนั้นมาให้พี่ แต่มันก็ไม่ได้..."
"แซนคิดมากไปไหม..."
"หา?"
"แกเป็นน้องพี่นะโว้ย ต่อให้แกไม่ประกวดพี่ก็ดูแลแกอยู่แล้ว ต่อให้แกไม่ได้เป็นน้องรหัสพี่ พี่ก็ดูแลแกเพราะพี่ถือว่าแกเป็นหน้าเป็นตาเอก แล้วนี้แกเป็นน้องรหัสพี่ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว"
"ครับ..." พี่เขาคิดกับผมแค่น้องเหรอ แต่ผมคิดกับพี่เกินพี่แล้ว ผมอยากให้พี่เขาคิดกับผมเกินพี่ แต่ถ้าพี่เขาเป็นผู้ชายหล่ะ เขาก็คงไม่ชอบผมอยู่แล้ว วันนี้ผมไม่ผิดใช่ไหมที่จะเห็นแก่ตัวขอกอดอยู่ตรงนี้ไปให้เรื่อยๆ...
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อีกด้านหนึ่ง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ครับ..." นั้นเป็นคำตอบสุดท้ายของเจ้าตัวแสบตอนนี้มันกอดผมแน่นขึ้น ผมมีความสุขไหมที่มีผู้ชายมากอด ผู้ชายที่หน้าตาดีตรงสเป็ก คำตอบคือ 'มี' แต่มันมีค่าอะไร ในเมื่อมันเป็น'ผู้ชาย' แถมเป็นน้องรหัสผิดกฎสายรหัสแน่ๆ ที่ว่าห้ามพี่รหัสกับน้องรหัสเป็นแฟนกัน
...ผมได้แต่ขับรถไปเรื่อยๆ จนมาถึงโดมเหมือนแซนรู้ครับ พอเลี้ยวเข้าโดมมันก็คลายกอดผม ผมจัดการจอดมอไซค์ไว้ที่เดิม
"แซน" ยังไม่ทันจะลงจากรถก็เสียงตะโกน ผมกับแซนมองไปยังต้นเสียง มีเบ็น เหมียว นุ่น และ คณะ วิ่งมาหา "ไปไหนมาว่ะ ประกาศผลเสร็จก็ไม่อยู่เนี้ย"
"ไปกินข้าวกับพี่โอ๊ตมามา" แซนตอบชี้มือมาทางผม ส่วนน้องไหว้ผมอีกรอบ(ไม่ต้องย้ำว่ากูแก่ก็ได้)
"นึกว่าแกเป็นอะไร ประกาศผลเสร็จแล้วเดินออกไปเลย"
"เป็น..." แซนตอบแล้วก้มหน้าท่าทางเศร้า
"ไอ้เชี้ย มึงคิดมากจริงๆด้วย" เบ็นพูด
"เปล่า กูหิว" แซนโกหก ผมมองหน้ามัน
"แล้วมีอะไรเหรอครับ เห็นวิ่งตามหาให้ว่อน" ผมถามขึ้น(จะบอกว่ากูอยู่ตรงนี้ด้วยคน)
"นึกว่ามันเครียด"
"เหอะๆ" ผมกับแซนมองหน้าแล้วหัวเราะพร้อมกัน คณะที่ตามหาทำหน้างง
"พวกผมเลยไปถามกรรมการ เกี่ยวกับคะแนนสรุปคะแนนผมกับแซนไล่เลี้ยกัน แต่แซนนะโดนหักคะแนนที่เดินเซไปเซมาคะแนนเลยน้อยกว่าผม" เบ็นตอบ
"เดี่ยว เดี่ยว เบ็นเป็นเดือนแล้วไปถามคะแนนกรรมการ เห้ยกล้าโคตร" ผมแย้ง
"ก็ดูมันดิพี่ อยู่ดีๆก็หายไปไม่ล่ำไม่ลา" เบ็นบอก
"พอรู้อีกที มันก็ลากพี่ออกจากโดม" นุ่นเสิรม ถึงเสียงเบาผมได้ยินชักเจน
"เอาเถอะค่ะ สบายใจกันทั้งสองฝ่ายแล้วก็ดีแล้ว" เหมียวพูด " งั้นเข้าไปดูคอนเสิร์ตต่อดีกว่าไหมค่ะ" เหมียวเสิรม
"นั้นเป็นความคิดที่ดีมาก" ผมตอบ พอพูดคุยกันเสร็จก็เดินเข้าไปดูคนเสิร์ตครับไปนั่งตรงที่เดิมที่เจ้าเด็กแสบนอนหนุนตักผมนั้นแหละ
...เราดูคอนเสิร์ตไปเรื่อยๆ บางคนเต้น บางคนก็โยกเบา ส่วนพวกผมโบกมือบ้าง ร้องตามบ้าง สนุกได้โดยไม่มีเหงื่อ อิอิ พอจบเพลง เพื่อนโก้ก็เดินมาสายนี้เหล่ไปยังน้องเบ็นตลอด ไอ้นี้เอาจริงวุ้ย ผมแนะนำให้ทุกคนรู้จักไอ้โก้ครับ ผมเห็นสายตาของแซนที่มองโก้ เหมื่อนจะกินเลือดกินเนื้อ แต่พอบอกว่าเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัย ม.ต้น แซนก็ยิ้มแห้ง ยิ่งพอโก้เปิดตัวแล้วไม่ต้องพูดครับ มันสาวได้ใจมาก แต่โก้ก็เป็นคนเอ็นท์เตอร์เนอร์ที่ดีครับ ทำวงเราฮาได้ตลอด พวกเพื่อนดาวเดือนก็มานั่งคุย นั่งขำไปด้วย มันเล่นมุขที่เล้าโลมน้องเบ็นถึงขนาดน้องเบ็นมาแทรกตรงผมกับน้องเหมียว แต่ก็ยังโดนอยู่ดี สงสารน้องเขาเหมือนกันนะ 555+
จบตอนที่ 4
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...สวัสดีครับท่านผู้อ่าน
...ช่วนนี้อาจไม่ค่อยได้มาอัพให้ เพราะตอนนี้กำลังทำรับน้องอยู่ แล้วเป็นหัวเรือใหญ่อีกโอ้แม่เจ้า อย่างไงจะชะแว๊ปมาลงให้นะครับ
...ขอคอมเม้นท์เยอะๆ นะครับ ใครเม้นท์ขอให้รวยๆ 555+
...ปล. ใครขอรูปอ่ะ ยังไม่เข้ามาเม้นท์เลยนะ งอลๆ