บทที่ 15 ฉันจะมีเธออยู่ ||ตอนจบ|| (2)"น้องหลับเหรอ?"
"เออ สงสัยคงเกลียดกูมากมั้ง พอมึงมาส่งเสร็จ กลับไปปุ๊ป เมียมึงก็เดินออกไปนั่งตรงระเบียงเหมือนหนีหน้ากู...ถ้าไม่ได้ไอ้ทอยไปนั่งคุยเป็นเพื่อนก็คงหนีกลับแล้ว นี่คงไม่มีอะไรทำเลยหนีไปหลับ"
ฟังเพื่อนเล่าแล้วสงสารอิสระ เด็กหนุ่มคงไม่อยากอยู่กับคนที่ไม่สนิทมากเท่าไหร่
"หึๆ...ก็ชอบพูดจาไม่ดีใส่น้อง ใครเขาจะชอบ ว่าแต่...มึงเหอะ...เจอมึงทีไร ต้องมีทอยพ่วงมาด้วยตลอด ถามจริงๆ มึงจริงจังกับทอยแล้วใช่ไหม?"
จิณณ์ยอมรับว่าเพื่อนของเขา นิสัยดีแต่ยกเว้นอย่างเดียว เรื่องความรัก ที่มักมาก และไม่ค่อยจริงจังกับใคร หลังจากที่จิณณ์ถามก็ได้คำตอบแค่การไหวไหล่ ทำหน้าไม่สนใจ จิณณ์ส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายพลันเหลือบมองข้ามไหล่เพื่อน เห็นทอยนอนหลับคุดคู้อยู่บนโซฟาแล้วอดสงสารไม่ได้
"ไอ้ฮูม บาป-กรรมมันมีจริงนะ ถ้าไม่ชอบก็ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าทำเหมือนทอยเป็นของเล่นเลย"
"กูล่ะหมั่นไส้ ทำมาเป็นคนดี ถ้าคืนนั้น กูไม่เป็นคนกันท่าให้มึง ป่านนี้ เมียมึงโดนไอ้ทอยคาบไปแดกละ"
"ช่วยพูดจาให้เกียรติคนรักกูด้วยครับ เห็นรึยัง? ปากมึงอย่างนี้ใครจะอยากอยู่ด้วย"
"ก็เพราะกูเป็นคนตรงๆ พูดจาขวานผ่าซากแบบนี้ไม่ใช่หรือ? มึงถึงคบกูเป็นเพื่อนน่ะ"
"เออๆ...ไม่คุยด้วยแล้ว กูพาน้องกลับบ้านดีกว่า"
จิณณ์ก้าวยาวๆ สาวเท้าจะไปหาคนรักแต่ชะงักเพราะโดนฮูมดึงปกคอเสื้อไว้
"หึๆ เหนื่อยไหมล่ะมึง?...วิ่งวุ่นเลยล่ะสิ...กูว่ามึงไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยปลุกน้องดีกว่า"
"เออๆกูไปอาบน้ำก่อนก็ได้ อย่าเพิ่งให้น้องตื่นละ"
เลือกทำตามคำแนะนำของเพื่อน มุ่งไปห้องน้ำ และพอชำระร่างกายตัวเองจนสะอาดสะอ้านเรียบร้อย ก็ไปปลุกคนรักบนเตียง
จุ๊บ!'
ริมฝีปากอุ่นๆประทับจูบบนเปลือกตาทั้งสองข้าง ตามด้วยจุมพิตริมฝีปากคนรักเบาๆซ้ำๆ
"อื้ออออออ" เด็กหนุ่มส่งเสียงครางพลางบิดแขน ยืดขาสุดตัว และลืมตามอง
"พี่จิณณ์มาแล้วหรอครับ?" ถามเสียงงัวเงีย
"ใช่ ขอโทษที่มาช้านะครับ ปะ...กลับบ้านเรากันเถอะ..."
"แต่ผมขี้เกียจแล้วอะ"
"ไม่ได้นะ อิสอย่าเพิ่งขี้เซาตอนนี้สิครับ อิสจะนอนดูไอ้ฮูมมันพลอดรักกับแฟนมันหรอ? ลุกขึ้นเถอะนะ"
เด็กหนุ่มมองพี่จิณณ์ที่นั่งริมเตียง ก่อนจะกระตุกแขนสองสามทีให้พี่จิณณ์กระเถิบเข้ามา แล้วอิสระก็ซุกหน้าลงบนตัก เอียงหน้ามองคนรัก
"ก็ผมง่วงแล้วนี่" พูดพลางเอาหน้าถูไถไปมา จิณณ์นั่งนิ่งข่มใจเพราะใบหน้าเด็กหนุ่มมันไถลมาถึงจุดยุทธศาสตร์ของเขา และไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงกระแอมไอก็ดังขึ้น
"อะแฮ่มๆๆ ถ้าจะขนาดนั้น กลับบ้านเถอะครับ น้อง"
"ไอ้ฮูม เงียบไปเลยว่ะ" เบื่อความโผงผางของมันจริงๆ จิณณ์ว่าเพื่อนเสร็จก็หันมาหาอิสระ
"อย่าไปสนใจคำพูดมันนะครับ เพื่อนพี่ปากหมาอย่างนี้แหละ กลับบ้านเรากันนะ พี่อยากนอนกอดอิสจะแย่"
"ก็ได้ครับ" อิสระรู้สึกขี้เกียจจริงๆ แต่พอแอบมองพี่ฮูมที่ทำหน้ารำคาญใส่ ผนวกกับพี่จิณณ์ตื้อ ก็เลยตามใจ ลุกตามไปอย่างว่างงาย
พอเดินออกจากห้อง ระหว่างเดินไป ทั้งสองหันไปประสานสายตาหวานซึ้งพร้อมส่งยิ้มให้กันโดยมิได้นัดหมาย อาจเป็นเพราะพอทั้งคู่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ร้ายมาได้ก็มีความคิดที่เปลี่ยนไป เหมือนได้รีสตาร์ทชีวิตตัวเองใหม่ ใส่ใจกับคนหรือสิ่งที่ควรจะใส่ใจ รวมไปถึงการแสดงออกทางความรักที่ชัดเจนกันมากกว่าเดิม
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโดของจิณณ์ จิณณ์ต้องปลุกคนรักเมื่อถึงที่หมาย เนื่องจากอิสระหลับมาตลอดทาง
ทั้งสองถึงหน้าห้องแล้ว ช่วงที่เปิดประตู อิสระปล่อยแขนพี่จิณณ์และเดินตามหลัง พอจิณณ์เปิดไฟ เด็กหนุ่มที่ถอดรองเท้าเสร็จ หันไปเห็นบางอย่างในห้องก็หยุดชะงัก ตาโต
ลูกโป่งสีฟ้า-สีขาวลอยเต็มเพดาน และลูกโป่งตัวอักษรที่เป็นคำว่า Welcome
ยิ้มตื้นตันใจ และหันไปถาม
"พี่จิณณ์อย่าบอกนะ....ที่บอกผมว่าติดธุระ?..." จ้องแฟนเขม็ง ส่วนอีกฝ่ายก็ยิ้มพยักหน้า
"ใช่ครับ พี่นึกได้ว่า การกลับมาของอิสคราวนี้ ควรจะพิเศษหน่อย ก็เลยทำให้..."
อิสระเห็นถึงความตั้งใจคนรัก โผกอดพี่จิณณ์ทันที
"ขอบคุณนะครับพี่จิณณ์ ผมดีใจที่มีพี่เป็นคนรัก มีพี่อยู่ข้างๆ ผมรักพี่นะครับ รักมากด้วย"
จิณณ์เริ่มเขินที่เด็กหนุ่มบอกรักไม่หยุด จนต้องเบรกกระทันหัน
"เออ อิสครับพอก่อนเนอะ พี่ว่า เราเข้าไปห้องนอนกันดีกว่า อิสจะได้อาบน้ำ-อาบท่าด้วย"
"ครับผม"
อิสระตอบรับอย่างว่าง่าย แต่ยังคงตื่นเต้นไม่หายที่เจอเซอร์ไพร์ส อิสระยังคงไม่หุบยิ้ม แต่แล้วพอจิณณ์เปิดประตูห้องนอนออกกว้าง ก็ต้องอึ้งรอบสอง ยกมือปิดปากตัวเองด้วยความตกใจเมื่อเห็นที่พื้นโรยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นทางยาวไปจนถึงเตียง
"พี่จิณณ์" หันไปหาคนรักน้ำตาคลออย่างซึ้งใจ
"หืม! ชอบไหมเด็กดื้อ" โยกศรีษะคนรัก ก่อนจะกดจูบกลางกระหม่อม
"อื้อ...ชอบมากๆเลยครับ ชอบทั้งตัวพี่จิณณ์ชอบทั้งสิ่งที่พี่จิณณ์ทำให้ครับ"
"ฮ่าๆ ดีครับ ถ้างั้นอิสไปอาบน้ำได้แล้วครับ จะได้มานอนกัน"
"ครับผม"
พยักหนัารัว และหายง่วงในทันที อิสระดีใจจริงๆ ดีใจจนไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาบอกแทนความในใจได้ อิสระไม่คิดว่าพี่จิณณ์จะทำเซอร์ไพร์สและโรแมนติกได้ขนาดนี้
อิสระคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ใจเต้นแรงเมื่อเห็นกลีบกุหลาบโรยเต็มพื้น มิหนำซ้ำยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากอโรม่ากลิ่นกุหลาบ เพิ่มความโรแมนติกอีกหลายเท่า
"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่จะเป็นคนโรแมนติก" พึมพำแต่ก็มิวายอมยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า
กระทั่ง เด็กหนุ่มถอดเสื้อผ้าจนร่างกายเปลือยเปล่า เดินไปเปิดฝักบัวให้สายน้ำเย็นๆไหลผ่านร่างกายเพื่อความสดชื่น ตัวเปียกได้ที่ ก็กดสบู่เหลวชะโลมตัว ลูบๆวนๆถูผิวกายตัวเองอย่างละเมียดละไม ทันใดนั้น...
ฟึ่บ!...
จู่ๆ มีมือหนาสอดมาจากด้านหลังลูบไล้เนื้อครีมจนเป็นฟองฟู่ฟ่อง
"พี่ขออาบน้ำด้วยคนนะครับ""เอ่อะ...พี่จิณณ์" อาจเป็นเพราะห่างกันมาแสนนาน พอเจอแบบนี้เข้าไป ก็รู้สึกวาบหวามหัวใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด อิสระขนอ่อนลุกตั้งชูชันทั่วร่างกาย เมื่ออีกฝ่ายประทับจูบบนบ่าเปล่าเปลือย แถมสองมือก็ยังหยอกเย้าผิวกาย ลูบ ไล้ ไล่ เล่นอย่างสยิว
"อาาาห์" หลุดร้องครางเพราะความลื่นจากเนื้อครีมสบู่เหลว ไหนจะมืออุ่นๆของคนรักที่เล้าโลมเรือนกาย ผนวกกับกลิ่นอโรม่ากุหลาบที่หอมโชยทั่วห้องน้ำ ตบท้ายด้วยอารมณ์แห่งความคิดถึงที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน จึงเป็นองค์ประกอบที่หลอมรวมกันได้สมบูรณ์แบบ
อิสระใจกระตุกที่มันกระตุ้นอารมณ์และฮอร์โมนเขาให้พุ่งพล่าน เผลอตัวจับข้อมือพี่จิณณ์ให้เลื่อนลงมาจับแก่นกายของตัวเองที่กำลังเติบโตเต็มที่
จิณณ์ยกยิ้มชอบใจ เมื่อคนรักตอบสนองกลับ
"ให้พี่ช่วยนะครับ" ความหมายของจิณณ์ คือ ต้องการเป็นฝ่ายช่วยให้คนรักถึงสวรรค์แห่งความใคร่ ทว่า เด็กหนุ่มกลับไม่ต้องการแค่นั้น เมื่ออิสระหันมากระซิบข้างหู
"ได้ครับ แต่พี่ช่วยเอาของพี่เข้ามาในตัวผมทีได้ไหมครับ?"กึก!
จิณณ์ใจสั่นและเต้นแรงจนแทบกลัวว่าหัวใจจะวายตาย อิสระจะรู้ไหมว่าการใช้คำพูดท้าทายแบบนี้ มันยิ่งเพิ่มความต้องการให้จิณณ์อยากร่วมรักกับเด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก
จิณณ์ไม่ไหวแล้ว ใช้ริมฝีปากทำงาน เล้าโลมด้วยการจูบไล้หลังคอ
จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ!
จากนั้น เขาจับอิสระให้หันมาหากัน ดันร่างเล็กติดผนัง ในขณะที่สายน้ำยังคงชะโลมไหลผ่านร่างกายของทั้งคู่ จนชะล้างคราบฟองสบู่บนตัวเด็กหนุ่มจนหมดสิ้น
ร่างสูงซุกไซร้ซอกคอเนียน จากนั้นก็เคลื่อนมาประกบจูบดูดดื่มพลางลูบตัวคนรัก
ตอนนีั แก่นกายของทั้งสองแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า จิณณ์เอื้อมมือไปจับแท่งร้อนคนรัก รูดขึ้น รูดลงช้าๆ และเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น
เด็กหนุ่มตัวสั่นระริก มองคนยิ้มเจ้าเล่ห์ได้แต่ซบหน้าลงบนลาดไหล่พี่จิณณ์ เผลอฝังเล็บลงบนแผ่นหลังคนตัวโต จิกเท้า และเกร็งตัว บิดไปมาด้วยความเสียวกระสัน
ฟากจิณณ์พอเพิ่มความเร็ว น้องก็หลุดร้องครางเสียงดัง พอยิ่งได้ยินเสียงครางของน้องใกล้หู ยิ่งเกิดอารมณ์มากขึ้นไปอีกจนแทบรอจะเอาเข้าไปไม่ไหว
อาจเป็นเพราะมือของคนรักที่ช่วยสร้างความสุขให้อิสระ ใช้เวลาไม่นาน เด็กหนุ่มจึงถึงฝั่งฝัน
คนอายุมากกว่าจับไหล่อิสระให้พลิกตัวหันหลัง วางมือเด็กหนุ่มทาบบนผนัง ลูบร่องก้นคนรักช้าๆ ก่อนจะใช้นิ้วที่ชุ่มไปด้วยสบู่เหลวแหย่เข้าไปยังช่องทางสวาท
อิสระสะดุ้งเฮือก รีบจับข้อมือให้พี่จิณณ์หยุดก่อนและถามคนรักอย่างเกร็งๆ
“มะ...มันจะไม่เจ็บใช่ไหมครับ?”
"แรกๆจะเจ็บ...แต่หลังจากนั้น พี่บอกไม่ได้ครับ อิสต้องลองเอง ถึงจะรู้"
อิสระกัดปาก ก้มหน้า หลับตา เมื่อพี่จิณณ์สอดนิ้วเข้าไปจนสุด และค่อยๆเพิ่มจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้ว เด็กหนุ่มเสียวจนเผลอโก่งบั้นท้ายขึ้นเล็กน้อยเตรียมพร้อมรับแก่นกายของคนตัวใหญ่ที่กำลังจะเข้าไปสำรวจโพรงลึกลับ
ทันใดนั้น จิณณ์ค่อยๆสอดแท่งร้อนพยายามดันเข้าไปช้าๆ เมื่อแท่งร้อนลอดผ่านประตูรักสำเร็จ จิณณ์โยกไปตามจังหวะพอให้ภายในของน้องคุ้นเคยกับแก่นกายของเขาเสียก่อน แล้วค่อยกระแทกกระทั้นในจังหวะที่เร็วขึ้น
"อาาาาาห์" หลุดร้องออกมา เมื่อพอได้สัมผัสด้านในของน้องอิสระ จิณณ์รู้สึกเสียวซาบซ่านเป็นอย่างมาก เมื่อช่องทางสวาทของน้องคับแน่น และตอดรัดแก่นกายจนร่างเขาแทบจะระเบิด
มันส์ ดี โคตร ...จนหาคำมาบรรยายไม่ได้
เวลานี้ ทั้งสองต่างประสานเสียงครางกันดังกึกก้องทั่วห้องน้ำ
"เจ็บไหมครับ? เด็กดื้อ"
"อ้ะ...อื้อ...จะ...เจ็บครับ...พี่...ตะ แต่...มันส์ อะ... ซี้ดดด!...อาห์"
ยิ่งจิณณ์กระแทกแรงเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าเสียงครางของน้องอิสระก็ดังขึ้นเท่านั้น จิณณ์โน้มตัวไปกอดแนบแน่น พลางลูบไล้ทั่วแผ่นท้อง จูบซอกคอ โลมเลียใบหู พลางกระซิบ
“ดูสิ น่ารักแบบนี้ ใครจะอดใจไหว ฮึ?..."
อิสระกัดปากสะกดอารมณ์ แต่พี่จิณณ์กลับจับปลายคางอิสระให้หันมารับจูบแบบลึกซึ้ง
เป็นครั้งแรกที่อิสระได้ลองร่วมรัก เขามีหลายความรู้สึกที่คละเคล้ากัน ทั้งเจ็บ จุก และสนุกในเวลาเดียวกัน
อิสระเริ่มไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน ร่างกายมันอ่อนระทวยเมื่อความสุขที่ได้รับมันมากจนแทบจะล้น
ในขณะเดียวกัน คนพี่ก็มีความสุขไม่ต่างกัน รีบเร่งจังหวะ กระแทกไม่มียั้ง เมื่อรู้ว่าไม่กี่นาทีจากนี้ เขาจะถึงฝั่งฝัน
"อ้ะ....อาาาาห์" จิณณ์ตัวเกร็งกระตุก เมื่อได้ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งทะยานสู่ประตูแห่งรัก
อิสระเข่าอ่อน ทรุดตัวลงพื้นทันที จิณณ์รีบกอดน้องอิสระไว้แน่น พรมจูบทั่วลาดไหล่และพูดเสียงผะแผ่ว
"ขอบคุณนะครับ"
"ครับพี่จิณณ์" ตอบแบบหอบเหนื่อย
อิสระเต็มใจให้ร่างกายนี้เป็นของพี่จิณณ์ เพราะอิสระคิดว่าสิ่งที่ทำให้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับสิ่งที่พี่จิณณ์มอบให้อิสระมาตลอด
นั่นคือ...
การที่อิสระได้กลับมามีชีวิตที่อิสระอีกครั้ง...
....
....
....
วันถัดมา...
จิณณ์ลืมตา พลิกตัวตะแคงข้างไปหาคนรัก เขาดีใจที่วันนี้ ได้ตื่นมาแล้วพบอิสระนอนอยู่ข้างๆ จิณณ์โน้มตัวไปจุมพิตที่หน้าผาก ก่อนจะหยัดกายขึ้น ลุกจากเตียงไปล้างหน้าล้างตา ทำกาแฟดื่มตอนสายๆ
ขณะที่ร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟา เขาจิบกาแฟพลางอ่านข่าวรอบโลกจากโทรศัพท์มือถือ ปลายนิ้วไล่เลื่อนฟีดข่าวลงมาเรื่อยๆ ก็ชะงักและหยุดกระทันหันเมื่อสายตามาสะดุดกับลิ้งค์ข่าวที่พาดหัวเรื่องการทารุณเด็ก
กดคลิกเข้าไปด้านในเว็บไซต์ เนื้อข่าวมีใจความสำคัญประมาณว่า สองสามีภรรยาชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นพ่อแม่แท้ๆ จับลูก 13 คนล่ามขังไว้ในบ้าน โดยปล่อยให้อยู่ในสภาพผอมโซ อีกทั้งยังมีร่องรอยการทำร้ายร่างกายจนทั่ว นับว่า เป็นข่าวที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก
จิณณ์ขมวดคิ้วเป็นปมและค่อยๆไล่อ่านจากบรรทัดแรกจนจบบรรทัดสุดท้าย จึงวางเครื่องมือสื่อสารพลางลอบถอนหายใจ การอ่านข่าวสะเทือนใจนี้ ทำให้นึกถึงคนใกล้ตัวอย่างอิสระ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะมีเรื่องราวแบบนี้อยู่จริงๆบนโลก เรื่องที่พ่อ-แม่แท้ๆทำร้ายลูกตัวเอง
และเพราะจิณณ์ไม่เคยเข้าใจว่าคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้จะรู้สึกยังไง จึงมีบ้างที่แต่ก่อนก็ไม่เข้าใจการกระทำของอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการกลัวสังคม การไม่กล้าออกไปไหนคนเดียว แต่หลังจากได้อ่านข่าว ถึงทำให้เข้าใจว่า คนรักของเขาเก่งและแข็งแกร่งเอามากๆ ที่ทุกวันนี้สามารถใช้ชีวิตและปรับตัวได้เหมือนคนปกติอีกครั้ง
พอคิดเรื่องของชีวิตน้อง ก็หวนไปนึกถึงคนใจโหดเหี้ยม จะว่าไป...คุณอิทธิพลเป็นอย่างไรบ้างนะ...ตั้งแต่พ้นขีดอันตรายมาก็ลืมตามข่าวของคุณอิทธิพลเลย
จิณณ์ลุกไปหยิบเครื่องมือสื่อสาร กดโทรหาป้าแก้ว เผื่อจะได้ข้อมูลหรือความคืบหน้าของคุณอิทธิพลบ้าง
เมื่อป้าแก้วรับสาย จิณณ์ถามไถ่สารทุกข์ สุขดิบ ก่อนเข้าเรื่องสำคัญ ซึ่งป้าแก้วเองก็กำลังหาจังหวะโทรไปหาเหมือนกัน เมื่อรู้ว่าที่คุณอิทธิพลโดนยิง มีเรื่องของจิณณ์และอิสระไปเกี่ยวข้องด้วย
ป้าแก้วหนีมาแอบเล่าในที่ปลอดคน พอเธอเล่ามาประโยคแรก จิณณ์ยอมรับว่าช็อกที่ได้ยินว่า คุณอิทธิพลยังไม่ตาย
แม้ใจลึกๆของตัวเองก็แอบสาปแช่งให้คุณอิทธิพลตายๆไปซะ ให้สมกับที่เคยทำเลวกับผู้อื่นไว้มาก แต่ทำอย่างไรได้ เมื่อชะตาชีวิตลิขิตแบบนี้ ก็คงทำใจยอมรับ ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรมจัดการแล้วกัน
จิณณ์ยังคงฟังป้าแก้วเล่าอย่างใจจดใจจ่อ เธอบอกว่ามีวันหนึ่ง เธอแอบได้ยินคุณอิทธิพลคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ว่าจ่ายเงินก้อนโตเพื่อให้เรื่องการยิงกันนี้เงียบหายไปจากสารระบบ จิณณ์ได้ฟังก็โล่งใจและตีความไปเองว่า คุณอิทธิพลคงไม่คิดกลับมาแก้แค้นอิสระแล้ว เพราะถ้าแก้แค้น ตอนนี้ ก็คงต้องมีสัญญาณอะไรที่จิณณ์ต้องรับรู้ได้บ้าง
พอคิดวิเคราะห์ความน่าจะเป็นเสร็จ ก็หันกลับมาตั้งใจฟังป้าแก้วต่อ ที่เธอเล่าด้วยน้ำเสียงแปลกใจว่า หลังๆมา คุณอิทธิพลอารมณ์ดีขึ้น เมื่อมีสมาชิกใหม่เข้ามาอยู่อาศัยเพื่อดูแลคุณอิทธิพลอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็คือ คุณธวัชชัยนั่นเอง...
จากที่ได้ฟังมา จิณณ์มั่นใจว่า คุณอิทธิพลคงไม่ตามราวีอิสระอีก แต่หลังจากที่วางสายจากป้าแก้วแล้ว จิณณ์ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า...
ทำไมคุณอิทธิพลถึงอารมณ์ดีขึ้น?
สรุปแล้ว คุณอิทธิพลและคุณธวัชชัยนั้น มีสถานะเป็นอะไรกันแน่?....
****1.2****
Part หน้าก็จบแล้วจ้า
มาอยู่ด้วยกันนะคะ อีกอึดใจเดียวน้าาาา
ใครสงสัยอะไร รอดูตอนจบนะเจ้าคะ
.
.
.
ขอบคุณทุกคนเลย น่าร้าก