คำสารภาพของเด็กขาย ภาค "ดินกะชล" ตอนพิเศษ ถวายเพล (8 กันยายน 2015)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คำสารภาพของเด็กขาย ภาค "ดินกะชล" ตอนพิเศษ ถวายเพล (8 กันยายน 2015)  (อ่าน 429211 ครั้ง)

ออฟไลน์ Aladin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
เอามาโพสต่อครับ ตั้งใจว่าจะโพสให้จบละครับ....

ตอนที่ 57 ตัวสำรอง

 เรื่องที่ผมพลาดหวังจากการสอบเป็นนักบินนั้น ก็ยังเป็นไอ้ชล ที่คอยเป็นเพื่อน ปลอบผมว่าไม่ให้คิดมาก...

“มึงเป็นคนเก่งนะ ดิน... เพียงแต่วันนี้ยังไม่ใช่วันของมึง... แต่กูเชื่อว่า ต้องมีวันของมึงสักวัน”

ผมได้แต่ยิ้มกับมัน...

พี่ธีร์เองเสียอีก ที่ทำหน้าไม่ยินดียินร้ายกับผม... อาจจะเป็นเพราะว่า ช่วงนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ธีร์ ดูเหมือนจะไม่ค่อยสวยงามเหมือนช่วงแรกๆ อาจจะเป็นเพราะว่า ผมเริ่มโตขึ้น ทั้งความคิดความอ่าน และความเป็นตัวของตัวเอง... ผมเริ่มมีความคิดขัดแย้งกับพี่ธีร์บ่อยครั้งขึ้น... จากความไม่ตั้งใจที่จะขัดแย้ง กลายเป็นความตั้งใจ บางครั้ง ถึงกับประชดประชันขัดแย้งกับพี่ธีร์อย่างจงใจ

 จากความขัดแย้งที่สะสมนั้นก็เป็นผล ทำให้ผมคิดถึงเรื่องการแยกกันอยู่กับพี่ธีร์แต่ก็ยังไม่กล้า มันเป็นความรู้สึกสงสาร หรือผูกพันผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเราอยู่ด้วยกันมานานมากกว่าห้าปีแล้ว จนกระทั่งถึงจุดๆ นึงที่ผมคิดว่าผมควรจะมีชีวิตที่เป็นของตัวเองเต็มๆ สักที ซึ่งผมต้องมั่นใจว่า เมื่อผมออกไปแล้ว ผมต้องสามารถไปได้ไกลอย่างที่ตัวเองฝันไว้ และสถานการณ์ มันก็เริ่มขมวดให้สิ่งที่ผมคิดฝันไว้ ตั้งเค้าโครงเป็นจริงขึ้นมาลางๆ

 ผมจำได้ว่า ตอนนั้นเป็นวันกราบไหว้บรรพบุรุษของประเพณีจีน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เช็งเหม็ง น่ะครับ ซึ่งเช็งเหม็งปีนี้ ก็ไม่ต่างจากปีก่อนๆ หากมองในแง่ของบรรยากาศและสถานที่ หากแต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ

“เฮ้ย เฮีย... สบายดีเปล่า โคตรคิดถึงเฮียเลย”

ชายวัยกลางคน รูปร่างสันทัดผิวพรรณสะอาด เดินเข้ามายกมือไหว้ป๊าของผมอย่างสนิทสนม ป๊ามองอย่างงงๆ พอจำได้ก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ

“เฮ้ยเล็ก ไปไงมาไง มาจากอเมริกาเมื่อไรกัน” พ่อผมทักทายผู้มาใหม่

“มาได้อาทิตย์กว่าแล้วเฮีย มาเยี่ยมแม่ วันนี้มีโอกาสมาที่นี่ มาหาเฮียโดยเฉพาะ... แล้วนี่ใคร ลูกเฮียเหรอ”

 “เออ... ชื่อดิน... เฮ้ย...เล็ก เอ็งเอามันไปอยู่อเมริกาด้วยสักคนสิ...” ป๊าผมพูดอย่างไม่อ้อมค้อมจนผมตะลึง เคยได้ยินมาเหมือนกันว่า ป๊ามีลูกพี่ลูกน้องอยู่อเมริกา วันนี้เจอตัวเป็นๆ จนได้

 อาเล็ก มองผม ยิ้มอย่างใจดี “มันหล่อนี่หว่าเฮีย... ไง ดิน อยากไปอเมริกาไม๊”

 “ครับ อยากไปครับ”

อาหยิบเอานามบัตรใบนึงออกมาจากกระเป๋าสตางค์ ส่งให้ผม

“เอ็งไปสอบ TOEFL ให้ได้สัก 500 นะแล้วเอ็งเขียนจดหมายหาอาที่นี่” อาวงที่อยู่ในนามบัตรให้ ผมรับมาเก็บไว้อย่างดี นี่เป็นเรื่องนึง ที่ผมดีใจโดยไม่รู้เลยว่า... มันเป็นสาเหตุหนึ่งของการพัดพราก ระหว่างผมกับไอ้ชล….

 ... ตอนนั้น ผมเพิ่งเปลี่ยนงานใหม่ เข้างานตอนบ่ายสาม เลิกงานก็เกือบเที่ยงคืน กลับถึงบ้าน ก็ร่วมตีสอง เพราะต้องต่อรถเมล์หลายต่อ กว่าจะถึงบ้านพี่ธีร์

 ความที่ยังเป็นหนุ่มห้าว หลังจากเลิกงาน แทนที่ผมจะตรงกลับบ้าน ผมกลับใช้เวลาหลายวันในสัปดาห์ เถลไถลไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ ร่วมงานบ้าง หรือไม่ก็ไปหาไอ้ชลบ้าง กว่าจะกลับก็ดึก ตีสอง ตีสาม หรือ ถ้าไปหาไอ้ชลก็เช้า เก้าโมง กว่าผมจะกลับบ้าน... นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างเริ่มเปลี่ยนแปลง

 กิจวัตรในวันทำงานปกติของผมคือ ช่วงเช้าผมก็จะทำงานบ้าน ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้บ้าง พอสายๆ ก็ใช้เวลากับการออกกำลังกาย ซึ่งเครื่องออกกำลังกายที่บ้านพี่ธีร์ มีค่อนข้างครบครันในห้องหลังบ้าน จนเกือบเที่ยง ค่อยขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ลงมาทานอาหารกลางวันกับพี่ธีร์ ถ้าพี่ธีร์อยู่บ้าน ก่อนจะออกไปทำงานประมาณบ่ายโมง

 ส่วนพี่ธีร์จะออกจากบ้านไม่แน่นอน ด้วยความที่เป็นกิจการของตัวเอง บางวันพี่ธีร์ก็ทำงานอยู่กับบ้าน ซึ่งเราจะมีเวลาเจอหน้ากันเต็มๆ ในช่วงเช้านั่นเอง (แฮ่ม... การบ้าน ก็จะมาทำกันในช่วงเช้านั่นแหละครับ)

คืนหนึ่ง ผมกลับมาถึงบ้านประมาณ ตีสาม ไขกุญแจประตูเล็กที่รั้วเข้ามา ถอดรองเท้าที่ๆ วางรองเท้า ผมสังเกตุเห็นรองเท้าผ้าใบกีฬาแบบที่วัยรุ่น (สมัยนั้น) นิยมใส่วางอยู่สองคู่

“รองเท้าใคร” ผมนึกอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ขึ้นไปถึงบนห้องที่ผมนอนกับพี่ธีร์ ไขกุญแจเข้าไปก็เห็นพี่ธีร์นอนอยู่ที่ด้านหนึ่งของเตียงตามปกติ... ผมจึงเดินเข้าไปห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำ ก่อนจะมานอนที่ฝั่งด้านที่นอนประจำ

 รุ่งขึ้น ผมตื่นมาประมาณสิบโมงเช้า ลงมาข้างล่าง ก็เห็นพี่ธีร์นั่งอยู่ในห้องทำงานติดกับห้องทานข้าว กำลังคุยกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง หน้าตาค่อนข้างหล่อ ล่ำสัน สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบสอง พอเห็นผมเดินลงมาพี่ธีร์ก็หันมาทัก

“อ้าวดิน ตื่นแล้วเหรอ มานี่สิ มารู้จักกันหน่อย ตอง นี่พี่ดินนะ ดิน นี่ตอง ญาติห่างๆ ของพี่ มาเรียนหนังสืออ่ะ”

ไอ้ตอง ยกมือไหว้ผม มีแววประหม่าเล็กน้อย ผมยกมือรับไหว้ ยิ้มให้... ก่อนจะเดินไปรับประทานอาหารที่ แม่บ้านจัดไว้ให้ผม...
ทานเสร็จ ผมก็ทำกิจวัตรของผมตามปกติ คือรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกอยู่รอบๆ บ้าน ริดกิ่งต้นไม้ที่รกบ้าง... แต่ที่ไม่ปกติก็คือ มีสายตาอีกคู่จับจ้องผมอยู่ ไม่ว่าผมจะทำอะไร จนกระทั่งเสร็จ ผมก็เดินไปที่ลานหลังบ้านที่มีเครื่องออกกำลังกายวางอยู่

 ผมเล่นของผมไปตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ ตั้งแต่หน้าอก แขน ขา หน้าท้อง จนเหงื่อชุ่ม ผมก็ถอดเสื้อเหลือแต่ กางเกงบอลขาสั้นผ้าร่มที่มีซับในอยู่ในตัว อยู่เพียงตัวเดียว...

“สนใจเล่นบ้างไหมล่ะ ตอง... วันหลังมาเล่นกับพี่ดินเค้าก็ได้นะ” พี่ธีร์กับไอ้ตองมายืนดูผมเมื่อไรไม่รู้ เพราะผมนั่งซิตอัพหันหลังให้

“ครับ วันหลังต้องให้พี่ดินแนะนำบ้างครับ ผมอยากมีกล้ามอย่างพี่ดิน” ไอ้ตองพยักหน้า

“ได้ครับ วันหลังมาเล่นด้วยกัน...” ผมยิ้มให้ มีคนเล่นด้วยมันดีกว่าเล่นคนเดียวเยอะ

 พี่ธีร์บอกว่า วันนี้จะพานายตอง ไปซื้อของใช้ ผมพยักหน้า พักเหนื่อยสักครู่ ผมก็หันไปเล่นต่ออีกพักใหญ่ ก่อนจะไปอาบน้ำ แต่งตัวเตรียมตัวไปทำงาน

 ลงมาข้างล่างเกือบบ่ายโมงแล้ว แม่บ้านกำลังจัดอาหารกลางวันให้ผม (คือแม่บ้านเค้าจะรู้ครับ พอผมขึ้นไปอาบน้ำ เค้าก็จะกะเวลา เตรียมอาหารง่ายๆ แบบจานเดียวให้ผม ยกเว้นแต่ผมจะสั่งเป็นอย่างอื่น)

“ไง เดือน... วันนี้ทำอะไรให้กินอ่ะ” ผมทักทายตามปกติ

“ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าค่ะ คุณดินทานเลยนะคะ”

 “ฮื่อ...” ผมพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ... ครู่เดียว ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า หน้าตาน่าทาน ก็มาวางให้ตรงหน้า พร้อมกับเครื่องปรุง ก่อน
 จะหันไปรินน้ำจากขวดใส่แก้วมาวางข้างๆ

“คุณดิน เจอคุณตองแล้วใช่ไหมคะ”

 “ฮื่อ... น้องพี่ธีร์น่ะเหรอ” ผมถามก่อนจะตักราดหน้าที่ปรุงแล้วใส่ปาก

“คะ.. ค่ะ..” แม่บ้านตอบสะดุดนิดนึงอย่างมีพิรุธ ผิดสังเกต

“ทำไมล่ะ” ผมถามเรื่อยๆ “แล้วเค้านอนที่ไหนล่ะ”

 “ห้องเล็กข้างบนน่ะค่ะ”

ผมพยักหน้า... สงสัยนิดๆ แต่ไม่เอ่ยอะไรต่อ เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดให้คนใช้ฟัง...

คืนนั้น หลังจากทำงานเสร็จ ผมก็แวะไปหาไอ้ชลที่หอ... หลังจากออกแรงกะมันไปคนละยกแล้ว ผมก็เล่าให้มันฟังเรื่องพี่ธีร์กับไอ้ตอง

“มึงก็เลยคิดว่า เมียมึงจะมีชู้” ไอ้ชลสรุป

 ผมหัวเราะหึๆ “ที่ถูก ต้องเรียกว่า ผัวน้อยว่ะ...”

 “แล้วมึงจะทำไงต่ออ่ะ ดิน”

 “ไม่ทำไงอ่ะ กูก็อยู่ของกูไป เค้าอยากมีก็มี แต่ถ้าวันไหนเค้าไม่อยากมีกูให้รกหูรกตา กูก็ออกมาอยู่ของกู” ผมยักไหล่ ตอบอย่างไม่ยี่หระ ตอนนั้นผมเริ่มหาข้อมูล กับเตรียมตัวฟิตภาษา เพื่อเตรียมสอบ TOEFL บ้างแล้ว

“มึงอ่ะ ไม่ทำการบ้านหรือเปล่า กลับดึกๆ ดื่นๆ...” ไอ้ชลมันว่าผม

“มึงนึกเหรอว่า กูกลับดึกๆ...แล้วกูจะรอด” ผมบอกมันยิ้มๆ “ถึงกูจะกลับดึก เค้าหลับแล้วก็จริง แต่ตอนเช้า พี่เค้าก็ล้างหน้าไก่กูแทบทุกเช้า...”

 “ยังไง” ไอ้ชลมันถามอย่างอยากรู้ พร้อมกับลูบคลำท่อนKของผมอยู่ไปมา

“ก็... กูนอนตื่นมา เค้าก็ดูดของกูอยู่แล้ว... มึงจะให้กูทำไงวะ”

 “ก็มึงเสือกนอนแก้ผ้ายั่วนี่หว่า แต่ว่าไปมึงก็ชอบอยู่แล้วละว้า... ไอ้ตัวเงี่ยน” ไอ้ชลมันบีบลำท่อนที่แข็งผงกงึกๆ อยู่ในมือมัน

 ผมหัวเราะหึๆ เอามือมาจับหัวมันดันลงไปด้านล่าง... “ว่าแล้วดูดของกูอีกดิ ชล... นะครับ เมียคร๊าบ ดูดKผัวหน่อย” ผมทำเสียงอ้อน

 ไอ้ชลมันไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว มันกวาดปลายลิ้นนุ่มๆ เลียที่กระจังเงี่ยงบานๆ ตรงส่วนหัว โอบกระหวัดอย่างชำนาญ ก่อนจะอ้าปากกว้าง อมเข้าไปทั้งหัวดูดแรงๆ สองสามหนแล้วเงยหน้าขึ้นมา

“ก็ของมึง น่าดูดอ่ะ ดิน... หัวโต บานแข็ง เต็มไม้เต็มมือดี”

ผมขมิบกล้ามเนื้อให้ท่อนKผงกสู้มือไอ้ชลที่กำส่วนโคนแน่น... แอ่นสะโพกเชิญชวนมันให้ทำงานต่อ

“น่าดูด ก็ดูดดิ ชล... อูยยยย ซี๊ดดดซซซ อาซซซ ชล มึง สุดยอด” ผมครางซี๊ดปาก สะใจเมื่อไอ้ชลมันสนองตอบคำเชิญชวนของผมด้วยการอมเข้าไปในปากช้าๆ แรงดูดในปากของมัน ทำให้ลำท่อนKของผมจมลึกลงไปช้าๆ เป็นจังหวะ ทีละน้อยๆ ครู่เดียว ริมฝีปากไอ้ชลก็โอบกระหวัดรอบโคนท่อนลำเจ็ดนิ้วของผม ท่อนKขนาดซองบุหรี่แตก แถมมุกอีกหกเม็ด หายเข้าไปอยู่ในปากอุ่นๆ ของมันไม่เหลือสักกระเบียด

 ไอ้ชลมันอมKของผมอยู่ครู่ใหญ่ จึงค่อยๆ คายออกมา พอหมดมันก็ถอนหายใจเฮือก

“เฮ้อ... ดิน Kมึงใหญ่ขึ้นหรือเปล่าวะ... กูรู้สึกว่า มันใหญ่กว่าเมื่อก่อนอีกอ่ะ...”

 “มึงวัดดิ” ผมแอ่นKสู้มือไอ้ชลที่จับที่โคนจนKผมถอกออกมาแดงก่ำ เส้นเอ็นโปนแข่งกับเม็ดมุกอย่างน่าดู

 ไอ้ชล หันไปเปิดลิ้นชักหยิบสายวัดออกมา ถอกKของผมออกมาจนสุด เอาส่วนปลายแตะทาบที่โคนK แล้วทาบมาจนสุดปลายหัวบาน... “เจ็ดนิ้วหนึ่งหุน” ไอ้ชลอ่านตัวเลขที่สายวัด แล้วเอาสายวัดทาบตรงกลางลำที่เส้นเลือดโปนเป็นเส้น ตวัดให้ชนรอบ ก่อนจะเอามาดู “หกนิ้วหกหุน...” ไอ้ชลขานตัวเลขอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยออกมา “แมร่ง หัวโต... ฝังมุกอีกตะหาก กู... รับไปได้ไงวะ” มันพึมพัมเบาๆ ก่อนจะจุ๊บส่วนปลาย ที่มีน้ำใสๆ ไหลเยิ้ม...

“อาซซซ ดิน มึงโคตรเซ็กซ์เลย... เอากูเหอะ ดิน กูอยากแล้ว...”

ไอ้ชลพูดเสียงอ้อน พร้อมกับส่งประกายตาฉ่ำเยิ้มด้วยความอยาก... ผมค่อยๆ ดึงมันขึ้นมานอนข้าง ก่อนจะพลิกตัวขึ้นทาบประกบริมฝีปาก แลกลิ้นกันพักนึง ก่อนจะเลื่อนตัวลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอและยอดอกสีน้ำตาลของไอ้ชลเม้มย้ำด้วยความชำนาญ

“อูยซซซ ดิน เอากูเหอะ กูไม่ไหวแล้ว กูอยากเป็นเมียมึงแล้ว อาซซซ ดิน..” ไอ้ชลครางกระเส่าพยายามดึงตัวผมให้ขึ้นมาทาบทับ ผมหยิบหลอดเควายมาบีบครีมใสๆ ทาที่ท่อนลำจนเป็นมันปลาบ ดูเหมือนจะไม่ทันใจไอ้ชลซะเลย มันเอามือไปจับKผม เข้ามาจ่อตรงรู ผมกดกระเด้าเบาๆ จนส่วนหัวบานผลุบเข้าไปมิดเงี่ยง

“ช้าๆ เบาๆ ก่อนนะดิน Kมึงใหญ่ มันคับ...” ไอ้ชลมันร้องปรามผม แต่ก็ดึงKผมไว้ไม่ปล่อย

 ผมคาท่อนKผมไว้แค่นั้น ก่อนจะมาโจมตีที่หน้าอกมันอีกครั้ง พร้อมๆกับขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ จนไอ้ชลมันตายใจ ปล่อยมือจากท่อนK ไปโอบหลังผมแทน ผมได้ที กดทีเดียว พรวดเข้าไปทั้งลำ เม็ดมุกสะดุดปากทางมันกึกๆ จนปลายหัวบานยันติดผนังภายในจนผมรู้สึก ไอ้ชลถึงกับร้อง เอามือขยุ้มไหล่ผม

“เบาๆ ก่อนสิ ดิน... กูจุก อูยยยซี๊ดดซซซ”

ผมหัวเราะหุๆ “โดนมาหลายทีแล้วยังจุกอยู่อีกเหรอ ชล”

ไอ้ชลขมิบกล้ามเนื้อหูรูด... รัดโคนKจนผมรู้สึก ทำหน้ายู่ “อูยซซซ ชล เสียวว่ะ”

 “มึงเอาเหอะ ดิน ช้าๆ ก่อนนะ” ไอ้ชล กระซิบบอกแล้วเอามือไปลูปกล้ามเนื้อแก้มก้นสองข้างของผมที่เกร็งเป็นลูกทุกครั้งที่ผมสาวKกระเด้าเข้าไป

“อา....อา....ซี๊ดดดดซซซ ดิน” ไอ้ชลร้องครางด้วยความเสียว

“เสียวไหมชล อูยซซซ อาซซซ” ผมร้องครางบ้างเมื่อไอ้ชลมันขมิบกล้ามเนื้อหูรูดรัดท่อนKผมที่ผ่านเข้าออก

“อา...อา...ดิน แรงๆ เลย ผัวครับ แรงอีก” ไอ้ชลหลุดเรียกผมออกมาตรงๆ พร้อมกระเด้งสะโพกสวนลำKเขื่องที่รูดเข้าออก เม็ดมุกสะดุดปากทางกึกๆ สร้างความเสียวให้ไอ้ชลมันไม่น้อย... ผมเห็นมันทำหน้าเบี้ยว ขมวดคิ้ว ไม่นานมันก็กำที่ต้นแขนผมแน่น กล้ามเนื้อกระตุก น้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นทะลักพรวดออกมาจากไอ้ชลน้อยเป็นจังหวะ หลายต่อหลายครั้ง

 ผมเร่งจังหวะการซอยกระเด้า ถี่ยิบ จนกระทั่ง “อาซซซ ชล อูยซซซ กูออกแล้ว....”

ผมกระเด้าหนักๆ อีก สี่ห้าที ก่อนจะ กดKเข้าจนสุดหนอก ฉีดน้ำเข้าไปอย่างแรงหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะทาบตัวลงไปกับอกมัน หายใจหอบถี่กันทั้งคู่

“มีความสุขไหมชล...” ผมถามมันหลังจากอาการหอบถี่ของเราสองคนหายเป็นปกติ

“มาก... มึงล่ะ ดิน”

 “อือ...” ผมพยักหน้า ยอมรับว่า ไอ้ชลมันมีอิทธิพลทางด้านเซ็กซ์กับผมไม่น้อย แค่มันจับๆลูบๆ Kผมก็แข็งผงาด ไม่ยอมลงจนกว่าจะน้ำแตกกันไปคนละสองรอบเป็นอย่างน้อยทุกครั้ง...

 ................................................................

ผมขอโทษนะครับ ที่หายไปนาน ตอนแรกว่าจะเลิกละ แต่ มันคาใจ ว่าทำงานไม่เสร็จ เลยกลับมาเขียนตอนที่ยังเหลือให้จบอ่ะครับ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :m25:
หุหุ อ่านเสร็จ
น้ำแตกตามกันไป





แต่บ่ายเลยตู
 :jul1:

Soulmate

  • บุคคลทั่วไป
ทำใมพี่ชลต้องว่าพี่ดินขี้เงี่ยนด้วยอะ ทั้งๆที่....    :z1: อิอิ
นึกว่าจะไม่ได้อ่านต่อซะแล้ว

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ยินดีที่คุณดินมาต่อครับ
คิดถึง
คุณดินยังมีblogอยู่ไหมครับ
เคยเข้าได้ แต่ช่วงหลังเข้าไม่ได้แล้ว
ถ้ามี ขอความกรุณาขอblog พร้อมรหัสเข้าอีกสักตรั้งเถอะครับ
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ยินดีที่คุณดินมาต่อครับ
คิดถึง
คุณดินยังมีblogอยู่ไหมครับ
เคยเข้าได้ แต่ช่วงหลังเข้าไม่ได้แล้ว
ถ้ามี ขอความกรุณาขอblog พร้อมรหัสเข้าอีกสักตรั้งเถอะครับ
ขอบคุณครับ

ลองดูในเมล์นะครับ...

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ตอนที่ 58 ตัวสำรอง ออกลาย

ผมยังปฏิบัติตัวของผมไปตามปกติ ไปทำงานตอนบ่าย เลิกงาน ไปหาไอ้ชลบ้าง หรือกลับมาตอนตีสองตีสาม ตามแต่รถเมล์จะวิ่ง (สมัยก่อน จะมีรถเมล์ที่วิ่งตลอดคืนอยู่ไม่กี่สาย และจะวิ่งประมาณชั่วโมงละคันครับ)

สมาชิกใหม่ในบ้าน “ไอ้ตอง” ก็เริ่มไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแถวคลองประปาครับ บางวัน ไอ้ตองก็จะออกไปพร้อมกับพี่ธีร์ แต่บางวันก็จะออกไปเอง... อ้อ ผมลืมบอกไป ไอ้ตองมันจบ ปวส. มาครับ แล้วมาต่อปริญญาตรี จากการคุยกันในวันหนึ่งที่มาออกกำลังกายกับผม

เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น เพราะวิชาที่น้องเค้าเรียนอยู่และไม่ค่อยเข้าใจ ก็เป็นวิชาที่ผมเรียนเป็นวิชาเอกที่ผมถนัด บางครั้งมันก็ยังเอามาให้ผมสอนให้อยู่บ่อยๆ เหมือนกัน

เวลาผ่านไปเป็นเดือน เราสามคนอยู่ในบ้านเดียวกันอย่างปกติสุข ผมเริ่มเชื่อว่า ไอ้ตองมันเป็นญาติของพี่ธีร์ และมาพักเพื่อเรียนหนังสือของมันจริงๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง

วันนั้น ผมอยู่บ้านคนเดียว มันเป็นวันหยุดของผม พี่ธีร์กับไอ้ตองออกไปแล้ว ตั้งแต่ตอนสายๆ ผมออกกำลังกายเสร็จ ก็จัดโต๊ะทำงาน อันที่จริงมันก็ไม่ได้สกปรกอะไรหรอกครับ เพียงแต่มันมีเอกสารบางอย่างที่ผมเก็บๆ ไว้ทั้งที่ยังต้องใช้ และไม่ใช้แล้ว รวมกันอยู่ ก็เลยเลือกๆ โดยอันที่ต้องใช้ก็จัดเข้าแฟ้มเก็บเรียบร้อย ส่วนอันที่ไม่ได้ใช้ ก็เก็บรวมๆ ใส่ถุงเพื่อเอาไปทิ้งที่ถังขยะหน้าบ้าน

หลังจากที่จัดเก็บเอกสารที่ต้องใช้เสร็จเรียบร้อย ผมก็หิ้วถุงพลาสติคที่ใส่เอกสารที่ไม่ได้ใช้เดินลงไปข้างล่าง เพื่อเอาไปทิ้งถังขยะที่มุมข้างรั้วบ้าน พอเปิดฝา ผมก็ชะงักกึกเมื่อเห็นถุงอีกอันถูกทิ้งอยู่ในนั้นแล้ว

มันคงจะไม่มีอะไรแปลก หากแต่ว่า สิ่งของที่อยู่ในถุงหูหิ้วใสอันนั้น มันเด่นชัดเป็นหลักฐาน... ครับ มันคือถุงอนามัยใช้แล้ว ที่กระเปาะส่วนปลาย ยังมีของเหลวสีขาวขุ่นๆ บรรจุอยู่...

ผมกัดริมฝีปากอย่างนึกเคืองหน่อยๆ เออ... สิ่งที่ผมคิดไว้มันเป็นจริง เพียงแต่สิ่งที่พี่ธีร์กระทำ มันเหมือนกับการทรยศต่อคำพูดของตัวเองที่บอกว่ารักผมคนเดียว ผมคิด... ก่อนจะโยนถุงขยะของผมลงไปพร้อมกับปิดฝาถังสนิท

เดินขึ้นบ้าน อาบน้ำแต่งตัวออกไปหาไอ้ชลดีกว่า...

“หึงเค้าดิ...” ไอ้ชลมันถามผมยิ้มๆ เมื่อผมเล่าให้มันฟังว่าผมเห็นอะไรมา

ผมยักใหล่ “ก็ไม่เชิง... เพียงแต่กูไม่คิดว่า สิ่งที่กูพูดเล่นๆ กับมึงจะเป็นจริง”

“แล้วมึงว่าไง”

“ก็ไม่ยังไง... ดูไปก่อน” ผมตอบมัน แต่ไม่ได้บอกว่ามีบางอย่างที่ผมจะทำในระหว่างนั้น...

ตอนนั้น ผมสมัครสอบ TOEFL เอาไว้แล้ว (สมัยก่อน จะสอบ TOEFL จะต้องกรอกใบสมัคร ส่งไปที่ศูนย์ พร้อมกับ แคชเชียร์เช็ค และต้องรอตอบกลับมาพร้อมกับสนามสอบที่เราเลือกไว้) ตอนนี้ผมก็พยายามซุ่มอ่านหนังสือคู่มือสอบด้วยตัวเอง รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง

ผมทำตัวตามปกติ เหมือนไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในบ้านบ้าง เรื่องเซ็กซ์กับพี่ธีร์ ผมก็ทำไปตามปกติ เพราะส่วนใหญ่ พี่ธีร์ จะเป็นคนเริ่มก่อน เพียงแต่พักหลังเว้นระยะไป... ก็แหง๋ละ มีสำรองกินอยู่ทุกวัน แถมยังใหม่ๆ สดๆ ซะด้วย... จนกระทั่ง...

วันนั้น เป็นวันหยุดของผม และเป็นอีกวันที่พี่ธีร์ไม่อยู่บ้าน ออกไปที่ร้านตั้งแต่สายๆ แล้ว ไอ้ตองก็ไปมหาวิทยาลัย ผมอยู่บ้าน ออกกำลังกายเสร็จ อาบน้ำ ทานอาหารกลางวันที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ ก่อนจะขึ้นมานั่งอ่านหนังสือที่โซฟาในห้องนอน อ่านๆ ไปหนังตาก็เริ่มหย่อนลง ด้วยความเพลีย เพราะเมื่อคืน ผมแวะไปหาไอ้ชลมา ฟาดกับมันไปสองรอบ ก่อนจะกลับมาถึงบ้านร่วมตีสี่... (ต้องไปส่งส่วย...ไม่ได้ เดี๋ยวมันนอกใจผม... แฮ่ม)

 หลับไปพักนึง รู้สึกตัวอีกที เมื่อมีคนมาเคาะประตู

“พี่ดินครับ ผมตองเอง ผมเข้าไปได้ป่ะ”

“อือม... เข้ามาสิ ตอง” ผมส่งเสียงอนุญาต ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงพนักโซฟานอน

“พี่ดิน นอนหลับอยู่หรือเปล่าครับ” เจ้าตองถามผม เมื่อเข้ามานั่งที่โซฟาตัวเดียวกันอีกด้าน

“อืมมมม ตื่นพอดีน่ะ” ผมบอก “มีอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าหรอกครับ ผมกลับจากมหา’ลัย ไม่มีคนคุยด้วย เหงาๆ อ่ะครับ รู้ว่าพี่ดินอยู่เลยขึ้นมาหา...”

“อือ...” ผมพยักหน้า ปิดหนังสือภาษาอังกฤษที่อ่านค้างอยู่ ก่อนจะวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง

“พี่ดินขยันจังครับ ผมเห็นอ่านหนังสือตลอด” เจ้าตองชวนคุย

“ก็อ่านทบทวนน่ะ” ผมบอก แต่ความจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะยังไม่อยากบอกใครว่าเตรียมตัวไปอเมริกา

ไอ้ตอง นั่งคุยกับผมพักใหญ่ ถามโน่นถามนี่ แล้วสายตาของไอ้เด็กนั่น ก็มองไปเห็นม้วนวีดีโอที่ผมวางไว้ที่ชั้น (เป็นม้วนครับ สมัยนั้นยังไม่มี วีซีดี หรือ ดีวีดี)

“วีดีโอเรื่องไรครับ พี่ดิน” เจ้าตองถาม

ผมมองตามแล้วหัวเราะหึๆ “หนังโป๊น่ะ...”

“ผมดูได้ป่ะ...” เจ้าตองหันมาถาม ตาเป็นประกาย...

“ก็เปิดดูซิ” ผมอนุญาต เพราะเจ้าตองเอง ถึงจะเด็กกว่าผม แต่ก็ไม่ใช่เด็ก อายุยี่สิบบรรลุนิติภาวะแล้ว และถึงไม่... ผมก็ไม่ใช่จะเคร่งครัดจริยธรรมอะไรมากมาย...หุหุ

มันเป็นหนังเรท xxx เรื่อง Ibiza ที่พระเอกหนังโป๊คนดัง Rocco Siffredi เล่นเรื่องแรกๆ... พอหนังเริ่ม เจ้าตองก็ถอยมานั่งที่เดิม...

เราดูกันไปสักพัก ผมไม่รู้ว่าเจ้าตองมันรู้สึกยังไง แต่ผมน่ะ เอาหมอนอิง ปิดเป้ากางเกงบอลผ้าร่มที่ใส่อยู่ตัวเดียวเอาไว้ เพราะไอ้ดินน้อยมันผงาด ผงกหัวงึกๆ จนผมต้องเอามือล้วงไปลูบมันเล่น ส่วนเจ้าตองเอง ก็ถอยมานั่งพิงพนักโซฟาด้านหลัง ชันเข่าขึ้นมากอดไว้กับอก...

“พระเอกนั่นKใหญ่จริงๆ เลยครับ พี่ดิน” เจ้าตองพูดเบาๆ สายตาไม่ละจากหน้าจอ

“อือ...” ผมตอบ ตาดูจอ แต่มือผมล้วงเข้าไปลูบไอ้ดินน้อยอย่างปลอบโยน พั่บผ่า ถ้าไอ้ชลอยู่ตรงนี้ ผมคงไม่ต้องลูบไอ้ดินน้อย เอง... ป่านนี้คงถูกอมเข้าไปหมดแท่งแล้ว...

จู่ๆ ไอ้ตองก็หันมาถามผม... “เงี่ยนเหรอครับ พี่ดิน ผมเห็นพี่ลูบKไม่ปล่อยเลย”

“เออดิ... แมร่ง... ซี๊ดดดซซซซ” ผมอดสูดปากตามไม่ได้ เมื่อ อีสาวตัวนางในจอ อมKดุ้นใหญ่ของไอ้หนุ่ม Rocco เข้าไปครึ่งดุ้น ดูดรูดเข้ารูดออก แต่ ผมว่าลีลายังแพ้ไอ้ชลอยู่ดี...

“ให้ผมช่วยไหมครับ พี่ดิน... ให้ผมช่วย... นะครับ” อ้าว... เฮ้ย... ไอ้ตอง ไม่รอให้ผมอนุญาต จู่ๆ ก็ดึงหมอนที่ผมปิดเป้าเอาไว้ เหวี่ยงไปทางนึง ก่อนจะก้มลงจูบที่เป้ากางเกงบอลของผม ที่ไอ้ดินน้อยดันกางเกงโป่งนูนเป็นรูปเป็นท่อน

“อาซซซซ พี่ดินครับ อูยยซซซ สุดยอด ฝังมุกด้วย...” ไอ้ตองครางอย่างสะใจ เมื่อดึงกางเกงของผมหลุดไปทางปลายเท้า ด้วยความช่วยเหลือกึ่งสมยอมของผมเอง ท่อนKฝังมุกขนาดเจ็ดนิ้วของผม ผงกหัวงึกๆ

ไอ้ตองจับขาผมแยกออกแทรกตัวเข้าไป เงยหน้ามองผมด้วยแววตาหยาดเยิ้มหื่นกระหาย มือสากๆ จับKผมตั้งขึ้น ก้มลงไปไล้ลิ้นเลียเบาๆ ที่หัวถอกซึ่งมีน้ำเยิ้มอยู่ก่อนแล้ว สัมผัสของลิ้นนุ่มๆ ทำให้ผมเสียวซ่านไปทั้งตัว ความอุ่นจากโพรงปากของมันค่อยๆ โอบรอบลำKลงไปจนเกินครึ่งลำ  ดุนตวัดลิ้นมันไปมากับของเงี่ยงบานเป็นกระจัง ก่อนจะถอนปากออกใช้มือจับท่อนเนื้อถอกจนสุด เม็ดมุกโปนเป็นปุ่ม เรียงกันตามลำอย่างน่ากลัว... ไอ้ตองตาลุกวาว เหมือนได้เห็นของอร่อย แลบลิ้นโลมเลียไปรอบลำKสลับกับใช้มือถอกยาวๆ พร้อมๆ กับเงยหน้ามองผม

“ซี๊ดดดส์... ตอง อาซซซซ” ผมต้องครางออกมา ไอ้ตองไล้ลิ้นไปที่พวงไข่โดยที่มือก็ยังชักแก่นเนื้ออยู่ไม่ขาด มันทั้งเลียทั้งดูดหนังกระโปกพี่ยานห้อยจนผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“โอ้ว์... ตองครับ” ไอ้ตองดูดไข่ผมเข้าไปทั้งใบ ใช้ลิ้นตวัดเลียอย่างชำนาญ ทำสลับไปมาทั้ง 2 ข้างเหมือนกลัวไข่ข้างใดข้างหนึ่งจะน้อยใจ ก่อนจะเลียไล้ตั้งแต่พวงไข่ขึ้นมาถึงโคนเลื่อยขึ้นไป จนถึงหัวบานค่อยๆ อมมันลงไป ผงกหัวใช้ริมฝีปากรูดKขึ้นลงทั้งใช้มือถอก ปากอุ่นๆ ห่อจนกระชับลำKผม นับว่าไอ้ตองเองก็มีลีลาการอมKที่มหัศจรรย์คนหนึ่งทีเดียว

“อาซซซ พี่ดินครับ... สุดยอดK” ไอ้ตองคราง เมื่อคายปากจากKผมออกมา สองมือกดที่โคน จนKผมถอกออกมาหัวบานแดงก่ำ เส้นเลือดโปน สลับกับเม็ดมุกทั้งหกที่ผมฝังไว้ใต้หนังหุ้มรอบลำเป็นระยะๆ อย่างน่าดู...

“ชอบKพี่เหรอ ตอง” ผมถามเสียงพร่า...

“ครับพี่ดิน... Kพี่โคตรเซ็กซ์เลย... อาซซซ อืมมมม” ประโยคสุดท้ายไอ้ตองมันอมปลายอวบบานของKผมไว้ในปาก ดูดแรงจนผมต้องแอ่นสะโพกยกตามปากของมันอย่างสุดเสียว...

“อาซซซ ตอง... เอ็งดูดK สุดยอด... อาซซซ นั่นแหละ ดูดไข่พี่ด้วยสิ... อาซซซ ซี๊ดดซซซ เสียว อูยซซซ” ผมครางกำกับบท เสียงกระเส่า

ไอ้ตองดูดไข่ทั้งสองใบของผมไว้ในปาก เม้มดึงจนยานออกมา ก่อนจะปล่อยออกเสียงดังพลั๊บ... จนผมจุกน้อยๆ ครางด้วยความเสียว “อูยซซซ ซี๊ดดดซซซซ อาซซซ”

พอรู้ว่าจุดอ่อนของผมอยู่ที่ไหน ไอ้ตองก็ระดมโจมตีพวงไข่ผมไม่หยุดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะจับKผมถอกจนสุดกั่น เม็ดมุกโปนแข่งกับเส้นเลือดอย่างน่าดู...ไล้ลิ้นเลียขึ้นมาตามลำ พอถึงเม็ดมุก มันก็เอาริมฝีปากเม้ม ไล้ลิ้นเลียอย่างรัญจวน...

“อาซซซ ตองง...” ผมคราง... เสียวน่ะไม่เท่าไรหรอกครับ แต่ มันสยิวมากกว่า ที่มีคนดูดเลียเม็ดแข็งๆ ที่ฝังอยู่ใต้หนังหุ้มK “อูซซซ ซี๊ดดซซ” จากเม็ดหนึ่งไปอีกเม็ดหนึ่ง จนครบองค์ หกเม็ด ไอ้ตองก็ไล้เลียขึ้นมาถึงกระจังบาน ลิ้นทรงพลังของมันกระหวัดเลียไปตามขอบกระจังรอบๆ หัว ก่อนจะอ้าปากอมเข้าไปจนมิด... ดูดจนแก้มตอบ...

“อาซซซ ตองซี๊ดดซซว อูยซซซ เอ็ง ดูดK สุดยอด...”

นานพอดูที่ผมปล่อยให้ไอ้ตองมันดูดแท่งKของผม ซึ่งไอ้ตองมันก็พยายามอย่างยิ่งที่จะดูดKผมให้น้ำแตก แต่ไม่เป็นผล จนมันหอบน้อยๆ... คราง...

“อาซซซ พี่ดินครับ ผมอยากกินน้ำพี่ดิน ให้ผมกินน้ำพี่ดินนะครับ...” ไอ้ตองบอก ดึงผมให้พลิกตัว คล่อมหน้าอก ดูดเลียที่ไข่ผมไปถึงเส้นสองสลึงก่อนจะอมหัวบานไว้ในปาก...

ผมเอามือข้างหนึ่งเท้าไว้ที่พนักด้านหัวของไอ้ตอง มืออีกข้างกำลำท่อน รูดเบาๆ หย่อนสะโพกให้พวงไข่ของผมตรงกับปากของไอ้ตอง... ให้มันดูด

เสียง ครางจากทีวี ดังมาแต่ดูเหมือนเราสองคนจะไม่สนใจแล้ว ไอ้ตองดูดพวงไข่ของผมอย่างเมามัน เอาเป็นเอาตายขณะที่ผมรูดสาวลำKอย่างรวดเร็ว... จนพักใหญ่

“อาซซซ ตอง... อูซซซี๊ดซซซ พี่ออกแล้ว” ผมโหย่งสะโพกขึ้นมา กดปลายKให้ตรงกับปากไอ้ตองที่อ้าปากคอยอยู่ น้ำเงี่ยนระลอกแรกฉีดเข้าปากมันอย่างแม่นยำ ความแรง ทำให้กระฉอกจนออกมาเลอะมุมปาก แต่ระลอกถัดมา ไม่พลาด เพราะไอ้ตองมันเหนี่ยวสะโพกของผมให้ลงต่ำ ทำให้หัวบานอวบของKผมเข้าไปอยู่ในปากมันทั้งหัว แถมยังดูดแรงจนแก้มบุ๋มทั้งสองข้าง จนกระทั่งอาการเกร็งกระตุกของผมหมดลง

“อาซซซ ซี๊ดดดซซซซ” ผมคราง เพราะไอ้ตองมันไม่หนำใจ รีดของเหลวที่ตกค้างอยู่ในท่อใต้ลำKของผมออกมาดูดกินจนไม่เหลือสักหยด...

จนอาการเกร็งกระตุกของผมหยุดลง ผมถึงเห็นไอ้ตองมันล้วงมือลงไปในขอบกางเกงยางยืดที่ใส่อยู่ ผมเห็นมันทำท่ายุกยิกอยู่ไม่นาน มันก็เกร็งกระตุก หลับตาปี๋ ดูดKผมแรงกว่าเดิม

“อี๊อออมมมม” ไอ้ตองคายKของผมออกมา หอบน้อยๆ อย่างเหน็ดเหนื่อย...

ผมหงายตัวลงนอนหงายบ้าง  หอบหายใจเบาๆ ไอ้ตองมันยกหัวขึ้นหนุนที่โคนขาผม จูบฟอดที่พวงใข่ ไล่ละมาถึงลำท่อนที่ยังผงาดแข็งแกร่ง...

“พี่ดินครับ... พี่รู้ป่ะ... Kพี่แม่ง โคตร เซ็กซ์เลย...” ไอ้ตองกระซิบเบาๆ

“ยังไงวะ...”   

“Kใหญ่ ไข่ใหญ่ ลำตรงเชิด หัวบาน... เส้นเลือดโปน แค่นี้ ก็เซ็กซ์ฉิปหายแล้ว พี่แม่งยังไปฝังมุกอีก... สุดยอด” ไอ้ตองมันบอก... “เวลาถอกที แมร่งยังแข็งโคตรแถมเวลาเงี่ยน พี่แมร่ง ไปหมดเลยทั้งหน้าทั้งตา หื่นสัด”

ผมหัวเราะหึๆ เพราะไอ้ชลกับพี่ธีร์ก็เคยบอกอย่างนี้เหมือนกัน... มิน่าแต่ละคนถึงชอบจับKผมถอกกันจริงๆ...ทั้งไอ้ชล พี่ธีร์ แล้วนี่ก็ยังไอ้ตองอีก

“แล้วนึกไงวะ มาดูดKพี่” ผมถาม

“ก็... ผมชอบพี่... ชอบตั้งแต่วันที่ผมเห็นพี่วันแรกแล้ว...” ไอ้ตองสารภาพ “เห็นพี่นุ่งกางเกงบอล เล่นกล้าม หน้าท้องเป็นลูก เป้าตุง...ผมก็ใจสั่นแล้ว”

“วันนี้สบโอกาส ชวนกูดูหนังเอ๊กซ์ปลุกอารมณ์ แล้วดูดKกูเลย” ผมต่อให้ ไอ้ตองอาย หน้าแดง...แต่ไม่ปฎิเสธ...

“พี่อย่าบอกพี่ธีร์นะครับ” ไอ้ตองมันเงยหน้าขึ้นบอกผม แววตาอ้อนวอน

“ม่ายอ่ะ กูจะบอก...” ผมบอกมันยิ้มๆ...

“พี่ดินอ่ะ...” ไอ้ตองทำเสียงอ้อน...

“มึงต้องดูดKกูอีก สองรอบวันนี้...” ผมบอกมันเล่นๆ...

“โห... พี่... นึกว่ายาก... ดูดทุกวันยังไหว...” ไอ้ตอง เหนี่ยวKผมที่ยังผงาดแกร่งเต็มขนาดลงมาอมเข้าปากไปทั้งหัว

“เฮ่ย เอาจริงเรอะ...” ผมสะดุ้ง ตกลงมันเป็นอะไรกับพี่ธีร์วะ

ไอ้ตองพยักหน้า ทั้งที่ยังอมKผมอยู่เต็มปาก... มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ปล่อยเลยตามเลยละกัน

วันนั้น ไอ้ตองมันเอาจริง ดูดKผมจนน้ำแตกไปอีกรอบ ส่วนรอบที่สาม ไอ้ตองมันอยากลองเป็นเมียผมว่าจะเป็นยังไง ผลคือไอ้ตองกอดผมแน่น น้ำแตกกระจายเองโดยไม่ต้องชัก และคงจะมีอีกรอบแน่ๆ ถ้าไม่ได้ยินเสียงรถพี่ธีร์เข้ามาซะก่อนมันเลยต้องคายKผมออกมา ก่อนจะบอกจนผมเสียวท้องน้อย...

“ฝากไว้ก่อนเหอะ วันหลังจะดูดให้ซีดเลย...”

“อย่างกะกูกลัว” ผมบอก พร้อมกับหลิ่วตาข้างนึงให้มัน...

อันที่จริงผมก็ไม่ได้อะไรกับไอ้ตองมันมากนักหรอกครับ เพียงแต่แอบหมั่นไส้และสะใจ พี่ธีร์อยู่ลึกๆ ว่าเด็กที่พี่ธีร์คิดจะเอามาแทนผม กลายเป็นชักศึกเข้าบ้านไม่รู้ตัว...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2013 21:14:08 โดย DIN »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






เหนือฟ้ายังมีจักรวาล

  • บุคคลทั่วไป
โอยยยยเกิดอาการวิงเวียน :really2:ตามอ่านเรื่องราวของพี่ดินตั้งแต่ คำสารภาพของเด็กขาย(อดีต) จนมาถึงภาคนี้ หนูอ่านใช้เวลานานมาก  อ่านเรื่องราวของพี่ดินก็ทำให้ได้ข้อคิดอะไรเยอะเหมือนกัน และเป็นกำลังใจให้พี่ดินและจะรอติดตามอ่านเรื่องของพี่ดินต่อไปน่ะคะ ขอให้มีความสุขค่า :mc4:
ปล..แล้วตอนนี้พี่ดินได้เจอกับพี่ชลบ้างรึยังอ่ะคะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
so lusty


พละกำลัง สุดยอด



 :pighaun:

แข็งจริง แรงจริง

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
คุณดินสุดยอดดดดด
เห็นภาพตามเลย

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เหยย~~~ ตัวสำรองออกลายจริง ๆ ด้วยพี่ดิน >.<

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แวะเข้ามาบอก...

อยากอ่านต่อ

อยากกกกกกกกกก จริงงงงงงงงงงงงง


 :z2: เจอ ตัวจริง  :oo1: ตัวสำรอง
ออกลายพร้อยยยยรุย น้ำเกือบจะท่วมบ้านพี่ธีร์


คิคิ
 :hao6:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
โห พลาด! ไม่รู้ว่าพี่ดินมาเขียนต่อแล้ว ถ้ายังไงเขียนต่อยาวให้ถึงตอนไปอยู่เมืองนอกเลยนะคะ อยากอ่าน  :call:

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :m25: พี่ธีร์ชักศึกเข้าบ้านจริงๆ

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ตอนต่อไป เขียนเสร็จแล้วครับ แต่วันนี้ตาจะปิดอยู่แล้ว ยังไม่ได้ตรวจปรูฟเลย.... พรุ่งนี้ค่ำๆ จะโพสให้อ่านนะครับ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ดราม่านิดนึงนะครับ ตอนนี้... เขียนไปคิดถึงม้าไป... :m15:

..........................................................................
ตอนที่ 59 ใจน้อย น้อยใจ

ผมเข้าสอบ TOEFL เป็นครั้งแรกในเดือนถัดมา ครั้งนั้นที่สอบมี 4 Parts คือ Writing, Grammar, Reading และ Vocaburary ซึ่งผมต้องบอกว่า มันเป็นการสอบภาษาอังกฤษที่ยากมาก... โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ไปเรียนติวที่ไหนมาอย่างผม

เรื่องไปเรียนเมืองนอก ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับครอบครัวผม หลายๆ คนตื่นเต้น ยกเว้นคนๆ เดียวที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากให้ผมไปเท่าไรนัก

“ดิน...อยากไปเมืองนอกเหรอลูก” ม้าถามผมในวันนึง ที่ผมกลับบ้านแล้วคุยกัน ม้าชอบให้ผมหนุนตัก แล้วเอากิ๊บติดผมสีดำ แคะทำความสะอาดรูหูให้ผม..

“ครับม้า... ม้าว่าไงล่ะครับ”

“ก็...” ม้านิ่งไปพักนึง เหมือนจะชั่งใจ “เรียนที่เมืองไทยดีกว่าไหม”

“ไปเรียนที่โน่น ผมจะได้ภาษาด้วยไงครับ ม้า... เรียนที่เมืองไทยก็ไม่ได้ภาษา ทำงานแล้วมันไม่โตอ่ะครับ... ผมอยากทำงานให้ได้เงินเยอะๆ ม้าจะได้สบาย... ม้าไม่อยากให้ผมไปเหรอครับ”

ม้าลูบหัวผม “ม้าอยู่อย่างนี้ก็สบายนะดิน... ดินไปอเมริกา ห่างไปไกล ที่โน่นจะเป็นไงบ้างไม่รู้ ม้าคงคิดถึงดินนะ...”

“ผมไปไม่นานหรอกครับ ม้า... สองสามปี ผมก็จะกลับมา”

“จริงนะ” ม้ามีสีหน้าดีขึ้น อ้าว... ม้ากลัวผมไม่กลับมานั่นเอง

“จริงสิครับ ม้า”

“แล้วกลับมาจะพาสะใภ้แหม่มมาให้ม้าด้วยหรือเปล่าล่ะ?” ม้าถามยิ้มๆ

“กลัวพูดกันไม่รู้เรื่องเหรอครับ ม้า รับรองครับ ผมจะต้องหาสะใภ้ที่ม้าชอบมาให้ม้าให้ได้...”

“โฮ้ย... อย่ามาขึ้นอยู่กับม้าเลย ม้าจะอยู่กับดินได้นานสักเท่าไรกัน แต่คนนั้นเค้าต้องอยู่กับดินไปตลอดชีวิต ดีไม่ดี ก็อยู่ที่ดินแหละ... จะรักใครชอบใคร ม้าไม่ว่าหรอก”

“คงยากอะครับ ม้า...”

ม้าเอามือคีบจมูกผมเบาๆ... “ไอ้เรานี่น้า... เรื่องเก่าๆ ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำร้ายตัวเองทำไม” ม้าหมายถึงน้องษา แฟนผมที่เลิกลากันไปเมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่งน้องษาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมพามาบ้าน และม้าก็ยังไม่เคยเห็นผมพาใครมาบ้านอีก

“อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ลืมได้ก็ลืมไปเหอะ ดิน” ม้าเอ่ยออกมาในที่สุด

ผมนิ่ง ไม่ตอบม้า... อันที่จริง ผมก็ยังไม่ได้ลืมน้องเค้าซะทีเดียว มันยังเป็นความเจ็บอยู่ลึกๆ ประกอบกับช่วงนี้ผมมีไอ้ชลกับพี่ธีร์ ที่ดึงเวลาของผมไปจนหมดจนไม่มีเวลาไปมองหาใคร...

“แล้วชลเค้ารู้รึเปล่า ดิน... ว่าเราจะไปเมืองนอก” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมม้าถึงถาม

“ยังไม่รู้ครับ... ยังไม่ได้บอก...” ผมส่ายหน้า เพราะอะไรไม่รู้เหมือนกันที่ทำให้ผมเก็บเรื่องนี้ ไม่บอกมัน ทั้งๆ ก่อนหน้านี้ ไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวผมที่มันไม่รู้

“อ้าว... แล้วเราทำไมไม่บอกเค้าล่ะ?” ม้าถามอย่างแปลกใจ สีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย... “ระวังเค้าจะเสียใจนะ” (ตกลงว่าม้ารับเอาไอ้ชลเป็นลูกสะใภ้ไปแล้วหรือไงวะ...)

“ไว้ผมได้วีซ่าก่อนครับม้า แล้วค่อยบอก ไอ้ชลมันไม่เป็นไรหรอก...” ผมบอกส่งๆ ไป

“ชลเค้ารักดินนะ” (แบบไหนล่ะครับม้า... หุ หุ ชล... ตกลง แม่กรูรู้หรือเปล่าวะเนี่ย?)

“ครับ” ผมพยักหน้า อันนี้ผมรู้แล้ว... มันบอกผมทุกครั้งที่เจอกัน

“ดิน... เราน่ะ ปากแข็ง กระด้าง ไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึกให้ใครรู้ ไม่ว่าจะรัก ไม่รัก จะชอบ ไม่ชอบ หรือว่า เกลียด... ตั้งแต่เด็กมาแล้ว ไม่รู้ไปได้ใครมา” ม้าตำหนิผมตรงๆ “บางครั้ง เราก็ไม่จำเป็นต้องเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวหรอกนะ...”

ผมพลิกตัวตะแคงไปอีกด้านหนึ่ง เอามือกอดม้าเอาไว้... เปลี่ยนเรื่อง “ถ้าผมได้วีซ่า... วันผมไป ม้าไปส่งผมนะ..”

ม้าอึ้งไป ไม่นึกว่าผมจะเปลี่ยนมาเป็นเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ม้าไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลย “จะดีเหรอ ดินก็รู้ม้าไม่ชอบขึ้นรถ... ม้าเมารถ ไปไหนมาไหนลำบาก”

“นะครับ ม้า... ผมอยากให้ม้าไปส่ง... และวันผมกลับมา ก็อยากให้ม้าไปรับผมที่สนามบินด้วย นะครับม้า” ผมอ้อน

“ตัวโตอย่างกับอะไร ไปหาสาวมาอ้อนได้แล้ว อย่ามาอ้อนม้า...” ม้าเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง อันที่จริงม้าก็ชอบแหละ แต่ปากแข็ง...หุ หุ รู้หรือยังครับว่าผมได้นิสัยนี้มาจากใคร...

ตอนนั้น ถ้าจะถามว่า อะไรที่เป็นจุดอ่อนของผมมากที่สุด... ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของม้า... ผู้หญิงที่ผมรักเคารพเทอดทูนที่สุดในชีวิต... ไอ้ดินจะลำบากยังไง แต่ม้าต้องมาก่อน... ไม่เคยปริปากบ่นสักนิด ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน

ม้าเอง ในวัยหกสิบกว่า (ตอนนั้น) เริ่มมีอาการของต้อกระจก... ดวงตาพร่ามัวลง แต่ม้าก็ไม่บ่นให้ผมได้ยิน แต่ม้าต้องใส่แว่นหนาขึ้น หนาขึ้น... ผมและพี่ชาย จึงตัดสินใจว่า จะต้องให้ม้าผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา...

พี่ชายที่ทำงานทางด้านสาธารณสุข พยายามสืบหาว่าหมอคนไหนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการเปลี่ยนกระจกตาคนไข้ที่เป็นต้อกระจกจากหลายๆ ช่องทาง... และในที่สุดม้าก็ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ซึ่งการผ่าตัด ผ่านไปด้วยดี... แต่ม้าต้องมาตรวจติดตาม ทุกๆ เดือน

ม้าที่อยู่ต่างจังหวัด และเราก็ไม่มีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ กันเลย... ดังนั้น ที่สะดวกที่สุดก็คือม้าจะต้องเดินทางมากรุงเทพฯ ด้วยรถไฟเที่ยวเช้า ลงที่สถานีรถไฟมักกระสันประมาณเก้าโมง ผมจะไปรับที่นั่น เพื่อพาม้ามาหาหมอที่โรงพยาบาล ก่อนจะพาม้าไปส่งขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงในเที่ยวบ่ายเพื่อกลับบ้าน...วันที่ม้ามาหาหมอ ก็คือวันที่ผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อไปดูแลม้า... คอยระวังตอนขึ้น-ลงบันได ชานชาลาสถานี พาไปขึ้นรถตุ๊กๆ ที่ม้าเมาน้อยที่สุด กว่าแท๊กซี่...ก่อนจะเข้าทำงานในตอนบ่าย

สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่า ไม่ลำบาก แต่ม้าผมไม่ค่อยได้ไปไหนเพราะ ไม่ชอบคนเยอะ และชอบเมารถจึงค่อนข้างจะลำบากไม่น้อย... แต่ม้าบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก ดิน... ม้ามาได้ ไม่ลำบากหรอก” ซึ่งผมก็ได้แต่กล้ำกลืนเพราะไม่รู้จะทำให้ดีมากไปกว่านี้ได้ยังไง

สองสามครั้งแรกผ่านไปได้ด้วยดี... จนกระทั่ง...

วันนั้น เป็นวันที่ม้าจะต้องมาหาหมอ แต่ผมติดงานในช่วงเช้า ซึ่งจะต้องเคลียรงานให้เสร็จก่อนจะวิ่งไปที่สถานีรถไฟ ซึ่งจะเป็นเวลาฉิวเฉียดมาก...

“ชล... พรุ่งนี้กูติดงานตอนเช้า กูกลัวไปรับม้าไม่ทัน...” ผมบอกไอ้ชลมันวันก่อนหน้า ที่ม้าจะมา... ไอ้ชลมันรีบบอก

“เดี๋ยวกูไปรับม้าให้... มึงไม่ต้องรีบ...”

ไอ้ชลรับปากรับคำเป็นอย่างดี ซึ่งผมก็เบาใจ เพราะไอ้ชลมันรักม้าพอๆ กับผม... (แม่ย่ามันนี่...)

วันรุ่งขึ้น... ผมรีบไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะจะได้รีบเคลียร์งานให้เสร็จ ก่อนที่รถไฟของม้าจะมาถึงสถานีมักกระสัน ประมาณเก้าโมงเช้า

ประมาณแปดโมงครึ่ง ผมกำลังจะปิดงานเสร็จ... เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะผมก็ดังขึ้น

“ดิน... มึงรีบไป... รถติดมาก...กูกลัวไปไม่ทัน...”

ผมมองนาฬิกาที่ผนัง ใจหายวูบ... วางหูโทรศัพท์อย่างไม่ทันได้บอกอะไรไอ้ชล... รีบส่งงานให้หัวหน้าก่อนจะบอกลาในวันนี้ เร่งเดินออกมาที่หน้าบริษัท...

กวักมือเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่จอดอยู่แถวนั้นมาคันนึง “ไปสถานีรถไฟมักกระสันครับ ด่วนเลย” ผมบอกอย่างไม่ได้ต่อราคาก่อนจะก้าวขึ้นคล่อมซ้อนท้าย...

คนขับมอเตอร์ไซค์ พาผมซอกแซกไปตามการจราจรที่แออัดในช่วงเช้า ของถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลี้ยวเข้าสู่ถนนราชปรารภ ผ่านหน้าประตูน้ำก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเลียบทางรถไฟมักกะสัน... ตลอดทาง ผมภาวนาให้รถไฟเสียเวลา เข้ามาช้ากว่าปกติ... มองดูนาฬิกาที่ข้อมือ บอกเวลา เก้าโมงสิบนาทีแล้ว... ใจผมร้อนเหมือนไฟลน...

พอถึง ผมก็รีบควักแบงค์ร้อยให้ ไม่ได้สนใจเงินทอนด้วยซ้ำ... รีบวิ่งเข้าไปในชานชาลาสถานีรถไฟ...

ผมเห็นนายสถานีที่ถือธงแดงกับเขียวที่พันม้วนเก็บเรียบร้อย กำลังเดินสวนเข้ามา...

“พี่ครับ... รถไฟเที่ยว....... เข้ามาหรือยังครับ...”

“เข้ามาแล้ว วันนี้เข้าตรงเวลา”

ใจผมหายวูบ...รีบวิ่งออกไปที่ชานชาลา... หันซ้ายหันขวา... เห็นคนกำลังรุมล้อมอะไรอยู่ตรงม้านั่งข้างชานชาลาด้านหนึ่ง ผมวิ่งเข้าไปทันที

“ม้า...” ผมเรียกม้าอย่างตกใจ เพราะหญิงชราที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งตรงนั้น คือแม่ของผมเอง ม้านั่งถลกผ้าซิ่น ตรงหัวเข่ามีรอยถลอกเลือดไหลซิบๆ อยู่

“ม้าเป็นไรครับ ทำไม...”

“ม้าไม่เป็นอะไรหรอก ดิน...” ม้าบอก “มัวแต่มองหาดินอยู่น่ะ เลยสะดุดหกล้มนิดหน่อย”

ผมแตะแผลที่หัวเข่าของม้าอย่างเบามือ เจ็บปวดแทนม้า... ผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักและเทิดทูน... “ผมขอโทษ มาช้า” ผมบอกม้าเสียงแหบอย่างเสียใจที่สุด

“ไม่เป็นไร ดิน... ม้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย อ้าว ชลมาพอดี” ม้าบอกผม เมื่อเห็นไอ้ชลมันเดินมาที่เราอย่างเร่งรีบ

“ม้าเป็นไร... ทำไมมีเลือดอ่ะครับ” ไอ้ชลถาม หน้าซีดเผือด

“ม้าหกล้ม... มัวแต่มองหากู” ผมบอกมันเสียงขื่น “กูผิดเอง ม้าคนเดียว กูดูแลได้ไม่ดี...” ผมปาดมือผ่านตาที่น้ำตาหยดนึงไหลออกมาอย่างแค้นใจ บอกไม่ถูกว่าตอนนั้นผมโกรธใคร โกรธตัวเอง โกรธไอ้ชล หรือโกรธคนทั้งโลก... ผมรู้แต่ว่า ผมกำลังพาล...

“กูขอโทษ ดิน... กูมาไม่ทัน” ไอ้ชลพูดเสียงสั่น หน้าที่เผือดอยู่แล้ว ซีดจ๋อยลงไปอีก เมื่อเห็นน้ำตาผม นัยน์ตามันเริ่มมีน้ำเอ่อขึ้นมาขังที่ขอบตา มันเองก็รักม้า ไม่น้อยไปกว่าผมหรอก

“ไม่เอาน่า ดิน ม้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ไปเหอะ ไปโรงพยาบาลกัน เดี๋ยวจะสาย” ม้าเตือนผม...

เรานั่งรถสามล้อ ตุ๊กตุ๊ก (ซึ่งเป็นรถประเภทเดียวในกรุงเทพที่ม้าสามารถนั่งได้โดยไม่มีอาการวิงเวียนศีรษะ) ไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจติดตามอาการของม้าซึ่งผ่านไปด้วยดี เราไปรับยา แล้วพาม้าไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อขึ้นรถกลับบ้าน ที่ต้องมาขึ้นที่นี่ เพราะม้าจะได้มีที่นั่ง เพราะม้าเคยเล่าว่าต้องยืนไปเกือบถึงบ้านถ้าไปขึ้นที่สถานีรถไฟมักกะสัน ซึ่งเป็นเวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงเลย ทั้งๆ ที่ ไอ้รถไฟสายนี้มันต้องผ่าน สถาบันดัง สถาบันนึง แถบชานเมืองและมีนักศึกษาใช้บริการกันเต็ม แต่นักศึกษาอนาคตของชาติ มันก็ไม่ลุกให้ม้าที่อายุ หกสิบกว่าแล้ว (ในตอนนั้น) นั่ง...

ตลอดวันนั้น ผมนิ่งเงียบ สมองคิดถึงภาพสะเทือนใจ คือม้าที่นั่งอยู่ที่สถานีรถไฟมักกะสัน หัวเข่าแตก มีเลือดไหลซิบๆ ผมทำใจไม่ได้กับภาพที่เห็น... ทั้งวันผมปล่อยให้ไอ้ชลมันดูแลม้า พาม้าไปหาหมอ รับยา พาไปเข้าห้องน้ำ พาไปทานข้าว ซื้อข้าวมาให้ม้ากิน จนกระทั่งส่งม้ากับผมขึ้นรถตุ๊กๆ หน้าโรงพยาบาล ผมแยกไปส่งม้าไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ส่วนไอ้ชลแยกกลับหอก่อน ตลอดเวลา ผมก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับไอ้ชลสักคำ...

...................................................

ฝันดีนะครับ แฟนคลับ คนอ่านของผม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :L1:

สองมือน้อย คอยอุ้ม หุ้มด้วยรัก
สองมือชัก จูงมือ ให้เดินไหว
สองมือนี้ แน่แท้ แกว่งเปลไกว
สองมือใคร อบอุ่น เท่าแม่เรา

ยามจะนอน ลูกร้อน พัดวีให้
ยามเป็นไข้ ป้อนยา กล่อมหายเหงา
ยามเป็นทุกข์ ปลุกปลอบ ให้บางเบา
ยามลูกเศร้า ผ่อนให้หาย สบายใจ



แม่..ผู้หญิงหนึ่งเดียวในโลก
 :กอด1: I love you..mom

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
น้ำตาคลอเลยพี่
เข้าใจความรู้สึกนะ

....
ฝันดีนะคะ

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :กอด1: :3123:

เป็นความรู้สึกที่อธิบายยาก

ขอบคุณมากจริงๆที่พี่มาต่อเรื่องนี้ค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดีใจที่คุณดินกลับมาต่อเรื่องนี้

เหนือฟ้ายังมีจักรวาล

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
ดีใจที่พี่ดินมาต่อ รอค่ะรอออ  :katai2-1:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6

Mdeemini

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดันๆ

 :sad11:ดีใจจนน้ำตาจะไหลลลๆ

เพิ่งเห็นว่าพี่ดินมาต่อ

จะรอตอนต่อไปน่ะคับ!!

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
พี่ดินจ๋า หายไปไหนคะ รอๆๆอยู่นะคะ :3123:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด