
ตกลงมึงง้อกรูด้วยเพลงใช่ไหมไอ้ลุงบ้า
แผนสูงอีกแล้วนะมึง เป็นใครจะไม่ยอมใจอ่อนล่ะ ใช่ไหมครับ
เอาเลยไหมในรถนี้ละ 555
มึงรู้ตัวไหมมึงทำกรูเขินอยู่นะ ขับรถต่อไปเลยไม่ต้องมายิ้ม ผมพูดในใจ555
Crazy for the love you gave me
You're the memory, the time we share together me and you
I can't live another day, I can't love another way without you
Without you
ตอนที่21----------------ผ้าขี้ริ้วขาวย่าง
“อ้าว ไม่ไปส่งที่ร้านเหรอ” ผมถามไอ้ลุงด้วยความสงสัย หลังจากที่ไอ้ลุงเลี้ยวรถเข้าห้างเดิมเหมือนเมื่อวาน
เบค่อน เบค่อน ลอยมาในความคิด
รถวนขึ้นไปจอดชั้นสาม
ผมเปิดประตูรถเองโดยที่ไม่ต้องรอให้ไอ้ลุงมาเปิดประตูให้
มันจะเป็นสุภาพบุรุษเกินไปเดี๋ยวจะต้องยอมมันที่ลานจอดรถ 555
เราเดินออกจากโรงรถเข้าตัวห้างโดยมี รปภ. เปิดประตูกล่าวคำยินดีต้อนรับ
“วันนี้อยากทำอะไร” มาอีกครับกับคำถามสามแง้สี่ง้ามของไอ้ลุง
มันชวนให้อีกฝ่ายหนึ่งอย่างผมคิดไปไกลแสนไกล555
“หรือจะกินไรดี” เออ ประโยคนี้ค่อยน่าฟังหน่อยไม่ต้องใช่สมองประมวลผมมาก
ว่ามันมีความหมายอะไรแอบแฝง แต่เอ๊ะ หรือว่ามันอยากกินเรา 555
“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เบค่อน” ผมประชดต่อ
ไอ้ลุงยิ้ม ๆ “หรือว่าจะดูหนังดีครับ” ทางเลือกต่างๆ เริ่มทยอยออกมาจากไอ้ลุง(ไตรภพ)
เวลาเดินไป ๆ
เสียงโทรศัพท์ ไอ้ลุงดังขึ้น ไอ้ลุงหยิบขึ้นมาดู พร้อมมองหน้าผม สีหน้าเปลี่ยนไป
ตายละใครโทรมา ขัดคอกรูจริง
“สวัสดีครับ ว่าไงนนท์” ไอ้ลุงกรอกเสียงไปยังต้นสาย …………กำลังนินทา ตายยากจริงๆ
“------------------------“
“อยู่ห้างเดิมเมื่อวาน”
“------------------------”
“จะเอาอย่างงั้นเหรอครับ”
“------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------”
ผมสงสัยว่านนท์คงพูดเป็นชุด เพราะลุงได้แต่ อือ อือ ครับ เป็นระยะ
ผมมองนู้นมองนี้อะไรเรื่อยเปื่อย แต่หูยังสนใจประเด็นที่ไอ้ลุงสนทนาอยู่…….มะได้เจือกนะแต่มันเป็นสิทธิอย่างชอบทำ555 หวังว่าไอ้ลุงคงไม่ชวนนนท์มาอีกนะ ภาวนาสาธุ
“------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------”
“อือ ครับ ครับ”
อะไรกันอีกนะ มึงมากับกรูแล้วยังจะคุยกับคนอื่นอีก ...................มันจะมากไปแล้วนะว้อย
“อืม แต่ว่า ”
“------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------”
“คงไม่ได้ครับนนท์ พอดีเรามากับ เอ่อ…………..”
บอกไปเลยว่ามากับกรู กล้าพอไหม ผมท้าในใจอีกแล้ว55
“---------------------------------------------------------”
“ใช่ครับผมมากับปอร์ แค่นี้นะนนท์ ปอร์รออยู่”
ตายละ กรูนึกว่าจะตอบว่ามากับแม่ กับพ่อ ซะอีก
เอาแล้วสิครับผม เขินนะสิคุณผู้อ่านก็ ไอ้ลุงกล้าบอกนนท์ขนาดนี้ แสดงว่าไม่เกรงใจนนท์แล้ว
ช่วยไม่ได้เขาเลือกกรูแล้ว เพราะกรูสวย ยกที่สอง คะแนนกรูนำ5555
หลังจากยกแรกผมต้องพ้ายแพ้ให้นนท์ด้วยเบค่อน.. เอิ๊ก เอิ๊ก
อย่าลืมนะเจ้าปอร์ มึงจะสวยแค่ไหน แต่ไอ้นนท์หล่อระดับดาราเชียวนะ สมองฝ่ายธรรมะผมเตือน
นั้นสิ เห็นทีการนี้จะประมาทไม่ได้เสียแล้ว
แล้วไอ้ลุงก็เก็บมือถือมันไว้ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม เดินเข้ามาหาผม
“ปอร์ดูหนังกันไหม” งะ ความมืดจะมาเยือนกรูอีกแล้ว อย่าเป็นโรงเดิมอีกนะ ภาวนา ภาวนา
ผมยิ้มๆ ไม่พูดไรเป็นเหมือนการให้ท้า เอ้ย เหมือนเป็นการตอบลงตกว่าก็ได้ยอมแล้ว..5555
วันนี้เป็นวันที่หนังใหม่เขาโรงพอดี ส่วนคนที่กำลังจะเข้าโลงกลับเป็นผมนั้นเอง….แซดแซ็ด
มีเสียง ฉึก ฉัก ฉึก ฉัก ดังมาแต่ไกล
โดยอีกขบวนจอดเทียบอยู่ข้างๆ ผม อีกหนึ่งขบวนกำลังวิ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูง
พี่เอกเดินตรงเข้ามาที่ผมอย่างไม่รอช้า ส่งยิ้มมาแต่ไกล.........ตายละผู้ชายยิ้มให้หมายถึงผู้ชายรัก
งานเข้าอีกแล้วกรู ผมยิ้มให้พี่เอกกลับไปแล้วหันไปมองหน้าไอ้ลุง
ตอนนี้หน้าหล่อๆ ของไอ้ลุงก็ยังหล่อเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือแววตาที่มันมองพี่เอกสิครับ
มุนแดง มุนน้ำเงินกำลังเกิดขึ้นกลางห้างแล้วครับ
ไม่เกี่ยวกับกรูนะ กรูไม่ผิด เขาเข้ามากอดกรู กรูแค่เอามือลูบหลังปลอบใจเขาเท่านั้น
“หวัดดีครับปอร์”
“หวัดดีครับพี่เอก” ยิ้ม
“เปิดเทอมแล้วเหรอครับ”
“ครับเปิดเทอมแล้ว” ยิ้มต่อ
“แบบนี้ก็ไม่ค่อยได้ไปที่ร้านแล้วสิครับ” รังสีอำมหิตแผ่มาจากไอ้ลุง อย่างสม่ำเสมอ ฟิวส์ ฟิวส์
“ครับ ก็แวะไปบ้างครับ ไม่บ่อยเหมือนตอนปิดเทอมครับ ”
“แย่จังเลยครับ แบบนี้ก็คงไม่ได้เจอปอร์บ่อย ๆ อีกแล้วนะสิครับ” คนที่กำลังแย่นะไม่ใช่พี่เอก
แต่เป็นผมสิครับ ไอ้ลุงมันพร้อมที่จะฆ่าผมแล้วหั่นศพผมแล้วมั้งดูจากแววตา
“อ่อ แล้วนี้ เพื่อนปอร์เหรอครับ”
“นี่กอล์ฟครับ” ผมเลี่ยงตอบสถานะภาพของใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างผม ด้วยการบอกชื่อแทน
อย่างน้อยก็เลี่ยงได้ในตอนนี้ ขืนบอกว่าเพื่อน ไอ้ลุงคงกัดหัวผมแน่ๆ
“หวัดดีครับน้องกอล์ฟ” ไอ้ลุงก้มหัวลงเล็กน้อยเหมือนคำตอบว่า เออหวัดดี ยังไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเหมือนเดิม
“พอดีผมกับกอล์ฟมาดูหนังครับพี่ ดูด้วยกันไหม” ผมถามเป็นมารยาทเท่านั้นนะ
มาแล้วครับสายตาอำมหิต มองมาที่ผมแล้ว……….ด่ากรูละสิว่าชวนทำไมฟะ
พี่เอกมองผมกับไอ้ลุงสลับกันไปมา อย่างสงสัย แต่พอจะเดาสถานการณ์ได้
“แล้วเจอกันที่ร้านนะครับน้องปอร์ พี่ไปละครับ” .....................มอบโชคกรูอีกแล้ว
งานเข้าอีกแล้วกรู ไหนจะต้องเก็บระเบิดที่พี่เอกเพิ่งทิ้งไว้
ไหนจะต้องต่อสู้กับรังสีอำมหิตที่ส่งตรงมาจากไอ้ลุง
ตอนนี้หน้าตาไอ้ลุงเข้าสูโหมดไม่รับแขกขั้นรุนแรงแล้วครับ
ทำไงได้ละ ไอ้เราก็ไม่คิดว่าจะชนกันโครมแบบนี้ ถ้ารู้จะสลับรางคนละเวลากันแล้ว 5555555
ไอ้ลุงเดินเข้าไปซื้อตัวหนังมา2ใบ แล้วเดินนำริ้ว ๆ ไปในโรงหนัง ผมวิ่งตามไม่ทันเอาซะแล้ว
แหม มึงกับกรูนี่ แบ่งกันงอนสลับคนละวันเลยนะ ได้ ได้เลย แบบนี้ดีมาก พรุ่งนี้วันของกรู จำได้555
ตอนนี้บรรยากาศในโรงหนังมืดสนิท จะเห็นแสงสว่างบ้างก็จากตัวอย่างหนัง
ผมมองไม่เห็นด้วยสิว่าไอ้ลุงมันนั่งตรงไหน ก็แล้วจะเห็นได้ยังไงในเมื่อตั๋วอยู่ที่มันหมด ไม่รู้กระทั้งที่นั่งตัวเอง….กำ
ผมออกมานั่งรอมันออกมารับที่หน้าโรงหนัง
อย่าให้กรูโมโหบ้างนะ จะหนีตามพี่เอกให้มันรู้แล้วรู้รอด55
ผมกลับออกมาซื้อน้ำ และป๊อปคอร์น แล้วเดินเข้าไปนั่งรอมันที่เดิมอีกครั้ง
เมื่อไรมันจะโทรมานะ รอนานแล้ว ยังไงก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะโทรมา
ครั้นจะโทรไปมันคงรับสายไม่ได้เพราะอยู่ในโรงหนัง..........นางงามมารยาทไทยเข้าสิงห์
ขืนเมิงไม่มาเมิงได้ดูหนังคนเดียวเป็นแน่ ผมขู่ไอ้ลุงในใจ
เวลาผ่านไป 20 นาที นานเกินไปแล้วนะ สำหรับการนั่งรอครั้งนี้อยากให้กรูกลับบ้านใช่ไหม ได้เลย
ผมลุกขึ้นจากที่นั่งหน้าโรงหนัง
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้ลุงออกมาพอดี มันจับมือผม แล้วลากเข้าไปยังโรงหนังอีกครั้ง….ตบจูบกรูด้วยสิ55
อะไรมึงจะข่มขืนกรูตรงนี้เหรอ ไม่นะ กรูยังไม่พร้อม ไม่มีอุปกรณ์5555
ผมกึ่งเดิน กึ่งวิ่งในโรงหนังที่ค่อนข้างจะมืด ตามแรงดึงของไอ้ลุง
โดยที่ไอ้ลุงไม่แคร์สายตาใครๆในโรงหนังเลย คงเห็นว่าเป็นเพราะความืด
ความงอน ทำให้โรงหนังเหมือนมีโลกคนละใบ
ทั้งที่โต๊ะนั่งใกล้กันแค่ไหนมันเหมือนห่างไกลกันเป็น100ปีแสง
ความอึดอัดเริ่มคืบคลานเข้ามา ทีละนิด ทีละนิด
ผมยึดที่วางแขนด้านขวาของผมเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ แล้วเอ็นตัวไปตามมือนั้น
ไอ้ลุงก็เช่นกันของมันเป็นด้านซ้าย
ระยะห่างไม่ถึงหนึ่งช่วงตัวมีแค่ที่วางแขนกั้นอยู่ ทำไมมันทำให้เราดูห่างไกลกันเหลือเกิน
ตัวอย่างหนังจบลงไปแล้ว เข้าสู่หนังเรื่องที่เราเลือกดูแล้ว เปล่าสิไอ้ลุงเลือกคนเดียว
บรรยากาศยังคงเหมือนเดิม ต่างคนต่างยึดที่มั่นของตัวเองต่อไป
หนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เราสองคนก็ดำเนินการงอนไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับหนัง
เริ่มอึดอัดแล้วนะ เออ งั้นกรูง้อก่อนก็ได้ ผมคิดในใจ
ตัดสินใจว่าหันหน้าไปเพื่อที่จะ ชวนคุย หวังทำลายบรรยากาศอึมครึมนั้น
แต่ช้าไปแล้ว เพราะโดนไอ้ลุงชิงตัดหน้า.......หวายตัดหน้า
“ปอร์’ ชื่อผมถูกเรียกขึ้นอย่างเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน โหยหา555 และอาทร
“หื” คราวนี้ผมหันไปมองหน้าไอ้ลุง ภายในความมืดที่พอจะมีแสงสว่างรำไร จากหนังนั้น
หล่อเหมือนเดิม แล้วตอนนี้ที่วางแขนถูกยกเก็บเข้าที่แล้ว เหมือนเก้าอี้ฮันนีมูน ยังไงยังงั้นเลย 555
ไอ้ลุงเลื่อนตัวมันมาช้า ๆเข้ามาหาผม แต่ยังคงเว้นระยะห่างไว้
“โกรธเหรอ” เสียงกระซิบแผ่วเบาใกล้หูผมพอสมควร.............มากรูพร้อมละ ท่าไหนดี 555
ผมมองหน้ามัน เราสบสายตากัน แล้วผมส่ายหัวเพื่อให้อีกคนนึงทราบว่าไม่ได้โกรธอะไร
อยากโกรธอยู่หรอกนะครับแต่ทำไม่ลง ที่เห็น ๆ คือการแสดงทั้งนั้น 555
“ขอจับมือได้ไหม” ตายแล้ แล้ว ความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้ง ตุบ ตุบ ผู้ชายขอจับมือ
เวลาผ่านไป ไม่มีเสียงตอบรับจากผมแต่อย่างใด
ไอ้ลุงเลื่อนตัวกับไปยังที่เดิม เมื่อรู้ว่าคำขอไม่เป็นผล
(ขอโทษคนอ่านนะครับ ที่กำลังลุ้นจนตัวโก่งอยู่555)
เวลาเดินไปช้าๆๆ
ก่อนที่ท่านจะผิดหวัง ผมเอื้อมมือซ้ายของผม
ผ่านช่องว่างระหว่างแขนกับลำตัวของลุงอย่างบรรจงไปหามือของไอ้ลุงที่วางอยู่หน้าตักมัน…….ย้ำนะครับว่าหน้าตัก5
แล้วผมก็วางฝ่ามือผมลงบนมือของไอ้ลุงอย่างช้าๆ...........จินตนาการเห็นภาพไหมครับท่านผู้อ่านอิอิ
ไอ้ลุงหงายฝ่ามือมันสอดนิ้วประสานกันกับมือผม ส่งผ่านความรู้สึกที่อ่อนโยนด้วยการกระทำนั้น
ผมเอ็นตัวตามมือเอาไล่ไปชิดกับไล่ไอ้ลุง.....แหม้ เขิลจริง
ไอ้ลุงเอ็นตัวรับแรงสัมผัสผมเบา ๆเหมือนเป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับ แต่อ่อนโยน
ชอบจัง อยากอยู่อย่างนี้นานๆจัง
ความคิดมักมาก่อนการทำในบางครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่
ผมทำถูกใช่ไหม ที่ทำแบบนี้ เหมือนคนที่กำลังให้ความหวังตัวเอง ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักอะไรเขาดีพอ
บางครั้งคนที่เสียใจอาจไม่มีแค่ผม อาจเป็น นนท์ หรืออีกหลายๆ คน
ช่างเถอะ เวลานี้ผมขอเต็มที่กับมันก่อน พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน
ผมไม่สนใจเลยว่าหนังนั้นจะดำเนินไปอย่างไร สิ่งที่ผมรู้สึกและสัมผัสได้ในตอนนี้
คือความรู้สึกของผมลอยไปไกลแค่ไหนแล้ว เมื่อไอ้ลุงกุมมือผมไว้ในมือทั้งสองข้าง สายตาไอ้ลุงยังจ้องมองที่หนัง
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนกรูสิ ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ เขาคิดอะไรอยู่นะ
หัวใจไอ้ลุงจะเต้นแรงเหมือนกับหัวใจของผมที่กำลังเต้นอยู่ไหมนะอยากรู้จัง
**

**
สูตรเด็ด.......ผ้าขี้ริ้วขาวย่าง
หั่นผ้าขี้ริ้วขาว เป็นชึ้นใหญ่ๆ ใส่หม้อ หมักด้วย พริกบ่น ข้าวคั่ว น้ำปลา ซอส น้ำมันหอย ผมชูรส น้ำตาลปีบ
ในปริมาณที่พอเหมาะ นำไปย่าง ให้สุก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เสิร์ฟ ด้วย น้ำจิ่มแจ่ว ผักสด