ตอนที่ 33
สิ่งที่ต้องก้าวผ่าน
“มีอะไรว่ามา บอกก่อนว่าถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญกูถีบ” ผิงถามถึงเรื่องร้อนรนใจที่ผมต้องนัดมันกับน้องนายออกมา ตอนที่ผมโทรไปผิงกำลังจะดูหนังที่รอเข้าโรงฯ มานาน ผมไม่อยากรบกวนเวลาเพื่อนแต่ครั้งนี้มันจำเป็นจริงๆ
“พรุ่งนี้พ่อแม่กูจะกลับมา”
“ครับ” น้องนายขานรับ
“พ่อแม่พี่ธารก็กลับมาเหมือนกัน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่มึงเรียกพวกกูมาหา”
“พี่ธารจะบอกเรื่องที่เราคบกันกับพ่อแม่”
“เหรอ ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับพวกกูอยู่ดี” ผิงยกกาแฟขึ้นดื่มก่อนจะสำลักออกมา ไอไปด้วยมองหน้าผมอย่างตกใจไปด้วย “มึงว่าไงนะ!”
“พี่ธารจะบอกเรื่องที่คบกับคุณซนกับคุณพ่อคุณแม่ครับ” น้องนายทวนประโยคให้ผมเสียจนครบ ไม่มีตกหล่นแม้แต่คำเดียว เลยโดนผิงหันไปมองค้อน
“กูได้ยินแล้ว แค่ตกใจเฉยๆ ย่ะ”
“ตกใจทำไมครับ ผมไม่เห็นตกใจ”
“กูไม่ได้ต่อมความรู้สึกช้าเหมือนมึง”
“ใช่เรื่องนั้นที่ไหนครับ ที่ผมไม่ตกใจเพราะเดาได้อยู่แล้วว่าพี่ธารจะบอกคุณพ่อคุณแม่ คุณผิงคิดว่าคนอย่างพี่ธารจะคบคุณซนเล่นๆ เหรอครับ”
“นั่นมันก็จริง แต่นี่มันปุบปับเกินไป พรุ่งนี้แล้วนะเว้ย”
“คุณซนกำลังกังวลอะไรครับ” น้องนายหันมาถาม
“มึงไม่ต้องตอบ กูตอบให้ มึงกำลังกลัวว่าพ่อแม่จะไม่ยอมรับความรักของมึงใช่ไหม”
ผมได้แต่พยักหน้า สิ่งที่ผิงพูดคือสิ่งที่ผมกลัวมาตลอดทั้งคืน
“แต่พ่อแม่มึงก็ดูใจดีนี่ มันอาจไม่เป็นอย่างที่มึงกลัวก็ได้” ผิงกับน้องนายเคยไปบ้านผมหลายครั้งเลยสนิทกับพ่อแม่ผม
“แต่นี่มันเรื่องใหญ่ กูไม่รู้ว่าพ่อแม่จะโอเคหรือเปล่าที่กูคบผู้ชายด้วยกัน ไหนจะพ่อแม่พี่ธารอีก”
“มึงอย่าเพิ่งสติแตก ถึงจะปุบปับไปหน่อยแต่ก็ยังมีเวลา มาซ้อมกันดีกว่า”
“ซ้อมอะไรครับ”
“ซ้อมรับมือสถานการณ์จริง” ผิงยกมือกระแอมไอ วางท่าจริงจัง “มา กูเป็นแม่พี่ธารให้ เดี๋ยวกูจะช่วยสร้างความมั่นใจให้มึงเอง”
“กูว่าน้าพรสวยกว่านี้นะ”
“ไอ้ซน กูกำลังจะช่วยมึงยังเสือกมาว่าอีก เดี๋ยวก็ไม่ช่วยซะเลย”
ผมรีบยกมือไหว้เมื่อเพื่อนรักทำหน้าจริงจัง ถึงไม่เห็นว่ามันจะช่วยอะไรได้แต่นาทีนี้อะไรทำได้ผมก็คงต้องทำไปก่อน
“มา เริ่มเลย กูพร้อมแล้ว”
“เธอคบกับลูกชายฉันเหรอ” ผิงเก๊กเสียงเข้มที่ฟังยังไงก็น่าขำมากกว่าน่ากลัว
“กูว่าน้าพรไม่พูดห่างเหินกับกูแบบนี้นะ”
“ขัดกูจริง” ผิงบ่นแต่ก็ยอมเปลี่ยนรูปประโยค “ซนคบกับลูกน้าเหรอ”
“…”
“ไม่ตอบล่ะวะ”
“กูไม่รู้จะตอบอะไร” ผมพูดอย่างหมดท่า นี่เป็นคำถามที่ผมรู้ว่าต้องเจอแน่นอนแต่ไม่รู้จะตอบอย่างไร คำตอบน่ะมีอยู่แล้ว แต่จะตอบยังไงนี่สิ ถ้าผมตอบว่าคบกันแล้วพ่อแม่สั่งให้เลิก ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะรับไหวไหม
“มันจะไปยากอะไร มึงแค่ตอบว่าใช่ครับ”
“ผมว่ามันดูห้วนไปนะครับ เอาเป็น ครับ ผมคบกับพี่ธารอยู่ครับ แบบนี้ดีกว่านะครับ” น้องนายผู้เรียบร้อยที่สุดในกลุ่ม เสนอประโยคที่ยิ่งกว่าทางการออกมา
“เอาอย่างที่น้องนายว่าก็ได้ ไหนมึงลองพูดซิ”
“ครับ ผมคบกับพี่ธารอยู่ครับ”
“อย่าพูดหงอๆ แบบนั้น มึงต้องพูดด้วยเสียงมั่นคงมั่นใจแต่ก็ไม่แข็งกระด้างเกินไป เอาใหม่”
“ครับ ผมคบกับพี่ธารอยู่ครับ” ผมปรับโทนเสียงตามที่เพื่อนแนะนำ
“ดีมาก ทีนี้ถ้าแม่พี่ธารพูดว่า แต่น้าไม่อยากให้ลูกน้าคบผู้ชายด้วยกัน มึงจะทำยังไง”
“คุณผิงใจร้ายไปไหมครับ คุณแม่พี่ธารอาจไม่ได้คิดแบบนั้นก็ได้”
“น้องนายมึงอย่าเพิ่งมาปกป้องแม่ผัวเพื่อน เวลานี้เราต้องช่วยไอ้ซนก่อน ว่าไง ถ้าแม่พี่ธารพูดแบบนี้มึงจะตอบว่า?”
“…”
“โอเค กูลืมไปว่าต้องคิดไดอะล็อกให้มึง” ผิงพูดเมื่อเห็นหน้าเอ๋อๆ ของผม มึงเข้าใจกูหน่อย ตอนนี้กูมืดแปดด้านคิดอะไรไม่ออก
“ในกรณีนี้มึงควรตอบว่า ถึงผมกับพี่ธารเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เราก็รักกันจริงๆ นะครับ ความรักของเราสองคนไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย”
“ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ” น้องนายพูดขึ้นมา
“แปลกยังไง”
“ไม่รู้สิครับ ผมอธิบายไม่ถูก ผมว่าคำพูดมันควรอ่อนน้อมกว่านี้อีกนิด”
“แต่กูว่าถ้าจะให้แม่พี่ธารยอมรับก็ต้องพูดจาฉะฉานแบบนี้แหละ สิ่งสำคัญคือความมั่นใจ มึงต้องทำให้แม่พี่ธารเห็นว่ามึงรักพี่ธารจริงๆ มึงทำได้ไหม”
“กู...”
ป้าบ! “โอ๊ย! ตีกูทำไม” จู่ๆ ผิงก็มาตีหลังผมเสียงดัง เล่นซะหลังเกือบหัก
“มัวแต่ติดอ่างแบบนี้แม่ผัวที่ไหนจะยกลูกให้ มั่นใจในตัวเองหน่อย”
“เออ กูทำได้”
“ดี จำไว้ว่าห้ามเหลาะแหละ อกยืดหลังตรงเข้าไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไปแข็งกระด้างกับเขานะ พยายามทำตัวให้ผู้ใหญ่เอ็นดู กูเชื่อว่าแม่พี่ธารคงไม่ใจร้ายแบบที่กูแสดงหรอก”
นี่คำแนะนำหรือสมการอัลกอริทึม ทำไมมันยากแบบนี้ ผมอยากเถียงว่ามันยากเกินไป แต่เห็นแก่ความหวังดีของเพื่อนผมจึงพยักหน้าหงึกๆ แทน
เอาเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เอาแต่กลัวไปก็เท่านั้น ผมตั้งใจแล้วว่าจะเผชิญหน้าไปพร้อมพี่ธาร ผมต้องผ่านมันไปให้ได้
ผมกุมมือตัวเองที่อยู่ใต้โต๊ะ มันสั่นจนรู้สึกได้ มือทั้งสองชื้นไปด้วยเหงื่อ ความตื่นเต้นกับความกลัวผสมกันจนแยกไม่ออก
“ซนอยู่กับพี่เขาเป็นเด็กดีใช่ไหม ไม่ใช่ว่าไปดื้อให้พี่เขาปวดหัวนะ” แม่ผมถามขึ้นมา เรากำลังทานข้าวกันในบ้านผม แม่บอกว่าอยากเลี้ยงอาหารขอบคุณพี่ธารที่ช่วยดูแลผมมาตลอดสามเดือน
ตอนนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ผม พี่ธาร พ่อแม่ผม พ่อแม่พี่ธาร ในสายตาคนอื่นอาจเหมือนการมาดูตัว แต่สำหรับผมมันคือวันสิ้นโลก
“ซนไม่ดื้อเลยครับคุณน้า ผมพูดอะไรก็เชื่อฟังทุกอย่าง” ขณะที่ผมกำลังจะตอบ คนข้างๆ ก็ชิงตอบให้ ผมหันไปมอง พี่ธารยิ้มกลับมาพร้อมกับดึงมือผมไปกุมหลวมๆ เหมือนเขาจะรู้ว่าผมกำลังประหม่าเลยไม่อยากให้ผมพูดเยอะ
“ที่ธารพูดมาฟังไม่เหมือนลูกอาเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจอากับน้า เล่ามาเถอะว่าเจ้าซนก่อวีรกรรมอะไรบ้าง”
“พ่อก็ ถึงผมจะชื่อซนแต่ก็ไม่ได้ซนขนาดนั้นเสียหน่อย ผมโตแล้วนะครับ” ผมบ่นอุบ เสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ในห้องอาหารดังขึ้น ผมอยากให้บรรยากาศตอนพวกท่านรู้ว่าผมกับพี่ธารคบกันเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นจะมีใครหัวเราะออกไหม
“ซน น้ามีอะไรจะถามหน่อย”
“ครับ” ผมขานรับน้าพร หลังยืดตรงอัตโนมัติ มือที่ถูกพี่ธารกุมอยู่กระตุกเล็กน้อย มาแล้วสินะ ช่วงเวลาที่ผมทั้งอยากและไม่อยากให้มาถึง ผมพยายามท่องสคริปต์ที่ซักซ้อมมากับเพื่อนอย่างดี สู้เว้ยไอ้ซน
“ได้ข่าวว่าซนมานอนกับธารแทบทุกวัน”
“ครับ ผมคบกับพี่ธารอยู่ครับ”
“…”
“…”
เหี้ย!! ผมรีบยกมือตะครุบปากตัวเอง แต่ดูจากสีหน้าแต่ละคนแล้วบอกได้คำเดียวว่าไม่ทัน ผู้ใหญ่ทั้งสี่มองมาด้วยสายตาตกใจ ไม่เว้นแม้แต่พี่ธาร ผมลอบกลืนน้ำลาย ไม่เคยรู้สึกอยากให้โลกแตกขนาดนี้มาก่อน
“อะไรนะ?”
“คือ...ผม...ผมจะบอกว่า...”
“ผมกับซน เราคบกันอยู่ครับ”
ตาผมแทบถลนออกมานอกเบ้าเมื่อคนข้างๆ ทวนประโยคให้ด้วยเสียงดังฟังชัด ผมเขย่ามือที่จับกันอยู่ใต้โต๊ะแต่พี่ธารก็ไม่หันมาแม้แต่น้อย พ่อแม่พวกเรานิ่งไป ห้องอาหารเงียบกริบ ก่อนที่พ่อพี่ธารจะพูดขึ้นมา
“จริงเหรอธาร”
“จริงครับ”
“ซน ลูก...” แม่ผมถามขึ้นมาแล้วเงียบไป ผมรู้ว่าแม่อยากถามอะไร ถึงจะกลัวจนฉี่ใกล้เล็ดเต็มทีแต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงมีแต่ต้องเดินหน้า
“ครับ ผมกำลังคบกับพี่ธาร”
“นานหรือยัง” พ่อผมถาม
“สองเดือนครับ”
“แปลว่าคบกันตอนพวกพ่อไปทำงาน?”
“ครับ”
ทุกประโยคที่พ่อผมกับพี่ธารคุยกันประสานเข้ากับเสียงหัวใจของผม มันเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ราวกับมีใครกำลังตีกลองรัว พ่อผมนิ่งไปไม่พูดอะไรอีก เหมือนกำลังตรึกตรองว่าควรรู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวกะทันหันนี้
“พวกลูกรักกันเหรอ”
“ผมรักซนครับ” พี่ธารตอบแม่ตัวเอง น้าพรหันมามอง ผมเลยละล่ำละลักตอบออกไปเหมือนกัน
“ผม...ผมก็รักพี่ธารครับ”
ผู้ใหญ่ทั้งสี่หันไปมองตากันเหมือนกำลังปรึกษาหารือ ผมที่กังวลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเห็นสีหน้าพ่อกับแม่ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองหดเหลือสองนิ้ว พี่ธารบีบกระชับมือราวกับอยากให้กำลังใจ ผมอยากยิ้มกลับไปแต่เวลานี้ปากมันยกยิ้มไม่ขึ้นสักนิด
“อาขอพูดตรงๆ แล้วกัน หวังว่าธารคงไม่โกรธนะ” พ่อผมพูดกับพี่ธารหลังปล่อยให้ห้องอาหารเงียบมาสักพัก คำพูดของพ่อทำให้ผมหน้าเสีย ต่างกับคนตัวสูงที่สีหน้าไม่เปลี่ยน
“ครับ”
“ถามว่ารู้สึกยังไง อาค่อนข้างไม่พอใจ อาไว้ใจให้ธารดูแลซนแบบพี่น้อง ไม่นึกว่าสุดท้ายจะลงเอยแบบนี้ ต่อให้ลูกอาไม่ใช่ผู้หญิงแต่การใช้ความไว้ใจของผู้ใหญ่มาแอบคบกันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่ดี หวังว่าธารจะเข้าใจอา”
“ผมเข้าใจครับ ผมรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันผิด ผมไม่มีข้อแก้ตัว สิ่งเดียวที่ผมพอจะบอกคุณอาได้คือผมรักซน มันไม่ใช่ความรู้สึกชั่ววูบ แต่มันคือความรักอย่างที่พ่อผมมีให้แม่ หรืออย่างที่คุณอามีให้คุณน้า ผมรักซน อยากดูแลซน อยากทำให้ซนมีความสุขครับ”
ผมหันไปมองคนพูด ถึงแม้เราจะคบกันมานานแต่ผมก็ไม่เคยเห็นพี่ธารทำหน้าจริงจังแบบนี้มาก่อน มือที่ไม่เคยปล่อยจากมือผมแม้ในเวลานี้ ความรักที่สื่อออกมาผ่านคำพูดและสายตา สิ่งที่พี่ธารทำมันทำให้ผมสลัดความกลัวทิ้งไปแล้วพูดออกไปบ้าง
“ผม...ผมก็รักพี่ธารครับพ่อ ถึงผมกับพี่ธารจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เราสองคนก็รักกันจริงๆ นะครับ ผมรักพี่ธาร อยากอยู่ข้างพี่ธาร อยากมีความสุขไปกับพี่ธาร พ่ออย่าให้เราเลิกกันเลยนะครับ”
ผมดัดแปลงคำพูดผิงนิดหน่อย เพราะรู้สึกว่าแบบนี้ฟังดูหนักแน่นกว่าเยอะ ผมไม่รู้ว่าตัวเองแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป ผู้ใหญ่ที่มองมาจึงต่างนิ่งงันกันหมด พี่ธารหันมามองเหมือนไม่อยากเชื่อว่าผมจะกล้าพูดขนาดนี้ พี่มันจะแปลกใจก็ไม่แปลก ปกติผมกล้าที่ไหน แต่ผมบอกแล้วว่าผมจะเผชิญหน้าไปพร้อมพี่ธาร ผมจะไม่ปล่อยให้พี่ธารสู้อยู่คนเดียว
“คุณพรกับคุณสันต์ว่าไง” พ่อผมหันไปถามพ่อแม่พี่ธาร
“เอ่อ...”
“พูดมาเลย ไม่ต้องเกรงใจผมกับลิน”
“มันก็แปลกๆ อยู่นะคะ ถามว่าพรกับคุณสันต์รับได้ไหมมันก้ำกึ่ง ใจหนึ่งไม่อยากยอมรับ แต่อีกใจก็รู้ว่าของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้”
“ผมเข้าใจ ผมกับลินก็รู้สึกแบบนั้น”
“พ่อครับ” ใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่ม น้ำตารื้นขึ้นมา ทำไมพ่อผมพูดเหมือนจะให้ผมเลิกกับพี่ธารเลยล่ะ ไม่นะ ผมไม่อยากเลิก
“โอ๊ย!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็เอื้อมมือมาเขกกลางศีรษะ
“คิดไปถึงไหน พ่อได้บอกสักคำหรือยังว่าไม่อนุญาตให้เราคบกัน”
หือ???
“พ่อ...หมายความว่าไงครับ”
“พ่อกับแม่เป็นผู้ใหญ่ เรียกว่าเริ่มแก่ก็ได้ เราเลยยังไม่ชินกับโลกที่เปลี่ยนไปเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ใช่ว่ายอมรับไม่ได้”
“พ่ออนุญาตให้เราคบกันใช่ไหมครับ” ผมถามอย่างมีความหวัง
“คบกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ มาห้ามตอนนี้ก็คงไม่ทัน อีกอย่างพวกลูกก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย พ่อจะห้ามทำไม”
ผมได้แต่ขอโทษพ่อในใจที่ความจริงมันเกิดเรื่องเสียหายไปแล้ว แถมคนเริ่มยังเป็นผมอีกด้วย แต่เวลานี้ช่างมันก่อนครับ แค่รู้ว่าพ่อแม่ไฟเขียวผมก็ดีใจมากแล้ว
“น้าไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้มาก่อน ที่ผ่านมาน้าคิดว่าธารชอบผู้หญิงมาตลอด ก็ให้เวลาคนแก่หน่อยแล้วกัน มันอาจอึดอัด ขัดๆ เขินๆ บ้าง แต่เดี๋ยวก็คงชินไปเอง มาพยายามไปด้วยกันนะ”
ผมมองรอยยิ้มของน้าพรกับอาคมสันต์ รอยยิ้มที่ถึงแม้จะมีความประดักประเดิดแต่ก็เห็นได้ชัดว่ายินดีกับความรักของลูกชาย มันทำให้ผมซาบซึ้งและตื้นตัน ผมกับพี่ธารยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสี่คน ตอนนี้ผมโล่งเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
“หลังจากนี้อาฝากซนด้วยนะธาร ดุได้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจ อาให้เป็นทั้งแฟนทั้งพ่อเลย”
“พ่อครับ” ผมลากเสียงยาว เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ใหญ่ บรรยากาศในห้องอาหารผ่อนคลายขึ้นในพริบตา
ผมกับพี่ธารหันมาสบตากัน คำขอบคุณที่ไม่มีเสียงถูกส่งมาให้ ผมยิ้มรับพร้อมกับพูดขอบคุณกลับไปเช่นกัน เป็นคำขอบคุณที่เราต่างรู้ความหมายกันดี
ขอบคุณที่รักกัน สู้ไปด้วยกัน ไม่ปล่อยมือจากกัน ผมรู้ว่าไม่ใช่แค่วันนี้ แต่มันจะเป็นแบบนี้ไปตลอด สายตาพี่ธารบอกผมแบบนั้น และผมเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
“ยิ้มกว้างเชียวนะ มีความสุขล่ะสิ” พี่ธารดึงผมเข้าไปกอด โน้มหน้ามาพูดชิดริมฝีปาก ผมยิ้มกลับไป คนมีความสุขก็ต้องยิ้มสิครับ
“ไหน วันนี้เด็กเอ๋อคนไหนบอกรักกู พูดให้ฟังอีกทีซิ”
“ไม่เอา” ผมหันหน้าหนี คิดไว้แล้วว่าต้องเจอแบบนี้ ตอนที่พูดผมคิดอย่างเดียวคืออยากให้ผู้ใหญ่รับรู้ แต่พอมานึกทีหลังมันก็อดเขินไม่ได้
“อาไพโรจน์ให้กูดุได้เต็มที่ มึงแน่ใจนะว่าอยากโดนกูดุ”
จากที่หลบตาเพราะเขิน ผมหันกลับมามองคนพูดแทบไม่ทัน สายตากรุ้มกริ่มบอกผมว่าดุของพ่อผมกับดุของพี่ธารเป็นคนละอย่างกัน มันทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นมา
“พี่แม่งหื่น”
“ก็หื่นกับมึงคนเดียว” นอกจากไม่สะทกสะท้านยังยอมรับหน้าชื่นตาบานอีก ไม่ใช่พี่ธารทำไม่ได้นะครับ
“เร็ว กูอยากฟังอีก ตอนนั้นมัวแต่อึ้งเลยไม่ทันได้ฟัง”
“ไม่ครับ ของดีมีครั้งเดียว”
“เล่นตัวนักนะมึง” เดี๋ยวนี้พอรู้ว่าจุดอ่อนผมคือบ้าจี้ไอ้พี่ธารก็เอาใหญ่ เอะอะจี้เอวผมอย่างเดียว ผมหัวเราะปนหอบ พยายามตะครุบมือพี่มันให้อยู่นิ่ง พี่ธารแกล้งผมอยู่พักใหญ่ก่อนจะยอมหยุด เล่นเอาผมหายใจแทบไม่ทัน
“ผมจะฟ้องพ่อว่าพี่แกล้ง” ผมพูดหลังจากหยุดหัวเราะ พี่ธารยิ้มมุมปาก โน้มหน้าลงมาจนชิด
“เอาสิ ให้กูฟ้องด้วยไหมว่ามึงเสียหายไปแล้ว”
“พี่ธาร!!” ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ทำจริงแต่เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาพูดเล่นกัน ผมฟาดลงไปบนแขนล่ำๆ เต็มแรง โมโหครับ แค่ผมยอมเป็นเมียข่มขู่ใหญ่เลยนะ
“หยุดนอกเรื่องได้แล้ว บอกรักกูก่อนเร็ว” พี่ธารรวบสองมือผมไว้ด้วยมือเดียว ผมมองค้อน พี่ไม่ใช่เหรอที่ชวนนอกเรื่อง
“เอ๋อ”
“ไม่เอา ผมเขิน”
“เขินอะไร แฟนบอกรักกันปกติจะตาย”
“งั้นพี่ก็บอกรักผมก่อนดิ” ผมตั้งใจพูดเชิงท้าทายให้อีกฝ่ายเขินเหมือนกัน แต่ผมลืมไปว่านี่คือพี่ธาร ผู้ชายที่ผมไม่เคยชนะได้สักครั้ง
“กูรักมึง”
“…”
“พี่รักซนครับ”
“ฮื่อ ไม่เอาแบบนี้” ผมซุกหน้าเข้ากับอกกว้าง ไม่อยากให้อีกคนเห็นหน้าแดงก่ำของตัวเอง
“ไม่ชอบเหรอ?”
“…”
“เอ๋อ ตอบกันก่อน ไม่ชอบให้กูพูดเพราะเหรอ”
“…ไม่ได้ไม่ชอบ” ผมพูดเสียงอู้อี้กับอกพี่ธาร ตอนแรกว่าจะไม่ตอบ แต่ได้ยินเสียงไม่มั่นใจของพี่ธารแล้วมันอดไม่ได้
“แล้วทำไมถึงไม่ให้พูด”
“ก็ผม...โว้ยยย พี่จะถามอะไรนักหนา ดูไม่ออกเหรอว่าผมเขินจะเป็นลมแล้ว”
“ฮ่าๆๆ” พี่ธารหัวเราะงอหายกับคำสารภาพอย่างหมดท่าของผม มือหนาเชยคางให้แหงนเงย ดวงตาเราสองคนสบกัน
“งั้นพี่จะพูดบ่อยๆ ซนจะได้ชินดีไหมครับ”
“พี่ธารผมพูดจริงๆ นะ ตอนแรกมันเขิน แต่พอพี่พูดบ่อยๆ มันไม่ชินอะ เหมือนไม่ใช่พี่ธารยังไงไม่รู้”
“ฮ่าๆๆ” เอาเข้าไปครับ หัวเราะมันเข้าไป เอาให้ท้องแข็งตายไปเลย
“งั้นพูดแค่เวลาสำคัญดีไหม”
“แล้วตอนไหนถึงเรียกว่าสำคัญ”
“ตอนนี้ไง” พี่ธารขยับมาใกล้กว่าเดิม จนหน้าผากเราสองคนแนบชิดกัน “พี่รักซน แล้วซนล่ะ รักพี่ไหม”
“…”
“ซนครับ”
จุ๊บ “ถ้าผมไม่รักพี่ วันนี้ผมไม่กล้าพูดกับพ่อแม่แบบนั้นหรอก” ผมตอบหลังถอนริมฝีปากออกจากแก้ม อย่าถามว่าเอาความกล้ามาจากไหน พอพี่ธารเรียกด้วยเสียงอ่อนโยนแล้วปากมันก็ไปเอง พี่ธารนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่พอตั้งสติได้รอยยิ้มก็ปรากฏบนหน้าคม ร่างของผมถูกดึงไปทาบทับบนอกแกร่ง พี่ธารสอดมือมากอดรอบเอว เท่ากับตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่บนตัวพี่ธาร
“รู้ไหมว่าวันนี้มึงน่ารักมาก น่ารักจนกูอยากให้รางวัล” สายตาวาววับที่มองมา ไม่ต้องถามก็รู้ว่ารางวัลที่จะให้คืออะไร ผมพยายามตะเกียกตะกายลงจากตัว แต่มือที่กอดรอบเอวทำให้ขยับไม่ได้เลย
“พี่ธารไม่เอา ไม่กลัวน้าพรกับอาสันต์ได้ยินเหรอ”
“กลัวทำไม ห้องกูเก็บเสียง”
“แต่ผมยังไม่พร้อม”
“เจอลีลากูเข้าไปเดี๋ยวก็พร้อมเอง”
อะ...ไอ้พี่ธาร!!
“หยุดเล่นตัวได้แล้ว กูอยากให้รางวัลจะแย่แล้ว มารับรางวัลซะดีๆ”
และแล้วคืนนั้นผมก็ได้รับรางวัลทั้งคืน เป็นรางวัลที่ทั้งใหญ่ทั้งจุก เล่นเอาหมดแรงข้าวต้มเลยทีเดียว แต่ถามว่าชอบไหม ถึงจะอายนิดหน่อยแต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชอบ ก็ลีลาพี่ธารดีอย่างที่คุยจริงๆ นี่ครับ คนอะไรช่ำชองชะมัด
ว่าแต่...ถ้าผมน่ารักทุกวันพี่ธารจะให้รางวัลทุกวันเลยหรือเปล่านะ ผมชอบรางวัลก็จริง แต่ให้บ่อยขนาดนั้นผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน ร่างกายสึกหรอกันพอดี
>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<
Twitter :
earthxxide Fanpage :
Earthxxide