[เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560  (อ่าน 8323 ครั้ง)

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คู่นี้น่ารักวุ้ย..ยยยยยยย   :o8:

ออฟไลน์ ม่อน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทีมพี่ปิ้กสายเปย์

ทีมปีเตอร์แพน

คิคิ น่ารักกกกทั้้งสองคุ่เลย

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักทุกคู่เลยครับ แต่ชอบคู่ เตอร์-แพนมากที่สุด


ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง
ดีใจที่ทุกคนชอบนะคะ ฝากติดตามทุกคู่ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง
                                     คู่จิ้น3 ไทม์-ไลน์

"คุณครับๆ ขอถ่ายรูปหน่อย?"

ผมถือกล้องเล็งเป้าหมายที่เอาแต่ถ่ายรูปคนอื่นอยู่นาน ร่างสูงบางหันมาตามเสียงเรียกของผมพร้อมกับกล้องตัวโปรดที่ไม่ห่างไปจากสายตาที่โฟกัสไว้

"นับนะครับ 1 2 3" แชะๆๆ


เราต่างถ่ายรูปกันและกัน โดยภาพที่ได้ เราทั้งคู่เห็นเพียงแค่ครึ่งหน้าเท่านั้นเพราะอีกข้างมีกล้องที่แต่ละคนเอาแต่โฟกัสไม่ยอมเอาออกห่างจากใบหน้าเลย

หลังจากนั้นผมก็เดินจากไปตามเส้นขอบน้ำทะเลไปเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทีก็ตอน เปิดรูปเพื่อดู


ตึกตักๆ


ผมว่าผมรู้สึกอยากรู้จักเขาคนนั้น..


ผมว่าผมตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว..


รัก..ทั้งที่มองไม่เห็นหน้าเต็มของเขาเลย


แต่พอเดินกลับไปที่เดิมที่เขายืนเมื่อกี้ปรากฏว่าเขาหายไปแล้ว หัวใจผมสลายแล้ว...

แต่ผมไม่ท้อแค่นี้หรอก ผมเชื่อในปาฏิหาริย์ของความรัก เชื่อว่าสักวันเราคงจะได้พบกันอีกครั้งแน่..


หลังจากนั้นผมจึงกลับไปตามหาเขาคนนั้นจากโลกโซเชียวทุกช่องทาง

"#ประกาศตามหาผู้ชายคนนี้ครับ ผมรู้จักเขาเพราะขอเขาถ่ายรูป ยังไม่ทันเห็นหน้าจริงๆของเขาเลย มารู้ตัวอีก
ทีเขาก็จากไปแล้ว ใครพบเจอหรือรู้จักเขา โปรดติดต่อมาด้วยนะครับ ผมว่า ผมตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว'

ไทม์ ช่างภาพสุดหล่อ โพสต์ลงเพจ ท่องเที่ยวทั่วไทย สบายใจรักษ์ไทย..

ผมโพสต์เสร็จแล้ว มีคนมาแชร์และคอมเม้นมากมาย ซึ่งนั้นเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากๆ

Nan nantiya :: เห้ย น่ารักอ่ะพี่ ขอให้เจอพี่คนในรูปไวๆนะคะ

เฟื้องฟ้า อำนวยกิจ:: คุ้นๆน่ะไม่รู้ว่าใช่แกไหมต้น Ton tannakit dee.

V veenus rattacha :: อนุภาพรักนี้ช่างยิ่งใหญ่จัง ขอให้หากันจนเจอนะคะ..

พิษณุ สายเสมอ:: น่ารักครับ ขอให้หากันจนเจอนะครับ ขอแชร์ให้หากันเจอกันอีกแรงน้า

แรไร ไรแร :: ขอให้เจอกันนะคะพี่

Sud sawaddee :: โหพี่..สุดยอดเลย! เจอกันเร็วนะ ผมแชร์ให้แล้วนะ สู้ๆ

เพียง'ออ ::ไฟติ้งค่ะ!!

Jame kitti :: หล่อเลยพี่ สู้ๆครับ!!

ผมอ่านคอมเม้นมากมายที่ทุกคนตั้งใจให้กำลังใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววที่จะหาเขาคนนั้นเจอเลย และนี่ก็ร่วม 2 วันแล้ว แต่ผมก็ยังหาเขาไม่เจอ..


"อ้าวเฮ้ยยยย" เพล้ง!

กล้องที่อีกฝ่ายถือมานั้นร่วงหล่นแตกกระจัดกระจาย ผมยืนถือกล้องตัวเองไว้แน่นกลัวจะตกไปอีก ร่างสูงบางยืนค้างท่าที่จะรองรับกล้องแต่กลับรับไม่ทันกล้องร่วงลงไปก่อนผมค่อยๆเข้าไปสะกิดจิ้มๆตัวเขาเบาๆ

"โอะ กล้อง กล้อง กล้อง"ร่างสูงบางกระพริบตาถี่ๆ แต่แบบรู้สึกตัวช้าไปไหม?

"เออ คือ เราทำพังเอง เราจ่ายให้คืนก็ได้น่ะ!"เห็นหน้าอึ้งนิ่งแล้ว

 ไม่รู้ผมจะกลัวตัวเองที่เผลอชนทำของๆคนอื่นแตก หรือกลัวคนตรงหน้าดี!

"มันแตกแล้ว ของพ่อเราซื้อให้ด้วย"อ้าว ซวยแล้วไงตรู

 ร่างสูงบางค่อยๆก้มลงไปเก็บเศษกล้องมารวบไว้ที่เดียวกันผมเลยช่วยเขาด้วย

 
"นี่ ขอโทษ ไม่ทันดูคนนะเมื่อกี้เลยชน เลยทำกล้องพัง"

"ฮึก ฮึก หือๆๆT^T"เอาแล้วไง ผู้ชายอะไรวะ ร้องไห้กับเรื่องแค่นี้..

"ของขวัญของพ่อ ของขวัญก่อนพ่อจะ ตาย ฮือๆๆๆ"พี่ไทม์ซวยแล้วววววว!!!

หลังพยายามช่วยผู้ชายขี้แยเก็บกวาดเศษกล้องของเขาจนครบแทบจะเกือบหมดแม้แต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยนั้น

ร่างสูงก็ไม่เอาเรื่องผมแต่อย่างใด บอกจะจ่ายซ่อมให้ จะซื้อใหม่ก็ไม่ยอม ผมเลยได้แต่ยืนมองเขาจากไปด้วยความรู้สึกผิด

ทั้งๆที่ควรจะดีใจแต่ผมกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลยเพราะกล้องตัวนี้ของผมก็เป็นรางวัลที่พ่อซื้อไว้ให้ในวันที่ผมสอบเข้ามหาลัย 4 ปีที่ผมพกติดตัวตลอดเวลา เลยเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เขาคนนั้นก็คงจะเป็นเช่นกัน!!


"เฮ้ย!"โครม!!~

ระหว่างทางจะเลี้ยวรถกลับ รถคันนึงที่ถอยรถมานั้นถูกผมชนเข้าอย่างจัง เสียงกรี้ดตกใจมาจากคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ ผมรีบลงไปตรวจดูคู่กรณีเผื่อเขาเป็นอะไรไป

"อ้าวคุณ!!"ทั้งผมและเขาต่างมองหน้าตกใจด้วยกัน เจอกันอีกแล้ว ครั้งก่อนที่เจอ กล้องเขาเสียหาย

ครั้งนี่เจอกันอีก รถเขาถูกผมชนกระแทกเข้าจนได้ แต่ผมไม่คนผิดนะครั้งนี้


"เออ คือ ขอโทษนะครับ ผมเพิ่งจะหัดขับรถ คุณโอเคนะครับ?"ในเมื่อเขาเอง ก็ยอมรับผิด ผมก็ไม่เอาเรื่องอยู่แล้ว...

"แล้วรถคุณเป็นอะไรไหมครับ ขอโทษจริงๆ?"
ผมเหลือบหันไปเห็นรถตัวเองที่มี รอยถลอกเพราะกระแทกกันเล็กน้อย ถือว่าเจ๋าก็แล้วกันครั้งก่อนเขาไม่ยอมให้ผมจ่ายค่าซ่อมครั้งนี้ทั้งรถผมรถเขาก็ เสียหายกันทั้งคู่

"อ้อ เล็กน้อยครับ ไม่เป็นไร รถคุณเองก็เสียหายนะครับ?"ผมบอกร่างสูงที่ยังคงอยู่ในรถคุยกับผมผ่านกระจกรถ

"ครับ ถ้าอย่างงั้นผมขอตัวนะครับ?"ดูเหมือนเขาจะรีบผมเลยจำต้องถอยออกห่าง ปล่อยเขาจากไปอีกครั้ง หวังว่า
ถ้าเจอกันอีก เราคงจะเจอกันแบบดีๆนะ



"นั้นมันเขาคนนั้นนี่!"

ผมยืนมองร่างบางที่คุ้นตาเมื่อเข้ามาสู่ลานอาหาร วันนี้ผมตื่นสายไปหน่อย การหาอะไรกินในมอ.ก็ถือเป็นมื้อที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดแล้ว

ร่างสูงบางกำลังยืนสั่งน้ำผลไม้ปั่น ผมกำลังจะ เดินไปสั่งน้ำปั่นเช่นกัน แต่สองเท้ากลับหยุดนิ่ง ไม่กล้าเข้าไปยืนใกล้กลัวว่าเราทั้งคู่จะได้รับความเสียหายอะไรอีก

ผมยืนจนกระทั้งร่างสูงโปร่งสั่งเสร็จแล้วเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยวต่อ ผมเลยเดินเข้าไปสั่งน้ำปั่นแล้วเดินไปสั่งข้าว เห็นร่างโปร่งเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกลางลานอาหาร


"สวัสดีครับ ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ พอดีโต๊ะเต็มหมดแล้ว"ผมเดินเข้าไปนั่งโต๊ะของเขาอย่างหน้าด้านๆ ร่างโปร่งหันไป
มองรอบข้างพลางยิ้มหวาน


"ครับ เจอกันอีกแล้ว"

"และก็หวังว่าคราวนี้เราคงจะไม่ทำอะไรแตกอีก"ทั้งผมและเขาต่างหัวเราะกัน มันจริงที่เวลาเราเจอกันแล้วมันต้องมีเหตุการณ์ให้มีอะไรแตกหักตลอด


"แล้วรถคุณเป็นไงบ้างครับ?"เขายังใจดีถาม เราต่างก็ยังคิดถึงกันและกันสินะ

"อ้อ เข้าอู๋เรียบร้อย ของคุณล่ะครับ ทั้งรถ ทั้งกล้อง เป็นไงบ้าง?"

"ก็เข้าอู๋ตรวจซ่อมเหมือนกันครับ แต่กล้องเอาเข้าตู้โชว์ที่บ้านแล้ว เสียดาย" ยิ่งเขาพูดผมยิ่งรู้สึกผิด

"เออ ขอโทษอีกครั้งนะครับ"

"ไม่เป็นไรจริงๆครับ ผมมากกว่าที่ซุ่มซ่าม เอะอะนิดเอะอะหน่อย มีอันต้องชนนะครับ >< คุณสั่งอะไรหรือยังครับ?"

"ครับสั่งแล้ว"เราคุยกันไม่นาน อาหารที่สั่งก็เสร็จ เราทั้งสองจึงลุกขึ้นไปเอา

"แปลกดีนะครับ ที่เรามานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้?"

"นั้นนะสิครับ แปลกๆมาก อยู่มาสามปี เราไม่ยักจะได้คุยกันทั้งที่เจอกันบ่อย?"

"ใช่ ผมก็พอรู้จักคุณนะแต่ไม่เคยมีโอกาสได้คุยกันเลย สามปีเราคงเดินผ่าน ไปมาหลายรอบแล้วแน่เลย"น่ารักครับ

 เวลาคนตรงหน้ายิ้มทำไมหัวใจผมเต้นแรง ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กรสจืดถูกคาบกิน ผมหันกลับมามองจานตัวเองแล้ว

ข้าวผัดพริกทะเล แดงจ๊าบไปด้วยพริก หลายชนิดบ่งบอกถึงรสชาติเผ็ดจัดจ้านที่ผมชอบ ผมตักคำโตกินบ้างเมื่อเห็นว่า

คนตรงหน้ากินก๋วยเตี๋ยว เงยหน้ามาอีกทีก็พบหน้าสวยๆ ทำหน้าระคนสงสัย


"คุณชอบกินเผ็ดหรือครับ ดูท่าน่าจะเผ็ด"เขาดูดน้ำแตงโมปั่นที่สั่งแก้คอแห้ง


"ครับชอบ ชอบกินเผ็ดมาก ผมเป็นคนกินรสจัดนะครับ คุณคงไม่"ดูจากก๋วยเตี๋ยวแล้วเดาได้เลยว่าคนตรงหน้าไม่กินเผ็ดแน่ ร่างบางยิ้มรับทันที


"กินเสร็จแล้วไปไหนต่อไหมครับ?"ผมถามขึ้นระหว่างเรากินข้าวต่อ

"อ้อ จริงๆบ่ายโมงวันนี้มีถ่ายรูปฟรีแว้ดดิ้งครับ แต่กล้องพังผมเลยโทรยืมกล้องเพื่อนนะครับ นี่ก็ว่ากินเสร็จแล้วจะไป
เอากล้องมันครับ?"

"งั้นเดี่ยวผมไปส่งนะ?"ผมรียอาสาทันที ถือเป็นการขอโทษเขานัยๆ อย่างน้อยก็ ได้ทำอะไรเพื่อไถ่ความรู้สึกผิดก็ว่าได้

"ไปส่ง ไปส่งไหนครับ ส่งหอเพื่อนหรือส่งที่ทำงาน?"คนตรงหน้าถามยิ้มกว้าง ผมอดที่จะยิ้มด้วย เราสองคนต่างมอง หน้ากัน


"ไปทุกที่เลย ให้ไปหรือเปล่าครับ?"ร่างบางอมยิ้มน้อยๆ แก้เขินด้วยการเขี่ยก๋วยเตี๋ยวเล่น น่ารักครับ





"คุณเลี้ยวรถเข้าซอยขวานี่เลยครับ เพื่อนผมรออยู่หน้าหอมันเลยครับ นั้นนะครับ ตรงนั้นเลย"ผมมองคนที่นั่งข้าง
กายชี้เพื่อนตัวเองให้ผมดูเพื่อขับรถไปจอด เพื่อนเขายืนรอถือกล้องให้เขาอยู่


 "พีท รอนานไหม?"ร่างโปร่งรีบลงไปหาเพื่อนรวดเร็ว ผมไม่ค่อยชอบขี้หน้าไอ้เพื่อนเขาสักเท่าไร ไอ้พีท คู่อริผมเอง เราเขม่งหน้ากันตั้งแต่ปี1 ล่ะ!!

"ไม่ล่ะ เพิ่งมายืนเอง มึงเหอะ เป็นไงมาไงกับไอ้นี่ว่ะ?"อ้าวสัสพีท กวนตีนล่ะ ผมแค่ออกมายืนเฉยๆก็โดน
จ้องหยามหน้ากัน

"อ้อ เพิ่งรู้จักกันนะ ขอบใจสำหรับไอ้นี่นะ ใช้งานเสร็จจะคืนให้นะ ไปล่ะ"

"อื้ม ระวังตัวด้วยล่ะ ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องสนิทกับไอ้นั้นมาก"ผมจ้องมองไอ้พีทไม่วางตาพอๆกับมัน ร่างบางถืออุปกรณ์ในขึ้นรถ
ก่อนผมจะขึ้นตาม


"ไอ้นั้นเพื่อนหรอ?"


"อื้ม พีท เพื่อนสนิทเราเอง คุณกับพีทไม่ชอบหน้ากันหรอ?"เห็นร่างบางถามผมเลยอดแปลกใจ รู้ด้วยหรอ

"รู้ด้วย??"

"ก็ไม่เชิงรู้ แต่พีทก็เรียกคุณไอ้นั้น คุณเองก็เรียกพีทว่าไอ้นั้น คงจะชอบหน้ากันมากเลยนะครับ"เห็นร่างบางยิ้ม เหมือนเรื่องสนุกที่ผมกับไอ้พีทไม่ชอบหน้ากัน บอกเลยกับไอ้พีท ผมไม่มีวันนับเป็นเพื่อนแน่นอน...

"ไปสวน แวดดิ้งพาร์ค นะครับ ซ้ายเลยๆ"ผมวนรถเข้าซ้ายมืออย่างที่เขาบอกรอ เพียงไม่นานเครื่องมืออุปกรณ์ก็เตรียม พร้อม เจ้าบ่าว-เจ้าสาว แต่งตัวเรียบร้อย ออกมาถ่าย ผมนั่งรอดูเขาถ่ายรูปเงียบๆ มีบ้างที่เผลอหยิบเอากล้องตัวเองมาถ่าย เวลาที่ร่างบางทำงานมันดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ


"คุณรอนานไหมครับ จริงๆคุณกลับก่อน ก็ได้น่ะผมกลับเองได้?"

"ไม่ครับ สนุกดี อีกอย่างก็อยากจะถ่ายรูปบ้างแล้วสิ เห็นคุณถ่ายรูปเลยคันไม้คนมืออยากถ่าย เย็นนี้ไปหามุมถ่ายรูปกันนะครับ?"ผมเอยชวนเขาไปถ่ายรูปด้วยกัน มีอยู่มุมหนึ่งที่ผมอยากไปถ่ายเอามากๆ เคยไปครั้งหนึ่งตอนเพื่อนขับรถเล่น แต่ตอนนั้นผมลืมพกกล้องไป แต่วันนี้รู้สึกอยากไปแล้ว

"อื้ม..ก็ได้ครับ แต่คุณรออีกหน่อยนะครับ อีกเซตเดียวก็จบงานครับ"ผมพยัก หน้ายิ้มรอได้ นานแค่ไหนก็รอได้ ขอแค่ ไปทันพระอาทิตย์ตกก็พอ ผมมองดูร่าง บางทำงานไปเรื่อยๆจนงานเสร็จ


"ครับ ในส่วนของรูปภาพ ผมจะส่งไฟล์ และรูปแต่งทุกอย่างตามที่กำหนดนะครับ ถ้าไม่พอใจหรือจะเปลี่ยนอะไร บอกผมได้ตลอดเวลานะครับ ขอบคุณที่วันนี้เหนื่อยกันมาด้วยกันนะครับ"

"ยินดีมากๆเลย งานไลน์ดีอยู่แล้ว ไม่งั้นยีนส์คงไม่เจาะจงเอาตากล้องเป็นนายแน่ล่ะครับ"ว่าที่เจ้าบ่าวเป็นคนตอบแทนเจ้าสาวที่ดูจะเขินๆ อะไรว่ะรอยยิ้มแบบนั้น รอยยิ้มเหมือนเจ้าสาวชอบตากล้องแต่เจ้าบ่าวไม่หึงหวงนี่นะ

เป็นผมหน่อยไม่ได้มีอันต้องต่อยแล้ว


"ยินดีเสมอครับพี่น้อคยังไงก็แสดงความยินดีอีกครั้งกับการแต่งงานนะครับ"แหม ร่ำลากันยาวเหยียดเหลือเกิน เหอะ!

"คุณ..ไปกันเถอะครับ ผมเสร็จงานแล้ว"

"ครับ"ผมช่วยร่างบางถืออุปกรณ์กล้อง ขึ้นรถก่อนจะตระเวนออกไปยังสถานที่ที่ผมอยากมา


"จะไปถ่ายที่ไหนหรือครับ ไกลไหม พอดีผมหิวแล้ว?"ร่างบางพูดขึ้น นั้นทำให้ผมฉุดคิดได้

"อ้อ จริงด้วยผมลืมไปซะสนิทเลย เดี่ยว แวะซื้อขนมกันก่อนก็ได้นะครับหรือคุณ หิวข้าว ผมจะได้แวะซื้อ?"

"หิวข้าวครับ ตอนเที่ยงกินก๋วยเตี๋ยวไปไม่อิ่มท้องเท่าไร?"อ้อ ผมรับรู้ ปล่อยให้เขาลงไปซื้อขนมส่วนผมก็ลงไปซื้อข้าวแกงมาให้..เราสองคนกลับเข้ารถอีกครั้งเพื่อเริ่มออกเดินทาง

"เสบียงพร้อม รถพร้อม คนพร้อม ลุยเลย!"ผมมองร่างบางที่หยุดซื้อลูกชิ้นติดมือมาตอนไหนก็ไม่รู้กัดกินอย่างหิวโหย


"อ่ะ อ้าปากสิครับ"มือเรียวยื่นลูกชิ้นไม้หนึ่งจ่อปากผมที่กำลังขับรถ ผมอ้าปากอย่างว่าง่าย เราคุยกันเรื่องการถ่ายภาพและเทคนิคต่างๆที่ชอบใช้

ไปๆมาๆเรา กลับคุยกันถูกคอยิ่งกว่าเดิม อาจเพราะ เรามีรสนิยมที่เหมือนกันด้วยมั้ง เลยคุย กันได้ ผมขับรถเรื่อยๆจนมาที่หมายอย่างที่หวังไว้สักท ท้องทะเลกว้างกับท้องฟ้าที่พระอาทิตย์กำลังทอแสงอ่อนๆ

ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว ยังพอมีเวลาถ่ายรูป ลมแรงที่กระทบจนตัวเย็นโอน

ผมมอง ร่างบางที่มาด้วยสูดออกซิเจนเข้าปอดด้วยรอยยิ้ม


"โอ้ย สวยมากเลยคุณ ทำไมไม่เคยรู้เลยว่าห่างออกไปจากมอ.20 กว่ากิโล จะมีทะเลสวยอย่างนี้ ผมชอบทะเล"

ร่างโปร่งอ้าแขนรับแดด รับลม มีความสุข ผมหยิบเอากล้องตัวเองขึ้นมาพลางเดิน ตามถ่ายเจ้าตัวข้างหน้า


"คุณๆ ผมอยากได้รูปบนนั้นน่ะ เห็นทะเล ท้องฟ้างาม คงสวยน่าดู"่ร่างบางชวน ขึ้นสะพานไปถ่าย ผมเองก็ตั้งใจจะมาถ่ายตรงนี้อยู่แล้ว เราสองคนเดินขึ้นสะพานที่ยาวเหยียด ผมถ่ายรูปร่างบางไปเรื่อย คนตรงหน้าเองก็โพสท่าไม่หยุด..



แชะ แชะ แชะ!!!


ทุกรูปภาพบันทึกไว้เป็นความทรงจำ ผมไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าที่ติดจะนิ่ง เงียบเก็บตัว จะมีรอยยิ้มหวาน ชอบคุย ชอบกินและแตกต่างไปจากที่ผมเคยจินตนาการมาก่อน เขาไม่หยิ่งเลยสักนิด ออกจะสนิทด้วยง่ายอีกด้วย


ร่างบางขยับเข้ามาหาดูรูปในกล้องที่ผม เปิดให้เขาดู ดูไปยิ้มไปจนตัวเราเริ่มจะ ชิดจมูกชนกันแล้ว


"รูปนี้สวยนะคุณ"หน้าสวยยิ้มหันมามอผมจนแก้มนุ่มฝั่งจมูกผมเข้าอย่างจัง เราสองคนรีบถอยห่างออกจากกัน


"เอ่อ เอ่อ เดี่ยวผมถ่ายรูปให้คุณด้วยดีกว่า มาครับ?"เจ้าตัวรีบแย่งกล้องจาก
มือผมไปถ่าย ผมชิดกับการถ่ายคนอื่นมากกว่า ให้มาเป็นนายแบบเองแล้ว มันแปลกๆ


"คุณโพสต์ท่าหล่อๆนะ เร็วๆแหละเดี่ยวแสงอาทิตย์หมดพอดี"ผมทำตามเขาบอกอย่างว่าง่าย พระอาทิตย์กลับจะทยอยตกฟ้าแล้ว ร่างบางชวนผมไปถ่ายในทะเลด้วยกัน ถ่ายไปจนแสงอาทิตย์ดับลง ผู้คนมากมายที่แวะมาพักผ่อนก่อนหน้านี้ทยอยกลับกันทีละคน ผมและเขาเลย ทยอยกลับบ้าง


"วันนี้สนุกมากๆเลยนะ ขอบคุณอีกครั้งนะคุณ"

"อื้ม สนุกเหมือนกัน ไว้ถ้ามีโอกาสคงจะได้สนุกกันอีกนะ"ทั้งผมและเขา เราต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของกันและกันเราสองก็แค่มีช่วงเวลาหนึ่งที่ชีวิตได้พบกันและก็จากกันไป จนมาถึงวันนี้


"เอาล่ะครับต่อไปก็ต้องแสดงความยินดีกับพี่ไทม์ กาลวิน ทานทอง ปี4 นวัตกรรมฯครับ"

เสียงประกาศดังขึ้นผมเดินถือกล้องขึ้นมาอย่างสุภาพ และก็ต้องแปลกใจเมื่อชื่อของคนที่ถูกคัดเลือกคนถัดไปเป็น เขาคนนั้น คนที่เราต่างห่างหายกันไปนาน

"พี่ไลน์ ภาสกร ยุทธนา ปี4 ประวัติศาสตร์ครับ!!"หนุ่มยิ้มหวานรีบวิ่งขึ้นมาบนเวทีพร้อมเสียงตบมือสนั่น ผมเองก็ยิ้มเมื่อมองเขาตลอดทุกย่างก้าว

"ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ"เขาทักผม"ไง!"ผมพูดไม่ออกเลย มือนุ่มขยับเข้า
จับมือผมจนผมต้องก้มลงมอง ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เขาจับมือผมด้วย ผมเลยบีบมือเขากลับ เราต่างยิ้มให้กัน

"คุณ มานั่งนี่เลยๆ!"

ร่างบางดูจะตื่นเต้นไม่น้อยที่เราเจอกัน มีการเว้นที่นั่งเรียกให้ผมนั่งข้างกายด้วย ผมไม่รี่รอรีบไปนั่งด้วยกันเลย น้องบลูสกายได้อธิบายกติกาให้พวกเราได้ฟัง พร้อมบอกให้ พรุ่งนี้พวกเราต้องมาถ่ายรูปโปสเตอร์โปรโมท ทุกคนต่างแยกย้ายกลับ

"นี่คุณ พรุ่งนี้มารับผมได้ไหม?"ร่างบางพูดขึ้นระหว่างที่เราเดินออกมาจากห้องโถงใหญ่เป็นคนเกือบสุดท้าย

"ได้สิ หอเดิมใช่ไหม จะได้ไปรับ?"จริงๆก็แวะเวียนไปแอบดูคนๆนี้หน้าซอยเขาบ่อยแต่ไม่กล้าเข้าไปทัก มันไม่กล้า

"ครับ ที่เดิม ผมก็อยู่ที่เดิมไม่ได้หายไปไหน?"เอะ ร่างบางกำลังจะสื่ออะไรผมหรือเปล่า?

"ว่าแต่คุณมีเรียนต่อไหม?"ผมหันมาถามเขา มันแค่แบบ เราต้องจากกันอีกแล้วหรอ เพิ่งจะได้เจอกันเอง

"ไม่ครับ ไม่มี เราจะไปถ่ายรูปด้วยกันต่อไหม คิดถึงวันนั้นมากเลย""ครับ แน่นอนอยู่แล้ว ผมมีที่ที่อยากถ่าย กับคุณหลายที่เลย
ไปกันเลยไหม?"


"อื้อ ไป ไปครับไป โอ๊ะ!"เพราะมัวแต่ดีใจจนลืมดูทางออก คนข้างกายผมเลยเดินชนกระจกประตูเข้า ให้ตายสิครับ อะไรจะโกะขนาดนี้


"โอ โอเคไหมครับ?"ผมแอบขำกับตัวเอง ความโกะของเขามีอยู่ตลอดเลยใช่ไหม

"เจ็บ! คุณน่ะทำไมไม่บอกว่าประตูมันปิดอยู่ล่ะ?"อ้าว ผมผิดซะงั้น

"โอเคๆ ผมผิดก็ผิด เจ็บมากไหมครับนี่?"

"อื้อ เปล่าหรอกครับ เรียกร้องความสนใจเฉยๆ"หือออ มีงี้ด้วย ร่างบางฉีกยิ้ม กว้างจับหน้าผากคลายอาการระบม ผมเอื้อมไปกอดไหล่เขา ขยับตัวเขาเข้าใกล้ตัว

"ใกล้กัน อุ่นใจเนาะ ว่าไหม?"

ผมแอบอมยิ้มเมื่อมือหนาชิดผมเข้าใกล้ตัว เราออกไปเที่ยวเล่น ถ่ายรูปกันตามที่ใจต้องการ


Rrrrrrrrrn

ระหว่างที่กำลังถ่ายรูปเพื่อนผมดันโทรมาตาม จริงๆแล้วผมมีเรียน แต่โดดสักคาบคงไม่เป็นไรหรอก

(ไอ้คุณไลน์ ต้องให้โทรมาตามหรือครับถึงจะเสด็จมาเรียนได้?)แหม เพื่อน ก็พูดให้เกียรติ์เกินไป

"ปืน ลาคาบนี้ให้หน่อยนะ วันนี้ขอโดด"

โดดคาบเดียวเอง เพื่อคนของหัวใจ ไลน์ขอสักวัน!


(เออ กูลาน่ะได้ แต่หาข้อแก้ตัวกับป้าคุณไลน์เองล่ะกันนะครับ วันนี้ป้าคุณไลน์มาสอนแทน) เอาแล้วไง ซวยแล้ว อาจารย์อนุวัฒน์จะมาลาอะไรเอาเวลานี้ ช่างๆเถอะค่อยหาโอกาสแก้ตัวกับป้าก่อนที่ป้าจะฟ้องแม่ก็แล้วกัน

"อื้มๆ ได้ๆ"แล้วเพื่อนปืนก็วางสายไป

"ใครโทรมาหรือครับ?"คนที่กำลังเช็ดกล้องเงยหน้าขึ้นมาถามผม เพราะเราอยู่
ไกลกันนิด เขาเลยไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูดกับเพื่อน

"เพื่อนครับ โทรมาชวนไปดื่ม แต่ผมไม่ไปนะครับ"แหม แอคติ้งของผมคงผ่านนะครับ ร่างอวบมีน้ำมีนวลกว่าผมจ้อง มองเขม่ง

"เพื่อน เพื่อนไหนครับ ไอ้พีทหรือเปล่า?"
ชอบจัง สายตาที่จ้องจับผิดนั้น เหมือนแฟนหึงกลัวแฟนตัวเองจะมีกิ้กยังไงอย่างนั้นแหละ


"เปล่าครับคนนี้ชื่อปืน ไม่เชื่อก็ดูเอาเองเลย"ผมขยับตัวเข้าใกล้พร้อมยื่นหน้าจอ มือถือให้เขาดูว่าคนที่โทรมาคือปืนจริงๆ

"ก็ช่างเถอะ มาถ่ายรูปกันต่อดีกว่า" ชีสสส ทีแบบนี้ล่ะยิ้มออกเชียว!!

ผมกับเขาเริ่มถ่ายรูปกันอีกครั้ง วันนี้เรา แวะมาถ่ายแถวสวนสาธารณะ บรรยากาศยามเย็นดีมากๆ เราแวะกินข้าว เที่ยวเล่นอีกหน่อย ก่อนจะจบด้วยการแวะมาร้านของน้อง โซดาหลังมอ. หลังดื่มกันจนเมาพอตัว เขาก็ขับรถส่งผมพากลับมาที่หอ.. สุภาพบุรุษจริงๆ


"พรุ่งนี้จะมารับนะครับ ฝันดี!!"




**หายไปนาน ไม่สบาย ขอโทษนะคะ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ ม่อน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไทม์ไลน์น่ารัก
รักแบบละมุนค่าชอบบบบ
รอค่ะต่อๆๆ

ออฟไลน์ ม่อน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักกกกทั้งสามคุ่เลยค่าา
มาต่อเร้วน่าค่าา

ออฟไลน์ ม่อน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง
6 โมง 30 นาทีของเช้าวันใหม่

"สวัสดีครับคุณยืนรอนานไหม?"เพราะนัดกันเมื่อวานว่าจะมาด้วยกัน ผมเลยรีบแต่งตัวมายืนรอหน้าหอแต่เช้า เขาถามขึ้นอย่างนุ่มนวล

"ไม่ครับ เพิ่งมาเอง"มารอแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ผมรีบขึ้นรถแต่โดยดี

"ไปหาอะไรกินกันนะครับ หิวแล้ว ข้าวต้มกุ้ยหน้า 5 แยก เขาว่าอร่อย ลองไปกินกันไหมครับ?"อ่อยขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาไม่รู้ก็ซึนมากแล้วล่ะ

"อร่อยครับ อร่อยจริง ผมเคยไปกินมาแล้ว!"เคยกินมาแล้ว กับใครล่ะ?ผมจ้องมองเขาอย่างอยากรู้

"ไปกับเพื่อนครับ ไอ้นนท์พาไป คืนนั้นทำธีสีสจนเช้าเราเลยออกมาหาอะไรกินก่อนนอนครับ!"ผมแถไปมองทางข้างนอกทั้งๆที่ปากฉีกยิ้มกว้างพอใจ

"เอิ่ม ผมอัดรูปมาให้แล้วนะครับ อยู่ในถุงใบเล็กเบาะหลัง คุณหยิบดูได้เลย"ผมรีบเอียงตัวไปหาถุงที่ใส่รูป ร่างอวบที่ ขับรถอยู่มองทางตลอด

"ถุงไหนหรือครับ หาไม่เจอเลย?"ผมถามเพราะหาไปก็หาไม่เจอ

"ถึงสีเขียวครับ เจอไหม?? ผมใส่ไว้ในถุงใบผ้าอีกทีนะครับ"ก็อะไรมันจะลึกลับซับซ้อนขนาดนี้ล่ะ ผมหยิบเอาถุงผ้ามาไว้ข้างตัวพร้อมเปิด หาถุงสีเขียว แล้วก็เจอจริงๆด้วย

"ค่อยเปิดดูก็ได้นะ ถึงร้านแล้ว โน้น!"ผมเงยหน้าดูที่เขาชี้ มันจริงด้วย ขับเร็วจัง..

"ครับผ๊ม!!"ผมฉีกยิ้มให้เขา ร่างอวบกว่าจอดรถก่อนเราสองคนจะหาที่นั่งกินข้าวเช้ากัน เช้าขนาดนี้คนยังเต็มเลย ระหว่างทางหาโต๊ะมีคนรอบข้างหันมามองเราแล้วซุบซิบๆกัน มีบ้างที่ถ่ายรูป


"โต๊ะนี้ก็แล้วกันนะคุณ"ผมเลือกโต๊ะริมผนัง เพราะเห็นว่างพอดี ร่างอวบเองก็ไม่ เถียงอะไรแถมยังบอกให้ผมนั่งรอไปก่อน ส่วนตัวเองก็เดินไปสั่งข้าวต้มให้



"สั่งแล้วนะ ข้าวต้มจื๊ดจืด กับข้าวต้มรสแซ่บนะ"ผมเงยหน้าละจากรูปที่กำลังดูอย่างเพลินๆ พลางย่นหน้ามั่นไส้ให้เขา
ตัวเองกินรสเผ็ดได้ทำมาข่ม เหอะ!!

"รูปนะครับ น่ารักมาก ผมชอบ มุมสวย!"
ผมยังคงตื่นเต้นไม่หยุดเวลาดูรูปที่เขาถ่ายมาให้ รูปเราสองคนถ่ายคู่กันยิ่งน่ารักเข้าไปอีก

"ผมชอบรูปนี้ ขอนะ!"ผมชูรูปที่เราสองคนถ่ายด้วยกันระหว่างเล่นน้ำทะเล

"เอาไปหมดก็ได้ ผมอัดมา2 ชุด"หื้อออ อ้อยผมนัยๆหรือเปล่านะ ..

"งั้น ขอหมดเลย!!"เราสองคนนั่งกินข้าวเช้ากันด้วยรอยยิ้มแต่ผมก็ต้องมาเซ็งเป็ดเมื่อเจ้สองจับผมคู่กับน้องเตอร์ ส่วนเขาคู่กับน้องแพน มันอิจฉา!!


"เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเงียบๆไปนะ?"เพราะต้องขับรถพาผมกลับมาส่งที่หอ ร่าง อวบเลยถามขึ้นเมื่อผมไม่พูดอะไร

"ก็ไม่เป็นอะไรนี่ครับ ผมง่วงแล้ว!!"ตัดบททันทีครับ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย


Rrrrrrrrrn
"ฮัลโหลพีท อื้มๆ กำลังกลับพอดีเลย!"
เอียดด..ผมแทบหน้าคว่ำชนกับหน้ารถ

"คุณ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?"ผมรีบถาม เพราะคิดว่าที่เขาหยุดกะทันหันคงเพราะมีเหตุอะไร ร่างอวบฉวยเอามือถือผม
กดวางสายพีทอย่างเสียมารยาท

"ไอ้พีทอีกล่ะ เป็นอะไรกับมันกันแน่?"
ผมขมวดคิ้วชนกัน เขาโกรธอะไรผมกับพีทเล่า เราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ

"ก็เพื่อนจริงๆ แล้วคุณโกรธอะไรล่ะครับนี่ บาดเจ็บหรือเปล่า?"ผมรีบตรวจดูร่างกายเขา เผื่อเขาจะได้แผล แต่ไม่มี..
ร่างอวบดูจะสงบใจลง

"ไม่ได้โกรธ แค่ไม่ชอบ!"ไม่ชอบ แปลว่า เขาไม่ชอบพีทเลยไม่อยากให้ผมยุ่งกับพีทสินะ

"แล้วจะไปไหนกับมัน?"อยู่ๆก็ถามขึ้น

"อ้อ พีทโทรมาจะมารับไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันนะ"ผมรับบอก

"งั้นก็โทรไปบอกมันว่าไม่ไป เที่ยงนี้มีคน เลี้ยงแล้ว!"ผมเผลอยิ้มเมื่อเขายื่นมือถือผมให้กดโทรหาพีทเพื่อบอกว่าไม่ว่างไป

"จะเลี้ยงหรือครับ?"ร่างอวบไม่ตอบ ยังคงย้ำให้ผมโทรบอกพีทว่าไปไม่ได้
ผมกดสายหาพีทและพีทก็รับ พีทดูจะเป็นห่วงเพราะผมตัดสายไปดื้อๆ

"อื้ม คงไปด้วยไม่ได้นะ ติดธุระ อื้มๆแล้วก็ไม่ต้องห่วงนะเที่ยงนี้มีคนเลี้ยงแล้ว"ร่างอวบพาผมมากินข้าวเที่ยงที่ห้องของ เขา เหตุผลหลักๆคือหงุดหงิด ไม่มีอารมณ์กินข้างนอก ผมเลยจำต้องเดินเข้า มาในห้องเขาอย่างงงๆ

"นั่งไปก่อนล่ะกัน ผมจะอาบน้ำ!"อ่าหะ.. ผมพยักหน้ารับรู้ ระหว่างที่เขาอาบน้ำ ผมก็เดินสำรวจห้องเขา เตรียมจาน น้ำ เพื่อรอเขาออกมากินข้าวเที่ยงพร้อมกัน ทีวีเครื่องใหญ่ ผมเปิดข่าวดูฆ่าเวลา

ร่างอวบเดินออกมาในสภาพที่ฆ่าหัวใจผม เพราะผ้าขนหนูผืนหนาที่พันรอบเอวแค่นั้น เม็ดน้ำสะอาดยังคงเกาะผมและ
ตัวเขา เขาเดินมานั่งข้างกาย

"เตรียมซะพร้อมเชียว หิวก่อนก็กินก่อนได้เลย"ผมเพียงยิ้ม พยายามเพ่งมอง ข่าวไม่ใส่ใจเขามากนัก แต่สายตาบ้า กลับวอกแวกหันไปมองอยู่ได้..

"ก็กินคนเดียวไม่อร่อย กินหลายคนอร่อยกว่าเนอะๆ"ฮือๆ ผมอยากจะตาย ทำไมเขาไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนเล่า แล้วแบบนี้ผมจะมีสมาธิกินข้าวไหม?

"งั้นก็กินเลยแล้วกัน หิวล่ะ"ช้อนตักคำโตเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยก่อนผมอีก ผม ตักกระเพรารสจืดกินบ้าง แอบมองมานานล่ะ รสเผ็ดจัดขนาดนั้น ทำไมร่างอวบกินแล้วไม่รู้สึกอะไร"มันไม่เผ็ดเลยรึครับ ผมเห็นคุณกินแล้วธรรมด๊าธรรมดา?"

จริงๆคืออ้อนทางอ้อมอยากจะลองกินดูบ้าง ร่างอวบหันมามองผมหางตา

"อยากลองกินว่างั้น?"ผมพยักหน้างึกๆยิ้มหวานส่งไป น้ำก็เตรียมพร้อมแล้วคงไม่เผ็ดมากหรอกมั้ง!

"อ่ะ งั้นก็อ้าปากกว้างๆเลย!!"คนตรงหน้า ตักข้าวกระเพราในจานคำโตพร้อมบีบแก้มผมให้อ้าปาก สัมผัสรสจัดที่เตะลง
ลิ้นทำเอาผมตาโต มันเผ็ดปรี้ดดดดดด!

ถุย!! ผมรีบวิ่งหาถังขยะแล้วคายอย่างรวดเร็ว เผ็ดๆๆๆๆ เผ็ดจนหน้าแดงเถือกร่างอวบวิ่งเอาน้ำยื่นให้

"อ้าวน้ำ ค่อยๆกินนะ!"เขาเองก็ดูจะตกใจที่ผมแพ้มากขนาดนี้

"มันเผ็ดนะคุณ!!"ผมดิ้นพล่าน ลิ้นทั้งเผ็ด ทั้งร้อน ทั้งแสบทั่วปาก ทำไงดีๆๆๆ เขาเองก็วุ่นเอาน้ำมาให้อีก

"เออนม นมช่วยแก้เผ็ดได้"เขาว่าแล้วก็วิ่งไปเปิดตู้เย็น ผมเองก็เผ็ดร้อนจนหมด หวัง ในตู้เย็นมีแต่เบียร์เต็มไปหมด นมสักหยดหาไม่เจอเลย

"โถเว้ย..เดี่ยวลงซื้อให้ รอหน่อยนะ กินน้ำแก้เผ็ดก่อนล่ะกัน?"ผมพยักหน้า เออออ ตอนนี้เขาพูดอะไรว่าง่ายหมดร่างอวบเข้าห้องตัวเอง แต่งตัวแว็บเดียว แล้วลงไปซื้อนมมาให้ ผมมองตัวเองในกระจกแล้วแทบไม่เชื่อสายตา ปากผมบวมเจ๋อนิดๆ

รอบๆขอบปากก็แดงจี้ดจนผมเริ่มคันขึ้นมา ผมแพ้เผ็ดผมรู้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ จำได้ว่าพอโตพอจำความได้ แม่ก็ป้อน
ข้อมูลในสมองว่าผมกินเผ็ดไม่ได้เพราะผมแพ้ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว มิน่า... แม่ถึงดูแลผมแจ ผมดื่มน้ำเข้ามากๆแต่ความ
เผ็ดก็ยังไม่จางหาย หาก้อนน้ำแข็งในช่องแช่ฟีตมาประคบเย็นเพื่อคลายร้อนไม่นานร่างอวบก็วิ่งเข้ามาพร้อมนมขวดใหญ่ เปิดฝาให้อย่างทุลักทุเลผมรีบดื่มนมรสจืดจนสำลักออกมา

"ให้ตาย ดื่มดีๆสิวะ เดี่ยวก็ได้ตายกันพอดี แพ้เผ็ดแล้วยังเสือกจะกินอีก!"เป็น ครั้งแรกที่เขาพูดไม่เพราะกับผม คงเพราะห่วงผมมากไปมั้งเลยลืมตัว..ผมตั้งนมขวดใหญ่ไว้ เสื้อนักศึกษาเลอะไปด้วยนมที่ดื่ม

"ก็แค่อยากลองหนิครับ!"ผมบอกเขาดีๆ ร่างอวบสงบปากไม่พูดอะไรแต่ก็ยังใจดี หาผ้าขนหนูและเสื้อให้ผม

"ไปอาบน้ำซะ หายเผ็ดแล้วค่อยมากินข้าว"ผมรับเอาผ้าขนหนูและเสื้อมากอดแนบอก ก่อนจะเข้าห้องน้ำก็ไม่วายหยิบ
นมขวดใหญ่มาด้วย ยังเผ็ดก็ต้องกินกันอีกหน่อย


"วันหลังไม่ต้องกินแล้วนะอะไรที่มันเผ็ดๆ ระวังด้วยก็แล้วกัน!"แง่ว ออกมาจากห้องน้ำก็โดนว่าสั่งสอนเหมือนแม่เลย เขา เรียกให้ผมมานั่งข้างกาย รสเผ็ดยังคงติดลิ้นผมไม่จางหายทั้งที่ผมกินนมไปเกือบหมดขวด

"คุณ..มันยังเผ็ดอีก!!"บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ3-4ปีที่ผมมีน้ำตาเขาจ้องมองปากบวมเจ๋อของผมอย่างเป็นห่วง

"หาหมอนะ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เป็นแบบนี้"

"อือ ไม่ใช่ความผิดคุณสักหน่อย!"สุดท้ายเราก็ไปคลีนิคกันได้ยาแก้แพ้แก้คัน มากิน ผมเผลอหลับไปในอีกชั่วโมงต่อ
มา กว่าจะตื่นอีกทีก็ดึกเอาการ เขาไม่ยอมปล่อยให้ผมกลับไปหอตัวเอง ในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เราเริ่มสนิทกันมาก
ขึ้น \

เขาสังเกตได้ว่าน้องเตอร์กับน้องแพนมีซัมติ่งต่อกันเราเลยต้องช่วยเหลือ หาโอกาสให้สองคนนั้นหึงกันหรือแสดงออกความรักของตัวเองกันให้มาก แต่ผมไม่คิดว่าวิธีนี้จะเวิร์คตรงไหนเลย ยิ่งเขาชิดใกล้น้องเตอร์ผมยิ่งหงุดหงิดแต่เพื่อแผนการ ถ้าน้องเตอร์แพนเขารักกันจริงแล้วได้คู่กัน ผมกับเขาก็จะได้เป็นคู่ จิ้นกันสิ เหมือนจะเป็นความคิดที่ง่ายๆแต่มันไม่ง่ายเลยต่อความรู้สึกของผม


"ปิ้นๆๆๆ หลีกหน่อยๆๆ"เสียงน้องโอตัว ใหญ่กว่าพวกผมทั้งที่อยู่แค่ปี2 ตะโกน บอกตลอดทางเพราะโชเล่ที่ขับบรรทุก แกนพยาบาล7-8คนเพื่อไปดูแลน้องเนื่องจากมีน้องหลายคนเกิดแพ้แดดแพ้ลม เขาลากผมขึ้นมาด้วยทั้งที่ผมเพิ่งพักงาน

"เชี่ยโอ มึงขับดีๆสิวะ พี่ไทม์พี่ไลน์ก็อยู่นะเว้ย!"เพื่อนน้องโอเริ่มเตือนสติ ไอ้น้องโอขับบิด160 แซงเร็วจนจะอ้วก ผมมองหน้าเขาเริ่มกลัว เพราะใช้ทางลัดถนนลูกรังหนึ่งเลนด์นั้นยิ่งทำให้พวกเราเด้งไปมาตลอดเวลาจนก้นช้ำ เขาจับมือผมให้กำลังใจ

"เห้พี่! ไม่ต้องห่วงนะอยู่กับโอสบายใจหายห่วง!"น้องมันตะโกนบอกพวกเราแต่ ผมมองเห็นรถบรรทุกคันใหญ่กำลังตรงเข้ามาข้างหน้า

"สัสโอ มึงชิดซ้ายสิวะ ลดความเร็วด้วย" เราทุกคนต่างตื่นตระหนก รถบรรทุกเริ่มคืบคลานเข้ามา น้องโอเองก็พยายา
มลดความเร็ว

"เชี่ยกัมส์ แบรคเสีย!!"

"ห๊า!!!!"เอียดด พลั้วะ!! น้องโอหักเลี้ยวเข้าซ้ายมือไปชนต้นไม้เล็กที่พอจะหยุดรถเราได้ กระแทกของการชนทำให้พว
กเราเด้งตัวไปข้างหน้าก่อนจะหงายหลังตกจากรถ วินาทีนั้นผมกลัว กลัวตัวเองจะตายไปเพราะไม้มากมายที่แหลมชันเฉียดตัวโดนแขนไปนิด เขายังคงจับมือผม เราเด้งตกลงมาพร้อมกัน หากเพราะไม่ใช่แรงดึงเข้าอ้อมอกเขาผมว่าผมตกลงมาโดนเสียบไม้ไปเต็มๆ ตายคาที่แน่!!

"เป็นอะไรไหมๆ?"เขาลุกขึ้นถามผมซ้ำๆ ผมส่ายหัว มันกลัวจริงๆ ภาพเมื่อกี้ยังติดตาผมไม่หาย

"ผมกลัว"ผมจับมือเขาแน่นตัวสั่นเพราะ ความกลัว น้องคนนึงลุกขึ้นมาดูเพราะเห็นผมเลือดออด

"ทุกคนไม่เป็นไรนะ เห้พี่ไลน์ พี่เลือดออกนะครับ?"ผมรู้ว่าผมได้แผล คนอื่นที่มา ด้วยบางคนก็ทลอกแขน ทลอกมือกัน
บ้างจะมีก็แต่ผมที่เลือดออก

"มึงๆทำแผลให้พี่ไลน์ก่อน สัสโอนะมึง เชี่ยจริง!!"น้องโอโดนเพื่อนต่อว่าหนัก

"ไม่เป็นหรอกน้า น้องโอเองก็โอเคนะ?"เห็นน้องเองโดนรถทับเพราะแรงกระแทกทำให้รถล้มทับตัวน้อง น้องบางคนก็ก
ระเด็นออก บางคนไหลทับตัวน้องโอบ้างก่อนจะรีบช่วยพยุงรถขึ้น

"คงช้ำแน่เลยพี่ ไม่เป็นไรคืนนี้พวกผมดูแลมันเอง"ก็ดีนะมีเพื่อนดีรอบตัว

"พี่ ขอโทษนะ!"น้องโอคงรู้สึกผิดจริงๆ

"เออๆ"เป็นเขาที่ตอบปัดๆระหว่างที่น้องคนนึงทำแผลให้ผม ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มๆ ไม่เป็นไร หลังทำแผลเสร็จน้องคนอื่น
เปลี่ยนตัวคนขับจนพวกเรามาถึงป่าชายเลนด์ที่ปลูกป่ากัน บอกน้องเตอร์แพน ว่าจะคุมน้องๆข้างหน้าแต่ถึงตอนนี้มี..น้องถึงที่หมายแล้ว พวกเรายังโอ้เอ้ไปไม่ถึงสักที แกนพยาบาลรีบลงไปปฐมพยาบาลให้น้องที่เป็นลมเป็นแล้ง ผมกับเขารีบวิ่งมาดูแลน้องๆที่มาถึงอย่าให้เพิ่งปลูกต้นไม้ก่อน

ร่างอวบชิดตัวผมไม่ห่างเพราะกลัวผมเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน เราร่วมปลูกป่าด้วยกันกับน้องๆ มีฉากจุบของน้องเตอร์แพนให้ได้แก้มแดงดูด้วย คู่นี้ก็แปลก หึงไปหึงมากันอยู่นั้นล่ะ เขาบอกว่าแผนพวกเราได้ผลจริงๆ หลังจบกิจกรรม ผมแทบสลบ นอนหลับสนิทเมื่ออาบน้ำเสร็จ วันนี้ร่างอวบแวะมานอนห้องผม

สวบ~
ผมลืมตามามองคนข้างกายที่นั่ง บนเตียงผมจนเตียงยุบพร้อมกับมือที่บีบ ยาคลายกล้ามเนื้อแตะลงบนเท้าจนผมเย็นสะดุ้ง เขาเพียงยิ้มบางๆ

"ทายานะ คลายกล้ามเนื้อ"

"ครับ ขอบคุณนะครับ"ผมเองก็ปล่อยให้เขาทาไปอยากจะลืมตากว้างๆหน่อยแต่ตามันไม่ยอมตื่น
"นอนต่อเถอะนะ ไม่ต้องห่วง จะดูแลให้เอง"ผมควรดีใจหรือควรตื่นมาเต้นลั้ลลา ดี เขาน่ารักจัง แต่เพราะความเหนื่อย ผมจึงผลอยหลับไปในที่สุด แต่พอลืมตามาอีกทีคนข้างกายก็หายไปเรียบร้อย

'คงจะหายไปอีกนาน เจอกันวันแจกลายเซ็นนะครับ'เพราะรู้ดีว่า โปรเจ็ตสุดท้ายของเขาทำไกลถึงประเทศสหรัฐโน้น ..


120 วันผ่านไป..

เป็น120 วันที่ผมคิดถึง คนนั้นๆสุดหัวใจ ในส่วนของคู่จิ้นของเขากับน้องเตอร์ยังคงเงียบข่าวคราวไปแต่ก็ไม่ได้ถูกสลับคู่ทั้งที่คนอื่นทั่วโลกรู้กัน หมดแล้วว่า น้องเตอร์น้องแพนรักกันและแต่งงานกันจริงๆ เรื่องการแต่งงานบอกเลยผมเองก็ช้อคแต่ความคิดถึงใครคนนึงมันมีมากกว่า

เพราะโพสต์แต่อะไรๆ เศร้าๆ แฟนๆหลายคนเลยพากันสงสารผมที่กลายเป็นคนโดดเดี่ยวไร้คู่ ผมอ่าน แล้วขำกลิ้งจนท้องแข็งเลย..แต่แค่แปป เดียว แปปเดียวจริงๆและก็หวนคิดถึงเขาขึ้นมาอีก

้เบอร์ก็มี ไลน์ก็มี เฟสบุ้คก็มี ไอจีก็มี ทวิตก็มี Ask.fmก็มี แต่ทำไมเขาไม่ทักผมมาสักวันเลย

ผมนอนเลื่อนดูข่าวคราวหน้าฟีคเฟสบุ้ค ไปเรื่อยๆจนเบื่อ มือแอบลั่นกดดูหน้าเฟสเขา เงียบเช่นเคย ไม่มีอะไรอัพเดท
สักนิด น่าเบื่อ น่าเบื่อไปหมด ผมทิ้งมือ ถือลงข้างกายแล้วไปอาบน้ำเพื่อนอน



เด้งๆๆๆ
ผมแปลกใจที่มีการแจ้งเตือนเข้ามามากมายหลังออกมาจากห้องน้ำ ผมกดมันเพื่อดู

                                      ศิริวรรณา มีประโยชน์แท็กคุณและไทม์ ช่างภาพสุดหล่อ

อะไรนะ แท็กผมกับเขานี่นะ??

>>กรี้ดด เอ้ะๆพี่ไทม์พี่ไลน์นี่ยังไงกันค่ะ อยู่ด้วยกันหรือค่ะ ภาพปกพื้นหลังเฟสนี่เหมื้อนเหมือน<<<

ผมกดดูภาพปกของเขาที่น้องศิริวรรณา แคปมาพร้อมกับของผม มันเหมือนจริงๆ เพียงแต่คนในรูปที่เขาโพสต์นั้นคือผม ถ้าอย่างนั้นผู้ชายในภาพปกผมก็...


เขา!!


เป็นไปได้ไง ผมตามหาผู้ชายในวันนั้นที่ขอถ่ายรูปผมแล้วเขาก็จากไป ผมตกหลุมรักเขาตั้งแต่วินาทีที่ถ่ายรูปเขาแล้วแม้จะไม่ได้เห็นหน้าเขาจริงๆจังๆ

คอมเม้นมากมายจากแฟนๆเด้งขึ้นมา หลายคนเชียร์คู่เราสองคนเพราะเห็นว่าอกหักช้ำชอกจกคู่น้องเตอร์น้องแพน ในวันนี้ผมตามหาเขาคนนั้น..เจอแล้ว!!


และแล้ววันของการแจกลายเซ็นก็มาถึง
งานในวันนี้ ผมแค่ได้เห็นหน้าเขาเพราะเขามาสายไปชั่วโมงกว่าแถมยังอยู่ติดกับน้องแพนด้วย ผมอยู่ใกล้น้องเตอร์ เรา อยู่ห่างกันสองที่นั่งเลยไม่ได้คุยกันการแจกลายเซ็นจบลงด้วยดี น้องเตอร์แพนประกาศเป็นคู่รักอย่างเป็นทางการ ร่างอวบที่ผมคิดถึงจูงมือผมขึ้นรถขับพาไปที่ไหนสักแห่ง เราต่างยิ้มให้กัน ทุกนิ้วของเราที่จับมือกันสอดกันแน่นขึ้น มันนานจริงๆกว่าเราจะได้พบกัน

"คุณครับๆ ขอถ่ายรูปหน่อย?"ผมถือกล้องเล็งเป้าหมายที่เรียกผมด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็ยิ้ม ภาพในวันวานหวนกลับคืนมา เขาพาผมมาในที่ที่เราเจอกันครั้งแรก

"นับนะครับ123"แชะๆ
เราต่างถ่ายรูปกันและกันเหมือนวันวาน ร่างอวบยกกล้องลงเผยให้เห็นใบหน้าที่ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผมได้แต่สุขใจจนหุ บยิ้มไม่อยู่


"สวัสดีครับ ผมไทม์"เขายื่นมือมาทักทาย ผมเลยยื่นมือทักทายเขากลับไปบ้าง

"ดีครับ ผมไลน์"ถ้าในวันนั้นเรากล้าพอที่ จะหยุดเวลาทักทายกัน ชีวิตเราก็คงไม่ หวนกลับมาวนเวียนตามหากันนานอย่างนี้ หรือเพราะเหตุในวันนั้นที่เราไม่กล้า จะรู้จักกันเป็นจุดเริ่มต้นให้ชีวิตเราเลยหวนกลับมารู้จักกันในวันนี้กันแน่ เราสองคนจับมือกันไว้มั่น ต่อจากนี้ไปเราจะไม่หายไปไหนและคงไม่ตามหากันอีกแล้ว

"นี่คุณ ของขวัญผมล่ะ?"

"ของขวัญหรอ อะไรล่ะ ตัวผมไหม? ผมคิดถึงคุณจะแย่"

"แหวะ ไม่เอาหรอก หายไปตั้ง 120 วัน ไม่โทร ไม่ไลน์ ไม่อะไรเลย ผมคิดถึง!"

"แหงสิ แฟนหล่อและเท่ห์ขนาดนี้คุณก็ ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา?"เขามั่นหน้าจริง

"แฟนบ้าบออะไรเล่า อย่ามโนครับ?"

"อ้าวหร่อ เรายังไม่เป็นแฟนกันอีกหรอ งั้นคุณไลน์ครับเป็นแฟนกับคุณไทม์นะ?"


"ครับ^___^"




--- The end ---

*** จริงๆ ชอบพรหมลิขิตของคู่นี้นะคะ น่ารัก  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ม่อน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ม่อน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :sad4:เค้าหากันจนเจอ
ดีต่อใจ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
งืมๆๆๆ น่ารักทุกคู่เลย

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง

                                                                             
                                                                 คู่จิ้น4 ฟิน-ตินติน


"ดีพี่ ผมฟินฟินแลนด์ บวรสุขสม ปี2 สารสนเทศฯนะ"ผมมองรุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่าผม 15 เซนฯ

"เอ่อเรา แต้มแต้มนะ ปวินต์ รัตนใส ปี3 เศรษศาสตร์ นะ..ครับ"ผมมองร่างเล็กที่ ตะกุกตะกักบอก อะไรของพี่แกน่ะ

"อ้อ ผมนะเป็นปริ้นส์ของน้องปี1น่ะ แล้ว พี่ล่ะ เป็นใครล่ะไม่คุ้นหน้าเลย?"ผมลากเก้าอี้มานั่งถามรุ่นพี่ที่นั่งรอก่อนเพราะน้องบลูสกายเรียกรวมตัวเพื่อบอกกฏกติกาของโครงการอะไรประมาณนี้นะครับ

"อ้อ เราเพิ่งย้ายมหาลัยมาน่ะเทอมนี้"

โอเค เก็ตล่ะถึงว่าล่ะไม่เคยเห็นหน้าเลย ทั้งที่ผมออกจะป๊อปฯและรู้จักคนมากมายน่ะ ร่างเล็กดูหลบตาคนอื่นไปทั่วแต่
กลับสนใจฟังสิ่งที่พวกน้องบลูสกายรายงานซ้ำยังจดกิจกรรมอย่างกับจดเล็ทเชอร์เหมือนเวลาอาจารย์สอนอีก

หลังจบการประกาศจากน้องๆทุกคนต่างทยอยกันกลับ ผมเองก็เดินตามร่างเล็กต้อยๆ ดูแปลกๆนะคนนี้


"นี่พี่!"

"ห้ะห้า!"ผมกอดคอเขาจนร่างเล็กสะดุ้ง ใจเสาะขนาดนั้นเชียว

"อะไรวะ แค่จะชวนไปกินข้าวเอง!!" ผมบอกร่างเล็กที่มองผมอย่างหวาดกลัว หรือเป็นโรคกลัวคนนะ

"อ้อๆ ไม่ว่างนะต้องรีบกลับบ้าน ขอบคุณนะฟิน"ร่างเล็กพยายามแกะมือผมออกจากบ่าแต่ผมไม่ยอม แรงน้อยๆนั้นมี หรือจะสู้แรงผมได้..

"ไม่เป็นไร งั้นผมไปกินข้าวบ้านพี่ก็ได้ ไปกัน!"นิสัยอย่างหนึ่งของผมคือหน้าด้านและด้านสุดๆ อยากรู้จักใครก็ต้องรู้จัก
ให้ได้ ร่างเล็กตาโตเบิกกว้างกว่าเดิม

"เห้ยไม่ต้องดีกว่า งั้นกินข้าวที่นี่ก็ได้"หึๆ ผมแอบอมยิ้ม ใช้วิธีนี้ทีไรได้ผลทุกที

"นั้นนะสิ ผมก็ว่า ยังไงเราสองคนก็ต้องกินข้าวด้วยกัน พี่ว่าไหม?"

"อื้ม@~@"ผมลากร่างเล็กมานั่งซื้อข้าวกินหลังมอ. พี่แกดูตื่นๆเหมือนแปลกที่ สงสัยจะไม่เคยมา ระหว่างที่พี่แกกำลัง เลือกเมนู ผมหยิบมือถือเครื่องหรูที่มามี๊ถอยมารุ่นใหม่ล่าสุดสดๆร้อนๆเมื่อเช้านี้เอง


"สวัสดีเพื่อนๆ 1000 กว่าคนในไลฟ์นะครับ วันนี้ผมมีข่าวดีจะบอกครับ ผมผ่านคัดเลือกคู่จิ้นด้วยคร้าาบ มีใครดีใจกับผมบ้าง?"ผมกำลังไลฟ์สดอยู่คนเดียว พี่แต้มแต้มละจากเมนูเงยดูผมนิ่งๆ

"เมื่อผ่านการคัดเลือกก็ต้องมีฉลองสิครับ ตอนนี้ผมกำลังมาฉลองที่ผ่านคัดเลือกกับคนนี้เลย พี่แต้มแต้มคร้าาบ เป็นไงครับน่ารักไหม?"ผมขยับตัวเองไปอยู่ฝั่งเดียวกับพี่แต้มแต้มพร้อมไลฟ์คู่กับพี่แก พี่แกดูจะเขินๆ น่ารักดี

"พี่ โบกมือสิ โบกมือทักทายแฟนๆผมนะ"ผมบอกร่างเล็กให้ทำ เขาเพียงยิ้มแล้วโบกมือทักทาย

"ดีครับ แต้มแต้มครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย"หลังร่างเล็กน่ารักพูดหวานๆไปปรากฏว่าคอมเม้นมากมายส่วนใหญ่ถามถึงพี่แต้มแต้ม อยากรู้ว่าพี่เขาคือใคร ทำไมถึงได้หน้าสวยแถมยังเสียงหวานอีก ผมยังไลฟ์สดคุยโน้นนี่ตอบคำถามที่แฟนๆถามมา ส่วนใหญ่ก็เป็นน้องๆที่ถามเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว ไม่ก็ทะเลาะกันแย่งผม ตลกจริงๆ

"อ่ะ!"พี่แต้มแต้มที่กินข้าวเงียบๆคนเดียว ตักข้าวมาคำหนึ่งจ่อปากผม ทำเอาผมอึ้ง ไม่เคยมีใครใส่ใจผมขนาดนี้เลย

"กินบ้างนะ ข้าวเย็นหมดแล้ว รู้ว่าเพื่อนแชตเยอะแต่ดูแลตัวเองบ้างสิ!"

ผมอ้าปากกินอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นผมนั่งไลฟ์สดไปพลางกินข้าวที่พี่แต้มแต้มป้อนให้จนหมดชาม และไม่เชื่อว่า ภาพไลฟ์สดของพวกเราจะมียอดวิว และยอดการ แชร์และถูกพูดถึงในชั่วข้ามคืนมากมายขนาดนี้




"นี่พี่แต้มแต้ม เห็นหรือยัง มีคนพูดถึงคู่เราเยอะเลยน้าา"ผมมาดักรอร่างเล็กหน้าคณะเมื่อวันนี้มีการถ่ายรูปโปสเตอร์คู่ พี่แต้มแต้มกระพริบตาพริบๆ

"พูดถึง พูดถึงอะไร พูดถึงในไหนหรอ?" เขาถามเหมือนไม่รู้จริงๆ

"ก็ในเฟส อินสตาแกรม แถมในเด็กดี พันทิปก็มีนะพี่ เพราะพี่สวยน่ารักแน่เลย เคมีเราเลยเข้ากัน"จริงๆผมก็ดังอยู่แล้วนะ แต่พอมีพี่แต้มแต้มเราเลยดังมากกว่าเดิมเข้าไปอีก

"คือ..ขอโทษนะพี่เล่นของพวกนั้นไม่เป็น"ห้ะ!! บอกเลยผมแทบช้อค สมัยนี้ยังมีไม่เล่นแอพลิเคชั่นนี้อีกหรอ เอ้าท์ว่ะ?

"ถามจริง?"

"พูดจริง!"ครับ เป็นอันรู้เรื่อง สงสัยพี่แต้มคงเกิดก่อนผม 1รอบ ไม่ใช่1ปีแน่นอนผมยืนประมวลผลอยู่นานกว่าจะคิดออก

"เห้ย ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เดี่ยวผมสอน ให้ก็ได้ รับรองแปปเดียวเป็น"ผมมันเซียนสอนแปปเดียว รับรองพี่แต้มดังกระฉูด จนวางมือถือจากมือไม่ได้เหมือนผมแน่

"อ้อ ขอบคุณนะ แต่เราไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้นะ เราใช้ฮีโร่รุ่นอาม่าก็พอแล้ว"

เงิบ เป็นรอบที่สองครับ สมัยนี้แล้วพี่แกยังใช้ฮีโร่รุ่นอาม่าปาใส่หัวหมาก็ไม่เจ๊งอีกนี่นะ สุดยอดดึกดำบรรพ์เลยพี่แต้มแต้ม ผมมองร่างเล็กที่ติดจะหน้านิ่งๆเดินเข้าคณะไปยังชั้นสองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะตั้งสติแล้ววิ่งตามพี่แกไปด้วยคน

"แหมๆ คู่ฟินแต้มนี่ออกตัวแรงก่อนใครเลยนะคะ เอาค่ะไปแต่งตัวกันค่ะ เจ้ว่าคู่นี้ปังๆแน่นอนค่ะ"ผมก็ไม่รู้หรอกว่าอีเจ้แกเป็นใคร มาถึงก็แสดงความดีใจยกใหญ่แถมยังให้เปลี่ยนชุด มารู้ก็ตอนที่อยู่ข้างในห้องแต่งตัว เพิ่งนึกออกว่าเจ้แก

คือพี่สองหรือเจ้สอง สไตลลิสต์ของมอ.เรา รู้และสายตาเฉียดคม ใครได้ทำงาน ด้วยมีอัน ปังๆๆๆตลอด



"คอนเซ็ปของคู่นี้ เจ้ขอเป็นแบบอารมณ์ ประมาณว่า เรารักกันแต่รักกันไม่ได้ โดยน้องฟินหลงรักน้องแต้มสุดหัวใจ แต่น้องแต้มรักน้องฟินไม่ได้ เพราะตัวเองมีความลับที่ซุกซ่อนไว้เบื้องหลัง โอเคนะคะ พอจะเข้าใจอารมณ์เนอะ?"

ผมพยักหน้างึกๆเข้าใจ เราสองคนต่าง โพสท่าอย่างที่เจ้สองต้องการ ตากล้องเองและทุกๆคนก็ช่วยได้เยอะ ภาพเราสองคนออกมาดูดีมาก ผมขอให้ น้องๆแถวนั้นถ่ายด้วยรูปหนึ่งกับมือถือ ตัวเอง ไม่ลืมที่จะโพสโปรโมทคู่ของเรา



Finland's Wonderland เปลี่ยนรูปประจำตัว




ผมมองดูรูปโปรที่อัพอย่างภาคภูมิใจหัน มาดูอีกทีร่างเล็กก็เดินเกือบถึงประตู


"นี่พี่ๆจะรีบไปไหนนะ?"ผมวิ่งเข้าไปกอดแขนร่างเล็กอย่างรวดเร็ว รายนี้ถ้าไม่จับไว้มีหวังอันตรทานหายไปกับกลีบเมฆ


"มันหิวนะ ตอนเช้าตื่นมาไม่ได้กินอะไรมาเลย จะไปด้วยไหม?"ผมขมวดคิ้วชนกัน บทจะชวนกันง่ายก็ชวนแหะ แปลก!


"ไปสิ หิวพอดีเลย งั้นไปร้านไหนดี พี่เลี้ยงนะรอบนี้?"ผมต่อรองเพราะครั้งก่อนผมเลี้ยงข้าวเขา

"อื้ม ได้สิ ขับรถตามมาล่ะกันนะ เราขี่จักรยานมาน่ะ!"


"???"
ถามจริงสมัยนี้ยังมีคนขี่จักรยานกัน อีกหรอ โอ้ยตาย!!ผมคุยอยู่กับปู่โสม หรือเปล่า พี่แต้มแต้มมักมีอะไรให้ผม
แปลกใจตลอดเวลา


"อ้อ ได้ๆเชิญนำเลยคร้าาาบ"ผมฉีกยิ้ม กว้างจักรยานรุ่นปู่ออกแนววินเทจที่ผมเอาไว้ตั้งโชว์ที่บ้านจนสนิมขึ้นนั้นพี่แต้มแต้มกลับใช้มันเป็นยานพาหนะในชีวิตประจำวัน ผมดูแล้วอึ้ง


"เออพี่ จริงๆผมเองก็อยากลองขี่ไอ้นั้นบ้างเหมือนกันนะ ผมขี่ได้ไหม?"เห็นพี่เขาขี่แล้วดูแนวดี ผมเลยอยากลองดู ร่างเล็กเม้มปากคบคิดพลางมองแดดจ้าตรงหัวพอดี

"แต่มันจะร้อนนะ ทนได้หรอ?"พี่แต้มแต้มถาม ตัวเองก็หน้าแดงเพราะแดดแล้ว


"ทนได้ สบายมาก พี่นั่งเลย รับรองนั่งสบาย"ผมทำท่าจะแย้งจักรยานขี่เองแต่พี่เขาไม่ยอม คงไม่ไว้ใจผมละมั้ง


"งั้นเราขับ ฟินซ้อนหลังไหม ผ่านถนนใหญ่แล้วค่อยเป็นคนถีบ โอป่ะ?"


"โอ'เค!"ผมรีบซ้อนหลังจักรยานคันเก่า ที่พี่แต้มแต้มใช้เป็นยานพาหนะอย่าง รู้สึกสนุก ร่างเล็กถีบจักรยานอย่างเก้ๆ
กังๆแรกๆก่อนจะขับปกติ ผมเปิดเฟสบุ้ค ไลฟ์สดอีกเช่นเคย




"สวัสดีแฟนๆ4พันคน วันนี้ผมกำลังจะไปกินข้าวกับพี่แต้มแต้มอีกแล้ว และที่สำคัญเราถีบจักรยานกันตอนเที่ยงด้วย นี่ดูหน้าพี่แต้มแต้มครับ ถีบเก่งมาก ว่า แต่ทุกคนว่าไงบ้าง โปสเตอร์คู่ของพวกเราสองคน?"

ผมยังคงไลฟ์สดและคุยจ้อคนเดียว พอมีน้องถามถึงพี่แต้มแต้ม ผมอ่านให้เขาฟัง เขาก็ตอบ น่ารักครับ! น้องๆหลายคนปลื้มพี่แต้มแต้มมาก มีแต่ คนถามและอยากรู้จักพี่เขาทั้งนั้นยิ่งเป็นคนที่หาในโลกโซเชียวไม่เจอ คนยิ่งสนใจอยากรู้จักมากขึ้น พี่เขาหยุด จอดข้างทางซึ่งเข้าถนนเล็กอย่างเหนื่อยหอบ ผมมองร่างเล็กที่จอดจักรยานยิ้มๆ ถึงที่ผมแล้วสินะ


"คิวผมถีบ พี่แต้มถือกล้องดีๆนะ ตอนนี้ กำลังไลฟ์อยู่"

5 นาทีที่ไลฟ์สด พี่แต้มถือมันไว้เฉยๆจริงๆ เอาแต่มองว่าคนอื่นเขียนอะไรบ้าง มีบ้างที่ตอบเบาๆ



"ตอบดังๆ อ่านดังๆก็ได้พี่ น้องเขาจะได้ ได้ยินชัดนะ"ผมถีบจักรยานไปพูดไป


>พี่แต้มพี่ฟินน่ารัก<                          "ขอบคุณครับ"
>พี่แต้มพี่ฟินกำลังจะไปไหนค่ะ?<        "ไปบ้านพี่แต้มครับ ไปกินข้าวด้วยกัน"
ผมขำเมื่อร่างเล็กอ่านคอมเม้นต่างๆนานาแล้วตอบไปแบบงงๆมึนๆ น่ารัก!!


"จอดๆๆถึงแล้ว!"มือเล็กขยำเสื้อผมเพื่อให้ผมหยุดจอด เรามาถึงที่หมายแล้ว ผมหันไปมองรอบๆไม่เห็นมีบ้านคนเลย มีแต่ร้านขนมเล็กๆ

"ที่นี่หรือพี่ แน่ใจนะว่าบ้านพี่นะ?"ผมอดที่จะไม่เชื่อ ร้านขนมนี่เป็นบ้านของพี่แต้มแต้มจริงๆหรอ? ร่างเล็กพยักหน้าเลื่อน จักรยานเข้ามาจอดใกล้ทางเดินประตู

"เข้ามาเถอะ นี่ร้านเราเอง"ก็อย่างที่บอก พี่แต้มแต้มมักมีอะไรให้ผมแปลกใจเสมอ

"ร้านพี่จริงๆดิ เหลือเชื่อ!!"

"ใช่ จริงๆก็เป็นร้านแม่มากกว่านะแต่เรา ได้มานะ เอามาทำร้านขนมไทยขาย ฟินกินขนมไทยเป็นไหม?"

"...?"ผมอึ้งไปอีกรอบพี่แต้มแต้มทำขนมไทยเป็นแถมทำขายอีกด้วย

"อ้อ เดี่ยวเราทำกับข้าวไว้ก่อนล่ะกันนะ รีบไปไหนไหม จะชวนมาเป็นลูกมือ เอาไหม?"ผมส่ายหัวเป็นคำตอบว่าไม่รีบไปไหนและสามารถที่จะเป็นลูกมือของเขาได้ มันน่าเหลือเชื่อไปหมดเมื่อยิ่งได้ รู้จักกับคนๆนี้เสมอ

"อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า แกงเขียวหวาน แกงกะทิ หรือแกงมัสมั่นอ่ะ คือเราอยากกินแต่เลือกไม่ถูกว่าจะเลือกกินอันไหนดี?"

"เอาแกงเขียวหวานดีกว่า ขอไข่เจียวด้วย อ้อ ทำน้ำพริกเป็นไหมพี่ ทำด้วยนะอยากกิน ว่าแต่พี่ทำเป็นแน่หรอ ผมชัก
อยากจะลองชิมแล้วสิ?"ผมสั่งเป็นชุดเลย ไหนๆก็ไหนๆแล้วพี่แต้มแต้มจะทำให้ กินทั้งทีขอกินแบบอร่อยเหาะไปเลย

"หึ อย่าขอให้ทำอีกล่ะกัน"เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่แต้มแต้มย่นจมูกขี้เล่นกับใครเขาด้วย มันน่ารักที่เขายิ้มมีความสุข!
ผมชอบ..



"เป็นไงบ้าง กินกันเลยไหม?"

"ผมรอคำนี้มานาน"ทั้งผมและพี่แต้มแต้มตักข้าวกินกันอย่างหิวโหยเมื่อเราหิ้วท้องถึง3ชั่วโมง
ผมหยิบมือถือขึ้นมาและไลฟ์สดเช่นเคย พี่แต้มแต้มดูมีความสุขที่ได้กินฝีมือตัวของผมหยุดการไลฟ์แล้วตัดสินใจกินข้า วกับพี่แต้มแต้มกันสองคน

อย่างหนึ่งที่พี่แต้มแต้มสอนผม คือการ รู้จักใช้เวลากับคนใกล้ตัวให้มากที่สุดไม่ใช่มัวแต่สนใจคนในโซเชียวอย่างเดียว ผมตักข้าวคำแรกกินตกใจตาโตมันอร่อยมากกก ฝีมือพี่แต้มแต้มระดับ เชฟเลยก็ว่าได้ ไม่น่าเชื่อ!!

"เป็นไงๆ อร่อยละสิ?"ยังจะถามอีกนะ ผมยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองมือเลย อร่อยจริง

"แล้วพวกขนมไทยนะ พี่ขายแบบไหนล่ะพี่ทำให้นี่เรียกว่าอะไรหรอ?"ร่างเล็กวางช้อนดื่มน้ำกินก่อนจะตอบคำถามผม

"ถ้วยนี้เรียกว่าบัวลอยขนุน ของโปรดเรานะ ส่วนที่ถามว่าพี่ขายยังไงนะหรอ? นอนที่นี่ไหมล่ะแล้วจะรู้?"เดี่ยวนี้ร่างเล็ก ดูจะมีทักษะการพูดที่ขี้เล่นมากว่าเมื่อวาน คงเพราะเราเริ่มสนิทใจมั้ง พี่แกเลยเริ่ มไว้ใจผมบ้างแล้ว

"แหม รู้จักกันเมื่อวาน ชวนผมนอนที่บ้านเลยนะพี่^_^"ผมแอบเล่นมุขกับร่างเล็ก บ้าง พี่แต้มแต้มเอาส่อมจะจิ้มตาผมด้วย ความมั้นไส้

"เดี่ยวเหอะ ไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องนอน แค่นี้ก็จบ แต่บอกไว้ก่อนนะ มีน้อยคนนะที่จะมีโอกาสถูกเชิญมานอนบ้านเรา" อันนี้ผมว่าจริง ดูจากการเป็นอยู่ของพี่ แต้มแต้มแล้วผมว่าน้อยคนที่จะเข้าถึงตัวเขาได้

"โอ๋ๆ โอเคๆเพราะอยากรู้ด้วยหรอกนะ เลยต้องนอนแต่ผมขอกลับไปเอารถแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยนะแล้วค่อยมาใหม่
ได้ไหมครับ?"ผมตักข้าวกินอีกคำเมื่อเห็ นร่างเล็กสนใจกินมากกว่าจะฟังผม

"จะไปก็ไปสิ ใครสน ล่ามโซ่ไว้หรอ?"พี่ แต้มแต้มล้อเลียนผมระหว่างที่พูด คนๆนี้มีมุมแบบนี้ด้วย เราสองคนต่างยิ้ม และกินไปเถียงไปพูดไปจนกับข้าวหมดเกลี้ยง พี่แต้มแต้มจัดการล้างจานกองโตแล้วให้ผมเช็ดโต๊ะให้เรียบร้อย ผมเช็ดโต๊ะเสร็จแล้วเดินไปช่วยพี่แต้มแต้มล้างจานด้วย ระหว่างที่ล้างจาน ผมก็เปิดไลฟ์สดอีก เราหยอกล้อกันซึ่ง พี่แต้มแต้มเริ่มมีปฏิกิริยาที่ดีขึ้น เขาเริ่ม
พูดคุยและเถียงผมมากกว่าเดิมแถมยังใจฟังผมบอก

"เอิ่ม..เราหมายถึงออกกำลังกายในสวนฯนะ สวนสาธารณะหลังมอ.นี่ล่ะ เราไปออกทุกวัน นักศึกษาก็ไปออกเยอะน่ะ ไม่ต้องมีคอร์สอะไรอย่างที่ฟินบอกหรอก!"อ้อ หน้าแตกเลย ผมก็นึกว่าพี่แกจะ หมายถึงออกกำลังกายในฟิสเนสซะอีก ที่ไหนได้ไปออกที่สวนสาธารณะนี่นะ ผมก็ไม่ค่อยอยากไปนะ ไม่มีเทรนเนอร์ ไม่มีคลาสเอาซะเลย

"ไปไหม ไปออกที่สวนฯก็สนุกไม่แพ้ฟิส เนสหรอก เชื่อเราสิ!"แต่เห็นร่างเล็กรับ ประกันแบบนั้น มันคงจะน่าสนุกมั้ง??
ใจฟังผมบอก

"ลองดูก็ได้แต่นี่ก็บ่ายสามแล้ว เราค่อย ไปออกสักห้าโมงเย็นนะ ว่าแต่พี่มีเรียนอีกไหมล่ะวันนี้?"ผมห้าวนอนขึ้นมาทันที ร้านขนมไทยของพี่แต้มแต้มเปิดหน้าต่างรับลมเย็นพร้อมพัดลมเย็นๆพัดส่ายหน้าจนผมเริ่มเตลิ่มจะหลับ

"ไม่มีหรอก ว่าจะอาบน้ำสักหน่อยเสร็จแล้วก็ว่าจะดูซี่รี่ย์ฝรั่งที่ค้างไว้จนจบนะจากนั้นก็ไปออกกำลังกายแล้วก็กลับมานอน โปรแกรมวันนี้ก็มีแค่นี้"ผมมองพี่แต้มแต้มที่นั่งเล่าโปรแกรมวันนี้เป็นสเต็ปๆ ผู้ชายคนนี้วางแผนชีวิตในแต่ละวันสินะ แตกต่างกับผมที่ใช้ชีวิตว่างเปล่าไปวันๆ มีเรียนก็เรียนบ้างขาดบ้าง ใช้ชีวิตชิวๆก็งี้ล่ะครับ หรือจะเรียกอีกว่า ผมไม่ค่อยมีเป้าหมายอะไรเท่าไรในแต่ละวันและชีวิต เพราะชีวิตผมมีพร้อมทุกอย่างพร้อมจนไม่ต้องควญขวายอะไรอีกแล้ว

"นี่ ฟิน ฟิน เป็นอะไรหรือเปล่า เรียกตั้งนานก็ไม่ขาน ถ้าง่วงก็นอนได้นะข้างบน มีห้องนอนด้วย นอนได้!"พี่แต้มแต้มโบก
มือเรียกสติผมตั้งนานกว่าผมจะรู้สึกเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของเขาคนเดียว

"ผมว่าบางทีผมคงง่วงแหละพี่"พักผ่อน สักงีบเดี่ยวค่อยตื่นมาสักหน่อยคงดี หนังท้องตึง หนังตาหย่อน เป็นแบบนี้นี่
เอง ผมก็เพิ่งจะเข้าใจ พี่แต้มแต้มพาผมมานอนในห้องนอนของเขา ส่วนตัวเขาเองก็เลือกที่จะอาบน้ำ ผมหลับไปนานมากมารู้สึกอีกทีก็ตอนที่ ได้ยินพี่แต้มแต้มคุยโทรศัพท์กับใครบางคน แต่ว่าตอนนี้มันเกือบจะหกโมงเย็นแล้ว ผมรีบลุกขึ้นไปหาพี่แต้มแต้มริมระเเบียงชั้นสอง ร่างเล็กเห็นผมตื่นเลยรีบวางสาย

"โหพี่ ไมไม่ปลุกล่ะ อดไปออกกำลังกาย เลย?"ผมว่างัวเงีย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมตั้งเป้าหมายชีวิตไว้แต่ดันหลับสนิทเฉย
เลย พี่แต้มแต้มอมยิ้มบางๆ
"ออกกำลังกายไปได้ทุกวัน พรุ่งนี้ก็เอาใหม่ได้ พอดีเราเห็นฟินนอนหลับสนิทเลยไม่กล้าปลุกนะ ไปพรุ่งนี้กันนะ?"

"อื้อ!"จะให้ทำไงได้ ก็ในเมื่อเวลามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว คืนนี้ผมเลือกที่จะนอนบ้านพี่แต้มแต้ม พี่ แต้มแต้มทำมื้อเย็นไว้แล้วระหว่างที่ผมนอน ตกดึกประมาณตี2 พี่แต้มแต้มก็ปลุกผมมาดูเขาทำขนมไทยอย่างที่ต้อง การ กลวิธีและเวลาถือว่าใช้เยอะพอสมควร พี่แต้มแต้มติดจะมือนิ่มมาก หยิบจับอะไรก็อ่อนนวลไปหมดผมเองมากกว่าที่ตื่นมาเป็นภาระของพี่เขา

วันนี้พี่แต้มแต้มทำขนมโค ขนมชั้น และไข่ระเบิด แค่สามอย่างก็กินเวลาถึง หกโมงเช้าแล้ว พอเสร็จร่างเล็กก็เตรียมขนมใส่ตะกร้าไว้แบ่งเป็นสามเจ้า พี่แต้มแต้มให้ผมถีบจักรยานไปยังร้านที่ตัวเองฝากขาย สามเจ้าก็สามที่ ถีบจักรยานช่วงเช้าๆ
แบบนี้ สมองมันปลอดโปล่ง เงียบสงบได้ยินเพียงเสียงนก เสียงลมเสียงป่า มัยช่างน่ามหัศจรรย์แตกต่างกับชีวิตผม โดยสิ้นเชิง ผมว่าผมเริ่มจะชอบผู้ชาย คนนี้ขึ้นมาแล้วละสิ!!




1เดือนที่แล้ว
"พี่ติน ช่วยแต้มหน่อยล่ะกันนะ ตัวแต้มต้องเข้าเฝือกแบบนี้คงไปดูผลประกาศไม่ได้แน่ ไปให้หน่อยนะแต้มเชื่อว่าแต้ม
ผ่านแน่นอน"
ผมมองน้องชายตัวเองที่ขับรถประมาทจนเกิดอุบัติเหตุจนต้องพันเฝือกทั้งตัวนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล พ่อมองหน้าผมแกมบังคับให้ผมทำ ผมกับน้องเราเป็นฝาแฝดกัน พ่อเอาน้องไปเลี้ยงในวันแยกทางกับแม่ แต่ตอนนี้แม่มีสามีและลูกใหม่แล้ว ผมเลย
อยากอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตเฉกเช่นผู้ใหญ่ เลี้ยงดูตัวเองให้เป็นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้แม่จะส่งเงินมาให้ทุกเดือนก็ตาม

"ทำเพื่อน้องหน่อยล่ะกัน ถือว่าพ่อขอ!"ก็ แล้วจะให้ผมปฏิเสธได้หรือไร?พ่อรักน้องมากกว่าสิ่งอื่นใด ตามใจน้องทุกอย่าง

"ครับ"เพราะคำตกลงนั้น เลยทำให้ผมได้พบกับเด็กผู้ชายคนนึงที่เป็นรุ่นน้องอ่อนกว่าผม1ปี แต่ตัวโต กว่าผมแค่นั้น รายนี้ก็เหมือนแต้มแต้มแหละ ใช้ชีวิตไปวันๆแบบไร้ขีดจำกัด อิสระเสรีและไร้จุดหมาย ตอนแรกๆที่เขาเข้ามาตีสนิทด้วย ผมก็ ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็แค่คู่จิ้นของน้องเดี่ยวพอน้องหายเป็นปกติ เราก็สลับตัวกลับเหมือนเดิม ผมใช้ชีวิตของผมและน้องก็เข้ามาอยู่ในที่ของน้องเช่นเดิม

ในส่วนของสื่อโซเชียวทั้งหลาย ผมเล่น เป็นและก็มีด้วย แต่เพราะระหว่างที่สลับ ตัวกันอยู่ ผมมีข้อแม้กับแต้มแต้มคือให้
เราปิดสื่อโซเชียวไว้ชั่วคราวเพราะผม ไม่ต้องการให้ใครระแคะระคายหรือจับ ได้ว่าพวกเราสลับตัวกัน มันเสี่ยงที่จะโด นจับได้ ผมว่ากันไว้ดีกว่าแก้แต่พอยิ่งนับวันผมกลับผูกพันและสนิทกับน้องฟินเขามากกว่าที่ควร เราสองคนสนิทกัน ขนาดไปไหนมาไหนด้วยกันยิ่งกว่าที่...ควรเป็น เขาไม่ได้เป็นคู่จิ้นของผมด้วยซ้ำ เป็นของน้องชายผมแต่แรกแล้ว แล้ว อย่างนี้ผมจะทำใจจากเขาไปได้ยังไง


เมื่อวันนี้แต้มแต้มกลับมาทวงที่ที่เป็นของน้องสักที .



**เอาคนน่าสงสารอย่างพี่ตินตินมาเสิร์ฟค่าาา ชอบพี่ตินตินนะนางน่ารัก ไม่รู้ว่าถ้าฟินแลนด์รู้ความจริงแล้วจะว่าอย่างไร??

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เอ้าผิดฝาผิดตัว พี่ตินๆแนวดี ชอบอ่ะ   o13

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง

"พี่ตินวันนี้..ทำขนมจีบให้หน่อยนะคู่จิ้นของแต้มชอบกินใช่ไหม? ตื่นเต้นจะได้เจอกับคู่จิ้นของตัวเองสักที!"ผมเงยหน้ามองน้องชายตัวเองที่ยังคงตื่นเต้นไม่หยุดเมื่อจะได้พบกับฟินแลนด์

"อื้อได้ๆ จะไปกี่โมงล่ะ?"ผมถามน้องอีกครั้ง จำไม่ได้แล้วว่าน้องบอกจะไปเจอตอนไหน?

"บ่ายโมง พี่นี่ก็ขี้หลงขี้ลืม เป็นอัลไซเมอร์หรือไง เรื่องแค่นี้ก็จำไม่ได้ แต้มไปเดินเที่ยวกับเพื่อนก่อนล่ะกัน เดี่ยวเที่ยงตรง ย้ำนะพี่ตินเที่ยงตรง แต้มจะให้คนรับใช้มารับ!"ว่าจบหน้าสวยที่เหมือนผมก็หมุนตัวออกจากบ้านผมไปอย่างหัวเสีย ผมคงทำให้น้องอารมณ์เสียอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คงต้องทำขนมจีบของโปรดของฟิน จากนี้ไปผมคงไม่เจอ
กับเขาแล้ว แหวนเงินที่สวมไว้บนนิ้วก้อยที่เขาคนนั้นซื้อให้เป็นวันครบรอบ1เดือนที่รู้จักกัน ผมยังคงสวมมันไว้เช่นเคย คงมีแต่แหวนวงนี้ที่เป็นของไว้ดูต่างหน้ายามเราไม่ได้พบกัน
วันนี้ผมคิดถึงเขาคนนั้น ..ฟินแลนด์!!

"คุณหนูติน สบายดีนะครับ?"
ผมฉีกยิ้มให้ลูกน้องของพ่อที่แวะมารับ ขนมจีบตามคำสั่งของแต้มแต้ม ถึงจะไม่ได้เข้าไปอยู่บ้านพ่อโดยตรงแต่ ลูกน้องทุกคนในบ้านพ่อก็เคารพผมและให้เกิยรติผมเหมือนกับแต้มแต้ม

"ครับสบายดี พี่ชิมล่ะครับสบายดีไหม?"

"ก็เหมือนเดิมครับ ยังสบายดี!"ผมยื่นขนมจีบให้พี่ชิม ลูกน้องร่างสูงหล่อยังคงยิ้มบางๆ คนนี้ค่อนข้างจะเย็นชานัก แต่แปลกที่ทนอยู่กับเด็กเอาแต่ใจ นิสัย เสียอย่างแต้มแต้มได้

"กล่องนี้ให้แต้มแต้มนะครับ ส่วนถุงนี้ผมให้พี่ชิมและก็ทุกคนครับ แบ่งๆกันกินนะครับ!"

"ครับคุณหนู ขอบคุณนะครับ!"หลังพี่ชิม ขับรถออกไป ผมได้แต่ถอนหายใจนั่ง เงียบเหงาคนเดียว หมดเวลาของตัวสำ รองอย่างผมแล้วสินะ ทำไมเวลาของเรา ช่างน้อยเหลือเกิน ผมว่าผมรักเขาแล้ว!!


"พี่ติน แหวนของแต้มอยู่ไหน? แหวนที่ฟินให้ครบรอบ1เดือนที่รู้จักกันนะอยู่ไหน?"ผมสะดุ้งตื่นเมื่ออยู่ๆแต้มแต้มก็เข้ามาบ้านผมอย่างเสียมารยาท

นี่มัน 4ทุ่มแล้วทำไมน้องถึงนิสัยเสียขนาดนี้นะ!

ร่างสวยในชุดนักศึกษาผ้าเนื้อดีแสนแพงตรงเข้าอาลาวาดใส่ผมทั้งที่ผมยังตื่นไม่เต็มที่

"เออคือ..พี่เอ่อ พี่ลืมให้นะ!"ถึงขนาดนี้แล้วจะให้ผมยื้อเก็บไว้ได้ยังไง มันควรเป็นของน้องแต่แรกแล้ว แต้มแต้มชักสีหน้าหงุดหงิดเดินถึงตัวมือผมแล้วถอดแหวนบนนิ้วก้อยเอง "อย่าให้แต้มรู้นะว่ามีอะไรที่ยังไม่บอก ไม่คืนแต้มอีก พี่ตินควรรู้ไว้ด้วยนะว่าฟินเขาเป็นคู่จิ้นของแต้ม และของทุกชิ้นทุกอย่างที่เขาให้เป็นของแต้มไม่ใช่ของพี่ติน"

ผมถึงกับนั่งเม้มปากแน่น เข่าอ่อนลงบนโซฟานอน จริงอย่างที่น้องว่าผมไม่มีสิทธ์อะไรทั้งนั้นทุกอย่างเป็นของแต้มแต้มตั้งแรกอยู่แล้ว ผมจะครอบครองได้ยังไง?


เมื่อนั่งอยู่คนเดียวเงียบเหงา ภาพความ ทรงจำเรื่องวันวานก็หวนกลับมานั้นยิ่งทำให้ผมเริ่มจะมีน้ำตานองจะไหลลงมา
ผมเปิดมือถือเครื่องหรูที่นอกเหนือจากฮีโร่รุ่นอาม่าของแม่มาดูข่าวคราวรอบโลก ผมกับเขาคนนั้นเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันบนเฟสบุ้คเพราะยอดการเป็นเพื่อนของเขาเต็ม ทำได้เพียงแค่ติดตามเท่านั้น แต่นั้นมันเป็นผลดีกับผมที่เราจะได้ไม่ต้องรู้จักกัน ให้ผมหายไปกลายเป็นฟองอากาศอย่างกับนางเงือกในนิทานที่หลงรักเจ้าชายจะดีกว่า เพราะระหว่างเรามันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว..


ตินติน วินเธอร์ สตรอรี่ย์ อัพสเตตัส :: ฟองอากาศที่เลือนลาง T^T

ผมพิมพ์สเตตัสลงไปอย่างเหนื่อยล้า ใจแอบคิดว่าอยากจะแวะหาอะไรทานข้างนอกหน่อยแต่แรงจะไปไม่มี มันหนักอึ้งไปหมด ทำได้เพียงกดดูไลฟ์สดของผมกับฟินตั้งแต่ไลฟ์แรกจนถึงไลฟ์ล่าสุดที่เป็นไลฟ์ของเขากับแต้มแต้มหากมีโอกาสบอกได้ ผมอยากให้ฟินรู้ว่า ผมอยู่ตรงนี้และดีใจที่ได้พบกัน เวลา1 เดือนที่รู้จักกันมา มันคุ้มค่าและมีความ หมายกับผมจริงๆ


ก้อกๆ

หนึ่งอาทิตย์ที่แสนจะหมองหม่น ของผมผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า ผมรีบ เดินไปเปิดประตู แม่กับยายบอกจะมาหาผมวันนี้แต่ก็ยังมาไม่ถึงสักที นี่ก็คงมาถึงล่ะ?

"ไง?"

"..."ผมแทบล้มทั้งยืนเมื่อร่างสูงที่ผมไม่เจอหน้ากันมาหนึ่งอาทิตย์เต็มยืนอยู่หน้า ประตู

"ไง!"ผมยิ้มบางต้อนรับเขาในครั้งแรกที่เจอกันในรอบอาทิตย์ ฟินถือวิสาสะเข้า มาในบ้าน ซวยแล้วไงถ้าแม่กับยายมาล่ะก็ ความลับแตกแน่!

"แต่งตัวหล่อเชียว จะไปไหนรึครับ?"นั้น ไง ซวยๆๆๆ

"คือแม่กับยายจะมารับกลับบ้านนะ เราเลยแต่งตัวรอนะ"

"อ้อ!!"ร่างสูงพยักหน้ารับรู้

"แล้วสบายดีไหม?"ที่ถามเพราะผมไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรดี เราห่างกันไปสักพักแล้ว

"ก็สบายดีพี่ล่ะ?"เอาแล้วเอาล่าว ถามยังกับเราไม่เจอกันนานเหมือนกันนั้นแหละ ทั้งที่ฟินเจอกับแต้มแต้มทุกวันนี่น่า

"ก็สบาย สบายดี"ผมตะกุกตะกักตอบ โอ้ยๆขออย่าให้ฟินจับได้เลย ร่างสูงถอนหายใจแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ เป็นอะไร
ของเขานะ

"พี่รู้ไหม? ผมรู้สึกแปลกๆมาตลอดทั้งอาทิตย์เลย เหมือนพี่ไม่ใช่พี่?"ผมสะดุ้งเฮือกคงไม่ได้แปลว่าฟินรู้เรื่องแล้วใช่ไหม?

"หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่ทำตัวแปลกหลายอย่าง พี่ไม่แทนตัวเองว่าเรา แต่กลับแทนตัวเองว่า แต้ม แถมนิสัยก็เปลี่ยนด้วย พี่ดูหงุดหงิด เอาแต่ใจ ใจร้อนแถมยังไม่เหมือนก่อน ด้วย ถามเกี่ยวกับเรื่องขนมไทยพี่ก็ดูอึดอาดยืดยาดไม่เหมือนกับคนตรงหน้าผมตอนนี้เลย ผมรู้สึกแบบนั้น!"

ฮึก ผมหันหลังกลั้นน้ำตา ฟินเองรู้ดีว่า ผมกับแต้มต่างกันขนาดไหนแม้คนอื่นๆ(แฟนๆ)จะแยกเราไม่ออกก็เถอะ แค่ร่างสูงรับรู้และรู้สึกได้ก็เพียงพอแล้ว

"พี่..ผมนะชอบเวลาอยู่กับพี่ตรงหน้ามากกว่านะ แค่นี้ล่ะที่ผมอยากแวะมาบอก!" ฟินพูดจบและก็เดินจากไป ครั้งนี้ผมน้ำ
ตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆเพราะครั้งนี้ที่ผมร้องไห้เพราะผมดีใจ ดีใจที่ฟินชอบอยู่กับผม เหมือนที่ผมชอบเวลาอยู่กับเขา..

ปิ้นนนน..
"ตินตินลูก กลับบ้านเรากันเถอะ!!"

แม่กับยายมารับผมกลับบ้านเรือนไทยอย่างที่ผมต้องการ ผมกอดแม่ไว้อย่างแสนคิดถึง ถึงแม่จะมีน้องกับพ่อใหม่แล้วแต่แม่ก็ไม่ ได้ถอดทิ้งผมไปไหน ผมยังสามารถเจอแม่ในวันที่ผมต้องการ

"ถังถังกับถุงถุงไม่มาด้วยหรือครับแม่?"ที่ถามถึงน้องคนละพ่อวัย4ขวบวัยกำลังแสบ ซน ซ่าห์นั้นก็เพราะว่าไม่เห็นเจ้าลิงสองตัววิ่งมาด้วย แม่ยิ้มบาง

"มาจ่ะลูก แต่ไปคันเดียวกับพ่อเขานะ เราไปกันเถอะ แม่ละกลัวว่าลิงจอมแสบ จะป่วนเรือนไทยพังก่อนนะสิ!"

แม่พูดซะเห็นภาพเลย โชคดีที่พ่อเลี้ยงคนนี้ของผมใจดี รักและเอ็นดูผม ไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับในข่าวที่ว่าคนที่เป็นพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงจะใจร้ายและทำร้ายลูกเลี้ยง ถึงพ่อจะไม่รักผมเท่าน้องแต้มแต้ม แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงความรักของทุกคน ทั้งพ่อ ทั้งแม่ และพ่อเลี้ยง

ผมเดินเข้ามาในรถ ยายหอมแก้มผมทันที ยายคิดถึงผม ผมก็คิดถึงยาย การมาพักผ่อนในครั้งนี้ ผมว่าถ้าได้กลับไปชีวิตผมคงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม


9 วันผ่านไป..วันนี้ผมพร้อมจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว ชีวิตที่เรียบง่าย เรียนและทำขนมขายเช่นเดิม ไม่มีฟินแลนด์ ไม่มีแฟนๆ และไม่มีโครงการคู่จิ้นใดๆ

เพี้ยะ!!
ทันทีที่เปิดบ้านตัวเองเข้ามา มือเรียวของใครคนนึงก็หันผมมาตบหน้าโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

"แต้ม นายตบหน้าพี่ทำไม?"ผมก็มีโมโหบ้างสิครับ ถึงน้องจะนิสัยเสีย แต่การมาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ ผมมีสิทธ์ฟ้องน้องกลับได้..

"นี่พี่โง่หรือคิดจะแฉแต้มกันแน่ หายหัวไปไหนมาหลายวัน ไม่รู้หรือไงว่าแต้มเดือดร้อน ฟินเอาแต่ถามหาถึงเรื่องของพี่ ขนมของพี่ พี่คิดจะแฉแต้มสินะเลยจงใจหนีหายไปแบบนี้เพื่อที่จะให้แต้มอับจนหนทาง และฟินก็จะได้จับได้ว่าเราสลับตัวกัน!!"

เหมือนแต้มแต้มจะรอเวลาระบายมานาน ผมลูบแก้มตัวเองเพื่อบรรเทาอาการแสบ เรื่องแค่นี้ ผมลืมคิดไปเลย ก็ไม่แปลกที่น้องจะโกรธผม แต่จะให้ผม เป็นเงาตลอดไป ผมไม่อยากเป็น!


แปะๆๆ
เสียงตบมือดังขึ้นมาเมื่อเราสองคนพี่น้องมองหน้ากัน

"กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้?"

"ฟิน!!"ทั้งผมและแต้มแต้มมองหน้าร่างสูงที่มาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

"คือฟิน แต้มอธิบายได้นะ"แต้มแต้มหน้าซีดเผือกพยายามที่จะอธิบายแต่ร่างสูงกลับไม่ยอมฟังแถมยังเดินเข้ามากอดเอวผมไว้อย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

"หยุดคำอธิบายของคุณเถอะ เพราะต่อให้คุณจะเป็นแต้มแต้มตัวจริง แต่ผมก็ไม่ได้อยากฟังคำอธิบายจากคุณ
ผมอยากฟังคำอธิบายจากคู่จิ้นที่อยู่กับผมเมื่อ1 เดือนก่อนมากกว่านะ"ผมรับรู้ ถึงแรงกอดที่แน่นกว่าเดิม ซวยแล้วสิ ฟินกำลังโกรธผมอยู่ ผมรู้.. แต้มแต้มมองผมกับฟินอย่างเคืองๆ

"ทำไมแต้มต้องหยุดพูดด้วย จะบอกอะไรให้นะ พี่ตินก็เป็นแค่เงาเท่านั้นแหละ เป็นเงา เป็นขี้ข้าให้แต้มเสมอ และครั้งนี้ก็เหมือนกัน ถ้าแต้มไม่เข้าเฝือกเพราะอุบัติเหตุล่ะก็ ฟินอย่านึกเลยว่าจะได้รู้จักคู่จิ้นจอมลวงโลกคนนี้แน่ แต้มเป็นคู่จิ้นตัวจริงของ
นายนะฟิน ไม่ใช่พี่ติน!"

แต้มแต้มแฟดเสียงดังเหมือนโมโหมากที่ฟินเลือกที่จะอยู่ข้างผม จริงๆฟินไม่ได้เลือกผมเลย เขาแค่จับตัวผมไว้เป็นตัวประกัน กลัวผมหนีเขามากกว่า

"หึ งั้นฉันก็คงโชคดีที่นายเกิดอุบัติเหตุ และพาพี่ชายฝาแฝดของนายมาให้ฉันได้รู้จักก่อนนาย เพราะหากฉันรู้จักนายก่อนพี่นายล่ะก็ บอกเลยว่า ฉันขยะแขยงและรังเกียจนายสุดๆ"

"ไม่จริงๆ!!"ผมพยายามห้ามไม่ให้ฟินพูดอะไรอีกเพราะตอนนี้ดูเหมือนฟินกำลังทำน้องผมโกรธจนคุมสติไม่อยู่..

"จริง..และฉันก็ขอบอกไว้เลยว่า นายเทียบพี่ชายนายไม่ได้เลย ทั้งขี้โมโห เอาแต่ใจ น่ารำคาญขนาดนี้ ฉันไม่เคย คิดอยากอยู่ด้วยหรอก!!"

กรี้ดดดดด...แต้มแต้มอาลาวาดหนัก เข้ามาจะตบตีผมกับฟินแต่ดีที่พี่ชิมยืนดู เหตุการณ์ว่าย่ำแย่เลยเข้ามาห้ามปรามพี่ชิมลากแต้มแต้มกลับขึ้นรถไปอย่างยากลำบากพอตัว ผมจะไปปลอบให้น้องสงบลงแต่ร่างสูงของฟินกลับกอดผมไว้ ไม่ให้ผมไป

"ฟิน ปล่อยเราเถอะนะ ฟินทำน้องเราโกรธใหญ่แล้ว!!"

"โกรธก็ช่างสิ แต่เรื่องของเรายังเคลียร์ไม่จบกันเลยนะพี่ตินติน!!"ผมซวยแล้ว ร่างสูงรู้จักชื่อผมด้วย แม่จ้า ยายจ้า มาช่วยผมที...



"เออคือ ฟิน สบายดีไหม?"ผมรู้ว่าผมควรจะโกรธที่ร่างสูงลากผมเข้าบ้านตัวเองแถมยังเป็นห้องนอนตัวเองด้วย แต่อารมณ์ฟินตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า เดาไม่ถูกเลยจริงๆ

"ก็คงจะสบายล่ะครับ หายโง่สักทีที่โดน หลอกมาตั้งเดือนหนึ่ง"แหม รายนี้ก็ช่าง ประชดประชันน้าาา

"โถฟิน ฟินไม่โง่เลยนะ เราผิดเองแหละที่ยอมทำตามที่น้องสั่ง"ผมรีบบอกเขา กลัวเขาจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้

"โง่ไม่โง่ไม่รู้ แต่ที่ผมรู้ พี่หลอกผม หลอกผมมาตั้งเดือน"ร่างสูงตะคอกใส่ เบาๆก็ได้นะ อยู่กันสองคนเอง

"ก็มันจำเป็น เราขอโทษนะ"ยอมขอโทษดีดีก็ได้เพราะผมรู้ ผมผิดเองนี่น่า

"ขอโทษ แค่ขอโทษพี่คิดว่าผมจะหายหรอ?"อ้าว...แล้ว??

"งั้นฟินจะเอายังไงล่ะเราผิดเราก็ยอมรับ ตอนนั้นที่ตกลงทำตามน้องเพราะพ่อขอ ด้วย แต่ตอนหลังไม่ชอบเลยเวลาเห็น ฟินอยู่ใกล้กับแต้มแต้ม"

"เออ ก็แล้วไม่ชอบเห็นแต่ทำไมถึงปล่อยให้ผมอยู่ใกล้กับน้องพี่อีกล่ะ รู้ไหมถึงต่อให้พวกพี่สองคนจะหน้าเหมือนกันมากกว่านี้แต่ผมก็จะยังชอบพี่อยู่ดี และก็จะแยกออกให้ได้ด้วย พี่รู้ป่ะ ผมพยายามหาทุกช่องทางเพื่อที่จะพิสูจน์ลางสังหรณ์ตัวเองมาโดยตลอดหลังจากที่น้องพี่มานะเพราะผมเชื่อ คนที่ผมรักไม่นิสัยแบบนั้นแน่ น้องพี่แม่งนิสัยเสียว่ะ!"ผมนั่งฟังฟินระบายความอัดแน่นด้วยความขบขันไม่ออกที่ร่างสูงกำลังด่าฉอดๆๆนั้นมันน้องชายฝาแฝดผมนะ และก็ได้ข่าวว่าร่างสูงเอง ก็มีนิสัยแบบนี้เหมือนกันเมื่อก่อนหน้านี้..

"นิสัยก็เหมือนกันนั้นแหละ ทำบ่น"
ผมพูดมุบมิบกับตัวเองเบาๆ แต่เพราะความเงียบเลยทำให้ร่างสูงอารมณ์เสียอยู่นั้นได้ยิน

"เออนิสัยเสีย แต่ตอนนี้โอเคแล้ว ทำได้แล้วเห็นไหม?"เอิ่ม ผมว่าไม่นะ ก็ดูสิ เขายังโมโหโกรธเคืองผมจนแทบ
จะกลืนกินผมทั้งตัวแล้ว

"อื้ม เห็นแล้วว่าเปลี่ยนไปจริงๆ คือเราเหนื่อยเดินทางมา ฟินกลับก่อน นะเรื่องของเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้น้า?"

"ไม่!!"อะเฮือก~ ทำไมต้องตะคอกด้วยเล่า คุยเฉยๆตินก็ได้ยินนะ.. ร่างสูงเดินเข้ามาถึงตัวผมโดยไม่ทันตั้งตัว มันไวจนผมหนีไม่ทัน ผมเลยตกอยู่ใต้อาณัตคนตัวโตที่อายุน้อยกว่า1 ปี ผมเป็นพี่มันนะเกรงใจกันบ้างสิ!
"ฟิน หยุดนะฟิน อย่าทำอะไรแบบนี้!!"

ผมพยายามผลักร่างสูงออกห่างเพื่อเรียกสติ ฟินแลนด์บ้าไปแล้วหรือไง ทำไมต้องมาทำอะไรกับผมแบบนี้ด้วย ผมไม่ชอบนะ ถึงผมจะชอบเขาก็เถอะ..


ร่างสูงยังคงจูบหนักๆเพื่อสร้างรอยตรงซอกคอและบนตัวผมไม่หยุด ผมกลัวจริงๆนะ เขาเหมือนหมาบ้าที่ทุบตีเท่าไรก็ยิ่งอาลาวาดยกใหญ่ ผมพยายามดิ้นหนีจนเริ่ม จะหมดแรงเอง เสื้อที่ใส่กลับมาถูกร่างสูงเลื่อนขึ้นมาจนเหนืออก ซ้ำปากร้ายก็ดูดเม้มหัวนมบ้าง กัดหนักๆบ้างเพื่อหยอกล้อหรือแกล้งผม กันแน่ ผมบิดตัวเสียวซ่านเมื่อมือหนาเลื่อนเข้ามาในกางเกงยีนส์ตัวโปรดแล้ว กอบกุมน้องรักผมไว้หนึ่งกำมือ
"โทษฐานที่พี่โกหกผม ผมจะลงโทษพี่..ทั้งคืน แต่โทษฐานที่พี่คิดหนีผมไป ผมจะลงโทษ...ทั้งชีวิต!!"ผมมองร่างสูงที่ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าตัวเองด้วยหัวใจเต้น ตุบตับ อะไรนะคำเมื่อกี้..มันแปลว่าอะไร ฟินแลนด์กำลังสื่อว่าเขาอยากให้ผมอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตใช่ไหม? ผมอดที่จะมือสั่น ตัวสั่น เมื่อร่างสูงดึงผมให้นั่งบนเตียงถอดเสื้อผมและกางเกง หน้าตาดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

"ฟะ ฟิน ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม?"ผมถามร่างสูงอีกครั้ง สองมือปกปิดเนื้อตัวไว้ มันอายครับ ฟินยกยิ้มร้ายเป็นยิ้มที่ผมไม่ชอบเอาเลย

"ไม่ทันล่ะครับเพราะพี่ปล่อยให้ผมอยู่กับน้องพี่นานไป นิสัยเสียๆของผมเลยกลับมา หึ ที่นี้ก็หาทางแก้นิสัยผมเองอีก ก็แล้วกันนะครับ แต่ตอนนี้ เย็นนี้และคืนนี้ถ้าผมทำแรงไปพี่ร้องครางดังๆนะครับ ผมชอบ!!"

ผมยิ่งหน้าแดงก่ำ ฟินพูดเอา แต่ใจทั้งนั้น รางสูงจ้องมองผมไม่วางตา แถมยังปลดกางเกงตัวเองลงไป ผมตา ลุกวาว ใหญ่ขนาดนั้นจะเข้าไปในตัวผมได้ไง?

"แต่ แต่ฟินลงโทษแบบอื่นก็ได้หนิ?" บอกเลยว่าผมกลัวทันทีที่เห็น

"ไม่ครับ แบบนี้แหละ เขาเรียกว่าลงโทษเพราะความรักครับ"



ผมถูกปลุกขึ้นมาในช่วงดึก ฟินกำลังไลฟ์สดอยู่ ให้ตายเด็กคนนี้ทำบ้าอะไรอีก ผมรีบเอาผ้าห่มปิดรอยช้ำแดงที่ปีศาจร้ายจงใจทำไว้และเปิดโชว์ให้คนอื่นเห็น มือหนาที่ให้ผมหนุนนอนแทนหมอนกลับสะบัดผ้าห่มออกเพื่อแกล้งผมอีก ผมเลยต้องรีบปกปิดร่างกายไว้แล้วขยับเข้าหาเขาโดยเร็วเพื่อหาที่บังกาย หากแต่รอยช้ำข้างหลังก็บ่งบอกชัดเจน ผมอายจนหน้าแดง ตัวแดง แต่ร่างสูงกลับยิ้มมีความสุขคุยจ้อกับแฟนๆไม่หยุดซ้ำยังหอมแก้มผม และจูบจริงๆโชว์แฟน ๆ ผมพยายามผลักเขาออกห่าง นี่มันเกินไปแล้วนะ ประกาศให้คนอื่นรู้แบบนี้ถ้าแม่กับยายรู้เข้าเอาผมตายแน่มือหนากดปิดการทำงานของมือถือเครื่องหรูแล้วโยนมันทิ้งบนโซฟาอย่างไม่ใยดี

"อย่านะฟิน ปล่อยเรานะเราไม่ชอบแบบนี้!!"ผมพยายามจะหนีเขาสุดชีวิต

"ก็ผมบอกพี่แล้วไง พี่ปลุกปีศาจนิสัยเสียของผมขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นพี่ก็หาทางแก้ไขมันเองนะก่อนที่ผมจะลงโทษพี่จนช้ำในตาย!!"


หึเกลียด!!! สักวันผมจะ ทำให้ฟินคนเก่าคนดีกลับมา





The end..จบไปอีกคู่ 555 หายไปนานมาก (สามเดือนพอดี) จะพยายามมาอัพนะคะ ขอโทษจริงๆ T^T

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
กลับมาแล้ว เย้ๆๆๆๆๆ คิดถึง หายไปนานเลย รออยู่ทุกวัน แอบจิ้น พี่ขิมกับแสบแต้ม  :hao7:

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง


วันไนท์-มิกซ์


         ผมนั่งเหม่อมองร่างสูงสง่าที่ติดจะขรึมราวกับเจ้าชายอย่างพี่ครูสด้วยความนับถือ ร่างสูงเป็นเหมือนคนในฝันที่ผมตั้งสเป็กไว้ ยิ่งได้ถูกคัดเลือกมาด้วยกันในโครงการนี้ผมก็หวังยังอยากจะเป็นคู่จิ้นกับเขา
ถ้านะถ้า ถ้าได้เป็นก็คงดี.. ตอนนี้พวกเรามารวมตัวเพื่อถ่ายโปสเตอร์รูปโปรโมทแต่ที่ผมต้องมานั่งเซ็งๆนั้นก็เพราะคนนี้

"แหม จ้องเป็นมันขนาดนั้น ใครดูไม่ออก นี่ควายเลยนะ!"ผมเซ็งเป็ด เซ็งไก่ยิ่งกว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้นเมื่อต้องมาเป็นคู่จิ้นกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากัน

"แหม ส่งยิ้มหวานทุกครั้งขนาดนั้น ใครดูไม่ออกนี่ควายคูณสองเลยเนาะ"ผมเองก็ใช่ย่อย เถียงเขาฉอดๆๆ มันน่าหงุดหงิดที่ต้องมาเป็นคู่จิ้นกับเขา แถมคนที่เราชอบทั้งสองคนดั้นเป็นคู่จิ้นกันเองอีก โอ้ย ผมอยากจะว้อนส์ให้สลับคู่กันใหม่จริงๆ ไม่ได้อยากจะได้คู่กับไอ้พี่วันไนท์จอมเซอร์คนนี้เลย เกลียดขี้หน้า..

"เรื่องของพี่ไหมน้อง!"หนุ่มเซอร์ยังคงเถียงไม่จบ

"แล้วเรื่องของน้องไหมล่ะพี่!!"ผมยักคิ้วกวนเขากลับไปบ้าง

"จ้าๆรู้แล้วจ้าว่ารักกันมากเลยคู่นี้ มาค่ะๆ มาถ่ายรูปคู่กันเลยน้า ถึงคิวแล้วค่ะ"เจ้สองเดินเข้ามาห้ามทัพ เราสองคนก็รู้ว่าเกลียดขี้หน้ากันยังจะให้เราคู่กันอีก ผมรีบลุกขึ้นยืนเห็นพี่ครูสกับพี่เรย์ออกมาจากการถ่ายรูปคู่ที่แสนจะราบรื่นและหวานหยดย้อยจนน่าอิจฉา

"น้องเรย์ถ่ายรูปหล่อมากเลย"หนุ่มเซอร์ ข้างกายผมหยอดคำหวานใส่พี่เรย์คนที่ตนรัก แหวะ น่ารำคาญหูจริงๆ พี่ครูสเดินผ่านหน้าพวกเราไปแถมยังจูงมือพี่เรย์ไปด้วย เหอะ โคตรอิจฉาตัวโตๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!! ผมเย้ยหยันหนุ่มเซอร์ที่เอาแต่ยิ้มกว้างให้พี่เรย์แต่กลับถูกร่างเล็กไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องเดินตามพี่ครูสไปแล้ว

"สงสารเนอะ เขาไม่แล"ผมทิ้งท้ายแล้วเดินไปประจำที่ถ่ายรูป ร่างเซอร์เดินเข้ามาติดๆ กระชากแขนผมกลับ

"สงสารเหมือนกัน แม้แต่หน้าเขาก็จำไม่ได้"เฮือก เจ็บ เจ็บถึงทรวงในเลย

"ไงล่ะโถ ถัง กะละมัง ไห เลยสิ"
ร่างเซอร์เดาะลิ้นจนได้ยินเสียงกรอกเย้ยผม แค้นครับแค้น อยากด่าแต่ด่าไม่ออก ผมมองเขาหางตาอย่างโกรธแค้น

ฟุบ!!
"โอ้ย ไอ้..ไอ้.."ผมเหยียบเท้าร่างเซอร์เพื่อคลายแค้น พี่วันไนท์มองผมกลับอย่างเจ็บแค้น ขาข้างที่โดนผมเหยียบ เขายกขึ้นมาถูๆคลายความเจ็บ

"จู้กๆๆๆๆๆๆๆ"ผมทำเสียงจิ้จ้ะเลียนแบบจิ้งจก

"อย่าเอะอะโวยวายพ่นคำหยาบสิครับ มันไม่ดี ไม่เพราะ เดี่ยวพี่เรย์รู้ตัวตนเข้า แย่เลย!"ร่างเซอร์หยุดคำที่จะพ่นออกมา เชื่อเถอะครับ ผมกับพี่วันไนท์ก็ไม่ได้ต่างกันเลย เราต่างแสร้งเป็นคนดีในสายตาของคนที่เราชอบแต่มันจะต่างก็ตรงที่พี่ครูสไม่เคยรู้ว่ามีผมที่แอบชอบเขาอยู่ แต่พี่เรย์รู้ว่าพี่วันไนท์ชอบเขาแค่นั้น..

"อะๆๆ เลิกหวานกันได้แล้วค้าา ถ่ายรูปกันได้แล้วนะคะ เจ้ขอ!!"เป็นอันจบข่าวครับ ถ่ายก็ถ่าย ผมเองก็ไม่ได้ อยากอยู่
กับหนุ่มเซอร์ปากหมาด้วยหรอก


การถ่ายรูปของเราเป็นไปอย่างฉุดละฮุดวุ่นวายภาพแต่ละภาพที่ออกมาเป็นภาพที่เราถกเถียงกันหมางหน้ากันและทะเลาะกันอย่างเห็นได้ชัด เออ..ก็คนมันเกลียดกันจะให้ทำหน้าระรื่นถ่ายรูปกันหรือไง ไม่ล่ะ!!



"โว้ย นี่พี่ไม่คิดจะไปกินร้านอื่นหรือไง ตามผมไปทุกทีเลย เป็นสัมพเวสีว่างั้น" ผมบ่นอุบมันน่ารำคาญคนตรงหน้าที่ลอยหน้าลอยตาตามผมออกมาจากห้องถ่ายรูปจนมาซื้อข้าวซื้อน้ำแถมยังมากินโต๊ะเดียวกับผมอีก แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่า

สัมพะเวสีได้ไง ?

"โห้ย มั่นหน้านะคนเรา นี่ๆนี่ที่สาธารณะนะครับน้อง ดูดีดีสิครับบบ"เหอะ อยากตบปากคนเป็นพี่จริง ผมเบะปากมั้นไส้

"รู้ครับพี่ว่านี่ที่สาธารณะ แต่พี่ก็แหกตาดูบ้าง มีแค่เราสองคนนั่งกินตอนนี้ พี่ก็เลือกสักที่สิครับบบ ชิ่วๆๆ"
มีไล่ละครับ จะบ่ายสองครึ่งแล้ว ผู้คนเลยไม่มีเท่าไรที่ลานอาหารของมอ. ผมชอบมาทานข้าวเที่ยงประมาณช่วงนี้ เหตุผลง่ายๆครับขี้เกียจต่อแถวยาวเหยียดแย่งกับคนอื่นๆ

"แหมๆ ไล่จังนะ นี่ถ้าเป็นไอ้ครูสก็คงจะยิ้มหน้าบานล่ะสิท่า"

"เออ เหมือนพี่ป่ะ เจอหน้าพี่เรย์ทีไร หน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลย"ยังเถียงเขาไม่เลิก เข้าใจอารมณ์ไหมครับ คนไม่ชอบหน้ากันแต่กลับมานั่งกินข้าวด้วยกัน ผมล่ะเบื่อ..

"เออ อยากถามตั้งแต่เมื่อวานล่ะ?อยากรู้วะชอบไอ้ครูสตรงไหน แม่งหน้าก็เย็นชาซะคุณชายผีดิบขนาดนั้นหลงชอบไปได้ไงคนแบบนั้น?"

"อ้าวพี่ พูดงี้ต่อยกันเลยป่ะวะ ก็แล้วจะทำไมวะพี่ คนมันชอบ เห็นปุปมันบลิ้งงงงง มันก็ใช่ป่ะว่ะพี่ ทำเป็นว่าพี่ครูส เหอะ ตัวเองสู้ไม่ได้เลยพาลว่างั้น อย่างพี่ครูสนะน่าหลงใหลน่าค้นหามาก"ผมรีบแย้งข้อกล่าวหาที่พี่เขาว่าพี่ครูส ก็แหม..ตัวเองไม่มีอะไรเทียบพี่ครูสเลยพาลสินะ

"น่าค้นหาบ้านป้ามึงดิน้อง แหกตาดูนะ กับคนเย็นชาขรึมๆแบบนั้นออกแบบความรักไม่ได้หรอก!"



ผมนั่งจิ้มมือถือตัวเองไปเรื่อย คำพูดของพี่วันไนท์ยังตามมาหลอกหลอนถึงหอพัก เราแยกย้ายกันกลับหอใครหอมันหลังจากกินข้าวหมดจาน

มิกซ์ จันทรามิตร อัพสเตตัส ::
#ถึงความรักจะออกแบบไม่ได้ แต่ความรักแอบบอกได้นะ #MK

ผมอัพสเตตัสของตัวเอง แล้วตัวย่อMK ก็มาจาก M = Mix และ K = Kruz ครับ ตัวอักษรย่อสองตัวที่ผมใช้เป็นแฮ็กแท็ก ของตัวเองมาร่วม 180 วันที่ผ่านมา นับจากวันที่ผมแอบชอบพี่ครูส ผมตกหลุมรักหนุ่มหมาดขรึมตั้งแต่วินาทีที่เห็นร่างสง่าลงมาจากรถคันงามของตัวเองในวันที่ผมเข้ามารายงานตัวเข้าเป็นนิสิตนักศึกษาที่นี่

ไม่ทันผมจะวางมือถือเพื่อลุกขึ้นไปอาบน้ำนอน ข้อความแจ้งเตือนก็เด้งเข้ามา ผมกดอ่านอย่างรวดเร็ว ไม่รู้หรอกว่าใครมาคอมเมนส์สเตตัสที่ผมเพิ่งอัพไปก็ชื่อมันยาวแปลกๆ

อภิมหาเศรษฐีผู้หล่อเหลาและร่ำรวย วันไนท์สเตย์รักใครรักจริง :: แหมน้อง.. สเตตัสอย่างคม พี่ช้อบชอบ ^3^

ยี้!! คนบ้าอะไรชื่อยาวเป็นหางว่าวเนี่ย แล้วยังจะตามมาเผือกบนไทม์ไลน์ผมอีก เดี่ยวนะประเด็นคือเราเป็นเพื่อนบน
เฟสบุ้คตอนไหนกัน ผมว่าผมไม่น่าหลงผิดรับชื่อนี้เป็นเพื่อนแน่..ไอ้พี่วันไนท์!!

มิกซ์ จันทรามิตร :: คมแล้วบาดป่ะล่ะ?ถ้ายังเดี่ยวส่งมีดไปให้ รับรองคมอย่างที่พี่ช้อบชอบเลย.. ^6^

ผมขี้เกียจจะมาทะเลาะกับพี่วันไนท์อีกตัดใจวางมือถือแล้วไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน ป่วยกะบาลจะคุยกับคนแบบนี้สู้อาบให้ผ่อนคลายแล้วนอนดีกว่า

ฟึบ!!
 อะไรๆไฟดับหรอ? มันมืดไปหมด
 ระหว่างที่ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยความมืดเพราะไฟดับนั่น ผมตรงไปหยิบมือถือที่ตั้งบนเตียงขึ้นมาเปิดให้แสงไฟพอนำทางในความมืด ผมออกมาข้างหน้าห้องปรากฏว่ามีการประกาศว่าคืนนี้ไฟจะดับทั้งคืน ทุกคนแต่ละห้องในอพาร์ตเมนส์ต่างโวยวายยกใหญ่จำใจกลับเข้าห้องตัวเอง ผมเกลียดความมืดไม่ชอบบรรยากาศแบบนี่เลย สองมือสั่นๆเลื่อนหาเบอร์เพื่อนแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพี่วันไนท์โทรเข้ามาด้วยระบบเฟส ผมรีบกดรับ


"พี่ มารับหน่อยสิ ไฟดับผมกลัว!"ผมพูดเสียงสั่นกลัว มันน่ากลัวไปหมด

(เออ หอไหนเดี่ยวไปเลย)
ก็ไม่รู้ทำไมพี่วันไนท์ถึงได้ยอมกันง่ายๆทั้งที่เราทะเลาะกันทุกครั้ง

"หอแพรพีร์ ซอยพู่กันนะพี่ ห้อง1203 เดี่ยวพี่ พี่ห้ามวางสายผมนะ?"ผมขอไว้ ไม่อยากอยู่คนเดียวกับความมืด พี่วันไนท์ไม่วางสายอย่างที่ผมขอ

(โอเค ขับรถอยู่นะอยู่หน้ามอ.กับเพื่อนพอดี แล้วกินอะไรยังล่ะ?) ผมรู้พี่วันไนท์ พยายามชวนผมคุย

"ก็ยัง ว่าจะไม่กินแล้วจะนอน"

(อ้อ งั้นพี่พาข้าวขึ้นไปกินนะ หิววะซื้อมาแล้วด้วย แล้วเทียนมีป่ะ?)

"ไม่ ไม่มี พี่ซื้อมาก็ได้ แต่ห้ามวางสายนะ อย่าวางสายเด็ดขาด"

(แหม สั่งจังนะ กลัวอ่ะดิ")เหอะ.. ยังจะมีอารมณ์มาแกล้งผมอีก ผมยิ่งกลัวๆอยู่ ..

"จะกลัวไม่กลัวก็เรื่องของผมป่ะ พี่รีบมาเร็วๆเลย!"สั่งซะเลยครับ พูดเยอะจริง

(โห มีสั่งรอบสองนะ เดี่ยวขึ้นไปล่ะ นี่ถึงหอแล้ว เอาไฟฉายล่ะกันนะ ขี้เกียจ วนรถไปซื้อเทียนแล้ว)

อ้าว..มาถึงแล้วหรอ เร็วดีจัง??

"อื้มๆๆ ไฟฉายก็ได้ ดีกว่าอยู่มืดๆนะ"

(อ่าคร้าาบ) จะตอบทำไม ผมบ่นคนเดียวหรอกไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อย


(กำลังเข้านะ ห้องอยู่ปีกไหนล่ะ ซ้ายหรือขวา?)

"ขวามือๆ เดี่ยวผมออกไปรอหน้าห้องนะ 203 นะพี่.."
ผมพึ่งแสงมือถือเป็นแสงนำทางไปที่ประตู เห็นเงาร่างสูงที่ฉายไฟฉายก็เดาได้เลยว่าพี่วันไนท์มาถึงแล้วแถมถือกล่องสี่เหลี่ยมที่บรรจุเค้กมาด้วยนั้น ยิ่งทำให้ผมแปลกใจไหนว่าไม่มีเทียนไงแล้วเทียนจะจุดเค้กไม่มีหรอ ว่าแต่วันนี้วันเกิดใครล่ะ พี่วันไนท์ถึงถือเค้กมาด้วย

"เห้ๆ ไงกลัวความมืดหรือน้อง..มึง?"

เหอะ นิสัยไม่ดี พูดเพราะจังเลยน้า อยากจะรู้จริงถ้าพี่เรย์อยู่ด้วยจะพูดแบบนี้ไหม? ผมเปิดประตูเข้าห้องแล้วให้พี่วันไนท์เดินเข้ามา

"แล้ววันเกิดใครล่ะ ถึงได้พาเค้กมาด้วยพี่..มึง?"ร่างสูงถอดรองเท้ามากระทบตัวผมอย่างแรง ไอ้..พี่เลวนี่วอนล่ะ ห้องก็ห้องผมยังจะกล้าทำร้ายร่างกายแสนบอบบางของเจ้าของห้องอีก

"เห้ยๆลามปามล่ะ นี่พี่นะน้อง..มึง!!"

"ก็นี่น้องไหมล่ะพี่..มึง!"ร่างสูงแยกเขี้ยวใส่ผมพลางวางเค้กลงเบามือ เรายุติการต่อปากต่อคำเมื่อนั่งลงเคียงข้าง


"อ้าว ว่าแต่เค้กไม่มีเทียนหรอพี่?"ผมเงยหน้าถามพี่วันไนท์อย่างสงสัย ซื้อเค้กวันเกิดทั้งทีแต่กลับลืมเทียนนี่นะ พี่วันไนท์เกาท้ายคอเหมือนแก้เก้อ

"คือจริงๆนะ ไม่ใช่วันเกิดใครหรอกพอดีน้องกูมาหานะเลยเอาเค้กมาให้ลองชิม นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าถ้ากินแล้วจะท้องเสียอีกหรือเปล่า?"อ้อกำลังหาหนูทดลองสินะ"แต่หน้าตาเค้กก็ดูดี น่าทานนะพี่?"ผมบอกพี่วันไนท์ตามที่ตาเห็นร่างสูงหัวเราะ หึ ในลำคอ

"เพราะน่าทานแบบนี้ไง เลยไม่กล้าปฏิเสธ น้องรู้ป่ะเวลาน้องพี่ทำขนมว่างให้กินทีไรพี่กับพี่ชายท้องเสียทุกที ป๊ากับม๊าก็ยังไม่เว้น"ผมฟังแล้วสยองแทน ดีนะที่ไม่หลงกินเข้าไปแต่หน้าตาเค้กดูน่ากินจนผมอยากลองชิมบ้าง

"โห ดูน่ากลัวเนอะ แล้วพี่ไมไม่บอกน้องพี่ไปตรงๆล่ะ แบบนี้น้องพี่ยิ่งได้ใจคิดว่าตัวเองทำได้ เลยทำให้กินตลอดสิ?"ผมลองไปดมๆเค้ก ลิ่นหอมเย้ายวนด้วย กินหน่อยคงไม่ ท้องเสียหรอกมั้ง!

"ใครว่าไม่บอก นี่บอกมันทุกวันลยว่าอย่าเปิดร้านเค้กเลยฝีมือมันไม่ถึงนะแต่มันดั้นบอกจะทำให้กินทุกวันจนกว่าฝีมือจะดี คิดดูพี่กับพี่ชายโคตรเป็นพี่ที่ดีไหมล่ะ?"เอิ่มมม..เป็นผมคงเอือนตายเลยต้องมานั่งชิมเค้กทุกวัน

"แหมๆ..ทำดีนิดหน่อย ทำเป็นคุยโว แต่น้องพี่นี่ดีนะมีฝันด้วยแถมยังตามล่าฝันเต็มที่ มีแต่พี่ล่ะมั้งที่ไม่เห็นมีฝันอะไรกับน้องพี่เลย!"

"เห้ยๆใครว่าพี่ไม่มี น้องมากกว่าไหมที่ไม่มีนะ?"เหอะ ข่มหรอๆ ผมเองก็มีฝันนะ

"ผมมี ฝันของผมคือการบอกรักพี่ครูสสักครั้งก่อนจะจบป.ตรี!!"อุบส์..ไม่น่าๆหลุดปากเลย ผมรีบปิดปากตัวเองไว้ พี่วันไนท์หัวเราะหึหึชั่วร้าย

"ฝันพี่ก็เหมือนกัน พี่จะขอน้องเรย์เป็นแฟนให้ได้!!"ผมมองร่างสูงที่ชูมือสู้ตายราวกับจะไปทำสงครามโลกเสียอย่างนั้น


"นี่น้อง..มึง?"ฟุบ..ผมตกใจที่อยู่ๆมือพี่วัน ไนท์ตั้งลงบนบ่าผม

"สนใจมาร่วมมือเพื่อความฝันและคนรักของเราไหม?"ผมเอือมไปมองหน้าหล่อที่เข้าเคลือบใกล้ตัวคิ้วชน

"สนไหม พอดีพี่เตรียมแผนมาเรียบร้อย"

"โอเค ตกลงพี่..มึง!!"เราต่างจับมือกันทำสัญญาต่อกันเมื่อผมได้ฟังพี่วันไนท์เล่าถึงแผนการที่เขาว่า ผมถือคติที่ว่า 'คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย' งานนี้พี่วันไนท์ตายก่อนก็โอเค ผมไม่สน สนอยู่คนเดียวคือพี่ครูส

"จัดไป เริ่มแผนการพรุ่งนี้นะน้องมึง!!"

"ได้เลยพี่มึง"เราสองคนยอมสยบรบกันก่อน เป้าหมายของเราทั้งคู่คือการแย่งคนที่เรารักกลับคืนมาสู่การเป็นคู่จิ้นให้ได้..ข้าวและเบียร์ที่พี่วันไนท์พามาด้วย เราชนแก้วกินกันเพื่อความสามัคคี ที่ผม แปลกใจคือ ก็ถ้าพี่วันไนท์ไม่กินเค้กแล้วทำไมไม่ยอมทิ้งลงถังขยะไปเลยเล่า เปิดล่อตาล่อใจผมอยู่ได้ เห็นแล้วอยากกิน!!

"เออพี่ แล้วพี่นะชอบพี่เรย์ตั้งแต่เมื่อไรหรอ?"ผมซดเบียร์ไปครึ่งแก้วแล้วหันมาถามพี่วันไนท์ที่หน้าแดงซ้านในความมืด ที่มีแสงไฟฉายส่องไว้

"เฮิก อ้อเรื่องนั้นหรอ ก็ชอบมาตั้งแต่วันที่น้องเรย์เข้าประกวดเดือนคณะแล้วล่ะ น่ารักขนาดนั้นใครไม่หลงก็บ้าแล้ว"คนเริ่มเมาบอกด้วยรอยยิ้ม คงชอบมากๆจริงๆแหละ

"แล้วน้องมึงล่ะชอบไอ้หน้าวอกผีดิบนั้นตอนไหนล่ะ คนแบบนั้นรักไปได้ไง มันเคยรู้ไหมว่าน้องมึงชอบมันก็ไม่รู้??"ยิ่งร่างเมาพูด มันก็ยิ่งถูก แต่ว่ารักไปแล้วจะให้ผมทำไงได้..

"180 วันแล้วล่ะพี่!"

"หึ มีนงมีนับวันด้วยนะน้อง..มึง โรแมนติกไม่เบานะ"ท่าทีเมาๆของพี่วันไนท์ทำให้ผมอดที่จะคลายความกลัวลงไปได้นิดนึง เรานั่งกินกันสักพักร่างเซอร์ที่ซดเยอะสุดก็คอพับนอนทั้งที่ยังนั่ง ไฟฉายที่เขาพามาด้วยกระพิบแว่บๆก่อนจะดับวูบไป หมดเข้าไปกอดแขนร่าง เซอร์ด้วยความกลัว"พี่วันไนท์ พี่ตื่นก่อนสิ ไฟฉายมันดับแล้วนะพี่?"เกลียดร่างสูงจริงๆมาห้องคนอื่นแล้วเสือกหลับก่อนเจ้าของห้องอีก ผมเขย่าตัวเขาแรงๆ ทั้งทุบทั้งตีแต่เขาก็ไม่ยอมตื่น เมาแอ๋หลับสนิทได้ยินเสียงอือๆในลำคอ ไอ้พี่วันไนท์!!
มีเพียงแสงจากหน้าจอมือถือของพี่วันไนท์ที่สาดส่องกลางวง ผมเอื้อมไปหยิบ

"นี่พี่..ขอเล่นมือถือพี่นะ?"ผมเขี่ยๆสะกิดถามคนเมาข้างกาย

"อือๆ"โอเค เล่นได้เจ้าของอนุญาต ผมยิ้มกับความเจ้าเล่ห์ของตัวเองที่เป็นคนบังคับพี่วันไนท์ให้พยักหน้าอนุญาต
ผมเลื่อนดูรูปต่างๆในอัลบั้มแล้วหัวเราะคิกคัก แต่ละรูปของพี่วันไนท์มีแต่รูปตลกๆ น่าเกลียดกันทั้งนั้น ไม่แปลกที่ ร่างเซอร์จะเป็นคนอารมณ์ขัน เห็นรูปมีแต่สามคนพี่น้อง ก็น่ารักดี ตอนแรกที่พี่วันไนท์พูดถึงน้อง ผมนึกว่า น้องสาวที่เป็นคนทำเค้กแต่ที่ไหนได้ พี่วันไนท์มีพี่น้องชายหมดเลย หน้าตา หล่อหลากันคนละแบบแต่ก็แอบเหมือนกัน ดูก็รู้ว่าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์เดียวกัน

"อือ น้องเรย์คร้าาบ"ผมตัวแข็งทื่อเมื่อมือหนักของพี่วันไนท์เลื่อนเข้ามาโอบกอดผมไว้เพราะคิดว่าผมเป็นพี่เรย์..

"พี่เรย์บ้าบออะไร พี่ปล่อยผมนะ!"ผมหันไปต่อว่าเขาพร้อมเอามือถือจ่อหน้าเขาให้ตื่นจากอาการเพ้อ ร่างสูงปัดมือถือทิ้ง
อย่างไม่ใยดีทั้งห้องดับวูบลง นั้นทำให้ ผมเริ่มจะกลัว

"ทำบ้าอะไรของพี่!! ผมกลัวความมืดนะ ปล่อย ผมจะหยิบมือถือ"ผมผลักคนตัวโตออกห่างจากตัวแต่คนเมากลับยิ่งโลมเลียผมไม่หยุดเพราะคิดว่าเป็นพี่เรย์

"อือ น้องเรย์ครับ น้องเรย์ของพี่.."ปากร้ายยังคงสำรวจซอกคอผมแม้ผมจะผลักไสเขาก็ตาม ผมถูกร่างหนาผลักให้ล้มลง
พื้นห้องก่อนจะทาบตัวหนักตามมา

"พี่ พี่วันไนท์..พี่ปล่อยผมนะ ผมมิกซ์นะ ไม่ใช่พี่เรย์ อื้อๆ!!"ผมถูกประกบปากไว้ อย่างชำชอง ลิ้นร้ายสำรวจปากผมไม่ ยอมหยุดพัก ผมทุบตีเขาเมื่อเริ่มจะขาดอากาศหายใจ พี่วันไนท์ปล่อยให้ผมได้ หายใจบ้าง ผมเอามือชันร่างหนาไว้เมื่อเขาจะทับตัวผมอีกครั้ง ปากหนายังคงไม่ยอมให้ผมหยุดพักนาน

เขาเริ่มจูบผมอีกและคราวนี้มือร้ายก็ทำหน้าที่ของมันด้วยการถอดชุดนอนของผมไปอยางง่ายดาย ผมใจเต้นกระส่ำ เมื่อผมถูกร่างสูงสอดนิ้วเข้าไปสำรวจ ในช่องรักข้างหลัง ภายในความมืดที่ผมเคยกลัว บัดนี้สิ่งที่ผมกลัวกว่าคือเขา แรงตอดรัดนิ้วมือจากการเสียดสีส่งผลให้พี่วันไนท์พอใจครางทุ้ม ผมครางดังเมื่อเขาขยับนิ้วถี่และเรียกน้ำรักไหลออกเปรอะหว่างขา นิ้วร้ายถอนออกมา พี่วันไนท์จูบซับหน้าผากผมให้รางวัลปลอบใจก่อนจะส่งเจ้าน้องชายเข้ามาแทนนิ้วมือ ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเขาแน่น เพื่อคลายความเจ็บปวดจากการเสียดสี ของช่องทางรัก แรงกระแทกแรงตามใจพี่วันไนท์ ผมเองก็ได้แต่ตามเขาอย่างเงะงะ มันเป็นครั้งแรกและผมไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน เขาคือคนแรกของผม แต่ผมไม่ใช่คนที่เขาต้องการแน่นอน

"อะอ่ะ พี่วันไนท์ เบา เบาครับ"

"อาหห์ น้องเรย์ น้องเรย์ของพี่!!!!"




>/////< คู่นนี้นี่มัน..... :hao7:

***กลับมาแล้วนะคะพี่ทูมิน คิดถึงพี่เหมือนกันค่ะ จะอัพเรื่อยๆ ดีใจที่พี่ทูมินคิดถึงกันนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
***กลับมาแล้วนะคะพี่ทูมิน คิดถึงพี่เหมือนกันค่ะ จะอัพเรื่อยๆ ดีใจที่พี่ทูมินคิดถึงกันนะคะ   :pig4:
ก้อนักเขียนขวัญใจ จะไม่คิดถึงได้ยังไง  :m3:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง

ผมตื่นมาด้วยความตกใจ เหี้ยแล้วไง ผมดั้นทำอะไรเด็กปากหมาที่เถียงผมไม่เลิกได้ไง เมื่อคืนเรายังสามัคคีกันจะแย่งคนที่เรารักกลับคืนมาเลย แต่พอเป็นแบบนี้ เกิดเรื่องแบบนี้ จะเข้าหน้าติดกันได้ไงวะ? ผมเลิกผ้าห่มดูและยิ่งมั่นใจ เรามีอะไรกันแล้ว!!
ร่างเล็กที่เหมือนจะรู้สึกตัวก่อนหันหลังให้ผม ไม่กล้าขยับเพราะกลัวผมจับได้ โว้ย ไม่น่าเลยไอ้วันไนท์ รู้ทั้งรู้ว่าถ้ากินเบียร์แล้วจะเมาปล้ำคนอื่น แค่ไม่คิดไง ไม่คิดว่าตอนเมาจะไม่เลือกคนขนาดนี้ เราสองคนดูจะไม่ชอบหน้าด้วยซ้ำแต่กลับมีอะไรกัน พับผ่าสิ!

"นี่น้อง ถ้าลืมตาแล้วก็ตื่นเถอะ"ผมพูดขึ้นเหมือนใจกล้าเลยจริงๆก็ใจสั่นกลัวไม่น้อย จะรับผิดชอบยังไงวะเมื่อใจผมมีน้องเรย์อยู่ตลอดเวลา ร่างเล็กขยับตัวหันมามองผมตามที่ผมเรียก ใบหน้าแดง นั้นทำให้ผมอดที่จะสะดุดตา มันสวยจัง!
"พี่ไปอาบน้ำก่อนก็ได้ ผมค่อยเข้าทีหลัง"มันพูดไล่ผมไม่มองหน้า เอาแต่มองผ้านวมที่คลุมตัวไว้.. อายว่างั้น

ผมลุกขึ้นนั่งตามมันบ้าง ปล่อยผ้าห่มคลุมไว้แค่ท่อนล่างส่วนอกแน่นก็โชว์ไว้ในน้องมันได้เห็นว่ามันข่วนผมเยอะแค่ไหน?

"เรื่องเมื่อคืน..

"เรื่องเมื่อคืนก็เรื่องเมื่อคืนเถอะ ผมไม่ว่า แต่วันนี้เรามีภารกิจของหัวใจเรานะพี่ อย่าลืมสิ?"น้องมันแย่งผมพูดก่อนจนจบ แล้วจะให้ผมทำยังไงในเมื่อมันอยากให้เป็นแบบนี้ แต่ก็ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่..ต้องรับผิดชอบอะไร ระหว่างเราก็จะได้เหมือนเดิม ตามแผนเดิม ผมได้น้องเรย์ ส่วนน้องมันก็ได้ไอ้ครูสไป เป็นอันแฟร์!

"โอเค ก็ดีเหมือนกัน งั้นอาบน้ำด้วยกันนะ เมื่อคืนคงเมาแล้วปล่อยในแน่"ผมถือวิสาสะอุ้มไอ้ตัวเล็กขึ้นมา น้องมันเองก็ไม่เถียงอะไรเอาแต่พยักหน้าเออออเขิน น่ารักดี..


"เอาล่ะทุกคนที่ผมเรียกทุกคนมาวันนี้เพราะอยากรู้ความคืบหน้าของเรื่องที่แต่ละคู่ต้องการแสดงนะครับ สรุปแล้วใครจะแสดงละครเพลง ใครจะแสดงละคร?่"ผมถามเพื่อนๆอีก3คู่ที่ต้องการจะเล่นละครเวทีด้วยกัน นั้นคือมีคู่ผม คู่ไอ้ครูสน้องเรย์ คู่น้องจินถังน้องฟิช และคู่น้องซันน้องทาน

"ผมกับฟิชขอเป็นละครเวทีน่ะพี่"น้องจินถังยกมือตอบ เมื่อหันไปหาน้องฟิช ร่างสวยพยักหน้าเห็นด้วยมั่นใจมาก

"ผมกับไอ้โย่งนี่ก็เอาละครเวทีครับ"น้องทานเป็นคนบอก

"แหมเตี้ยก็ว่าเค้าเรื่อยเลยน้า"เกลียดคู่นี้ เถียงเรื่องความสูงกันจัง

"โอเค แล้วน้องเรย์ละครับ เลือกละครเพลงเหมือนคู่พี่นะ?"ผมอ้อน เมื่อได้อยู่ใกล้น้องเรย์ แต่จะรำคาญตาเพราะไอ้คุณชายเย็นชาที่บังคับให้น้องเรย์นั่งบนตักมันอย่างเกินหน้าเกินตา

"ผมตามใจคุณครูสครับ คุณครูสสนใจละครเพลงไหมครับหรือละครเวที?"น้องเรย์พูดกับผมตอนแรกก่อนจะหันไปถามไอ้คุณชาย แม่งให้น้องเรย์เรียกคุณด้วย วิเศษวิโสจริงๆ หมั่นใส้มัน!

"ละครเพลงล่ะกัน"เสียงทุ้มเย็นชาบอก

"ครับ พี่วันไนท์ครับผมกับคุณครูสเลือกละครเพลงครับ" เจ็บปวดที่ต้องทนเห็นคนที่เรารักยิ้ม หวานให้ศัตรูหัวใจ

"ครับน้องเรย์"ผมแจกยิ้มหวาน เข้าทางแผนผมกับคู่จิ้นของผมแล้ว เราต่างหันมายิ้มกริ่มพอใจกันสองคน

"ก็ดีเลย ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันแบ่งตารางเวลาที่พี่วางไว้ก็แล้วกันนะ เวลาในการจัดแสดงจะมีทั้งหมด2ชั่วโมง ดังนั้นแต่ละคู่จะมีเวลาแสดงแค่ครึ่งชั่วโมง พี่ขอเสนอให้เป็นการแสดงละครเวทีก่อนครึ่งแรกในส่วนของคู่ที่แสดงละครเวทีนั้นกลุ่มของเราทั้งสองคู่เลือกเลยล่ะกันนะว่าใครจะแสดงเป็นคู่แรกและครึ่งชั่วโมงต่อมาก็เป็นของละครเพลงเราจะสลับกันตามนี้นะครับ มีใครไม่คัดค้านหรือไม่เข้าใจอะไร ถามได้นะ?"ผมอธิบายในสิ่งที่คิดมาให้น้องๆฟัง บางคนก็เข้าใจแต่รำคาญหน้านิ่งๆของไอ้ครูสเหลือเกิน คู่จิ้นของผมก็มองมันตาไม่คลาดเลย

"ตามนั้นก็ได้ครับ แล้วในส่วนของเนื้อหานี้แล้วแต่คู่เราเลยใช่ไหมครับหรือว่าพี่มีบทเตรียมไว้ให้แล้ว"น้องซันถามขึ้น น้องฟิชเองก็พยักหน้าอยากรู้ คู่จิ้นของผมหยิบบทละครที่ใช้แสดงออกมาเพื่อแจก

"ถูกต้องแล้วครับ ในส่วนของบทละครพี่เตรียมไว้ให้เรียบร้อย ทุกคนลองเอากลับไปทบทวนบทตัวเองนะครับ ในวันที่จะนัดการมาซ้อมครั้งหน้า เดี่ยวพี่นัดวันกันมาอีกที"คู่จิ้นผมทำหน้าที่แจกเป็นอย่าง มันดูจะมือสั่นๆเมื่อต้องยื่นให้ไอ้ครูส ร่างซีดราวผีดิบไม่รับเลยนั้นยิ่งทำให้ผมอยากจะชกมัน เป็นน้องเรย์คนงามของผมที่หยิบบทเผื่อมันด้วย อยากเตะคนโว้ย!!

"ละครเวทีครั้งนี้ที่เราจะแสดงเป็นเรื่องราวของเจ้าชายสี่คนเพื่อนรักที่ตามหารักแท้ของตัวเองแต่กลับมีอุปสรรค์เข้ามาขัดขวางในส่วนของความรักแต่ละคู่"

"โอะ มีบทสลับคู่ด้วยเพราะความเข้าใจผิดอย่างนี้ผมกับพี่วันไนท์ก็ได้แสดงด้วยกันใช่ไหมครับ ตื่นเต้นดีจัง!"หึหึ นี่ล่ะแผนผม อย่างน้อยๆก็หาทางสนิทกับน้องเรย์ได้แบบเนียนๆไม่ต้องลงทุนใดๆ ฮ่าๆ "ครับน้องเรย์"ผมยิ้มบอก
"ของพวกนายล่ะ อยากเปลี่ยนแปลงบทไหม บอกได้นะละครเพลงก็ไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับใครมาก แค่ความเข้าใจผิดของ
แต่ละคู่แค่นั้น แต่ในส่วนละเวที พี่อยากให้มันเชื่อมต่อกับรอบหลังด้วยเลยเพิ่มบทให้คนดูลุ้นและติดตามรอบหลังนะครับ"ผมโกหกล้วนๆล่ะครับ แถไปอีก!!

"พวกเราโอเคครับ ไม่มีปัญหา!"ดีมาก ผมพยักหน้าเป็นอันรับรู้ก่อนพวกเราจะแยกย้ายแล้วนัดกันอีกในสองอาทิตย์ต่อมา
สองอาทิตย์ผ่านไป ณ..ห้องซ้อมละคร..

ชีวิตของผมกับคู่จิ้นที่รักยังคงดำเนินตามปกติ เราปากหมาใส่กันทุกวันแต่ก็กลับสามัคคีกันกับเรื่องของการแย่งคนที่เราต่างรัก หลังๆมาผมเข้าออกห้องน้องมันยังกับห้องตัวเองอีกมันกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสให้ผมได้ใกล้ชิดน้องเรย์หัวใจผมกลับรู้สึกไม่เหมือนเมื่อก่อน

"องค์ชายสอง ผมทำอะไรผิด ฮึกๆ ทำไมองค์ชายหนึ่งถึงได้โกรธผมจนต้องไล่ผมไปไกลๆด้วย ฮือๆ"น้องเรย์ที่วิ่งมากอดผมไว้ตามบทที่ได้รับ บทนี้เป็นบทที่ไอ้ครูสเข้าใจน้องเรย์ผิดแล้วไล่ตะเพิดร่างเล็กไปไกลตัว ผมที่บังเอิญเดินอยู่หน้าสวนถูกร่างเล็กวิ่งชนเข้าเลยกอดไว้เป็นที่พึ่งเพื่อระบายอาการเศร้า พล็อตเรื่องน้ำเน่ามาก คือผมแต่งมาได้ไง จึ๋ย~~"

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ชายถึงได้ไล่เรย์ลิก้ามาได้ ?" ผมก็เล่นไปตามบทครับแต่ใจไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไรเมื่อเหลือบเห็นคู่จิ้นของตัวเองยืนยิ้มกว้างหัวเราะคิกคักกับไอ้ครูส เหอะ ทีกับผมเถียงเอาๆ

"ผมก็ไม่รู้ ไม่รู้จริง องค์ชายรองช่วยผมด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว องค์ชายหนึ่งไม่ฟังที่ผมพูดเลย"ผมโอบกอดปลอบร่างเล็กตามบทบาทก่อนสองคนที่เป็นสาเหตุให้เรย์ลิก้าร้องไห้เดินผ่านมา

"โอะ องค์ชายหนึ่งดูสิครับ เพิ่งโดนองค์ชายไล่ไปไม่ถึงวันก็มีที่พักใหม่ทันที เรย์ลิก้า นายช่างว่านเสน่ห์ผู้ชายเก่งเหลือเกิน" เกลียด เกลียดทั้งท่าทีดัดจริตตามบทที่คู่จิ้นผมได้รับ แต่ยิ่งเกลียดยิ่งกว่า คือมือหยาบๆของไอ้ครูสที่มันโอบเอวน้องมันนั้นอีกด้วย ทำไมต้องกอดกันด้วยวะ ในบทไม่เห็นมีเลย ยืนเฉยๆก็ได้นี่ว๋า!

"มิกซาวน์ คุณพูดแบบนี้ได้ไง ผมไม่ได้ทำอะไร และผมกับองค์ชายรองเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย จริงไหมครับองค์ชาย?" น้องเรย์ในบทเรย์ลิก้าหันมาถามผมน้ำตาคลอ ไอ้ครูสยังคงหน้าเป็นมองน้องเรย์นิ่ง แม่ง หงุดหงิดเอามือออกจากเอว
คู่จิ้นกูด้วยครับไอ้ครูส..

"ใช่ พี่หนึ่ง ผมว่าพี่คงมีเหตุอะไรเข้าใจผิดแน่?"โอ้ยเจ็บใจตัวเองที่ต้องมาเรียกศัตรูว่าพี่..เกลียดมันๆๆๆ

"หึ เท่าที่จำได้ข้าไม่มีคนรักชื่อเรย์ลิก้าอีกแล้ว ไปกันเถอะมิกซาวน์ ที่สุดในจักรวาลนี้คงมีแต่เจ้าที่รักข้า"น้องเรย์สวมบทเรย์ลิก้าได้ดี ร้องไห้หนักมากเมื่อคนรักไม่ฟังคำอธิบายแถมยังตัดเหยื่อใยไปหมด ไอ้ครูสในบทองค์ชายหนึ่งจับมือไอ้คู่จิ้นผมไว้แล้วเตรียมพร้อมจะเดินกลับเข้าไปหลังม่านแต่เพราะว่าไอ้น้องมันเกิดขาพลิกหรือสะดุดขาบ้าบอของมัน จึงทำให้ร่างเล็กเซซบอกไอ้ครูส ไอ้คุณชายเย็นชาก็ยังประคองมันไว้อัตโนมัติตามปฏิกิริยาด้วยการจับร่างบางไว้ แต่แม่ง แอบแตะอั๋งเมียกูนี่ว๋า ผมเดินเข้าไปกระชากไอ้คู่จิ้นมาจากอกไอ้ครูสทันที ทุกคนที่มาซ้อมด้วยกันต่างพากันมองอย่างแปลกใจที่ผมทำตัวแบบนี้ น้องเรย์เองก็รีบวิ่งเข้ามายืนใกล้ไอ้ครูส

"น้องมิกศ์เป็นอะไรครับคุณครูส?"เพราะมัวแต่ตามบทร้องไห้อยู่ น้องเรย์เลยไม่ทันสังเกต

"สะดุดเท้าตัวเอง"แม่ง ตอบได้อารมณ์มากไอ้คุณชายผีดิบ

"ขอโทษนะครับเราหยุดซ้อมกันสักครู่นะครับ"เพราะไม่ได้มีแค่บทเจ้าชาย แต่มีน้องๆสต้าฟที่เข้ามาสมทบบทเล็กๆน้อยๆอีกในการแสดงละครเวทีครั้งนี้เลยใช้คนแสดงเกือบ30กว่าชีวิต

"โอเคครับ พวกเราพัก 15 นาทีนะ"
เสียงของน้องที่เป็นคนเล่าเรื่องราวในบทละครดังเข้ามาในไมค์เพื่อประกาศ ผมไม่สนสายตาใครทั้งนั้น ลากไอ้คู่จิ้นตัวเองที่ลัลล้าเกินหน้าเกินตาสะดุดเท้าตัวเองเพื้อให้ไอ้ครูส

"โอ้ย นี่พี่ทำบ้าอะไรห๊า!! ผลักมาทำไม ผมเจ็บนะ"ผมลากมันเข้ามาเคลียร์ใน ห้องน้ำ ล็อกประตูเรียบร้อย ผมเดินย่างเข้ามาถึงตัวมันจับแขนมันไว้แน่น จนมันเจ็บ

“ปล่อยนะเว้ย"ร่างเล็กพยายามแกะมือผมออกแถมยังมองผมด้วยสายตาเกลียดชังอีก ก็ให้มันโกรธไปผมเองก็หงุดหงิด
เพราะมันเหมือนกัน เอะอะๆก็ให้ไอ้ครูสแตะอั๋งไม่หวงตัวเลยหรือไง

"ไม่ปล่อย!!ทีกับไอ้ครูสทำไมไม่รู้จักหวงตัวบ้าง ตอนมันกอดมันจับ ทำไมไม่รู้จักสะบัดออกไปบ้างล่ะ?"ผมบีบแขนมันแน่นยิ่งกว่าภาพตอนไอ้ครูสกอดจับมันยังติดตา "แล้วจะทำไม ทีพี่เองก็ให้พี่เรย์กอด พี่เรย์จับมือได้ ผมก็แค่เล่นไปตามบท อย่าลืมสิครับบทนี้พี่เป็นคนแต่งเอง"

"ไม่เหมือนในบทมันไม่มีสะดุดขาตัวเองแล้วแกล้งซบอกไอ้ครูสแบบนั้น!"ผมเถียงทันควัน

"อ้าว คนมันสะดุดนี่วะจะให้ทำไง? อีกอย่างอกพี่ครูสก็แน่นๆ ได้ซบทุกวันคงไม่อยากลุกไปไหนแน่"

"ไอ้มิกซ์!!"ผมผลักร่างเล็กไปด้วยความโมโหสุดขีด ร่างเล็กเองก็ไถลไปชนประตูห้องน้ำที่เรียงรายสี่ห้องแต่เพราะประตูห้องน้ำนั้นไม่ได้ปิดสนิทเลยทำให้มันไหลเข้าชนกับโถส้วมและลื่นเพราะน้ำที่ขังอยู่บนพื้นห้อง
"โอ้ยมือๆๆ พี่ผมเจ็บมือ"ร่างเล็กร้องโวยวาย ผมรีบวิ่งเข้าดู แขนซ้ายมันโดนตัวมันทับไว้ ผมค่อยๆพยุงร่างเล็กพยายามไม่จับให้โดนแขนกลัวมันเจ็บ

"เป็นอะไรๆ?"ผมถามร้อนรน

"เจ็บแขนๆ เพราะพี่นะแหละๆๆ"เหมือนแขนมันจะแดงช้ำ แต่อีกมือก็ไม่ยอมวาง ยังทุบตีผมไม่เลิก

"โอเคๆ กูผิด กูขอโทษ ลุกขึ้นมาเร็ว ไปหาหมอกัน?"

"ไม่ต้องมาจับและก็ไม่ต้องช่วยด้วย ผมเกลียดพี่ เกลียดพี่ที่สุด เกลียดๆๆๆๆ"
ผมมองร่างเล็กที่งอแงโวยวายไม่หยุด เวลาแบบนี้ยังจะไม่ยอมให้พาไปหาหมออีก ดื้อจริง

"พูดเกลียดอีกคำ กูจับมึงปล้ำมึงแน่"เป็นอันเงียบกริบครับ น้องมันรู้ดีว่าผมปล้ำมันแน่!! เราเถียงกันตลอดและสุดท้ายถ้า
มันลามปามมากไป หรือเถียงไม่ตกฟาด ผมก็จัดการมันเสร็จลงเตียงทุกครั้ง

"ผมจะฟ้องแม่ ฮึกT^T"สุดท้ายก็อุ้มมันพาไปหาหมออยู่ดี เด็กหน่อเด็ก เอะอะๆ ร้องไห้ฟ้องแม่ ฟ้องไปเลยผมเองก็อยาก
จะไปกราบพ่อตาแม่ยายเหมือนกัน


"เดี่ยวพี่ไปซื้อข้าวมาให้นะ อยู่ในห้องดีๆ อย่าทำอะไรให้ตัวเองเจ็บตัวอีก"ผมบอก ร่างเล็กที่นั่งหันหลังให้ผม น้องมันยังคง โกรธผมจนไม่ยอมมองหน้าผมอีกทั้งเรายังมาทะเลาะกันเรื่องเสื้อมันด้วย ที่มันไม่ยอมใส่เสื้อเพราะให้เหตุผลว่ากลัวลำบากใส่ไปใส่มาสู้ไม่ใส่เลยก็ดี สุดท้ายผมก็บังคับให้น้องมันใส่เสื้อให้เสร็จก่อนผมจะกลับมาจากการซื้อข้าว

"แล้วก็อย่าลืมใส่เสื้อด้วยล่ะ?"ผมย้ำก่อนจะปิดประตู เดินกลับมาจากซื้อข้าวเห็นเงาร่างสูงคุ้นๆยืนอยู่ใกล้ๆห้องน้องมิกซ์ ใครวะ?

"นี่พี่!"อ้อ ไอ้ครูสนี่เอง มาทำอะไรที่นี่วะ

"ผมแค่มีเรื่องอยากบอกไม่รู้นะว่าพี่เคืองอะไรผมนะแต่ถ้าเป็นเรื่องของมิกซ์ล่ะก็พี่สบายใจได้ มิกซ์นะหลังๆมา ถ้าพี่สังเกตดีๆสายตาหวานคู่นั้นมองหาแต่พี่ตลอดเวลาเลย ผมบอกแค่นี้แหละ ไปล่ะ!"เห็นร่างสูงที่กอดอกราวกับคุณชายกำลังยืนคุยเรื่องธุรกิจพันล้านอย่างใจเย็น ผมรับฟังไอ้ครูสพูดจนจบ ในตอนแรกก็แอบมีเคืองๆ ไม่รู้มันจะพูดอะไรแต่พอมันมาพูดแบบนี้ ก็ถือว่าให้อภัยก็แล้วกัน สรุปแล้วมิกซ์เลิกสนใจไอ้ครูสแล้วสินะแล้วหันมามองผมแทน ฮ่าๆๆสบายใจล่ะ

"อ้อ จะว่าไป ร่างมิกซ์ก็น่ากินนะพี่ ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่า หัวนมมันจะชมพูแดงขนาดนั้น

"ไอ้..ไอ้มิกซ์ นี่มันกล้าเปิดประตูให้ไอ้ครูสทั้งที่ไม่ ใส่เสื้ออย่างนั้นหรอ?ร่างสูงของไอ้ครูสเดินหันหลังกลับ ผมรีบตรงไปยังห้องไอ้มิกซ์ทันที..
ปัง! ผมเปิดประตูมาอย่างหงุดหงิด

"พี่วันไนท์ เปิดประตูเบาๆก็ได้ นี่ห้องผมนะ!"หึ ถ้าเป็นไอ้ครูสเปิดก็คงฉีกยิ้มกว้างต้อนรับแล้วสินะ พูดถึงไอ้ครูส จริง อย่างที่มันบอก ไอ้มิกซ์ไม่ใส่เสื้อจริงๆ

"อื้อๆพี่วันไนท์ พี่จะทำอะไรผม ผมยังไม่ ได้ทำอะไรเลยน่ะ?"ผมทิ้งข้าวที่อุตส่าห์ซื้อมาแล้วตรงดิ่งไปจับไอ้ตัวแสบติดผนังห้องอย่างหึงหวงพร้อมระดมจูบแผ่นอกบอบบางที่มันอวดโชว์ไอ้ครูส

"หึ ไม่ได้ทำอะไรผิดงั้นหรอ แล้วทีเปิดประตูโชว์หน้าอกให้ไอ้ครูสดูนี่ยังไม่ผิดอีกหร่อ?"ร่างเล็กพยายามใช้มือข้างเดียวปกป้องตัวเอง

"พี่พูดเรื่องอะไร พี่ครูสเกี่ยวอะไร ปล่อยผมนะแล้วก็หยุดดูดหัวนมผมสักที พี่วันไนท์ พี่"


"หึ ดื้อ ขัดคำสั่ง แล้วยังจะมาโกหกหน้าตายอีกแบบนี้ต้องจัดการลงโทษ ปราบเด็กไม่เชื่อฟัง"ผมยังคงจัดการเด็กดื้อที่ไม่เชื่อฟัง ก็ถ้าใส่เสื้อตั้งแต่ผมบอก ก็จบเรื่องป่ะ ไอ้ครูสก็จะได้ไม่เห็น

"พูดบ้าบออะไรผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ออกไปจากตัวผมนะพี่วันไนท์ อือ ออกไป!"



"ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย"หลังจัดการเพราะแรงหึงหวงจนร่างเล็กเตะขอบสวรรค์ไปสองรอบ ผมก็ต้องปลุกให้มิกซ์ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวจะได้กินข้าวกินยา แต่เจ้าตัวกลับยังอิดออด ยังโกรธผมไม่หาย

"ไม่ต้องมางอน ไปอาบน้ำเร็วจะได้กินข้าว เร็ว!"ผมไล่ให้น้องลุกขึ้นแถมโยนผ้าขนหนูให้ด้วย

"ใครงอน ผมโกรธ พี่ไม่มีเหตุผล ไม่ฟังผมเลยเอะอะปล้ำๆ"

"แต่มึงก็ชอบนี่ เห็นร้องให้กูเอาตลอด"

"ไอ้พี่วันไนท์!!"ร่างเล็กหยิบเอาผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปหน้าแดงซ่าน ผมรอจนน้องมันอาบน้ำเสร็จแล้วสั่งให้ร่างเล็กที่ใช้เวลานานมากกับการอาบน้ำและใส่กางเกงสั้นมานั่งอย่างบึ้งตึง

"ถ้าจะใส่แบบนี้ก็ใส่ในห้องอย่างเดียว ถ้าจะออกไปข้างนอกห้าม มีคนมาหาก็ห้าม!!"ผมเทน้ำเย็นใส่แก้วเลื่อนให้น้อง ที่กำลังกินข้าวไม่มองหน้าผม ในเมื่อไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่ ห้ามไปก็เท่านั้น

"กินผักบ้างอย่าเอาแต่กินเนื้อ"ผมเขี่ยผักที่น้องมันเขี่ยออกจากแกงให้น้องมันกิน รายนี้ต้องบังคับให้กินผักตลอด ยังกับหลานผมวัย 2ปีเลยต้องให้บังคับ

"ไม่กิน ก็คนมันไม่ชอบยังจะบังคับให้กินอยู่ได้"

"อ้าว พาปากมาด้วยหรอ?นึกว่าไม่เอาปากมาจากห้องน้ำซะอีก"มิกซ์หันขวับ มองหน้าผมไว้อย่างเคือง"มิกซ์ ทำไมต้องเปิดให้ไอ้ครูสเข้ามาในห้องด้วย พี่ไม่ชอบเลยนะ ยิ่งตอนไอ้ครูสมันบอกว่าเห็นมิกซ์ไม่ใสเสื้อแล้วน่ากินแบบนี้พี่ไม่ชอบ"

"พี่จะบ้าหรอ พี่ครูสมาทีไหนกันเล่า มีแต่พี่เรย์ที่มาเยี่ยมผมแต่แค่แวะมาน่ะ นั้นไงขนมฝากเยี่ยม อีกอย่างพี่ครูส
ไม่ได้เข้ามาเลย ถ้าเข้ามาก็ดีสิ ผมจะได้อ่อยให้พี่ครูสสนใจ ว่าแต่พี่ครูสบอกว่าหุ่นผมน่ากิน จริงหรอๆ โอ้ย!!"ผมแคกหัวไอ้ตัวแสบไว้

"เสียใจด้วย ไอ้ครูสมันบอกว่ามันสนมึง และมึงก็ไม่สนใจมันเลยเพราะมึงสนใจกูอย่างที่กูสนใจมึง"ร่างเล็กที่กินข้าวอยู่เงยหน้ามายิ้มกว้างที่ก็พยายามฝืนยิ้ม

"เอ้าหรอ พี่สนใจผมหรอ ก็เห็นวันๆเอาแต่พูดถึงแผนการจะเข้าใกล้พี่เรย์ไม่ใช่หรอ แล้วสนผมทำไมล่ะ?"

"เอ้า ก็เพราะเรื่องสองคนนั้นไม่ใช่หรอที่ทำให้เราคุยกัน รู้จักกันและได้กัน!"ป้าบ..ผมเจ็บแสบแขนมากเมื่อร่างเล็กเขินหน้าแดง ให้ตายสิเมียมือหนักชิบ!

"แล้วตกลงสนพี่จริงป่ะ?"

"แล้วพี่ล่ะสนผมไหม?"มันยักคิ้วกวน ผมเลยเล่นผมมันอย่างเอ็นดู.. "จริงๆกูว่า สายตากูเริ่มมองมึงตั้งแต่วันที่เราตื่นขึ้นมาเจอหน้ากันตอนเช้าแล้ว"ผมขยับเข้าไปใกล้ร่างเล็ก ต่อจากนี้ไปเราคงต้องยอมรับหัวใจของเราสักที"จริงๆผมก็สนพี่ตั้งแต่คืนที่พี่มาอยู่เป็นเพื่อนผมตอนไฟดับแล้วล่ะ ไม่งั้นผมจะยอมให้พี่แอ้มหรอ?"

"เด็กแสบนะน้องมึง"ผมยิ้มกว้าง โล่งใจเมื่อเราต่างเคลียร์ใจกันและกัน

"พี่มึง?"

"หื้ม??"


"เรามาเริ่มรักกันนะ!!"

--- The end ---

**** คู่นี้เอิ่มมมม..คุณครูสร้ายยยย ฮ่าๆๆๆ   o13

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่มึง-น้องมึง เรียกกันน่ารักอ่ะ 555  o13

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สนุกทุกคู่เลยครับ ^^

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง

               ครูส-เรย์

"คุณครูส เรียกฉันว่า คุณครูส"

"ห๊ะ ว่าอะไรนะครับ?"ผมเงยหน้ามองคนตัวโตที่ถือวิสาสะเข้ามารวบตัวผมไว้แล้วบอกกับเจ้สองว่า ผมคือคู่จิ้นของเขา เจ้สองเองก็เห็นชอบ ไม่ถามความยินยอมของผมเลยแล้วยังลากผมมาแต่งตัวเพื่อถ่ายโปสเตอร์คู่ด้วยกัน

"ฉันชื่อครูส วิลเลี่ยม ครุสลี่ย์ ทายาทรุ่นที่3 แห่งไดม่อนพริ้น"เขาบอก

"อ้อผมเรย์ โรเบิร์ด เจษณกิจ ครับ"

"ฉันรู้ นายมันก็แค่เด็กเร่ร่อนที่พ่อแม่ทิ้ง ประวัติของนายฉันรู้หมดแล้ว"จุกครับ มันเกินไปแล้วจริงๆมีการสืบประวัติของผมล่วงหน้าด้วยทำไม จริงอย่างที่เขาพูดนั้นแหละ ผมมันเด็กที่พ่อแม่จริงๆทิ้งไว้หน้าบ้านพี่โรมัน มันแปลกมากหรอที่ผมไม่อยากจดจำอดีตของบุพการีที่ไม่เคยอยากเลี้ยงดูผม

"ครับ"ผมยังไม่อยากจะหงุดหงิดจนเผลอชกหน้าเขาตอนนี้เท่าไร

"บังเอิญฉันเป็นเพื่อนโรมัน"เพื่อนพี่โรมันหรอ เหอะ..นี่เพื่อนพี่ชายผมหรอ? ทำไมผมไม่เคยรู้จักเลย

"ครับ ไว้กลับบ้านผมจะถามพี่โรมให้ครับ?"ป่วยจิตจะคุยกับคนจอมหยิ่งไม่น่าคุยแบบนี้เลย มันทำให้คิดถึงคนที่ทอดทิ้งผมไปขึ้นมาร่างสูงดึงรั้งผมไม่ให้เดินหนี

"เวลาฉันคุย ห้ามเดินหนี!"ประสาทล่ะ ผมหันไปมองหน้าเขา มีสิทธ์อะไรมาถูกตัวผม

"ผมไม่ชอบคุณและผมจะเปลี่ยนคู่ด้วย"ผมประกาศต่อหน้าเขาดังจนคนอื่นๆรอบข้างหันมามอง

"ทำได้ก็ลองดู"สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งถ่ายรูปคู่กับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่กล้ามีใครขัดคำสั่งเขาสักคน เจ้สองเองก็เช่นกัน แต่เพราะผมแยกออกได้ระหว่างงานกับอารมณ์เราเลยถ่ายรูปกันได้ดีและใช้เวลาน้อยที่สุดก็ได้รูปที่สวยออกมาตามใจเจ้สอง

"น้องเรย์ถ่ายรูปหล่อมากเลย"นี่พี่วันไนท์ครับ พี่เขาน่ารักมาก ผมชอบพี่เขานะแต่ไม่ดีกว่าพี่เขายังไม่ใช่คนที่ผมตามหาแม้ลึกๆแล้วผมจะรู้ว่าพี่วันไนท์เองก็ชอบผมเหมือนกัน

"..."ไม่ทันผมจะพูดอะไรร่างสูงก็ลากผม ผ่านหน้าพี่วันไนท์และอีกคนนี่ใคร(?) ผมไม่รู้จัก คงเป็นคู่จิ้นของพี่วันไนท์ น่ารักดีนะ ดูแซ่บๆแสบๆพอตัว คงเป็นคู่ที่เข้าขาได้ดีกับพี่วันไนท์นะ..


"ขับรถเป็นไหม?"ผมถูกลากมาตลอดทางจนถึงลานรถที่เขาจอด

"เป็นครับ"

"ก็ดีงั้นขับให้หน่อย ฉันไล่คนขับรถและคนติดตามกลับหมดแล้ว"อ้าว??

ฟิ้วว!! สองมือรับกุญแจรถที่ถูกเขาโยนมาอย่างอัตโนมัติ เป็นบ้าอะไรเนี้ย!! อย่าบอกว่าเขาพูดจริงที่จะให้ผมขับรถให้ ไม่ทันจะถามร่างสูงเองก็เข้าในรถแถมยังนั่งเบาะหลังด้วย แหมคุณชายจริงๆเลย..

"ปราสาทไดม่อนพริ้นต์ คงรู้จักทางนะ?"

"ครับ"เกลียดตัวเองที่เป็นคนยอมคนอื่นตลอดเวลาอย่างนี้
ระหว่างทางขับรถพาเขากลับประสาท อันทรงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกนั้นเราไม่ได้พูดคุยอะไรเลย มันน่าอึดอัดไปหมด ผมอยากจะเปิดเพลงฟังสักหน่อยในรถแต่ก็ไม่กล้า หน้านิ่งๆขรึมๆติดจะเย็นชา ทำให้ผมเดาอารมณ์ของเขาไม่ถูก และเมื่อเข้ามาถึงหน้าปราสาทที่เทียบได้กับวังใหญ่หลวงนั้นทำเอาผมตะลึง ตาค้าง มันสวยราวกับเทพนิยายที่ผมฝันใฝ่อยากจะมีสักวันในชีวิตต่างหากล่ะ ไหนสายตาที่จ้องมองผมราวกับเอาเรื่องยามผมเรียกเขาว่าพี่ แปลกคนจริงเลย ให้เรียกตัวเองว่าคุณครูสด้วย ผมล่ะเพลียกับเขา

"เป็นแค่คู่จิ้นของฉัน นายไม่มีสิทธ์ตัดสินใจแทนฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างนับจากนี้ ฉันจะเป็นคนตัดสินเอง"^^ หน้าผมตอนนี้คือมึนตึบไปเลยครับ มีด้วยหรอคนแบบนี้

 "แต่เดี่ยวนะพวกเราแค่เป็นคู่จิ้นกันเองนะ พวกเรายังใช้ชีวิตปกติของเราได้ แค่คู่จิ้นนะพี่ เอ้ย คุณครูส!!" โอ้ย ต้องอธิบายยังไงให้คนตรงหน้าเข้าใจนะ ก่อนอื่นเลยผมคงต้องชินที่จะเรียกเขาว่าคุณครูสแล้วล่ะ ไม่อยากมีปัญหา..

"ใช่ เพราะเราเป็นคู่กันไง และคู่จิ้นสำหรับฉัน ฉันนิยามมันเอง นายจะอยู่ห้องเดียวกับฉันนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะอยู่ด้วยกัน ตัวติดกันตลอดเวลา ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และฉันขออนุญาตให้นายอยู่บ้านฉันจากโรมเรียบร้อยแล้ว ตามนี้" ห้ะ ห้ะ ห้ะ!!! นี่มันเรื่องบ้าบอหอยแตกหรอ? ผมว่าอีตาคุณชายนี่แหละเพี้ยนสุดเลย


Rrrrrrrrrn ผมรีบรับสายทันที..


"อัลโหลพี่โรม เรย์ไม่เข้าใจนะ ทำไมพี่โรมถึงได้ยอมให้คุณครูสเขาเอาตัวเรย์มาอยู่ที่บ้านเขาด้วย พี่โรมไม่รักเรย์แล้ว
ใช่ไหมครับถึงได้ยกให้เรย์อยู่กับคนอื่นแบบนี้?"ผมรีบหันหลังรับสายพี่ชายบุญธรรมพลางกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน

(คนอื่นที่ไหน นั้นเพื่อนพี่เอง แล้วถึงบ้าน คุณครูสแล้วใช่ไหม พี่กะจะโทรมาบอกเรย์เรื่องนี้พอดี)แหม..บอกช้าไปไหมพี่ชาย อีกนิดเดียวผมถูกเพื่อนพี่ลากทำต้ม ยำเละแล้ว..

"ถึงแล้ว แล้วก็ไม่ชอบด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่อยากอยู่ที่นี่ พี่โรมเองก็ช่วยโทรบอกเพื่อนพี่ด้วยว่าให้ปล่อยผมไปได้แล้ว ผมจะกลับบ้าน โอเค?"ถึงที่บ้านพี่โรมันจะไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารเท่าที่นี่แต่ที่บ้านพี่โรมันยังอยู่แล้วสบายใจมากกว่า

(อย่าเอาแต่ใจเป็นเด็กสิเรย์ เรย์โตแล้วนะ พี่คงอยู่ดูแลเรย์ตลอดไป ไม่ได้ อยู่ที่นั้นดีแล้วจะได้ไม่ต้องโดน ริทกับรัทรังแกด้วยไง พี่รักเรานะเรย์ อยู่กับครูสไปก่อนนะถือว่าพี่ขอร้อง อีกอย่างห้องนอนในฝันของเรย์ครูสเขาจัดการตามที่เรย์เคยบอกพี่นักหนาว่าอยากได้ด้วย ไม่เชื่อลองเข้าไปดูในห้องนอนเรย์สิ ครูสเขาใจดีแค่ไหน เห็นไหม?)

"จริงหรอ?"ผมหันกลับมามองร่างสูง เห็นเขาเดินไปยังประตูอีกห้องแล้วพายมือให้ผมมาดู
"พี่โรมแค่นี้ก่อนนะครับเดี่ยวผมโทรไปใหม่"สองเท้าก้าวย่างค่อยๆ ภาพที่เห็นภายในห้องนอนราวกับสิ่งที่ผมวาดฝันมันเลยจริงๆ

"นี่คุณครูสทำให้ผมจริงๆหรือครับ?"โอ้ย..ดีใจๆๆ หัวใจผมเต้นรัว มันตื่นตันจนบอกไม่ถูก ผมเคยอยากมีห้องนอนเป็นของตัวเอง แต่เพราะพี่ริทพี่รัทชอบมาก้าวก่ายห้องผม ห้องนอนผมเลยไม่มีความเป็นส่วนตัว จะเรียกว่า ห้องเก็บของ ห้องนั่งเล่นของพี่ๆเขาก็ว่าได้

"..."ไม่มีเสียงตอบอะไร ผมเลยไม่สนใจเขา เข้าไปสำรวจห้องนอนตัวเองที่มีทุกสิ่งเกี่ยวกับวันพีชรอบกาย นี่ล่ะความสุขของผมเลย


 “โอ้ย ชอบหมดเลย ตู้การ์ตูน ตู่หนังสือทุกเล่มทุกตอนด้วย โอ้ยรักๆๆๆ นี่ด้วยๆ ผนังเรืองแสงที่วาดภาพได้ตลอดเวลาที่ต้องการ นึกอยากลบก็ลบ อยากเขียนก็เขียน ผมคิดมาตลอดเลยว่าอยากมีห้องนอน แบบนี้ คุณครูสจัดได้ถูกใจผมมาก"
ผมมัวแต่สนใจห้องนอนห้องใหม่จนลืม ความเกลียดความโกรธเขาไปแล้ว ร่างสูงไม่ตอบ ได้แต่กอดอกมองผมที่ยังคงดีใจยิ้มกว้างและสำรวจเข้าของภายในห้อง นี่มันแทบจะเป็นมากกว่าสิ่งที่ผมวาดฝันไว้อีก คุณครูสสุดยอด เนรมิตสิ่งที่ผมคิดเป็นภาพจริงด้วย..
"จริงๆแล้ว...ที่นี่ก็น่าอยู่!!"
 "ก็ถ้าดูจนพอใจแล้วล่ะก็..ออกมาหาฉันหน่อยล่ะกัน จะพาไปหาซื้อของใช้จำเป็นที่ต้องการนะ?"คุณครูสบอกก่อนจะพาร่างสูงๆไปนั่งรอบนเตียงกว้างของตัวเอง ผมพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปสนใจห้องตัวเองต่อ


ลา ลัน ลา ลัน ลา ล้า
 ผมฮึมฮัมเป็นเพลง เบาๆในลำคอ มีความสุขครับมีความสุข คุณครูสนอนรอจนผมเดินออกมาจากห้องตัวเอง จะว่าไปแล้วถ้าห้องผมอยู่ในห้องคุณครูสแบบนี้ อย่างนี้เวลาที่ผมจะเข้าออกห้องตัวเองก็ต้องผ่านห้องคุณครูสนะสิ แบบนี้ก็ลำบากแย่สิ!

"คุณครูส คุณครูสครับ"ผมเดินมาสะกิดเขาเบาๆ ร่างสูงสะดุ้งตื่นลืมตาจ้องมองผม

"อะไร?"

"เออ ก็คุณครูสบอกให้ผมมาหาเพราะจะพาไปหาซื้อของมาเพิ่ม"

"อ้อ ไปสิ"แหม คนนี้ก็ตรงไปตรงมาเกิ้น ไม่คิดจะยิ้มจะพูดคุยอะไรที่นอกเหนือจากสิ่งที่คิดเลย ผมเดินตามร่างสูงจอมเงียบขรึมเขาต้อยๆ รถคันหรูพาเรามาห้างแห่งหนึ่งซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นห้างของตระกูลคนตรงหน้า

"ที่นี่ห้างไดม่อนวอลล์ เป็นห้างของพี่ชายคนโตของฉัน"
อ่าห้ะ รู้แล้วๆ ห้างออกจะโด่งดัง ใครจะไม่รู้จักกันล่ะ แต่ผมแค่ไม่คิดว่าห้างนี้จะเป็นห้างของพี่ชายอีตาคุณชายผู้นิ่งขรึมคนนี้ อยากจะรู้เหลือเกินว่าพี่ชายจะแตกต่างจากน้องชายมากแค่ไหนหรือจะนิ่งขรึมเหมือนกันหมด

"ครับ แล้วๆๆ"

"แล้วอะไร?"

"อ้าว ก็แล้วไงต่อล่ะครับ ผมตั้งใจฟังอยู่"

"ไม่มี"ห้ะ จบแค่นี้หรอ? ผมก็นึกว่าเขาจะ อวดอะไรอีก!!

"ต้องการอะไรเพิ่ม เลือกได้เลยๆ"ผมหันมามองร่างสูงที่ยังคงนิ่งเชย ใจดีแปลกๆแหะ แต่ไม่เป็นไรนิ่งขรึมแต่ใจดี เรย์ชอบ

"โอเคครับ"งานนี้งานถนัดผมเลย ผมยิ้มให้ร่างสูงก่อนจะแยกตัวหาของที่อยากได้ ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงกว่า เข้าของเต็มรถเข็ญเมื่อผมเข็ญมาจ่ายเงินก่อนกลับ แต่คนที่จ่ายคือคุณครูสครับ ไม่ใช่ผม


"ทั้งหมด 98,523 บาทนะคะ"ผมแค่รับรู้ แต่ไม่จ่ายครับคุณครูสจ่ายสิ ร่างสูงยืนบัตรสีเงินให้พนักงานสาวด้วยท่าทีนิ่งๆ เป็นไงล่ะครับถึงกับอึ้งเงียบพูดไม่ออกเลยล่ะสิ ก็เป็นคนพูดเองว่า ผมอยากได้อะไรเพิ่มก็เลือกได้เลย นี่ยังเลือกไม่หมดเลย ยังมีของอีกหลายอย่างที่ผมยังอยากได้

“อู้ยสวัสดีครับคุณครูส มาถึงที่นี่เลยนะครับวันนี้?”ผมมองร่างท้วมมีอายุอานามแถมยังแต่งตัวระเบียบทุกระเบียบนิ้วเหมือนวิ่งหอบเดินเข้ามาทักเขา เหล่าบอดี้การ์ดที่ตามมาด้วยสองคนคุมกันผู้มาใหม่ไม่ให้เข้าใกล้คุณครูส เขาเพียงยกยิ้ม ยกยิ้มพ่องสิครับ พูดอะไรบ้างสิ คนเขาอุตส่าห์เดินเข้ามาทักทาย ไร้มารยาทสิ้นดีไอ้คู่จิ้นของผมคนนี้

“ชำระไว้ในชื่อ วิลเลี่ยม ครุสลี่ย์ทั้งหมด 98,523 บาทเรียบร้อยคะ”พนักงานสาวขัดจังหวะการสนทนาขึ้น ร่างท้วมหันมามองสาวเจ้าด้วยท่าทีเอ็ดตะโร

“ว้าย ตายแล้ว เธอนี่มันยังไงกัน ให้เจ้าของห้างชำระเงินของห้างตัวเองได้ไง?”สาวเจ้าหน้าเสียลง มองร่างสูงด้วยความรู้สึกผิด แต่คุณครูสเพียงแค่รับบัตรของตัวเองเก็บไว้และยื่นใบบิลยื่นให้ผม

“จริงหรือค่ะ ดิฉันขอโทษจริงๆค่ะ ดิฉันเพิ่งมาทำงานที่นี่สองวันเองค่ะ”เธอรีบบอก ผมมองพี่สาวคนนั้นสลับกับร่างท้วมจอมโวยวายและคุณครูส

“เธอนี่มันโง่จริงๆ ไม่รู้จักพี่น้องเจ้าของห้าง ใครๆใครรับเธอเข้าทำงาน”ผมมองคนตรงหน้าด้วยความน่ารำคาญ ใครๆใครเอาคุณคนนี้เข้ามาทำงานในห้างนี้ด้วย ผมจะยุให้คุณครูสไล่เขาออก

“ไม่ต้องหรอกครับคุณพนา ผมเองก็ไม่ชอบให้ใครมาประจบอยู่แล้วและเธอก็ไม่ผิดที่ไม่รู้จักผมเพราะผมเองก็ไม่ได้รู้จักพนักงานในห้างของพี่ชายหมดทุกคนเช่นกัน”ผมแอบพอใจกับการตอกหน้าร่างท้วมที่ดูยังไงๆก็รู้ว่าขี้ประจบประแจง เอาหน้าสุดๆ คุณครูสจูงมือผมเดินออกมาพร้อมบอดี้การ์ดของเขาที่ขนของมากมายที่ผมซื้อ ไม่สิ ต้องบอกว่าที่ผมเลือกจิ้มใส่ๆในรถเข็น โดยที่ไม่ต้องจ่ายสักสตางค์เดียว

‘จะว่าไปแล้วคุณครูสก็จิตใจดีเหมือนกันนะ ผมชักจะชอบเขาแล้วสิ!!’




“สวัสดีครับแฟนๆ40,000กว่าคน เรย์กลับมารายงานตัวแล้วครับบบบบ”

ผมโบกมือทักทายในกล้องตัวเองเมื่อเปิดแอพไลฟ์สดที่มีคนดูเพียง 4คนเท่านั้น ใช่ครับ 4คนจริงๆไม่ใช่40,000 คนอย่างที่พูดไป ก็คนมันไม่ดังนี่ครับ เป็นแค่คนธรรมด๊าธรรมดาที่มีเพื่อนในเฟสบุ้คแค่ 4คน นั้นก็คือ เพื่อนรักสามคนและพี่เรย์ ถามว่าไม่มีใครอยากคบหรอถึงได้มีเพื่อนเพียงแค่นั้น บอกเลยว่าไม่ใช่ครับ ผมมันก็แค่พวกเลือกเพื่อนในเฟส

ใครแอดมาไม่รู้จักก็ลบทิ้ง

ใครแอดมา รู้จักแต่ไม่อยากรับก็ลบทิ้ง

ใครที่ชื่นชอบตามจีบแอดมาผมก็ลบทิ้ง

สรุปคือใครแอดมาในเฟสผมลบแม่งหมดเลย นิสัยนะ ฮ่าๆๆ


เพื่อนหนึ่ง:: กว่าจะไลฟ์นะมึง หายเงียบไปเลยนะวันนี้ หายไปไหน ตอบ! ว่าแต่นั้นห้องใครว่ะ?

เพื่อนสอง :: ปล่อยพวกกูรอแดกข้าวเที่ยง มึงไปสร้างท่อส้วมหรอ? เออ ห้องใครว่ะ?

เพื่อนสาม :: เชี่ยเรย์ การบ้านอิสตอรี่ส่งพรุ่งนี้เช้ามึงถ่ายเอามาให้กูลอกด่วน!!

ข้อความจากเพื่อนรักทั้งสามเด้งขึ้นมาต่อเนื่อง แหม รักเหลือเกินพวกมัน ห่างกันหน่อยเดียวพวกมันก็บ่นคิดถึงผมแล้ว แบบนี้ไงผมจึงขาดพวกมันไม่ได้


“อ้อครับ วันนี้เรย์ก็ไม่ได้ไปไหนใกล้ไกลเลย นี่ครับไปที่นี่เอง”ผมชูถุงของมากมายที่ติดตราของห้างพี่ชายคุณครูสให้เพื่อนๆในไลฟ์ได้ดู


เพื่อนหนึ่ง :: ป้าดดดด นี่มึงเข้าห้างดังขนาดนั้นเลยหรือว่ะ?

เพื่อนสอง :: นี่มันห้างพวกเซเลประดับท้อปโลกนี่หว่า มึงมุดท่อส้วมไปหรอ?

เพื่อนสาม ::ไอ้เรย์ การบ้านๆๆ มึงหยุดไลฟ์แล้วส่งมาให้กูก่อน

เอิ่มมม ในเย็นๆเพื่อนทุกคน ทีละคนนะทีละคน ไม่ต้องแย่งกันพิมพ์รัวๆนะ เรย์จะตอบทุกข้อเลย

ยวบ !!

“ไปอาบน้ำได้แล้วเรย์”
ผมหันมองร่างสูงหล่อที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินเข้ามานั่งข้างกายผม โชว์หุ่นสุดเฟอร์เฟ็กให้เพื่อนผมได้ดูด้วยเช่นกัน เดอะแก็งค์ทั้งสามของผมเงียบกริบ ผมยิ้มเห่ยๆให้ร่างวสูงแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างที่หมอนั้นสั่ง ว่าแต่จะถูกจับได้ไหมนะว่าแอบอวดเพื่อนอยู่

ผมฮัมเพลงเพราะเสนาะหูตัวเองระหว่างกำลังอาบน้ำ แอบเงี่ยหูฟังคนข้างนอกแต่ก็เงียบไร้คำตอบ คุณครูสนิ่งเงียบจนผมแปลกใจ มาใจดีใส่ทั้งที่หน้าเขาบ่งบอกได้ชัดเลยว่า ไม่น่าจะใจดีด้วยสักนิด


“คุณครูสๆๆ”ผมเดินย่องออกมา แลซ้ายแลขวาไม่เห็นว่าร่างสูงจะอยู่ห้องตัวเอง โล่งแล้วเว้ย คุณครูสไม่อยู่ อวดเพื่อนต่อ

“ทำไม?”
จึ๋ย ผมตกใจแทบจะวางมือถือกลับไม่ทัน คุณครูสจะรีบเข้ามาทำไมผมยังไม่ได้แม้แต่จะเปิดมือถือเลย ร่างสูงเพ่งมองผม กอดอกสง่าจนผมขนลุก

“เปล่าๆๆๆ ไม่มี๊ไม่มีอะไรเลย แค่เรียกเฉยๆเมื่อกี้ไม่เห็นไง!!”

“หึ นั้นเรียกหรอ นึกว่ากระซิบ?”ผมแบะปากใส่ เขาพูดได้ขวานฝ่าสากมาก ตบปากเลยดีไหม?

“ก็เรียกเบาๆไง ถ้าเสียงดังไปเดี่ยวก็รบกวนคุณครูสอีก?”
ผมจ้องมองร่างเล็กอย่างขบขัน ก็เห็นๆอยู่ว่าจะหยิบมือถือเล่นยังจะแถไปโน้นนี่นั้นอีก ก็ไม่รู้จะเล่นเป็นเด็กไปถึงไหน โตๆกันแล้วน่าจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว

“เรื่องโครงการของเราสองคนสรุปฉันให้นายเป็นคนจัดการทั้งหมด จะเอาอะไร สนใจเรื่องไหนนายทำเองเลย ฉันยกให้เป็นหน้าที่นาย”ผมสั่งร่างเล็กที่นั่งหน้าเปลี่ยนเมื่อได้ยินผมสั่งการ

“.....”

“ทำไม หรือจะไฟท์?”ผมถามกลับ ร่างเล็กถึงกับมองหน้าผมแล้วส่ายหัว

“อูย ไม่ครับ ไม่เลย ไม่มีทาง ผมเต็มใจทำคนเดียวครับ”หึหึ มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว ผมยกยิ้มมุมปากแล้วเดินกลับไปยังเตียงนอนตัวเอง หลายครั้งที่ผมแหงนมองห้องตรงหน้าที่มีอีกคนนอนอย่างครุ่นคิด ร่างบางจะรู้ไหมว่าที่ตัวเองต้องมาอยู่กับผมนั้นมันไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลที่เราบังเอิญได้เป็นคู่จิ้นแต่เพราะมันมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางบ้านของเราสองคนมากกว่าจึงทำให้โรมันขอร้องให้ผมช่วยดูแลน้องมันให้ดีๆ ผมเองก็จำต้องรับปากไปสิครับ ก็น้องเพื่อนนี่ครับจะปฏิเสธได้ยังไง



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่โรมของคุณคุณ เป็นพี่น้องเรย์อ่อ? รอ..ออออออออ    :ling1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2017 00:04:01 โดย ืniyataan »

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คุณครูสอย่าแกล้งน้องเรย์นะครับ ^^

ออฟไลน์ ไอจัง

  • และฉันก็คือฉันเสมอ..
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • ไอจัง

“นี่คุณครูส”

“???”ผมสะลึมสะลือตื่นมองร่างเล็กที่ไม่รู้ว่าเดินเข้ามาถึงตัวเมื่อไร สะกิดเรียกผมเบาๆ ผมยกข้อมือเพื่อดูนาฬิกา ตีสามแล้ว เรย์ยังไม่นอน?

“ผมหิว”ร่างเล็กทำท่าวนท้องตัวเองที่มีเสียงประกอบ ให้ตายนิสัยเด็กจริงๆ ผมลุกขึ้นอย่างจำใจพาเด็กตัวน้อย (?)ไปหาอะไรกินในห้องครัวข้างล่าง บอดี้การ์ดและแม่บ้านที่อยู่เวรดึกต่างพากันมองอย่างสงสัย ก็ผมเคยลุกขึ้นมาหาอะไรกินกลางดึกเสียเมื่อไร

“ช่วยทำอะไรง่ายๆให้คุณเรย์ด้วยล่ะกันนะครับ”ผมสั่งอย่างเหนื่อยระอา ง่วง อยากนอนแต่กลับต้องมานั่งรอเด็กบางคนที่เพิ่งจะได้ใกล้ชิดกันที่เกิดหิวอะไรๆเอาตอนตีสาม เรย์ฉีกยิ้มกว้าง รออึดใจเดียวก็เงียบกริบเมื่ออาหารเมนูง่ายๆสองสามอย่างถูกวางเสิร์ฟตรงหน้า

“รับอะไรเพิ่มบอกได้เลยนะคะคุณเรย์?”

“ครับ งั้นผมขอนมเย็นแก้วหนึ่งครับ ขอบคุณครับ”หึ โตจนป่านนี้ยังกินนมอีก เด็กเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าที่บ้านโรมันเลี้ยงน้องกันยังไงถึงได้ดูเด็กอย่างนี้ ผมเงียบมองร่างเล็กกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ของกินบนห้องที่ขนมามากมายก็มีแต่ไม่เห็นร่างเล็กจะกิน แปลกคนจริง

“คุณครูสกินด้วยกันไหมครับ?”ผมเพียงสบตาร่างเล็กแต่ไม่ตอบ กอดอกรออย่างใจเย็น ก็มันง่วงหนิครับ

“แหะๆ งั้นผมขออนุญาตกินเลยนะครับ จะได้เข้านอนกัน”ก็รู้ตัวแต่ใบหน้าเล็ก ไม่ได้บ่งบอกเลยว่ารู้สึกผิดหรือกลัวผม
ผมเพ่งมองใบหน้าเล็กที่ก้มกินไม่สนใจอะไรแล้วเค้นยิ้มมุมปาก จะว่าไปแล้วเรย์ก็น่ารักดีนะ โรมันชอบพูดถึงน้องบ่อยแต่ผมไม่เคยคิดจะสนใจ เพิ่งจะมารู้สึกตัวก็ตอนนี้ว่า น้องของเพื่อนตัวเองน่ารักจริง

ผมสบตากับใบหน้าเล็กที่เงยหน้ามา หลายคนมักกลัวผม กลัวการเข้าใกล้ กลัวการพูดคุยด้วยแต่กับร่างเล็ก ผมว่าเขาแปลก เขาไม่กลัวผมสักนิดแม้ว่าผมจะแกล้งตีขรึมดุเขา สั่งเขา หรือแกล้งใจแข็งทำใจร้ายด้วยก็เถอะ


“คุณครูสอยู่หนายยยย?”ผมมองข้อความที่ร่างเล็กส่งเข้ามา เพื่อนร่วมเฟสบุ้คของเรย์มีแค่ 5 คนรวมผม มันน่าภูมิใจไหม? ผมอ่านแต่ไม่ตอบมันขี้เกียจพิมพ์ เราอยู่ด้วยกันมาร่วมสองอาทิตย์กว่าแล้ว ผมตระหนักเลยว่าเรย์เป็นบุคคลที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตผม!!!!

“คุณครูส ผมอยากไปเยี่ยมน้องมิกซ์ครับ คุณครูสไปด้วยกันนะคร้าบบบ”ผมกุมขมับเมื่ออ่านจบ แค่แวะมาเข้าห้องพักส่วนตัว หลังจากที่ซ้อมละครเวทีกับน้องมิกซ์แล้วบังเอิญน้องเขาเกิดสะดุดเท้าตัวเองจะล้มผมเลยช่วยพยุงไว้แต่ไม่คิดว่าพี่วันไนท์จะหึงหนักอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้เวลาพัก 15 นาทีผมเลยขอตัวเข้าห้องพักส่วนตัวตัวเองนอนเอาแรง ส่วนเรย์นะหรอครับปล่อยร่างเล็กไปเถอะ รายนี้ยิ้มแย้มไปทั่ว รู้จักสนิทชิดเชื้อกับคนอื่นเขาทั้งกอง ยังไงก็ไม่เหงาแน่

เคาะๆๆๆ
“คุณครูสอยู่ในห้องนี่ใช่ไหมครับ ออกมาเลยๆๆๆ ผมจะรออยู่ตรงนี้แหละ ผมจะไปเยี่ยมน้องมิกซ์ พี่วันไนท์ทำน้องมิกซ์เจ็บตัวจนต้องเข้าโรงพยาบาล”ให้ตาย นี่ไงล่ะครับที่ผมบอกว่าร่างเล็กเป็นคนที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตผม ตั้งแต่ร่างเล็กย่างก้าวเข้ามาชีวิตที่สงบสุขของผมก็มลายหายไป

เคาะๆๆๆๆๆ
“คุณครูสครับ คุณครูสๆๆๆๆๆ”วุ้ย น่ารำคาญจริงน้องชายโรมันคนนี้ ผมจำต้องลุกขึ้นไปเปิดประตู เพราะถ้าไม่เปิดเชื่อเถอะครับเรย์ก็คงยืนเคาะประตูอีกแน่ มือเรียวค้างไว้กลางอากาศเมื่อผมเปิดประตูอย่างหงุดหงิด

“ผมอยากไปเยี่ยมน้องมิกซ์ เราไปด้วยกันนะครับ นี่ก็เย็นแล้วด้วย ผมไม่มีรถขับไปเอง”ก็แหงสิครับ เรามาด้วยกันไปด้วยกันมาตลอด ก็ไม่แปลกที่ร่างเล็กจะต้องพึ่งผมทุกอย่าง ผมถอนหายใจแล้วเดินออกนำร่างเล็กไปไหนก็ได้ตามใจร่างเล็กเลย เดี่ยวนี้ผมขับรถเองและเรย์นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้อย่างสบายใจ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เราเริ่มสนิทกันจนผมเลือกที่จะขับรถเองแล้วชินกับการมีร่างเล็กนั่งข้างกาย

“พี่วันไนท์นี่ไม่ได้เรื่องเลยนะครับ ทำน้องมิกซ์เจ็บตัวตกห้องน้ำ”ผมฟังครับแต่ไม่อยากจะพูด เวลาอยู่ด้วยกัน เรย์จะกลายเป็นคนพูดมากและผมกลายเป็นคนฟัง เราแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือไปฝากน้องมิกซ์ข้างทาง ระหว่างไปเยี่ยมน้องมิกซ์ ผมติดธุระคุยกับพี่คุณเลยไม่ทันได้ขึ้นไปหาน้องมิกซ์ เรย์ก็เดินกลับมาล่ะ เยี่ยมอะไรจะเร็วขนาดนั้น ผมลดโทรศัพท์ลงปล่อยพี่คุณรอผมในสาย

“ทำไมเยี่ยมเร็ว?”ผมถามร่างเล็กที่เดินมาใกล้

“น้องมิกซ์โป๊อยู่ครับ หัวนมนี่ชมปูวววววมากเลย ผมเลยรีบลงมาไม่อยากให้คุณครูสเห็นด้วยเดี่ยวพี่วันไนท์หึง”ร่างเล็กบอกจบก็เดินผ่านหน้าผมไปรอในรถ ผมตั้งใจจะคุยลาพี่คุณแต่บังเอิญเห็นพี่วันไนท์เดินผ่านมาพอดี ขอแกล้งให้หึงหน่อยก็แล้วกัน มั่นไส้พี่แกนานล่ะ ก็ทั้งๆที่เริ่มสนใจน้องมิกซ์แล้วแต่กลับมาวอกแวกกับร่างเล็กคนของผมอีก

"นี่พี่!"ผมทักพี่วันไนท์ที่เดินกลับเข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ ถือขนมมามากมาย

"ผมแค่มีเรื่องอยากบอกไม่รู้นะว่าพี่เคืองอะไรผมนะแต่ถ้าเป็นเรื่องของมิกซ์ล่ะก็พี่สบายใจได้ มิกซ์นะหลังๆมา ถ้าพี่สังเกตดีๆสายตาหวานคู่นั้นมองหาแต่พี่ตลอดเวลาเลย ผมบอกแค่นี้แหละ ไปล่ะ!"ผมแอบสะใจเล็กๆแต่ยัง มันยังไม่สุดพอ

"อ้อ จะว่าไป ร่างมิกซ์ก็น่ากินนะพี่ ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่า หัวนมมันจะชมพูแดงขนาดนั้น"หึหึ ไปล่ะครับ เคลียร์กันแล้วนะพี่ เห็นหน้าพี่ตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าพี่นะชอบน้องมิกซ์มากจนลืมคนของผมไปแล้ว

“คุยอะไรกับพี่วันไนท์หรือครับ ดูพี่วันไนท์หน้าเครียดเลยโน้น”ผมกลับมานั่งในรถอย่างอารมณ์ดี เรย์ถามผมเมื่อเห็นพี่วันไนท์เดินจ้ำอ้าวไปด้วยท่าทีโกรธเคือง หวังว่าน้องมิกซ์ไม่โดนอะไรร้ายแรงนะครับ ผมแค่แกล้งให้พี่วันไนท์รู้ใจตัวเองแค่นั้น

“ก็เปล่า”เรย์หันมามองผมอย่างไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้ เราวนรถกลับบ้านเมื่อเรย์ไม่มีโปรแกรมจะไปที่ไหน



“คุณครูส”

“??”ผมหันมามองร่างเล็กที่เดินเข้าหาผมถึงเตียงนอนผมอีกแล้ว

“ผมคิดถึงพี่โรม ผมโทรหาพี่โรมไม่ติด คุณครูสช่วยโทรหาพี่โรมให้หน่อยได้ไหม?”จะบอกยังไงดีล่ะ พี่คุณเพิ่งจะโทรมาสั่งห้ามโทรคุยกับโรมันเมื่อเย็นนี้เอง สงสัยป่านนี้โรมันโดนยึดโทรศัพท์ไปแล้ว พี่ชายผมยิ่งโหดร้ายอยู่ด้วยใครเขาจะกล้าขัดคำสั่งล่ะครับ ผมเองก็อยากติดต่อหาเพื่อนแต่ดูเหมือนพี่ชายสั่งห้ามเหมือนหวงก้างยังไงชอบกล เกิดอะไรขึ้นระหว่างโรมันกับพี่คุณหรือปล่า ผมเองก็ไม่ได้สนใจใครกับเขาซะด้วยด้วยสิ

“ก็เอาไปโทรเองก็แล้วกัน ฉันไม่ว่าง”ผมโยนโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองให้เรย์ สองมือเรียวรับอัตโนมัติแล้ววิ่งกลับไปยังห้องตัวเอง แต่หายไปสักพักร่างเล็กก็เดินคอตกกลับมา คงติดต่อไม่ได้เหมือนกันสินะ ผมว่าพี่คุณยึดมือถือโรมันไปแล้วล่ะ

“โทรไม่ติดเลย ทำไงดีผมรู้สึกคิดถึงพี่โรม”อยู่ๆร่างเล็กที่ยิ้มเก่ง มีเรื่องนั้นโน้นนี่เล่ามากมายสารพัดก็กลับเหงาจ่อย มันไม่เหมือนเรย์คนเดิมที่ผมรู้จัก

“ทำอย่างกับว่ามีพี่ชายคนเดียว?”ผมบอกเรย์ ก็ใช่ว่าร่างเล็กจะมีแค่โรมันสักหน่อย รัทกับริทก็เป็นพี่ชายด้วยแต่ร่างเล็กกลับไม่ค่อยจะพูดถึงสักเท่าไร

“พี่รัทกับพี่ริทก็คิดถึง แต่สองคนนั้นชอบแกล้งผม ผมคิดถึงพี่โรมมากกว่า คุณครูสว่าวันที่พวกเราขึ้นแสดงละครเวทีพี่โรมจะมาได้ไหม ผมอยากให้พี่โรมมา”แล้วผมควรตอบร่างเล็กยังไงดี ขนาดตัวผมเองยังโดนกีดกั้นไม่ให้เข้าใกล้เพื่อนตัวเองเลย เป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเพื่อนผมนะที่ต้องมาเจอเจ้าหนี้อย่างพี่ชายคนโตของผม

“กลับห้องไปนอนเถอะ ดึกแล้ว”ผมไล่เรย์ให้ไปนอนมันแบบไม่อยากเห็นร่างเล็กดราม่าเอาดึกๆ เป็นเด็กเป็นเล็กควรไปนอน

“ขอนอนกับคุณครูสได้ไหมครับ ผมสัญญาจะนอนนิ่งๆ ไม่กวนใจเลย”

ไหนใครบอกว่าไม่กวนใจเลย

.

.

.

ผมตกเตียงเป็นรอบที่สามของคืนนี้ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าร่างเล็กบอบบางน่ารักที่น่ารำคาญจะนอนดิ้นถีบผมแล้วถีบผมอีก โอ้ย ให้ตาย ผมเอาหมอนกดเรย์เลยได้ไหม??


“เรย์ ลุก!”ผมยืนเต็มความสูงบนเตียงตัวเองพร้อมสะกิดๆเอวบางให้ตื่น จะตี 1 แล้ว แต่ผมยังไม่ได้นอนเต็มที่เพราะโดนถีบจนตก
เตียง ร่างเล็กสะลึมสะลืองัวเงียเพ่งมองผม

“คุณครูสยังไม่นอนอีกหรือครับดึกแล้ว นอนได้แล้ว”หึ ช่างกล้าจริงๆเลยนะเรย์ ถีบผมตกเตียงถึงสามครั้งแล้วยังจะบอกให้ผมนอนอีก

“ลุก ไปนอนห้องนายไป!”ผมสั่งอย่างหัวเสีย เรย์หน้ายู่มองผมอย่างเคืองๆ

“แค่นี้ก็ต้องไล่ด้วย ผมผิดอะไรหรือไง ผมแค่นอนนิ่งๆเอง”แต่ถึงจะบ่นมคนเดียวให้ผมได้ยิน แต่ร่างเล็กก็ยอมลุกแต่โดยดี ผมครอบครองเตียงตัวเองอย่างสบายใจเมื่อไม่มีร่างเล็กที่นอนถีบตกเตียงแล้ว




เช้ามาเรย์ก็งอนผม ไม่คุย ไม่เล่าอะไรให้ฟังทั้งวัน ผมลื่นหูมาก แต่ก็รู้สึกโหวงๆแปลกๆเมื่อไม่มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเรย์เช่นทุกวัน เห็นร่างเล็กเก็บกระเป๋าตัวเองอยู่ในห้องเล็กๆนั้นผมเลยเดินเข้าไปถาม

“จะไปไหน?”ถามแต่เรย์ไม่ตอบ สงสัยยังงอนเรื่องเมื่อคืน

“เรย์ ฉันถาม??”

“จะกลับบ้าน คิดถึงพี่โรม”ร่างเล็กตอบกลับมา ผมเลยไม่ต้องเค้นอะไรเยอะ จัดการยึดกระเป๋าเล็กเข้าตัว

“ไม่ต้อง อยู่นี่แหละ กลับบ้านไปใครจะคุยกับฉัน ใครจะคอยกวนใจ ใครจะคอบงอแงใส่ฉันล่ะ?”

“ก็ไม่ต้องมีไง ผมเห็นคุณครูสเองก็รำคาญผมจะตาย คุยด้วยก็ไม่เคยตอบอะไร อยู่กับคุณครูสผมเหมือนคุยคนเดียวมากกว่า”ร่างเล็กงอแงใส่ ก็จริงอย่างที่เรย์บอก

“แล้วไม่สงสารฉันหรอ?”

“สงสารทำไม คุณครูสก็มีพร้อมทุกอย่างที่รายล้อมแล้ว ผมซะอีกที่ไม่มีอะไรกับใครเขา มีพี่โรมพี่โรมก็ทิ้งผมให้อยู่กับคุณครูส แต่พอมีคุณครูส คุณครูสก็เอะอะๆไล่ผมไปนี่ครับ ก็รู้ว่าผมน่ารำคาญมากก็น่าจะให้ผมไปสิครับ?”เรย์เถียงผม สงสัยจะงอนจนน้อยใจเข้า นี่ผมทำเด็กงอแงแล้วสินะ

“ก็ได้ๆ วันหลังไม่ไล่ไปไหนแล้ว พอใจไหม?”

“....”

“อยู่ด้วยกันเถอะนะ ฉันไม่อยากอยู่เงียบๆเหงาๆเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว การมีนายเข้ามาในชีวิต ถึงนายจะเป็นคนที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตของฉัน แต่ฉันกลับชอบที่มีนายข้างกาย ฉันไม่เคยยอมฟังใครพูด ไม่เคยขับรถให้ใครนั่ง ไม่เคยต้องมาทนใครขอนั่นโน้นนี่แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามเลย นายคือคนแรกที่ฉันยอมเลยนะ”ผมพูดกล่อม มันบอกไม่ถูก ถ้าร่างเล็กจากผมไปแล้ว ผมจะทำตัว จะวางตัวยังไง ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย


“...”


“แต่ว่าถ้านายคิดถึงโรมันล่ะก็ เราไปเยี่ยมพี่ชายนายกันไหม ไปตอนนี้เลย”


“...”


“อยู่กับฉันนะ อยู่กับฉัน นายจะได้ทุกอย่าง และฉันจะกวาดซื้อวันพีชทุกอย่าง ทุกอย่างที่เป็นวันพีชฉันจะซื้อให้นาย เอาไหม?”

“ก็ได้ ผมจะอยู่ต่อ แต่ที่ผมยอมอยู่ต่อเพราะพี่โรมันหรอกนะครับไม่เกี่ยวกับวันพีชเลย!”ผมควรเชื่อใช่ไหม?

“ไปกันครับ?”อยู่ๆเด็กน้อยที่ยอมหายงอแงก็โผล่งขึ้นมา

“ไปไหน?”

“ไปซื้อเสื้อคอเล็กชั่นวันพีชครับ แล้วค่อยไปหาพี่โรมัน”ผมหยิกแก้มนวลที่ออกแก้มเข้ายิ่งนับวันนับตั้งแต่ที่เรย์ได้มาอยู่ด้วยกันกับผม ผมว่าเรย์มีน้ำมีนวลออกแก้มน่าจับกอด น่าจับฟัดมากกว่าเรย์เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเสียอีก

“อื้ม ไปสิ”มันแปลกที่ผมยอมตามใจเรย์ทุกอย่างหรือใจคิดอะไรกับเรย์เข้าแล้ว



“อะ คุณครูสผมเจ็บๆๆๆ ฮึก”เสียงเด็กแสบบ่นๆหลังเวทีแถมยังร้องไห้ออกมาอีก วันนี้เป็นวันมีตติ้งของพวกเราทั้ง 18 คนครั้งแรกในรอบสองเดือน ให้ตายสิครับ ห่างออกไปเข้าห้องน้ำแปปเดียวกลับมาผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นร่างเล็กสะดุดสายไฟจนล้มจนแขนถลอก

“แล้วเดินยังไงไม่ดูสายไฟ?”ผมบ่นไปอย่างนั้น ทุกวันนี้แทบจะห่างเรย์ไปไหนไม่ได้ นับวันผมกลับยิ่งติดตัวเรย์จนกลายเป็นปาท่องโก๋และนอนเตียงเดียวกันแล้ว โรคละเมอถีบของเรย์ผมจัดการได้ด้วยการนอนกอดตัวเรย์ทั้งคืน


“ก็รีบวิ่งมาหาคุณครูสนั้นแหละครับ พี่ๆเขาเรียกรวมตัวกันแล้ว?”เรย์ปาดน้ำตาราวกับเด็กน้อย ผมพยุงแขนที่ถลอกของเรย์ไว้ให้ลุกขึ้นแล้วพาไปนั่งบนเก้าอี้ห้องแต่งตัวของพวกเรา ทุกคนต่างพากันมองอย่างเป็นห่วงแต่ไม่มีใครเข้าใกล้ถึงเรย์หรอกครับ ผมหวงของผม บอดี้การ์ดที่ตามมาด้วยเรียกทีมพยาบาลมาดูแลเรย์อย่างรู้หน้าที่ ผมมองมือที่คล้องผ้าพันแผลของเรย์อย่างนึกห่วงเมื่อทีมพยาบาลทำแผลให้เสร็จเรียบร้อย


“แน่ใจนะว่ายังอยากจะขึ้นไปอีกนะ?”ผมเดินชิดร่างเล็กที่ยิ้มกว้างเหมือนไม่ได้เจ็บงอแงอย่างตอนที่หกล้ม เรย์เงยหน้ายิ้มกว้างให้ผม ตอนนี้เรายืนอยู่หลังเวที อีกมือข้างซ้ายที่ไม่เจ็บของเรย์เลิกผ้าม่านลง


“อยากครับอยากขึ้นไปพบแฟนๆมากเลย คุณครูสก็รู้นี่ครับว่าผมรอวันนี้มานานแค่ไหน?”ใช่ผมรู้ รู้ว่าเรย์ตื่นเต้นมากแค่ไหนที่จะได้มาในวันนี้ ร่างเล็กตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ กวนใจผมทั้งคืน คุยจ้อเลยว่า ถ้าได้เจอแฟนๆของเรา ร่างเล็กจะทำอะไรขอบคุณพวกเขาที่ชื่นชอบพวกเรา รักพวกเรา แต่ผมไม่เห็นว่าอยากจะมาสักเท่าไรนักถ้าไม่ใช่เพราะกฎบังคับของโครงการนะครับ

“ก็รู้แต่เจ็บแบบนี้ยังจะขึ้นไปอีก!”เชื่อเถอะครับ เด็กแสบไม่ฟังผมหรอก ยิ่งช่วงหลังๆยิ่งไม่ฟัง เป็นผมมากกว่าที่เชื่อฟังเรย์


“ก็เจ็บแค่มือเองนี่ครับ อย่างอื่นไม่เจ็บเลย นะครับคุณครูส คุณครูสก็รู้ว่าผมโหยหาความรักจากคนอื่นมากแค่ไหน?”นิ้วเรียวจิ้มๆบริเวณอกผมราวกับเด็กน้อยขี้อ้อน ผมรวบมือนั้นไว้ เล่นวนมากไปเดี่ยวของขึ้นครับ มันจักจี้


“หึ คนอื่นหรอ แล้วที่ฉันให้ล่ะ ยังไม่พอ???”พูดแบบนี้มีเคลียร์กันบนเตียงแน่ครับ เรย์ช่างกล้าพูด!!

“ไม่ใช่ไม่พอ แล้วก็ไม่ใช่แบบที่คุณครูสเข้าใจด้วย ผมก็แค่ดีใจที่วันนี้มีคนรักผมบ้าง คุณครูสก็รู้ดีนี่ครับ พ่อแม่ก็ไม่ต้องการผม พี่
รัทพี่ริทก็ไม่ชอบขี้หน้าผมแกล้งผมบ่อยๆ มีพี่โรม พี่โรมก็ทิ้งผมให้อยู่กับคุณครูสอีก ถ้าผมไม่มีคุณครูสข้างกายแบบนี้ วันนี้ผมก็คงไม่รู้ว่ามีใครอีกหลายๆคนรักผมและชอบผม”

ร่างเล็กบอกผมเสียงอ้อน ยิ่งอยู่ใกล้เรย์นับวันผมยิ่งอยากทลายกำแพงบ้าๆนั้นที่ทำให้ร่างเล็กเสียใจออกไปจากใจเรย์ให้หมด ผมว่าผมแปลกขึ้นนะก็ทั้งๆที่เรย์เป็นคนที่ออกจะน่ารำคาญสำหรับตัวเองแต่ผมกลับสลัดร่างเล็กให้ออกห่างสายตาไม่ได้


“ผมรู้ดี ผู้คนส่วนมากที่ติดตามชื่นชอบคู่เรานั้นส่วนใหญ่ตามมาเพราะคุณครูส ก็คุณครูสหล่อ รวย สมบูรณ์แบบทุกอย่างแต่คนที่เขารักผมบ้างก็มีนะครับ แค่คนสองคนผมก็ดีใจแล้วและผมอยากขอบคุณพวกเขาจริงๆ”

“...”ผมยังคงเงียบฟังเรย์พูดจนจบ

“อีกอย่าง...”เรย์พูดแล้วเงียบไป แต่ใบหน้ากลับยิ้มแย้มก้มหน้างุดเหมือนเขินอาย

“อีกอย่างอะไร??”ผมเชยคางเรย์ให้สบตากัน แก้มนวลระเรื่อขึ้นแดงกว่าเดิม


“อีกอย่างผม ผม..”

“..........”

“ผมเตรียมเซอร์ไพรส์จะให้คุณครูสด้วย เพราะฉะนั้นเราขึ้นไปบนเวทีนะครับ ผมไม่อยากเสียดายภายหลังนะครับคุณครูส?”อ้อ เข้าใจแล้วครับ เซอร์ไพรส์ที่ว่านั้นคือการบอกรักผมบนเวที จะไม่ให้ผมรู้ได้ไงล่ะครับ ก็โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ผมซื้อมาให้เรย์เป็นระบบคู่รัก มีคนโทรมาหาอีกคน อีกคนก็รับรู้ด้วย ผมเคยบอกเรย์แล้วนะแต่ดูเหมือนเรย์จะลืมไป ไอ้แผนการเซอร์ไพรส์จะบอกรักผมบนเวทีนั้นผมรู้ตั้งแต่วันนั้นที่เรย์ปรึกษาหารือกับเพื่อนแล้ว


“งั้นหรอ สรุปคือฉันต้องขึ้นสินะ?”ผมกอดอกครุ่นคิด เรย์กัดปากตัวเองอย่างยั่วยวน


“ครับต้องขึ้นและผมรู้คุณครูสก็ต้องยอมผมอีกตามเคย”ร่างเล็กขยับชิดเข้าใกล้ นิ้วร้ายไล้จากขนาบแก้มผมสู่ลำคอและเรื่อยลงมาจะเข้าสาบเสื้อผมถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือที่สาธารณะล่ะก็ผมจัดการเรย์แน่


“หึ รู้ใช่ไหมถ้าฉันยอมแล้วต้องแลกด้วยอะไร??”เราสองคนต่างสบตากันอย่างรู้ความหมายในข้อกันดี กฎของเราสองคนง่ายนิดเดียว เมื่อไรที่ผมตามใจเรย์ ตกดึกเรย์ก็ต้องตามใจผมบนเตียงเช่นกัน


“ครับคุณครูส...ของผมคนเดียว >///////< ”

ผมชอบจังเวลาที่ตัวเองเป็นคนสำคัญที่สุดของชีวิตเรย์



ผมจะค่อยๆทลายกำแพงเศร้าๆของเรย์ให้หมด แม้ผมไม่ใช่พระอาทิตย์ที่สดใสที่สุดแต่ผมจะเป็นไออุ่นที่อบอวลให้เรย์มากเท่าที่ตัวเองจะมอบให้คนที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไปไม่ได้..


ผมรักเรย์รึเปล่าน่ะหรอ ผมว่าให้การกระทำของผมบอกชัดๆให้เรย์รับรู้ไว้ก็พอ เพราะนอกจากเรย์แล้วผมก็ไม่เคยมีใคร!!






---- The end ----

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ว๊าวๆๆๆๆ มันออกจะใสๆ ครูส-เรย์ นี่หนังคนละม้วนกะ คุณ-โรมเลยที่เดียว   o17

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องงอนเลยเป็นไง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด