6 โมง 30 นาทีของเช้าวันใหม่
"สวัสดีครับคุณยืนรอนานไหม?"เพราะนัดกันเมื่อวานว่าจะมาด้วยกัน ผมเลยรีบแต่งตัวมายืนรอหน้าหอแต่เช้า เขาถามขึ้นอย่างนุ่มนวล
"ไม่ครับ เพิ่งมาเอง"มารอแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ผมรีบขึ้นรถแต่โดยดี
"ไปหาอะไรกินกันนะครับ หิวแล้ว ข้าวต้มกุ้ยหน้า 5 แยก เขาว่าอร่อย ลองไปกินกันไหมครับ?"อ่อยขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาไม่รู้ก็ซึนมากแล้วล่ะ
"อร่อยครับ อร่อยจริง ผมเคยไปกินมาแล้ว!"เคยกินมาแล้ว กับใครล่ะ?ผมจ้องมองเขาอย่างอยากรู้
"ไปกับเพื่อนครับ ไอ้นนท์พาไป คืนนั้นทำธีสีสจนเช้าเราเลยออกมาหาอะไรกินก่อนนอนครับ!"ผมแถไปมองทางข้างนอกทั้งๆที่ปากฉีกยิ้มกว้างพอใจ
"เอิ่ม ผมอัดรูปมาให้แล้วนะครับ อยู่ในถุงใบเล็กเบาะหลัง คุณหยิบดูได้เลย"ผมรีบเอียงตัวไปหาถุงที่ใส่รูป ร่างอวบที่ ขับรถอยู่มองทางตลอด
"ถุงไหนหรือครับ หาไม่เจอเลย?"ผมถามเพราะหาไปก็หาไม่เจอ
"ถึงสีเขียวครับ เจอไหม?? ผมใส่ไว้ในถุงใบผ้าอีกทีนะครับ"ก็อะไรมันจะลึกลับซับซ้อนขนาดนี้ล่ะ ผมหยิบเอาถุงผ้ามาไว้ข้างตัวพร้อมเปิด หาถุงสีเขียว แล้วก็เจอจริงๆด้วย
"ค่อยเปิดดูก็ได้นะ ถึงร้านแล้ว โน้น!"ผมเงยหน้าดูที่เขาชี้ มันจริงด้วย ขับเร็วจัง..
"ครับผ๊ม!!"ผมฉีกยิ้มให้เขา ร่างอวบกว่าจอดรถก่อนเราสองคนจะหาที่นั่งกินข้าวเช้ากัน เช้าขนาดนี้คนยังเต็มเลย ระหว่างทางหาโต๊ะมีคนรอบข้างหันมามองเราแล้วซุบซิบๆกัน มีบ้างที่ถ่ายรูป
"โต๊ะนี้ก็แล้วกันนะคุณ"ผมเลือกโต๊ะริมผนัง เพราะเห็นว่างพอดี ร่างอวบเองก็ไม่ เถียงอะไรแถมยังบอกให้ผมนั่งรอไปก่อน ส่วนตัวเองก็เดินไปสั่งข้าวต้มให้
"สั่งแล้วนะ ข้าวต้มจื๊ดจืด กับข้าวต้มรสแซ่บนะ"ผมเงยหน้าละจากรูปที่กำลังดูอย่างเพลินๆ พลางย่นหน้ามั่นไส้ให้เขา
ตัวเองกินรสเผ็ดได้ทำมาข่ม เหอะ!!
"รูปนะครับ น่ารักมาก ผมชอบ มุมสวย!"
ผมยังคงตื่นเต้นไม่หยุดเวลาดูรูปที่เขาถ่ายมาให้ รูปเราสองคนถ่ายคู่กันยิ่งน่ารักเข้าไปอีก
"ผมชอบรูปนี้ ขอนะ!"ผมชูรูปที่เราสองคนถ่ายด้วยกันระหว่างเล่นน้ำทะเล
"เอาไปหมดก็ได้ ผมอัดมา2 ชุด"หื้อออ อ้อยผมนัยๆหรือเปล่านะ ..
"งั้น ขอหมดเลย!!"เราสองคนนั่งกินข้าวเช้ากันด้วยรอยยิ้มแต่ผมก็ต้องมาเซ็งเป็ดเมื่อเจ้สองจับผมคู่กับน้องเตอร์ ส่วนเขาคู่กับน้องแพน มันอิจฉา!!
"เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเงียบๆไปนะ?"เพราะต้องขับรถพาผมกลับมาส่งที่หอ ร่าง อวบเลยถามขึ้นเมื่อผมไม่พูดอะไร
"ก็ไม่เป็นอะไรนี่ครับ ผมง่วงแล้ว!!"ตัดบททันทีครับ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย
Rrrrrrrrrn
"ฮัลโหลพีท อื้มๆ กำลังกลับพอดีเลย!"
เอียดด..ผมแทบหน้าคว่ำชนกับหน้ารถ
"คุณ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?"ผมรีบถาม เพราะคิดว่าที่เขาหยุดกะทันหันคงเพราะมีเหตุอะไร ร่างอวบฉวยเอามือถือผม
กดวางสายพีทอย่างเสียมารยาท
"ไอ้พีทอีกล่ะ เป็นอะไรกับมันกันแน่?"
ผมขมวดคิ้วชนกัน เขาโกรธอะไรผมกับพีทเล่า เราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ
"ก็เพื่อนจริงๆ แล้วคุณโกรธอะไรล่ะครับนี่ บาดเจ็บหรือเปล่า?"ผมรีบตรวจดูร่างกายเขา เผื่อเขาจะได้แผล แต่ไม่มี..
ร่างอวบดูจะสงบใจลง
"ไม่ได้โกรธ แค่ไม่ชอบ!"ไม่ชอบ แปลว่า เขาไม่ชอบพีทเลยไม่อยากให้ผมยุ่งกับพีทสินะ
"แล้วจะไปไหนกับมัน?"อยู่ๆก็ถามขึ้น
"อ้อ พีทโทรมาจะมารับไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันนะ"ผมรับบอก
"งั้นก็โทรไปบอกมันว่าไม่ไป เที่ยงนี้มีคน เลี้ยงแล้ว!"ผมเผลอยิ้มเมื่อเขายื่นมือถือผมให้กดโทรหาพีทเพื่อบอกว่าไม่ว่างไป
"จะเลี้ยงหรือครับ?"ร่างอวบไม่ตอบ ยังคงย้ำให้ผมโทรบอกพีทว่าไปไม่ได้
ผมกดสายหาพีทและพีทก็รับ พีทดูจะเป็นห่วงเพราะผมตัดสายไปดื้อๆ
"อื้ม คงไปด้วยไม่ได้นะ ติดธุระ อื้มๆแล้วก็ไม่ต้องห่วงนะเที่ยงนี้มีคนเลี้ยงแล้ว"ร่างอวบพาผมมากินข้าวเที่ยงที่ห้องของ เขา เหตุผลหลักๆคือหงุดหงิด ไม่มีอารมณ์กินข้างนอก ผมเลยจำต้องเดินเข้า มาในห้องเขาอย่างงงๆ
"นั่งไปก่อนล่ะกัน ผมจะอาบน้ำ!"อ่าหะ.. ผมพยักหน้ารับรู้ ระหว่างที่เขาอาบน้ำ ผมก็เดินสำรวจห้องเขา เตรียมจาน น้ำ เพื่อรอเขาออกมากินข้าวเที่ยงพร้อมกัน ทีวีเครื่องใหญ่ ผมเปิดข่าวดูฆ่าเวลา
ร่างอวบเดินออกมาในสภาพที่ฆ่าหัวใจผม เพราะผ้าขนหนูผืนหนาที่พันรอบเอวแค่นั้น เม็ดน้ำสะอาดยังคงเกาะผมและ
ตัวเขา เขาเดินมานั่งข้างกาย
"เตรียมซะพร้อมเชียว หิวก่อนก็กินก่อนได้เลย"ผมเพียงยิ้ม พยายามเพ่งมอง ข่าวไม่ใส่ใจเขามากนัก แต่สายตาบ้า กลับวอกแวกหันไปมองอยู่ได้..
"ก็กินคนเดียวไม่อร่อย กินหลายคนอร่อยกว่าเนอะๆ"ฮือๆ ผมอยากจะตาย ทำไมเขาไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนเล่า แล้วแบบนี้ผมจะมีสมาธิกินข้าวไหม?
"งั้นก็กินเลยแล้วกัน หิวล่ะ"ช้อนตักคำโตเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยก่อนผมอีก ผม ตักกระเพรารสจืดกินบ้าง แอบมองมานานล่ะ รสเผ็ดจัดขนาดนั้น ทำไมร่างอวบกินแล้วไม่รู้สึกอะไร"มันไม่เผ็ดเลยรึครับ ผมเห็นคุณกินแล้วธรรมด๊าธรรมดา?"
จริงๆคืออ้อนทางอ้อมอยากจะลองกินดูบ้าง ร่างอวบหันมามองผมหางตา
"อยากลองกินว่างั้น?"ผมพยักหน้างึกๆยิ้มหวานส่งไป น้ำก็เตรียมพร้อมแล้วคงไม่เผ็ดมากหรอกมั้ง!
"อ่ะ งั้นก็อ้าปากกว้างๆเลย!!"คนตรงหน้า ตักข้าวกระเพราในจานคำโตพร้อมบีบแก้มผมให้อ้าปาก สัมผัสรสจัดที่เตะลง
ลิ้นทำเอาผมตาโต มันเผ็ดปรี้ดดดดดด!
ถุย!! ผมรีบวิ่งหาถังขยะแล้วคายอย่างรวดเร็ว เผ็ดๆๆๆๆ เผ็ดจนหน้าแดงเถือกร่างอวบวิ่งเอาน้ำยื่นให้
"อ้าวน้ำ ค่อยๆกินนะ!"เขาเองก็ดูจะตกใจที่ผมแพ้มากขนาดนี้
"มันเผ็ดนะคุณ!!"ผมดิ้นพล่าน ลิ้นทั้งเผ็ด ทั้งร้อน ทั้งแสบทั่วปาก ทำไงดีๆๆๆ เขาเองก็วุ่นเอาน้ำมาให้อีก
"เออนม นมช่วยแก้เผ็ดได้"เขาว่าแล้วก็วิ่งไปเปิดตู้เย็น ผมเองก็เผ็ดร้อนจนหมด หวัง ในตู้เย็นมีแต่เบียร์เต็มไปหมด นมสักหยดหาไม่เจอเลย
"โถเว้ย..เดี่ยวลงซื้อให้ รอหน่อยนะ กินน้ำแก้เผ็ดก่อนล่ะกัน?"ผมพยักหน้า เออออ ตอนนี้เขาพูดอะไรว่าง่ายหมดร่างอวบเข้าห้องตัวเอง แต่งตัวแว็บเดียว แล้วลงไปซื้อนมมาให้ ผมมองตัวเองในกระจกแล้วแทบไม่เชื่อสายตา ปากผมบวมเจ๋อนิดๆ
รอบๆขอบปากก็แดงจี้ดจนผมเริ่มคันขึ้นมา ผมแพ้เผ็ดผมรู้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ จำได้ว่าพอโตพอจำความได้ แม่ก็ป้อน
ข้อมูลในสมองว่าผมกินเผ็ดไม่ได้เพราะผมแพ้ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว มิน่า... แม่ถึงดูแลผมแจ ผมดื่มน้ำเข้ามากๆแต่ความ
เผ็ดก็ยังไม่จางหาย หาก้อนน้ำแข็งในช่องแช่ฟีตมาประคบเย็นเพื่อคลายร้อนไม่นานร่างอวบก็วิ่งเข้ามาพร้อมนมขวดใหญ่ เปิดฝาให้อย่างทุลักทุเลผมรีบดื่มนมรสจืดจนสำลักออกมา
"ให้ตาย ดื่มดีๆสิวะ เดี่ยวก็ได้ตายกันพอดี แพ้เผ็ดแล้วยังเสือกจะกินอีก!"เป็น ครั้งแรกที่เขาพูดไม่เพราะกับผม คงเพราะห่วงผมมากไปมั้งเลยลืมตัว..ผมตั้งนมขวดใหญ่ไว้ เสื้อนักศึกษาเลอะไปด้วยนมที่ดื่ม
"ก็แค่อยากลองหนิครับ!"ผมบอกเขาดีๆ ร่างอวบสงบปากไม่พูดอะไรแต่ก็ยังใจดี หาผ้าขนหนูและเสื้อให้ผม
"ไปอาบน้ำซะ หายเผ็ดแล้วค่อยมากินข้าว"ผมรับเอาผ้าขนหนูและเสื้อมากอดแนบอก ก่อนจะเข้าห้องน้ำก็ไม่วายหยิบ
นมขวดใหญ่มาด้วย ยังเผ็ดก็ต้องกินกันอีกหน่อย
"วันหลังไม่ต้องกินแล้วนะอะไรที่มันเผ็ดๆ ระวังด้วยก็แล้วกัน!"แง่ว ออกมาจากห้องน้ำก็โดนว่าสั่งสอนเหมือนแม่เลย เขา เรียกให้ผมมานั่งข้างกาย รสเผ็ดยังคงติดลิ้นผมไม่จางหายทั้งที่ผมกินนมไปเกือบหมดขวด
"คุณ..มันยังเผ็ดอีก!!"บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ3-4ปีที่ผมมีน้ำตาเขาจ้องมองปากบวมเจ๋อของผมอย่างเป็นห่วง
"หาหมอนะ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เป็นแบบนี้"
"อือ ไม่ใช่ความผิดคุณสักหน่อย!"สุดท้ายเราก็ไปคลีนิคกันได้ยาแก้แพ้แก้คัน มากิน ผมเผลอหลับไปในอีกชั่วโมงต่อ
มา กว่าจะตื่นอีกทีก็ดึกเอาการ เขาไม่ยอมปล่อยให้ผมกลับไปหอตัวเอง ในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เราเริ่มสนิทกันมาก
ขึ้น \
เขาสังเกตได้ว่าน้องเตอร์กับน้องแพนมีซัมติ่งต่อกันเราเลยต้องช่วยเหลือ หาโอกาสให้สองคนนั้นหึงกันหรือแสดงออกความรักของตัวเองกันให้มาก แต่ผมไม่คิดว่าวิธีนี้จะเวิร์คตรงไหนเลย ยิ่งเขาชิดใกล้น้องเตอร์ผมยิ่งหงุดหงิดแต่เพื่อแผนการ ถ้าน้องเตอร์แพนเขารักกันจริงแล้วได้คู่กัน ผมกับเขาก็จะได้เป็นคู่ จิ้นกันสิ เหมือนจะเป็นความคิดที่ง่ายๆแต่มันไม่ง่ายเลยต่อความรู้สึกของผม
"ปิ้นๆๆๆ หลีกหน่อยๆๆ"เสียงน้องโอตัว ใหญ่กว่าพวกผมทั้งที่อยู่แค่ปี2 ตะโกน บอกตลอดทางเพราะโชเล่ที่ขับบรรทุก แกนพยาบาล7-8คนเพื่อไปดูแลน้องเนื่องจากมีน้องหลายคนเกิดแพ้แดดแพ้ลม เขาลากผมขึ้นมาด้วยทั้งที่ผมเพิ่งพักงาน
"เชี่ยโอ มึงขับดีๆสิวะ พี่ไทม์พี่ไลน์ก็อยู่นะเว้ย!"เพื่อนน้องโอเริ่มเตือนสติ ไอ้น้องโอขับบิด160 แซงเร็วจนจะอ้วก ผมมองหน้าเขาเริ่มกลัว เพราะใช้ทางลัดถนนลูกรังหนึ่งเลนด์นั้นยิ่งทำให้พวกเราเด้งไปมาตลอดเวลาจนก้นช้ำ เขาจับมือผมให้กำลังใจ
"เห้พี่! ไม่ต้องห่วงนะอยู่กับโอสบายใจหายห่วง!"น้องมันตะโกนบอกพวกเราแต่ ผมมองเห็นรถบรรทุกคันใหญ่กำลังตรงเข้ามาข้างหน้า
"สัสโอ มึงชิดซ้ายสิวะ ลดความเร็วด้วย" เราทุกคนต่างตื่นตระหนก รถบรรทุกเริ่มคืบคลานเข้ามา น้องโอเองก็พยายา
มลดความเร็ว
"เชี่ยกัมส์ แบรคเสีย!!"
"ห๊า!!!!"เอียดด พลั้วะ!! น้องโอหักเลี้ยวเข้าซ้ายมือไปชนต้นไม้เล็กที่พอจะหยุดรถเราได้ กระแทกของการชนทำให้พว
กเราเด้งตัวไปข้างหน้าก่อนจะหงายหลังตกจากรถ วินาทีนั้นผมกลัว กลัวตัวเองจะตายไปเพราะไม้มากมายที่แหลมชันเฉียดตัวโดนแขนไปนิด เขายังคงจับมือผม เราเด้งตกลงมาพร้อมกัน หากเพราะไม่ใช่แรงดึงเข้าอ้อมอกเขาผมว่าผมตกลงมาโดนเสียบไม้ไปเต็มๆ ตายคาที่แน่!!
"เป็นอะไรไหมๆ?"เขาลุกขึ้นถามผมซ้ำๆ ผมส่ายหัว มันกลัวจริงๆ ภาพเมื่อกี้ยังติดตาผมไม่หาย
"ผมกลัว"ผมจับมือเขาแน่นตัวสั่นเพราะ ความกลัว น้องคนนึงลุกขึ้นมาดูเพราะเห็นผมเลือดออด
"ทุกคนไม่เป็นไรนะ เห้พี่ไลน์ พี่เลือดออกนะครับ?"ผมรู้ว่าผมได้แผล คนอื่นที่มา ด้วยบางคนก็ทลอกแขน ทลอกมือกัน
บ้างจะมีก็แต่ผมที่เลือดออก
"มึงๆทำแผลให้พี่ไลน์ก่อน สัสโอนะมึง เชี่ยจริง!!"น้องโอโดนเพื่อนต่อว่าหนัก
"ไม่เป็นหรอกน้า น้องโอเองก็โอเคนะ?"เห็นน้องเองโดนรถทับเพราะแรงกระแทกทำให้รถล้มทับตัวน้อง น้องบางคนก็ก
ระเด็นออก บางคนไหลทับตัวน้องโอบ้างก่อนจะรีบช่วยพยุงรถขึ้น
"คงช้ำแน่เลยพี่ ไม่เป็นไรคืนนี้พวกผมดูแลมันเอง"ก็ดีนะมีเพื่อนดีรอบตัว
"พี่ ขอโทษนะ!"น้องโอคงรู้สึกผิดจริงๆ
"เออๆ"เป็นเขาที่ตอบปัดๆระหว่างที่น้องคนนึงทำแผลให้ผม ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มๆ ไม่เป็นไร หลังทำแผลเสร็จน้องคนอื่น
เปลี่ยนตัวคนขับจนพวกเรามาถึงป่าชายเลนด์ที่ปลูกป่ากัน บอกน้องเตอร์แพน ว่าจะคุมน้องๆข้างหน้าแต่ถึงตอนนี้มี..น้องถึงที่หมายแล้ว พวกเรายังโอ้เอ้ไปไม่ถึงสักที แกนพยาบาลรีบลงไปปฐมพยาบาลให้น้องที่เป็นลมเป็นแล้ง ผมกับเขารีบวิ่งมาดูแลน้องๆที่มาถึงอย่าให้เพิ่งปลูกต้นไม้ก่อน
ร่างอวบชิดตัวผมไม่ห่างเพราะกลัวผมเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน เราร่วมปลูกป่าด้วยกันกับน้องๆ มีฉากจุบของน้องเตอร์แพนให้ได้แก้มแดงดูด้วย คู่นี้ก็แปลก หึงไปหึงมากันอยู่นั้นล่ะ เขาบอกว่าแผนพวกเราได้ผลจริงๆ หลังจบกิจกรรม ผมแทบสลบ นอนหลับสนิทเมื่ออาบน้ำเสร็จ วันนี้ร่างอวบแวะมานอนห้องผม
สวบ~
ผมลืมตามามองคนข้างกายที่นั่ง บนเตียงผมจนเตียงยุบพร้อมกับมือที่บีบ ยาคลายกล้ามเนื้อแตะลงบนเท้าจนผมเย็นสะดุ้ง เขาเพียงยิ้มบางๆ
"ทายานะ คลายกล้ามเนื้อ"
"ครับ ขอบคุณนะครับ"ผมเองก็ปล่อยให้เขาทาไปอยากจะลืมตากว้างๆหน่อยแต่ตามันไม่ยอมตื่น
"นอนต่อเถอะนะ ไม่ต้องห่วง จะดูแลให้เอง"ผมควรดีใจหรือควรตื่นมาเต้นลั้ลลา ดี เขาน่ารักจัง แต่เพราะความเหนื่อย ผมจึงผลอยหลับไปในที่สุด แต่พอลืมตามาอีกทีคนข้างกายก็หายไปเรียบร้อย
'คงจะหายไปอีกนาน เจอกันวันแจกลายเซ็นนะครับ'เพราะรู้ดีว่า โปรเจ็ตสุดท้ายของเขาทำไกลถึงประเทศสหรัฐโน้น ..
120 วันผ่านไป..
เป็น120 วันที่ผมคิดถึง คนนั้นๆสุดหัวใจ ในส่วนของคู่จิ้นของเขากับน้องเตอร์ยังคงเงียบข่าวคราวไปแต่ก็ไม่ได้ถูกสลับคู่ทั้งที่คนอื่นทั่วโลกรู้กัน หมดแล้วว่า น้องเตอร์น้องแพนรักกันและแต่งงานกันจริงๆ เรื่องการแต่งงานบอกเลยผมเองก็ช้อคแต่ความคิดถึงใครคนนึงมันมีมากกว่า
เพราะโพสต์แต่อะไรๆ เศร้าๆ แฟนๆหลายคนเลยพากันสงสารผมที่กลายเป็นคนโดดเดี่ยวไร้คู่ ผมอ่าน แล้วขำกลิ้งจนท้องแข็งเลย..แต่แค่แปป เดียว แปปเดียวจริงๆและก็หวนคิดถึงเขาขึ้นมาอีก
้เบอร์ก็มี ไลน์ก็มี เฟสบุ้คก็มี ไอจีก็มี ทวิตก็มี Ask.fmก็มี แต่ทำไมเขาไม่ทักผมมาสักวันเลย
ผมนอนเลื่อนดูข่าวคราวหน้าฟีคเฟสบุ้ค ไปเรื่อยๆจนเบื่อ มือแอบลั่นกดดูหน้าเฟสเขา เงียบเช่นเคย ไม่มีอะไรอัพเดท
สักนิด น่าเบื่อ น่าเบื่อไปหมด ผมทิ้งมือ ถือลงข้างกายแล้วไปอาบน้ำเพื่อนอน
เด้งๆๆๆ
ผมแปลกใจที่มีการแจ้งเตือนเข้ามามากมายหลังออกมาจากห้องน้ำ ผมกดมันเพื่อดู
ศิริวรรณา มีประโยชน์แท็กคุณและไทม์ ช่างภาพสุดหล่อ
อะไรนะ แท็กผมกับเขานี่นะ??
>>กรี้ดด เอ้ะๆพี่ไทม์พี่ไลน์นี่ยังไงกันค่ะ อยู่ด้วยกันหรือค่ะ ภาพปกพื้นหลังเฟสนี่เหมื้อนเหมือน<<<
ผมกดดูภาพปกของเขาที่น้องศิริวรรณา แคปมาพร้อมกับของผม มันเหมือนจริงๆ เพียงแต่คนในรูปที่เขาโพสต์นั้นคือผม ถ้าอย่างนั้นผู้ชายในภาพปกผมก็...
เขา!!
เป็นไปได้ไง ผมตามหาผู้ชายในวันนั้นที่ขอถ่ายรูปผมแล้วเขาก็จากไป ผมตกหลุมรักเขาตั้งแต่วินาทีที่ถ่ายรูปเขาแล้วแม้จะไม่ได้เห็นหน้าเขาจริงๆจังๆ
คอมเม้นมากมายจากแฟนๆเด้งขึ้นมา หลายคนเชียร์คู่เราสองคนเพราะเห็นว่าอกหักช้ำชอกจกคู่น้องเตอร์น้องแพน ในวันนี้ผมตามหาเขาคนนั้น..เจอแล้ว!!
และแล้ววันของการแจกลายเซ็นก็มาถึง
งานในวันนี้ ผมแค่ได้เห็นหน้าเขาเพราะเขามาสายไปชั่วโมงกว่าแถมยังอยู่ติดกับน้องแพนด้วย ผมอยู่ใกล้น้องเตอร์ เรา อยู่ห่างกันสองที่นั่งเลยไม่ได้คุยกันการแจกลายเซ็นจบลงด้วยดี น้องเตอร์แพนประกาศเป็นคู่รักอย่างเป็นทางการ ร่างอวบที่ผมคิดถึงจูงมือผมขึ้นรถขับพาไปที่ไหนสักแห่ง เราต่างยิ้มให้กัน ทุกนิ้วของเราที่จับมือกันสอดกันแน่นขึ้น มันนานจริงๆกว่าเราจะได้พบกัน
"คุณครับๆ ขอถ่ายรูปหน่อย?"ผมถือกล้องเล็งเป้าหมายที่เรียกผมด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็ยิ้ม ภาพในวันวานหวนกลับคืนมา เขาพาผมมาในที่ที่เราเจอกันครั้งแรก
"นับนะครับ123"แชะๆ
เราต่างถ่ายรูปกันและกันเหมือนวันวาน ร่างอวบยกกล้องลงเผยให้เห็นใบหน้าที่ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผมได้แต่สุขใจจนหุ บยิ้มไม่อยู่
"สวัสดีครับ ผมไทม์"เขายื่นมือมาทักทาย ผมเลยยื่นมือทักทายเขากลับไปบ้าง
"ดีครับ ผมไลน์"ถ้าในวันนั้นเรากล้าพอที่ จะหยุดเวลาทักทายกัน ชีวิตเราก็คงไม่ หวนกลับมาวนเวียนตามหากันนานอย่างนี้ หรือเพราะเหตุในวันนั้นที่เราไม่กล้า จะรู้จักกันเป็นจุดเริ่มต้นให้ชีวิตเราเลยหวนกลับมารู้จักกันในวันนี้กันแน่ เราสองคนจับมือกันไว้มั่น ต่อจากนี้ไปเราจะไม่หายไปไหนและคงไม่ตามหากันอีกแล้ว
"นี่คุณ ของขวัญผมล่ะ?"
"ของขวัญหรอ อะไรล่ะ ตัวผมไหม? ผมคิดถึงคุณจะแย่"
"แหวะ ไม่เอาหรอก หายไปตั้ง 120 วัน ไม่โทร ไม่ไลน์ ไม่อะไรเลย ผมคิดถึง!"
"แหงสิ แฟนหล่อและเท่ห์ขนาดนี้คุณก็ ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา?"เขามั่นหน้าจริง
"แฟนบ้าบออะไรเล่า อย่ามโนครับ?"
"อ้าวหร่อ เรายังไม่เป็นแฟนกันอีกหรอ งั้นคุณไลน์ครับเป็นแฟนกับคุณไทม์นะ?"
"ครับ^___^"
--- The end ---
*** จริงๆ ชอบพรหมลิขิตของคู่นี้นะคะ น่ารัก