“โห้ยแม่อ่ะ!”
ผมหน้างอคอตกเดินเข้าห้องตัวเอง โดนแม่หยิก แม่บ่นไม่พอ ยังโดนให้เอาเงินเก็บคืนจินถังด้วย ก็จินถังเป็นคนยอมซื้อให้ผมเอง ผมผิดตรงไหน? กระปุกหมูน้อยถูกทุบพร้อมเศษเหรียญมากมายหล่นกระจาย บัญชีเล่มเดียวที่มีอยู่บ่งบอกถึงยอดการออมของผมแต่ละเดือน ช่างน่าเศร้าที่ผมกำลังจะเหลือแต่ตัวแล้ว ผมรวบทุกอย่างไว้ในถุงผ้าใบเดียวหลังนับเงินเหรียญที่ออมไว้ ยังขาดอีก ห้าพันสามร้อยบาทถ้วน ค่อยทยอยจ่ายจินถังล่ะกัน แม่นะแม่ ไม่ฟังกันเลย ฮือๆ
ระหว่างทางผมบังเอิญเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทะเลาะกับผู้ชายคนหนึ่ง ผมเลยรีบหลบหลังป้ายโฆษณา เรื่องผัวๆเมียๆ อย่าไปยุ่งเลยครับแต่สอดแหนมได้
‘เลวที่สุด ตอนเอาทำไมมึงไม่คิด พอท้องขึ้นมามึงบอกให้ไปทำแท้งนี่นะ’โอวไม่! เลวจริงๆนั้นแหละ ไมผู้ชายมันเหี้ยแบบนี้วะ อุ้ยโทษๆผมเองก็ผู้ชาย
‘อ้าว อย่าให้กูพูดนะ มึงเองก็แรดใช่ย่อย ที่กูบอกให้ไปทำแท้ง เพราะกูมันใจไงว่ามันไม่ใช่ลูกกู’โอว โนว! อ้าวเจ้แรดเองหรอนี่ งั้นก็สมแหละที่โดนเขาปฏิเสธนะ
‘เออ จำไว้กูได้ดีเมื่อไรจะตามมาล้างแค้นมึง’โอว พิษรัก...มักแรงฤทธิ์เสมอ ไม่น่าเลยคนเรา ก็อย่างที่เขาว่าล่ะครับ ความรักบางครั้งก็ไม่จบลงสวยงามเสมอไป หลังสองคนนั้นแยกย้ายกันไปทางใครทางมัน ผมค่อยๆเดินจากการหลบหลังป้ายโฆษณา จะว่าไปแล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นก็หน้าคุ้นๆนะแต่จำไม่ได้นะ ช่างเถอะ ตอนนี้แวะไปหาของกินก่อนแล้วกัน หิวครับ..
“อ่ะ แม่ให้มาคืน”ผมยื่นถุงขนมและถุงเงินที่เก็บออมไว้ให้ร่างสูงเมื่อเข้าเดินมาเปิดประตู
“อ้าว มาได้ไง?”เขาเชิญให้ผมเข้ามา ห้องโคตรเรียบร้อยแหะ
“แหม ก็โพสที่อยู่หน้าวอลขนาดนั้น ใครมันจะไม่รู้ล่ะครับ”
“โห ตั้งแต่เทอมหนึ่งแล้ว นี่อย่าบอกนะว่าแอบส่องเฟสแฟน?”ผมเบ้ปากมั่นไส้ นี่ก็ยังไม่เลิกแทนตัวเองว่าแฟนอีก ผมไม่ใช่เมียมันแล้ว แม่ห้ามอ้อนมันอีก เออใช่ นึกออกแล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นมันแฟนจินถังนี่น่า แอบเห็นว่าเขาเคยคบกันแปปเดียวแล้วก็เลิก เลิกแหละดีแล้วจินถัง
“แม่ให้มาคืนนะ แม่บอกว่าไปหลอกเอาเงินคนอื่นได้ไงเลยสั่งให้เอาเงินเก็บมาจ่ายคืน ขาดอีก 5,300 บาทนะ เดี่ยวจะทยอยจ่าย”ผมยื่นเงินที่มีอยู่อย่างจำใจ ลาก่อนนะเงินออม
“เห้ยได้ไง บอกว่าซื้อให้ก็ซื้อให้สิ ไม่ต้องคืนเงินหรอก เต็มใจให้จริงๆ”
“แน่นะ’ผมเผลอยิ้มชั่วร้ายในใจแต่ไม่ล่ะ เดี่ยวแม่ด่าอีก
“จริง”
“ไม่อ่ะ แม่บ่นหูชาแน่ จินเอาเงินไปเถอะนะ นี่ขนมไข่นกกระทาร้านโปรด เราชอบกินนะเลยเดินมาหาเอง จะว่าไปเราก็อยู่ใกล้กัน
แค่ซอยเดียวเนอะ!”
“อื้มใช่ แต่แปลก ไม่เคยเจอกันเลย”
“นั้นสิ”ทั้งผมและจินถังต่างยิ้มให้กัน เห็นจินถังวุ่นอยู่กับพอยส์ฟรีเซนส์งานอย่างที่เขาบอกจริงๆผมเลยว่าจะขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน
“ไปไหนอ่ะ?”เขายังไม่ละจากคอมแต่กลับถามผม เมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้นจะกลับ
“กลับบ้านสิ ไม่กวนดีกว่า”
“เห้ยไม่กวนเลย อยู่เป็นเพื่อนก่อนนะ อยู่คนเดียวมันเบื่อๆ นี่งานก็ใกล้เสร็จล่ะ?”อ้อ แบบนี้ค่อยน่าอยู่หน่อย เพราะร่างสูงรั้งให้อยู่ผมเลยทั้งเล่นเกม ดูทีวี และกวาดขนมในห้องจินถังเรียบ หลังดูรายการทีวีคนเดียวไปเรื่อยก็ย่างเข้าสู่ชั่วโมงที่ 3 แล้วที่ผมแวะมาห้องนี้ ไหนจินถังว่าแค่แปปเดียวก็จะเสร็จล่ะ นี่อะไรนานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่เสร็จอีก
ผมหันไปเตรียมจะต่อว่าแต่พอเห็นร่างสูงที่เหนื่อยล้าหลับสนิทอยู่เลยไม่กล้ากวน ปล่อยให้จินถังนอนก่อนดีกว่าแล้วเดี่ยวค่อยปลุก ผมค่อยๆเลื่อนตัวทั้งที่นอนล้มเตียงเข้าไปใกล้ๆร่างสูงที่นอนหลับสนิทจมคางาน แพขนตางอนนั้นช่างน่าหลงใหลจริงๆ อยากรู้จังว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนแบบไหนนะ แต่ยังไงก็ขอบคุณในความใจดีของเขาที่มีให้ผมวันนี้ คนปกติที่ไหนจะซื้อมือถือให้คนที่เจอกันแค่ไม่ถึงวัน
พริบ ดวงตากลมโตลืมตาตื่นมานั้นทำให้ผมตกใจ จินถังตื่นมาเห็นผมมองเขาเต็มๆ คราวนี้จะหาขอแก้ตัวอะไรอีกล่ะนี่
“.....”เราต่างสบตากันและกัน ผมใจเต้นรัวเมื่อร่างสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้และจูบหน้าผากแผ่วเบาและอ่อนโยน อะไรกันนี่พวกเราทำอะไรกันอยู่ ผมรีบลุกขึ้นนั่งดูทีวีต่ออย่างเขินอาย เห็นร่างสูงเดินเข้ามานั่งข้างกายแล้วใจเต้นแปลกๆ
“หิวไหม ไปหาอะไรกินกัน?”เสียงกระซิบนั้นช่างอ่อยเหลือเกิน
“อื้ม”ผมพยักหน้าให้มือเราทั้งคู่ยังจับกันไว้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องเขินอายขนาดนี้ด้วย เราต่างเป็นผู้ชายกันทั้งคู่แต่ทำไม
ผมหวั่นไหวกับเขาได้มากขนาดนี้นะ ร่างสูงลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าผมเลยขอตัวออกไปริมระเบียง ใจมันเต้นตุบตับๆจนคุมไม่อยู่แล้ว แต่พอออกมาข้างหลังห้องแล้ว ผมยิ่งฉีกยิ้มกว้าง วิวบนห้องจินถังน่าดูมาก เห็นรอบๆตัวเมืองเลย สุดยอด
“เป็นอะไรไปนะ เห็นยืนนานแล้ว”จินถังเดินเข้ามาทักเรียกสติผม
“จิน มันสวยนะ ยิ่งท้องฟ้าจะลับขอบฟ้าแบบนี้ยิ่งสวย ชอบ!”เหมือนเขาจะชินไปแล้วกับบรรยากาศแบบนี้ ผมเห็นมือถือในมือเขาเลยขอให้เขาถ่าย
“ถ่ายรูปหน่อยๆ”ผมอ้อน ร่างสูงเองก็ไม่ได้ว่าอะไรกดเลื่อนเปิดกล้องเพื่อกดถ่าย แต่ไม่ล่ะ ไม่เอาดีกว่า
“เปลี่ยนใจล่ะ เซลฟี่ดีกว่า”ผมอ้อยกลับไปครับ พี่สาวแฝดของผมสอนเสมอว่า ‘ใครอ่อยมาเราอ้อยกลับจะได้ไม่นกครับ’
“นับละนะ 1 2 3”จุบ แชะ ผมเขย่งเท้าจูบแก้มร่างสูงคืนบ้างเมื่อเขาเองยังกล้าจูบหน้าผากผมเลย ร่างสูงกอดเอวผมไว้แล้วระดุมจูบผมแทน เราหยอกล้อกันสักพักก่อนจะถ่ายรูปด้วยกันต่อ
JinTanG: #เมียขี้อ้อย (ภาพที่ผมจุบแก้มจินถัง)
Fish-fish: #แฟนขี้อ่อย (ภาพที่จินถังถอดเสื้อโชว์) ผมแอบถ่ายไว้ทัน หุหุ
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา แฮกแท็ก เมียขี้อ้อยและแฟนขี้อ่อย ก็กลายเป็นแฮกแท็กของเราสองคน ผมมีความสุขดีที่ได้รู้จักกับผู้ชายที่ชื่อจินถัง คนที่มีสไตล์การชอบเพลงแนวเดียวกับผม เราไม่จำเป็นต้องรักกันมากเราก็แค่ค่อยๆรักกันก็ได้แม้แฟนๆของเราจะจิ้นให้เรารักกันมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ตาม แต่ผมว่าเท่าที่เป็นอยู่เราก็สนิทกันดีแล้วนะ
ฟุบ! น้ำแดงเย็นลอยเข้ามากลางโต๊ะที่ผมและเพื่อนๆนั่ง นี่มันยัยพี่ผู้หญิงคนวันนั้นนี่น่า คนที่เคยเป็นแฟนจินถัง
“มีความสุขมากสินะ รู้ไว้ด้วยว่าผู้ชายที่นายควงเป็นคู่จงคู่จิ้นอะไรนั้นนะคือพ่อของลูกฉัน!”อ้าว ยัยป้านี่วันนั้นยังให้พี่ผู้ชายเลวๆคนนั้นรับผิดชอบเป็นพ่ออยู่เลย วันนี้มากล่าวหาว่าจินถังเป็นพ่อของลูกอีก
“อ่ะนี่เจ้ จินถังอยู่ในสายพอดี ไปเคลียร์กับเขาเองนะ”ผมชูให้จินถังได้เห็นอดีตแฟนสาวที่มาอาลาวาดใส่ผมแถมยังมาพูดจามั่วสั่วอีก โชคดีที่เราวิดีโอคอลพอดี ร่างสูงจะได้เห็นตำตาด้วยว่าอดีตแฟนของเขาเป็นคนยังไง
(ผมว่าผมเคลียร์กับพี่รู้เรื่องแล้วนะครับ เด็กในท้องไม่มีทางเป็นลูกของผมแน่นอน พี่ก็รู้คำตอบดีแก่ใจ) อ่าหะ ตามนั้นนะเจ้
กรี้ดดดดด เสียงเปรตโหยหวนดังจนทุกคนในลานอาหารต่างมองเจ้แกเป็นตาเดียวหลังโดนจินถังปฏิเสธอีกครั้ง ประสาทล่ะคนเขาไม่ยอมรับแล้วยังจะมาพาลใส่ผม จะมาหวังอะไรจากผมกันล่ะ ผมกับจินถังเราแค่คู่จิ้นนะ ไม่ใช่แฟนกันสักหน่อย อีกอย่างผมรู้อยู่แล้วว่าเจ้แกท้องและกำลังหาพ่อของลูกอยู่ เสียใจด้วยนะเจ้ ไปหาผู้สถานีต่อไปครับ
(ฟิช โอเคหรือเปล่า พี่เปรี้ยวไปหรือยัง?)จินถังถามผมอย่างห่วงใย มันดีที่เราสนิทกันและเป็นห่วงกันเร็วขนาดนี้
“ไปแล้ว แต่พี่แกเถอะ บ้า”ร่างสูงยิ้มหวาน ก็จริงยัยพี่เปรี้ยวนะ บ้าแหละ วิ่งตามหาผัวไม่เลิกทั้งที่ตัวเองมีผัวเป็นสิบๆ
(ขอโทษนะ ขอโทษแทนจริงๆ แล้วเสื้อเลอะนะ จะเข้าเรียนยังไง?)
“ไม่เป็นไร มีเสื้อสำรองไว้ในรถ เจอกันเย็นนี้นะจะได้ซ้อมเพลงแสดงเพลงละครเวทีอีกด้วยนะ”
(ครับเมีย)
"อื้มแฟน..." เหอะ นานแล้วนะที่ไม่ได้ยิน หลังๆมาพวกเรามักจะแทนชื่อเล่นของอีกคนเวลาเรียก แต่เวลาหยอกล้อ อัพสเตตัสเท่านั้นที่จะแทนเมีย กับ แฟน
“ไหนลองขึ้นเพลงสิจิน?”ผมวางโน้ตเพลงไว้เมื่อปริ้นต์เตรียมพร้อมทั้งเจ็ดเพลง จินวางขนมว่างกลางโต๊ะพร้อมวอร์มร้องเพลง เราสองคนเลือกละครเพลงเพื่อใช้ในการแสดงคู่ของเราสองคนในงานคู่จิ้นชวนฟินที่จะเกิดขึ้นในอีกเดือนข้างหน้า ตอนแรกการแสดงจะเริ่มในอีกอาทิตย์หน้าแต่เพราะพี่วันไนท์ได้รับอุบัติเหตุแขนหักเลยทำให้ต้องเลื่อนไปอีกสามอาทิตย์กว่าพี่วันไนท์จะหายดี สำหรับเนื้อเรื่องของเราสองคน สื่อถึงความรักขององค์ชายสามที่แสดงโดยจินถัง และชอว์ที่แสดงโดยผม
ผมเป็นแค่สามัญชนธรรมดาที่บังเอิญรักองค์ชายสามแต่เรากรักกันไม่ได้เพราะต่างชนชั้น เราเลยมักจะแอบมาพบเจอกันทุกวัน แต่ละวันที่เจอเรามักจะร้องเพลงหนึ่งเพลง จนวันที่เก้าผมมาพบองค์ชายสามไม่ได้เพราะอาการป่วยที่มี องค์ชายสามตรอมใจตายในเย็นวันนั้นและตัวผมเองก็ตายตามองค์ชาย เรื่องจบได้แบบโซแซดมาก เกลียดคนเขียนบทจริงๆ
“โอเค จะเริ่มละนะ ลา ลา ลา ลา”
“ไม่ใช่คีย์นี่สักหน่อยจิน ต้องคีย์นี้ ลา ลา ลา ลา”
“แต่จินว่าจินร้องถูกแล้วนะ”
“จิน!!”ผมตีแขนเขาป้าบ รายนี้ชอบแกล้งผมตลอดที่มีโอกาส ตัวเองร้องผิดคีย์ทุกที ซ้อมทีไรมีเพี้ยนทุกทีแล้ววันแสดงจริงจะได้เรื่องไหม
“โอเคๆ เอาจริงๆแล้วนะ”
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร มาดลจิตมาดลใจ เสน่หา
รักนี่จริงจากใจหรือเปล่า หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา
หรือใกล้เพียงแต่แลตา ยั่วอุรา ให้หลง ลำพอง
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้างรอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้างรอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
เสียงปรบมือดังสนั่นทั่วฮอลล์ หลังผมกับจินถังร้องเพลงเป็นเพลงสุดท้าย จากนั้นทุกคนก็ต่างสลดน้ำตานองไหลพรากเมื่อตอนจบของละครเพลงครั้งนี้องค์ชายสามและชอว์ต่างตายจากกันโดยที่ไม่ได้บอกลากัน
“จิน นี่มันอะไรหรอ?”หลังการแสดงจบลงไปได้สองอาทิตย์ ผลตอบรับและกระแสมากมายดังใหญ่ ผมและจินถังมีความ
สุขกันดีแต่วันนี้ดูเหมือนความสุขที่มีกำลังจะเลือนหายไป ผมตกใจกับตัวอักษรบนกระดาษซองใหญ่ คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดนะ จินถังกำลังจะไปเรียนต่างประเทศ
“ฟิช จินต้องไปเรียนต่อสหรัฐฯนะ จริงๆจินอยากเรียนด้านศัลยแพทย์นะเลยหาทุนรอระหว่างเรียน วันก่อนจดหมายทุนเพิ่งส่งตอบรับกลับมาจากมหาลัยที่นั้น”ผมแทบอึ้งเมื่อสิ่งที่สงสัยในกระดาษขาวที่ถืออยู่ได้รับความยืนยัน จินถังกำลังจะไปเรียนต่างประเทศอย่างที่ผมสงสัยจริงๆ ร่างสูงเองก็ดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยที่ผมเห็นซองจดหมายเรียกตัวเขาให้มาเรียนฟรีที่นี่
“แล้ว แล้วจะไปเมื่อไรหรอ?”
“ก็หลังจากงานแจกลายเซ็นนะ หลังมีตจบก็ขึ้นเครื่องเลย”ก็อีกไม่กี่อาทิตย์แล้วสินะ จินถังเองก็คงรู้สึกใจหายเหมือนกับผมไม่ใช่น้อยหรอก ไม่งั้นสองวันมานี่เขาคงไม่เงียบกังวลแน่
“แฟนดูมีอนาคตเนอะ”หลังเงียบนานผมโพล่งบอกร่างสูง ไม่ได้นึกเสียใจเลยที่จินถังจะต้องไปเรียนต่างประเทศ ก็ความฝันของเราแต่ละคนต่างกัน ผมก็เข้าใจและฉีกยิ้มกว้างให้กำลังใจและสนับสนุนความฝันของร่างสูง
“แล้วทำไมอ่ะ?”
“ก็เปล่า แค่..แค่ฝากเลี้ยงดูเมียตลอดชีวิตนะ”ร่างสูงยิ้มออกได้เมื่อผมพูดติดตลก จริงๆผมไม่ตลกเลย นับจากนี้ไม่กี่อาทิตย์ผมจะใช้ทุกๆวันเพื่ออยู่กับจินถังให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ร่างสูงเข้ามากอดผมไว้อย่างขอบคุณ เรายืนดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าของวันไปด้วยกัน
“จินเป็นไงบ้างวันนี้ เรียนสนุกหรือเปล่า?”ผมวิดีโอคอลทักทายจินถังอย่างตื่นเต้น วันนี้เป็นวันแรกที่แฟนของผมได้เรียนศัลยแพทย์อย่างที่เขาใฝ่ฝัน
(แหมเมียจ๋า ตื่นเต้นยิ่งกว่าแฟนอีกนะ) ผมยิ้มกว้างอายเก้อเลย แฟนก็งี้แหละพอไม่อยู่ใกล้แล้วชอบแขวะ พออยู่ด้วยกันแล้วชอบอ่อย ชอบแตะอังตัวผมบ่อย
“ก็ตื่นเต้นแทนไง ตกลงเป็นไงบ้าง สบายดีนะ?”อยู่ๆก็คิดถึง เริ่มเข้าสู่โหมตดราม่าซะงั้น
(อ้าว หน้าหงอยซะงั้น จินสบายดี เรียนวันแรกก็ดีครับ คิดถึงไหม?)
“ยังจะถามอีก คิดถึงสิ คิดถึงมากด้วย”พอเห็นหน้าคนที่เคยนอนจับมือมองตาก่อนนอนแล้วยิ่งอยากร้องไห้ เราอยู่กันคนละซีกโลกขนาดนี้
“ไปหาได้ไหม?”ผมนี่ก็พูดเป็นการ์ตูนนะ พรุ่งนี้ก็เริ่มสอบซัมเมอร์แล้วยังจะมาม่าทำให้จินถังลำบากใจอีก
(ให้กลับไปหาไหมล่ะ?)ผมส่ายหัวแทนคำตอบ
“ไม่เอา เสียการเรียน เปลืองค่าเครื่องด้วย ไม่รู้แล้วอยากร้องไห้ คิดถึง!”จินถังที่มองผมเผลอยิ้มให้กำลังใจก่อนจะส่งจุบผ่านหน้าจอเล็ก เราไกลกันขนาดนี้ร่างสูงจะลืมผมแล้วมีใครใหม่หรือเปล่านะ
(ฟิช) ผมสบตามองร่างสูงที่เรียกผมไว้
(สอบซัมเมอร์เสร็จแล้ว บินมาเยี่ยมจินด้วยนะ ส่งตั๋วไว้ที่แม่แล้ว ขออนุญาตแม่แล้วด้วย กลับบ้านไปก็อย่าลืมเก็บกระเป๋ารอนะ) คำบอกเล่าของจินถังทำให้ยิ้มกว้างตื่นตัน
“จริงๆนะจิน จริงๆนะ อื้อออ แฟนฟิชน่ารักที่สุดเล้ยยยยยยยย รักจินที่สุดนะ!”
(ครับ คิดถึงเมียนะ จุบ!!) งอว์ แฟนดีเป็นศรีแก่ตัวครับ..
--- The end ---