ตอนที่ 23 ตอนอวสาน
จากหนึ่งวันผันเปลี่ยนไปหลายคืน และแล้วก็ถึงวันนี้วันที่น้ำและเขตรอคอย ที่วังทิพย์ คนใช้บ่าวสาวพากันวิ่งวุ่นเตรียม
งานบางส่วนให้พร้อมสำหรับพิธีหมั้นของท่านชายน้ำ และ พลตรีภูธเนศ อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง งานพิธีก็จะเริ่ม ร่างบางในชุดไทยสี
ครีม นั่งทำหน้านิ่งอยู่ตรงกระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัวชั้นสอง โดยมีหม่อมรุ้งพราวเป็นคนดูแลและกำลังตรวจดูความเรียบร้อย
ทรงผมของท่านชายน้ำ แต่ตอนนี้สีหน้าของท่านชายดูนิ่งและไม่ปรากฏรอบยิ้มเธอก็แปลกใจไม่น้อยทีเดียว
“ท่านชายวันนี้วันหมั้นของพระองค์นะเพคะ ทำไมพระพักตร์ไม่แจ่มใสเลย”
“ผมกังวลนิดหน่อยครับหม่อมป้า”
“กังวล? กังวลเรื่องอะไรอีก ไหนบอกป้ามาหน่อยสิเพคะ”
“หม่อมบุหลัน เธอจะมางานของผมหรือเปล่าครับหม่อมป้า”
“นึกว่าเรื่องอะไร กลัวว่าหม่อมเธอจะมาอาละวาดที่งานหรอเพคะ ไม่ต้องห่วงนะเพคะ ทหารหลายร้อยคนวันนี้เป็นหูเป็นตาให้
ท่านชายแน่นอนเพคะ”
“เปล่าครับ ผมแค่อยากให้หม่อมป้ามาด้วย ผมไม่อยากให้งานที่เป็นมงคลแบบนี้ไม่มีผู้ใหญ่ร่วมงานไม่ครบ”
“ไม่มาจะดีกว่านะเพคะเชื่อป้าเถอะนะ เอาล่ะเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว ไหนทรงลุกขึ้นแล้วหมุนให้ป้าดูหน่อยสิเพคะ”
น้ำทำตามอย่างว่าง่าย หม่อมรุ้งพราวยิ้มอย่างมีความสุข ไม่นานนัก สาวใช้ของหม่อมรุ้งพราวที่ชื่อช้อย ก็เดินเข้ามาข้างใน
ห้องแต่งตัวทันที
“ขอประทานโทษเพคะ ท่านชายเพคะ หม่อมรุ้งพราวเจ้าขา เสด็จทรงมีรับสั่งให้มาดูความพร้อมเจ้าค่ะ อีกประเดี๋ยวงานจะเริ่ม
แล้วเจ้าค่ะ”
“ไปทูลเสด็จว่า ท่านชายทรงพร้อมแล้ว” หม่อมรุ้งพราวหันไปสั่งสาวใช้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เจ้าค่ะ หม่อมรุ้งพราว”
“ท่านชายวันนี้เป็นวันที่ท่านชายจะต้องมีความสุขที่สุดนะเพคะ เพื่อนๆของคุณเขตและนายร้อย นับร้อยคนมาแสดงความยินดีกับ
ท่านชาย ป้านะดีใจเหลือเกิน ห้ามทรงเดินลงไปแล้วหน้านิ่งแบบนี้นะเพคะ ใครๆเห็นเข้าจะไม่สบายใจ ยิ่งโดยเฉพาะคุณเขต”
“ครับหม่อมป้า รับรองว่าจะมีแต่รอยยิ้มเท่านั้น”
“ดีเพคะ ปะ ลงไปข้างกันเถอะเพคะ ทุกคนรอท่านชายอยู่ห้องโถงแล้ว”
น้ำพยักหน้าตอบรับหม่อมรุ้งพราวหนึ่งครั้ง ความตื่นเต้นตอนนี้มีมากมายเลยทีเดียว เค้าไม่คิดว่าจะมีการจัดงานยิ่งใหญ่
ขนาดนี้สำหรับเค้า ร่างบางเดินลงบันไดคอนกรีตหินอ่อนขนาดใหญ่ มาพร้อมกับหม่อมรุ้งพราว น้ำค่อยๆเดินลงจากบันได ไปหา
เขตที่ยืนรอน้ำอยู่ด้านล่างบันได
“น้ำ วันนี้น้ำหล่อและน่ารักมากเลยนะ” เขตทักและยิ้มให้น้ำเล่นเอาซะเจ้าตัวเขินมากทีเดียว
“คุณเขต! ชมมากไปแล้วครับ”
“ไม่มากไปหรอกครับ ไหนเรียกพี่สิครับ” เขตกระซิบที่ข้างๆหูของน้ำ
“ครับพี่เขต วันนี้พี่เขตก็ดูหล่อมากเช่นกันครับ ใส่ชุดพลตรีเต็มยศแบบนี้ ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลยนะ”
“อย่างนั้นหรอ อีกหน่อยน้ำก็จะมาเป็นท่านชายของพลตรีคนนี้แล้ว เพื่อนๆและรุ่นน้องของพี่ต่างรอดูน้ำกันในวันนี้เลยนะ พวกเค้า
ประทับและรักน้ำมาก ”
“เอ๊ะ พี่เขต นี่พี่เอาเรื่องผมไปพูดให้คนอื่นฟังเสียๆหายๆหรือเปล่าครับเนี่ย”
“ไม่เลยครับ คนดีของพี่ น้ำมีแต่ความดี ไม่มีเรื่องที่ไม่ดีปะปนอยู่เลย พี่จะเอาอะไรไปว่าให้เสียหายกันล่ะครับ”
“ขอบคุณครับ”
“ไปกันเถอะ เสด็จทรงประทับรออยู่ ”
“คุณเขตคะ ท่านชายเพคะ นี่คือพานพุ่มดอกไม้ เพคะ อย่าทรงลืมที่หม่อมฉันสอนเมื่อวานนะเพคะ” ช้อยแอบเตือนท่านชายของ
เธอเบาๆ
“มั่นใจได้เลยครับ พี่ช้อย น้ำไม่ทำให้พี่ช้อยเสียชื่อแน่นอนครับ”
เขตและน้ำเดินถือพานพุ่มคนละอัน เดินเข้าไปในห้องโถง เพียงแค่ก้าวแรกที่ทั้งสองคนเดินเข้าไป ทุกคนนับร้อยชีวิตใน
ห้องโถงนั้นหันมามองเป็นตาเดียวกัน ทำเอาร่างหนาร่างบางใจสั่นรัวทีเดียว
เสด็จย่าและราชนิกุลหลายพระองค์ นั่งอยู่ตรงหน้าขนาบข้าง เก้าอี้ทองที่เสด็จย่านั่ง แววตาทุกคนที่มองมา มีแต่ความปีติยินดี
และเห็นชอบทั้งนั้น
เขตและน้ำเดินไปถึงหน้าพระพักตร์ของเสด็จก็ก้มลงเดินคุกเข่าเข้าไปที่พระบาทของเสด็จย่าแล้วก้มลงกราบไม่แบมือ
อย่างสวยงามหนึ่งครั้ง จากนั้นพวกเขาสองคนก็เปิดกรวยใบตองสวยงามนั้นออก เผยให้เห็นดอกไม้หลายชนิดอยู่ในกรวยกลิ่น
หอมฟุ้งกระจาย แล้วยกพานให้เสด็จรับไป
“ขอให้เจริญๆนะหลานย่า ”
“ขอบพระทัยเสด็จย่าพะยะค่ะ”
“ส่วนเธอ พลตรีภูธเนศ ฉันยกหลานชายที่ฉันรักที่สุดคนนี้ให้เธอดูแลเค้าแทนฉันด้วยนะ”
“เกล้ากระหม่อมจะดูแลและรักเพียงหม่อมเจ้าชายนทีพิสุทธิ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พะยะค่ะ”
“อืม ดีแล้วล่ะ ฝากด้วยนะ”
เขตกับน้ำก้มลงกราบเสด็จอีกครั้ง ก่อนจะเคลื่อนตัวไปกราบหม่อมราชวงศ์ภัครพิชัยผู้เป็นพ่อของเขตและพ่อบุญธรรมของ
น้ำ
“ขอให้ทั้งสองคนเจริญๆในหน้าที่การงานและชีวิตคู่ให้อยู่ด้วยกันนานๆนะลูก”
“ครับคุณครับคุณพ่อ”
และถึงตอนสำคัญที่สุดของงานคือ แหวนหมั้นที่เขตเตรียมไว้นานแล้ว มันคือแหวนเพชร มูลค่านับ 2 ล้านบาท สวยงาม
มากทันที่เขตเปิดกล่องนั้นออกมา ทุกคนในงานต่างตะลึงในแหวนวงนั้น เขตหยิบแหวนออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปจับนิ้วนาง
ด้านซ้ายของน้ำมาสวมใส่ทันที และมันก็พอดีกับนิ้วของน้ำอย่างไม่น่าเชื่อ เสียงปรบมือดังกึกก้องหลังจากพิธีผ่านพ้นไปด้วยดี
แต่จู่ๆสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“ไม่ได้ จะหมายหมั้นกันไม่ได้!”
เสียงตะโกนดังลั่นมาจากประตูห้องโถงใหญ่ ทำให้พิธีการที่ดำเนินอยู่หยุดชะงัก ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียงทันที และ
ไม่มีใครตกใจไปมากกว่าหม่อมเจ้าหญิงรัมภาพรรณ ที่รีบลุกขึ้นยืนและกราบทูลเสด็จย่าทันที
“เสด็จย่า หม่อมแม่ของหม่อมฉันเองเพคะ หม่อมฉันจะพากลับวังเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องหรอก รัมภา อย่าถือสาคนสติไม่ดีเลย ให้ทหารแถวนั้นพาตัวไปสงบสติจะดีกว่า”
ใช่แล้วเสด็จตรัสถูกแล้ว ก่อนหน้านี้ เหมือนบาปกรรมจะตามเธอทัน เธอคิดมากและสุดท้ายก็สติแตก ความคิดฟั่นเฝือง
ราวกับคนบ้า แม้แต่ชื่อของลูกสาวตัวเองแท้ๆยังจนไมได้ แต่สิ่งที่เธอจำได้มีเพียงเรื่องราวชั่วๆที่เธอเคยทำ และเธอชอบปลีกตัว
ไปนั่งเหม่อลอย หรือไม่ก็คลั่งพูดเรื่องผิดศีลธรรมมนุษย์ที่เธอเคยทำอยู่ประจำ ให้คนทั้งวังฉัตรอรุณรู้ไปทั่ว แต่ท่านชายน้ำไม่
เอาผิดโทษเธอแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าที่เธอเป็นอยู่ทุกวันนี้เธอก็กำลังชดใช้กรรมนั้นอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เธอไปนอนอยู่ใน
คุกในตารางเพื่อให้เสียชื่อชายาคนแรกของเสด็จพระองค์เจ้าฉัตรอรุณจะดีกว่า
“พวกแก มากมายเข้ามาในวังฉันได้ยังไง ออกไปให้หมด ที่นี่วังของฉัน วังของฉัน ฮ่าๆๆๆๆๆ” หม่อมบุหลันเดินเข้ามาอาละวาดชี้
หน้าแขกหลายคนในงาน ท่ามกลางความเวทนาของราชนิกุลและเสด็จเป็นอย่างมาก
“เสด็จแม่ หม่อมบุหลันให้เป็นหน้าที่ลูกเอง เดี๋ยวลูกจะพาเธอออกไปเองพะยะค่ะ” พระองค์เจ้าฉัตรบดินทร์ทรงเสนอตัว
“อืม พาเธอออกไปสงบสติข้างนอกนะ อย่าทำร้ายเธอล่ะ แม่สงสารเธอ”
“พะยะค่ะเสด็จแม่”
พระองค์เจ้าฉัตรบดินทร์เดินไปหาหม่อมบุหลันพร้อมกับทหาร 2 นาย จับล็อคแขนทั้งสองฝั่งไว้ไม่ให้เดินเข้าไปใกล้แขก
มากกว่านี้ ท่าวกลางคนร่วมงานพากันฮือฮา เพราะมีหลายคนรู้จักและจำใบหน้าของหม่อมบุหลันได้ ก็วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนา
นาๆ
ในสภาพเธอตอนนี้ดูไม่ผิดไปจากคนบ้า ผมฟูพะรุงพะรัง เสื้อผ้าสกปรกๆ ไม่เหลือเค้าผู้ดีอยู่เลยแม้แต่น้อย
“หม่อมบุหลัน ไปกับฉัน”
“ไม่ไป แกเป็นใคร จะพาฉันไปไหน ไม่ไปๆๆ ฉันจะไปหาท่านชายน้ำ ฉันอยากเตือนเค้า จะต้องไม่มีงานหมายหมั้น ฮ่าๆๆๆๆ”
หม่อมบุหลันเสียสติไปมากมายขนาดนี้ ช่างน่าเวทนาต่อผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
“เอาล่ะ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน พิธีก็เสร็จลงด้วยดีแล้ว ขอเชิญทุกท่านร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ทางเราเตรียมไว้ให้ ขอ
เชิญนะคะ”
“ขอบพระทัยพระองค์เจ้าสำเภางาม ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญพะยะค่ะ”
เสียงขอบคุณของแขกทุกคน ดังกังวลขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน เขตกับน้ำปลีกตัวออกมาจากผู้คนจำนวนมาก ไปที่ลานน้ำพุ
“น้ำ พี่ดีใจเหลือเกินที่มีวันนี้”
“ผมก็ดีใจครับ”
“น้ำ พี่รักน้ำนะ”
“ผมรู้แล้วครับ ท่านนายพล”
“ฮ่าๆ นี่ ท่านชายจะไม่ทรงตรัสบางประโยคหรือบางคำกับกระหม่อมเลยหรือ”
“อะไรกันครับพี่เขต สำบัดสำนวนอีกแล้วนะ น้ำบอกแล้วไงว่าไม่ต้องใช้ราชาศัพท์”
“ก็ได้ แล้วนี่ไม่รู้จริงหรอน้ำ โถ พี่ยังไม่เคยได้ยินน้ำบอกรักพี่เลยนะ”
“ฮ่าๆๆ พี่เขต ก็นึกว่าเรื่องอะไร จริงๆแล้วผมต้องบอกพี่เขตอยู่อีกหรอครับ หลักฐานก็เห็นๆกันอยู่”
“ไม่เอา พี่อยากได้ยินจากปากของน้ำเองมากกว่า”
“ก็ได้ครับ ผมระ….”
“พี่เขต!!!”
เสียงที่คุ้นหูนั้นทำให้ประโยคของท่านชายถูกแทรกและหยุดไปเสียดื้อๆ ทำเอาอารมณ์เขตตอนนี้ดุเดือดขึ้นมาเสียแล้ว
“เอ้ย ไอ้น้องบ้า โผล่มาอะไรตอนนี้”
“อ้าว ทำไมผมจะโผล่มาไม่ได้อ่ะ ก็นี่วังของท่านชายน้ำ ไม่ใช่วังของพี่เสียหน่อย”
“เอ๊ะ แล้วนี่โผล่มาตอนนี้ มีอะไร”
“ก็เปล่า…เห็นพี่พาท่านชายมาที่นี่ เลยตามมาดู”
“ไอ้บ้าเอ้ย ไปเลยไป จะไปไหนก็ไป”
“ไปก็ได้ นี่ท่านชาย ผมยินดีด้วยนะครับ สำหรับงานวันนี้ท่านชาย คือ เจ้าชายตัวจริงของงานวันนี้เลยครับ ทั้งสง่า หล่อ และน่า
รักด้วย”
“พูดผิดแล้วไอ้เจ้าต่อ พูดใหม่”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เป็นกันเองแหละดีแล้ว ผมเองก็เบื่อนะราชาศัพท์ เนอะๆต่อ”
“ใช่ๆๆๆๆๆ ท่านชายพูดถูกแล้ว อ้อนี่ครับท่านชาย ผมมีเพื่อนมาให้ท่านชายรู้จัก”
“ใครกันหรอ”
“นี่คือ ฟ้ามอญ เพื่อนผมตั้งแต่ปี 1 ยันตอนนี้เลย”
“แฟนละสิไม่ว่า” เขตพูดลอยๆออกมา
“เออๆ นั่นแหละๆ แต่ไม่อยากพูดว่าแฟนไง เดี๋ยวท่านชายจะตกใจ”
“อืมใช่ผม ตกใจมาก นี่ไม่คิดเลยนะว่าต่อจะมีแฟนเป็นผู้ชาย”
“เอาน่าท่านชาย สมัยนี้ แมนๆเตะบอลครับ ฮ่าๆ”
“เสร็จธุระยังเจ้าต่อ”
“ยัง! ผมยังคุยกับท่านชายไม่จุใจเลย พี่เขตจะเร่งทำไมเนี่ย”
“ได้ เล่นอย่างนี้เลยใช่ไหม ”
“อะไรๆๆ ท่านชายดูนะครับ เป็นพี่ที่นิสัยไม่ดีจริงๆเลย น่าถ้าวันไหนโดนพี่เขตแกล้งแบบนี้บอกผมนะผมจะไปฟ้องคุณพ่อให้”
“พี่เขต ผมว่าพี่ใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมเองก็เพิ่งจะได้เจอกับต่อ หลายปีมานี้ไมได้เจอกันเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างผมอยากรู้จัก ฟ้า
มอญให้มากกว่านี้”
“ก็ได้ๆ พี่จะไปรอที่ศาลาไทยฝั่งโน้นนะ ”
“ครับ”
“ไงต่อ ไหนจะเล่าอะไรอีก”
“นี่นะ กำลังจะบอกท่านชายว่า พวกเราสองคนได้ทำธุรกิจโรงแรมล้านนาที่เชียงใหม่ เลยอยากจะให้ท่านชายเสด็จไปเปิดงานนี้
ให้หน่อยครับ”
“โรงแรมล้านนา เข้าท่าดี ได้สิแล้วจะให้ไปเมื่อไหร่”
“อีก 3 วันครับท่านชาย ”
“อืมๆ โอเค ผมว่างพอดี แล้วนี่ต่อกับฟ้ามอญจะกลับเชียงใหม่วันไหน”
“วันนี้เลยครับท่านชาย กลัวว่าจะจัดงานไม่ทัน ”
“เดินทางปลอดภัยนะ อีก 3 วันผมจะไปแน่นอน”
“ขอบคุณมากๆครับ เออนี่ๆท่านชาย พอดีผมแอบไปเห็นสมุดโน้ตพี่เขตมา ในนี้มีแต่รูปภาพท่านชายทั้งนั้นเลย สงสัยอดคิดถึง
ท่านชายตอนไปประจำการที่ทางเหนือไม่ไหว เก็บไว้นะครับท่านชาย”
“เอ่อ แต่ว่า…”
“เอาไว้กับท่านชายแหละดีแล้ว อย่างมากพี่เขตก็ไม่ดุหรอก ถ้าเทียบกับผมแล้ว อาจจะไม่รอด”
“เข้าใจแล้วๆ ”
“อ้อ อีกเรื่องครับ ยังจำเสี่ยสิงห์กับแม่แอรินได้ไหมครับท่านชาย”
“อ้อๆ จำได้ๆ ทำไมหรอ”
“เสี่ยสิงห์นะ ถูกจับแล้วข้อหาค้ายาเสพติดครับ ส่วนแอรินเธอเอาเงินส่วนที่เหลือของเสี่ยสิงห์ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศกับ
แฟนใหม่ของเธอ น่าเห็นใจจริงๆ”
“ไม่น่าเลยนะ ผ่านไป 5 ปี อะไรๆก็เปลี่ยน”
“ใช่ครับ แล้วนี่ครอบครัวเก่าที่เลี้ยงดูท่านชาย เค้ามาร่วมงานไหมครับ”
“มาสิ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ในงานกับเสด็จย่า สงสัยจะคุยเรื่องเก่าๆ”
“อ้อครับ ถ้าอย่างนั้นผมไปแล้วนะท่านชาย ขอบคุณมากที่อนุญาตให้ใช้คำสามัญชน ผมถนัดนักเชียว ฟ้ามอญลาท่านชายเร็ว”
“กระหม่อมทูลลาท่านชายน้ำ”
“ครับแล้วเจอกันนะฟ้ามอญ”
น้ำเดินตามเขตมาจนถึงศาลาไทยตามที่บอก ที่ตรงนี้ปลอดคนยิ่งกว่าลานน้ำพุเมื่อครู่อีก แต่พอร่างบางไปถึงก็ไม่พบทหาร
หนุ่มเสียแล้ว
“ไปไหนนะ พี่เขตครับ! พี่เขต อยู่ไหนครับ!” น้ำตะโกนเรียกเขตอยู่สักพัก จู่ๆดวงตาของเค้าก็มืดสนิท
“อุ้ย พี่เขต ไม่เล่นแบบนี้นะครับ ตกใจหมดเลย”
“ฮ่าๆๆๆ แกล้งนิดหน่อยเองน้ำ ทำไมไปนานจัง”
“นานหรอครับ ไม่ถึง 5 นาทีเลย”
“ไม่รู้แหละ หายไปนานขนาดนี้มีอะไรจะตอบแทนบ้างเอ่ย”
“ตอบแทน? ”
“อ้าว ใช่ครับ น้ำหายไปจนพี่นี้แทบทนรอไม่ไหว แล้วจะทำอะไรไถ่โทษพี่ครับ”
“อืม…ได้ครับ พี่เขตสัญญาก่อนว่าจะทำตาม”
“หืม นี่พี่กำลังลงโทษน้ำอยู่นะ”
“เอาน่าครับ รับปากก่อนว่าจะสัญญา”
“ได้ๆๆ พี่สัญญา ”
“หลับตาครับ”
“จะแกล้งพี่ใช่ปะ รู้ทันหรอกนะน้ำ”
“เปล่าเสียหน่อยครับ คิดมากจริงๆ หลับตาเร็วๆเข้า”
“ก็ได้ อ่ะ พี่หลับตาแล้ว”
น้ำแอบยิ้มที่หนุ่มวัย 35 ปีใส่ชุดพลทหาร ว่านอนสอนง่าย มันดูน่ารักเป็นบ้าเลยทีเดียว น้ำถือโอกาสนี้เพื่อที่จะสื่อความใน
ใจของน้ำที่มีให้เขตตลอดมา ผ่านกิริยาบทที่อยากจะทำมานานแต่ไม่เคยได้ทำ ร่างบางไม่ลังเลที่เดินเขย่งเท้าเอาริมฝีปากบางๆ
ประกบจูบที่ริมฝีปากร่างสูงทันที
ภูธเนศ ดวงตาเบิกโพงทันทีที่ริมฝีปากที่นุ่มๆนั้นสัมผัส เค้าเอามือสองข้างโอบกอดรัดร่างบางไว้แนบกายทันที
“พี่เขต!” น้ำตกใจหลังจากที่ถูกกอดรัดเอาไว้ในอ้อมอกหนาใหญ่นั้น
“อะไรครับ จูบต่อสิ กำลังเพลินเชียว”
“ไม่แล้วครับ”
“อ้าวทำไมล่ะ โหยอุตส่าห์อดใจไว้ตั้งแต่ 5 ปีก่อนเลยนะ ”
“อะไรกันครับ พูดเว่อร์เกินไปแล้ว”
“ไม่เกินไปหรอก พี่รอมานานแล้ว ไม่คิดว่าน้ำจะกล้าทำแบบนี้”
“ก็กล้าเฉพาะกับพี่เขตเท่านั้นแหละ”
“ดีครับ ถ้าไปกล้าทำกับคนอื่น มันต้องตายเท่านั้น”
“พี่เขต อย่าพูดเรื่องตายสิครับ มันไม่ดี”
“ไม่รู้แหละพี่พูดจริงทำจริงด้วย ห้ามน้ำไปยุ่งกับใครนอกจากพี่โอเคไหม”
“ครับๆ โอเคครับ แล้วนี่หายโกรธหรือยังครับ”
“ยังไม่หายโกรธครับ”
“อ้าว! แล้วนี่ผมต้องทำยังไงครับพี่เขตถึงจะหายโกรธ”
“ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ เพราะว่าพี่ไมได้โกรธน้ำจริงๆหรอก”
“พี่เขต! ไม่ตลอกเลยนะครับ”
“อ่าๆๆ โอเคๆ ไม่หัวเราะแล้ว นี่น้ำ!....”
“ว่าไงครับ”
“รู้อะไรไหมว่าน้ำเป็นคนเดียวบนโลกนี้ที่ทำให้พี่รู้จักรักแท้ ที่ไม่ทิ้งกัน ถ้าหากเปรียบว่าพี่เป็นโจทย์ น้ำคือคำตอบของโจทย์นี้
ทุกอย่างทุกประการ รวมทั้งหัวใจของพี่”
“หัวใจของพี่เขต!”
“ใช่ หัวใจของ ที่จำนนหัวใจ ให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นถึงราชนิกุล ผู้ชายที่น่ารัก จิตใจดี มีเมตตา และอ่อนโยน พี่รักน้ำนะ”
“น้ำก็รักพี่เขตครับ รักตลอดไป”
“ขอบคุณนะที่ลดตัวลงมาเพื่อรับรักกับผู้ชายที่ไม่ดีคนนี้”
“พี่เขตเป็นคนดี เป็นฮีโร่ในใจผมเสมอครับ”
เขตสวมกอดน้ำอีกครั้ง ทั้งสองคนมีความสุขที่สุด โดยมีสักขีพยานคือ ดอกไม้หอมและหมู่มวลผีเสื้อนับ 20 ตัวที่บินไปมา
พร้อมๆกับสายลมอ่อนๆที่โชยพัดเข้าร่างสองคนนี้พลางบอกว่าจุดจบของเรื่องราวร้ายๆกำลังหมดไป แต่จุดเริ่มต้นแห่งความสุข
นั้นต่างหากที่กำลังจะเกิดขึ้น
ภายใต้ศาลาไทยที่สองคนนั้นสวมกอดกันอยู่ แต่กลับปรากฏร่างของหม่อมพิมลและพระองค์เจ้าฉัตรอรุณที่ยืนมองทั้งคู่ได้
พบกับรักที่แท้จริงและจอยู่คู่กันตลอดไป ตราบจนลมหายใจจะไม่มี
อวสาน
จบแล้วๆๆๆๆ ขอบคุณที่ติดตามกันมา ตลอดเวลา เกือบๆ 6 เดือนน้า บ้ายบาย ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะ สู่กลางใจเธอ ใส่ไปแล้วครึ่งตอนแรก