ตอนนี้ หายไปนาน กว่าจะมาโพส... อันเนื่องมาจากงาน งาน งาน แล้วก็งานนั่นแหละครับ เหลืออีกไม่เท่าไรแล้วครับสำหรับ ภาคดินกะชล...
............................................
ตอนที่ 44 ความขัดแย้งในตอนนั้น ขณะที่ความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างจะเปราะบาง (ในความคิดของไอ้ชล) ถ้าหากเรื่องของน้องโก้เป็นเรื่องที่ไอ้ชลมันไม่ชอบ เรื่องของป๋าโจว ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ไอ้ชลมันหมั่นไส้ผม
ถ้ายังจำกันได้ ภาคที่แล้วตอนที่ 56 - 58 เรื่องของป๋าโจวซึ่งเกี่ยวพันมาทำให้ผมต้องมีปากเสียงกับพี่ต๋อง ซึ่งเป็นลูกค้าประจำ และยังทำให้ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ทำตามคำสั่งของพี่ปิ๊ก...
ถ้าจำไม่ได้ผมก็ขอเล่าคร่าวๆ เลยละกันครับ
ช่วงนั้น มีลูกค้าชาวฮ่องกงมาชอบผมคนนึง คือป๋าโจว... ให้คนมารับผมไปจากร้านในวันพุธที่ปรกติ พี่ต๋อง ลูกค้าของผมจะต้องเข้ามาหาผมเป็นประจำทุกอาทิตย์....
มันคงจะไม่เกิดอะไรมากนัก หากวันนั้น พี่ต๋องไม่เข้ามาเจอผมขณะที่พี่ฟางที่เป็นคนจัดหาเด็กของป๋าโจวกำลังดึงผมออกจากร้านไปพอดี และผมก็ต้องไปหาป๋าที่โรงแรมทุกวัน เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์จนกระทั่งป๋ากลับไป พร้อมๆ กับที่พี่แดนมาบอกผมว่า ผมเป็นลูกคนใหม่ของป๋าแล้ว
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป เพราะผมเองก็เริ่มจะหางานกลางวันทำ เนื่องจากเรียนจบแล้ว เลยไม่ค่อยได้เข้าไปที่ร้าน ทำให้มีข่าวลือว่า ผมมีป๋าเลี้ยงเลยจะไม่เข้ามาอีก ก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวให้ซุบซิบกันไปใหญ่ โดยที่ผมไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยสักนิดแม้กระทั่งไอ้ชลเองก็ยังรวมอยู่ด้วย
“ไง... ลูกป๋า...” มันทักผมเป็นคำแรกเมื่อผมเข้าไปหามันก่อนเข้าไปทำงาน หลังจากหยุดไปหลายวัน
“อะไรของมึง...”
“อ้าว... ก็พี่น้อยสิ... เอามาลือสนั่นกันไปทั้งร้าน... ว่ามึงเป็นลูกคนโปรดคนใหม่ของป๋า” มันบอกผม “แถมยังบอกว่า ป๋าจะไม่ให้มึงมาทำงานแล้ว...”
ผมนั่งลงบนเตียง...หัวเราะหึๆ... “มึงก็เชื่อเหรอ ชล”
ไอ้ชลส่ายหน้า... “กูไม่ได้เชื่อหรอก มึงก็รู้ว่าปากพี่น้อยเป็นไง... แต่กูอยากฟังจากปากมึงมากกว่า”
“เดี๋ยวกูเล่าให้มึงฟัง แต่กูอยากรู้เรื่องเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว...”
“เรื่องอะไร...” ไอ้ชลทำท่างงมั่ง
“เรื่องพี่ต๋อง...” ผมบอก เพราะไอ้ชลมันก็พอรู้เรื่องลูกค้าคนนี้ของผมอยู่บ้าง...
“ก็... พุธที่แล้ว หลังจากมึงออกไป กูเห็นเค้าเข้ามานั่งไม่พูดไม่จา... สั่งเหล้ามาเปิดแจกเด็กๆ... กูยังไปกินกับเค้าเลย... แล้วพอร้านปิดก็เช็คบิลกลับไป แต่ไม่ได้เอาใครไปด้วย...”
“พี่รัตน์ว่าไง...”
“จะว่าไง... กูเห็นเดินเข้าไปพูดอยู่สองสามคำ... แล้วก็เดินออกมา หน้าตาไม่ดีเท่าไร...”
ผมเอาสองมือลูบหน้าแล้วเสยผมขึ้นไปอย่างใช้ความคิด... ‘เอาละสิ กู...’
“แล้วมึงจะเล่าให้กูฟังได้ยัง” มันหันมาถามผม
“ก็... ไม่มีไร... กูก็ทำไปตามหน้าที่...” ผมบอกมัน รู้ๆ กันอยู่ว่า “หน้าที่” ของพวกเราคืออะไร
“แต่ไอ้เดชมันบอกว่า ป๋าหลงมึงอย่างกับอะไร...”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน... คงงั้นมั๊ง...” ผมบอกอย่างไม่รู้จริงๆ “เค้าก็ให้กูอยู่กับเค้าตอนกลางคืน... ตอนเช้าก็ให้กลับ ให้เงินด้วย แล้วบอกให้กูมาตอนเย็น บางวันก็บอกให้ไปเจอที่ร้านอาหาร ร้านโน้นร้านนี้ แต่ก็ไปกันทีเป็นโขยงๆ แต่พวกนั้น พอกินข้าว กินเหล้าเสร็จก็กลับ เหลือกูคนเดียว...”
ไอ้ชลนั่งอยู่ที่โซฟาหันหน้ามาทางผม หัวเราะหึๆ “ไงล่ะมึง... เสน่ห์แรงนัก... ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ขนาดพูดกันไม่รู้เรื่องเท่าไรยังจับมึงกกไว้เกือบทั้งอาทิตย์ไม่แบ่งคนอื่นเลย... อีซิ้มนี่...”
ผมหัวเราะกับคำที่ไอ้ชลมันเรียกแทนป๋า... เข้าใจหามานะมึง
“หึงกูเหรอ...” ผมทำหน้าล้อมัน
“เออ” ไอ้ชลหน้าแดง ค้อนผมนิดนึง... ไม่บ่อยครั้งนักที่มันจะแสดงออกแบบนี้ ทำให้ผมต้องหัวเราะออกมาอีกครั้ง... ทำเอาไอ้ชลอาย... แล้วมันก็แก้อาย ด้วยการลุกจากโซฟามานั่งข้างผม... จับหน้าผมไปจูบประกบริมฝีปากแน่น...
กับไอ้ชล... ผมไม่เคยปฏิเสธมันซะด้วย... แป๊บเดียว ทั้งมันทั้งผมก็เปลือยกอดกันอยู่บนเตียง... และอีกแป๊บ Kทั้งแท่งของผมก็เข้าไปอยู่ในปากมันแล้ว... ไม่เหลือสักกระเบียด...
“อูยซซซซ ชล... มึง...สุดยอด...”
ไอ้ชลมันเหลือบตาขึ้นมามองผมนิดนึง แล้วปฏิบัติการ “ดูดK” ของผม ต่ออย่างไม่สนอกสนใจกับอาการครวญครางของผม...
ไม่ได้การ... เดี๋ยวเสร็จมัน...คาปาก... แล้วผมก็ต้องมาออกแรงเอามันอีกที... ไม่มีเวลาขนาดนั้น... ผมเลยดึงมันขึ้นมากอด...ทาบลำKของผมลงไปกับหน้าท้องของมัน “ดินน้อย”
ทักทายกับ “ชลน้อย” อย่างคุ้นเคย...
แล้วไม่นานนัก ผมก็ฝังไอ้ดินน้อย ของผมเข้าไปในตัวของไอ้ชลอีกครั้งจนได้ จากนั้น ใครมีลูกเล่นชั้นเชิงอะไรก็ถูกงัดออกมาใช้กันอย่างถึงพริกถึงขิง...
.........................................................................
สามทุ่มกว่า... เมื่อผมเข้าไปที่ร้าน ก็เจอพี่ต๋องที่กำลังเมาเหล้า เมาอารมณ์อยู่ที่นั่นพอดี... คำพูดของพี่ต๋องที่เสียดแทงความรู้สึก เป็นสิ่งที่ทำให้ผมพยายามหาทางออกจากวังวนเร็วยิ่งขึ้น
คำพูดของพี่ต๋องที่บอกว่า “หมั่นไส้... อย่ามาพูดดีไป... เรามันก็เหมือนคนอื่นๆ แหละ ใครเค้าให้เยอะกว่าก็ไปกับเค้า...ฮึ...” ปลุกแรงฮึด กับเลือดหยิ่งทระนงในตัวของผมให้แผ่ซ่าน
ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่า “ไอ้ดิน... ยังไงคนเค้าก็มองมึง เป็นเด็กขายฯ อยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าวันนี้ เค้าจะชอบมึงแค่ไหนก็ตาม ไม่มีวันที่เค้าจะลบภาพของมึงไปได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม”
ความคิดอย่างนี้ วนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้น... วันที่ผมมีเรื่องกับพี่ต๋อง แล้วขัดใจพี่ปิ๊ก ก่อนจะเดินหนีออกทางหลังร้านด้วยความเห็นใจจากพี่รัตน์
.........................................................................
หลายวันหลังจากนั้น ผมไม่เคยโผล่ไปที่ร้านอีกเลย ด้วยยังทำใจกับคำประณามหยามเหยียดจากพี่ต๋องไม่ได้ แต่คนที่ผมยังติดต่อ เหมือนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผมกับที่ร้านก็คือ... “ไอ้ชล”
ผมแวะมาหาไอ้ชลในตอนเย็นของอีกสองวันต่อมาหลังจากตระเวนสมัครงานไปทั่ว
“ที่ร้านเป็นไงบ้างวะ” ผมถามมันหลังจากทักทายถามสารทุกข์สุกดิบของมันไปแล้ว
ไอ้ชลส่ายหน้า... “บรรยากาศไม่ดีเท่าไรนัก พี่ปิ๊กหันมาออกกฎเข้มกับเด็กมากขึ้น หักเงินวุ่นวายไปหมด พี่น้อยก็เอามึงไปนินทาว่าหนีค่านายหน้า... แต่พอพี่รัตน์ได้ยิน ก็ด่ากระจาย... แล้วคาดโทษกับพี่น้อยว่า ถ้าได้ยินว่าเรียกหัวคิวกับเด็กอีกจะโดนไล่ออก...”
ผมควักกระเป๋าตังค์ออกมาเปิด หยิบแบ๊งค์ห้าร้อยส่งให้ไอ้ชลไปสองใบ “กูฝากมึงเอาไปให้พี่น้อยหน่อยสิ...”
“แต่พี่รัตน์...” ไอ้ชลมันทำท่าไม่ยอมรับ
“เออน่ะ... มันเป็นข้อตกลงระหว่างกูกับพี่น้อย... มึงก็อย่าให้พี่รัตน์รู้ดิ...”
นั่นแหละ ไอ้ชลถึงรับเงินไป ก่อนจะหันมากอดผมไว้ “ดิน... มึงไม่เหมาะที่จะเป็นเด็กขายฯ หรอก กูเชื่อว่ามึงจะไปได้ดีกว่านี้เยอะ...”
ผมมองหน้าไอ้ชลเหมือนเป็นคำถาม
“มึงดีเกินไป... ไม่มีเด็กขายฯ คนไหนเค้ารักษาคำพูดอย่างมึงหรอก... ปากกัดตีนถีบกันทั้งนั้น... แต่ละคน เขี้ยวลาก...”
ผมกอดตอบมันหลวมๆ “กูไม่ได้ดีอะไรนักหนาหรอก ชล... แต่กูไม่ชอบให้ใครเอากูไปว่าลับหลังว่าหลอกลวง... มึงจำไว้... อะไรก็ตาม แต่กูจะไม่ผิดคำพูด...”
“กูรู้...” ไอ้ชลมันพยักหน้ารับ “แล้วมึงเป็นไงบ้าง... ไม่ได้ทำงานหลายวัน... มึงมีตังค์ใช้ป่ะ...” มันถามอย่างห่วงใย
“กูพอมีเก็บอยู่บ้างละชล... ไม่ต้องห่วง... กูได้ทำงานเมื่อไรก็คงจะดีขึ้น” ตอนนั้นผมยังมีเงินเก็บอยู่พอสมควรทั้งที่ได้จากป๋าโจวมาก็ไม่น้อย...
“วันนี้มึงอยู่กะกูนะ...”
“แล้วมึงไม่ไปทำงานเหรอ...” ผมถามมันเพราะนี่ก็ทุ่มกว่าแล้ว...
“ม่ายอ่ะ... คืนนี้กูอยากอยู่กะมึง...”
“มึงไม่กลัวพี่ปิ๊กเค้าตัดเงินเหรอ...” ผมถามมันยิ้มๆ
“เดี๋ยวกูจะออกไปโทรลากับพี่รัตน์... แล้วว่าจะซื้ออะไรเข้ามากินด้วยอ่ะ มึงหิวป่ะ... อยากกินอะไรไม๊”
“ไม่หิวหรอก ซื้อมาเหอะ อะไรก็ได้ กูกินได้ทั้งนั้น
ไอ้ชลพยักหน้า “กูรักมึงนะ ดิน”
ผมตบหัวมันเบาๆ “กูรู้... เดี๋ยวคืนนี้กูให้มึงกอดทั้งคืนเลย.. ไม่ต้องมาอ้อนเป็นลูกแมวอย่างนี้หรอก... เดี๋ยวกูว่าจะอาบน้ำ... ตะเวนมาทั้งวัน เหนียวตัวชิป...”
ไอ้ชลจูบผมที่แก้มอีกที ก่อนจะเดินออกไป...
.............................................................
ตอนนั้น... ถึงผมจะค่อนข้างเปิดกับความสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย แต่ลึกๆ แล้ว พื้นฐานทางครอบครัวของผม มาจากครอบครัวคนจีนที่ป๊ากับม๊ายังหัวโบราณที่ไม่มีทางที่จะยอมรับความสัมพันธ์แบบนี้แน่นอน...
ดังนั้น ถึงความรู้สึกจริงๆ ของผมจะรู้สึกกับไอ้ชลยังไง แต่มันก็คงถูกปิดบัง และกดไว้ ด้วยสิ่งแวดล้อมรอบข้างพอสมควร ซึ่งผมเองก็คงไม่รู้ตัวหรอกครับว่าจริงๆ แล้วผมรู้สึกกับมันยังไง ผมยังคงบอกกับตัวเองว่า ไอ้ชลคือ
“เพื่อนสนิทที่รู้ใจ” เท่านั้นเอง...
........................................
แล้วเจอกันตอนหน้าครับ....