บทชักพาห้วงราคะ
ปัจจุบัน New York, South Manhattan เวลาตามไทม์โซน ตึ่งตึงตึง ตื๊อดือดึ๊ง ตื่อดือดึ๊ง (เสียงวิดีโอคอลไลน์) ดังขึ้นในระหว่างที่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำโชว์รอยสักบนแขนขวากับกางเกงผ้าใบสีเดียวกันที่สามารถระบายเหงื่ออย่างดีกำลังก้าวขึ้นบันไดอพาร์ทเม้นต์ มือใหญ่หนาหยิบโทรศัพท์แบรนด์แอปเปิ้ลแหว่งสีดำเครื่องใหญ่ขึ้นมาดูแล้วริมฝีปากก็ขยับยิ้มกว้างเมื่อเห็นรูปใบหน้าเรียวเล็กขาวผ่องปรากฎอยู่บนนั้น เขายังไม่กดรับทันที แต่ก็เร่งฝีเท้าไปให้ถึงห้องพักของตัวเอง หยิบกุญแจขึ้นมาไขลูกบิดสีทองที่อยู่บนประตูสีขาวบานแคบก่อนผลักเข้าไปด้านใน เปิดไฟเปิดเครื่องกรองอากาศเรียบร้อยก็เดินไปนั่งโซฟาตัวยาวสีขาวเนื้อด้านแล้วถึงกดรับสาย มีเสียงกุกกักๆ สักพักก่อนที่หน้าจอจะสว่างด้วยไฟสีส้มนวลตา ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มกับริมฝีปากสีแดงปรากฎขึ้นบนหน้าจอ รอยยิ้มง่วงๆ ขยับขึ้นเมื่อเขายิ้มให้
“เฮ้ เวลานี้ที่ไทยดึกมากแล้วไม่ใช่เหรอ” คนตัวโตว่าพลางวางกระเป๋าสะพายข้างทรงกระบอกไว้บนพื้นห้อง ใบหน้าขาวนวลเนียนพยักหน้าง่วงๆ แล้วก็อ้าปากหาวหนึ่งที
[หลับไปตั้งแต่ช่วงเย็น เลยมาตื่นเอาป่านนี้ ฝันถึงคุณเลยคอลมาหา] คนตัวใหญ่หัวเราะเสียงทุ้มน่าฟังพลางปัดผมที่เปียกชุ่มไปด้านขวา สายตามองคนตัวเล็กขยี้ตาท่าทางน่ารักน่ามอง
[คิดถึงคุณนะ]
“เป็นแฟนกันได้รึยังล่ะ” คนหน้าขาวในจอโทรศัพท์คลี่ยิ้มไม่เห็นฟันแล้วส่ายหน้าจนผมเด้งดึ๋ง ร่างสูงใหญ่ยักคิ้วสองข้างและยิ้มเบ้ปากน้อยๆ
[ขอมาตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่เบื่อเหรอ] คนในจอว่าพลางยิ้มน่ารัก คนนอกจอยกมือซ้ายลูบใต้คางเบาๆ ดวงตาสีเทามองอีกคนอย่างเป็นประกาย
“นายก็ส่ายหัวไม่มีเบื่อเลย” คนถูกต่อว่าหัวเราะเบาๆ
[ส่ายหัวแต่ก็ไม่หนีไปไหนนะ] คนตัวโตยิ้มกริ่ม
“อย่าหนีฉันอีกเลยนะ” คนในจอเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง มองคนนอกจอด้วยสายตาประหลาดใจปนงุนงง
[ผมไม่ได้หนี คุณผลักผมออกมาเอง] ร่างสูงใหญ่ยกมือซ้ายขึ้นด้วยท่าทียอมแพ้ทันที
“โอ๊เข่…” ใบหน้าเรียวเล็กในจอโทรศัพท์ขยับเป็นรอยยิ้มขำ “…ขว้างงูไม่พ้นคออีกตามเคยสินะ”
[ขว้างเข้ามาในปากผมแทนได้นะ] คนตัวเล็กยกมือซ้ายขึ้นกำมือเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ อ้าปากแล้วทำมือชักเข้าชักออก ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มด้านซ้ายคล้ายว่ามีอะไรมาดันจนแก้มตูม คนตัวโตหัวเราะชอบใจ
“ชอบให้มันพ่นพิษใส่ปากสินะ” คนถูกถามขยิบตาซ้ายหนึ่งทีและยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะในลำคอ คนฝั่งนิวยอร์กยิ้มกว้าง มองหน้าขาวนวลเนียนด้วยความคิดถึง
“วันนี้ฉันคุยกับแมท เล่าเรื่องของเราให้เขาฟัง” คนฝั่งไทยเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วกระตุกยิ้มอ่อน
[เหรอ เล่าอะไรให้น้องเขาฟังบ้างล่ะ] คนในจอมือถือถามเหมือนถามเรื่องทั่วไป ไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจใดๆ เพราะเคยไม่พอใจไปแล้ว
“แมททะเลาะกับวิคเตอร์น่ะ ฉันเลยลองเล่าให้เขาฟัง เผื่อเขาจะรู้ตัวว่าไม่ควรเป็นเหมือนเรา…” ใบหน้าสันกรามโหนกแก้มและหล่อเหลาราวกับถูกปั้นเครื่องหน้ามาระบายยิ้มเพลียเล็กน้อยแล้วตามด้วยถอนหายใจเบาๆ
“…ไม่ได้พูดอะไรมากหรอก แค่บอกว่าฉันยังไม่สมหวังกับนายจริงๆ สักที” ร่างเล็กในจอยิ้มด้วยความเอ็นดู
[อ่อววว ลุงแซ็คของผม ทุกวันนี้มีอะไรให้ผิดหวังเนี่ย ผมคุณก็ได้ แถมยังได้ผู้หญิงคนอื่นอีก] เจ้าของชื่อกลอกตา โยกหัวซ้ายทีขวาทีเบาๆ
“ย้อนเข้าหาตัวเองอีกจนได้…” สองไหล่กว้างและใหญ่หนาไหวขึ้นหนึ่งที “…ฉันขอโทษ แล้วก็ขอบคุณนายมากที่ใจกว้างแบบที่ฉันคิดว่านายอาจจะเป็นหนึ่งในร้อย” คนถูกชมยิ้มอ่อน มองหนุ่มฝรั่งตัวใหญ่ด้วยสายตาอ่อนโยน
[ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ใจกว้าง แต่ผมเลือกที่จะอยู่อย่างเข้าใจ แล้วก็ไม่ต้องมาเล่าหรอกว่าเป็นใครหรือเป็นยังไง ที่
เคยเห็นๆ มา มันทำให้ผมชินแล้ว] แซ็คมองหน้าหนุ่มไทยด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่นักกับสีหน้าที่อีกฝ่ายแสดงออกและคำพูดที่เปล่งออกมา
“ฉันโชคดีจริงๆ…” คนตัวเล็กยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วยว่าเขาน่ะโชคดีจริงๆ
“…แต่ฉันจะโชคดีกว่านี้ถ้าเราเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ” รอยยิ้มหายไป แทนที่ด้วยการแลบลิ้นและส่งเสียงแอ่อ่อ่อ่อ่
[นี่ ทุกวันนี้เราก็ไม่ต่างจากแฟนกันเล้ยยย อีกอย่าง ถ้าเป็นแฟนผม คุณเลิกเอากับผู้หญิงคนอื่นได้จริงเหรอ] เปลือกตาแซ็คเบิกกว้างก่อนจะขมวดคิ้วอ่อนๆ
“เฮ้ ฉันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นสักหน่อย” คนตรงข้ามในหน้าจอเบิกตากว้างด้วยความตกใจยิ่งกว่า
[โว้ว ๆ พูดออกมาได้ยังไงน่ะ] แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม คนในจอทำหน้าขยาด
“ฉันรู้สึกโชคดีจริง ๆ นะ” หนุ่มไทยยิ้มกริ่ม พยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะทำหน้านึกอะไรขึ้นได้
[แต่คุณก็อย่าลืมสิ่งที่ผมขอ ซึ่งผมว่าไม่ยากนะ ถ้าให้ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าผมจะให้สิ่งที่คุณอยากได้เหมือนกัน] คิ้วดกดำแต่ไม่ได้เข้มจัดยักขึ้นสองที มองแซ็คด้วยสายตานิ่งและแอบเหนือกว่าเล็ก ๆ หนุ่มฝรั่งเคราสีน้ำตาลทองทำตาเหลือกเหมือนกำลังโดนบีบคอแวบหนึ่ง
“โหดจริง”
[เบามาก คนรอบข้างผม ยกเว้นแม่กับน้าด่าผมกันทั้งนั้นกับความสัมพันธ์ของเราสองคน] คนในจอโทรศัพท์ขยับหัวบนหมอนสีขาว
“แมทเขาก็ตกใจนะ พอฉันบอกว่าเราอยู่กันแบบไหน”
[คุณน่าจะบอกน้องเขาด้วย ว่าวิคเตอร์เบาไปเลยถ้าเทียบกับแซ็ค ไนท์ฮู้ด] เจ้าของชื่อเต็มที่ถูกเอ่ยหรี่ตาและขมวดคิ้วมองคนหน้าขาวที่กำลังยิ้มกิ๊กกั๊ก
“เฮ้ ที่พูดนั่น สื่อถึงความหมายดี ๆ ใช่มั้ย” คนถูกถามทำตาโตตีหน้าใสซื่อ
[ดีซี่] แต่สีหน้าที่แสดงออก ไม่ได้ทำให้แซ็ครู้สึกเลยว่าความหมายมันดี
“เจอกันคราวหน้าต้องขอเคลียร์หน่อย ทั้งเรื่องนี้และเรื่องผู้ชาย” ร่างเล็กทำตาโต สีหน้านึกอะไรบางอย่างได้อย่างฉับพลัน
[โอ้ ลูคัสจะมาเที่ยวไทยช่วงปลายปี ผมต้องไปเป็นไกด์ให้เขานะ] แซ็คชะงักกึก นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับคืนมาแล้วรีบเปิดปากพูด
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ” คนถูกถามส่ายหัว
[ต้องไปสิ คุณก็รู้ว่าลูคัสดูแลผมดีแค่ไหนในตอนนั้น] คนพูดน่ะพูดเฉย ๆ ไม่คิดอะไร แต่คนได้ยินมันคิดไกล คิดย้อนไปแล้วก็รู้สึก… เจ็บ
“Ice-cream (ไอติม)…” แซ็คมองหน้าเจ้าของชื่อด้วยสายตาสลด “…I’m sorry (ฉันขอโทษ).” อีกฝ่ายระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้า
[มันผ่านมานานแล้ว ถ้าผมโกรธคุณจริง ผมจะอยู่ตรงนี้เหรอ]
“แต่ทุกวันนี้ฉันรู้สึกว่ามีความสุขไม่เต็มร้อยยังไงก็ไม่รู้” ไอติมเบิกตากว้าง ท่าทางตกใจเล็ก ๆ ใช้แขนซ้ายดันตัวเองลุกขึ้นนั่งบนเตียงและเขยิบไปพิงหัวเตียง ยกเข่าขึ้น เอามือขวาวางบนหัวเข่าตัวเองให้จอโทรศัพท์อยู่ตรงระดับหน้าพอดี
“[แซ็ค ไม่เอาสิ ไม่ดราม่า ยูชูสดิสเวย์เองนะ เราคุยกันแล้วเปล่า] แซ็คย่นคิ้ว ใบหน้าขรึมกว่าเดิม
“งั้นคุยกันใหม่” ไอติมย่นจมูกพร้อมกลอกตา
[คุณจะคุยใหม่ก็แค่ตอนมีผู้ชายเข้ามาใกล้ผมแค่นั้นแหละ] แซ็คขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม สีหน้าเริ่มมีแววเครียด
“แต่นี่มันลูคัสอะ”
[แหม ทำอย่างกับเราไม่เคย 3P ทรีซัมกันมาก่อนงั้นแหละ] ไอติมมองค้อน แซ็คชักสีหน้าเล็กน้อย
“แต่อันนั้นฉันเลือกให้ไง”
[ก็อันนี้ผมเลือกเองไง ใครเลือกก็เหมือนกันแหละ] คนตัวเล็กสะบัดกดมือลงเป็นเชิงบอกว่าเอาน่า ๆ แซ็คหน้าตึง ส่ายหัวสองสามที
“I’m not happy with that at all. (ฉันไม่แฮปปี้เลยนะแบบนี้)”
“But I am. (แต่ผมแฮปปี้)” ไอติมฉีกยิ้ม ขยิบตาให้อย่างน่ามอง แซ็คพ่นลมออกทางปาก กลอกตาเซ็งๆ
“Okay. It’s my fault. (ก็ได้ ความผิดฉันเอง)” ไอติมยิ้มหวานตาหวาน ยกมือขวาชี้นิ้วมาที่แซ็ค และพยักหน้าเบา ๆ สองที
[Yes, it is. (ถูกต้อง)] แซ็คไม่พอใจ แต่ที่ทำได้ก็แค่ทำสีหน้าเหมือนเด็กเอาแต่ใจเวลาโดนขัดใจ
“Do you really want to go with him, Lukas? (อยากไปกับลูคัสจริง ๆ เหรอ)” น้ำเสียงที่ถามแข็งกระด้าง แต่คนฟังก็ไม่เก็บมาคิดมาก
[And what is the reason that make me don’t want to? (แล้วมีเหตุผลอะไรล่ะที่ทำให้ผมไม่อยากไป)]
“Me. (ฉันไง)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น แสร้งทำสีหน้าตกใจใส่หน้าตึง ๆ ของแซ็ค
[Oh, it’s not good enough to stop me. (โอ๊ะ ก็ยังไม่ดีพอที่จะหยุดผมหรอก)”] แซ็คขบกรามแน่น ความหงุดหงิดรวนอยู่ในอกตุบๆ
“I will go with you. (ฉันจะไปกับนายด้วย)”
[That’s very welcome. (ยินดีอย่างมาก)] แซ็คขมวดคิ้วอ่อน ๆ ท่าทางไม่พอใจ แต่เพราะอยู่ห่างกันไกลเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งหน้าตึง
“Be mine.(เป็นของฉันเถอะ)” ไอติมยิ้มแหย ขมวดคิ้วสีหน้าไม่เข้าใจ
[I’m already yours, darling. (ผมเป็นของคุณแล้วไง ที่รัก)]
“Marry me. (แต่งงานกับฉัน)” ไอติมเหลือบตามองบนแล้วกะพรือเปลือกตาด้วยท่าทีเอือมก่อนจะสั่นหัวรัวๆ
“It can’t help. (มันไม่ช่วยหรอก)”
“Fuck!” แซ็คสบถด้วยความหงุดหงิด หน้าตาฟึดฟัดอึดอัดอยากระบายออกด้วยความรุนแรงสักยก
[Yes, you fuck me and you fuck other girls. (ใช่ คุณเย็xผม และคุณก็เย็xผู้หญิงอื่นด้วย)]
“But you are my one and only. (แต่นายคือที่หนึ่งและหนึ่งเดียวของฉัน)” ไอติมยิ้มกริ่ม ไหวไหล่ทั้งสองข้างด้วยท่าทีปลาบปลื้ม
[Yeah, it’s my turn. (ใช่ ก็มันถึงทีของผมแล้วนี่)]”
“Ice-cream, please.(ไอติม ได้โปรด)” แซ็คว่าเสียงอ้อน มองด้วยสายตาเว้าวอน ไอติมหัวเราะคิกคัก
[I have to go to sleep. (ผมต้องไปนอนแล้ว)] ไอติมยกมือส่งจุ๊บให้แซ็คหนึ่งที หน้าแซ็คหมดอารมณ์รื่นรมย์ แต่ไอติมไม่สนใจ
“Before you go to sleep I want to know two things. (ก่อนนายจะไปนอน ฉันอยากรู้อะไรสักสองอย่าง)” ไอติมพยักหน้าพร้อมฉีกยิ้มแบบไม่เห็นฟัน พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ
[There you go. (ว่ามาโลด)]
“Do you love me? (รักฉันมั้ย)”แซ็คถามด้วยความไม่มั่นใจ มองไอติมด้วยความหวาดหวั่นเล็กๆ
[If you love me I do love you, too. (ถ้าคุณรักผม ผมก็รักคุณเช่นกัน)] แซ็คขมวดคิ้วท่าทางเกรี้ยวกราดเบาๆ
“Of course! I love you.” ไอติมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจและด้วยความเขิน แซ็คชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าอดทนอดกลั้น
[Oh, it was great that I can deceived you to split it out. (โอ้ มันรู้สึกดีจังที่หลอกให้คุณพูดคำนั้นออกมาได้)] ไอติมยิ้มด้วยความดีใจแบบที่ดวงตาเป็นประกายและมีริ้วสีแดงบนแก้มขาวนวลผ่อง แซ็คสีหน้าอ่อนลงเมื่อเห็นริ้วสีแดงนั้น
คำว่ารักออกจากปากผู้ชายคนนี้ยากยิ่งกว่าวิชาสถิติสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้วได้เอฟมาครองซะอีก
[And the second? (แล้วอย่างที่สองล่ะ)] แซ็คพ่นลมหายใจเบาๆ
“Do you feel hurt when I slept with someone? (นายเจ็บมั้ยเวลาที่ฉันนอนกับคนอื่น)” ไอติมอ้าปากค้างน้อย ๆ มองแซ็คด้วยความเอ๋อเล็ก ๆ แต่ก็ตอบกลับแบบงงๆ
[What do you think? (คุณคิดว่าไงล่ะ)]
“I don’t know. You look like you have no feeling about it. (ไม่รู้สิ นายดูไม่รู้สึกอะไร)” ไอติมคลี่ยิ้มบางเบา วูบหนึ่งดวงตาเรียวคู่สวยสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น
[Before I feel nothing I feel many things what you do. (ก่อนที่ผมจะไม่รู้สึกอะไร ผมรู้สึกอะไรมากมายกับสิ่งที่คุณทำ)] หัวใจของแซ็คกระตุกด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นในใจอย่างรวดเร็วเหมือนคลื่นที่กระแทกขึ้นสูงแล้วก็ไหลกลับลงทะเลไป
“And are you going to leave me, at the end? (ท้ายที่สุดแล้ว นายจะไปจากฉันมั้ย)” น้ำเสียงที่ถามนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะคุยกันแค่สองคนจึงทำให้ไอติมได้ยินทุกคำ ไอติมยกยิ้ม เป็นยิ้มที่แซ็คเคยเห็นมาแล้ว
เห็นก่อนที่ไอติมจะเดินจากไปในตอนนั้น
[We don’t know the future. (เราไม่รู้อนาคตหรอก)] แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกในอกกลวงโบ๋ว่างเปล่าแปลกๆ
“I’m afraid again. (ฉันกลัวอีกแล้ว)” ไอติมกระตุกยิ้ม เป็นรอยยิ้มนิ่งสงบ แบบที่แซ็คเห็นแล้วก็รู้สึกนิ่งจนเหมือนเป็นเหน็บชาเพราะคำพูดของอีกฝ่าย
“You should. (ก็สมควร)”