เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)  (อ่าน 238881 ครั้ง)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
+ ให้ด้วยคนค๊า

ออฟไลน์ ï_Kiss_U♥

  • รักไม่ได้
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
หมอชาลี ชื่อเหมือน ผู้จัดการ จิ้นไปลง ขอเวลาทำใจ ก่อนมาอ่านนะพี่นาย
อ่านทีไรคิดไปถึงหน้าผู้จัดการ แบบว่า  :oak:
555

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
น้องนาวินนนนไม่มีบทเรยยยย  :o12:

prawy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ปมในอดีตกันทั้งนั้น

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
อดีตเป็นยังงายยยยยย :serius2:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป

ไปหามา....


สืบสวน และ สอบสวน
คำว่า สืบสวน ประกอบด้วยคำว่า สืบ กับคำว่า สวน.  คำว่า สืบ หมายถึง เสาะหา, แสวงหา  
สืบสวน หมายถึง แสวงหาข้อเท็จจริงด้วยวิธีการต่าง ๆ  ส่วน สอบสวน หมายถึง หาข้อเท็จจริงด้วยการซักถา
ที่มา :  บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย"  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.
ความหมายยาวๆ ต้องดูใน ป.วิอาญา ม.2 (10) ค่ะ

ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามครับ ชัดแจ้งดีจริงๆ เพราะถ้าให้ผมตอบเองก็คงได้อะไรประมาณนี้ว่า
สืบสวนทำกับสิ่งต่างๆ
สอบสวนทำกับคน (สังเกตจากคำว่า สวน)  :z1:
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ และขอบคุณคนที่ซื้อหนังสือ คดีรัก 1 นะครับ เดือนนี้ขายได้ตั้งสองเล่มแล้วแน่ะ อีกไม่นานเกินรอก็คงได้เงินพอซื้ออแดปเตอร์โน๊ตบุ๊ค  :sad11: คิดแล้วอยากมีแฟนรวยๆ เหมือนกับสารวัตรอธิคมของคุณนุหรือไม่ก็คุณธีรดนย์ของวิธวินท์

เพลิงรัก บทที่ 7

พันตำรวจตรีกัณต์เดินเข้ามาใน The Odyssey Fitness Center แล้วกวาดตามองไปรอบๆ  วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาในยิมหรูหราซึ่งสมาชิกต้องจ่ายเกินถึงห้าหมื่นบาทในแต่ละปีเพื่อมาออกกำลังกาย แต่สำหรับเขาวันนี้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเพราะมั่นใจว่า ‘งาน’ ของเขาคงจะสำเร็จในวันนี้และคงไม่มีความจำเป็นที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง
เมื่อคืนนี้หลังจากเข้าไปดูข้อมูลของนายแพทย์ชาลีในแฟ้มประวัติบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน พ.ต.ต. กัณต์ได้รับมอบหมายงานทางโทรศัพท์จากผู้บังคับบัญชา นี่เป็นเหตุผลที่เขามาปรากฎตัวในฟิตเนสหรูหราแห่งนี้
...
“ผมนึกว่าจะให้มือหนึ่งของ DSI ทำ”
“ลุงไม่อยากให้เรื่องมันดัง คดีนี้ผู้ใหญ่อยากให้ทำเงียบๆ” พลตำรวจโท สิทธิชัย ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีศักดิ์เป็นญาตฝ่ายบิดาของกัณต์ตอบ “ผู้ใหญ่อยากให้เราทำ อีกอย่าง มือหนึ่งของ DSI ก็ต้องไปทำงานที่อเมริกาอาทิตย์หน้า ลุงเชื่อมือกัณต์ ลุงต้องการให้คดีนี้จบลงเร็วๆ”
“คุณลุงจะให้ผมทำคนเดียว” กัณต์ถาม
“จะเอาใครในทีมสารวัตรผไทไปช่วยด้วยก็ได้ แต่คดีนี้ต้องทำให้เงียบๆ คุณชายรังสิมันต์กับดอกเตอร์ศิริศักดิ์นั่นไม่หมู กัณต์เป็นมือหนึ่งของลุง ไม่มีใครเหมาะสำหรับงานนี้เท่ากัณต์อีกแล้ว พยายามเข้าให้ถึงตัวคุณชาย”
...ทางเข้าถึงตัวของหม่อมราชวงศ์รังสิมันต์ของเขาคือผ่านทางหม่อมหลวงชายชล ลูกชายคนโปรดของท่านชายรังสิมันต์...
...และหากเข้าถึงตัวหม่อมราชวงศ์รังสิมันต์ เขาก็อาจได้ข้อมูลเกี่ยวกับเพชรสีขาว 50 กะรัตซึ่งหายไปจากตู้เซฟของ อาเหม็ด ชาฟาล เจ้าหน้ากุงศลอาวุโสของสถานทูตซีเรียซึ่งถูกฆาตรกรรมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา...
ชายชลเป็นหนุ่มสังคมที่เพิ่งเรียนจบจากอังกฤษและดูแลบริษัท Eternity ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งของหม่อมราชวงศ์รังสิมันต์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเพชรพลอย ชายหนุ่มศึกษาชั้นมัธยมในโรงเรียนนานาชาติและมักจับกลุ่มกับลูกๆ ของนักการทูตที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย

หม่อมหลวงชายชลจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังยกน้ำหนักอยู่มุมห้องด้วยความสนใจ ชายหนุ่มหน้าใหม่รูปร่างหน้าตาดีคนนี้เขาไม่เคยเห็นหน้า ถามใครก็ไม่มีคนรู้จัก ผู้ชายมาดแมนรูปร่างสูงมาก ไม่ต่ำกว่า 185 เซ็นติเมตร ใบหน้าคร้ามคม ผิวเข้ม ผมตัดสั้น บุคลิกดี ดึงดูดความสนใจของเขาจนไม่อยากทำอะไรนอกจากนั่งมอง
ชายชลคิดหาวิธีทำความรู้จัก ทันใดก็นึกออก ในยิมแบบนี้ไม่มีวิธีไหนจะเหมาะไปกว่าแกล้งยกดัมเบลล์แล้วทำท่าจะหลุดจากมือเพราะยกไม่ไหว แล้วชายหนุ่มกล้ามแกร่งคนนั้นก็คงรีบเข้ามาช่วย คิดได้ดังนั้น ชายชลจึงเอนตัวนอนลงกับเบาะ หยิบดัมเบลล์ข้างละ 30 ปอนด์ขึ้นมาแล้วดันขึ้นพร้อมๆ กัน ส่งเสียงนิดหน่อยเพื่อนให้คนอยู่ข้างๆ หันมามอง
ได้ผล หน่มหล่อมาดแมนปรายตามามองแวบหนึ่งแล้วหันไปยกน้ำหนักของตัวเองต่อก่อนจะวางดัมเบลล์ขนาดใหญ่ลง
...ตอนนี้ล่ะ ต้องกางแขนออกกว้างๆ ทำเป็นว่าดัมเบลล์จะหลุดมือหล่นลงพื้นแล้วอัศวินขี่ม้าขาวก็จะเข้ามาช่วย...
ดัมเบลล์ที่ชายชลยักอยู่เริ่มจะรู้สึกหนักขึ้นมาจริงๆ เพราะเวลาผ่านไปกว่าครึ่งนาที ชายหนุ่มกัดฟัน พ่นลมหายใจแล้วดันน้ำหนักขึ้น จากนั้นทำท่าจะรับน้ำหนักไม่ไหว แขนสั่นแล้วเริ่มโอนเอน
“โอ๊ย...” ชายชลร้องเบาๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ หางตาด้านขวาพลันเห็นมีชายหนุ่มหน้าจืดตาตี่คนนึ่งยืนจดๆ จ้องๆ เหมือนจะเข้ามาช่วย หม่อมหลวงหนุ่มได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้หนุ่มคนนี้เข้ามาหาเลย หนุ่มห้าวมาดแมนคนนั้นต่างหากที่เขาต้องการ
โชคเข้าข้าง ชายหนุ่มที่ชายชลหมายตาไว้หันมาเห็นแล้วรีบขยับเข้ามาช่วยเขาทันที มือแข็งแรงแตะที่ข้อมือของราชนิกูลหนุ่มแล้วดันให้ตั้งตรงนิ่ง พลางก้มหน้าลงถามว่า
“ไหวไหมครับ ถ้าไม่ไหวผมจะยกออกให้นะครับ” เสียงห้าวทุ้ม ลมหายใจมีกลิ่นมินต์อ่อนๆ แทบจะทำให้ชายชลละลาย
หม่อมหลวงหนุ่มพยักหน้าแล้วพยายามดันดัมเบลล์ขึ้น ชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยเลื่อนมือลงมาตามท่อนแขนของชายชลเพื่อนมาดันใต้ศอกและช่วยหนุนเอาไว้ สัมผัสแผ่วเบาทำให้คนที่กำลังยกน้ำหนักรู้สึกวูบวาบเหมือนโดนนายด้วยเหล็กเผาไฟ ลมหายใจอุ่นๆ เหนือศีรษะของเขาทำให้ชายชลหมดแรงทันที แขนอ่อนปวกเปียก
กันต์รีบละมือไปยกดัมเบลล์ทั้งสองข้างออกจากมือของชายชลซึ่งท่าทางจะยกไม่ไหว นายตำรวจหนุ่มอมยิ้มแล้ววางดัมเบลล์ลงกับพื้น จากนั้นก็รอจังหวะแนะนำตัว
“ขอบคุณครับ” ชายชลยังนอนแผ่หราอยู่บนม้ายกน้ำหนัก ทำปากห่อและสูดอากาศเข้าปอดแรงๆ ตามองต้นขากำยำของชายหนุ่มที่ยืนเด่นอยู่เหนือศีรษะเขา
“คุณยกหนักเกินไป ยกแค่สองครั้งก็ไม่ไหวแล้ว ผมว่าลดลงาเหลือลูก 20 ปอนด์ดีกว่านะครับ แล้วท่ายกไม่ถูก” กัณต์พูดยิ้มๆ ยืนเท้าสะเอวก้มหน้าลงมองชายชล ขากางออกเล็กน้อย จงใจอวดร่างกายเต็มที่
...งานนี้หมูกว่าที่คิด ไม่ผิดจากที่เดาเอาไว้เลยซักนิด ชายชลหลงเสน่ห์เขาตั้งแต่ยังไม่ได้เข้ามาทำความรู้จักด้วยซ้ำ...
แรกที่เห็นในรูปภาพและจากที่ได้เรื่องเกี่ยวกับหนุ่มไฮโซคนนี้นั้นกัณต์ยังไม่แน่ใจในตัวชายชลเท่าใดนัก แต่ความสงสัยเพียงน้อยนิดก็กระจ่างเมื่อเห็นชายหนุ่มเดิมเข้ามาในสถานที่ออกกำลังกายชั้นนำกลางกรุง สายตาวิบวับของชายหนุ่มที่มองไปรอบๆ และหยุดอยู่ที่เขาทำให้กัณต์รู้ทันทีว่า ‘งาน’ ของเขาคง ‘ง่าย’ ขึ้นอีกเยอะ และโชคก็เข้าข้างเขาแล้ว
พันตำรวจตรีกันต์ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงช่วยแนะนำชายชลออกกำลังกาย เพียงเท่านั้นชายหนุ่มก็ทำตัวสนิทสนมราวรู้จักกับเขามาเป็นเดือนๆ และตามมาด้วยการชวนไปทานข้าว
“ร้านเพื่อนชายเองครับ it’s the best ever ที่หลังสวน มี personal parking spot ด้วยนะครับ ทานข้าวเสร็จ ถ้ายังไม่อยากกลับบ้าน เราก็ไปหาอะไรดื่มกัน”
“ผมไม่ได้เอารถมา คงไม่สะดวก” กัณต์พูดยิ้มๆ
“No worry ชายไปส่ง บ้านอยู่ไหน ชายไม่เกี่ยง” ชายชลยิ้มกว้าง ยื่นมือไปแตะต้นแขนของกัณต์อย่างหลงไหล

นายแพทย์ชาลีจอดรถริมถนนและหันไปบอก ‘น้องชายคนใหม่’ ให้นั่งคอยอยู่ในรถเพราะเขาจะเข้าไปในผับเพื่อตามตัวนายแพทย์เอกภพ โรงพยาบาลพยามติดต่อเอกภพเพราะมีคนไข้ฉุกเฉินแต่ติดต่อไม่ได้ พยาบาลประจำวอร์ดซึ่งรู้จักกันดีจึงติดต่อเขาเพื่อขอความช่วยเหลือเพราะรู้ว่าเอกภพกับเขาสนิทกัน ชาลีรู้ว่าเอกภพมานั่งดื่มกับเพื่อนในผับ High Degree โชคดีเป็นทางผ่านเขาจึงใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็มาถึง
“ล๊อครถนะ นั่งอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน อย่าเปิดรถให้ใคร” ชาลีหันไปสั่งนาวินจนอีก่ายทำหน้ามุ่ย
“พี่หมอ ผมโตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ใช่เด็ก พี่รีบไปเถอะ”
ชาลีถอนหายใจแล้วรีบวิ่งข้ามถนน อดยิ้มขำตัวเองไม่ได้ว่าเขาก็ยังมองว่านาวินเป็นเด็กอยู่ร่ำไป รู้สึกว่าเหมือนเห็นน้องชายตัวเล็กๆ
เมื่อก้าวขึ้นเหยียบฟุตบาธของถนน นายแพทย์หนุ่มก็ชะงักเมื่อเห็น ‘คู่ปรับเก่า’ เดินเคียงคู่มากับชายหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดีที่ยิ้มกว้างตาหยีราวกับว่ากำลังมีความสุขยิ่งนัก
...ไหนว่าเราเลี้ยงต้อย นิยมเด็ก ตัวเองก็ไม่ต่างกัน เด็กคนนี้บรรลุนิติภาวะหรือยังก็ไม่รู้ จะว่าไป ช่องว่างระหว่างวัยอาจมากกว่าเรากับนาวินด้วยซ้ำไปเพราะกัณต์คงอายุมากกว่าเขาตั้งหลายปี...
ชาลีนึกหมั่นใส้นายตำรวจปากร้ายขึ้นมาทันทีจึงเดินเฉียดเข้าไปใกล้ๆ แล้วทักทายเสียงเรียบๆ ก่อนจะรีบเดินหนีไป
“สวัสดีครับหมวด”

กัณต์สะดุ้งที่จู่ๆ ก็มีคนมากล่าวทักทายใกล้หู เขาหันขวับทันทีเพราะจำเสียงใด้ ทว่า คนที่ทักทายเขารีบเดินไปเสียแล้ว แต่กัณต์ก็ทันได้เห็นรอยยิ้มเยาะๆ ที่มุมปากของฝ่ายนั้น
...หมอชาลี มาทำอะไรที่นี่ ทักแล้วรีบเดินหายเข้าไปในผับ...
“ใครครับ” หม่อมหลวงชายชลถาม “So weird แล้วทำไมเรียกคุณว่าหมวด แสดงว่าคุณเป็น”
กัณต์ยิ้ม ยืนนิ่งไม่ตอบอะไร มองประกายตาชองชายหนุ่มตรงหน้าที่ฉายวาบขึ้นด้วยความพึงพอใจ
“Oh my gosh คุณเป็นตำรวจก็ไม่บอก unbelievable ไม่น่าเชื่อ fantastic ที่สุดเลย ชายรู้จักกับผู้ชายในเครื่อง เท่ที่สุด a man in uniform ชายคลั่งคนในเครื่องแบบมากถึงมากที่สุดเลยรู้ไหมครับ so sexy” ชายชลทำเสียงตื่นเต้น ทำท่าเหมือยอยากจะกระโดดกอด ‘คนในเครื่องแบบ’ ที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ “ทำไมไม่บอกชายว่าเป็นตำรวจ”
“ก็คุณชายไม่ได้ถาม” กัณต์ยิ้มแล้วหันไปมองประตูผับ High Degree แล้วหันมาถามชายชล “อยากดื่มอะไรไหมครับ ผมว่าเราไปหาอะไรดื่มกันดีกว่า”
“No no no ไม่เข้า High Degree เด็ดขาด ผับนี้ so yesterday มีแต่คนแก่ น่าเบื่อ ไปที่อื่นนะครับ ชายรู้จักดี” ชายชลทำท่าขนลุกราวกับเห็นอะไรน่าเกลียดน่ากลัว “ไป Berserk ดีกว่า มันส์กว่าเยอะ เดี๋ยวชายแนะนำให้รู้จักเพื่อนๆ คราวนี้ล่ะพวกนั้นต้องรู้สึก green with envy ที่ชายรู้จักกับ a law enforcement officer แล้วถ้าคุณไม่จุใจ วันเสาร์เราค่อยไปที่ The Dazzle ชายอยากเป็น the spot light guy คืนวันเสาร์ที่คลับจะส่องสปอต์ไลท์หาแขกที่เท่ที่สุดแล้ว project รูปขึ้นจอ ตื่นเต้นสุดๆ ชายกับเพื่อนเกือบจะฆ่ากันเพื่อวิ่งไล่ตามสปอต์ไลท์เลยล่ะ”
กัณต์พยักหน้าแล้วถามที่ตั้งของสถานที่เที่ยวที่โปรดของชายชล แต่ครั้นทราบว่าอยู่ค่อนข้างไกลจากที่นี่จึงทำหน้ากังวลแล้วพูดว่า “ผมคงไม่ไหว กว่าจะกลับถึงบ้านคงดึก พรุ่งนี้ผมต้องเข้าเวรตีสี่”
“โอ้โห so early ทำไมต้องเช้าขนาดนั้นครบ ตีสี่ ชายเพิ่ง go to bed” หม่อมหลวงชายชลทำตาโต
“ผมเป็นตำรวจนะครับ ต้องทำงาน ไม่ใช่คุณชาย” กัณต์ยิ้มกว้าง อดพูดกระทบไฮโซหนุ่มไม่ได้
“ชายก็ทำงาน แต่ชายไปทำงานตอนไหนก็ได้ no big deal” ชายชลหัวเราะร่วน
“แล้วตอนนี้ผมก็ทำคดีสำคัญอยู่ แทบไม่ได้พัก คดีฆาตรกรรมผู้ช่วยกงศุลซีเรีย เคยได้ยินข่าวไหมครับ” กัณต์ลองถามเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับคดี
“Oh yes เคยสิครับ คุณพ่อรู้จักกันดี เคยทำธุรกิจด้วยกัน นี่ท่านพ่อยังบ่นอยู่เลยว่าน่าเสียดายและโหดร้ายมาก so cruel, so useless ไม่น่าเชื่อ เพราเรื่องเงินตัวเดียวแท้ กะอีแค่เพชรแค่ห้าสิบกะรัต” ชายชลพูดไปพลางทำสีหน้าแสดงความรู้สึกประกอบคำพูดทุกคำ
กัณต์เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่ชายชลทำเหมือนรู้เรื่องดี ความจริงแล้วเขาตั้งใจจะตีสนิทกับชายชลเพียงแค่จะหาทางเข้าไปทำความรู้จักกับท่านชายรังสิมันต์ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าหม่อมหลวงหนุ่มดูจะรู้อะไรดีๆ อยู่ไม่น้อยและสำคัญเป็นคน ‘ช่างพูด’
กันต์กำลังจะอ้าปากถามต่อแต่เหลือบตามองไปเห็นหมอชาลีเดินออกมาจากผับพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง หน้าตาดูคุ้นๆ แต่เขานึกไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน
...ใคร แฟนก็ไม่น่าจะใช่ ชายหนุ่มสวมแว่น ท่าทางติ๋มๆ เหมือนผู้ตาม...
...หรือจะเป็นแฟน...
...แต่ก็อย่างว่า คนกร้าวๆ ร้ายๆ อย่างหมอชาลีก็ต้องหาแฟนที่เป็นช้างเท้าหลัง ลองได้คนที่กร้าวแกร่งพอๆ กันหรือเหนือกว่าคงต้องข่มกันแบบไม่มีใครยอมใคร คนลักษณะอย่างเขาก็ไม่เหมาะ เห็นไหมล่ะ เจอกันทีไรต้องข่มกันทุกที...

ชาลีหันไปมองเอกภพที่เดินตามหลังมาช้าๆ แล้วเร่งเพื่อนด้วยสายตา เอกภพมองแวบเดียวก็เข้าใจเพราะสายตาแบบนี้ชาลีทำบ่อยๆ เมื่อใครทำอะไรไม่ทันใจ
“จะรีบไปไหนเล่า อาการหนักมากนักหรือไง” เอกภพบ่นพร้อมกับก้าวขาให้ยาวขึ้น แต่ก็ยังเดินไม่ทันชาลีอยู่ดี
“ไม่ห่วงตุ๊กตาตัวน้อยหรือเอก ช้าอยู่ได้ รีบๆ ไปนะ อย่าขับรถเร็วล่ะ ขับดีๆ ระมัดระวัง” ชาลีสั่ง
“บอกให้รีบ แต่ให้ขับรถช้าๆ ยังไงกัน” เอกภพโคลงศีรษะ
“เถอะ รีบๆ ไป” ชาลียกมือขึ้นจะดึงแขนเพื่อนให้เดินเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ก็เปลี่ยนใจลดมือลงทันใด เอกภพเดินก้มหน้าไปที่รถโดยมีชาลีเดินไปส่งพลางปรายตาไปมองกัณต์ที่เดินคู่มากับเด็กหนุ่มหน้าใสคนนั้น นายแพทย์หนุ่มยิ้มมุมปากให้ ‘คู่ปรับ’ แบบที่มีแต่เขากับกัณต์เท่านั้นที่จะเข้าใจ
...หลอกเด็กสิท่า ว่าแต่เรา ตัวเองก็ไม่ต่างกัน...
เอกภพปิดประตูรถแล้วเคลื่อนรถออกไปช้าๆ ชาลียกมือขึ้นโบกอำลาและรอจนเอกภพขับรถไปจนลับสายตาแล้วจึงหันกลับเดินย้อนไปทางรถขอตัวเองซึ่งจอดไว้อีกฟากของถนน
เมื่อสวนทางกับพันตำรวจตรีกัณต์ เวโรจน์ คราวนี้เขาทักนายตำรวจยาวกว่าเดิม
“พาน้องมาเที่ยวหรือจะพาน้องกลับบ้านนอนหรือหมวด เสียดาย ถ้ารู้ว่าหมวดมาผมจะเลี้ยงเหล้าซักแก้ว” ชาลีทัก จงใจลดยศของกัณต์ลงมาพรวดพราดเช่นเคย คราวนี้กันต์ไม่แก้ยศของตัวเองให้ถูกต้อง หากยิ้มให้อีกฝ่ายบางๆ แล้วกัดฟันเดินผ่านไป
“หยิ่ง” ชาลีพึมพำแล้วรีบข้ามถนน ไม่รู้ว่าคนที่โดนลดยศนั้นมองตามเพราะได้ยินคำพูดคำเดียวนั้นอย่างชัดเจน
“เพื่อนหรือครับหมวด so weird again ทำไมเขาทักแค่นั้นแล้วก็เดินไปเลย คุยแค่ประโยคเดียว หรือว่าเพื่อนไม่สนิท หรือว่าที่จริงเขาไม่ได้ยากจะทักแต่ก็ต้องักเพราะเจอหน้ากันแบบเลี่ยงไม่ได้” ชายชลถามเสียงเจื้อยแจ้วก่อนจะทำตาโต “โอ้ว ชายรู้แล้ว เขาคงคิดว่าชายเป็นน้องชายสารวัตรแน่ๆ เลย so funny ตลกจริงๆ นี่ยังไม่สามทุ่มเลย จะให้พาน้องกลับบ้านนอนซะแล้ว อืม ถ้าหมวดง่วงชายก็อยากจะนอนตอนนี้ก็ได้นะครับ แต่ว่าชายก็ยังนอนไม่ได้เพราะว่า the night is still young” เช่นเคย ชายชลหัวเราะอย่างร่าเริง แต่คราวนี้ยื่นมือจับแขนกัณต์แล้วดึงให้เดินตาม
“Let’s go”
กัณต์ค่อยๆ ชักมือออกอย่างสุภาพแล้วทำท่าล้วงกระเป๋าหาโทรศัพท์เพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาใคร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายแพทย์ปากร้ายผู้ดื้อรั้นคนนั้นซึ่งทำท่าหมั่นใส้เขาเสียเต็มประดา ทำยังกับว่าเขามาหลอกเด็กแถวหน้าผับซอยหลังสวน
....ตัวเองก็ใช่ย่อย ดูซิ เด็กหนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อคนเดิมนั่งคอยอยู่ในรถทั้งๆ ที่เมื่อครู่เดินออกมาจากผับกับหนุ่มแล้วรีบดันให้หนุ่มหน้าจืดคนนั้นขึ้นรถขับออกไป...
Lexus RX330 สีดำขับผ่านหน้ากัณต์กับชายชลไปโดยเร็ว แต่สายตาตำรวจของกัณต์ทำงานอย่างรวดเร็วมากจึงทันได้สบตาแวบเดียวกับแพทย์ชาลีซึ่งลดกระจกรถลงเมื่อขับรถผ่านไป
...“พาน้องมาเที่ยวหรือจะพาน้องกลับบ้านนอนหรือหมวด เสียดาย ถ้ารู้ว่าหมวดมาผมจะเลี้ยงเหล้าซักแก้ว”...
...พูดออกมาได้ เจ็บใจนัก หมอชาลี คอยดูเถอะ เจออีกที ผมจะให้คุณเลี้ยงเหล้าให้ได้ และจะเอายศผมคืนมาสองขั้น เป็นถึงสารวัตร ถูกลดลงมาเหลือแค่หมวด แล้วนี่เป็นหมวดร้อยตำรวจตรีหรือร้อยตำรวจโทก็ไม่รู้...
***7***

เพลิงรักบทที่ 8

สายตาของ พ.ต.ต. กัณต์จับอยู่ที่ร่างปราดเปรียวของนายแพทย์ชาลีที่วิ่งเหยาะๆ ขึ้นบันไดของสถานีตำรวจ เขาถอนหายใจเบาๆ และเผลอยิ้มมุมปากออกมาเมื่อนึกถึงเมื่อเช้านี้ เขาโทรศัพท์ไปย้ำกับชาลีว่าให้มาถึงเร็วกว่าที่นัดเอาไว้ครึ่งชั่วโมงเพราะต้องเข้าประชุม ชาลียังพยายามต่อรองเรื่องเวลาแต่เขาไม่ยอม
“ผมอยากปิดคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด แล้วการชี้ตัวก็ใช้เวลาเดี๋ยวเดียว ไม่เสียเวลาคุณหมอเท่าไหร่หรอก มีเวลาไปหาเด็กถมเถ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนไม่ใช่หรือครับ” กัณต์ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจึงประชดชาลี แต่จำได้ว่านายแพทย์หนุ่มตัดสายทิ้งทันทีที่เขาพูดจบ ตอนแรกเขาคิดว่าจะโทรกลับไปย้ำอีกแต่ก็เปลี่ยนใจ ขอลุ้นว่าชาลีจะ ‘โผล่’ มาตามเวลาหรือเปล่า
>>>> ต่อไปก็จะเป็นบทที่ 11 นะครับ เพราะเอาบทที่ 6-7 ที่ค้างไว้มาโพสแล้ว จากนั้นก็ต่กลับไปต่อบทที่ 8 9 10 ซึ่งโพสไปแล้ว คราวนี้ก้บทที่ 11ต่อไปจนจบบทที่ 99 (มั๊ง)
โพสกระโดดไปกระโดดมา ง๊ง งง
(อยากลองอ่านบทข้ามบทแบบนี้อีกทีไหมครับ) อิ อิ

ป.ล. อดีตของหมอชาลีไม่น่ารู้นักหรอก (เพราะรู้แล้วจะหนาว)

cipher

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^
^
จิ้มคุณนาย
ขอบคุณ สำหรับบทที่ 6-7 :pig4:
อยากได้หนังสือ คดีรัก 1 ง่ะ
ต้องทำยังไง :serius2:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับสองบท 
อ้าว! นึกว่าหนังสือหมดไปแล้ว
ขอรายละเอียดการสั่ง ผ่าน pm นะครับ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แหม่ ๆ ชายชลนี่ได้ใจจริง ๆ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ชายชล ช่างน่าหมั่นไส้ นัก :beat:



mecon

  • บุคคลทั่วไป
แหม...มาฟิตเนสเพราะหน้าที่จริงๆนะเนี่ย เก๊งเก่งคุณตำรวจ
จะเอาเสือก็ต้องเข้าทางลูกเสือสามานย์ คุณชายนี่แร๊ดแรด ไทยคำอังกิดคำ :m20: :laugh:
สงสัยนี่จบงานนี้คุณตำรวจคงติดใจมาอีกบ่อยๆชิมิเคอะเพราะคู่กรณีก็ติด...ใจที่นี่เหมือนกันๆ
คุ่นี่เจอกันไม่ได้เชียวต้องขอจิกกัดก่อนหน่อย ไมได้ด้วยคำพูดก็ต้องด้วยสายตา แสบทั้งคู่เลยจริงๆอิอิ

+1 คะเป็นกำลังใจให้นะคะ  o13 o13 o13 ตอน99เราก็สู้มะถอย  :กอด1:

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
เขม่นกันไปเขม่นกันมา เรื่องอะไรล่ะเนี่ย

ศรศิลป์ไม่กินกันตั้งแต่แรกพบ หรือ แอบหวังว่าอีกฝ่ายจะมาสนใจแต่บังเอิญว่าผิดหวัง ถึงได้มีรังสีอำมหิตแผ่เข้าหากันตลอด  :fire:

อยากรู้อดีตอันโหดร้ายของหมอชาลีเหมือนที่สารวัตรได้รับรู้จังค่ะ มันจะแรงขนาดไหน

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ไอ้การพูดประชด กันไป ประชดกันมาเนี่ย สักวันจะรู้สึก  :z2:

พี่นายนึกเสียว่าทำบุญกับแฟนคลับนะครับ อย่าให้กระโดดไปกระโดดมาอีกเลย

ถึงแม้จะไม่งง แต่ก็ไม่ดีเท่าไหร่ แม้คราวนี้จะเป็นเหตุจำเป็นก็เถอะ

+ 1 แต้ม ใกล้ 1500 แล้ว  :z1:

morrian

  • บุคคลทั่วไป
เอาแบบต่อเนื่องดีกว่าคับ

แบบย้อนไปย้อนมา อาจเวียนหัวได้

เพราะลำพังยศ และคำนำหน้าชื่อตัวละคร

ของพี่นายแต่ละคนสุดยอดทั้งนั้น  :laugh:

princehoo

  • บุคคลทั่วไป

dek_jun_rai

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ชายชลนี่แม่รีแม่แร่ดจริงๆ

บางบุคลิกทำให้นึกถึงหนูแทนเจ้าเสน่ห์

แต่ไม่ดัดจริตแบบนี้

ขอบคุณคร๊าบคุณนาย

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
 :jul3: อ่านแล้วมึนๆดี 555+
แต่ยังไงก็ขอบคุณที่มาต่อค่ะ :pig4:

ปล.หนังสือคดีรักของเค้าดีจริงๆ สนับสนุนให้เก็บสะสมค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
โดนแขวะเข้าหน่อยทนไม่ได้ ร้อนตัวอ่ะจิสารวัตรรรรรร  :laugh:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
เพลิงรัก บทที่ 11

เย็นวันนี้ชาลีให้นาวินกลับบ้านเอง เมื่อเขากลับถึงบ้าน เด็กหนุ่มนั่งคุยโทรศัพท์อยู่หน้าโทรทัศน์ ท่าทางอารมณ์ดี ครั้นชาลีเดินเข้าไปใกล้นาวินกลับลดเสียงการสนทนาลงและเบือนหน้าออกไปด้านข้าง นายแพทย์หนุ่มทำทีไม่สนใจ ทว่าพยายามเงี่ยหูฟังว่านาวินคุยกับใครและคุย ‘อย่างไร’ ในใจอดตำหนิปนเด็นดูไม่ได้ว่า เด็กหนอเด็ก คิดว่าผู้ใหญ่อย่างเขาจะมองไม่ออกหรืออย่างไร ยิ่งลดเสียงให้ค่อยแล้วเอียงหน้าหลบตาก็จะยิ่งทำให้ผู้ใหญ่สงสัย
ชาลีหยิบขวดน้ำดื่มแล้วเดินออกไปที่ระเบียง ยืนมองแสงไฟระยิบระยับของกรุงเพทฯ หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปได้ไม่นาน ตั้งใจจะรออีกห้านาที หากนาวินยังไม่หยุดคุยโทรศัพท์เขาก็จะเดินเข้าไปถามว่าคุยกับใคร
หลังจากทานอาหารเย็นด้วยกันเมื่อวันพุธ ท่าทีของสารวัตรกัณต์ก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย ชาลีมีความรู้สึกว่ากัณต์ยั่วอารมณ์เขาน้อยลงและบางครั้งแอบลอบมองเขาด้วยท่าทางครุ่นคิด พรุ่งนี้เขาจะไปเยี่ยมพายัพพร้อมกันกัณต์ หลังจากนั้นเขาตั้งใจจะชวนกัณต์ไปทะเล
...เริ่มแผนการขั้นที่สอง!...
...เช้าวันจันทร์ กัณต์จะต้องคิดถึงเขาจนแทบไม่เป็นอันทำงาน จากนั้นเขาจะหายหน้าไปซักสามวันเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นที่สาม...
...แต่จะว่าไป หากกัณต์ไม่ทำเก๊ก ไม่ทำตัวเป็นผู้นำเกินเหตุ หรือวางมาดเหนือคนอื่นจนน่าหมั่นใส้ นายตำรวจคนนี้ก็ไม่เลว...
...เสียอย่างเดียว กัณต์เป็นตำรวจ เขาไม่ชอบตำรวจ...

...เพื่อนชวนไปดูแข่งรถที่พัทยา...
ชาลียืนคิดอะไรเพลินอยู่ที่ระเบียงนานกว่าสิบนาที แต่ความคิดก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเลื่อนประตู ทั้งที่นาวินเดินออกมาที่ระเบียงเงียบๆ เด็กหนุ่มยืนทำหน้าออดอ้อนอยู่ข้างๆ มือกำโทรศัพท์แน่น หายใจไม่เป็นจังหวะ ท่าทางกำลังลุ้น่าจะได้รับคำตอบอย่างไร
“เพื่อนที่ไหน ชื่ออะไร” ชาลีถามพลางเอนหลังพิงราวระเบียง
“ก็เพื่อนที่ยิมครับ  พี่หมอก็เคยเห็น พวกที่เล่นบาสด้วยกัน มีสองคนเขาแข่งรถด้วย ทีนี้คนในทีมก็เลยชวนกันไปให้กำลังใจ”
“พี่เอ็กซ์ไปด้วยใช่ไหม” ชาลีถาม
“ใช่ครับ” นาวินพยักหน้า “พี่เอ็กซ์เป็นคนขับรถ แต่พี่เอ็กซ์ไม่ได้แข่ง คนแข่งชื่อป้องกับทีน ทีนคนที่ตัวเตี้ยๆ กว่าเพื่อนไงครับ ไปกันสี่คน”
“ก็แสดงว่ามีป้อกับทีน แล้วก็เอ็กซ์กับนาวิน” ชาลีสรุป นาวินพยักหน้าแล้วค่อยๆ พูดเสียงอ้อมแอ้มว่า
“สายๆ ก็กลับ”
“ค้างคืน” ชาลีเลิกคิ้ว
“นอนคอนโดญาติพี่เอ็กซ์ ไม่ได้พักโรงแรมหรอกครับ ไม่อันตราย ไม่ต้องเสียเงิน”
คอนโดนั่นล่ะล่อแหลมกว่าโรงแรม แล้วนี่จะทำยังไง เขายังไม่มั่นใจว่าพี่เอ็กซ์นั่นจะเอายังไงกับนาวิน น้องชายเพื่อนของเขาเป็นเด็กซื่อ หน้าตาดีมาก และอ่อนต่อโลกอย่างไม่น่าเชื่อ แบบนี้ไม่มีทางรอดปากเหยี่ยวปากกาได้ หากโชคร้ายเกิดพี่เอ็กซ์เป็น ‘เหยี่ยว’ ขึ้นมาจริงๆ ไม่ต้องรอให้ถึงมือ ‘พรานล่าเหยื่อ’ อย่างกัณต์หรอก
...เฮ้อ นี่เขาจะปกป้องนาวินได้นานแค่ไหน...
“นะพี่หมอนะ ผมสัญญาว่าจะดูแลตัวเอง จะทำตัวดี จะไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เสพตาเสพติดเด็ดขาด เราแค่ไปดูแข่งรถกัน แล้วนี่ก็พักคอนโดญาติพี่เอ็กซ์ พี่เขาก็บอกว่าจะดูแล ผมว่าไม่มีใครมาทำอะไรได้หรอก พี่หมอไม่ต้องห่วง”
...แข่งรถเสร็จก็พากันไปทานข้าว หลังจากนั้นก็อาจตะลุยราตรี แล้วท้ายที่สุด หากคิดให้เป็นบวก สี่หนุ่มก็จะกลับบ้านนอน...
...ต่างคนต่างนอน คนละห้องนั้นคงไม่มีทางเป็นไปได้ หากยากที่จะมีใครรวยพอจะมีคอนโดตากอากาศที่มีห้องนอนสี่ห้อง...
...นาวินจะนอนกับพี่เอ็กซ์หรือนอนกับป้อง หรือไม่ก็ทีน สองคนนั้นเขาไม่รู้จก แต่ตอนนี้เขาเริ่มจะคิดว่าพี่เอ็กซ์นั้นก็ไม่น่าไว้ใจ ยิ่งดื่มเหล้ากันเข้าไปแล้วก็ยิ่งน่าเป็นห่วง แม้นาวินอาจจะไม่ดื่ม แต่คนอื่นล่ะ...
“นะครับพี่หมอ นานๆ ทีผมจะได้เปิดหูเปิดตา” นาวินทำตาละห้อย แทบจะคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเด็กหนุ่มตอนนี้ดูเหมือนลูกหมาพันธ์โกลเด้นรีทรีพเวอร์ที่กำลังอ้อนเจ้านาย
“ต้องโทรศัพท์มาหาพี่เป็นระยะๆ ห้ามดื่มเหล้าเด็ดขาดและดูแลตัวเองให้ดี นาวินต้องเข้าใจว่าพี่เป็นห่วงเรามาก พี่จะไม่ยอมให้สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับนาวินเด็ดขาด พี่สัญญากับเควินเอาไว้แล้วว่าพี่จะดูแลนาวินให้โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีที่สุด” ชาลีนึกได้จึงยกเอาเควินขึ้นมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งความจริงแล้วเขาก็สัญญากับเพื่อนไว้เช่นนั้นขณะที่ยืนมองควันกำลังพวยพุ่งขึ้นจากปากปล่องของเมรุเผาศพในวันนั้น
“นาวินยังเด็ก ยังมีอนาคตอีกไกล”
“พี่หมอ ผมแค่ไปดูแข่งรถนะครับ ผมไม่ได้ไปทำอะไรเสียหาย พูดซะใหญ่โต” นาวินยิ้มกว้าง “ผมไม่ทำให้พี่หมอผิดหวังหรอก ถ้าห่วงนักก็ไปด้วยกัน”
“พี่อดเป็นห่วงไม่ได้” ชาลีถอนหายใจ
“ผมรู้” นาวินยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วกอดแขนชาลี “ขอบคุณครับ ผมรักพี่หมอที่สุด”
“เดี๋ยวไปอาบน้ำซะนะ” ชาลีดึงแขนออก “แล้วเมื่อกี้คุยโทรศัพท์กับใคร”
“พี่เอ็กซ์” นาวินยิ้มแห้งๆ
“คงตกลงกับเขาไปแล้วละสิ”
“เปล๊า” นาวินส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วรีบเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นและทิ้งตัวลงบนโซฟาหน้าทีวี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้พูดเสียงดังเป็นปกติ บอกกับคนอยู่ปลายสายว่าผู้ปกครองอนุญาตแล้ว หลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็นอนพลิกไปพลิกมาโดยมีโทรศัพท์แนบหูแล้วสนทนาอีกนานจนชาลีเดินเข้าไปตบไหล่นาวินเบาๆ เพื่อสื่อสารว่าให้หยุดและไปอาบน้ำ
นายแพทย์หนุ่มเดินเข้าไปในห้องนอนและหยุดยืนอยู่หน้ากระจก ชาลีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถามตัวเองในใจว่า...ตกลงเขาควรจะระแวงกัณต์หรือพี่เอ็กซ์ หรือคนอื่นๆ ที่เขายังไม่รู้จัก นาวินยิ่งโตยิ่งหล่อ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านาวินนั้นหน้าตาดีกว่าพี่ชายซึ่งเป็นดาราดังเสียอีก ก่อนนี้ที่มีคนพูดว่า หญิงสาวเหมือนกุหลาบแรกแย้ม ต้องคอยระวังหมู่ภมรบินมาดมดอมนั้นเห็จะไม่พอเสียแล้ว ต้องพูดว่า หนุ่มน้อยที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มก็เสี่ยงอันตรายพอๆ กับสาวน้อยเลยทีเดียว
...แต่ยังไงก็ตาม นาวินจะต้องไม่เจอแบบที่เขาเจอตอนอายุเท่าๆ กัน...
...เจ็บครั้งนั้นเขาไม่เคยลืม และอีกไม่นาน คนที่ทำเขาเจ็บจะต้องได้รับบทเรียนที่จะไม่มีวันลืมได้ลงเช่นกัน...
...เริ่มจากพี่ทินก่อน หลังจากนั้นเป็นไวโรจน์ และปิดท้ายด้วยคนที่โหดร้ายกับเขาที่สุด...
...เจตริน...
...เขาจำตอนวันฉลองวันเกิด 18 ปีของตัวเองได้ คืนนั้นเขาได้รับ ‘ของขวัญชิ้นสุดท้าย’ จากคนที่เขารักมาก ในคอนโดของคนที่เขารัก พี่ทินกับเพื่อนพี่ทิน ไม่ใช่เพื่อนอีกสองคนเหมือนกับป้องและทีนที่จะพักคอนโดเดียวกันกับนาวินและพี่เอ็กซ์...
...ห้องเล็กๆ ของพี่ทินมีเพื่อนมาร่วมฉลองวันเกิดด้วยอีกสี่คน รวมกับพี่ทินเป็นห้า...
...กลางดึก เขากระเสือกกระสนพาร่างของตัวเองลงมาจนถึงชั้นล่างของคอนโด...
...เหนื่อยแทบจะขาดใจ เจ็บแทบจะขาดใจ...
...เสียใจแทบจะขาดใจ...
...ยามพาเขาส่งโรงพยาบาล...
...และพี่ทินก็หายไปจากชีวิตเขาตั้งแต่วันนั้น ความรักของเขาจบสิ้นลง เหลือไว้แต่ความทรงจำที่โหดร้ายและเจ็บปวด...
...สำหรับคนอื่นเป็นยังไงเขาไม่รู้ แต่สำหรับเขา ความทรงจำเป็นทั้งยารักษาแผลและยาพิษ...

กัณต์แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง มือที่กำลังบังคับพวงมาลัยรถกระตุกอย่างไม่อาจควบคุมได้ หากขณะนั้นกำลังขับรถด้วยความเร็วสูงบนทางด่วนก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่ใช่น้อย โชคดีเขากำลังชะลอความเร็วรถเพื่อนต่อท้ายคันที่อยู่ข้างหน้าเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเหลืองอำพันเป็นสีแดง
...ชาลีชวนเขาไปทะเล!...
...ชวนเสร็จแล้วก็นั่งนิ่ง กอดอก มองดูร้านรวงสองข้างทางเหมือนไม่ใส่ใจที่จะได้รับคำตอบจากเขา...
กัณต์หันมามองนายแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความครุ่นคิด ชาลีเป็นคนที่เขาเดาใจได้ยากที่สุดเท่าที่เคยพบมา บางครั้งดูฉุนเฉียวไม่พอใจ บางครั้งดูอ่อนโยนและมีอารมณ์ขัน แม้จะเป็นอารมณ์ขันแบบร้ายๆ ก็ตาม
วันนี้ชาลีกับเขาไปเยี่ยมพายัพเด็กหนุ่มพลเมืองดีซึ่งบาดเจ็บจากการช่วยเหลือหญิงที่ถูกชิงทรัพย์  พายัพอาการดีขึ้นมาก นายแพทย์หนุ่มขนสิ่งของไปเยี่ยมมากมาย ทั้งของกินและของใช้สำหรับทั้งพายัพเองและครอบครัว นอกจากนั้นยังมีหนังสืออีกหนึ่งลังกระดาษขนาดใหญ่เพราะรู้ว่าเด็กหนุ่มชอบอ่านหนังสือ แต่ตอนที่ขนของขึ้นรถ นายแพทย์หนุ่มยังอุตส่าห์พูดจากระทบเขาว่า
...”พายัพชอบอ่านหนังสือ โชคดีสารวัตรไม่ได้เอาปืนไปเป็นของฝาก ไม่งั้นเด็กตกใจแย่”...
กัณต์เงียบ ไม่ตอบโต้อะไร พยายามบอกตัวเองว่าต้องใจเย็น แต่เมื่อชาลีขึ้นนั่งบทรถและพูดอะไรบางอย่างออกมาเขาก็ตะบะแตก
...“ไม่หนักรถคุณเท่าไหร่หรอกครับ”...
...”รถผมโฟรวีลด์ ผมไม่กลัวหรอก ไปได้ถึงไหนถึงกัน แต่ถ้าคุณพยายามจะยั่วโมโหผมต่อ ผมก็ไม่รับรองความปลอดภัย”...
...”ล้อเล่นนิดเดียว ทำเป็นโกรธ เป็นตำรวจต้องฝึกทนต่อการยั่วยุไม่ใช่หรือครับ” ชาลีอมยิ้มแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้และพูดเสียงต่ำเบาๆ ว่า “หรือว่าสารวัตรกัณต์เคยฝึกความอดทนต่อการยั่วยวนอย่างเดียว”...
...
ตอนนี้กัณต์อดยิ้มมุมปากไม่ได้เมื่อนึกถึงตอนสายๆ ที่เขาแวะรับนายแพทย์ชาลีเพื่อนไปเยี่ยมพายัพด้วยกัน ชาลีนั่งเงียบไปตลอดทาง แต่เมื่อเข้าเยี่ยมคนเจ็บ ชาลีก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน นายแพทย์หนุ่มดูอารมณ์ดี คุยกับพายัพและครอบครัวอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มของชาลีสดใส ดวงตาเป็นประกายจนกัณต์เผลอมองอย่างเพลินตา เขาอยากจะบอกตัวเองว่านี่คือตัวตนจริงๆ ของชายหนุ่มคนนี้ ส่วนบุคลิกเย้ยหยันประชดประชันก้าวร้าวนั้นเป็นเพียงผิวนอกซึ่งเจ้าตัวสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง
...จากอะไรล่ะ จากอดีตยังงั้นหรือ อดีตอันเจ็บปวด อดีตที่เขาคิดว่าคงสร้าง ‘แผล’ ให้ชาลีมาไม่น้อย...
...ทั้งแผลกาย และแผลใจ...
...คดีทะเลาะวิวาท คดีหมิ่นประมาท คดีโกงเงิน คดีชิงทรัพย์ คดีกรรโชกทรัพย์ คดีทำร้ายร่างกาย คดีกักขังหน่วงเหนี่ยวให้สูญเสียอิสรภาพ แต่ละคดีชาลีสะบักสะบอมพอสมควร บางคดีถึงกับบาดเจ็บสาหัส แผลทางกายนั้นเห็นได้ชัด รูปภาพทุกรูปภาพที่ปรากฎบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อเขาตรวจสอบประวัติของชาลียังติดตาเขาอยู่ไม่หาย แผลทางกายนั้นเห็นได้ชัด แต่เขาไม่รู้ว่าแผลทางใจจะมีมากน้อยเพียงใด...
...’แผล’ เหล่านั้นชาลีได้มาจากคดีต่างๆ ที่อ่านในแฟ้มของตำรวจทั้งหมดเลยหรือ...
...มีแผลจากแหล่งอื่นด้วยหรือเปล่า...

ชาลีหันหน้าไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วทำหน้าเยือกเย็น ก่อนจะถามด้วยแบบรายเรียบว่ากัณต์มีปัญหาอะไรกับเรื่องที่พัก เขายอมรับว่าค่อนข้างผิดความคาดหมาย กัณต์ดูอ้ำอึ้ง แปลกใจที่รู้ว่าห้องพักที่เขาจองเอาไว้นั้นเป็นห้องเตียงคู่ห้องเดียว ไม่ใช่ห้องเตียงเดี่ยวสองห้อง
“เสียดายเงิน” ชาลีพูด “ถึงผมเป็นหมอมีเงินเดือนค่อนข้างเยอะ ผมก็ไม่อยากจะใช้เงินฟุ่มเฟือย นอนโรงแรมห้องเดียวกันแค่คืนเดียวคงไม่เสียหายต่อภาพพจน์ตำรวจของคุณหรอกครับ”
“ผมเป็นคนจ่ายเอง คุณไม่ต้อง” กัณต์หยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าเมื่อเห็นชาลีกำลังหยิบบัตรของตัวเองออกมา
...ทำท่าเป็นผู้นำอีกแล้ว การที่เขาเป็นคนจ่ายเงินมันจะเสียหายอะไรนักหนา...
ชาลีแอบเบ้ปากแล้วยืนนิ่งเงียบ หันไปมองรอบๆ ล๊อบบี้ของโรงแรมอย่างเซ็งๆ ความจริงเขาอยากจะเข้าพักใหนบูติครีสอร์ทเล็กๆ แต่คิดไปคิดมาก็เลือกโรงแรมขนาดใหญ่แทน
...มีจากุซซี่ที่ระเบียงนอกห้อง นอนแช่น้ำดูทะเลและท้องฟ้าสีคราม...
...และให้สารวัตรดูจนพอใจ...
...ดูซิว่าจะทนได้ซักกี่น้ำ...

ความคิดสนุกๆ ของนายแพทย์ชาลีถูกแทรกด้วยอารมณ์โกรธประดุจสายฟ้าฟาดเมื่อตามองไปเห็นชายหนุ่มคู่หนึ่งเดินเข้ามาในโรงแรม คนหนึ่งร่างสูงโปร่งผิวขาวสะอาด ตัดผมสั้น แต่งตัวเนี้ยบ อีกคนเตี้ยกว่าเล็กน้อยแต่ร่างหนาบึกบึน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวบางๆ เปิดกระดุมหลายเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง ผมยาวเกือบประบ่า สวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่สีชาเข้ม ยิ้มกว้าง เห็นรอยลักยิ้มที่แก้มซ้ายชัดเจน ไรหนวดครึ้ม
“กุญแจครับ” หนุ่มสวมแว่นร่างหนาบึกบึนพูดกับพนักงานต้อนรับ
“คีย์การ์ดตะหาก” หนุ่มอีกคนที่เดินเข้ามาด้วยกันพูดขึ้นแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะปรายตามองมาที่ชาลีซึ่งยืนอยู่ข้างๆ แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็มองเลยไปยังกัณต์ซึ่งกำลังก้มหน้าเซ็นชื่อบนเอกสารเข้าพักโรงแรม
ชาลีกัดฟัน แปลกใจในปฏิกิริยาของร่างกายตัวเองที่ดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมได้ เขารู้สึกว่าในอกร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที แต่แขนและขากลับเย็นเฉียบ หัวใจเต้นแรง ปากเม้มโดยไม่รู้สึกตัว
มือขวายกขึ้นแตะชายโคงด้านซ้ายและลากนิ้วไปตามรอยยาวของแผลเป็นที่ยังคงรู้สึกได้ถึงความนูนแม้เขาจะสวมเสื้อยืดผ้าค่อนข้างหนา
ความนูนของรอยแผลเป็นที่เขาสัมผัสได้จากความรู้สึกและความทรงจำ
...แม้จะไม่ได้ยกมือขึ้นแตะ เขาก็รู้สึกได้ถึงความนูนที่หลงเหลือเอาไว้แม้เวลาจะผ่านมานานเกือบสิบปี...
...ความรู้สึกเดียวกันกับวันนั้นที่เขานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและเอาแต่ลูบแผลของตัวเอง...
...เวลานี้มาถึงซะที...
...ตอนแรกตั้งใจจะเก็บเจตรินไว้เป็นคนสุดท้าย แต่เมื่อเห็นตัวแบบนี้ เขาเปลี่ยนใจ ในจำนวนคนเลวสามคนที่เขาเคยรัก คนที่ทำเขาเจ็บปวดที่สุดควรจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสมเป็นคนแรก...

สองเท้าของชาลีก้าวตามทันที ปากขยับเรียกชายหนุ่มคู่นั้นเบาๆ พอให้ได้ยิน...
“ขอโทษครับ ใช่คุณเจตรินหรือเปล่าครับ” ชาลีพูดแล้วกลั้นใจ
เจตรินหันหน้ากลับมามองพร้อมๆ กับชายหนุ่มหน้าขาวซึ่งหันกลับมามองด้วยตาวาววับ นายแพทย์ชาลีรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ
“ใช่ครับ” เจตรินตอบ เสียงนุ่มทุ้ม อ่อนโยน
“จำผมได้ไหม” ชาลียิ้มบางๆ ในใจเต้นระทึกเพราะตัดสินใจดับเครื่องชน
“คุณ เอ่อ...”
...จำไม่ได้ เจตรินจำเขาไม่ได้ เสียดายที่สวมแว่น ถ้าจะให้แน่ใจจริงๆ เขาอยากเห็นแววตาของเจตรินในตอนนี้จังเลย...
...แต่จะจำได้ยังไงล่ะ เจตรินเห็นเขาไม่มีคุณค่าอะไรเลย ความรักที่เขาทุ่มเทให้หมดหัวใจตลอดหนึ่งปีไม่มีค่าเทียบเท่าเศษฝุ่นที่ติดรองเท้าแพงๆ ของเจตรินด้วยซ้ำ...
...เจตรินพูดใส่หน้าเขาเอง...
...เขาจำได้ไม่เคยลืม...
...และแบบนี้ล่ะที่เขาเรียกว่า ความทรงจำมันคือยาพิษ...
“เจ ผมต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี่ยวไม่ทันกองถ่าย” ชายร่างสูงใปร่งพูดขึ้นมาเสียงเรียบ ตายังมองมาที่ชาลีนิ่ง ก่อนจะหันหลังและเดินจากไปทันทีพร้อมกับเอ่ยชื่อของผู้ชายคนที่ยืนอยู่ข้างซึ่งรีบเดินตามโดยไม่รีรอ

“แฟนเก่าหรือครับ” เสียงห้าวๆ ของกัณต์ถามขึ้นด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่แทบจะชิดแผ่นหลังของชาลี
“ศัตรู” ชาลีพูดเบาๆ แล้วยิ้มบางๆ แต่สายตาลุกโชนเหมือนมีไฟกองใหญ่กำลังสุมอยู่ในดวงตาคู่นั้น
“ทั้งสอง หรือคนเดียว”
“แต่ก่อนคนเดียว” ชาลียักไหล่ “แต่ตอนนี้น่าจะเป็นสองแล้วล่ะ”
“ท่าทางร้ายไม่เบา” กัณต์หัวเราะหึ
“คุณว่าผมหรือนายแบบคนนั้น” ชาลีถามเสียงเข้ม
“ใครว่าคุณร๊าย” กัณต์ยักไหล่พร้อมกับตอบเสียงสูง “ผมไม่เคยมองว่าคุณร้ายเลยนะครับ”
ชาลีส่ายหน้า หรี่ตามองตามคนที่พูดเสร็จแล้วเดินหนีไปทันที อยากจะยกมือขึ้นทุบกลางหลังของกัณต์เป็นที่สุด
...เดี๋ยวก็รู้ว่าชาลีร้ายแค่ไหน ทั้งสามคนจะได้รู้พร้อมๆ กันเลยล่ะ เจตรินเป็นเป้าหมายหลัก แต่คุณกับนายแบบไฮโซคนก็คงต้องโดนหางเลขไปด้วย อยากมาอยู่ผิดที่ผิดทางเองทำไม...
...จะหาว่าชาลีพาลก็ยอม...
...ความเจ็บปวดได้สอนวิธีร้ายให้เขามาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว...



mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 11
«ตอบ #232 เมื่อ12-02-2010 14:36:11 »

^
^
 :z13: :z13: คุณนาย เด๋ซมาดิทเน้อ

 :sad4: :sad4: ความแค้นเหมือนไฟซุมในอก กีซซเวลาแก้แค้นมาถึงไวมากๆ
แล้วนี่จะมีอารมณ์"ยั่วยวน" รึคะ แม่นางฟ้าอุตส่าห์เตรียมแผนยั่ว เป็นลำัดับขั้น
งานนี้ท่าจะล่มเพราะต้องใช้สมองคิดล้างแค้นศัตรูทั้งเก่าและใหม่ไปพร้อมๆกัน
ส่วนสารวัตรก็นะ..มาเที่ยวกับคุณหมอแบบว่าง่ายเลยเชียวทั้งๆที่ก็จิกกัดกันมาตลอดทางอ่ะนะ
แหม...ติดใจเค้าล่ะสิอยากเป็นยารักษาแผลใจให้ชิมิเคอะ คงอยากพิสูจน์ว่าที่เห็นร้ายๆหนะเป็น
แค่เปลือกนอกไว้ป้องกันภัยให้ตัวเองมากกว่าเพราะเนื้อในเป็นคนอ่อนโยนนัก

”ล้อเล่นนิดเดียว ทำเป็นโกรธ เป็นตำรวจต้องฝึกทนต่อการยั่วยุไม่ใช่หรือครับ”
ชาลีอมยิ้มแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้และพูดเสียงต่ำเบาๆ ว่า
“หรือว่าสารวัตรกัณต์เคยฝึกความอดทนต่อการยั่วยวนอย่างเดียว”...

>>แหม..ช่างท้าทายกิเลส เอ้ย อารมณ์ของคุณตำรวจดีแท้ 555 ทั้งยั่วอารมณ์โมโหและอารมณ์คุกรุ่นได้ดีแท้
...มีจากุซซี่ที่ระเบียงนอกห้อง นอนแช่น้ำดูทะเลและท้องฟ้าสีคราม...
...และ ให้สารวัตรดูจนพอใจ...
...ดูซิว่าจะทนได้ซักกี่น้ำ...

>>เปรี้ยวเข็ดฟันดีแท้แม่คุ๊นนนนนนนนนน 5555 สารวัตรจะกำไรมั๊ยเนี่ย อิอิ

ชาลีทำเหมือนน้องนาวินเป็นเบบี้เลยอ่ะ 55อารมณ์คุณแม่ทั้งหวงและห่วงลูก
กัวมีผะชายมาพรากพรหมจรรย์ของลูกไป แต่ดูถ้าอิพี่เอ็กซ์มันกัดไม่ปลอ่ยเลยแหละ
ชวนไปนู้นมานี่ ไปพักค้างอ้างแรมกันอีก สี่คนสองคู่ o22 นาวินของพี่ชาลีจะรอดมั๊ยลูก
พี่เค้าอุตส่าห์บ่น เอ้ย สั่งสอนอบรม ซ้ำๆหลายๆหนราวกับรีเพลย์แผ่น555 หนูต้องดูแลตัวเองให้ดีนะนั่น
ไม่งั้น พี่เอ็กซ์ของหนูคงโดนแหกอกแน่ๆ ได้ข่าวมีดผ่าัตัดคมโคตรๆแหะ อิอิ

อดีตของชาลี.........เป็นคดีควาามร้ายแรงทั้งนั้นโดนแฟนล่อลวงมาขืนใจชิมิ :a5:
พระเจ้าทั้งเจ็บตัวเจ็บใจไม่แปลกเลยทำไมถึงได้มีความแค้นที่ฝังรากลึกนักโอ้วมายบุดด้า

 o13 o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-02-2010 15:02:28 โดย mecon »

morrian

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 11 (12/2/2010)
«ตอบ #233 เมื่อ12-02-2010 14:59:34 »

 o18 ต้องอย่างนี้มันถึงจะถูกหมอชาลี

แก้แค้นให้ตรงจุด ศัตรูที่ทำให้เราบาดเจ็บ

ทั้งร่างกายและจิตใจ ทำกะมันให้สาสม

แต่ไม่ควรเอาความเคียดแค้นไปลงกะคนอื่นๆ

ที่ไม่รู้อะไรด้วย เช่นการหลอกให้เค้ารักแล้วก็ตีจาก

 :z3:

รออ่านความร้ายของหมอชาลี กะศัตรูคนแรกอย่างเจตรินนะค้าบบ

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 11 (12/2/2010)
«ตอบ #234 เมื่อ12-02-2010 15:39:57 »

หมอคร๊าบ เป็นห่วงน้องนาวินนะ
อดีตหมอโหดร้ายและน่ากลัวจริงๆ ขนาดรู้นิดๆนะเนี่ย

 :z3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: เพลิงรัก บทที่ 11 (12/2/2010)
«ตอบ #235 เมื่อ12-02-2010 16:08:41 »

 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 11 (12/2/2010)
«ตอบ #236 เมื่อ12-02-2010 16:11:16 »

อ่านแล้วรู้สึกแล้วเสียวไส้ยังไงไม่รู้

5555+

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: เพลิงรัก บทที่ 11 (12/2/2010)
«ตอบ #237 เมื่อ12-02-2010 16:30:03 »

รู้สึกว่าคุณนายชาลีน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: เพลิงรัก บทที่ 11 (12/2/2010)
«ตอบ #238 เมื่อ12-02-2010 17:24:17 »

 :a5: ชาลีน่าสงสารกว่าที่คิด เครียดไปมั้ยคุณนาย :z3:

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 11 (12/2/2010)
«ตอบ #239 เมื่อ12-02-2010 18:06:18 »

อ่านเรื่องนี้แล้ว ระหว่างรอแว๊บ ไปอ่าน เรื่องของ ธงรบ กะอธิคม มาด้วย

ขอให้ พี่เอ๊กซ์มันเป็นคนดีเถอะ นาวิน น่ารักจังง

แสดงว่าชาลีโดนรุมโทรมมาใช่ไหมเนี่ยยย แล้วคนที่แทง หรือ กรีด บนตัวชาลีก้อ เจตริน

ชาลีจะล้างแค้นไงเนี่ยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด