|:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]  (อ่าน 148154 ครั้ง)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม







THE ACTOR SERIES.
ซีรีส์พี่พระเอก (คนที่ 2)
 
Fall in Lust  ประสบกาม ประสบรัก


ผมอดทนอดกลั้นไม่เสียตัวให้กับใคร เพราะผมอยากเสียตัวให้กับคุณ ผมอยากให้คุณเป็นคนพรากความบริสุทธิ์

Boy's Love Story
ชายรักชายคือความรัก ไม่ใช่ความผิดปกติ

Hello... it's me
อะตอมค่า หลายคนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้วจากเรื่อง Love, no boundaries
หรืออาจจะคุ้นเคยกันจากเรื่อง Works the magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนางมาร
หรือถ้าใครเพิ่งเข้ามาทำความรู้จักกันจากเรื่องนี้ ก็ยินดีต้อนรับและยินดีที่ได้รู้จักค่า

มาเปิดเรื่องใหม่ ซึ่งถ้าใครตามอ่านพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน
จะรู้จักตัวละครตัวนี้กันไปแล้ว กับพี่พระเอกคนที่สองของ ซีรีส์พี่พระเอก พี่แซ็คนั่นเองงง
เป็นพี่พระเอกคนที่สองต่อจากพี่พระเอกคนแรก ซึ่งก็คือไอ้ยักษ์วิคเตอร์ของน้องแมท
ณ จุดนี้พี่แซ็คมีเรื่องของเขา ซีนของเขาเต็มๆ หลังจากไปโผล่ในเรื่องคนอื่น
ณ จุดนี้พี่แซ็คจะมาแซ่บในเรื่องของตัวเองเต็มๆ แล้ว
ส่วนใครที่เพิ่งมาทำความรู้จักกับพี่แซ็ค มาค่ะ มาซี๊ดดดไปด้วยกัน

งดกินของเผ็ดเพราะพี่แซ็ค...เผ็ชมาก (เติมคำในช่องว่าง 10 คะแนนค่ะ)
ขอให้อร่อยกับพี่พระเอกหนังโป๊ของขุ่นเจ้กันแบบเต็มปากเต็มคำนะคะ
ฝากตัวล่ำๆ แซ่บๆ ของพี่แซ็คไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยค่า
 
ปล. ยังไม่เห็นพูดถึงนายเอกเลยสักแอะอีเจ้  / เดี๋ยวก็เจอนางในเรื่อง ขายผู้ก่อน

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2019 20:14:15 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
สารบัญ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

บทชักพาห้วงราคะ





                  ปัจจุบัน
   

New York, South Manhattan เวลาตามไทม์โซน
   



ตึ่งตึงตึง ตื๊อดือดึ๊ง ตื่อดือดึ๊ง (เสียงวิดีโอคอลไลน์) ดังขึ้นในระหว่างที่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำโชว์รอยสักบนแขนขวากับกางเกงผ้าใบสีเดียวกันที่สามารถระบายเหงื่ออย่างดีกำลังก้าวขึ้นบันไดอพาร์ทเม้นต์ มือใหญ่หนาหยิบโทรศัพท์แบรนด์แอปเปิ้ลแหว่งสีดำเครื่องใหญ่ขึ้นมาดูแล้วริมฝีปากก็ขยับยิ้มกว้างเมื่อเห็นรูปใบหน้าเรียวเล็กขาวผ่องปรากฎอยู่บนนั้น เขายังไม่กดรับทันที แต่ก็เร่งฝีเท้าไปให้ถึงห้องพักของตัวเอง หยิบกุญแจขึ้นมาไขลูกบิดสีทองที่อยู่บนประตูสีขาวบานแคบก่อนผลักเข้าไปด้านใน เปิดไฟเปิดเครื่องกรองอากาศเรียบร้อยก็เดินไปนั่งโซฟาตัวยาวสีขาวเนื้อด้านแล้วถึงกดรับสาย มีเสียงกุกกักๆ สักพักก่อนที่หน้าจอจะสว่างด้วยไฟสีส้มนวลตา ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มกับริมฝีปากสีแดงปรากฎขึ้นบนหน้าจอ รอยยิ้มง่วงๆ ขยับขึ้นเมื่อเขายิ้มให้
   

“เฮ้ เวลานี้ที่ไทยดึกมากแล้วไม่ใช่เหรอ” คนตัวโตว่าพลางวางกระเป๋าสะพายข้างทรงกระบอกไว้บนพื้นห้อง ใบหน้าขาวนวลเนียนพยักหน้าง่วงๆ แล้วก็อ้าปากหาวหนึ่งที
   

[หลับไปตั้งแต่ช่วงเย็น เลยมาตื่นเอาป่านนี้ ฝันถึงคุณเลยคอลมาหา] คนตัวใหญ่หัวเราะเสียงทุ้มน่าฟังพลางปัดผมที่เปียกชุ่มไปด้านขวา สายตามองคนตัวเล็กขยี้ตาท่าทางน่ารักน่ามอง
   

[คิดถึงคุณนะ]
   

“เป็นแฟนกันได้รึยังล่ะ” คนหน้าขาวในจอโทรศัพท์คลี่ยิ้มไม่เห็นฟันแล้วส่ายหน้าจนผมเด้งดึ๋ง ร่างสูงใหญ่ยักคิ้วสองข้างและยิ้มเบ้ปากน้อยๆ
   

[ขอมาตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่เบื่อเหรอ] คนในจอว่าพลางยิ้มน่ารัก คนนอกจอยกมือซ้ายลูบใต้คางเบาๆ ดวงตาสีเทามองอีกคนอย่างเป็นประกาย
   

“นายก็ส่ายหัวไม่มีเบื่อเลย” คนถูกต่อว่าหัวเราะเบาๆ
   

[ส่ายหัวแต่ก็ไม่หนีไปไหนนะ] คนตัวโตยิ้มกริ่ม
   

“อย่าหนีฉันอีกเลยนะ” คนในจอเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง มองคนนอกจอด้วยสายตาประหลาดใจปนงุนงง
   

[ผมไม่ได้หนี คุณผลักผมออกมาเอง] ร่างสูงใหญ่ยกมือซ้ายขึ้นด้วยท่าทียอมแพ้ทันที
   

“โอ๊เข่…” ใบหน้าเรียวเล็กในจอโทรศัพท์ขยับเป็นรอยยิ้มขำ “…ขว้างงูไม่พ้นคออีกตามเคยสินะ”
   

[ขว้างเข้ามาในปากผมแทนได้นะ] คนตัวเล็กยกมือซ้ายขึ้นกำมือเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ อ้าปากแล้วทำมือชักเข้าชักออก ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มด้านซ้ายคล้ายว่ามีอะไรมาดันจนแก้มตูม คนตัวโตหัวเราะชอบใจ
   

“ชอบให้มันพ่นพิษใส่ปากสินะ” คนถูกถามขยิบตาซ้ายหนึ่งทีและยิ้มกว้างพร้อมกับหัวเราะในลำคอ คนฝั่งนิวยอร์กยิ้มกว้าง มองหน้าขาวนวลเนียนด้วยความคิดถึง
   

“วันนี้ฉันคุยกับแมท เล่าเรื่องของเราให้เขาฟัง” คนฝั่งไทยเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วกระตุกยิ้มอ่อน
   

[เหรอ เล่าอะไรให้น้องเขาฟังบ้างล่ะ] คนในจอมือถือถามเหมือนถามเรื่องทั่วไป ไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจใดๆ เพราะเคยไม่พอใจไปแล้ว
   

“แมททะเลาะกับวิคเตอร์น่ะ ฉันเลยลองเล่าให้เขาฟัง เผื่อเขาจะรู้ตัวว่าไม่ควรเป็นเหมือนเรา…” ใบหน้าสันกรามโหนกแก้มและหล่อเหลาราวกับถูกปั้นเครื่องหน้ามาระบายยิ้มเพลียเล็กน้อยแล้วตามด้วยถอนหายใจเบาๆ


“…ไม่ได้พูดอะไรมากหรอก แค่บอกว่าฉันยังไม่สมหวังกับนายจริงๆ สักที” ร่างเล็กในจอยิ้มด้วยความเอ็นดู


[อ่อววว ลุงแซ็คของผม ทุกวันนี้มีอะไรให้ผิดหวังเนี่ย ผมคุณก็ได้ แถมยังได้ผู้หญิงคนอื่นอีก] เจ้าของชื่อกลอกตา โยกหัวซ้ายทีขวาทีเบาๆ


“ย้อนเข้าหาตัวเองอีกจนได้…” สองไหล่กว้างและใหญ่หนาไหวขึ้นหนึ่งที “…ฉันขอโทษ แล้วก็ขอบคุณนายมากที่ใจกว้างแบบที่ฉันคิดว่านายอาจจะเป็นหนึ่งในร้อย” คนถูกชมยิ้มอ่อน มองหนุ่มฝรั่งตัวใหญ่ด้วยสายตาอ่อนโยน


[ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ใจกว้าง แต่ผมเลือกที่จะอยู่อย่างเข้าใจ แล้วก็ไม่ต้องมาเล่าหรอกว่าเป็นใครหรือเป็นยังไง ที่เคยเห็นๆ มา มันทำให้ผมชินแล้ว] แซ็คมองหน้าหนุ่มไทยด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่นักกับสีหน้าที่อีกฝ่ายแสดงออกและคำพูดที่เปล่งออกมา


“ฉันโชคดีจริงๆ…” คนตัวเล็กยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วยว่าเขาน่ะโชคดีจริงๆ


“…แต่ฉันจะโชคดีกว่านี้ถ้าเราเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ” รอยยิ้มหายไป แทนที่ด้วยการแลบลิ้นและส่งเสียงแอ่อ่อ่อ่อ่


[นี่ ทุกวันนี้เราก็ไม่ต่างจากแฟนกันเล้ยยย อีกอย่าง ถ้าเป็นแฟนผม คุณเลิกเอากับผู้หญิงคนอื่นได้จริงเหรอ] เปลือกตาแซ็คเบิกกว้างก่อนจะขมวดคิ้วอ่อนๆ


“เฮ้ ฉันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นสักหน่อย” คนตรงข้ามในหน้าจอเบิกตากว้างด้วยความตกใจยิ่งกว่า


[โว้ว ๆ พูดออกมาได้ยังไงน่ะ] แซ็คหัวเราะเสียงทุ้ม คนในจอทำหน้าขยาด


“ฉันรู้สึกโชคดีจริง ๆ นะ” หนุ่มไทยยิ้มกริ่ม พยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะทำหน้านึกอะไรขึ้นได้



[แต่คุณก็อย่าลืมสิ่งที่ผมขอ ซึ่งผมว่าไม่ยากนะ ถ้าให้ไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าผมจะให้สิ่งที่คุณอยากได้เหมือนกัน] คิ้วดกดำแต่ไม่ได้เข้มจัดยักขึ้นสองที มองแซ็คด้วยสายตานิ่งและแอบเหนือกว่าเล็ก ๆ หนุ่มฝรั่งเคราสีน้ำตาลทองทำตาเหลือกเหมือนกำลังโดนบีบคอแวบหนึ่ง


“โหดจริง”


[เบามาก คนรอบข้างผม ยกเว้นแม่กับน้าด่าผมกันทั้งนั้นกับความสัมพันธ์ของเราสองคน] คนในจอโทรศัพท์ขยับหัวบนหมอนสีขาว


“แมทเขาก็ตกใจนะ พอฉันบอกว่าเราอยู่กันแบบไหน”


[คุณน่าจะบอกน้องเขาด้วย ว่าวิคเตอร์เบาไปเลยถ้าเทียบกับแซ็ค ไนท์ฮู้ด] เจ้าของชื่อเต็มที่ถูกเอ่ยหรี่ตาและขมวดคิ้วมองคนหน้าขาวที่กำลังยิ้มกิ๊กกั๊ก


“เฮ้ ที่พูดนั่น สื่อถึงความหมายดี ๆ ใช่มั้ย” คนถูกถามทำตาโตตีหน้าใสซื่อ


[ดีซี่] แต่สีหน้าที่แสดงออก ไม่ได้ทำให้แซ็ครู้สึกเลยว่าความหมายมันดี


“เจอกันคราวหน้าต้องขอเคลียร์หน่อย ทั้งเรื่องนี้และเรื่องผู้ชาย” ร่างเล็กทำตาโต สีหน้านึกอะไรบางอย่างได้อย่างฉับพลัน


[โอ้ ลูคัสจะมาเที่ยวไทยช่วงปลายปี ผมต้องไปเป็นไกด์ให้เขานะ] แซ็คชะงักกึก นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับคืนมาแล้วรีบเปิดปากพูด


“ไม่ไปไม่ได้เหรอ” คนถูกถามส่ายหัว


[ต้องไปสิ คุณก็รู้ว่าลูคัสดูแลผมดีแค่ไหนในตอนนั้น] คนพูดน่ะพูดเฉย ๆ ไม่คิดอะไร แต่คนได้ยินมันคิดไกล คิดย้อนไปแล้วก็รู้สึก… เจ็บ


“Ice-cream (ไอติม)…” แซ็คมองหน้าเจ้าของชื่อด้วยสายตาสลด “…I’m sorry (ฉันขอโทษ).” อีกฝ่ายระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้า


[มันผ่านมานานแล้ว ถ้าผมโกรธคุณจริง ผมจะอยู่ตรงนี้เหรอ]


“แต่ทุกวันนี้ฉันรู้สึกว่ามีความสุขไม่เต็มร้อยยังไงก็ไม่รู้” ไอติมเบิกตากว้าง ท่าทางตกใจเล็ก ๆ ใช้แขนซ้ายดันตัวเองลุกขึ้นนั่งบนเตียงและเขยิบไปพิงหัวเตียง ยกเข่าขึ้น เอามือขวาวางบนหัวเข่าตัวเองให้จอโทรศัพท์อยู่ตรงระดับหน้าพอดี


“[แซ็ค ไม่เอาสิ ไม่ดราม่า ยูชูสดิสเวย์เองนะ เราคุยกันแล้วเปล่า] แซ็คย่นคิ้ว ใบหน้าขรึมกว่าเดิม


“งั้นคุยกันใหม่” ไอติมย่นจมูกพร้อมกลอกตา


[คุณจะคุยใหม่ก็แค่ตอนมีผู้ชายเข้ามาใกล้ผมแค่นั้นแหละ] แซ็คขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม สีหน้าเริ่มมีแววเครียด


“แต่นี่มันลูคัสอะ”


[แหม ทำอย่างกับเราไม่เคย 3P ทรีซัมกันมาก่อนงั้นแหละ] ไอติมมองค้อน แซ็คชักสีหน้าเล็กน้อย


“แต่อันนั้นฉันเลือกให้ไง”


[ก็อันนี้ผมเลือกเองไง ใครเลือกก็เหมือนกันแหละ] คนตัวเล็กสะบัดกดมือลงเป็นเชิงบอกว่าเอาน่า ๆ แซ็คหน้าตึง ส่ายหัวสองสามที


“I’m not happy with that at all. (ฉันไม่แฮปปี้เลยนะแบบนี้)”


“But I am. (แต่ผมแฮปปี้)” ไอติมฉีกยิ้ม ขยิบตาให้อย่างน่ามอง แซ็คพ่นลมออกทางปาก กลอกตาเซ็งๆ


“Okay. It’s my fault. (ก็ได้ ความผิดฉันเอง)” ไอติมยิ้มหวานตาหวาน ยกมือขวาชี้นิ้วมาที่แซ็ค และพยักหน้าเบา ๆ สองที


[Yes, it is. (ถูกต้อง)] แซ็คไม่พอใจ แต่ที่ทำได้ก็แค่ทำสีหน้าเหมือนเด็กเอาแต่ใจเวลาโดนขัดใจ


“Do you really want to go with him, Lukas? (อยากไปกับลูคัสจริง ๆ เหรอ)” น้ำเสียงที่ถามแข็งกระด้าง แต่คนฟังก็ไม่เก็บมาคิดมาก


[And what is the reason that make me don’t want to? (แล้วมีเหตุผลอะไรล่ะที่ทำให้ผมไม่อยากไป)]


“Me. (ฉันไง)” ไอติมเลิกคิ้วขึ้น แสร้งทำสีหน้าตกใจใส่หน้าตึง ๆ ของแซ็ค


[Oh, it’s not good enough to stop me. (โอ๊ะ ก็ยังไม่ดีพอที่จะหยุดผมหรอก)”] แซ็คขบกรามแน่น ความหงุดหงิดรวนอยู่ในอกตุบๆ


“I will go with you. (ฉันจะไปกับนายด้วย)”


[That’s very welcome. (ยินดีอย่างมาก)] แซ็คขมวดคิ้วอ่อน ๆ ท่าทางไม่พอใจ แต่เพราะอยู่ห่างกันไกลเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งหน้าตึง


“Be mine.(เป็นของฉันเถอะ)” ไอติมยิ้มแหย ขมวดคิ้วสีหน้าไม่เข้าใจ


[I’m already yours, darling. (ผมเป็นของคุณแล้วไง ที่รัก)]


“Marry me. (แต่งงานกับฉัน)” ไอติมเหลือบตามองบนแล้วกะพรือเปลือกตาด้วยท่าทีเอือมก่อนจะสั่นหัวรัวๆ


“It can’t help. (มันไม่ช่วยหรอก)”


“Fuck!” แซ็คสบถด้วยความหงุดหงิด หน้าตาฟึดฟัดอึดอัดอยากระบายออกด้วยความรุนแรงสักยก


[Yes, you fuck me and you fuck other girls. (ใช่ คุณเย็xผม และคุณก็เย็xผู้หญิงอื่นด้วย)]


“But you are my one and only. (แต่นายคือที่หนึ่งและหนึ่งเดียวของฉัน)” ไอติมยิ้มกริ่ม ไหวไหล่ทั้งสองข้างด้วยท่าทีปลาบปลื้ม


[Yeah, it’s my turn. (ใช่ ก็มันถึงทีของผมแล้วนี่)]”


“Ice-cream, please.(ไอติม ได้โปรด)” แซ็คว่าเสียงอ้อน มองด้วยสายตาเว้าวอน ไอติมหัวเราะคิกคัก


[I have to go to sleep. (ผมต้องไปนอนแล้ว)] ไอติมยกมือส่งจุ๊บให้แซ็คหนึ่งที หน้าแซ็คหมดอารมณ์รื่นรมย์ แต่ไอติมไม่สนใจ


“Before you go to sleep I want to know two things. (ก่อนนายจะไปนอน ฉันอยากรู้อะไรสักสองอย่าง)” ไอติมพยักหน้าพร้อมฉีกยิ้มแบบไม่เห็นฟัน พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ


[There you go. (ว่ามาโลด)]


“Do you love me? (รักฉันมั้ย)”แซ็คถามด้วยความไม่มั่นใจ มองไอติมด้วยความหวาดหวั่นเล็กๆ


[If you love me I do love you, too. (ถ้าคุณรักผม ผมก็รักคุณเช่นกัน)] แซ็คขมวดคิ้วท่าทางเกรี้ยวกราดเบาๆ


“Of course! I love you.” ไอติมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจและด้วยความเขิน แซ็คชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าอดทนอดกลั้น


[Oh, it was great that I can deceived you to split it out. (โอ้ มันรู้สึกดีจังที่หลอกให้คุณพูดคำนั้นออกมาได้)] ไอติมยิ้มด้วยความดีใจแบบที่ดวงตาเป็นประกายและมีริ้วสีแดงบนแก้มขาวนวลผ่อง แซ็คสีหน้าอ่อนลงเมื่อเห็นริ้วสีแดงนั้น


คำว่ารักออกจากปากผู้ชายคนนี้ยากยิ่งกว่าวิชาสถิติสมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้วได้เอฟมาครองซะอีก


[And the second? (แล้วอย่างที่สองล่ะ)] แซ็คพ่นลมหายใจเบาๆ


“Do you feel hurt when I slept with someone? (นายเจ็บมั้ยเวลาที่ฉันนอนกับคนอื่น)” ไอติมอ้าปากค้างน้อย ๆ มองแซ็คด้วยความเอ๋อเล็ก ๆ แต่ก็ตอบกลับแบบงงๆ
   

[What do you think? (คุณคิดว่าไงล่ะ)]
   

“I don’t know. You look like you have no feeling about it. (ไม่รู้สิ นายดูไม่รู้สึกอะไร)” ไอติมคลี่ยิ้มบางเบา วูบหนึ่งดวงตาเรียวคู่สวยสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น
   

[Before I feel nothing I feel many things what you do. (ก่อนที่ผมจะไม่รู้สึกอะไร ผมรู้สึกอะไรมากมายกับสิ่งที่คุณทำ)] หัวใจของแซ็คกระตุกด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นในใจอย่างรวดเร็วเหมือนคลื่นที่กระแทกขึ้นสูงแล้วก็ไหลกลับลงทะเลไป
   

“And are you going to leave me, at the end? (ท้ายที่สุดแล้ว นายจะไปจากฉันมั้ย)” น้ำเสียงที่ถามนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะคุยกันแค่สองคนจึงทำให้ไอติมได้ยินทุกคำ ไอติมยกยิ้ม เป็นยิ้มที่แซ็คเคยเห็นมาแล้ว
   

เห็นก่อนที่ไอติมจะเดินจากไปในตอนนั้น 
   

[We don’t know the future. (เราไม่รู้อนาคตหรอก)] แซ็คกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกในอกกลวงโบ๋ว่างเปล่าแปลกๆ
   

“I’m afraid again. (ฉันกลัวอีกแล้ว)” ไอติมกระตุกยิ้ม เป็นรอยยิ้มนิ่งสงบ แบบที่แซ็คเห็นแล้วก็รู้สึกนิ่งจนเหมือนเป็นเหน็บชาเพราะคำพูดของอีกฝ่าย 
   

“You should. (ก็สมควร)”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2019 00:39:17 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ P_Methayot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ตามครับ :กอด1: :L2: :3123:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
ตามครับ :กอด1: :L2: :3123:


ขอบคุณมากๆ ค่ะ คนแรกเลยอ้าาาา

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
มาตามต่อครับ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust, Chapter 1 : I have a [wet] dream. (ฉันมันคนมีฝัน (เปียก)) [50%]




เมื่อหลายปีก่อน…


‘กับผู้ชายบางคน เราก็แค่อยากจะมีเซ็กส์ด้วย ไม่ต้องรักก็ได้ แต่เยกูเถอะ’
   


“ซี๊ดดด… อ้า… อู้ว แซ็ค ฮาร์ดเดอร์ โอ้ว…”
   

“You like it?”
   

“เยส เยส ไอไลก์ยัวคอร์ค อ๊า อ๊า!”
   

“ซู๊ด… It’s fucking good. (โคตรเสียวเลย)” ฟันขาวด้านบนกัดริมฝีปากสีแดงด้านล่างด้วยความรู้สึกเสียว เปลือกตาหรี่ปรือมองใบหน้าหล่อของฝรั่งตัวล่ำกล้ามโต ความเสียวอัดแน่นที่ช่องทางด้านหลังทำให้เอวกิ่วบิดไปบิดมาด้วยความสุขสมระคนหน่วงๆ
   

“Yeah. Haha.” หนุ่มฝรั่งอ้าปากกว้างแล้วหัวเราะก่อนจะแลบลิ้นออกมาแล้วรัวใส่ ร่างเล็กแลบลิ้นออกมาแล้วรัวตอบกลับหาฝรั่งหน้าหล่อ ในขณะที่มือขวาก็ไม่หยุดชักเข้าชักออกให้กับตัวเอง
   

“อู้ว แซ็ค โอ้ว มายก้อด” ร่างเล็กที่ผิวขาวจนเกือบจะเทียบเคียงกับหิมะกัดริมฝีปากล่างแน่นกับความเสียวตรงท้องน้อยที่มีของดีของเด็ดของฝรั่งหุ่นแซ่บคาอยู่ มือซ้ายยกไปจับตรงลำสีเนื้อแน่นแล้ววนก้นตามเข็มนาฬิกาเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายความหน่วงตรงช่วงท้องน้อย
   

“อ่า…. Fuck….” ฝรั่งผมสีน้ำตาลทองหนวดเคราสีเดียวกันครางเสียงเบาแต่แสนจะเซ็กซี่ในความรู้สึกของร่างเล็กที่กำลังเสียวจนใจหวิว เขาค่อย ๆ ดันตัวเองลุกขึ้นนั่งโดยไม่ให้สิ่งที่เชื่อมคาด้านหลังตัวเองอยู่หลุดออกไป พอนั่งแบะขาได้เต็มที่ร่างเล็กก็ปากกว้างเพราะความยาวที่ถูกกดลึกเข้าไปด้านในตัวเองมากกว่าเดิม
   

“เหี้ย…” ร่างขาวครางเสียงสั่นเปลือกตาปรือด้วยความรู้สึกหน่วงจัด แต่ถึงแบบนั้นก็ออกแรงเด้งหน้าเด้งหลังเบา ๆ มือขวาก็ชักให้ตนเอง พยายามไม่เร่งตัวเองในการไปถึงจุกสุดยอด เพราะรู้สึกอยากเสียวไปกับผู้ชายคนนี้นานๆ
   

“Is it big? (ใหญ่มั้ย)” ร่างเล็กพยักหน้า ฝรั่งร่างใหญ่หัวเราะเบา ๆ คนที่เป็นฝ่ายรับนั่งโยกแท่งสีเนื้อด้วยความรู้สึกสะท้าน เพราะมันทั้งใหญ่และยาว สร้างความปั่นป่วนชวนแตก (สลาย) ได้แทบตลอดเวลา คนที่มีตำแหน่งอยู่ข้างบนยกมือซ้ายขึ้นแล้วอมนิ้วชี้กับนิ้วนางช้า ๆ ด้านล่างก็เปลี่ยนจากโยกเป็นวนตามเข็มนาฬิกาไปเรื่อยๆ
   

“ซี๊ด… โอ๊ย… ซี้ด… โอ๊ยย จะแตกแล้วครับแซ็ค…” คิ้วเข้มแต่ไม่ใช่เข้มดกดำขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากอ้ากว้าง ลมหายใจเริ่มหอบกระเส่า จังหวะควบด้านล่างก็เริ่มติดขัดเพราะความเสียวตีตื้นขึ้นมาพร้อมพุ่ง
   

“I think I’m gonna cum. (ผมคิดว่าผมจะแตกแล้ว)” ฝรั่งหน้าหล่อหุ่นแซ่บสูดลมหายใจเข้าปากยาว ๆ ก่อนจะครางในลำคอ ฝ่ายรับที่ได้ยินเสียงครางนุ่มทุ้มนั้นก็ยิ่งรู้สึกเสียวซ่าน ขนตามตัวลุกซู่เบา ๆ กับเสียงที่หล่อไม่แพ้หน้า
   

“โอ้ว แซ็ค โอ้ว!” มือขวาของร่างเล็กเร่งแรงชักมากขึ้นพร้อมกับหยุดควบแท่งสีเนื้อ ในขณะเดียวเสียงครางใหญ่และทุ้มหล่อของฝรั่งก็ดังคลอไปกับเสียงครางใสของหนุ่มเอเชียผิวขาว
   

“I’m cumming. Ahhhh” ฝรั่งหน้าหล่อครางเสียงทุ้มน่าฟัง น้ำสีขาวข้นพุ่งออกมาจากปลายยอดสีขมพูดั่งลาวาที่ไหลทะลักอาบแก่นกายสีเนื้อไซซ์ใหญ่ยาว ในขณะที่หนุ่มเอเชียก็เร่งมือเพื่อจะตามไปให้เวลาใกล้เคียงกัน ลมหายใจดึงฟืดฟาด ความเสียวตีตื้นขึ้นมาใกล้จะถึงจุดปลดปล่อย ริมฝีปากสีแดงอ้าเตรียมส่งเสียงคราง
   

ปังๆๆๆ!!!
   

“ไอ้ติม!” ไม่! ใกล้แล้ว ดึงอารมณ์เสียวกลับมา!
   

ปังๆๆๆ!!!
   

“ไอ้เหี้ยติม!!!” ปัง!!!


เอี๊ยดดด! ไม่ๆๆๆ อย่าล่มมม


“Yeah. Come with me.”


“เยส แซ็ค เยส แอมกอนนาคัมมมม”


“กูจะพังประตูเดี๋ยวนี้ไอ้สัตว์ติม!!!”


วืดดด!


แม่งเอ๊ยยย!
   

“ไอ้เชี่ยยย!!!” ไอติมสบถดังลั่นห้อง ใบหน้าหล่อแต่ออกแนวน่ารักมากกว่าหงุดหงิดกับการที่โดนขัดอารมณ์ถึงจุดสุดยอด แทนที่สิ่งที่ควรแตกคือน้ำกาม แต่กลายเป็นอารมณ์เสียวที่กำลังจะถึงจุดพีคกลับแตกซ่านกลางทาง เพราะไอ้เพื่อนสนิทที่มาเคาะประตูห้องพร้อมกับแหกปากเรียกเสียงดัง
   

“มึงมีอะไรเนี่ย ไอ้เชี่ยเดนตายยย”
   

“มึงเปิดประตูเดี๋ยวนี้ มึงจะจบมั้ยปริญญาเนี่ย?!” ไอติมชักสีหน้า แว่วได้ยินเสียงทุ้มหล่อเลยหันกลับไปมอง
   

“It’s quite good. (ก็ใช้ได้)” เป็นจังหวะที่ฝรั่งรูปหล่อดูดนิ้วชี้ตัวเองหนึ่งทีแล้วคลี่ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วเท่ให้ไอติมรู้สึกระทวย
   

“ไอ้เหี้ยติม!!”
   

“เอออออ!” จำใจต้องยกตัวเองออกจากแก่นกายไซซ์ฝรั่งอย่างเสียมิได้ ก่อนจะใช้ผ้านวมคลุมตัวแล้วลุกออกไปเปิดประตูห้องนอน พอเปิดประตูก็เจอกับไอ้เพื่อนหน้าหล่อผิวเข้มลูกครึ่งไทยอเมริกันที่กำลังขมวดคิ้วมองเขาอยู่ ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูบนเตียงนอนของไอติม
   

“มึงมโนชักว่าวกับไอ้พระเอกหนังโป๊ของมึงอีกแล้วเหรอ” ไอติมจึ๊ปาก จิกตามองเพื่อนไปหนึ่งที ได้ยินเสียงพูดของฝรั่งแซ่บคนนั้น
   

“I think it is done for today. (ผมว่าวันนี้คงพอแค่นี้)” ไอติมหันควับกลับไปมองบนเตียง
   

“อย่าเพิ่งงงง ยังไม่แตกเลย!” ไอติมวิ่งดุ๊กๆ กลับไปที่เตียง มีเพื่อนตัวสูงหน้าคมแบบหนุ่มไทยที่ได้เชื้อจากแม่และความหล่อแบบอเมกันที่ได้เชื้อมาจากพ่อเดินตามเข้าไปด้วย เดนหรือเดนนี่มองไอติมด้วยความงง ก่อนสายตาจะเลื่อนไปเห็นไอ้สิ่งที่เรียกว่าดิลโด้วางอยู่บนหัวเตียง
   

“โอโห มึงนี่มันเงี่ยนกับไอ้พระเอกคนนี้จริง ได้ของมาวันเดียว มึงใช้แล้วเหรอ” เดนนี่รู้สึกยอมใจกับความคันของเพื่อน แต่เหมือนเพื่อนตัวเองจะไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่ เพราะมันพยายามคว้าไอ้พระเอกหนังโป๊สุดเลิฟของมันไว้
   

“ไม่ๆๆ แซ็คคค เฮ้ยยย โอ้ยยย”
   

“Good bye!” แซ็คที่ไอติมคร่ำครวญหาโบกมือลาแล้วส่งจูบให้ก่อนจะหายวับไป…
   

…จากจอแล็ปท็อป
   

“ไอ้เหี้ยยยเดนนน ไอ้ตัวอุดตันท่อน้ำว่าว!!” ไอติมหันไปมองเพื่อนด้วยความหงุดหงิด เดนนี่อ้าปากค้างแล้วยกสองมือกอดอก ก่อนจะยื่นมือซ้ายไปผลักหัวเพื่อนหนึ่งทีจนไอติมตัวเอียง
   

“อ้าว ไอ้เนรคุณ ไอ้ควxยางที่มึงเอามาแทงตูด กูเป็นคนซื้อมาให้มึงนะ สำนึกบุญคุณกูบ้าง กูต้องโดนตอมอล้อพ่อล้อแม่ไปอีกนานแค่ไหนมึงคิดซิ” ไอติมหน้างอ มองเพื่อนด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางจมูกแล้วหันไปมองหน้าจอแล็ปท็อปที่ไลฟ์สดเว็บแคมเมื่อครู่นี้ปิดไปแล้ว ไอติมหันกลับไปมองไอ้หล่อหน้าเข้มด้วยความรู้สึกขัดใจแต่จะถึงขั้นโกรธเพื่อนก็ทำไม่ลง เพราะถ้าไม่มีไอ้เดน ไอติมก็คงไม่ได้ดิลโด้ของแซ็คมาเสียบก้นเพื่อความฟินแบบนี้หรอก
   

“เออ ๆ แหม ด่ากูตั้งแต่กูฝากซื้อยันซื้อมาให้เลยนะ” ไอติมว่าเสียงสะบัด เดนนี่ถลึงตามอง
   

“พ่องอะ ไม่ให้กูด่าได้ไง มึงฝากซื้ออะไรมึงดูดิ๊ เชี่ย กูเข้าไปเดินเลือกในชอปให้มึง มึงคิดว่าคนอื่นจะคิดไงกับกูล่ะ ห่า ฝากซื้อของปกติทั่วไปก็ไม่ได้ กูไปแค่สามวันยังยัดเยียดให้กูไปซื้อให้อีก”
   

“โอ่โห มึงบ่นซะยาวเชียว ยาวกว่าหำมึงอีกมั้งน่ะ” เดนนี่เบิกตากว้าง ยกมือขวาปาดกะโหลกเพื่อนไปหนึ่งที จนไอติมมึนไปครู่หนึ่ง
   

“สู่รู้ มึงยังไม่เคยเห็นตอนกูแข็งเลยเหอะ” ไอติมหัวเราะเสียงใส มองเพื่อนด้วยสายตากรุ้มกริ่มจนเดนนี่ออกอาการเงอะงะเล็กน้อย
   

“กูล้อเล่นนน แค่ได้ยินเสียงครางผู้หญิงที่มึงพามาเอาที่บ้านกูก็รู้แล้วละ” ไอติมมองเพื่อนด้วยสายตามีเลศนัย เดนนี่เบ้ปาก ยักไหล่เท่ ๆ ไม่ได้รู้สึกอายอะไร เพราะเคยอายจนเลิกอายไปแล้ว
   

“ถ้ามึงอยากครางแบบนั้นบ้างก็บอกกูได้ เดี๋ยวกูจัดให้” เดนนี่ยักคิ้วสองที ไอติมแกล้งทำหน้าขยาดหวาดกลัว เดนนี่ทำหน้าว่าเดี๋ยวเถอะมึงๆ
   

“ออกไปได้ละ กูจะอาบน้ำ จะได้ไปมอ”
   

“อาบน้ำนะ ไม่ใช่ไปจินตนาการถึงไอ้พระเอกนั่นแล้วชักว่าวต่อ” ไอติมชักสีหน้าเล็กๆ
   

“กูหมดมู้ดแล้วโว้ย เชี่ยเดน ขัดขวางกู จะแตกอยู่แล้วเชียว” เดนนี่หัวเราะตลกกับความหงุดหงิดของเพื่อนที่ชักแล้วไปไม่สุด
   

“เสียดาย กูเหนื่อยเดินทาง ไม่งั้นกูจัดให้มึงละ” ไอติมยกมือปัดหลังไล่เพื่อนให้เดินออกไปจากห้องนอนตัวเอง เดนนี่อ้าปากยิ้มมุมปากหนึ่งทีพร้อมกับใช้ปลายลิ้นเกลี่ยขอบฟันบนก่อนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอนเพื่อน
   

ไอติมหันไปมองหน้าจอแล็ปท็อปที่ตอนนี้ขึ้นเป็นโลโก้ของเว็บไซต์แทนเว็บแคมช่วยตัวเองของแซ็ค พระเอกหนังโป๊ที่ตัวเองชอบไปแล้ว เขาผ่อนลมหายใจยาว ๆ ด้วยความเซ็ง หันไปมองดิลโด้สีเนื้ออมน้ำตาลที่ทำมาจากของจริงของแซ็ค ทั้งสี ทั้งไซซ์ ทั้งลายเส้นเลือดแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความเขินอายคนเดียว
   

“อาบน้ำกันนะแซ็ค” ไอติมปลดผ้านวมออกจากตัวเปลือยเปล่าที่ขาวสว่าง โยนผ้านวมไว้บนเตียง หยิบดิลโด้เข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับตัวเพื่อเอาไปทำความสะอาด แต่ก็อ้อยอิ่งมากไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวไอ้เดนจะโมโหใส่อีก คนห่าอะไรอารมณ์ (โกรธ) ขึ้นง่ายยิ่งกว่าอวัยวะเพศ
   

ไอติมกับเดนนี่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่จริง ๆ ทั้งสองคนจบมอปลายจากที่เดียวกัน เพียงแต่อยู่คนละสายคนละห้อง แต่พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน คณะเดียวกันและยังเอกเดียวกัน แถมยังเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน เลยทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันนับตั้งแต่นั้น บ้านที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน มีเพื่อนร่วมบ้านอีกสองคน เป็นเพื่อนสนิทฝั่งเดนนี่ทั้งหมด แล้วก็มาสนิทกับไอติมตอนที่มาอยู่บ้านเดียวกัน แต่อีกไม่นานบ้านหลังนี้ก็จะกลายเป็นความทรงจำของไอติมกับเดนนี่และเพื่อนอีกสองคน เพราะพ้นอาทิตย์หน้าไป สถานะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยก็จะจบลง และก้าวเข้าสู่สถานะของคนทำงาน ซึ่งไอติมยังไม่มีงานทำเหมือนเพื่อนบางคนในคณะที่ได้งานทำตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เดนนี่ก็เช่นกัน สำหรับเดนไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เพราะบ้านมีฐานะ จะทำอาชีพอะไรตอนไหนก็ได้ แต่สำหรับไอติมที่ยังไม่คิดหางาน ไม่ใช่เพราะบ้านร่ำรวย แต่ไอติมอยากจะไปทำอย่างอื่นก่อน
   

ทำฝันที่คิดไว้ให้เป็นจริง…
   

“ไอ้เหี้ยติม!!!”
   

วื้ดดดด!!!


กูโดนเบรกอีกแล้ว!!!
   

“เออ กูจะเสร็จแล้ววว!” ไอติมตะโกนตอบกลับไปและรีบเร่งเช็ดหัวเช็ดตัวให้แห้ง หยิบชุดนักศึกษาที่รีดไว้เรียบร้อยแล้วโดยร้านซักรีดมาใส่อย่างรวดเร็ว หยิบกระเป๋าเป้ได้ก็เปิดประตูออกไปโซนรวมพลของบ้านก็เจอกับเดนนี่ที่นั่งรออยู่ตรงโซฟา
   

“เร่งกูจังไอ้ห่า” เดนนี่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถลึงตามองเพื่อน
   

“อาจารย์นัดเราสิบโมง นี่มันเก้าโมงห้าสิบแล้วไอ่เฮียติมครับ เดี๋ยวก็ไม่จบไม่สิ้นสักทีกับไอ้โปรเจ็กต์เนี่ย”
   

“เออ ครับ ๆ พ่อครับ พร้อมแล้ว ไปยังล่ะ” เดนนี่ยกมือขวาทำท่าจะตีหัวไอติม เจ้าตัวเบี่ยงตัวหนีและรีบเดินนำออกไปจากบ้านก่อนอย่างเร็ว
   

ทั้งสองคนเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ มีทำโปรเจ็คต์จบร่วมกัน เป็นหนังสั้น มันก็ดูง่ายสำหรับการนำวิชาที่ร่ำเรียนสี่ปีมาใช้ แต่การทำงานสองคนก็เหนื่อยเอาเรื่อง ที่เดนนี่ต้องบินกลับไปบ้านซานฟรานฯ ก็เพราะไอ้โปรเจ็คต์จบตัวนี้ ทำฝั่งนู้นเสร็จ ก็ส่งมาให้ไอติมจัดการต่อที่ฝั่งไทย เพิ่งจะถึงไทยก็วันก่อน และวันนี้อาจารย์ก็นัดไปพบว่าจะให้ผ่านหรือไม่ ถ้าไม่ต้องมีแก้ ไม่ต้องมีปรับทั้งตัววิดีโอและรายงาน ก็เป็นอันว่าเขาทั้งสองคนจะโล่งตัว จบภาระในการเป็นนักศึกษาเสียที
   

“ถ้าวันนี้ผ่าน ไปฉลองไหนดี กูให้มึงเลือก”
   

“หมูกระทะที่บ้าน!” ไอติมตอบอย่างว่องไวด้วยความกระตือรือร้น เดนนี่ถึงกับหุบยิ้มฉับแล้วหันไปมองเพื่อนด้วยความเอือมในขณะที่กำลังขับรถเก๋งสีดำเข้าไปในมอ
   

“ได้ข่าวว่าเพิ่งแดกกันไปก่อนกูไปซานฟรานฯ” ไอติมยู่ปากพลางหยิบผ้าขนหนูนาโนที่หยิบติดตัวมาด้วยมาเช็ดผมที่ยังแห้งไม่สนิท
   

“ก็กินได้อีกนี่หว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย”
   

“แดกมาก ๆ เดี๋ยวมะเร็งก็มาทักทายหรอก”
   

“มึงย่างไม่เป็นมากกว่า ย่างไม่ไหม้ก็ไม่เป็นมะเร็งป่ะ มึงต้องเซียนแบบกูนี่” หมูกระทะคืออาหารโปรดของไอติม กินจนทำเองเป็น มีสูตรหมักหมูเป็นของตัวเองที่เดนนี่ต้องยอมรับว่ามันนุ่มลิ้นจริง ไหนจะสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดของมันที่เด็ดจริงตามที่มันว่า แต่ขนาดว่ามันกินหมูกระทะทุกเดือน เดือนไม่ต่ำกว่าสองครั้ง มันก็ไม่อ้วนเลยเถอะ
   

“งั้นเอางี้ แดกหมูทะเสร็จไปกินเหล้ากัน” ไอติมทำหน้าลำบากใจ เดนนี่จิ๊ปากแล้วยกมือซ้ายผลักหัวเพื่อนเบาๆ
   

“ไปเหอะน่า ใช่ว่ามึงไปทุกวัน”
   

“กินอยู่บ้านไม่ได้เหรอ นะ ๆ มึง หมูกระทะแล้วก็เหล้าไง” เดนนี่กลอกตาเซ็ง ก่อนจะพยักหน้าขึ้นหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างและยกนิ้วโป้งให้เพื่อนหนึ่งที
   

“มึงโตขนาดนี้แล้ว หัดกินบ้างก็ได้ มึงจะได้รู้รสชาติเหล้า รู้ลิมิตตัวเอง จะได้ไม่โดนใครมอมเอาง่ายๆ”
   

“กูก็กินได้นะ มึงก็เคยเห็น แต่มันไม่ใช่ทางกูอะ”
   

“เออ ๆ กูก็หวังว่ามึงคงจะไม่โดนมอมเหล้า ตื่นมาเจ็บตูดนะมึง” ไอติมหัวเราะเบาๆ


เขาไม่ชอบดื่มเหล้า พวกเพื่อน ๆ พอเข้ามอปลายมันก็ดื่มกันเป็นแล้ว แต่เขาไม่ชอบดื่ม ก็เคยดื่มบ้าง แต่ก็เป็นการดื่มพอเป็นพิธีไม่ให้เสียน้ำใจคนที่ยื่นมาให้ ไอติมไม่ใช่สายบันเทิงยามดึก แต่ถ้ากินยามดึกน่ะใช่ อีกอย่าง พวกเหล้ายาปลาปิ้งคือสิ่งที่ลึก ๆ แล้วไอติมไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อเขาร้ายกาจยิ่งขึ้น จากที่ร้ายกับเขาอยู่แล้ว
   

“เดน แล้วสรุปหลังเรียนจบมึงจะอยู่ไทยหรือกลับไปอยู่ซานฟรานฯ” ไอติมว่าพลางใช้ผ้าซับน้ำในเส้นผมดกดำของตัวเองเบา ๆ เดนนี่เลี้ยวรถไปตามทางที่จะตรงไปตึกคณะก่อนตอบ
   

“ไปอยู่นู่นแหละ แต่ก็ยังไม่กลับทันทีหรอก ขอเที่ยวก่อน” เดนนี่ชะลอรถเพื่อขับข้ามลูกระนาดที่สร้างมาแข่งกับภูเขา
   

ไอติมพยักหน้าน้อย ๆ สองคนก็คุยกันเรื่องหลังเรียนจบ แต่ก็ไม่ได้คุยจริงจัง เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ก็ชวนคุย “กลับไปอยู่ถาวรเลยมั้ยสรุป”
   

“ถาวรดิ พ่อแม่กูอยู่นั่น แต่กูก็คงมีกลับมาไทยบ้าง มึงอะ ยังไง” ไอติมยิ้มแพรวพราวจนเดนนี่ขมวดคิ้วงง
   

“กลับบ้านสักแปบ แล้วจะขอแม่กับน้าไปล่าฝัน” เดนนี่ที่ขมวดคิ้วอยู่แล้วก็ยิ่งขมวดคิ้วเข้าไปอีก นึกในหัวว่าฝันห่าอะไรของมัน ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเพื่อนเป็นคนมีฝัน แต่ไอ้ห่าติมมันช่างฝันซะเหลือเกิน
   

“ไปล่าฝันหรือล่าอะไร” ไอติมยิ้มกว้าง แต่เป็นกว้างเขินอาย เดนนี่หรี่ตามอง
   

“ก็ล่าฝันไงงงง”
   

“มึงไม่ต้องมาเสียงสอง มึงคิดจะทำอะไรไอ้ติม” ไอติมยกไหล่สองข้างยึกยัก เดนนี่เห็นแล้วรู้สึกหมั่นไส้นัก
   

“กูจะไปหาแซ็ค” คนฟังถึงกับหน้าเหวอ
   

“ฮะ ไปหาเขาด้วยเรื่องอะไร” เดนนี่ว่าพลางตีไฟเลี้ยวก่อนถึงลานจอดรถของตึกคณะ พลางหันไปมองเพื่อนด้วยความฉงนปนทึ่ง
   

“กูจะไปให้เขาเอาดิ ความบริสุทธิ์ที่เก็บไว้ กูจะให้เขาคนแรก” ไอติมตอบตาใสแจ๋ว สีหน้าพริ้มอิ่มใจกับการบอกว่าจะเอาความบริสุทธิ์ของตัวเองไปให้คนอื่นถึงที่
   

“ไอ้ติม มึงไม่บริทสุทธิ์ตั้งแต่ยัดดิลโด้ของมันเข้าไปในก้นมึงแล้ว” เดนนี่ว่าด้วยความเครียด เครียดกับความฝันของเพื่อน
   

“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย ของจริงต้องเด็ดกว่าสิวะ” ไอติมเถียง แต่ไม่ใช่เถียงคอเป็นเอ็น ก็แค่พูดในสิ่งที่ตัวเองจินตนาการเอาไว้ 
   

“มึงจริงจังมั้ยเนี่ย” เดนนี่ว่าหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางจอดรถในช่องจอดรถที่ว่างอันหนึ่งใกล้กับโรงอาหารของคณะ ไอติมเบิกตากว้างแล้วพยักหน้าแรงๆ
   

“จริงจังดิ กูก็เคยเกริ่นกับมึงไว้แล้วนี่ ว่าไม่แน่อาจจะขอไปนอนบ้านมึงที่นู่น” ไอติมพูดพลางยัดผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปในกระเป๋าเป้และใช้มือขวายีผมตัวเองเบาๆ 
   

“อันนั้นอะกูรู้ แต่กูคิดว่ามึงจะไปเที่ยว”
   

“ก็ไปเที่ยวไง แต่ก็ถือโอกาสไปเสียตัวด้วย” ไอติมยิ้มแป้น เดนนี่อ้าปากค้าง คือมันไม่มีความอาย ความหน้าแดงห่าเหวอะไรบนหน้าของมันเลยสักนิด
   

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามึงจะเสีย เอาแค่เจอตัวมันก่อน มึงจะเจอมันยังไง ฮะ?!” เดนนี่ถามอย่างท้าทาย ไอติมยกมือชี้หน้าเพื่อนแล้วเอามือขวาตีอกตัวเองดังตุบๆ
   

“มึงอย่าดูถูกติ่งอย่างกู กูมีเวย์ของกูเว้ย”
   

“มึงเพี้ยนสัตว์อะครับ ไปล่าฝันด้วยการให้ผู้ชายเอาตูด ไอ้แค่นั้นมึงให้กูเอาก็ได้” ไอติมเบ้ปากแล้วสั่นหัวแรงๆ
   

“ไม่! กูตั้งใจจะเสียตัวให้แซ็ค กูต้องเสียตัวให้เขาให้ได้!”
   

“เออว่ะ แม่งมุ่งมั่นยิ่งกว่าตอนเรียน” เดนนี่ส่ายหัว ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเพื่อนจะทำจริงอย่างที่พูด เพราะไอ้ห่าติมแม่งก็ชอบมโนเพ้อพกบ่อย ๆ บางทีคึกจะทำอะไรก็วูบเดียวเท่านั้นแหละ ครั้งก่อนก็มุ่งมั่นว่าจะเข้าฟิตเนสด้วยกัน ทำได้สองอาทิตย์แม่งก็กลับไปแดกหมูกระทะเหมือนเดิม
   

“กูต้องได้และเขาต้องได้กู” ไอติมทำหน้ามุ่งมั่น ยกมือขวาขึ้นมากำบนอากาศเป็นการประกาศชัย เดนนี่พยักหน้าเออออห่อหมกไปก่อน อย่าเพิ่งไปขัดมัน คงกำลังฟินกับความฝันหวานของตัวเองอยู่ ให้โอกาสมันฝันหน่อย ไปขัดมันชักว่าวมาทีนึงละ เดี๋ยวจะบาปมากกว่าเดิม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2019 14:19:34 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอให้ไอติมสมหวังเร็วๆนะ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Chapter 1 [100%]





“วู้ฮู้ววว เรียนจบแล้วเว้ยยย!” ไอติมชูเนื้อหมูที่คีบมาจากกระทะขึ้นชนกับเดนนี่และเพื่อนร่วมบ้านอีกสองคน ก่อนจะเอาเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความฟินระดับสิบ
   

“จะมีทริปเปล่าวะ…” จ๊อกหนุ่มใต้ผิวเข้มรูปร่างอวบแต่เป็นอวบล่ำถามพลางยัดหมูเข้าปากแล้วเคียวแจ๊บ ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้กับไอติม
   

“…มึงเปิดร้านขายหมูกระทะได้เลยไอ้ติม มึงทำอร่อยจริง” ไอติมยิ้มกว้างและเคี้ยวหมูของตัวเองบ้าง และยังมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปให้เดนนี่ที่นั่งกินแบบเอื่อยเฉื่อย
   

“ไปบ้านกูป้ะ” มิ่งหนุ่มเหนือผิวขาวรูปร่างผอมโปร่งบอกพลางหยิบผักลงไปในกระทะย่างหมู
   

“ช่วงนี้ฝนตก กูว่าไปไหนก็ไม่ค่อยสนุกว่ะ” เดนนี่เสนอความคิดเห็นพลางคีบหมูบนกระทะส่งให้ไอติมที่นั่งกินอย่างต่อเนื่องด้วยความมันส์กับความอร่อย
   

“แต่ถ้าเราไม่ไปตอนนี้ พอแยกกันแล้ว แม่งยากละนะ” มิ่งบอกพลางคีบเส้นหมี่หยกราดน้ำจิ้มสูตรเด็ดของไอติมเข้าปาก
   

“ได้ดิวะ จะไปยากอะไร เดี๋ยวหมดฝนกูพาไอ้ติมขึ้นเหนือไปหามึงเอง แล้วเดี๋ยวไอจ๊อกก็ตามขึ้นมาจากใต้” จ๊อกพยักหน้ารับพลางหยิบเบียร์ขึ้นมาจิบตามอาหารที่เพิ่งกลืนลงคอไป
   

“แจ๊บๆๆ คือกู…”
   

“…แดกให้หมดก่อนไอ้ติม พวกกูไม่แย่งมึงแดกหรอก” เดนว่าพลางส่งทิชชูให้เพื่อนไปเช็ดปากที่น้ำจิ้มเลอะเต็มไปหมด ไอติมรับไปเช็ดจนสะอาดแล้วกลืนหมูลงคอก่อนจะพูด
   

“ปลายปีกูว่าจะไปอเมริกาอะ” เดนนี่ขมวดคิ้ว หันไปมองหน้าเพื่อนทันที ไอติมมีการหันมายิ้มกว้างตอบอย่างเริงร่า 
   

“เอ้า ไปทำไมวะ” มิ่งย่นคิ้ว ไอติมหันไปมองมิ่งทั้งที่ยังยิ้มอยู่แล้วตอบเสียงใส
   

“ไปตามฝัน”
   

“ฮะ?! มึงมีฝันอะไร?!” จ๊อกถามด้วยความงุนงงแล้วหันไปมองเดนนี่ที่นั่งหน้ายุ่งและยกมือเกาหัวแกรก ๆ ราวกับกำลังกลุ้มใจ ส่วนไอ้เจ้าตัวยิ้มกรุ้มกริ่มในขณะที่ปากก็เคี้ยวงับๆ
   

“ไปเสีย… อื้มๆ” ไอติมกำลังจะอ้าปากพูดแต่เดนนี่ยัดหมูชิ้นใหญ่เข้าไปในปากไอ้ตัวดี เลยทำให้สิ่งที่กำลังจะพูดถูกกลืนหายไป
   

“มันจะไปเที่ยวบ้านกู ไม่ได้ไปตามฝันอะไรทั้งนั้นแหละ” เดนนี่เหลือบมองไอติมที่ขมวดคิ้วกลับมา
   

“อ๋อ อ้าว แบบนี้ก็ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันดิวะ” มิ่งว่าพลางยกโค้กขึ้นดื่ม
   

“เอางี้ หมดหน้าฝนเดี๋ยวไปบ้านมึงกัน แล้วเดี๋ยวไปอเม’กาค่อยไปทีหลัง ได้มั้ยไอ้ติม” ไอติมมีสีหน้าลำบากใจ ก่อนตอบแบ่งรับแบ่งสู้
   

“กูต้องดูวันก่อนอะ” มิ่งกับจ๊อกมองหน้ากันงุนงง เดนนี่กลอกตา นึกอยากจะจับไอติมมาตีสักทีสองทีให้มันหายดื้อ
   

นี่มันจะเอาความบริสุทธิ์ไปให้เขาฉุดถึงที่จริงเหรอ?
   

“ไอ้ติม กูไม่เคยเห็นมึงว้อนอยากจะไปอเม’กามาก่อน นึกยังไงจะมาอยากไป” ไอติมตาโตแล้วสั่นหัวรัว ๆ ก่อนจะหยิบน้ำโค้กขึ้นดื่มอึก ๆ แล้วค่อยตอบคำถามจ๊อก
   

“มึงไม่เคยเห็นไง กูอยากไปของกูตั้งนานแล้ว แค่กูยังไม่พร้อม ตอนนี้เรียนจบก็หมดพันธะละ”
   

“แล้วมึงไม่หางานทำเหรอวะ” มิ่งถามด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่หยุดพลิกหมูบนกระทะย่าง
   

“ไปก่อนอะ แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาหา” ไอติมยิ้มกริ่มสุขใจ เดนนี่มองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เริ่มกังวลกับความคิดเพ้อเจ้อของมันว่ามันจะถือเป็นจริงเป็นจังเกินไป
   

“คือยังไง มึงจะขอเงินแม่กับน้าไปเหรอ” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ กับคำถามของจ๊อก
   

“กูคุยกับน้าแล้ว เขาจะเป็นสปอนเซอร์ให้ตลอดทริป”
   

“เออ ๆ เที่ยวให้สนุก ของกูคงต้องหางานก่อน เดี๋ยวพ่อกับแม่เพ่งกะบาลเอา มึงมันโชคดี ทั้งแม่ทั้งน้าตามใจ” ไอติมยิ้มกว้าง รู้สึกยืดเล็ก ๆ ที่ครอบครัวตัวเองให้ทุกอย่างตามที่ขอ แต่เพราะเขาไม่ใช่คนขออะไรบ่อย ๆ เลยมักได้สิ่งที่ต้องการทุกครั้งที่ขอไป
   

เดนนี่พ่นลมหายใจเบา ๆ มองหน้าไอติมด้วยความเป็นห่วง ห่วงเรื่องความคิดความอ่านของมัน ไอติมมันเป็นพวกสนุกกับชีวิต ไม่คิดอะไรเยอะ มีอาการติสท์ก็บ่อย แต่ครั้งนี้ดูจะติสท์เกินไปหน่อยละ



   
หลังจากกินทุกอย่างที่ขวางหน้าจนหมด ทุกคนก็ช่วยกันล้างอุปกรณ์การกินต่างๆ และนัดแนะกันสำหรับการออกไปดื่มข้างนอกบ้านกับเพื่อนในคณะของใครของมัน เดนนี่กับไอติมก็ไปกับพวกนิเทศฯ จ๊อกไปกับพวกเด็กวิศวะฯ ส่วนมิ่งก็ไปกับเด็กการโรงแรม แยกย้านกันไปคนละร้าน แต่ปิดท้ายด้วยร้านเดียวกันตามสเต็ปของเด็กมหาวิทยาลัยนี้ที่ชอบท่องราตรี
   

“ไอ้ติม”
   

“ฮะ” ไอติมเงยหน้าขึ้นจากจอแล็ปท็อปแล้วส่งยิ้มให้เดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งมองเพื่อนด้วยความหนักใจและเป็นห่วง ไอ้รอยยิ้มจริงใจใสซื่อแบบนี้ เขาไม่อยากให้หายไปจากเพื่อน มันเป็นสิ่งดี แต่บางทีก็อยากให้เพื่อนลดการมองทุกอย่างเป็นสีขาวลงมาบ้าง
   

“มึงจะไปจริง ๆ เหรอ กูนึกว่ามึงพูดเล่น” เดนนี่ว่าพลางเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือของเพื่อน ไอติมยิ้มกว้างและพยักหน้ารัวๆ
   

“ไปจริงดิ อำเล่นทำไมล่ะ เขาส่งเมลมาเชิญกูด้วยนะ…” เดนนี่ขมวดคิ้วหน้างง ไอติมหัวเราะคิกคักแล้วหันหน้าจอแล็ปท็อปให้เดนดู เพื่อนตัวโตเอื้อมแขนมาหยิบแล็ปท็อปวางไว้บนตักแล้วก้มลงอ่านเนื้อหาบนหน้าจอ
   

“…กูนั่งแปลเองนานมาก กูว่ากูแปลไม่ผิดนะ ว่าเขาเชิญกูไปงานมีทแอนด์กรีทกับแซ็ค!” เดนนี่ที่ย่นคิ้วอยู่เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนแล้วก้มลงอ่านต่อจนจบแล้วพ่นลมหายใจ
   

ไอ้ประเด็นภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาเป็นห่วงมัน
   

“เขาชวนมึงไปเจอสุดที่รักมึงจริงๆ” ไอติมยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วปรบมือแปะ ๆ ดีใจ ตาเกือบตี่ของมันนี่เปล่งประกายแบ๊วเชียว
   

“กูนั่งกดแปลทีละคำเลยนะเว่ย” ไอติมอมยิ้ม กดแปลทุกคำและแปลตั้งแต่ช่วงบ่ายยันตอนนี้ อยากจะให้ไอ้เดนช่วยแปล แต่ก็อยากดีใจกับตัวเองก่อนใคร
   

เดนนี่ถอนหายใจเบา ๆ วางแล็ปท็อปไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือของเพื่อน “ติม มึงคิดดี ๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”
   

ไอติมตาโต กะพริบตาปริบ ๆ มองเพื่อน “อ้าว แล้วใครว่ากูล้อเล่น กูจะไปจริง ทำไมมึงไม่เชื่อกูเนี่ย”
   

“กูไม่ได้ไม่เชื่อ เพราะกูเชื่อกูถึงต้องเตือนมึงไง…” ไอติมเอียงคอ ย่นคิ้วและทำปากขมุบขมิบไปมา
   

“…มึงเข้าใจมั้ยว่าสิ่งที่มึงกำลังจะไปทำมันไม่ใช่เรื่อง เอ่อ กูจะพูดว่าไงดีวะ คือมันไม่ปกติอะ”
   

“ไม่ปกติไงอะ” ไอติมย่นคิ้วหนักกว่าเดิมแล้วอ้าปากหวอด้วยความงง
   

“คือเป้าหมายในการไปของมึงมันฉีกกฎเกินไป มึงจะไปเสียตัวเนี่ยนะ?!” คนตัวเล็กกว่าหุบปากฉับแล้วตั้งคอตรงพร้อมกับยิ้มกว้าง
   

“เอ๊า ทำไมอะ ไปไม่ได้เหรอ”
   

“กูถามจริง คือมึงกะจะไปแค่เสียตัวให้มันแล้วก็กลับไทยอะนะ” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ และใช้ความคิดสักแปบ ก่อนจะพยักหน้าแบบไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
   

“ก็คงเป็นแบบนั้นแหละมึง ก็เสียให้เขาไปแล้ว ก็ได้แล้วอะ จะอยู่ต่อทำไม” เดนนี่ถึงกับยกมือขวากุมขมับตัวเองกับความคิดของเพื่อน
   

“มึงลงทุนเหี้ย ๆ ครับเพื่อน แล้วถ้ามึงไปจนครบกำหนดวีซ่าแล้วยังไม่ได้เสียตัวให้มัน มึงจะทำยังไง”
   

“กลับไปใหม่” ไอติมยิ้มแฮ่ เดนนี่ถึงกับมึนตึ้บ!
   

“มึงจะใจสู้เกินไปละ” ไอติมหัวเราะอารมณ์ดี
   

“ม่ายยย ถ้าเกิดไปแล้วยังไม่เสีย กูก็กลับมาตั้งหลักก่อน กลับมาหางานทำ ช่วยแม่กับน้าก่อนไง กูไม่ได้เนรคุณขนาดนั้นน่า แต่ว่าไปครั้งแรกกูก็จะพยายามให้เขาเอาให้ได้แหละ” เดนนี่ยิ้มคล้ายคนยิ้มเก้อ อยู่ด้วยกันมาสี่ปี ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นความคิดแปลกประหลาดของมัน แต่ครั้งนี้ประหลาดสุดและดันมุ่งมั่นสุดด้วย มีอย่างที่ไหนวะ บินไปถึงโน่นเพื่อไปเสียตัวให้พระเอกหนังโป๊ที่ตัวเองชอบ
   

“ติม ไอ้เรื่องเอา มึงจะเอากับใครก็ได้ มันไม่ใช่ความรักเว่ย…” ไอติมยังคงยิ้มแล้วยักไหล่สองข้างหนึ่งที เดนนี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
   

“…หรือมึงรักมัน? มึงไม่เคยเจอตัวจริงมันเลยนะ มึงรักมันได้ไง?!” ไอติมยิ้มอ้าปากกว้างแต่สีหน้าตกใจกับน้ำเสียงของเพื่อนที่ดูระทึกเหลือเกิน
   

“ไอ้เดนตายมึงใจเย็น กูยังไม่ได้บอกว่ากูรักเขา”
   

“งั้นมึงก็เอากับคนอื่นก็ได้ เอากับกูได้ ไม่ต้องลงทุนไปเสียตัวให้มันถึงนู่นหรอก” เดนนี่ว่าด้วยความรู้สึกเครียดจริง ๆ เขาไม่ได้คิดจะไปขวางทางใคร แต่ไอ้สิ่งที่เพื่อนเขากำลังจะทำมันดูไม่คุ้มเปล่าวะ
   

“ไม่ได้ๆ  กูอยากให้แซ็คเอากูคนแรกอะ”
   

“มึงรักมันเหรอ อะไรจะมีใจอยากให้มันเอาขนาดนั้น” ไอติมจิ๊ปากแล้วยืดตัวขึ้นตรงๆ
   

“มันไม่ใช่รักแบบที่มึงกำลังจะสื่อหรอก กูรักเขาในแบบติ่งคนหนึ่ง แต่กูแค่อยากพัฒนาเลเวลจากติ่งธรรมดาไปเป็นติ่งพรีเมี่ยม” ไอติมยิ้มห่อไหล่เขินๆ
   

“ด้วยการให้มันเอาตูดมึงครั้งเดียวเนี่ยนะ” ไอติมกลอกตาขึ้นบนทำท่าครุ่นคิดสักแปบก่อนเลื่อนสายตากลับไปมองเพื่อนแล้วยิ้มเขินกว่าเดิม มีอาการบิดตัวด้วยเล็กน้อย
   

“ได้มากกว่าครั้งเดียวก็ไม่เกี่ยงนะ” เดนนี่มีสีหน้าเงิบหน่อยๆ  กับความคิขุอาโนเนะสุดเคะของเพื่อน
   

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันจะเอามึง” ไอ้เรื่องจะไปเจอกันโอกาสมันก็มาละ อันเชิญมันผ่านอีเมลมาขนาดนี้ ไอ้เรื่องเจอก็คงเจอกันอยู่แล้วแหละ แต่ไอ้เรื่องเอานี่เขายังนึกไม่ออกว่าไอเพระเอกหนังโป๊นั่นมันจะมาเอาไอ้ติมทำไม
   

“เอ๊า ก็ถึงต้องไปนี่ไง อยู่ตรงนี้เขาจะได้เอากูป้ะล่ะ ก็ไม่ ก็ต้องไปหาเขาที่นู่นเลย” ไอติมว่าตาใสแป๋ว เดนนี่รู้สึกเหมือนไมเกรนจะขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นโรคนี้
   

“ติม คือมึง...” ไอติมยกมือกวัก ๆ ตรงหน้าเพื่อน และทำหน้าประมาณว่า ช่างเถอะๆ
   

“…เอาน่ะเดน คือมึงนึกออกมั้ย ถ้ากูไม่ไปหาเขาเอง มึงคิดว่าเขาจะมาหากูเหรอ พรหมลิขิตไม่ช่วยกูหรอก แต่กามลิขิตอะช่วยกูได้” เดนนี่ถึงกับต้องยกมือไหว้เพื่อนหนึ่งทีด้วยความบูชาและความนับถือกับความคิดของมัน ไอติมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอารมณ์ดี
   

“มึงบอกแม่กับน้ามึงตรง ๆ เลยหรือว่าไงกับเรื่องเนี้ย” ไอติมทำหน้าเหม่อลอยสักพักก่อนจะอ้าปากตอบแบบไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไร
   

“ก็บอกแค่ไปเที่ยวกับมึงอะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เรื่องแซ็คเขาก็ไม่รู้นะ กูเลยไม่รู้จะบอกว่าไง”
   

“อย่าบอกเลย มึงไปเสียตัวเงียบ ๆ เหอะ” เดนนี่ส่ายหัวอ่อนใจ แต่เพื่อนเขามันสลดที่ไหน นั่งหัวเราะชอบอกชอบใจอยู่นั่นน่ะ อะไรมันจะแฮปปี้ขนาดนั้นวะ
   

ไอติมมันเป็นคนแบบนี้ มันไม่มีพิษมีภัยกับใคร แล้วมันก็ไม่ใช่คนชอบเครียด ไม่คิดมาก แต่บางเรื่องเขาก็อยากให้มันคิดมากๆ
   

“แอลเอกับซานฟรานฯ มันใกล้กันใช่ป้ะ” ไอติมถามด้วยความสงสัย
   

“ขับรถไปได้ หกเจ็กชั่วโมง” ไอติมปรบมือเปาะแปะและลุกขึ้นไปนั่งตักเดนนี่ด้วยความคุ้นเคย
   

“ไปรับไปส่งกูหน่อยนะ!” เดนนี่ทำหน้าเอือมแต่ก็…
   

“เออ!”
   

“เย้!” ไอติมยกแขนขวาคล้องคอเดนนี่และเอาหัวชนกับขมับเพื่อนตัวโต เดนนี่พ่นลมหายใจด้วยความปลดปลง คงห้ามอะไรไม่ได้ละ คนอย่างไอ้ติมถ้าได้เพ้อจะทำอะไรจริงจัง สิ่งที่ควรทำคือดันมันไปให้สุดทาง เดี๋ยวพอเจอทางตันมันก็วกกลับมาเอง พูดเตือนอะไรไปมันก็ฟังนะ แต่มันไม่ทำตาม
   

“คืนนี้ตอบแทนที่มึงใจดี กูจะลองกินเหล้า แต่ถ้ากูเมา พากูกลับบ้านด้วยนะ” ถ้าใครที่ไม่รู้จักมักคุ้นกับสองคนนี้จริงคงนึกว่าเป็นแฟนกัน เพราะนั่งตักแนบชิดสนิทเกินเพื่อน แต่เดนนี่มองไอติมเหมือนน้องชาย เขารักมันเหมือนน้อง มองมันเป็นน้องมากกว่าเพื่อน ไอติมมันเป็นเด็กดี เป็นเพื่อนที่ดี เพื่อนคนไหนอยู่ใกล้มันส่วนใหญ่คือเอ็นดูมันกันทั้งนั้น เพราะมันอยู่เป็นรู้จักปรับตัวจนนึกว่าเป็นกิ้งก่า
   

“งั้นก็ไป เปลี่ยนชุด เดี๋ยวกูไปรอข้างนอก” ไอติมลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอย่างเร็ว เดนนี่ลุกขึ้นพลางถอนหายใจอีกทีแล้วเดินไปเปิดประตูห้องนอน ในหัวนึกถึงคำ ๆ นึงในอีเมลที่ไอติมให้อ่าน
   

สมาชิก SUPER VIP…
   

เชี่ยติม มึงต้องเงี่ยน เอ้ย มึงต้องคลั่งมันขนาดไหน ถึงขนาดได้เลเวลวีไอพีมา แถมยังเป็นซูเปอร์ด้วยนะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2019 14:20:37 โดย ขุ่นเจ้ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ดีใจกับไอติมที่จะได้ไปเสียตัว เอ้ยไปทำตามฝัน

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
ดีใจกับไอติมที่จะได้ไปเสียตัว เอ้ยไปทำตามฝัน


ขอบคุณคุณ Tiffany มากเลยนะคะที่ตามกันอยู่ววว  :mew1:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ตามมาอ่านครับ เรื่องนี้ถ้าตะดราม่าคลุกน้ำตาน่าดู

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
บวกเป็ด  :L1:

ตามค่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Chapter 2 : So fine. (สบายมาก) [50%]


   
    “น้องติม เดนนี่มาหาลูก” ไอติมที่กำลังนั่งจัดของลงกระเป๋าอยู่บนบ้านหันควับไปมองทางประตูห้องนอนของตัวเองที่เปิดกว้างเพื่อระบายอากาศอยู่ เขาลุกลงจากเตียงวิ่งลงบันได (ไม้) บ้านดังตึง ๆ ไปข้างล่าง
   

“จะวิ่งเสียงดังทำไมล่ะลูก” ไอติมหันไปยิ้มให้กับมารดาที่ทำหน้าดุนิด ๆ แม่ของไอติมเป็นผู้หญิงตัวเล็ก หน้าตาน่ารัก ใบหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความเป็นคนใจดีมีเมตตา แม้จะอายุจะเฉียดเลขห้าแล้ว แต่ใบหน้าของมารดาไอติมยังคงดูเด็กกว่าอายุจริง
   

“ยังไม่ชินอีกเหรอครับแม่แป้ง” เดนนี่หัวเราะเบา ๆ พลางยื่นถุงผลไม้ให้แม่แป้งของไอติมรับไป หล่อนทำหน้าเอือมเล็ก ๆ แล้วค่อยยิ้มตามมา
   

“หุนหันพลันแล่นละเป็นที่หนึ่ง เมื่อวานตอนวีซ่ามาถึงบ้าน แม่กับน้าแพนก็เกือบหัวใจวาย เล่นเฮลั่นสนั่นซอย” เดนนี่มองไอติมที่หยิบถุงผลไม้จากมือแม่ไปแหวกดูก่อนจะหยิบกล้วยออกมากินหนึ่งลูก
   

“แล้วนี่น้าแพนไปไหนครับเนี่ย”
   

“แอ่ ไอ้เอน…” ไอติมมองจิกเพื่อน กลืนกล้วยที่กำลังเคี้ยวอยู่ลงคอก่อนว่าต่อ
   

“…เอะอะถามหาน้าแพนนะ” เดนนี่ยิ้มขำ
   

“เอ้า ก็มึงอยู่กับแม่กับน้า ให้กูถามหาใครอีกล่ะ”
   

“กูไม่ให้น้าแพนกับมึงหรอก” เดนนี่ส่ายหัวขำ ๆ กับความหวงน้าของเพื่อนสนิท ซึ่งเขายังไม่เคยคิดขอหรือแย่งน้ามันมาเป็นของตัวเองเลย
   

“อยู่ที่ร้าน วันนี้นางแวะมาช่วย เดี๋ยวแม่ก็ว่าจะเดินไปร้านแล้วละ” แม่ของไอติมเปิดร้านขายอาหารร้านเล็ก ๆ ซึ่งร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน เป็นร้านไม้สีน้ำตาลชั้นเดียวยกพื้นสูง อยู่ใต้ต้นก้ามปูขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ถึงจะไม่ใหญ่โต ไม่หรูหรา แต่บรรยากาศร้านนั้นอบอุ่นเป็นกันเองเสมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน ที่สำคัญคืออารหารอร่อยจนเป็นที่พูดถึงปากต่อปาก ขายดิบขายดีจนบางวันต้องงดรับลูกค้าเพราะของหมด
   

“น้องติม จะไปกินข้าวที่ร้านหรือจะหาอะไรกินกับเดนที่นี่ลูก”
   

“เดี๋ยวติมไปที่ร้านครับแม่ ขอจัดของก่อนนะ”
   

“ก่อนไป เอาข้าวเย็นให้สองเกลอด้วยล่ะ” ไอติมพยักหน้า มารดาของเขาเดินออกไปจากบ้าน สองเกลอที่แม่แป้งว่าหมายถึงเจ้าเยอรมันเชฟเฟิร์ดกับเจ้าปอมเมอเรเนียน ไอ้ตัวแรกน่ะที่บ้านเขาตั้งใจเลี้ยง ส่วนอีกตัวน้าแพนไปตบแย่งกับเจ้าของหมาคนเดิมที่วิปริตชอบรังแกหมามา จำได้ว่าตอนนั้นมันส์มาก น้าแพนตบเป็นตบ ตบเสร็จขับรถพาตัวเองกับคู่กรณีไปโรงพักสวย ๆ ส่งคลิปที่คนแถวนั้นอัดไว้ให้ตำรวจดูชิลๆ
   

“จัดของไปถึงไหนละ”
   

“ใกล้เสร็จแล้ว ไปเดือนนึงมันก็เลือกเสื้อผ้ายากเหมือนกันนะ ไม่รู้จะเอาตัวไหนไปมั่ง แล้วเอาไปกี่ตัวดี” ไอติมว่าพลางแกะเงาะเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ เดนนี่เดินไปยืนเกาะขอบเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับไอติม
   

“อากาศไม่ได้หนาวมาก ก็ตัดโค้ทออก กางเกงมึงก็ใส่ซ้ำ ๆ เอาก็ได้หรอก”
   

“กูไม่ควรอยู่เกินหนึ่งเดือนใช่มั้ยอะ”
   

“ไม่ควร อยู่นานเกิน เดี๋ยวเขาจะเรียกตรวจสอบย้อนหลังเอา” ไอติมทำปากยื่นหน้างอเล็กๆ
   

“กูกลัวเดือนเดียวไม่พออะ กลัวเสียตัวไม่สำเร็จ”
   

“ก็ไหนว่าถ้าไม่สำเร็จจะกลับมาตั้งหลักก่อนไง” ไอติมย่นคิ้วและทำปากจู๋
   

“แหม กูนอนคิดมาทั้งคืน กว่าจะสัมภาษณ์วีซ่าผ่าน แล้วได้มีโอกาสไปทั้งที ก็อยากให้สำเร็จเลยนี่นา”
   

“มึงก็กลับมาสำเร็จความใคร่อย่างที่มึงทำบ่อย ๆ สิ”
   

“ไอ้เดนอะ -3-”
   

“เอาแต่พอดีไอ้ติม แล้วมึงก็อย่าไปเครียด อย่าไปจริงจังมาก ได้คือได้ ไม่ได้ก็กลับบ้าน อย่าใจแตกตามน้ำ คิดถึงแม่กับน้ามึงไว้เยอะๆ” ไอติมบิดปากหน้าเศร้าเล็ก ๆ ก่อนจะพูดเสียงอ่อย
   

“ก็ด้ายยย” เดนนี่ก็อยากจะโล่งใจให้เต็มที่หรอกนะ แต่กลัวว่าพอมันไปถึงนู่นจะเกิดแรงคึก แรงฮึกเหิมอะไรขึ้นมาที่ส่งผลให้มันดั้นด้นไปต่อ เขานึกขอบคุณตัวเองที่มีบ้านอยู่ที่ซานฟรานฯ ถึงจะห่างจากแอลหกชั่วโมงเป็นมาตรฐาน แต่เขาก็ยังสามารถขับรถตามไปดูมันได้
   

“มึงตอบคำถามท่านกงเขาว่าไรมั่งเนี่ย เขาถึงยอมให้มึงผ่าน” ไอติมยิ้มกว้าง สีหน้าและแววตาทอประกายความตื่นเต้น
   

“ก็พูดความจริงหมดเลย ไปทำอะไร ที่ไหน ไปมีทติ้งกับใคร ยกเว้นเรื่องจะไปเสียตัว…” เดนนี่รู้สึกขอบคุณ
   

“…กูอยากตอบเป็นภาษาอังกฤษตามที่มึงสอนนะ แต่พอเขาเปิดโอกาสให้พูดไทยได้ กูเลยพูดไทยดีกว่า”
   

“มึงจะรอดใช่มั้ยเนี่ยไอ้ติม” คนถูกถามทำตาโตพลางเคี้ยวเงาะลูกที่สิบพร้อมกับพยักหน้ารัวๆ
   

“รอดสิ กูก็ฟังออกบ้าง พูดได้บ้างหรอกน่า”
   

“ฟังออกกับพูดได้แต่เรื่องลามกอะดิ อันนั้นกูรู้ว่ามึงคล่องเลยแหละ” ไอติมหัวเราะคิกคัก ยิ้มจนตาหยีจมูกย่น เดนนี่ถอนหายใจเบาๆ
   

“อย่างน้อยก็ถือว่าสื่อสารได้ป้ะล่ะ”
   

“เออ อย่างน้อยก็ไม่ใบ้แดกตอนจะเสียตัวละวะ” ไอติมยิ้มกว้าง สีหน้าดีใจลายใหญ่มาก
   

“เนอะๆๆ” เดนนี่พยักหน้าขึ้นแบบอืม ๆ ขอไปทีอะไรประมาณนั้น คิดจะขัดมันอีกรอบก็เปล่าประโยชน์ สงสัยมันจะได้เสียตัวสมใจ ไม่งั้นดวงไม่ได้วีซ่ามาครองหรอก
   

“จะให้กูขึ้นไปช่วยจัดกระเป๋ารึเปล่า”
   

“ไปกินข้าวก่อนดีกว่า คืนนี้มึงนอนนี่สิ จะได้ช่วยกูจัด” เดนนี่ย่นคิ้ว เมื่อกี้มันยังพูดอยู่เลยว่าจะจัดของให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปร้าน เนี่ย มันเป็นคนอย่างเนี้ย
   

“มึงจะไม่ให้กูจัดของกูเลยเหรอ” ไอติมลุกขึ้นยืน เดินหน้าอ้อนเข้าไปกอดเดนนี่
   

“มึงคุ้นกว่ากูอ้า มึงไม่ยากหรอก ช่วยกูหน่อยนะๆๆ” ไอติมเอาหน้าผากถูกับอกล่ำของเดนนี่ ถือเป็นอีกหนึ่งท่าไม้ตายที่เอาไว้อ้อนเพื่อนตัวโต
   

“เออ เออๆ” ไอติมเงยหน้าแล้วยิ้มกว้าง ยื่นหน้าหอมแก้มเดนนี่หนึ่งทีจนหนุ่มลูกครึ่งผิวเข้มแก้มแดงระเรื่อ


   “พี่เดนนี่ใจดีกับน้องติมที่สุดดด”
   

“น้องติมอยากโดนตีนสักทีมั้ย” ข่มแก้เขินที่มันหอมแก้มไปงั้นแหละ ไอติมหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย เดินจูงมือเดนนี่ออกไปข้างนอกบ้านพร้อมกัน
   

“เอาอาหารให้จัมโบ้กับปีโป้ก่อน” ไอติมปล่อยมือเดนนี่ไว้ตรงบันไดปูนสามขั้นหน้าบ้าน หนุ่มลูกครึ่งมองเพื่อนตัวเล็ก (กว่าตัวเอง) เดินไปเปิดกรงหมาอันใหญ่ใต้ต้นชมพู่ ปล่อยให้สองเกลอต่างไซซ์ที่ส่ายหางดุ๊กดิ๊กออกมากระโดดโลดเต้นข้างนอก
   

“กินข้าวๆ” ไอติมว่าพลางหยิบถุงอาหารสุนัขออกมาแกะยาง จัดการเทใส่ชามของแต่ละตัวที่วางไว้ใกล้กรง เดนนี่ยืนมองไอติมให้อาหารหมาด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส มันนั่งกอดไอ้จัมโบ้ เยอรมันเซฟเฟิร์ดจอมดุที่ว่าถ้ามันไม่คุ้นหน้าใครมันจ้องจะกัดหมด แล้วก็ชวนไอ้ปอมฯ ตัวเล็กคุยไปด้วย มันก็สุนทรีย์ของมันไปเรื่อยเปื่อย อยู่กับมันก็สบายใจดี แค่ต้องปรับตัวเข้ากับความเพี้ยน ความเปลี่ยนไวไปมาของอารมณ์มันสักหน่อย
   

“ป่ะเดน ไปกินข้าวกัน” ให้ข้าวให้น้ำกับหมา และเปิดโคมไฟใต้ต้นชมพู่เสร็จ มันก็เดินกลับมาปิดประตูตรงตัวบ้าน และพาเขาเดินออกไปพร้อมกันโดยที่ไม่ลืมล็อคประตูรั้วด้วย เพราะเดี๋ยวไอ้จัมโบ้จะออกไปกัดคนอื่น


บ้านของไอติมเป็นซอยหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง หลังบ้านเป็นทุ่งนาเขียวขจีที่หาได้ยากแล้วในเขตเมืองแบบนี้ ในหมู่บ้านก็มีบ้านอยู่ไม่กี่หลัง ให้ความอบอุ่นและเป็นกันเอง ร้านอาหารของแม่แป้งก็ตั้งอยู่ตรงปากซอยติดริมถนนใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าชิดติดขอบถนนขนาดนั้น เดินจากตัวบ้านไม่เกินห้านาทีก็ถึงแล้ว


“เดน ไม่อยากมีแฟนเหรอ” เดนนี่ขมวดคิ้ว หันไปมองเพื่อนตัวเล็กในขณะที่กำลังเดินไปร้านด้วยกัน


“ถามทำไม”


“ก็ถามเฉย ๆ มึงเลิกกับแฟนคนล่าสุดก็นานแล้วนะ ปีสองอะ แล้วมึงก็โสดดดด”


“มีทำไม กูได้กินไปเรื่อย ๆ สนุกกว่า”


“เลว”


“เอ้า ไอ้เหี้ยหนิ” ถึงจะด่ามันหยาบคาย แต่เขากลับหัวเราะกับสีหน้าของไอ้ติมตอนที่ด่าเขาว่าเลว มันด่าด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ


ตอนที่เดินมาถึงร้าน มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงลานจอดรถของร้านพอดี ไอติมยืนมองรถคันนั้นนิ่งจนเดนนี่ต้องหันไปมองตามด้วยความงง พอจะหันไปถาม มันก็เดินขึ้นบันไดไม้หน้าร้าน ผลักประตูกระจกขอบไม้เข้าไปด้านในแล้ว


“เขามาอุดหนุนเราอีกแล้วอะแม่…” มารดาของไอติมที่กำลังคิดเงินอยู่เงยหน้าขึ้นมาแบบงง ๆ หันมองไอติมที่เดินไปทางบานหน้าต่างรับอาหารจากครัว


“…ขอปีกไก่ทอดน้ำปลาหน่อยค้าบ แล้วก็เอาน้ำแข็งใสให้ติมด้วยนะ อ้อ เอามาเผื่อไอ้เดนด้วย” ไอติมเดินกลับมาหาแม่ที่ยังคงมีสีหน้าไม่เข้าใจอยู่ ไอติมยิ้มกว้างแล้วขยับปากแบบไร้เสียงว่า


‘พ่อมา’ เดนนี่ทำหน้าอ้อทันที ก็งงอยู่ตั้งนานว่ามันหมายถึงใคร แต่แค่แปลกใจว่าแค่เห็นรถมันก็จำได้แล้วเหรอ เพราะรถที่เขาเห็นแม่งก็รถเก๋งแบบหาได้ทั่วไปบนท้องถนน สงสัยมันคงจำทะเบียนได้ละมั้ง


“อ้าว เดนนี่” หนุ่มลูกครึ่งหันไปมองสาวสวยผมยาวสลวยที่เดินมาจากริมระเบียงข้างร้าน


“สวัสดีครับน้าแพน” เดนนี่ยกมือไหว้น้าแพน น้าของไอติมพร้อมกับยิ้มกว้าง สาวคนนั้นเดินเข้ามากอดเดนนี่ด้วยความคุ้นเคยและเต๊าะเพื่อนสนิทหลานรักด้วยการหอมแก้มหนึ่งทีเป็นการหยอก


“คิดทึ้งคิดถึง”


“เดนก็คิดถึงน้าแพนครับ”


“ปากหวาน นี่พวกกะเทยที่บาร์ก็บ่นคิดถึงเราตลอด” เดนนี่หัวเราะ ไอติมแลบลิ้นใส่พลางรับถ้วยน้ำแข็งใสราดน้ำแดงที่เด็กในร้านเอามาให้ เขาหัวเราะกับท่าทีเหมือนเด็กของมัน


จากน้องชายสู่น้องสาวของแม่แป้ง และจากน้าชายสู่น้าสาวของไอติม น้าแพนเป็นสาวประเภทสองที่เรียกได้ว่าเป็นคนสวย อาจจะไม่ใช่แนวสวยสะกด แต่ก็พูดได้ว่าสวย ก็ยังมีความผู้ชายให้เห็นอยู่บ้างเนื่องจากน้าแพนเพิ่งจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ไม่ถึงสิบปี ไม่ได้เตรียมตัวมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนสาวประเภทสองยุคใหม่ที่เริ่มปรับร่างกายตัวเองกันตั้งแต่เด็ก แต่แค่นี้เดนนี่ก็มองว่าน้าของเพื่อนสนิทก็ทำได้ดีมากแล้วกับการเปลี่ยนแปลงตัวเองในวัยใกล้สี่สิบ


ไอติมชอบกล่าวหาว่าเพื่อนสนิทจะเอาน้าแพนไปเป็นแฟน แต่ก็รู้แหละว่ามันแซวเล่นของมัน เพราะเดนนี่ชอบทำท่าชื่นชมบูชาน้าแพนบ่อย ๆ ซึ่งที่เขาชื่นชมน้าของไอติมนั้นไม่ได้เป็นไปในทางชู้สาว เดนนี่นับถือน้าแพนตรงที่มีความเป็นตัวของตัวเอง (ซึ่งถ่ายทอดมาถึงหลานได้อย่างดีมาก) เป็นคนทำงานเก่ง ยืนหยัดด้วยลำแข้งตัวเองอย่างแท้จริง เหมือนช่วงนึงของชีวิต น้าแพนใช้ชีวิตแบบสุดมาก จนวันนึงพอแล้วก็เลยหยุด และจัดระเบียบชีวิตได้โคตรดีแบบที่ไม่ง้อผู้ชายและไม่ยอมให้ผู้ชายที่ไหนหลอกได้ง่าย ๆ แม้ว่าแกจะเป็นคนใจดีก็ตาม แกจะรู้ว่าลิมิตและขอบเขตว่าอยู่ตรงไหน สำคัญเลยคือแกใจเด็ด ลุยเป็นลุย อะไรไม่ถูกไม่ควรน้าแพนไฟท์สุดตัวมาก ยิ่งถ้าเป็นเกี่ยวกับเรื่องหลานชายสุดที่รัก น้าคนนี้กัดไม่ปล่อย


“อะ คนเรานี่ก็แปลก ทิ้งเขาไปแล้วก็ยังชอบวกวนกลับมา” น้าแพนมองไปทางประตูร้าน เดนนี่หันไปมองตามสายตาของทั้งสามคนก็เจอกับผู้ชายตัวสูงผอมแต่ไม่ใช่ผอมกะหร่อง ผมดกดำ ผิวขาวเหลือง มากับผู้หญิงผมยาวตัวเล็กผิวคล้ำในชุดลายดอกที่น้าแพนรู้สึกยี้กับรสนิยมของนางมาก และยังมีเด็กผู้หญิงอายุราวสี่ห้าขวบเดินตามมาด้วย


“มันไม่ได้แปลกหรอก มันโรคจิต เห็นว่าเราอยู่สุขสบายก็เลยจะพากันมาบ่มทุกข์ให้” แม่แป้งบอกด้วยใบหน้าระอา เธอก้มมองลูกชายของตัวเองด้วยความเป็นห่วง แต่ลูกชายของเธอกำลังหยิบปีกไก่ทอดสลับกับกินน้ำแข็งใสอย่างสบายอกสบายใจ นั่นเลยทำให้เธอยิ้มเอ็นดู


“คนนี้ฉันตบไปรึยังนะพี่แป้ง”


“ตบไปแล้วไง อันนี้คนล่าสุด ที่มันให้พ่อไอ้ติมโทรมาขอเงินกับเราน่ะ ประสาทมาก” น้าแพนยิ้มร้าย หน้าตาพึงพอใจ


“ค่อยยั่งชั่ว นึกว่ายังไม่ได้ตบ” แม่แป้งหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เห็นดีเห็นงามกับน้องสาว เดนนี่ยิ้มขำกับความอารมณ์ดีของครอบครัวนี้


แต่กว่าจะหัวเราะได้แบบนี้ มารดาของไอติมก็ผ่านความหมองหม่นมามากมายเช่นกัน


“ติมไปหลังร้านมั้ย” ไอติมส่ายหัวให้น้าแพนในขณะที่กัดปีกไก่ มือซ้ายกวักเรียกเดนนี่ให้มานั่งข้างกัน 


“งั้นก็ช่วยคิดเงินด้วย เดี๋ยวอีกสักพักจะยุ่งกว่านี้ละ…” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ พลางส่งถ้วยน้ำแข็งใสให้เดนนี่


“…อยากกินอะไรสั่งเอาเลยนะเดน แล้วมิ่งกับจ๊อกไม่มาเหรอลูก”


“มันแยกย้ายกลับบ้านไปแล้วครับน้าแพน แต่เดี๋ยวก็จะมีนัดกันอีกหลังติมกลับจากอเม’กาอะครับ” น้าแพนยกยิ้มและพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินไปรับออเดอร์โต๊ะของพ่อไอติม ชายหนุ่มสูงวัยที่ท่าทางยังดูดีอยู่หันมามองเค้าน์เตอร์ที่ภรรยาเก่าของตัวเองยืนอยู่ แต่เหมือนน้องสาวของภรรยาเก่าจะพูดอะไรสักอย่างเลยทำให้ผู้ชายคนนั้นชักสีหน้าและกลับไปสนใจเมนูต่อ


“ปล่อยให้น้าแพนจัดการไปลูก เราอยู่สวยๆ” ไอติมกับเดนนี่ยิ้มขำ แม่แป้งเบะปากเบา ๆ แล้วก็เดินกลับเข้าไปในครัว เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าของร้านแล้ว แม่ยังเป็นหัวหน้าแม่ครัว ควบคุมการผลิตอาหารด้วย อาหารบางอย่างก็ต้องทำเองเพราะเป็นสูตรส่วนตัว แบ่งให้ใครไม่ได้จริง ๆ นอกจากลูกชายของเธอที่ดูท่าจะถนัดกินมากกว่าทำ


“คนนี้เมียคนที่เท่าไหร่วะ” เดนนี่ถามพลางตักน้ำแข็งใสเข้าปาก ไอติมตักแห้วในน้ำแข็งเข้าปากแล้วทำท่านึก ก่อนจะสั่นหัวจนผมเด้ง


“เขามีเยอะเกินอะ จำไม่ได้ เหมือนเว่อร์ แต่เยอะจริง” เรื่องพ่อของไอติม เดนนี่รู้แค่ว่าแยกทางกับแม่ตั้งแต่ช่วงที่มันขึ้นมอปลาย แม่มันทนอยู่กับผู้ชายคนนั้นมาสิบกว่าปีเพียงเพราะอยากให้ไอติมไม่ขาดพ่อ แต่สุดท้ายไอติมก็บอกแม่ว่าขาดพ่อมันจะมีความสุขกว่า แม่เลยทิ้งพ่อทันทีไม่มีรีรอ ไม่มีอาลัยอาวรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้นด้วย


“แล้วคนที่เขามีลูกด้วยอะ”


“แม่บอกว่าเขามีกูคนเดียว คนนี้คงเป็นลูกติดของผู้หญิง บางทีกูก็อยากให้เขามีลูกใหม่ จะได้เลิกมาวุ่นวายกับพวกกู…” ไอ้ติมนั่งเคี้ยวไก่จิ้มน้ำจิ้มแจ๊บๆ  อย่างเอร็ดอร่อย 


“…หิวหมูกระทะจัง คืนนี้ทำกินกันป่ะเดน” ไอติมยิ้มท่าทางคึกคัก


“มึงพักหมูกระทะ อาหารร้านแม่มึงเต็มไปหมด” คนตัวเล็กอ้าปากหัวเราะ กัดไก่เข้าปากอีกหนึ่งคำ เป็นปีกไก่ทอดน้ำปลาเส้นสายมาก คงทำไว้ให้คนอื่นแต่พอลูกเจ้าของร้านขอ เลยเอามาให้ก่อนแล้วก็ได้เยอะมากด้วย


“เขาไม่อยากมีลูกใหม่เหรอวะ ไหน ๆ เขาก็ทำท่าไม่ชอบมึงอย่างกับมึงไม่ใช่ลูกขนาดนั้น”


“ไม่รู้เขา หมดน้ำยาแล้วมั้ง” เดนนี่อ้าปากค้าง


“ไอ้เชี่ยติม นั่นพ่อมึงนะ” ไอติมที่กำลังกินไก่ทำหน้างง


“เอ๊า ก็กูไม่รู้จริง ๆ อะ กูก็เลยเดาแบบนี้” เดนนี่อยากขำก็อยาก แต่ก็นึกเกรงใจพ่อเพื่อนอยู่ แม้ที่จริงแล้วพ่อเพื่อนจะไม่ค่อยเห็นเพื่อนเขาเป็นลูกสักเท่าไหร่ อันนี้ว่ากันตามคำบอกเล่าของไอติมแล้วก็จากที่เขาเห็นบ้างมาบางส่วน ก็ไม่ได้อยากใส่ร้ายหรือมองเขาไม่ดี แต่พฤติกรรมและคำพูดของผู้ชายคนนั้นก็ใจร้ายจริง


“พ่อมึงเขายังคิดว่ากูเป็นแฟนมึงอยู่รึเปล่า” ไอติมส่ายหัวพลางตักน้ำแข็งใสเข้าปาก


มันก็เก่งดี กินของคาวของหวานได้ในเวลาเดียวกัน


“ไม่รู้” ไอติมมันไม่สนใจพ่อตัวเองอย่างแท้จริงสินะ ดูมันไม่ใส่ใจเลยว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหนยังไง คงถือว่าจากกันแล้วก็จากไป ไม่ข้องเกี่ยวกันอีก


“มึงรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง” เดนนี่ถามขำ ๆ ไม่ได้คิดจริงจัง ไอติมยักไหล่ส่ายหัวสองที


“กูกับแม่มีความสุขดีตั้งแต่ไม่มีเขา” ไอติมยิ้มแบบไม่เห็นฟัน ตักน้ำจิ้มราดไก่ก่อนเอาเข้าปาก เดนนี่หันไปมองพ่อของเพื่อนที่ตอนนี้กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับผู้หญิงคนใหม่ของตัวเอง น่าจะกำลังทะเลาะเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่มาด้วย เพราะเห็นชี้ไปทางเด็กแล้วก็บ่น ๆ คนเป็นแม่ก็ชักสีหน้าเหวี่ยงกลับ


อะไรที่ทำให้ชีวิตทุกข์ก็ตัดมันออกไปแค่นั้นเอง


   

   
   
   



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2019 16:28:43 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เพิ่งจะเห็น ตามอ่านเช่นเคยจ้ะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เดนนี่ทำคะแนนนำหน้าพี่แซ็คไปเยอะแล้ว รอพ่อพระเอกเปิดตัวจ้า

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
เพิ่งจะเห็น ตามอ่านเช่นเคยจ้ะ


ขอบคุณมากค่าาา  :mew1:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
เดนนี่ทำคะแนนนำหน้าพี่แซ็คไปเยอะแล้ว รอพ่อพระเอกเปิดตัวจ้า

เดนนี่พระเอกของคนเขียนเอง 55555 ผลักดันดาวรุ่งดวงใหม่ม่ม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Chapter 2 [100%]





   สนามบินสุวรรณภูมิ
   

“ดูแลกันดี ๆ นะ เดนมีอะไรก็แนะนำน้องติมหน่อยนะลูก ติมไม่เคยไปต่างประเทศเลย” มารดาของไอติมบอกด้วยความเป็นห่วงในเรื่องที่ลูกชายของหล่อนไม่มีประสบการณ์การออกนอกประเทศเลย แต่ก็ยังเบาใจที่ว่าลูกชายไปกับเพื่อนสนิทที่มีบ้านอยู่ในประเทศที่ทั้งคู่จะไปพอดี อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่าถ้ามีปัญหาอะไร จะยังมีคนคอยช่วยเหลือลูกชาย
   

“ไม่ต้องกังวลเลยครับแม่แป้ง เราก็เที่ยวอยู่ในเมืองที่ผมอยู่แหละครับ ผมกะจะไปกับติมมันทุกที่อยู่แล้ว” ยกเว้นที่ที่มันจะไปเสียตัวนะครับแม่
   

“นอกจากจะมีเดนแล้ว ฉันก็ฝากเหล่าเพื่อนสาวของฉันในซานฟรานฯ ดูแลไอติมมันแล้วแหละพี่แป้ง พวกนางเอ็นดูติมมันมาตั้งแต่เด็ก” คนที่เป็นประเด็นบทสนทนากำลังนั่งดูดชานมไข่มุกและเสียบหูฟังฟังเพลงแบบไม่หือไม่อือกับใคร
   

“ให้แม่เราใช้ติมทำงานได้นะเดน ไปอยู่บ้านก็ไม่คิดเงิน เอาแรงงานเข้าแลกแล้วกัน”
   

“โอ๊ย แม่เดนไม่ใช้มันหรอกครับแม่แป้ง ไอ้ติมมันโปรยเสน่ห์ไว้ตั้งแต่ที่เจอกับแม่ครั้งก่อนที่ไทยแล้วครับ” ทั้งสามคนขำขัน มองไอติมที่หันมามองตาใสหน้างง ๆ แต่ก็ยกยิ้มให้ทุกคน
   

“ไอติม มานี่ก่อนลูก” หญิงสูงวัยร่างเล็กกวักมือเรียกลูกชาย คนโดนเรียกลุกขึ้นเดินมาหาแม่กับน้าพร้อมกับถอดหูฟังออก ก่อนจะคุยอะไรกับทั้งสองคนไอติมก็สะกิดเพื่อนและชี้ไปตรงที่นั่งเป็นการบอกให้ไปจอง เดนนี่เดินไปนั่งจองตามที่เพื่อนชี้
   

“อยากเที่ยว เที่ยวให้เต็มที่นะลูก ให้ไปเที่ยวแล้วก็เที่ยวให้สนุกนะ เงินไม่พอก็โทรมาบอก” ไอติมยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายกับประโยคของมารดา หันไปมองน้าแพนก็เห็นว่าน้ากำลังยิ้มกว้างเช่นกัน
   

“นี่เป็นประโยคที่ติมชอบมากที่สุดในโลกตอนนี้เลย” เจ้าตัวหัวเราะน่ารัก คนเป็นแม่มองด้วยความเอ็นดูก่อนจะดึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเข้ามากอดและหอมแก้มไปที ไอติมหอมแก้มแม่กลับหนึ่งฟอด
   

“คิดถึงก็โทรมา ถ้าเที่ยวเพลินจนลืมแม่ เดี๋ยวพอน้อยใจแม่จะโทรไปเอง” ไอติมหัวเราะเริงร่าแล้วหอมแก้มแม่อีกที แม่ลูกคู่นี้ตัวสูงพอกัน แต่ไอติมจะสูงกว่านิดหน่อย ประมาณสามเซ็นต์
   

“มีปัญหาอะไร ติดต่อพวกเพื่อน ๆ น้าได้ตลอด น้าดีลไว้ให้แล้ว อย่าทำตัวรันทดหรือดราม่า ชีวิตเราไม่เศร้านะไอ้หลานชาย”
   

“ฮู้ย น้าแพนแมนอะ” สาวสองคนสวยทำท่ายกแขนขึ้นเบ่งกล้ามแขน ก่อนจะหัวเราะกับหลานชายสุดที่รัก ไอติมกอดน้าแพนแล้วกระซิบข้างหูน้าเร็วๆ
   

“น้าแพน ๆ ไอติมมีเรื่องจะบอก” พูดเสร็จก็ผละออก น้าแพนมองหลานด้วยความเข้าใจ และไม่ได้แสดงอาการมีพิรุธ
   

“พี่แป้ง เอาไรมั้ย ฉันว่าจะไปแฟมิลี่มาร์ท”
   

“ไม่เอาหรอก ไปถามเดนเถอะ”
   

“งั้นพี่แป้งไปนั่งกับเดนก่อน เดี๋ยวฉันกับติมมา” ทุกคนพากันเดินไปตรงที่เดนนี่นั่งจองพื้นที่ไว้ให้ แม่แป้งนั่งลงข้างเพื่อนสนิทลูกชาย
   

“เดนเอาไรมั้ย จะไปแฟมิลี่มาร์ทกับน้าแพน” หนุ่มลูกครึ่งส่ายหัว ไอติมพยักหน้าและเดินออกจากบริเวณเก้าอี้ที่นั่งพร้อมกับน้า
   

“ว่าไง มีอะไรจะคุย” น้าแพนถามหลังเดินห่างออกมาจากสองคนนั้นได้ไกลแล้ว
   

“ถ้าติมไปเที่ยวแล้วเสียตัวด้วย จะเป็นอะไรมั้ยอะน้าแพน” คนเป็นน้าหันไปมองหลานชายที่ตัวเล็กกว่าตัวเองด้วยความประหลาดใจ
   

“ทำไม ติมจะเอาฝรั่งเป็นแฟนเหรอ” ไอติมหน้านิ่วคิ้วย่น ทำปากยื่นและบิดไปมาอย่างครุ่นคิด
   

“โห ขั้นแฟนอาจยากอะ แต่ถ้าแค่เสียตัวยังพอมีลุ้น… มั้ง” น้าแพนไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือแปลกใจ กลับยิ้มขำกับความคิดของหลานชาย
   

“คือยังไง มีคนในใจอยู่แล้วเหรอ”
   

“ก็… ก็น่าจะใช่ คือเขาอยู่ในใจติมจริง แต่ไม่ใช่ในหัวใจไม่ลืมเลือนอะ” คนเป็นน้าหัวเราะกับความพยายามในการบรรยายความรู้สึกตัวเอง ที่สุดท้ายก็ออกมางง ๆ อยู่ดี
   

“อยู่ในใจเหมือนเดินเลือกซื้อของงี้ป่ะ คิดไว้แล้วว่าอยากซื้ออะไร” ไอติมทำหน้านึกตาม ก่อนจะคลี่ยิ้มและพยักหน้าเร็วๆ
   

“ใช่ ๆ ประมาณนั้นเลยน้าแพน” น้าแพนยิ้ม มองสลับร้านแฟมิลี่มาร์ทกับที่นั่งด้านหน้าร้านสักแปบก่อนตัดสินใจพาไอติมเดินไปนั่งตรงเก้าอี้
   

“คุยกันก่อน ค่อยเข้าไปหาอะไรกิน…” ไอติมดึงกระเป๋าเป้สีเขียวจากด้านหลังมาวางไว้บนตัก หันตัวไปคุยกับน้าตรง ๆ และยกขาซ้ายขึ้นงอบนเก้าอี้
   

“…บอกได้มั้ยว่าเขาเป็นใคร ไปรู้จักกันได้ยังไง แล้วเคยเจอกันรึยัง” น้าสาวถามหลานชายอย่างสบาย ๆ ไม่ได้กดดันหรือจับผิด และน้าแพนก็ไม่ได้คิดว่าต้องได้คำตอบตามที่ตัวเองต้องการทั้งหมด ที่ถามเพราะอยากรู้ความเป็นไปในชีวิตหลานมากกว่า แต่ถ้าหลานจะไม่พูด เธอก็คิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของเขา
   

“อืมมม ยังไม่รู้จักกัน ยังไม่เคยเจอกัน แต่กำลังจะไปเจอกันนี่แหละ…” น้าแพนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ไอติมยิ้มกว้าง ไม่ได้มีทีท่าเขินหรืออาย แค่กำลังคิดว่าจะพูดยังไงให้น้าเข้าใจดี
   

“…เดี๋ยวให้ติมเจอเขา แล้วได้ทำความรู้จักกันก่อน ติมจะมาเล่าให้น้าแพนฟังนะ” คนเป็นน้าไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจใด ๆ ที่หลานไม่ยอมบอก เธอยิ้มและพยักหน้าหนึ่งครั้ง
   

“แต่ติมต้องสัญญาว่าถ้าเกิดมีอะไรเกินเลยกับเขาขึ้นมาจริง ๆ ต้องป้องกัน อย่าปล่อยให้อารมณ์นั้นมันอยู่เหนือสติ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร” ไอติมพยักหน้าเร็วๆ
   

“ครับน้าแพน”


“อารมณ์ทางเพศมันมีกันทุกคนแหละ แต่ต้องรู้จักเซฟตัวเอง ถ้ามันจบบนเตียงหรือจะระเบียง หรือจะที่ไหนก็ตาม ต้องให้มันจบตามนั้น อย่าให้มันไม่จบเพราะมีโรคต่าง ๆ ตามมา”


“น้าแพนไม่ว่า ดีใจจัง” ไอติมยิ้มกริ่มด้วยความดีใจจริงๆ


“จะว่าได้ไง น้าก็ยังซื้อกินอยู่เลย…” สองน้าหลานหัวเราะ น้าแพนมองหน้าหลานชายสุดที่รักและพ่นลมหายใจเบา ๆ แม้เธอจะไม่ห้าม แต่แน่นอนว่าเธอก็เป็นห่วง เพราะไอติมเป็นเด็กใส เป็นคนมองโลกแต่ด้านสว่าง นั่นเพราะเธอกับพี่สาวให้ความรักเด็กคนนี้เต็มที่ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกขาดและเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจในวัยเด็กของเขาที่ถูกพ่อทำลายไปเกือบครึ่ง


“…ถ้ามันเป็นแค่เรื่องเซ็กซ์ น้าว่ายังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามันขยับไปเป็นเรื่องของหัวใจด้วยแล้ว ติมต้องสตรองนะลูก”


“อู๊ย เอาแค่เรื่องตัวก็พอมั้งน้าแพน” ไอติมคราง ก่อนจะย่นคิ้ว เขายังไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้นเลย คิดแค่ขั้นว่าจะเสียตัวให้เฉย ๆ ซึ่งไอ้ขั้นเสียตัวนี่ก็ต้องมาคิดอีกว่าจะทำยังไงถึงจะเสียตัวให้เขาได้


“ถ้าติมหวังไว้แค่นั้นแล้วติมแฮปปี้ ก็โอเค” ถึงจะไม่ได้ตกใจประหลาดใจ แต่เสี้ยวหนึ่งในใจของน้าแพนก็เป็นห่วงหลาน เพราะไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นที่หลานหวังไว้ มันจะนำพาไปสู่อะไรที่มันไปไกลกว่านั้นหรือเปล่า


“ถ้ามีอะไรคืบหน้าติมจะบอก แต่น้าแพนอย่าเพิ่งบอกแม่นะ” คนเป็นน้ายิ้มและยักคิ้วซ้ายหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างสบายใจ เขาไม่ค่อยมีความลับกับแม่กับน้าหรอก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องแรกเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไว้ใจว่าน้าแพนจะไม่บอกแม่ก่อน


“ป่ะ ไปหาอะไรกินกัน”
   

V
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2019 16:30:52 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v


San Francisco International Airport
   

ไอติมเดินลากกระเป๋าอยู่ข้างเดนนี่ หน้าตาคล้ายคนพร้อมจะหลับตลอดเวลา เดนนี่กำลังกดโทรศัพท์ติดต่อรถที่แม่จองไว้ให้มารับที่สนามบิน ทั้งสองคนเดินทางมาถึงสนามบินซานฟรานซิสโกตอนสิบเอ็ดโมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น มีแวะเปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน สองหนุ่มไม่ได้ออกไปไหน อาศัยกินนอนในสนามบินเอาเพราะขี้เกียจจะออกไปตะลอนทัวร์
   

“รถมาแล้วติม” ร่างผอมผิวขาวสว่างจ้าพยักหน้าและรีบลากกระเป๋าตามเพื่อนไปหารถเก๋งสีดำคันหนึ่งที่จอดรออยู่ตรงประตูทางออกจากอาคารสนามบิน คนขับรถที่เป็นชายผมขาวมีอายุลงมาช่วยทั้งสองคนขนกระเป๋า ไอติมเอากระเป๋าลากมาหนึ่งใบใหญ่ ๆ กับกระเป๋าเป้สามใบ หนึ่งใบห้อยติดตัวไว้ กับอีกสองใบเก็บอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ไว้สำหรับเอาไปใช้วันอื่นๆ
   

“วู้ว ซานฟรานนน” ไอติมอ้าปากหาววอด ดวงตาง่วงปรือมองไปรอบตัวแบบที่พยายามเบิกตากว้าง ๆ ให้ดูตื่นเต้นกับการมาต่างประเทศครั้งแรก
   

“ไม่หิวใช่มั้ย” ไอติมสั่นหัวพร้อมกับหาวอีกรอบ
   

“ยังอะ”
   

“เออดี” เดนนี่ชี้นิ้วเข้าไปในรถ ไอติมคลานเข้าไปนั่งด้านหลังฝั่งข้างคนขับ ส่วนเดนนี่นั่งด้านหน้ากับคนขับเพื่อความสะดวกในการบอกทาง
   

“Presidio, right?” เดนนี่พยักหน้าให้คนขับรถที่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความชัดเจนของจุดหมายปลายทาง
   

“Yes. I will tell you my house again.” อันนี้ไม่ใช่ประโยคยากมาก ไอติมพอจะฟังรู้เรื่องว่าสองคนนั้นกำลังคุยกันเรื่องจุดหมายปลายทางที่จะไปส่ง คนขับถามชื่อปลายทางซึ่งไอติมจำได้ว่ามันคือชื่อเขตที่บ้านเดนนี่ตั้งอยู่ พอคุยกันเข้าใจเรียบร้อย คนขับก็ขับรถออกไปจากสนามบิน
   

“เดน ต้องไปซื้อซิมมั้ยอะ” ไอติมถามพลางกดปุ่มเปิดโทรศัพท์
   

“เดี๋ยวพาเข้าไปในดาวน์ทาวน์” คนตัวเล็กพยักหน้า ไม่คิดเรื่องมาก เพราะไม่รู้เรื่องหรอกว่ามันต้องใช้อะไรยังไงบ้าง ไอเดนว่าไงก็ว่าตามกัน เดินตามมันจะได้ไม่มีอะไรมากัด
   

“ถ้าขึ้นรถเมล์มึงห้ามเอาโทรศัพท์ขึ้นมานั่งกดแบบนี้เด็ดขาดนะ” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนแล้วเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงงปนสงสัย
   

“ทำไมอะ เป็นกฎจราจรเหรอ”
   

“เปล่า โทรศัพท์มึงจะหายไปต่อหน้าต่อตามึงอย่างแท้จริง” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ยังคงไม่ค่อยเก็ทตามที่เพื่อนต้องการจะบอก เดนนี่ยิ้มขำก่อนจะพูดต่อให้เพื่อนเข้าใจ
   

“ขโมยมันเยอะ แล้วขโมยที่นี่ก็ขโมยซึ่ง ๆ หน้าเนี่ยแหละ”
   

“โห ไม่คิดว่าเมืองเจริญแบบนี้ยังจะมีโจรแบบเมืองไทยด้วย” เดนนี่ขมวดคิ้ว มองเพื่อนด้วยความรู้สึกประหลาด
   

“ขโมยมันอยู่ที่สันดานโว้ย ไม่ได้เกี่ยวกับความเจริญของบ้านเมือง”
   

“แล้วคนไร้บ้านอะ เยอะมั้ย”
   

“เยอะ ตัวท็อปของอเม’กาเลยแหละ” ไอติมทำตาโตปากจู๋
   

“เขาจะทำอะไรกูมั้ยอะ” เดนนี่เบิกตากว้างแวบหนึ่งพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้าง
   

“อยู่ให้ห่างจากพวกนั้นไว้ก็แล้วกัน ถ้ามันเข้ามาใกล้ก็ใช้วิชาเทควันโด้สายเขียวของมึงให้เป็นประโยชน์” ไอติมมองวิวข้างทางนิ่งสักแปบก่อนจะยกสองแขนขึ้นมาทำท่าฟันโชะ
   

“อึชๆ” เดนนี่หัวเราะกับอาการกระตุกของเพื่อน นิ่งไปแปบ จู่ ๆ มันก็ชักกระตุกขึ้นมาทำท่าต่อสู้ซะงั้น สงสัยนึกกระบวนการการต่อสู้อยู่มั้ง
   

ไอติมไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ ถ่ายวิวอะไรทั้งนั้น เขาแค่นั่งมองวิวพวกนั้นผ่านสายตาแล้วเก็บไว้ในความทรงจำของตัวเอง จะว่าไม่ใช่คนติดโซเชียลก็ไม่เชิง มันเป็นช่วง ๆ มากกว่า ถ้าคึกอยากถ่ายก็ถ่ายแหลกอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ก็คือไม่เลย ก็ใช้วิธีนั่งมองและจำเอาไว้ นี่เลยเป็นข้อดีที่ทำให้โทรศัพท์ของไอติมเมมไม่เคยเต็ม
   

“The orange blend with the brown. That’s it.” ไอติมหันไปมองเดนนี่ในตอนที่รถเริ่มชะลอบนถนนเล็ก ๆ เส้นหนึ่งหลังจากขับขึ้นเนินเขามาสักพัก ไอติมแนบหน้ากับกระจกมองบ้านหลังสีส้มผสมน้ำตาลที่หน้าบ้านมีต้นไม้ดอกไม้สะพรั่งชวนมอง
   

“ไปไอ้ติม ถึงแล้ว” ไม่ต้องรอบอกรอบสองหรือรอเรียกสติกลับคืนมาจากการเพิ่งตื่นนอน ไอติมเปิดประตูลงไปยืนบนถนนหน้าบ้านของเดนนี่ ครึ่งชั่วโมงที่นั่งรถมา ไอติมตื่นเต็มตาแล้ว คราวนี้ความตื่นเต้นที่ไม่มีในตอนแรกก็เริ่มตื่นตัวและทำให้เขาหันไปมองรอบตัวด้วยความดี๊ด๊า
   

“สวยอ้า สวยกว่าในรูปอีก” ไอติมมองบ้านที่อยู่ติด ๆ กันด้วยความสนอกสนใจ สถาปัตยกรรมของเมืองซานฟรานฯ นั้นเป็นเอกลักษณ์มากพอที่จะบอกได้ว่านี่คือสัญลักษณ์ของเมืองนี้
   

“มึงมานี่ ๆ มาขนของก่อน เดี๋ยวค่อยกลายร่างเป็นปลากระดี่” ไอติมยิ้มกว้างและเดินเข้าไปช่วยเพื่อนกับคนขับรถยกกระเป๋าออกจากท้ายรถ พอขนลงมาจนหมดเดนนี่ก็จ่ายเงินค่ารถพร้อมกับทิปให้ด้วย ไอติมยืนมองหน้าบ้านหลังขนาดกลางของเดนนี่ให้เต็มตาอีกชัด ๆ แล้วก็คลี่ยิ้มด้วยความตื่นเต้น มันก็เป็นบ้านคนนี่แหละ แต่มันเป็นบ้านคนในต่างแดนที่เขาไม่เคยมาเลย
   

“น่าอยู่ๆ” ไอติมยังคงว่าอย่างตื่นเต้นพลางลากกระเป๋าเดินตามเพื่อนเข้าไปในรั้วบ้านที่เพื่อนเปิดอ้ารอไว้ พื้นด้านหน้าของบ้านเป็นลานปูกระเบื้องสีคล้ายหิน แบ่งสัดส่วนในพื้นที่ที่ไม่ได้ใหญ่มากอย่างลงตัวด้วยการเทปูนแบบปรับระดับพื้นที่สูงต่ำ ด้านขวามือเทปูนเป็นกำแพงสูงขึ้นระดับอกของไอติม ด้านบนปลูกต้นไม้ใหญ่สองสามต้น และมีดอกไม้ขึ้นตัดกับสีเขียวของใบไม้ มันเป็นเหมือนกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่


ส่วนด้านซ้ายมือเป็นลานปูนมีเก้าอี้ให้นั่ง ยกพื้นสูงขึ้นจากลานกระเบื้องหิน ไว้สำหรับปาร์ตี้ปิ้งย่างหรือปาร์ตี้ต่าง ๆ หรือจะออกมานั่งชิล ๆ เฉย ๆ ก็เหมาะ หรือจะนั่งทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจคนนั่ง ตรงกลางที่แบ่งระหว่างสองฝั่งเป็นทางเดินที่ตรงไปสู่บันไดหกขั้นสีเดียวกับกระเบื้องที่พาขึ้นไปสู่มุกหกเหลี่ยมหน้าบ้าน
   

“อากาศดีเนอะ” ไอติมไม่ได้รู้สึกหนาวหรือร้อนจนเกินไป อากาศมันเย็นแต่ไม่ใช่เย็นจนหนาวสั่น ในขณะเดียวกันก็มีแดดส่องบนท้องฟ้าด้วย
   

“ประมาณ 18 องศา” เดนนี่บอกแล้ววางกระเป๋าไว้ในห้องรับแขกด้านซ้ายมือตอนเดินเข้ามาจากมุกหน้าบ้าน  ไอติมเดินไปนั่งบนโซฟาแบบเกรงใจด้วยการนั่งซะปลายโซฟา
   

“มึงนั่งเต็ม ๆ ก็ได้ครับ กูไม่ได้หวง…” พอเพื่อนพูดแบบนั้นไอติมก็ยิ้มแฉ่งและกระเถิบก้นตัวเองเข้าไปนั่งเต็มพื้นที่โซฟาสีน้ำตาลแก่บุนวมตัวยาว มีการยกขาขึ้นมาตีในอากาศเหมือนเด็กที่กำลังตื่นเต้นกับสิ่งใหม่
   

“…แม่!!” เดนนี่ตะโกนเรียกมารดาตัวเองหลังจากเห็นว่าบ้านเงียบไปสักหน่อย เขาเดินออกจากโซนรับแขกไปตรงทางเดินกระเบื้องสีไม้ด้านนอก มองซ้ายมองขวาสักแปบก่อนหันกลับไปมองไอติมที่นั่งมองสำรวจไปทั่วห้องโซนรับแขก
   

“รหัสวายฟาย XXXXXX เดี๋ยวกูไปตามแม่แปบ” ไอติมเลื่อนสายตาไปมองเพื่อนลูกครึ่งแล้วพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจัดการเชื่อมต่อวายฟาย ปล่อยให้เพื่อนไปตามหามารดาตัวเอง
   

พอเชื่อมต่อกับวายฟายได้ การแจ้งเตือนต่าง ๆ ก็เด้งขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ว่าเยอะมาก ไอติมคลิกเข้าไปดูการแจ้งเตือนในเฟซบุ๊คที่ส่วนมากส่งเกมเฮเดย์มาหา เขาไม่คิดว่าใครเพราะตัวเขาเองก็เล่น นอกจากการแจ้งเตือนเกมก็มีการแจ้งเตือนจากเพจของแซ็คที่ทำเอาไอติมยิ้มกว้างเริงร่า ไอติมคลิกเข้าไปดูก็เห็นโปสเตอร์โทนสีเข้ม วันที่อัปโปสเตอร์นี้คือเมื่อสามวันก่อนที่เขากำลังวุ่นวายกับการเตรียมตัวในการเดินทางเลยไม่ได้แตะโซเชียล ร่างผอมแต่ไม่ใช่ผอมกะหร่องอาศัยการแปลอัตโนมัติที่ก็ใช่ว่าจะได้คุณภาพมากนักในการอ่าน
   

“พบ…กับพวกเขา…ที่… ที่ไหนอะ ซี เอ เอส แคส… Castro แคสโทรเหรอ ใน…ซานฟราน… เฮ้ย!” ไอติมเบิกตากว้าง เด้งตัวลุกขึ้นยืนพรึบอัตโนมัต ก้มหน้าอ่านทวนบนหน้าจอของตัวเอง โปสเตอร์เป็นรูปพระเอกขวัญใจตัวเองยืนตรงกลาง ใส่กางเกงในสีแดงทรงสามเหลี่ยมตัวจิ๋ว และมีผู้ชายคนอื่นอีกหกคนในชุดกางเกงชั้นในแบบเดียวกันแต่เป็นสีอื่น
   

“เดี๋ยวเดนจะพาติมมันไปดาวน์ทาวน์…” ไอติมลดมือถือลงทั้งที่ยังยิ้มด้วยความตื่นเต้น เดนนี่เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับผู้หญิงไทยตัวสูง ผิวน้ำผึ้ง ใบหน้าสวยคม ผมสีดำยาวสลวยราวกับผ้าแพรผืนหนา
   

“…ไอติม อ้าว เออ แม่มา” ไอติมฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับยกมือสวัสดีแม่ของเดนนี่ที่ยิ้มกว้างกลับมาอย่างใจดี
   

“สวัสดีค่าน้องติม” ไอติมเดินเข้าไปกอดแม่ของเดนนี่ หล่อนกอดเพื่อนสนิทลูกชายด้วยความเอ็นดู หญิงสาวผละออกจากตัวเพื่อนลูกชายและมองสำรวจร่างผอมบางตรงหน้า
   

“มีน้ำมีนวลขึ้นนะคะน้องติม แต่แม่ชอบมากกว่าตอนผอม ๆ ค่ะ” แม่ของเดนเจอเขาครั้งล่าสุดคือเมื่อปีก่อนตอนเขาอยู่ในช่วงผอมแห้ง
   

“น้องติมกินเยอะ ๆ ตามที่แม่บอก”
   

“อู๊ย เหรอคะ เด็กดีเชียว” หญิงสาวผิวน้ำผึ้งหัวเราะร่วนกับความช่างเอาอกเอาใจของเพื่อนลูกชาย
   

“แม่ทำกับข้าวไว้ให้ด้วย กินเสร็จแล้วเดี๋ยวกูพาเข้าไปเที่ยวในดาวน์ทาวน์” ไอติมพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง
   

“เอาของเข้าไปเก็บในห้องเดนเลยนะคะน้องติม นอนห้องเดียวกันไปเลยค่ะ”
   

“ครับแม่” ไอติมเดินไปช่วยเดนนี่ลากกระเป๋า บ้านของเดนนี่มองภายนอกไม่ได้ใหญ่โตมาก ให้ความรู้สึกว่าแคบในความรู้สึกแรกที่เห็น แต่พอเข้ามาด้านในคือมีพื้นที่ลากยาวลากลึกเข้าไปอีก ภายในบ้านตกแต่งเน้นสีขาว สีครีม สีไม้ สไตล์การตกแต่งมีความจริงจัง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ใช่แนวศิลปิน ศิลปะหรือโมเดิร์น ออกแนวเรียบหรู
   

แต่พอเข้ามาในห้องนอนของเดนนี่กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะห้องเพื่อนสนิทของเขาแต่งซะรก
   

“ทำไมห้องมึงเหมือนหลุดตีมของบ้านอะ” ไอติมว่าพลางมองไปรอบห้องเพื่อนที่มีโปสเตอร์ภาพยนตร์แปะไว้บนผนังห้องหลายเรื่อง และมีภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์แปะไว้ตรงมุมโต๊ะเขียนหนังสือที่ตั้งใกล้กับหน้าต่าง มีตู้วางของจำพวกคล้ายอุปกรณ์ประกอบฉากภาพยนตร์ไว้ตรงผนังห้องปลายเตียง มีจอโปรเจคเตอร์สีขาวขนาดใหญ่ห้อยอยู่ข้างกัน ห้องเดนนี่เหมือนห้องชมภาพยนตร์ขนาดย่อมเลย
   

“อ้าว เรื่องของกูดิ” ไอติมเบะปากใส่เดนนี่และลากกระเป๋าไปไว้ตรงกลางห้อง ก่อนไปหย่อนก้นลงบนที่นอนนุ่ม ๆ ที่อยู่บนเตียงเหล็กสีขาวแบบยกสูง ไอติมไม่ชอบเตียงที่มีพื้นที่ว่างใต้เตียงแบบนี้ มันทำให้รู้สึกว่าจะมีผีมาจับขา
   

“เดน ๆ แคสโทรอยู่ในซานฟรานใช่ป่ะ” ไอติมที่นั่งนิ่งไปได้สักนาทีจู่ ๆ ก็อเลิร์ทขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดหน้าจอและยื่นสุดแขนไปตรงหน้า เดนนี่เดินเข้ามาหยิบโทรศัพท์ไปจากร่างผอม และไล่อ่านข้อความบนหน้าจอสักพัก
   

“เออ อยู่เนี่ย ย่านของมึงเลย พระเอกมึงมาอะดิ” ไอติมยิ้มกว้างดีใจพร้อมกับชูสองมือขึ้น
   

“ใช่!!! สะไภ้มาก เขามาวันที่เรามาถึงพอดีเลยอะเดนนน เนื่อคู่ๆ” ไอติมว่าด้วยความดี๊ด๊า จังหวะมันช่างเหมาะเจาะและลงตัวซะจริง มาถึงปุ๊บ ก็จะได้เจอปั๊บ แบบนี้ไม่ให้คิดให้กำลังใจตัวเองได้ยังไงว่าแววเสียตัวกำลังมาแล้ว
   

“มึงอยากไปก็ไป แต่กูไม่ไปด้วยนะ” ไอติมย่นคิ้วหน้างอเล็กๆ
   

“มึงไม่ไปแล้วกูจะทำไงอะ กูไม่เคยไปนะ”
   

“เดี๋ยวกูพามึงไปดูนี่ไง ทำให้มากสุดคือไปรับไปส่ง แต่กูไม่ไปด้วย ถึงกูจะไม่ได้แอนตี้เพศอย่างพวกมึง แต่กูขอปลอดภัยไว้ก่อน แม่งมือไวกันเยอะแยะ”
   

“เดนอ้ะ…” ไอติมหน้าบู้ เดนนี่สั่นหัว เขาไม่ได้รังเกียจ เพราะถ้ารังเกียจเขาคงไม่มีเพื่อนสนิทอย่างไอ้ติมและให้มันจูบ มันหอมแก้มหรือกอดอ้อนหรอก แต่เขากลัวโดนลวนลาม และกลัวการเป็นเป้าสายตาของพวกนั้นได้ และเป้าเขาเองก็จะกลายเป็นจุดมุ่งหมายของสายตาเหล่านั้น
   

“…แล้วกูจะพูดกับใครรู้เรื่องมั่ง”
   

“ไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องไป” ไอติมเลิกทำหน้าบู้หน้าเบ้ เปลี่ยนเป็นหน้าจริงจัง
   

“ไม่! กูจะไป ไปคนเดียวก็ได้ งั้นมึงพากูไปสำรวจพื้นที่เลย ไปซื้อบัตรด้วย งานนี้มันต้องมีบัตรใช่เปล่า”
   

“เออ ผับที่มึงจะไปก็ผับดังของกลุ่มมึงเลย แต่ถ้าบัตรหมดกูช่วยไม่ได้นะ”
   

“งั้นก็ไปกัน ๆ รีบไปซื้อบัตรๆ” ไอติมลุกขึ้นไปจับแขนเดนนี่และเขย่าเบาๆ
   

“ไม่กินข้าวรึไง”
   

“เดี๋ยวกลับมากิน นะ ๆ เดนนะ กูกลัวบัตรหมด” เดนนี่ส่ายหัวอ่อนใจกับความเงี่ยน เอ้ย กับความติ่งของเพื่อน
   

เดนนี่บอกแม่ว่าจะพาไอติมไปทำเรื่องซิมการ์ดในดาวน์ทาวน์และไปหาซื้อของแล้วเดี๋ยวกลับมากินข้าวที่บ้าน แม่ของเดนเลยแนะนำว่าไปกินที่ร้านอาหารของที่บ้านได้เลย มื้อที่ทำไว้ให้ที่บ้านเดี๋ยวค่อยกลับมากินเป็นมื้ออื่นแทน
   

“เดี๋ยวแม่ก็ออกไปที่ร้านละ เดนพาน้องติมขึ้นรถบัสสิลูก น้องติมจะได้คุ้นเคย”
   

“วันอื่นแล้วกันแม่” เดนนี่หยิบกุญแจรถของตัวเองออกไปจากบ้าน มีไอติมเดินนำหน้าออกไปยืนรอบนถนนหน้าบ้านแล้ว
   

“ไม่เห็นมีรถเลยอะ” เดนนี่ชี้ไปที่อาคารไม้สีขาวชั้นเดียวข้างบ้าน เดนนี่กดปุ่มเปิดประตูโรงจากรีโมตสีดำในมือ บานประตูเหล็กสีเทาเลื่อนขึ้นช้า ๆ ปรากฏให้เห็นรถเก๋งสองคันแต่คนละสีและคนละแบรนด์จอดคู่กันอยู่
   

“รออยู่เนี่ย” ไอติมพยักหน้าและยืนรอเป็นเด็กดีอยู่ตรงรั้วสีดำของบ้านใกล้กับกล่องไปรษณีย์สีขาว รอสักพักรถเก๋ง Lexus สีดำก็ถอยก้นแฟบ ๆ ออกมา และมาจอดเทียบท่าตรงรั้วที่ไอติมยืนอยู่ ประตูบานเหล็กค่อย ๆ เลื่อนลงปิดตามหลัง
   

ไอติมเปิดประตูรถแล้วหย่อนตัวเข้าไปนั่งข้างคนขับฝั่งขวามือ เอากระเป๋าเป้วางไว้บนตัก จัดการคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย พอร่างผอมคาดเข็มขัดเสร็จเดนนี่ก็ขับรถออกไปจากหน้าบ้าน
   

“ไปไหนก่อนอะเดน”
   

“พามึงไปซื้อบัตรก่อน เดี๋ยวจะลงแดงตาย” ไอติมหัวเราะฮิ ๆ ดีใจที่เพื่อนรู้ใจเป็นที่สุด
   

“ร้านชื่อไรนะ เอามาดูอีกทีดิ๊” ไอติมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อค และเอารูปที่ตัวเองเซฟจากเฟซบุ๊คไว้ให้เพื่อนดู เดนนี่รับไปดูในขณะที่กำลังขับรถ เขากดสายตาลงมองชื่อร้านบนโปสเตอร์ พอเจอแล้วก็ส่งคืนให้เพื่อน
   

“ชื่อร้าน XXX มึงช่วยกูหาด้วย อยู่ในดงนั้นแหละ” เดนนี่ใช่ว่าจะไปที่นั่นบ่อย ๆ เขาเคยไปแล้วก็โดนลวนลามทุกครั้งที่ไป เลยไม่ค่อยอยากไปอีก เขาไปสนุกได้ เขาไม่คิดอะไร เพื่อนเขาเป็นเพศสีรุ้งเยอะ แต่เจอลวนลามบ่อยก็เริ่มระแวง เลยตัดปัญหาไม่ไปอีก เดี๋ยวไปทำท่าระแวงในนั้น จะหาว่ารังเกียจเอา
   

เดนนี่ไม่ใช่คนหลงตัวเอง แต่ก็พอรู้ว่าเขาเป็นที่หมายตาหมายปองของพวกนั้น เขาโชคดีมากที่ไอ้ติมมันไม่ใช่คนลุ่มล่าม มันเป็นคนหน่อมแน้มแล้วก็ประหลาด
   

“Castro.” ไอติมพึมพำเบา ๆ ตอนที่รถกำลังจะขับผ่านป้ายสีแดงใหญ่โต เขาทำตาโต หันเกาะหน้าต่างมองข้างทางด้วยความตื่นเต้น สิ่งแรกที่สะดุดตาหลังจากหลุดเข้ามาในย่านนี้คือธงสีรุ้งที่ถูกประดับประดาตามตึก
   

“หูยยย ถนนนี้คือถิ่นกูเลยป่ะ”
   

“เออ ทั้งแถบ มึงมาแจ้งเกิดที่นี่ได้เลย” ไอติมคลี่ยิ้มกว้าง หันไปมองฝั่งเดนนี่ และสลับกับก้มมองผ่านกระจกหน้ารถ และมีหันกลับไปมองด้านหลัง เรียกว่าพยายามมองให้รอบทิศ เดนนี่มองท่าทางตื่นเต้นแบบต่างด้าวพลัดถิ่นของเพื่อนก็ขำ ไอติมยิ้มสดชื่น แต่สายตาก็สอดส่องมองหาร้านที่เป็นเป้าหมายไปด้วยจนกระทั่งเจอ
   

“นั่นเปล่าอะเดน ร้าน XXX” เดนนี่ชะลอรถตรงตึกสีครีมสามตึกติดกัน ด้านหน้าฝั่งหนึ่งเป็นกระจกใสเหมือนตู้อาบน้ำสามตู้ มีกันสาดสีดำติดตามกระจกอย่างละอัน ส่วนอีกฝั่งเป็นประตูสีดำมีกันสาดอันใหญ่สีเดียวกับประตูติดไว้และมีชื่อร้านเพ้นท์อยู่บนกันสาดอีกที และเพิ่มความชัดของชื่อร้านด้วยการมีตัวอักษรแบบเป็นป้ายไฟขนาดใหญ่ติดไว้บนตัวตึก
   

“เดน ลงไปด้วยกันนะ เผื่อกูพูดไม่ถูกอะ” ไอติมอ้อนตอนที่เดนนี่วนรถเพื่อไปจอดตรงหน้าร้าน เดนนี่พยักหน้าขึ้นแบบเสียมิได้ พอรถจอดสนิทไอติมก็เปิดประตูลงไปยืนบนถนนและแหงนหน้ามองร้านด้วยความใจเต้น สอดส่องมองหาอะไรบางอย่างที่จะบอกว่าอีเว้นต์ที่เขาเห็นในเฟซบุ๊คกำลังจะเกิดขึ้นที่ร้านนี้ แล้วเขาก็เห็นโปสเตอร์อยู่ในกรอบรูปอย่างดีที่ติดอยู่ตรงหน้าร้าน
   

“นั่นๆๆ” ไอติมชี้ไปที่กรอบรูปนั้นก่อนจะวิ่งอ้อมหน้ารถไปยืนมองโปสเตอร์ ตรงกรอบรูปสีดำติดไฟทรงกลมทั่วกรอบ เอาไว้เปิดเพิ่มความสว่างยามค่ำคืน
   

“ซื้อตั๋วตรงไหนอ่า” ไอติมหันไปมองเดนนี่ที่กำลังยืนมองงง ๆ เช่นกัน ไอติมโยกตัวไปซ้ายทีขวาทีเพื่อมองหาจุดขายตั๋ว แต่ก็ยังไม่เจอ
   

“ในร้านเปล่า กูก็ไม่เคยมาว่ะ” เดนนี่ก็มึน ไม่รู้จะแนะนำเพื่อนยังไง กำลังมองหาหนทางซื้อตั๋วให้เพื่อน หันไปมองไอ้เพื่อนเพี้ยนอีกทีมันก็เปิดประตูและหายวับเข้าไปข้างในจนต้องรีบก้าวตามไป
   

ไอติมเข้ามายืนงงอยู่ในร้าน ภายในร้านกว้างมาก มีโต๊ะมีเก้าอี้อยู่ตรงแถบขวามือ มีบาร์ขนาดใหญ่อยู่ด้านซ้ายมือ มองตรงไปก็เจอกับเวทีขนาดใหญ่ที่ตอนนี้กำลังมีผู้ชายฝรั่งสามคนกำลังยืนอยู่บนเวทีและมีอยู่ด้านล่างเวทีอีกหนึ่งคน ไอติมเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความตะลึง สองเท้าก้าวไปข้างหน้าอัตโนมัต
   

“ไอ้ติม มึงจะไปไหนน่ะ?!” เดนนี่ที่ตามเข้ามาพยายามคว้าเพื่อนไว้แต่ไม่ทัน ไอติมเดินนำหน้าลิ่ว ๆ ไปทางเวที เดนนี่เห็นฝรั่งทั้งกลุ่มหันมองไอ้เพื่อนตัวเล็กของเขาด้วยความงง ไอติมเดินไปเกาะขอบเวทีพร้อมกับอาการใจเต้นรัวๆ
   

“เฮ้!!!” ไอติมแทบจะตะโกนลั่น แต่ก็เป็นการตะโกนแบบที่ไม่ใช่แนวสะดุ้งเฮือก เดนนี่ชะงัก ทุกคนที่อยู่ตรงเวทีก็ชะงัก และทุกสายตาก็มองหนุ่มเอเชียที่กำลังยิ้มกว้างให้กับหนุ่มอเมริกันตัวสูงใหญ่ที่กำลังหน้าเหวออยู่ไม่น้อย
   

“แซ็คคค!!!” ไอติมยกมือขึ้นโบกรัว ๆ พร้อมกับยิ้มกว้างยิ่งกว่านางงามจักรวาล จากที่ตอนแรกสีหน้าเหวอ ๆ งง ๆ หนุ่มอเมริกันตัวล่ำบึ้กก็เปลี่ยนเป็นหน้าตกใจ
   

“What the fuck? (เชี่ยไรวะ)” หนุ่มฝรั่งพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ด้วยความเครียดและมีความไม่พอใจนิด ๆ พอตั้งสติได้ก็เดินเข้าไปใกล้ไอติมที่ยืนอยู่ด้านล่างเวที สีหน้าไอติมทั้งตื่นเต้นและดีใจ ยิ่งพอหนุ่มอเมริกันผมทองร่างสูงตัวใหญ่ย่อเข่านั่งลงตรงหน้าตัวเอง ดวงตาของไอติมก็เปล่งประกายวาบ
   

“โว้วว ๆ แซ็คคค” ไอติมอ้าปากพึมพำพะงาบๆ  เจ้าของชื่อกระตุกยิ้มหนึ่งที แต่แววตาแข็งกระด้าง หนุ่มฝรั่งยกมือขวาวางบนไหล่ไอติม คนตัวเล็กหันไปมองตามมือใหญ่หนานั้นแล้วเบิกตากว้าง ริมฝีปากขยับเป็นรูปตัวโอ ก่อนหันกลับไปมองใบหน้าหล่อของแซ็คที่ยิ้มให้อย่างเท่
   

แต่จริง ๆ มันคือรอยยิ้มที่กำลังข่มความไม่พอใจเอาไว้
   

“Easy. Easy, dude. (เย็นไว้ เย็นไว้เพื่อน)” ไอติมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะช็อค หน้าของเขากับแซ็คอยู่ห่างกันแค่หนึ่งฝ่ามือกั้นเท่านั้น รอยยิ้มมุมปากสุดเท่ (ในความคิดติมคนเดียว) ตรึงดวงตาใสแป๋วได้อยู่หมัด ไอติมแทบไม่กะพริบตา เพราะอยากมองหน้าขวัญใจตัวเองในระยะใกล้แบบนี้ให้เต็มที่


ส่วนแซ็คกำลังมองหน้าไอ้หนุ่มเอเชียที่มีแววเป็นตัวปัญหาด้วยความครุ่นคิดว่ามันเป็นใครมาจากโซน
ไหนของเอเชีย


ไอ้เด็กนี่มันรู้ชื่อจริงเขาได้ยังไง?!
   
   
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2019 12:53:17 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไปรู้ชื่อจริงเขาได้ไงเนี้ย แล้วจะโดนตืบป่ะ  :ling3:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ว้าววว พี่แซคมาแล้วว

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
ไปรู้ชื่อจริงเขาได้ไงเนี้ย แล้วจะโดนตืบป่ะ  :ling3:


เรียกรถพยาบาลมารอทีค่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
ว้าววว พี่แซคมาแล้วว

มาแบบให้รู้ว่าตูอยู่นี่นะ 55555

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust - Chapter 3 :: Lust at first sight. [50%]



   ไอติมกำลังนั่งยิ้มใหญ่ไม่มียิ้มน้อย อยากจะจำกัดความให้ตัวเองว่าฟินสุด ๆ แต่ก็รู้ตัวดีว่าที่จะทำให้ฟินสุด ๆ นั้นไม่ใช่เพียงแค่การจ้องหน้าแซ็คที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงข้ามตัวเอง เดนนี่มองเพื่อนด้วยความหนักใจ เขาคิดว่าไอ้ติมมันเห็นอยู่แล้วละว่าตอนนี้หน้าไอ้ฝรั่งผมทองไม่ได้ยิ้มหรือคิดจะแย้มปากเป็นรอยยิ้มไปกับมันเลย แต่ด้วยความดีใจที่ได้เจอขวัญใจตัวเอง ความคิดมันเลยอาจจะมองผ่านจุดนั้นไป
   

“Where did you come from? (นายมาจากไหน)” ไอติมได้สติกลับมา และเข้าใจคำถามนั้นเพราะมันไม่ใช่ประโยคยาก เขาไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากก็จริง แต่ประโยคสื่อสารขั้นพื้นฐานเขาก็ไม่ได้งั่งจนฟังไม่ออก
   

“Thailand. I come from Thailand. (ประเทศไทย ผมจากมาจากประเทศไทยครับ)” หนุ่มเอเชียตอบเสียงใสพร้อมกับยิ้มสดใส มองใบหน้าหล่อชัดทุกสัดส่วนด้วยความเพลินตา แม้ใบหน้าของแซ็คตอนนี้จะนิ่วคิ้วย่น แต่คนอย่างไอติมกลับกำลังคิดว่าสีหน้านี้มันช่างเท่บาดใจ และชวนให้เกิดอารมณ์ได้ดีจัง
   

ทำหน้าเข้ม ๆ ดุ ๆ บนเตียงแบบนี้ คงดิบเถื่อนสะเทือนใจน่าดู อู้วววๆ
   

แซ็คหันมองรอบตัว ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ในห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ด้านหลังเวทีที่สามารถอัดคนเข้ามาได้เกือบครึ่งร้อยชีวิต มีคนอื่นอยู่ในห้องนั้นอีกสามคน มีเพื่อนแซ็คสองคน และทีมงานของคลับนี้อีกหนึ่งคน แซ็คหันกลับมาแล้วมองเดนนี่ด้วยสายตาที่เจ้าตัวก็ดูออกว่าเป็นสายตาที่ไม่ค่อยจะไว้ใจ
   

“He is my friend. My best friend, my dictionary. (เขาเป็นเพื่อนผม เพื่อนสนิทผมเอง เป็นดิคชันนารีของผม)” ไอติมพูดแทนเพื่อน เพราะกลัวว่าเพื่อนจะโดนไล่ออกไปข้างนอก แล้วทิ้งให้เขาต้องผจญภัยกับภาษาที่ยังพูดไม่ค่อยคล่องอย่างลำพัง ไอ้ห่วงความรู้สึกเพื่อนก็ห่วงด้วย แต่ก็กลัวว่าตัวเองจะสื่อสารกับแซ็คไม่รู้เรื่อง มีไอ้เดนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ยังอุ่นใจหน่อย
   

“But you can speak English. (แต่นายก็พูดภาษาอังกฤษได้)” ไอติมพยักหน้าและฉีกยิ้ม
   

“นิดหน่อยอะ เอ่อ แบบว่า… Little bit. Not very good. (นิดหน่อยครับ ไม่ได้ดีมาก)” แซ็คหรี่ตามองไอติมแวบหนึ่งก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาแข็งนิด ๆ แต่ไอ้หนุ่มเอเชียกลับคลี่ยิ้มเหมือนกับไม่เห็นว่าสีหน้าเขาเป็นยังไง
   

“You change hair color ด้วยอะ It’s beautiful. นะ” ไอติมใช้มือจับเส้นผมตัวเองเป็นตัวช่วยสื่อสารให้แซ็คเข้าใจมากขึ้นว่าตัวเองกำลังชมสีผมอันใหม่ของเขา เจ้าของผมสีทองไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงยักคิ้วอ่อนทๆ และยักไหล่ขวาหนึ่งที
   

“You are so handsome very very much. แล้วก็ So ล่ำบึ้กมาก ๆ You so hot กว่าใน Camera อีกอะ” ร่างผอมยกแขนขวาขึ้นทำท่าเบ่งกล้าม ดวงตามองกล้ามแขนเป็นประกายและมองกล้ามอกที่อยู่ใต้เสื้อยืดสีขาวอย่าง (หื่น) กระหายแบบที่ปิดไม่มิด
   

แซ็คกะพริบตาหน้านิ่ง ทั้งเข้าใจและงงกับสิ่งที่ไอ้หนุ่มเอเชียหน้าขาวคนนี้พูด เขาย่นคิ้วกับประโยคแปลยากของมัน ไอ้คนพูดก็ยิ้มไม่เมื่อยปากเลยสักนิด จนเขานึกสงสัยว่ามันเทคยาตัวไหนมารึเปล่า


เดนนี่ที่นั่งมองสองคนพูดกันทำตัวไม่ถูกว่าควรแปลที่เพื่อนตัวเองพูดดีมั้ย เขาเริ่มรู้สึกอยากกุมขมับกับการเรียบเรียงประโยคในการพูดของเพื่อนตัวเอง เขาชื่นชมที่มันกล้าพูด แต่บางทีก็มึนตึ้บแทนคนฟัง
   

“I look your porn movie almost everyday เลยนะ But it’s not much อะ Why don’t you เอ่อ have it more more ล่ะ” แซ็คอ้าปากค้าง หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความฉงนสงสัย ก่อนจะขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มขำเล็ก ๆ ขำที่ไอ้เด็กคนนี้มันพูดก้ำกึ่งระหว่างรู้เรื่องกับไม่รู้เรื่อง
   

ไอติมเห็นแซ็คยิ้มก็ยิ่งยิ้มเข้าไปอีก “I เอ่อ ชักว่าว เดน ๆ ชักว่าวต้องพูดว่าไรนะ jerk out ป้ะ”
   

“Jerk off.” เดนนี่ตอบเสียงเรียบ ๆ และเบา ๆ ใบหน้าอึดอัดนิดหน่อย
   

“เออ Yes, yes. You make me jerk off บ่อยมาก แบบ many times อะ” เดนนี่อ้าปากค้างตะลึงกับคำพูดของไอ้เพื่อนตัวเล็ก เสี้ยวหนึ่งดีใจที่มันออกเสียงเอสถูก แต่ก็ตะลึงกับความตรง ๆ เผย ๆ ของมัน ส่วนแซ็คก็สีหน้าค้างเติ่ง เขาไม่ได้ค้างกับเรื่องที่ไอ้เด็กนี่ชักว่าว เพราะไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนแรกที่บอกเขา แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกทึ่งคือการที่มันพูดเหมือนกำลังบอกว่าตัวเองชอบกินอะไร คือมันพูดด้วยความร่าเริงและเริงรื่นมาก
   

“So, you gonna tell me, I make you horny, are you? (ก็คือ นายกำลังจะบอกว่า ฉันทำให้นายเงี่ยx ใช่มั้ย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ครุ่นคิดสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มและพยักหน้ารัวๆ
   

“Yes, yes, but you have a little porn อะ ไม่เยอะ เอ่อ Not much porn. I want more from you.” เดนนี่ขยับเปลือกตากว้างขึ้นและยกนิ้วชี้นวดคิ้วขวาเบาๆ
   

“I am your fan club อะ I am ติ่ง!” ไอติมว่าต่อด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะสื่อ รีบพูดออกไปทั้งที่จริง ๆ อยากพูดว่าตัวเองเป็นติ่งให้ถูกต้องในภาษาอังกฤษ แต่ปากมันก็ไปไวกว่าสมองแล้ว
   

แซ็คมองไอติมแล้วก็ทั้งนึกขันและนึกข้อง (ใจ) จนเกือบจะเรียกได้ว่าระแวง หรือแรงขึ้นอีกหน่อยก็คือกลัวกับการที่ไอ้หนุ่มเอเชียตัวขาวที่จู่ ๆ ก็มาโผล่ตรงหน้าเขาและเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่นคลับ
   

“How do you know my real name? (รู้ชื่อจริงฉันได้ยังไง)” แซ็คถามแบบพยายามจะใจเย็น ไม่แสดงให้เห็นถึงอาการไม่พอใจ ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ แปบหนึ่งเพราะกำลังนึกตามที่แซ็คพูด
   

“Your name? (ชื่อคุณเหรอ)” ไอติมทวนคำถามนั้น แซ็คพยักหน้านิ่ง ไอติมหันไปมองเดนนี่ทันที
   

“เขาถามว่ามึงรู้ชื่อจริง ๆ เขาได้ยังไง” ไอติมร้องอ๋อแบบไม่มีเสียงแล้วก็หันกลับไปหาแซ็ค จากสีหน้าเริงรื่นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ
   

“I cannot tell you. (ผมบอกไม่ได้)” แซ็คขบกราม มองไอติมนิ่ง ทั้งที่ในใจร้อนด้วยความขุ่นใจ ไม่พอใจเป็นอย่างมากที่มีใครก็ไม่รู้มาเรียกชื่อจริงตัวเองทั้งที่ไม่เคยแม้กระทั่งรู้จักกัน มันเรียกข้ามนามสกุลเขาไปด้วยซ้ำ
   

มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยกับการเรียกชื่อ แต่สำหรับ คนอย่างเขา หรือ คนอย่างพวกเขา มันคือเรื่องใหญ่ ด้วยแค่วัฒนธรรมตะวันตกที่จะไม่เรียกชื่อจริงของคนไม่สนิทกันมันก็สร้างความไม่พอใจได้แล้วสำหรับบางคน เขาจะปล่อยผ่านไปง่าย ๆ และบอกว่าไม่เป็นไรไม่ได้
   

เพราะมันหมายถึงความอันตรายของชีวิตได้เลย
   

“Why? (ทำไม)” แซ็คถามเสียงทุ้ม ไอติมมีสีหน้าลำบากใจแล้วก็สั่นหัวรัวๆ
   

“I promise ไว้” ฝรั่งหัวทองมองหนุ่มเอเชียผมดำขลับด้วยความอดทนอดกลั้นที่จะไม่ต่อยหน้าแล้วเค้นถามด้วยความโมโห แต่ถึงอย่างนั้นสองหมัดเขาก็กำแน่น หนุ่มอเมริกันพ่นลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะกระตุกยิ้ม
   

“Okay. That’s fine. So, are you coming to see me tonight? (โอเค ไม่เป็นไร แล้ว นายจะมาดูฉันคืนนี้ใช่มั้ย)” ฝรั่งตัวโตกดเสียงตัวเองไม่ให้ออกอาการฉุนเฉียวมากเกินไป ไอติมอ้าปากค้างนิดหนึ่ง และพยายามนึกตามที่แซ็คพูด แต่สุดท้ายก็หันไปมองเดนนี่แบบต้องการความช่วยเหลือเพื่อความชัวร์
   

“เรื่องที่มึงไม่ยอมบอกว่ารู้ชื่อเขาได้ยังไง เขาว่าไม่เป็นไร เขาถามมึงว่าจะมาดูเขาคืนนี้ใช่มั้ย” ไอติมยิ้มกว้างแล้วหันไปมองแซ็คที่ (พยายาม) ยิ้มอยู่
   

“Yes! I will come tonight, but I don’t have ทิก ทิก ทิกเกด อะ I find อยู่” แซ็คมองใบหน้าขาวผ่องที่กำลังยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็ก ๆ บนแก้มด้วยความรู้สึกอดทน ก็ไม่ถึงกับต้องอดกลั้น แต่ก็ยอมรับว่าอยากจับไอ้เด็กคนนี้มาเขย่า ๆ แล้วเหวี่ยงไปกระแทกกับผนังจัง ๆ สักที
   

ยิ่งคิดว่าถ้าตอนที่มันเรียกชื่อเขามีคนอื่นนอกเหนือจากเพื่อนตัวเองอยู่ด้วย มันยิ่งน่าหงุดหงิดใจ
   

“เฮ้ เดี๋ยวฉันจะเอาบัตรมาให้ ราคา xxx บอกเพื่อนนายเตรียมเงินไว้ด้วย ราคานี้ครึ่งนึงจากราคาบัตรจริง บอกเพื่อนนายว่าฉันให้เป็นพิเศษ” แซ็คหันไปพูดกับเดนนี่รัวและเร็วจนไอติมแทบจะฟังไม่ทัน จับคำศัพท์ได้ไม่กี่คำเท่านั้นเอง แต่ก็พอรู้ว่าแซ็คกำลังสื่อสารกับไอ้เดนเรื่องบัตรอยู่
   

“Wait here. (รอนี่)” แซ็คหันกลับมาบอกไอติมแล้วลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่นั่ง มองรอยยิ้มกว้างของไอติมอย่างเรียบเฉยก่อนหมุนตัวเดินออกไป ไอติมมองตามร่างของแซ็คด้วยหัวใจที่เบ่งบาน ไม่คาดคิด ไม่คิดฝันจริง ๆ ว่าจะได้มานั่งคุยกับขวัญใจตัวเองแบบไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย ก่อนหน้านี้ก็คิดบ้างว่าที่งานมีทแอนด์กรีทในแอลเอยังไงก็ต้องได้คุย เพราะเขามีบัตรวีไอพีขนาดนั้น แต่ไม่คิดว่าจะได้คุยกันก่อนงานมีทอีก
   

“ไอ้เดนนน มึงเห็นมั้ย ๆ กูได้เจอแซ็คแล้ว”
   

“กูไม่ได้ตาบอดมั้ยล่ะ แล้วกูก็ช่วยมึงแปลอยู่นะไอ้ห่าติม” ไอติมยิ้มระรื่นชื่นมื่น ยกมือปรบเปาะแปะราวกับเด็ก
   

“หล่อกว่าที่กูเห็นในไลฟ์อีกอะมึง เซ็กซี่โคตร เห็นแล้ว…” ไอติมทำหน้าเหมือนคนกำลังกินของเปรี้ยวเผ็ดเข็ดฟัน เดนนี่รู้สึกเครียดนิดหน่อยเพราะบรรยากาศในนี้ดูจะไม่เหมาะกับตัวเอง ส่วนไอ้ติมมันคงอยู่ถูกที่ถูกทางของมันแล้วละ แถมยังรู้สึกว่ามันจะยิ่งเพิ่มเลเวลความอยากเสียตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก
   

“มึงเตรียมเงินไว้ให้เขาด้วย เขาจะเอาบัตรมาให้มึง…” เดนนี่บอกจำนวนเงิน ไอติมเปิดกระเป๋าเป้แล้วควานหากระเป๋าตังค์
   

“…แล้วมึงไปรู้ชื่อจริงเขาได้ไง มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเลยนะ ท่าทางเขาไม่พอใจด้วย” ต้องเตือนสักหน่อย เผื่อมันเอาแต่ดีใจจนลืมสังเกตรายละเอียดเรื่องอารมณ์ของขวัญใจมันไป
   

“กูบอกไม่ได้หรอก สัญญาต้องเป็นสัญญา” ไอติมหน้าหงอยลงเล็กน้อย ไม่ได้คิดจะมีความลับกับเพื่อน หรือปิดเป็นลับลมคมในกับแซ็ค แต่ก็ลำบากใจจะตอบคำถามนี้จริงๆ
   

“แสดงว่ามีคนบอกมึงมา” ไอติมเงียบ ทำเนียนตีหน้ามึน ๆ ก่อนจะเนียนเบี่ยงประเด็นเรื่องที่มาของชื่อแซ็ค
   

“เรื่องชื่อนี่มันสำคัญมากเลยเหรอ กูหมายถึงมันเป็นเรื่องต้องห้ามงี้เหรอ” ไอติมกระซิบถาม สีหน้ามีความสงสัยจริง ๆ ว่ากันตามตรง ตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องวัฒนธรรมตะวันตกอะไรนักหนา เรียนภาษาอังกฤษก็แค่ขั้นพื้นฐาน ยังดีที่ได้ซีบวกมา มีอยู่ครั้งนึงเคยได้บีก็ดีใจจะตายแล้ว
   

“โอ่โห นี่มึงเพิ่งมาถามเหรอเนี่ย” ไอติมหน้างอเล็กน้อย หันไปมองฝรั่งอีกสามคนที่กำลังนั่งคุยกัน หนึ่งในนั้นเป็นคนผิวขาว ตาสีดำ ตัวสูงและล่ำ ผมสีน้ำตาลเข้ม กำลังส่งยิ้มทักทายมา ไอติมยิ้มฉีกยิ้มกว้าง ฝรั่งคนนั้นยิ้มขำน้อย ๆ แล้วกลับไปคุยกับเพื่อนต่อ ไอติมเลยหันกลับมาหาเพื่อนตัวเองบ้าง
   

“กูไม่รู้นี่” ร่างผอมว่าเสียงอ่อน
   

“มึงโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ซัดหน้ามึง”
   

“ก็อาจารย์ที่โรงเรียน แล้วก็ที่มหา’ลัย เขาให้เรียกชื่อจริงนี่หว่า กูก็นึกว่าเรียกได้กับทุกคน”
   

“อันนั้นอาจารย์ เขาต้องการให้เราสนิทกันเพื่อจะได้เรียนแบบไม่เครียด”
   

“แล้วเรียกชื่อไม่ได้เลยเหรอ”
   

“มันก็เหมือนกับคนไทยแหละที่บางคนเล่นหัวได้ บางคนถือมาก” ไอติมนึกสักแปบก่อนจะพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความเข้าใจ สีหน้ามีความกังวลใจเล็ก ๆ ให้เดนนี่สบายใจว่าเพื่อนไม่ได้ปล่อยชิลแบบที่ชอบทำ
   

“แล้วถ้าเขาไม่พอใจ เขาจะเอากูมั้ยวะเดน” เดนนี่ชะงัก มองสีหน้าครุ่นคิดคิ้วมุ่นของเพื่อนด้วยความไม่แน่ใจว่าสีหน้านั้นของมันคือกำลังเครียดกับประเด็นที่มันถามอยู่ใช่มั้ย ซึ่งจากที่รู้จักกันมา เขาว่าใช่
   

“มึงอย่าเพิ่งคิด…” เดนนี่หยุดพูดเพราะเห็นว่าไอ้หัวทองตัวล่ำเดินกลับมาพร้อมกับผู้ชายผิวสีตัวสูงใหญ่พอ ๆ กันพร้อมกับบัตรแข็งในมือ
   

“หมอนี่จะมาดูโชว์ด้วย ฉันฝากดูแลอย่างที่บอกหน่อย” ผู้ชายผิวสีหัวเกรียนมองหน้าไอติมนิ่งอยู่พักนึงก่อนจะหันไปมองหน้าแซ็คแล้วพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ส่วนคนโดนมองหน้าก็… 


ยิ้มอย่างเดียว
   

“This is your ticket. For you and your friend. (นี่บัตร ของนายกับของเพื่อนนาย)”
   

“Only him. I’m not coming tonight. (แค่เขา คืนนี้ผมไม่ได้มาด้วย)” แซ็คนิ่งไปสักแปบก่อนจะพยักหน้าขึ้นแล้วยื่นบัตรแข็งไซซ์เท่าบัตรแข็งคอนเสิร์ตของนักร้องต่างประเทศคนหนึ่งที่ไอติมเคยไปตอนสมัยมหาวิทยาลัย
   

“Thank you! This is money! (ขอบคุณ อันนี้เงินฮะ!)” ไอติมยื่นเงินในมือให้แซ็คพร้อมกับยิ้มเริงร่า ฝรั่งหัวทองรับเงินไว้ในมือ ใบหน้าเรียบนิ่ง มองคนตัวเล็กกว่าด้วยสายตาไร้อารมณ์
   

“See you tonight. (เจอกันคืนนี้)” แซ็คยกยิ้มมุมปากเพียงนิด ไอติมยิ้มกว้างและพยักหน้ารัว ๆ พร้อมกับยืนขึ้นด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง
   

“Hug you ได้มั้ยอะ hug” ไอติมกางแขนออกและทำท่ากอด มองแซ็คตาเป็นประกาย คนถูกถามกระตุกยิ้มหนึ่งที พยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไอติมยิ้มกว้างและไม่รอช้า กระโดดกอดแซ็คเต็มวงแขนตัวเอง แนบแก้มกับอกแน่น ๆ ด้วยความระริกระรี้ สีหน้าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก
   

“โอ้ววว ๆ แน่นมาก ของจริงฟินเว่อออ” เดนนี่อยากกุมขมับกับอาการตื่นเต้นของเพื่อนที่เรียกสายตาของคนในห้องให้หันมามองได้หมดเป็นตาเดียว แซ็คยกมือขวาตบไหล่คนตัวเล็กที่สูงเท่าไหล่เขาพอดีด้วยท่าทีฝืนๆ
   

“Okay. I have to go to work. (เอาล่ะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว)” ถ้าไม่ติดว่าต้องเตรียมงาน เตรียมตัว แซ็คก็ยังไม่คิดจะปล่อยให้ไอติมกลับไป แต่ไม่เป็นไร เขาคิดไว้แล้วว่าจะต้องทำยังไงต่อ
   

ต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้เด็กนี่รู้ชื่อเขาได้ยังไง แล้วมันมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า
   

ไอติมผละออกจากตัวแซ็ค ยิ้มกว้างด้วยความสุขใจ ชูบัตรที่เพิ่งได้มา “See you, Zac—.” ชื่อที่กำลังจะหลุดออกจากปากชะงักหายไปเพราะสองนิ้วของฝรั่งตัวใหญ่ทาบลงบนริมฝีปากสีแดง ไอติมเบิกตากว้าง สายตาเลื่อนลงมองนิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือขวาอันใหญ่เกือบเท่าหน้าตัวเองที่แตะอยู่บนปากด้วยความตื่นเต้นและหัวใจก็เต้นตึกตัก
   

“Please call me Bryan. (เรียกฉันว่าไบรอั้นเถอะ)” ไอติมเลื่อนสายตาขึ้นมองแซ็คทั้งที่ยังตะลึงอยู่ แต่ก็พยักหน้ารัว ๆ อย่างไม่มีอิดออด แซ็คกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจแล้วปล่อยมือออกจากปากคนตัวเล็ก ไอติมยกมือขวาขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเอาไว้ ใบหน้าขาวผ่องเต็มไปด้วยความดีใจ
   

“เหมือนโดนจูบเลยอะ” ไอติมพึมพำเป็นภาษาไทย เดนนี่ได้ยินก็กลอกตาเอือม ๆ กับจินตนาการของเพื่อน
   

“Okay. I have to really go. (โอเค ฉันต้องไปจริง ๆ แล้ว)” แซ็คหันไปคุยกับหนุ่มผิวสี เดนนี่ได้ยินขวัญใจไอ้ติมบอกชายผิวสีว่าให้ไปส่งเขาสองคน เขาเลยลุกขึ้นยืนแล้วกวักมือเรียกเพื่อนให้เดินตามออกมา
   

“ไปไหนอะเดน”
   

“เขาจะทำงาน เขาไล่มึงกลับแล้ว ออกมาเลย”
   

“เขาไล่จริงดิ”
   

“เขาจะทำงาน มึงอย่าไปกวนเขาเลยน่า” ไอติมทำปากยื่น หันไปจะมองแซ็คแต่ก็เจอกับหนุ่มผิวสีตัวใหญ่กำลังเดินตามมาแทน เขาหันกลับมามองด้านหน้า รีบเดินตามเดนนี่ออกไปจากห้อง
   

เดนนี่พาไอติมเดินกลับมาบริเวณในร้านตามเดิมแล้วเดินตัดไปทางประตู มีชายผิวสีเดินตามหลังมาอีกที เดนนี่เปิดประตูให้ตัวเองกับเพื่อนก่อนหันไปขอบคุณผู้ชายผิวสีคนนั้น
   

“ไม่มาดูกับกูจริง ๆ เหรอเดน”
   

“มึงจะบ้าเรอะ กูไม่ได้ชอบดูผู้ชายแก้ผ้านะ”
   

“แล้วกูจะพูดกับเขารู้เรื่องมั้ยอ่า” ไอติมว่าอย่างเป็นกังวล
   

“ไม่รู้เรื่องก็ใช้กูเกิ้ลทรานสเลท มั่ว ๆ หน่อย แต่ก็ได้อยู่...” ไอติมมองหน้าเพื่อนแบบไม่มั่นใจนัก
   

“…ที่มึงพูดเมื่อกี้ก็ดีแล้วนะ มึงเพิ่งมาถึงวันแรก พูดได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้ว กล้าที่จะพูดนั่นแหละดี มึงจะได้เก่ง มึงไม่ต้องกลัวว่าคนที่นี่เขาจะขัดคอมึงเรื่องแกรมม่าหรอก เขาไม่ใช่คนไทย” ไอติมคลี่ยิ้มด้วยความอุ่นใจและพยักหน้ากับคำบอกของเพื่อน
   

“กูแค่อุ่นใจเวลามีมึงอยู่ด้วยอะ” เดนนี่กลอกตา แต่จริง ๆ คือทำแก้เขินไปงั้น
   

“เมื่อกี้กูขอบใจมึงมากที่มึงไม่จู่โจมขอให้เขาเอามึง”
   

“แหม กูก็รู้จังหวะหรอกน่าเดน แต่ไม่ต้องห่วง กูบอกเขาแน่นอน” ไอติมยิ้มระริกระรี้ยิ่งกว่าปลาทุกชนิดได้น้ำ
   

“เออ อันนี้กูเชื่อ” เดนนี่เดินนำเพื่อนไปที่รถ ไอติมเดินไปขึ้นฝั่งของตัวเอง พอปิดประตูรถและสตาร์ทรถได้ เดนนี่ก็ขับออกไปจากบริเวณหน้าร้าน
   

“ยังไงมึงก็ต้องระวังตัวด้วย มึงเคยเจอเขาแต่ในหนังโป๊ของมึง ยังไม่รู้จักเขาดี” เดนนี่เห็นสีหน้าท่าทางของไอ้แซ็คอะไรนั่นหมดแหละ ท่าทางมันดูหงุดหงิดแต่ก็ซ่อนมันไว้อย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าจะซ่อนได้หมด
   

“มึงคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีเหรอ”
   

“กูไม่รู้หรอก แต่กูก็ไม่คิดไว้ใจคนที่เพิ่งเจอกันวันเดียว” เขาไม่แน่ใจว่าไอติมมันเก็บเอามาใส่ใจแค่ไหนกับท่าทีของไอ้แซ็คที่ดูไม่พอใจ แต่ก็ทำท่าเอาใจมันเหลือเกิน
   

“วันเดียวที่ไหน ครึ่งวันเองเนี่ย…” เดนนี่หันไปถลึงตาใส่เพื่อนด้วยความงึดเล็กๆ
   

“…แต่กูก็ไม่ได้คิดจะไว้ใจเขาขนาดนั้นสักหน่อย” ไอ้ติมว่าอย่างมั่นใจในตนเองว่ายังไม่ได้รู้สึกอย่างที่บอกเพื่อนจริง ๆ ก็แค่ดีใจที่ได้เจอ ได้กอดและรู้สึกดี รู้สึกฟิน


โอเค รู้สึกดีมาก มากจนไม่คิดอะไรเยอะแยะ
   

“แต่ดูมึงเต็มใจพร้อมพลีกายให้มันเร็ว ๆ นี้เหลือเกินนะ”
   

“แหม ไอ้เดน อันนั้นมันเป้าหมายกูนี่หว่า กูมานี่ก็เพราะเหตุผลนี้”
   

“เออ พลีกายให้ อย่าเผลอพลีใจให้มันล่ะ” เดนนี่กลัวใจเพื่อน มันเป็นคนโสด ไม่เคยคบใคร มีคนมาจีบมาชอบมันก็ไม่รู้ตัว เรื่องความรักถือว่าไอ้ติมเป็นมือใหม่ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่ามือใหม่หัดขับรถอีก เขากลัวมันจะใจง่ายให้มากกว่าร่างกาย ถ้ามันเบรคตัวเองได้ก็ดีไป
   

“ไม่เผลอหรอก กูให้ด้วยความเต็มใจ พอ ๆ กับกายอะแหละ คิๆๆ”
   

ถ้าฝันของมันเป็นเรื่องของงานล่ะก็ มันต้องประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

   
   



ก่อนจะกลับเข้าบ้าน เดนนี่ก็ถือโอกาสพาไอติมทัวร์เมืองซานฟรานฯ และบอกเล่าข้อมูลที่เขาคิดว่าไอติมควรจะรู้ไว้ อย่างพวกการเดินทาง อาหารการกินนอกบ้าน แหล่งท่องเที่ยว สิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรทำในเมืองแห่งนี้ ทั้งตามกฎหมายและเพื่อความปลอดภัยของชีวิต แต่ก็ไม่ได้บอกเป็นเรื่องเป็นราวยาวเหยียดเพราะเดี๋ยวไอติมมันก็ย้ายไปอยู่อีกเมือง
   

“แล้วมึงเคยไปแอลเอมั้ยเดน”
   

“เคย แต่ยังเที่ยวไม่ทั่ว”
   

“กูควรไปพักที่ไหนดีระหว่างที่อยู่ที่นั่นอะ” ไอติมถามพลางเลียไอศกรีมโคนสตรอว์เบอร์รี่ที่เดนแวะให้ซื้อระหว่างที่ขับรถผ่านในโซนดาวน์ทาวน์
   

“กูก็ไม่รู้ คงต้องหาว่ามีที่ไหนให้พักแบบรายเดือนแค่เดือนเดียวบ้าง” ไอติมเลียไอศกรีมหน้านิ่ง กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแบบที่ก็ไม่รู้ว่าประเด็นของความคิดคืออะไร
   

“เดือนเดียวคงพอแหละเนาะ” ไอติมพูดแบบลอย ๆ พูดแบบไม่แน่ใจ
   

“ไม่พอก็ต้องพอ มึงบอกว่าจะกลับไทยก่อน…” ไอติมหันไปมองหน้าเดนและกะพริบตาปริบ ๆ เดนนี่ทำตาโตใส่เพื่อนพลางหักพวงมาลัยไปตามถนนที่มุ่งไปหาสะพานโกล์ดเด้นท์เกจ
   

“…ถ้ามึงไม่กลับ กูนี่แหละจะแจ้งตอมอให้ไปจับมึงถึงที่”
   

“เลวอะ” ไอติมเบะปาก เดนนี่ทำหน้าเอือม ขับรถขึ้นไปบนหน้าผาชมวิวสะพานสีแดงอันโด่งดังที่มักใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์มากมายหลายเรื่อง ไอติมมันอยากมาเห็นเลยแวะพามาดู พอรถจอดสนิทมันก็เปิดประตูแล้ววิ่งปรู๊ดไปทางจุดชมวิวสะพาน เดนนี่เดินตามมาอย่างไม่เร่งรีบเพราะเห็นจนชินตาแล้ว
   

“ก็สะพานสีแดง ๆ ที่ใหญ่แล้วก็ยาวมากเฉย ๆ ป้ะ”
   

“อ้าว แล้วมึงจะให้มันพิเศษอะไรมากกว่านั้นล่ะ” ไอติมยังไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนทันที ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองสะพานสีแดงตัดกับเมฆสีขาวที่ลอยเอื่อย ๆ อยู่เหนือสะพาน
   

“ก็กูเห็นมันดัง นึกว่ามันจะมีอะไรว้าว” หลายครั้งที่เดนนี่ก็รู้สึกเหนื่อยกับความคิดความอ่านของเพื่อน
   

“สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงมันไม่ค่อยไปในทางเดียวกันหรอก…” เดนนี่มองเพื่อนที่กำลังมองสะพานแบบไร้จุดหมาย
   

“…มึงอาจจะคิดว่ามันสวยงาม แต่จริง ๆ ไม่ใช่” ไอติมหันมองหน้าคนพูด เดนนี่มองหน้าเพื่อน หวังว่าเพื่อนจะ…
   

“สะพานก็สวย แต่แค่นึกว่ามันจะมีอะไรกว่านี้ไง” …หวังมากไป
   

เดนนี่มองเพื่อนด้วยความเอือม ไอติมย่นคิ้วทำหน้างง สุดท้าย เดนนี่ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับความมึนของเพื่อนเหมือนเคย “เออ ตามนั้นแหละมึง”
   

“เดนเป็นไรเปล่าอะ”ไอติมถามด้วยความฉงนสงสัยและเป็นห่วง เดนนี่ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ
   

“ไปอยู่แอลเอคนเดียว จะคิดจะทำอะไรมึงก็ใช้ชีวิตให้ระวังหน่อย” ไอติมยิ้มกริ่ม แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีเทา
   

“แต่ชีวิตเราก็สั้นนะเดน เผลอ ๆ สะพานยังยาวกว่าอีก”
   

“มึงเอาอะไรมาวัดว่าสะพานยาวกว่าชีวิต” ไอติมหันจากท้องฟ้าไปมองหน้าเพื่อนแล้วส่ายหัวหน้านิ่ง
   

“ไม่รู้ เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เหรอ”
   

“=_=” เดนนี่เหมือนโดนดูดพลังงานชีวิตไปครึ่งนึงโดยระบบความคิดของเพื่อน จะว่ามันเพี้ยนก็ไม่ใช่ แต่จะบอกว่าสมประกอบเต็มร้อยก็ไม่เต็มปากอีก
   

“เนี่ย มึงเริ่มจากคืนนี้เลย ระวังคืนนี้ก่อนเลย”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2019 19:35:47 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
รู้สึกสงสารน้องไอติมยังไงไม่รู้แฮะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใครหว่าที่เอาชื่อจริงแซ็คไปบอกไอติมนะ ไอติมก็โลกสวยไปหมดเนอะ ไม่รู้ว่าอีพี่จะกินหัวเข้าให้แล้ว  :เฮ้อ:
ปะหน้ากันอีพี่ก็ตาขวาง ส่วนอีน้องก็ตาเชื่อม แต่ดันคุยกันรู้เรื่อง น่ารักดี  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด