ก่อนอื่น ขอขอบคุณอีกครั้งนะคับ กับทุกๆ ความรู้สึกในบอร์ดแห่งนี้ ผมรู้สึกอบอุ่นจิงๆ
ส่วนเรื่องที่ผมคิดว่าจะเลิกเขียนภายในเดือนนี้ .......................ในเมื่อทุกคนเรียกร้อง
ผมคงทำร้ายจิตใจเพื่อนๆ ไม่ได้เหมือนกัน ก้อคงต้องเขียนต่อละคับ แต่อาจจะไม่ทุกวัน
เพราะบางทีกลับบ้านดึก งานก้อเยอะขึ้นทุกวัน ถ้าเป็นไปได้จะมาอัพเดทให้ช่วงที่ว่างจริงๆ นะคับ
หวังว่าทุกคนคงเข้าใจนะคับ
ช่วงที่หายไป ไม่ได้ไปไหนหรอกคับ ไปนอนเป็นเพื่อนไอ้เอมัน ส่วนเมื่อคืนนอนบ้านตัวเองคับ กะจะเข้ามาอัพเดทเรื่องล่าสุด แต่พิมพ์ไปจนเสร็จ ตี 2 กว่าแล้ว จะเอาไปโพสที่บอร์ด ปรากฏว่าเปิดไม่ได้ ไม่รู้เป็นอะไร (เห็นเป็นหน้าเปล่าๆ ) จนปัญญาจริงๆ ไม่รู้ทำใง เลยต้องเอาที่พิมพ์ส่งเข้าเมลล์ แล้ววันนี้มาเปิดที่บริษัท เลยได้โอกาสโพส
แต่เป็นเรื่องของวันจันทร์วันเดียวนะคับ
พอดีได้มีโอกาสไปดูหนังกะมันครั้งแรก ตั้งแต่รู้จักกัน เป็นประสบการณ์อีกอย่างที่น่า(จดจำ) ว่าการไปดูหนังกะไอ้เอมัน ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายอย่างที่คิดไว้เลย แต่ขอเล่าแบบรวบรัดนะคับ ไม่รู้เพื่อนๆ จะอ่านแล้วสดุดหรือเปล่า ลองดูคับ แล้วจะรู้ว่าไอ้เอมันถึง น่า(รัก)โครตๆ
เล่าเรื่องเมื่อวานเลยละกันคับ(วันจันทร์)
วันนี้ผมไปทำงานแต่เช้าเลยคับ ไม่รู้เป็นเพราะอยากเจอไอ้เอมันเร็ว ๆหรือเปล่า
เดินผ่านหน้าปากซอย เกิดอยากกินโจ๊กขึ้นมา เลยแวะกินซักหน่อยก่อนไป
ถือโอกาสซื้อไปเผื่อไอ้เอมันสักถุงด้วย
พอดีเอาใส่กระเป๋าไม่ได้ เลยต้องจำใจถือขึ้นรถไฟใต้ดิน
(เพื่อเอมันคับ อายยังไงก้อต้องยอม)
ถุงโครตบางเลยคับ ร้อนก้อร้อน แถมยังมีกลิ่นโชยออกมาข้างนอกอีก
เพื่อนๆ คิดดูซิคับ ช่วงเช้าๆ บนรถไฟฟ้าใต้ดิน คนโครตตตตตตเยอะเลยคับ
วันนั้นผมเลยกลายเป็นที่รังเกียจของคนที่ยืนใกล้ๆ ทุกคนพร้อมใจกันออกห่างผมคนละ 1 ฟุต
(เพราะความร้อนของโจ๊กไอ้เอนี่ละคับ)
ลำบากจิงๆ การจะเอาใจใครสักคนนึง........เฮ้อออ
ฟันฟ่าอุปสรรคจนมาถึงที่ทำงาน อยากรู้ว่ามันมาหรือยัง เลยลองต่อโทรศัพท์ไปที่โต๊ะมัน
พอมันรับก้อรีบวางคับ ................................รีบเดินเอาไปในครัวก่อนเลยคับ
เจอแม่บ้านพอดี เลยให้ช่วยเอาโจ๊กใส่ชามให้หน่อย
บอกไปว่าของไอ้เอฝากมาก เดี๋ยวมันจะเข้ามากิน
เสร็จแล้วรีบไปที่โต๊ะเลยคับ เหลือบไปมองมัน เห็นวุ่นวายอยู่
(สมน้ำหน้ามันอีกทีนึงคับ อาทิตย์ที่แล้วเกเรดีนัก
)
เอาว่ะ.......ขอโทรไปแซวซะหนอ่ยเหอะ
“ฮัลโหลคับ” เสียงเหนือยๆ เชียว
** โหดูเหมือนงานยุ่งจังเลยน้า กินไรมายัง **
“โทษนะซัม เอไม่ว่าง ไม่มีเวลามาคุยล้อเล่น” ไม่หลุดมึง/กูเลย ชักเสียว ๆ พิกล
** แล้วกินอะไรรึยัง บอกมาก่อนเดะ**
“โทรมาถามแค่เนี้ย.........ไร้สาระ....พอเลย แค่นี้แหละ งานยุ่ง ค่อยคุย” แล้วมันก้อวางไปคับ
แค้นมันจิงๆ อุสาห์ถือถุงโจ๊ก ฝ่าฝันอุปสรรคร้อยแปดพันเก้า มาเพื่อจะให้มัน(แด๊ก)
แต่แม่ง.....ไม่สนใจเลย โกรดเดะคับ
ประมาณ 10 นาทีคับ เสียงโทรศัพท์ดัง
“ใครบอกให้ซื้อโจ๊กมา ไม่ได้อยากกินซักหน่อย” อ้าว ไหงพูดอย่างงั้นละคับ ไอ้เวง.....
**รู้ได้ไงว่ากุซื้อมาให้มึงกิน**
"แม่บ้านโทรมาบอก จะซื้อมาทำไม๊ ยุ่งจิงๆ "
** อ๋อ....กุผิดว่างั้นเหอะ ที่ เจือก อยากซื้อโจ๊กมาให้(มึง)กิน** (จิงๆ อยากบอกว่าแฟน แต่ยังไม่กล้าคับ)
“ แล้วทำไมไม่โทรถามก่อนละ ว่าจะกินหรือไม่กิน.... เห็นมะพอซื้อมาเดี๋ยวไม่กินก้อโกรดอีก เสียของด้วย”
** เออ ไม่ต้องห่วงไม่เสียของหรอก เดี๋ยวบอกแม่บ้านให้เอาไปให้หมากินแล้วกิน ถือว่าทำบุญ**
“ เห็นมะ แค่เนี้ย งอน แม่ง......วันนี้ไม่ง้อนะคับคุณ............. ผมไม่มีอารมณ์”
มันไม่มีอารมณ์ แต่ผมซิคับ มีอารมณ์ โครตตตตตตตตตต โกรดมันเชี้ยๆ เลยคับ เลยวางหูไปเลย
ทำดีไม่ได้ดีเรยยยย กุ
ไม่ได้สนใจมันเลยคับ พอพักเที่ยง คิดว่ามันคงสำนึกได้ แต่ไร้แม้แต่เงามันคับ เลยไปกินข้าวกะเพือ่นๆในแผนก
งงกันใหญ่ว่าทำไมวันนี้ผมหลุดมากินได้ (ความจิงในแผนกมีแต่คนอายุมากกว่าผมทั้งนั้นละคับ เลยไม่ค่อยได้ไปกินด้วยกันบ่อย ตั้งแต่ไอ้เอมาอยู่ที่บริษัทผม)
กลับมาทำงานต่อ ยังไร้วี่แววไอ้เอมันคับ ไม่กล้าถามใครด้วยว่ามันไปไหน แต่เดาๆ ว่าคงไปตามงานข้างนอก เดี๋ยวเย็นๆ ค่อยถาม
พอดีแม่บ้านมาเก็บแก้วกาแฟ เลยถามเรื่องโจ๊ก(ลืมไปเลยคับ ว่าจะให้เอาไปให้หมากิน)
**ป้าคับ โจ๊กเมื่อเช้ายังอยู่รึเปล่าคับ”
--อ้อ โจ๊กคุณเอเหรอะคะ—
**คับ ยังไงป้าช่วยเอาไปให้หมาแถวออฟฟิตกินละกันคับ เสียดาย พอดีเอมันไม่ว่างกิน** ความจิงไม่รู้หรอกคับว่าแถวนั้นมีหมาอยู่หรือเปล่า
--อ้าวมีอีกถุงเหรอคะ –
**เหอออ ว่าไงนะคับ**
--ก้อถุงเมื่อเช้า คุณเอมากินหมดแล้วนี่คะ ก่อนออกไปข้างนอก—
**กินหมดแล้วเมื่อเช้า .....**
--กอ้ป้าโทรไปบอกว่าเอาโจ๊กใส่ชามให้แล้ว ให้มากินเดี๋ยวจะเย็น คุณเอยังถามป้าอีกว่าโจ๊กอะไร.... ป้ายังขำไม่หาย นึกว่างานยุ่งจนลืมโจ๊กตัวเองเลยเหรอ—
**แล้วเขาไปกินเลยเหรอคับ**
--ใช่ค่ะ ถึงถามว่ามีอีกถุงเหรอคะ เพราะเมื่อเช้าเห็นคุณซัมถือมาถุงเดียว มีอะไรเหรอคะ —
**อ้ออ เปล่าคับ ไม่มีหรอกคับ พอดีเบลอๆ นิดหนอ่ย**
เบลอๆ จิงๆ คับ ตกลงมันเป็นไรของมันเนี้ย จากโกรธๆ อยู่ดีดี ตอนนี้ หน้าบานอีกแย้ววววว
(ทำให้ผมรักมันมากขึ้นทุกๆ วันเลยจิงๆ ไอ้เวงเนี้ย)
อยากจะโทรไปหาเดี๋ยวนั้นเลยคับ แต่คิดอีกที เดี๋ยวตอนเย็นดีกว่า คงทำงานวุ่นอยู่ (เดี่ยวอารมณ์จะปรี๊ดดดใส่ผม)
6 โมงกว่า แล้วคับ มันถึงโทรมาหาผมได้
** ฮัลโหลคับ เหนื่อยมะคับ วันเนี้ยย เป็นห่วงน่าดูเลยย** พูดดีดีกะมันหน่อยคับ
“ ไง หายงอนแล้วอะเดะ หรือยังมีอีกล๊อด......”
**เออ ไม่งอนแล้ว ไว้คราวหลังจะซื้อไร จะโทรบอกก่อนละกัน **
"เอออ เอาเหอะ ซื้อไรมากินได้หมดแหละ แต่เมื่อเช้าหงุดหงิดเฟ้ยยยยย"
**คร๊าบบบบ รับทราบบ**
“เลิกงานยัง ตอนนี้”
**เออ เคลียร์งานเสร็จแล้ว ไมอะ**
“ ป่าว พอดีไม่เข้าออฟฟิตแล้ว ออกมาหาหน่อยได้ปะ”
**เออก้อได้ แล้วตอนเนี้ย อยู่ไหน**
“ ให้เวลา 1 ชั่วโมง มาเจอกันที่หน้าเมเจอร์รัชโยธิน ไม่ต้องถามมาก โทรมาตอนถึงเลยละกัน แค่นี้แหละ เริ่มจับเวลาเลยนะ.......”แล้วมันก้อวางไปเลยคับ
ให้เวลา 1 ชั่วโมงเนี้ยนะ จากออฟฟิตผม ถึงเมเจอร์รัชโยธิน แล้วเวลาประมาณนี้ รถแถวนั้น ติดโครตๆๆๆคับ ชักจะมากไปแล้วคับ ไอ้เนี้ย บ้าอำนาจจิงๆ
แล้วเพื่อนๆ คิดว่า เรื่องอะไรผมจะยอมทำตามมันคับ........................ทำอย่างนี้ได้งัย มันบังคับกันนี่หว่า
ผมไม่รอช้าคับ เพราะมันจับเวลาแล้ว............. คิดแผนไว้แล้วคับว่าจะไปทางไหน ให้ทัน 1 ชม
ต้องนั้ง บีทีเอส ไปลงที่สถานีสะพานควาย ต่อด้วยแท๊กซี่ไปเข้าทางหมอชิต 2 แล้วเลี้ยวเข้ารัชโยธิน เร็วสุดๆ แล้วคับ ฉลาดจิงๆ
(อ้าวตกลงผมยอมมันอีกแย้วเหรอเนี้ย ซัมซิก โถ่ ไม่น่าเรยยย)
ในที่สุดก้อถึงคับ เกือบชั่วโมง รีบโทรไปหามัน .....ด่วน มันบอกว่าเดินดูของอยู่ เลยต้องตามหามันอีก เฮ้อออ กว่าจะหากันเจอ ลำบากจิงๆ
“โห ตรงเวลาดีนี่หว่า สมแล้วที่ซื้อตั๋ว HONEY MOON SEAT ไว้ให้ ”
** หา.....จะดุหนังเหรอ นึกว่าจะมากินข้าวแถวนี้ ** ไอ้ผมไม่รู้เซ่อ หรือ โง่ดีคับ เพราะไม่ได้คิดว่ามันจะพามาดูหนัง มันไม่เคยชวนผมเลยคับ มีแต่ผมเคยชวนมัน แต่มันบอกว่าไม่ชอบไปดูหนังกะผู้ชาย2คน สรุปแล้ว นี่คือการดูหนังครั้งแรกของผมกะมัน....ดีใจจิงๆๆๆ
“ เออ เดะ มาที่นี่จะให้มาทำไรวะ ไม่ดีใจเหรอวะ อยากมาดูกะกุมานานแล้วไม่ใช่เหรอ”
**ไอ้บ้า บอกดีดีก้อได้ แม่งแล้วไม่อายเหรอเล่นซื้อHONEY MOON SEAT **
“เออน่า เฉยๆไว้เหอะ ปะกินข้าวก่อน หิว”
สรุปแล้ว มันจองตั๋วหนังไว้ รอบ 3ทุ่มกว่า เรือ่ง music and lyrics ที่ฮิวแกรนท์ เล่นเป็นพระเอกนะคับ มันบอกว่าชอบ ตั้งแต่ตอนที่เขาเล่นเรือ่ง notting hill ผมยังคิดว่าคนประเภทมันเนี้ยนะ ชอบหนังรักโรแมนติกกะเขาเป็นด้วย
ใกล้ถึงเวลาเข้าโรงหนังแล้วคับ ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันคับ ใจสั่นๆ ยิ่งคิดว่าเป็นเก้าอี้คู่รักด้วยแล้ว มันรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่เคยเห็นผู้ชายนั้งคู่กะผู้ชายเลยด้วย
“เฮ้ย จะไปห้องน้ำก่อนหรือเปล่า” เออ มันคงเป็นห่วงผมแหละ กลัวเข้าไปแล้วออกลำบาก
**เออ ไปเดะ**
“มึงไปคนเดียวละกัน เดี๋ยวกุเข้าไปก่อน” เลยมันก้อยื่นตั๋วให้ใบนึง
ผมไม่ได้ดูตั๋วหรอกคับ เพราะรู้ดีว่าเก้าอี้อยู่แถวบนสุดอยู่แล้ว เลยไปห้องน้ำก่อน ล้างหน้า ล้างมือด้วยคับ (เตรียมพร้อม)
พอเข้าโรงหนัง มองไปแถวบนสุด ตกใจเดะคับ
โรงนี้ไม่เห็นมี เก้าอี้ HONEY MOON SEAT เลยนี่ หว่า
มันเป็นเก้าอี้ธรรมดา ทั้งโรง (เพราะเป็นโรงเล็ก)
เลยเอาบัตรมาดู เห็นว่าเป็นแถวถัดไป 2/3 แถว
เดิน ลงไปดู เห็นมันนั้ง แด๊กป๊อบคอน อยู่สบายใจเชียวคับ
ทำผมโกรธอีกคับ ไอ้เอ ไม่น่าให้อภัยมันเร้ยยยยยยยยยยยย
เดินเข้าไปนั้งใกล้ๆ มันคับ
“เฮ้ย ดูตั๋วด้วย นั้นที่ใครก้อไม่รู้”
**หา......** ผมเหลือบดูตั๋ว ปรากฏว่า ตั๋วผมต้องขยับไปอีกตัวนึง เจ็บใจจิง ๆ คับ
กลายเป็นว่าที่นั้งข้าง ๆผมว่างอยู่ทั้ง2 ด้าน แต่มันไปนั้งติดกะใครก้อม่ายรู้
ไม่พูดกะมันเลย นั้งเงียบๆ (จิง ๆอยากออกไปจากโรงเลยด้วยซ้ำ) มันเองก้อไม่พูดกะผมเลยคับ นั้งกินเฉยเลย แต่ยังดีที่ส่งน้ำมาให้ผม คอแห้งพอดี (จะได้มีแรงด่ามันเยอะๆ )
หนังฉายไปประมาณ ครึ่งชม ยังไม่มีวี่แววคนที่มานั้งใกล้ผมเลยคับ........ตอนนั้นดูหนังไม่รู้เรื่องแล้ว
เซ็ง สุดๆ คับ ...........................เหลือบไปมองมัน มันยัง เอาป๊อบคอน มาปาใส่ผมอีก ไอ้นี่ คงคิดว่า จะให้ผมเดือดสุดๆ แล้วมั้งคับ
สักพัก จู่ ๆ..... มันลุกขึ้นมานั้งใกล้เก้าอี้ผม คับ
** ไหน HONEY MOON SEAT ของมึง** โมโหจิงๆ
“ นี่ไงHONEY MOON SEAT ” งงเดะคับ
**อย่ามางี่เง่า ไปนั้งที่ตัวเองเลยปะ**
“หนังฉายไปครึ่ง ชมแล้ว ไม่มีคนมาแล้วละมั้ง เลยเป็นHONEY MOON SEAT ของเราไง “
แล้วมันเอามือมาจับมือผมเดะคับ ตอนนั้นยังไม่เก็ตคับ แต่ให้ความรู้สึกดีเป็นบ้า.....หายโกรดมันอีกแล้วว....(โถ่เอ้ยยยย จิงๆ เลย ซัมซิก)
“ดูเดะ ไม่มีใครมานั้งใกล้ๆ ด้วย ไม่ดีเหรอ”
** อย่าบอกนะ ว่ามึงซื้อตั๋ว 4 ที่เลยเนี้ย**
“เออน่า นั้งดูไปเหอะ ไม่ต้องพูดมาก”
ผมก้อยังคิดอยู่คับ ว่ามันคงซื้อตั๋ว 4 ที่ละคับ ทุ่มน่าดู ไอ้เวงนี้
(แล้ว เพื่อนๆ คิดว่าไงคับ จะคิดว่าไงได้บ้าง )
แต่หนังซึ้งดีคับ อินเลิฟกันสุดๆ ผมเองก้อไม่แพ้กันคับ (เหอ เหอ)
พอดูหนังจบ กอ้ขับรถมากินข้าวแถวๆ บ้านผม
ผมขอตั๋วมันดู ที่นั้งมันก้อไม่ได้ใกล้ผมจิงๆ เหมือนที่มันบอก
เลยถามมันตรงๆ
มันบอกว่าถ้าบอกแล้วขออะไรอย่างนึงได้ให้ได้มะ
ตอนนั้นอยากรู้สุดๆ คับเลยเซย์ เยสไป
เพื่อนๆ ลองนึกตามนะคับ เทคนิคการจองตั๋วหนังของไอ้เอมัน
สมมุตว่าแถวนึงมีที่นั้ง 10 ตัว
1 2
3 4
5 6
7 8 9 10
มันบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังรัก คนเลยต้องไปดู เป็นคู่ๆ ถ้าเห็นว่า 7/8 มีคนจองแล้ว มันเลยจอง 5 กับ 3 ไว้ เพราะงั้น ถ้าคู่อื่นมา จะ นั้งตรง 4 กับ 6 ไม่ได้เพราะมันแยก คงต้องไปเอา 1 กับ 2 หรือ 9 กับ 10
ส่วนความเสี่ยงมีน้อยมาก ที่จะมีคนมาดูหนังเรื่องนี้คนเดียว ทำให้ที่นั้ง 4 กับ 6 จึงมีโอกาสที่จะถูกจอง แทบจะน้อยมาก
เป็นอย่างที่มันคิดจริงๆ คับ เพราะถ้าตามตัวอย่างข้างบน มันให้ผมนั้งที่เลข 5 ส่วน มันนั้งตรง 3 รอไว้ก่อน ส่วน 1กับ 2 มีคนนั้งไปแล้ว พอดูหนังไปแล้วคิดว่าคงไม่มีใครมานั้งจริงๆ เลย ย้ายมาที่ 4 เท่ากับว่า ข้างๆ ผมกะมัน ไม่มีใครเลย กลายเป็น HONEY MOON SEAT ตามที่มันบอกไว้จิงๆ ฉลาดเชี้ยๆ คับไอ้เอ นับถือ
ผมถามมันว่าแล้วถ้าเกิดวันนั้นมีคนมาคนเดียวมานั้งพอดีละ มันบอกว่าก้อขอเปลี่ยนเขาเดะ มาคนเดียวคงไม่เรื่องมากหรอก นั้งไหนก้อได้ทั้งนั้นแหละ ง่ายออก .........
ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนจองตั๋ว เขาให้จองได้ไง แต่แม่ง ได้ใจผมไปอีกดวงนึงคับมุขนี้
ส่วนที่มันบอกว่าจะขอผมนะเหรอคับ
มันบอกให้ไปนอนเป็นเพื่อนมันทีบ้านคับ
เล่นง่าย ๆ อย่างนี้ มีรึ ผม จะ............................ไม่ยอม (เฮ้อออ)
เลยตามเลยคับ แวะไปเอาชุดทำงานที่บ้านแล้วไปนอนบ้านมัน คงต้องยอมมันทุกอย่างแล้วละคับเวลานี้
วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะคับ แล้วคืนนี้ ถ้าไม่กลับดึก เจอกันนะคร้าบบบบบบบบบบ
ขอบคุณอีก ล้าน ๆ ครั้งนะคับ ถ้าพิมพ์ตกยังไง หรือ ผิดพลาดประการใด ช่วยบอกด้วยนะคับ บางทีก้อสับสนเรื่องเวลาไปบ้าง แต่พื้นฐานจะเป็นเหตการณ์จิง โอเคนะคับ บายยยย
ซัมซิก