Watercolor
Epilogue
SECRET GARDENต้นไม้ยกกระถางดอกไม้เข้ามาวางตรงชั้นในร้านก่อนจะปิดประตูร้าน พร้อมกับพลิกป้ายเป็นคำว่า close วันนี้เขาปิดร้านเร็วกว่าปกติเพราะวันนี้บรรดาแก๊งลูกเพื่อนแม่และแฟนของทุกคนเกิดอยากจะรวมตัวกันขึ้นมาซะดื้อๆ พอจัดการหน้าร้านเสร็จแล้ว ก็ตั้งใจจะขึ้นไปเรียกรามิลที่หายไปตั้งแต่กลับมาจากที่ทำงาน แต่ยังไม่ทันจะได้ขึ้นไปตาม รามิลพร้อมกับชุดอยู่บ้านก็เดินลงมาพอดี
“ล็อคประตูเรียบร้อยแล้วนะไม้”
“เรียบร้อยแล้ว มิลเคลียร์งานเสร็จไหมทำต่อก็ได้นะ”
“ไม่อยากคุยแล้วคุณชัยชอบจับผิดมิล”
“งอแงตลอด”
“อยู่กับแฟนกับแก๊งลูกเพื่อนแม่ดีกว่าวันนี้”
กลับสู่โหมดอ้อนแฟนเต็มตัว รามิลทิ้งมาดผู้บริหารแล้วเดินไปหยิบต้นกระบองเพชรที่เลี้ยงเองขึ้นมาถือไว้ ตั้งใจจะเอาไปอวดกับแก๊งลูกเพื่อนแม่ที่มารวมตัวกัน ต้นไม้ได้แต่ส่ายหน้าแต่ก็ยกมือขึ้นมาจับผมเผ้ารามิลให้เข้าที่เข้าทาง รามิลเลยคว้าเอวต้นไม้แล้วเดินไปยังสวนด้านหลังด้วยกัน
“คีตา อยากฟังสิบเพลงรักแบบสดๆ ร้องให้ฟังหน่อย”
“ไอ้พอร์ชนี่มันเพลงพิเศษที่คีตาแต่งให้กู กูควรได้ฟังคนเดียว”
“เขาก็ฟังกันทั้งประเทศนะคุณพี่เบน”
“โว๊ะ เมื่อไหร่มึงจะเลิกกวนตีน”
สวนด้านหลังตอนนี้เรียกว่าวุ่นวายมากเลยทีเดียว คีตาดีดกีตาร์ไปเรื่อยๆ แกล้งทำเสียงประกอบเมื่อเห็นว่าพี่เบนกับพอร์ชเริ่มจะตีกันอีกแล้ว รามิลวางต้นกระบองเพชรไว้กลางโต๊ะพร้อมกับบอกว่าเลี้ยงมากับมือออกดอกสวยงาม แต่แก๊งลูกเพื่อนแม่ที่เห็นรามิลอยู่กับต้นกระเพชรตั้งแต่จีบต้นไม้ก็ไร้ซึ่งความตื่นเต้นใดๆ เลยทำเป็นพยักหน้ารับรู้ ก็นะไอ้มิลอวดต้นกระบองเพชรในไลน์กรุ๊ปลูกเพื่อนแม่ทุกวี่ทุกวันไม่เห็นจะน่าตกใจตรงไหน
“ไม่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้านานแล้วว่ะ”
“มึงพูดเหมือนเราไม่เจอกันนาน บ้านห่างกันสองซอยเมื่อวานไอ้ทิมยังปีนข้ามรั้วมาแดกข้าวบ้านกูอยู่เลย”
“กูไม่เคยเข้าใจไอ้ทิมทำไมไม่เดินเข้าทางประตูดีๆ กูเห็นมันปีนข้ามกำแพงไปบ้านไอ้คินตั้งแต่สามสี่ขวบ”
“เสียเวลา ปีนเร็วกว่า”
“เมื่อก่อนขาสั้นกูต้องไปรับมันตรงกำแพงด้วย กระโดดใส่กูทุกวัน”
“ลูกกระจ๊อกสมตำแหน่ง”
“ตำแหน่งกูไม่เคยขยับ ตั้งแต่โสดจนมีแฟน”
“ตอนนี้ไอ้คินตายห่าแน่นอนรับใช้ทั้งไอ้ทิมทั้งสีน้ำ โชคดีนะลูกกระจ๊อก”
คินหันไปอ้อนแฟนที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับบอกให้สีน้ำสู้ให้หน่อยอยากย้ายตำแหน่ง แต่แน่นอนว่าสีน้ำที่มีทับทิมเป็นไอดอลได้แต่ส่ายหน้าแถมยังมีการไปแปะมือกับทับทิมอีกต่างหาก มีคีตาเข้ามาร่วมวงรวมพลังตามด้วยต้นไม้ที่รามิลถึงกับร้องห้ามรัวๆ แต่ก็ห้ามไม่ได้ ภาพตรงหน้ามันดูน่ารัก ทับทิมเป็นคนเข้าถึงยากทุกคนรู้ดี แต่สำหรับแฟนของแก๊งลูกเพื่อนแม่ทับทิมเปิดใจให้ทุกคน เมื่อวันก่อนก็เอาสร้อยข้อมือที่ออกแบบเองมาให้ ต้นไม้ คีตา และสีน้ำ และแน่นอนว่าไอ้พอร์ชเองก็ได้เหมือนกัน
“ไอ้มิลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว มึงเป็นอะไรเนี่ยหัวหน้าแก๊ง”
“กูจะซึ้งไม่ได้เลยเหรอไง ไอ้พวกนี้นี่กูดีใจที่พวกมึงมีแฟน มีความรักที่ดีๆ”
“ไหนๆ ก็มาขนาดนี้แล้วขอสุนทรพจน์หน่อย”
รามิลมองไปรอบๆ โต๊ะที่นั่งอยู่ จะว่าไปพวกเขาสี่คนโตกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ จากเด็กสามสี่ขวบที่พ่อแม่พามาให้รู้จักกัน ถูกจับแต่งตัวให้เหมือนกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเราสี่คนจะกลายมาเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายจนถึงวันนี้ รามิลหันไปมองคู่รักนักดนตรี คีตายังคงถือกีตาร์ไว้บนตักและเบนจามินยังคงนั่งลูบแก้มป่องๆ นั่นไม่หยุดแต่ก็รอฟังที่เขาจะพูดไปด้วย
“เบนจามิน ไอ้เด็กตาตี่ที่อารมณ์ดีเกินร้อยจนกูคิดว่ามึงบ้าแล้ว เจ้าชู้จนกูนึกไม่ออกเลยว่ามึงจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้ยังไง คนที่เคยผิดหวังในความรักจนถึงกับนั่งกอดไวโอลินร้องไห้จะเป็นจะตาย”
“…………”
“และมึงก็เป็นเบนจามินคนที่ดีขึ้นเพราะนักแต่งเพลงคนหนึ่ง กูโคตรดีใจในวันที่มึงประสบความสำเร็จทั้งเรื่องงานและความรัก ขอบใจนะคีตาที่เข้ามาในชีวิตเบน เป็นกล่องดนตรีให้เบนให้มันตลอดไปเลยนะ”
“…………”
คีตายิ้มให้รามิลจนลักยิ้มบุ๋มพร้อมกับดีดกีตาร์เป็นการตอบรับ รามิลเบนสายตาไปยังคู่รักอัญมณี ทับทิม นพจินดาในวัยสามสิบกว่าก็ยังคงมัดจุกเหมือนเมื่อตอนสามขวบ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคนที่มัดจุกให้ทิมไม่ใช่แค่พวกเขาสามคนอีกต่อไปแล้ว พอร์ช พชรคืออีกคนอีกคนที่ทิมยอมให้
“ทับทิม ไอ้เด็กที่โคตรเอาแต่ใจตั้งแต่กูพบเจอมาบนโลกใบนี้ เกิดมาไม่เคยเจอเด็กคนไหนร้ายกาจเท่ามึงมาก่อน และก็เป็นคนที่กูห่วงที่สุดในแก๊งลูกเพื่อนแม่ ตั้งแต่เด็กมึงบอกตลอดเลยว่าคนอย่างมึงไม่คู่ควรจะมีความรัก ไม่มีใครอยากจะอยู่กับคนที่นิสัยที่ไม่ดีอย่างมึง”
“…………”
“คนที่ออกแบบแหวนแต่งงานให้คนอื่นเป็นร้อยๆ วงแต่ไม่เคยคิดจะออกแบบให้ตัวเอง แต่กูก็เคยบอกมึงแล้วทับทิมว่าสักวันมึงจะได้เจอความรักที่ดี จะมีคนที่มึงอยากออกแบบแหวนแต่งงานให้ตัวเอง มึงคือคนที่เสียใจเพราะความรักจนเกือบจะยอมแพ้แต่ในที่สุดมึงก็ได้เจอคนที่มึงรักและรักมึงในแบบที่มึงเป็น”
“…………”
“พอร์ชกูจะบอกมึงไปจนตายถ้ามึงทำเพื่อนกูเสียใจเมื่อไหร่ มึงได้เจอแก๊งลูกเพื่อนแม่เวอร์ชั่นที่มึงคาดไม่ถึงแน่นอน”
“ขู่เป็นร้อยครั้งผมก็จะบอกให้แก๊งลูกเพื่อนแม่เป็นร้อยๆ ครั้งเช่นกันว่า มันจะไม่มีวันนั้นครับผมสัญญา ผมจะดูแลแก้วตาดวงใจของแก๊งลูกเพื่อนแม่ให้ดีที่สุดครับ”
“ต่อให้ไอ้ทิมร้ายกว่านี้”
“ร้ายให้สุดๆ ไปเลยผมไม่ไปไหนหรอก”
“มึงนี่พระเอกฉิบหาย”
“ขอซีนหล่อให้ผมบ้างเถอะ พวกลูกพี่แย่งไปกันหมด”
ถึงจะกวนตีนที่หนึ่งแต่รามิลก็เชื่อว่าคนอย่างพอร์ช พชร คือคนที่พวกเขาไว้ใจที่จะฝากให้ดูแลทับทิม เจ้าเด็กผมจุกยิ้มให้เขาทั้งๆ ที่น้ำตาคลออารมณ์อ่อนไหวมาอีกแล้วแน่ๆ พอร์ชรั้งทิมเข้ามาใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าทิมจะร้องไห้อยู่รอมร่อพอไอ้ทิมน้ำตาไหลไอ้เบนกับไอ้คินส่งเสียงล้อไม่เลิก จนไอ้ทิมแทบจะปาขนมบนโต๊ะใส่มันทั้งสองคน รามิลเหลือบไปเห็นแหวนทับทิมที่นิ้วนางข้างซ้ายของทั้งคู่ก็ยิ้มออกมาเขายังจำเหตุการณ์วันนนั้นได้ดี
“มา ภาคิน”
“กูแล้วเหรอตื่นเต้นว่ะ”
“ตื่นเต้นเหี้ยไร”
“กูกับมึงรามิลไม่เคยคุยกันแบบหวานแหววตั้งแต่เด็ก ไอ้ทิมเป็นคนสร้างปัญหา ไอ้เบนช่วยไอ้ทิม กูแก้ปัญหา มึงออกรับหน้า เราสองคนไม่มีซีนซึ้งเลย”
“พลิกล็อคสุดก็คือมึงนี่แหละกูบอกไว้เลย กูนึกว่ามึงจะมีแฟนสักสี่สิบ”
“สัด นานเกิน”
“ก็มึงตะลอนๆ ทั่วประเทศไม่หยุดกูจะไปรู้เหรอว่ามึงจะมีแฟนตอนไหน และดูเลิฟสตอรี่มึงเอาไปสร้างเป็นหนังได้เลย โปสการ์ดสื่อรัก”
แต่ก็จริงอย่างที่ภาคินบอก เขากับคินเป็นผู้ชายประเภทไม่พูดกันซึ้งๆ แต่ต่างฝ่ายต่างรู้อยู่แล้วว่าคิดอะไรอยู่ ถ้าห่วงก็แค่ตบไหล่ แต่จะมาเข้ามากอดมาบอกว่าเออ เป็นห่วงว่ะมันไม่ใช่แนวเท่าไหร่ แต่ในฐานะหัวหน้าแก๊งเขาก็เป็นห่วงภาคินไม่แพ้ใครเหมือนกัน ตอนนี้พูดได้เลยว่าเขาหมดห่วงคินเรื่องความรักแล้ว สีน้ำที่กำลังระบายสีลงบนสมุดวาดภาพตรงหน้าถึงกับหัวเราะกับท่าทางของภาคินไม่หยุด
“ภาคิน ไอ้เด็กที่โคตรฉลาด เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ์ณ คนที่คอยแก้ปัญหาให้แก๊งลูกเพื่อนแม่ กูดีใจมากที่กูได้รู้จักมึง ตั้งแต่วันที่มึงหายไปเชียงใหม่กูโคตรเป็นห่วงมึงเลย ถึงมึงจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ”
“………”
“ขอสารภาพว่ากูถึงกับขอให้มึงได้เจอใครสักคนที่นั่น ให้มึงได้เจอกับใครสักคนที่รักมึงจริงๆ และเป็นที่พักพิงให้มึงในวันที่มึงเจอเรื่องแย่ๆ จะได้ไม่ต้องหนีไปไหนอีก”
“เจอจริงด้วยว่ะ”
“เออดิ เพราะกูไม่เคยเห็นมึงเสียศูนย์ขนาดนั้นมาก่อน ตอนนั้นกูถึงเป็นห่วงมึงมากถึงมึงจะฉลาดแค่ไหน เก่งแค่ไหนแต่กูก็อยากให้มึงได้เจอคนที่เขามาดูแลมึงเหมือนกัน สีน้ำ..ผมไม่เคยพูดแบบนี้กับใครเลยเพราะคิดว่าคินดูแลตัวเองได้มาตลอด แต่วันนี้ผมขอฝากภาคินไว้ด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วงเลย ผมจะดูแลนายภาคินคนนี้ให้เองข้าวเช้าก็ซื้อให้ ร้านก็ดูให้ ห้องก็กวาดให้”
“ทำให้ขนาดนี้เราแต่งงานกันได้ยัง”
“เนี่ย มึงมันเจ้าเล่ห์ไอ้คิน”
“อย่าแซงคิวผม”
“มึงเด็กสุดแต่งทีหลังเลยพอร์ช สักสามสิบห้า”
“นานเกิน อยากแต่งพรุ่งนี้”
“ได้ข่าวว่ากูกับคีตาคบก่อนพวกมึงสองคนอีก อย่ามาๆ ตามคิว”
“ก็มึงมัวแต่บินไปอเมริกาไม่แต่งสักที”
“ทำงานเก็บเงินก่อนสิโว้ย เดี๋ยวไม่มีเงินมาเลี้ยงลูกเขา”
“ต้องบอกกี่ครั้งว่าคีตารวยกว่ามึงเบนจามิน”
“เมื่อกี้เรายังคุยกันเรื่องมิตรภาพอันยาวนานของแก๊งลูกเพื่อนแม่กันอยู่เลย กูพูดซะยืดยาวพวกมึงนี่”
“แต่กูตื้นตันจริงนะรามิล ไม่คิดว่าเราสองคนจะมีวันได้พูดอะไรแบบนี้ขอกอดทีหัวหน้า”
ภาคินทำท่าจะเข้ามากอดรามิลเพราะซึ้งจัด แต่ดีที่เขายกมือห้ามไว้ทัน บรรยากาศในตอนนี้มันดีจนรามิลอยากให้เวลามันเดินช้าๆ เขาอยากซึมซับทุกอย่างเอาไว้ให้นานที่สุด สัมผัสตรงต้นแขนทำให้รามิลหันไปมองก่อนที่ต้นไม้จะเอนศีรษะมาซบ จะว่าไปเขาก็ขาดคนนี้ไปไม่ได้เหมือนกันคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต รามิลเอ่ยขอบคุณสีน้ำเบาๆ แต่เจ้าตัวก็ยังได้ยินอยู่ดีเลยเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ รามิลยกกล้องในมือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้
ตั้งใจกดถ่ายต้นกระบองเพชรที่วางอยู่ตรงหน้า แล้วหันกล้องมาถ่ายต้นไม้ที่ยิ้มหวานให้ รามิลหันกล้องไปถ่ายกีตาร์ของคีตาและไวโอลินของเบนจามินที่วางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเลื่อนจุดโฟกัสไปที่กล่องดนตรีที่อยู่ในมือของทั้งคู่ และเมื่อเบนไขลานแล้วเสียงจากกล่องดนตรีดังขึ้น มันก็เป็นเสียงดนตรีเหมือนกล่องดนตรีทั่วๆ ไปแต่มันอาจจะพิเศษสำหรับทั้งคู่ก็ได้
เสียงหัวเราะของทับทิมทำให้รามิลยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาอีกครั้ง พอร์ชกำลังแกล้งแหย่ไอ้ทิมจนไอ้ทิมเขินซะจนหน้าแดงเหมือนชื่อของมัน รามิลส่ายหน้าไปมาเมื่อพอร์ชหอมแก้มทิมจนสำเร็จ รามิลเลือกที่จะถ่ายแหวนทับทิมของทั้งคู่แทน ตั้งแต่วันที่สวมแหวนให้กัน รามิลยังไม่เคยเห็นทั้งสองคนถอดแหวนเลยสักครั้ง
พอดูรูปที่ถ่ายไว้ก็สวยดีเหมือนกัน เหมือนเขากำลังถ่ายพรีเวดดิ้งให้เพื่อนอยู่เลย รามิลยกกล้องอีกครั้งพร้อมกับโฟกัสไปที่กาแฟดำกับแก้วนมชมพู มันเป็นเครื่องดื่มที่ดูไม่เข้ากันเท่าไหร่แต่พอมาอยู่ด้วยกันแล้วมันก็ดูลงตัว สีน้ำกำลังระบายสีรูปเล่นโดยมีภาคินคอยมองอยู่ มีบ้างที่หยิบดินสอมาวาดเล่นด้วย พอวาดไม่ถนัดคินก็รั้งให้สีน้ำขยับมาพิงอกตัวเองแล้ววาดรูปไปพร้อมกัน สีน้ำกับดินสอก็เข้ากันดี
รามิลรู้ว่าสักวันเขาทั้งสี่คนก็ต้องเติบโตและมีทางเดินเป็นของตัวเอง เขาเคยจินตนาการไว้หลายร้อยแบบว่าถ้าวันหนึ่งแก๊งลูกเพื่อนแม่เวลาที่มีความรักจะเป็นแบบไหน เขากลัวไปต่างๆ นานาว่าเราจะเข้ากับแฟนของเพื่อนไม่ได้ หรือว่าแฟนแต่ละคนจะไม่เข้าใจเรื่องที่เราสี่คนติดเพื่อนกันมากเกินไป แต่วันนี้บอกตามตรงว่าเขาสบายใจและไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ภาพตรงหน้าที่เขาเห็นทำให้รามิลอยากยิ้มทั้งน้ำตา
เบนจามินยอมเล่นไวโอลินเมื่อต้นไม้บอกว่าอยากฟัง นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ยินเบนเล่นดนตรี ทับทิมกำลังคุยกับสีน้ำเรื่องเครื่องประดับที่ใส่อยู่ ส่วนคีตา พอร์ชและภาคินกำลังดีดกีตาร์แล้วร้องเพลงด้วยกัน รามิลบอกได้เลยว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แก๊งลูกเพื่อนแม่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ต่อให้เราอายุสามสิบสี่สิบหรือจะแปดสิบก็จะยังมีเราสี่คนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
มีรามิลเป็นหัวหน้าแก๊ง
เบนจามินเป็นทหารองครักษ์
ทับทิมคือเจ้าชายน้อย
ที่ขาดไม่ได้คือลูกกระจ๊อกภาคิน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
แด่ความรักและมิตรภาพ
แก๊งลูกเพื่อนแม่
พฤกษารามิล เบนจามินคีตา พชรนพจินดา ธารธาราภาคิน
ต้นไม้ ดนตรี อัญมณี สีน้ำ
The End
ในที่สุด #ซีรีส์ลูกเพื่อนแม่ ก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้วนะคะ ใจหายเบาๆ ไม่เบา ฮือ อย่างแรกเลยขอปรบมือให้ตัวเองที่แต่งนิยายสี่เรื่องจนจบบริบูรณ์ได้ น้ำตาจะไหลเป็นสายน้ำแต่ก็ทำได้แล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายทั้งสี่เรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นท์ ติด#ในทวิตเตอร์ หรือแวะเข้ามาอ่าน ก็ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ถึงแม้เราจะมาต่อช้ามากๆ แต่ทุกคนก็ยังรอและยังจำแก๊งลูกเพื่อนแม่ได้อยู่
หลังจากจบเรื่อง ที่พักพิงสีน้ำ จะขอไปจัดการกับต้นฉบับเรื่องที่เหลือให้เรียบร้อยก่อนนะคะครึ่งปีหลังตั้งใจจะให้เสร็จทั้งหมดเลยค่ะ #ความลับของต้นไม้ ตอนนี้ยังซื้อกับ สนพ.Hermit ได้อยู่นะคะ ในส่วนของ e-book ก็มีเช่นกันค่ะ แล้วก็จะกลับมาแก้คำผิดในทุกเรื่องด้วยค่ะ เยอะอยู่ (แง)
หากมีข้อผิดพลาดตรงไหนหรือประเด็นในนิยายไม่ถูกต้องบอกกันได้ตลอดเลยนะคะ ยินดีค่ะ ส่วนเรื่องใหม่มีที่คิดพลอตไว้แล้วแต่ก็ขอเวลาเก็บรายละเอียดเยอะกว่านี้หน่อยค่ะ กรี๊ดดดดดด
สุดท้ายนี้
ขอให้ทุกคนมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านซีรีส์ลูกเพื่อนแม่
และหวังว่าแก๊งลูกเพื่อนแม่ รามิล เบนจามิน นพจินดา ภาคิน
จะทำให้ทุกคนยิ้มได้และจดจำพวกเขาไว้ในใจตลอดไปนะคะ ^^
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ (โค้ง)
ปล.เมื่อไหร่โควิดและรัดบานชุดนี้จะหายไปจากโลกคะ *กำหมัด