เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพลิงรัก "บทส่งท้าย บทที่ 2 ในที่สุด พระเอกกับนายเอกก็นั่นกันครบสามครั้ง เฮ้อ" (26/3/2010)  (อ่าน 240021 ครั้ง)

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
Re: เพลิงรัก บทที่ 9 (6/2/2010)
«ตอบ #180 เมื่อ09-02-2010 13:16:48 »

รอ หก เจ็ด อยู่เน้อ :m12:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 9 (6/2/2010)
«ตอบ #181 เมื่อ09-02-2010 17:32:23 »

เข้าใจชาลีจริงๆ เลยอะ เรื่องห่วงลูกห่วงหลาน แต่สุดท้าย  ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า.."สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  ทุกคนมีกรรมเป็นทางเดินของตัวเอง  สุดแท้แต่กรรมจะพาไปไหน  หน้าที่ของเราทำได้ดีที่สุดแค่  อยุ่ข้างๆ เวลาที่ลูกหลานทุกข์ใจ"

ขอบคุณครับ เจ๊สองทำให้ผมเกือบปลงได้เลยนะเนี่ย  :sad11:

บทที่ 10 มาแล้วครับ (โทษทีช้าหน่อยนะคร้าบ ช่วงนี้งานรัดตัวสุดๆ แล้วก็บทที่ 6-7 จะพิมพ์ใหม่แล้วมาโพสให้ครับ จะรอให้เครื่องโน๊ตบุ๊คหายป่วยก็คงอีกนาน เพราะราคาอเแดปเตอร์มันแพงมากๆ ต้องเก็บเงินอีกนานกว่าจะมีปัญญาซื้อ)

เพลิงรัก บทที่ 10

ชาลีหยุดยืนอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจชั่วครู่แล้วเดินขึ้นบันไดช้าๆ ในใจอดลังเลไม่ได้แม้จะคิดไตรตรองมาแล้วเป็นอย่างดีถึงสามวัน แต่เมื่อเดินเข้าไปในห้องโถงบนชั้นสองของสถานีตำรวจก็สลัดความคิดลังเลออกจากหัวได้ เหลือเพียงความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะสารวัตรกัณต์
ชาลีบอกตัวเองว่าเพราะกัณต์ทำตัวหน้าหมั่นใส้เลยต้องได้รับบทเรียน และเขาต้องการทดสอบดูว่าตัวเองจะหว่านเสน่ห์ทำให้กัณต์หลงรักได้หรือไม่
...จากนั้นเขาจะทิ้งกัณต์อย่างเลือดเย็น...
...อย่างที่บอก ความสัมพันธ์แต่ละครั้งที่เคยเกิดขึ้นหลังจากที่เขากลายมาเป็นนายแพทย์ชาลีคนใหม่นั้นมันน่าเบื่อเพราะคนที่เขาคบด้วยบอกรักเขาง่ายเกินไป คราวนี้เจออะไรที่ท้าท้าย ท่าทางกัณต์ไม่น่าจะเป็นคนที่บอกรักใครง่ายๆ และดูเหมือนว่าไม่ใช่คนประเภทที่จะเชื่อในความรักเท่าไหร่ ถ้าทำได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง เป็นมาสเตอร์พีซ เป็นชัยชนะระดับเหรียญทองโอลิมปิกส์...
...แต่งานนี้ต้องวางแผนให้ดี และทุกอย่างต้องจบลงภายในสามเดือน...
วันนี้ชาลีตัดสินใจบุกเข้ากัณต์ถึงสถานีตำรวจเพื่อเป็นการ ‘เปิดศึก’ อย่างเป็นทางการ นี่เป็นยกแรกของการ ‘จัดการ’ กับนายตำรวจมาดกวนคนนี้ สารวัตรหนุ่มดูตกใจพอสมควรที่เห็นหน้าเขา
“ผมมาแจ้งความ" ชาลีพูดขึ้นมา หน้าตาขึงขัง "มีคนทุบกระจกรถผม ขโมยเอาคอมพิวเตอร์ไป นี่จอดไว้ห่างจากโรงพักแค่ร้อยกว่าเมตรยังมีโจรผู้ร้าย บ้านเมืองนี้ไม่ปลอดภัยเลยจริงๆ ตำรวจทำอะไรกันอยู่ไม่ทราบ"
กัณต์ทำหน้าเคร่งขรึม พยายามทำใจเย็น ไม่ต่อปากต่อคำกับคนที่กำลังอารมณ์เสีย นายตำรวจหนุุ่มผายมือไปทางด้านขวาแล้วบอกนายแพทย์อารมณ์ร้อนว่าต้องไปแจ้งความที่ร้อยเวร
“แสดงว่าคุณจะไม่รับผิดชอบ" ชาลีพูดขึ้น
“จะให้ผมซื้อคอมพิวเตอร์แทนหรือครับ หรือจ่ายค่าซ่อมกระจกรถคุณ ถ้าต้องรับผิดชอบทั้งสองอย่างผมคงต้องเสียเงินเป็นแสน ตำรวจอย่างผมไม่มีเงินพอหรอกคุณ" กัณต์ตอบ "ตำรวจจะตามจับตัวคนร้ายให้ แต่ก่อนอื่นคุณต้องแจ้งความเสียก่อน"
“ผมก็กำลังทำอยู่นี่ไง" ชาลีพูดเสียงห้วน
“ผมเป็นสารวัตรครับ ยศผมคือพันตำรวจตรี ประชาชนแจ้งความกับร้อยเวร ไม่ใช่สารวัตรสืบสวนสอบสวน" กัณต์เดินนำแล้วหันหน้ามาเลิกคิ้วสื่อสารให้ชาลีเดินตาม "เชิญทางนี้คับ ผมจะไปส่งให้ถึงโต๊ะร้อยเวร"
“นึกว่าคุณจะช่วยให้เป็นกรณีพิเศษซักหน่อย อย่างน้อยก็คนรู้จักกัน" ชาลีเดินผ่านกัณต์ พึมพำเสียงเบา แกล้งทำหน้าน้อยใจให้นายตำรวจเห็น แล้วเร่งฝีเท้าเดินตรงไปยังโต๊ะร้อยเวรซึ่งอยู่ด้านหน้า ส่วนในใจก็คิดว่า
...คอยดูนะ จะปั่นหัวกัณต์ให้เสียศูนย์ไปเลย คิดว่าแน่นักหรือ...
ขณะที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะร้อยเวรรอร้อยตำรวจตรีคนใหม่พิมพ์ใบแจ้งความ ชาลีนั่งนิ่งเงียบ ทำทีไม่สนใจว่ากัณต์ยืนกอดอกอยู่ข้างโต๊ะ จนกระทั่งร้อยเวรขอให้ชาลีทวนเบอร์โทรศัพท์ กัณต์จึงพูดขึ้นว่า
“ลงไปดูรถให้คุณเขาด้วยนะหมวด จอดอยู่ไม่ไกล"
“ไม่ต้องครับ แค่ได้ใบแจ้งความก็พอแล้ว ยังไงตำรวจก็คงจับคนร้ายให้ผมไม่ได้หรอก" ชาลียักไหล่ "แค่กระจกแตก ประกันผมเขาซ่อมให้ ส่วนคอมพิวเตอร์ ผมจะให้แฟนซื้อให้เป็นของขวัญปีใหม่ก็ได้"
“แฟนรวย" กัณต์พูดเสียงค่อยแล้วหัวเราะเบาๆ ในลำคอ "เป็นนักศึกษาแต่มีเงินซื้อของแพงๆ วัยรุ่นสมัยนี้นี่นะ"
“แฟนผมเป็นหมอครับ" ชาลีเงยหน้าขึ้นยิ้มเยือกเย็นให้กัณต์ "แต่กิ๊กเป็นนักศึกษา"
ร้อยเวรที่กำลังก้มหน้าพิมพ์บันทึกประจำวันกลั้นหัวเราะไม่ไหวจึงส่งเสียงออกมาเบาๆ กัณต์หันไปทำหน้าดุแล้วเร่งให้ทำงานให้เสร็จเร็วๆ จากนั้นจึงบอกว่าไม่ต้องไปดูรถให้ชาลีแล้ว
“ผมจะลงไปดูให้เอง" กัณต์พูด
“ไม่ต้องหรอกครับ" ชาลีปฏิเสธ
“ผมเป็นตำรวจ นี่มาเกิดเหตุให้ท้องที่ของผม ใกล้โรงพักซะด้วย ผมยอมไม่ได้ ยังไงๆ ผมจะลากคอไอ้โจรกระจอกคนนี้มารับโทษให้ได้"
ชาลีเม้มปาก ในใจคิดหาทางออกอย่างรวดเร็ว ตอนแรกเขาตั้งใจจะทุบกระจกรถของตัวเองจริงๆ แต่เกิดเสียดายและไม่อยาก 'ลงทุน' มากจนเกินไป
“ผมเรียกอู่มาแล้ว" ชาลีทำหน้านิ่งเรียบพลางยื่นมือไปรับบันทึกใบแจ้งความจากร้อยเวรด้วยท่าทางใจเย็นแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากด้านหน้าสถานีตำรวจช้าๆ โดยไม่กล่าวลากัณต์สักนิด
“เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจัดการให้" กัณต์เดินตามมา
“ขอบคุณครับ" ชาลีตอบโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย นายแพทย์หนุ่มหันซ้ายหันขวา ทำเป็นมองหารถแท๊กซี่และยกมือขึ้นโบกเรียกได้หนึ่งคัน ก่อนจะขึ้นรถ นายแพทย์หนุ่มหันมาพูดกับนายตำรวจว่า "ช่างที่อู่คงมาเอารถไปซ่อมแล้วครับ แต่ขอบคุณสารวัตรที่จะช่วยจัดการเรื่องนี้ ถ้าอยากจะสอบปากคำผมเพิ่มเติมให้ละเอียดก็เชิญที่โรงพยาบาลนะครับ ผมจะคอย"

รถแท๊กซี่สีเขียว-เหลืองวิ่งออกไปแล้ว พันตำรวจตรีกัณต์ยืนมองตามจนลับสายตา ใจเต้นแรงขึ้นโดยทันที สายตาของนายแพทย์ชาลีก่อนปิดประตูแท๊กซี่นั้นแพรวพราวระยิบระยับแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน จากประสบการณ์เขารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายส่งสายตา 'อ่อย' อย่างเห็นได้ชัด
...แล้วเรื่องที่บอกว่ารถโดนทุบและคอมพิวเตอร์ถูกขโมยนี่จะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่่าก็ไม่รู้ ชาลีแค่อาจจะหาเรื่องมาเกี่ยวข้องกับเขาเฉยๆ...
...ทำไม?...

ชาลีไม่แปลกใจเมื่อพยาบาลบอกว่ามีตำรวจมาขอพบ เขานึกอยู่แล้วว่ากัณต์ต้องมา ส่งสายตา ‘อ่อย’ ขนาดนั้น คนเจ้าชู้อย่างสารวัตรกัณต์ไม่ทิ้งโอกาสแน่
“คุณหมอรู้ใช่ไหมครับว่าการแจ้งความเท็จมีความผิดทางกฎหมาย” กัณต์พูดขึ้นหลังจากทักทายกันแล้ว
“ผมจะโดนจับขังคุกไหมครับ” ชาลียิ้มมุมปาก
“คุณได้แจ้งความเท็จหรือเปล่าล่ะครับ”
“เปล่า” ชาลียักไหล่ “รถผมถูกทุบกระจกจริง”
“ผมกำลังรวบรวมหลักฐาน” กัณต์พยักหน้า “แต่เท่าที่สืบดู ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์”
“จะมีคนเห็นได้ยังไง คนไทยต่างคนต่างอยู่ ใครจะทำอะไรไม่สนใจกันหรอก”
“อย่างน้อย ระบบกันขโมยของคุณต้องส่งเสยง คนแถวนั้นก็ต้องได้ยิน”
“ได้ยินแล้วทำไม” ชาลีเลิกคิ้ว วางศอกบนโต๊ะ โน้มตัวเข้ามาใกล้สารวัตรหนุ่มในเครื่องแบบสีกากีเข้ม “ได้ยินแล้วจะมีคนเดินมาดูงั้นหรือครับ แต่ผมว่าไม่ คงมีคนปรายตามองแล้วก็เมินหน้าหนี ไม่ใช่เรื่องของฉัน ไปยุ่งทำไม ฉันไม่เห็นจะได้ประโยชน์จากเรื่องสัญญาณกันขโมยของรถคนแปลกหน้าดัง เสียเวลาทำมาหากิน รถใครก็ช่าง เดี๋ยวเจ้าของเขาก็มาเอง”
“คุณคิดด้านลบ มีอคติกับคนรอบข้าง” กัณต์แสดงความเห็นด้วยเสียงราบเรียบ
“ผมพูดตามความจริง ส่วนมากสังคมนี้ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ ไม่งั้นจะมีตำรวจไว้ทำไม” ชาลีชะงักไปชั่วอึดใจแล้วพูดว่า “หรือมีไว้แต่เครื่องแบบรัดติ้วเดินอวดหุ่นเท่ๆ ให้ประชาชนดู”
“คุณคิดว่าหุ่นผมเท่พอหรือเปล่าล่ะ” กัณต์หรี่ตา ทำหน้าเคร่งขรึม
“ผมประชดหรอก” นายแพทย์ชาลีกระแทกหลังลงกับพนักเก้าอี้
“คุณจอดรถไว้ที่ไหนครับ เวลาเท่าไหร่” กัณต์เปลี่ยนเรื่อง ดึงสมุดพกกับปากกาออกมาจากกระเป่าเสื้อ ท่าทาจะจดบันทึก ลาลีนิ่งไปชั่วครู่แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ผมกำลังจะออกเวรพอดี หิวข้าวมาก คุณไปสอบปากคำผมตอนทานข้าวได้ไหมครับ”
กัณต์เงยหน้าขึ้นแล้วเลิกคิ้วข้างเดียว มองหน้านายแพทย์หนุ่มที่เปลี่ยนท่าทีมาเป็นยิ้มบางๆ บุคลิกดูผ่อนคลายต่างจากทุกๆ ครั้งที่เจอกัน หากกัณต์ก็ยังคิดว่านัยน์ตาของชาลียังคงแข็งกร้าว อ่านยาก ผสมกับความลึกลับ ราวกับซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
...ความรู้สึกที่เขาเห็นว่า ตรงกันข้ามกับคำพูดและการกระทำที่นายแทย์คนนี้กำลังกระทำอยู่...

ชาลีเดินเร็วมาก ตัวตรง ก้าวเท้าเป็นจังหวะสม่ำเสมออย่างคนมั่นใจในตัวเอง กัณต์สังเกตว่าขณะที่เดินกำลังใกล้จะถึงประตูทางเข้าร้านอาหาร ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งเดินสวนออกมา ทำท่าจะทัก แต่ชาลีปรายตาไปมองแล้วรีบหันหน้าหนี ทำเย็นชาและเดินเข้าร้านอาหารไปโดยเร็วทำให้ชายหนุ่มคนนั้นถึงกับหน้าเจื่อน
“แฟนเก่าหรือครับ” กัณต์ถามเมื่อนั่งลงที่โต๊ะซึ่งติดกับหน้าต่าง มองออกไปเห็นสวนสวยบรรยากาศร่มรื่น
“เปล่า แค่คนรู้จักกัน เขาจีบผมอยู่พักหนึ่งแต่ผมไม่เล่นด้วย” ชาลียักไหล่ “ผมไม่ชอบคนเจ้าชู้ คนที่ไม่เห็นค่าของความรัก คนที่คิดแต่จะปลดเปลื้องอารมณ์อยากชั่วครั้งชั่วคราว คนที่ไม่ต้องการมีพันธะ”
...เอ หลอกด่าเขาหรือเปล่า หมอชาลีไม่ใช่คนโง่ ยังไงๆ ก้ต้องมองออกว่าเขาเป็นคนยังไง...
...แล้วตัวเองล่ะ ต่างจากที่ตัวเองพูดแค่ไหน อย่างน้อยก็ประโยคสุดท้ายล่ะ เขาก็คิดว่าชาลีไม่ต้องการมีพันธะเหมือนกัน มีทั้งแฟนทั้งกิ๊ก บริการเสน่ห์เก่งขนาดนั้น จะเรียกว่าคนหลายใจก็ยังได้...
กัณต์ไม่พูดอะไร ได้แต่คิดในใจและยิ้มมุมปากแล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มจากพนักงานที่เดินเข้ามายืนรอรับคำสั่งอยู่ข้างโต๊ะ
“ผมขอไฮเนเก้นขวดใหญ่” ชาลีพูดกับกัณต์ “วันนี้ผมรู้สึกอยากจะดื่ม”
“คุณเป็นหมอ น่าจะรู้ว่าแอลกอฮอลล์ไม่ดีต่อสุขภาพ” กัณต์เตือนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าเคร่งขรึม
“สิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพคือการกระทำของมนุษย์ต่างหากครับ เพราะมันทำลายทั้งกายและใจ”
กัณต์อมยิ้มแล้วหันไปสั่งเบียร์ให้ชาลีและน้ำเปล่าสำหรับตัวเองพร้อมกับสั่งอาหาร
“ตำรวจดื่มน้ำเปล่า ไม่เข้ากันเลย เราควรจะเปลี่ยนเครื่องดื่มกัน” ชาลีแสดงความเห็น
“ในสายตาคุณ ตำรวจคงไม่ใช่คนดี”
“เปล่า” ชาลียักไหล่ “คนดีก็มี คนเลวก็มีถมไป แต่บางคนดีเลวผสมกัน ท้ายที่สุด เราก็แค่มนุษย์ธรรดาคนหนึ่ง มีดีมีเลวอยู่ในตัว เพียงแต่ว่าอย่างไหนจะมากกว่ากัน”
กัณต์นั่งฟังเงียบๆ มองชาลีอย่างครุ่นคิด นัยวันนายแพทย์หนุ่มคนนี้ยิ่งทำให้เขาแปลกใจ บางครั้งดูเหมือนอยากจะพูดดีกับเขา บางครั้งดูประชดประชัน และบางคราวก็ดูเย้ยหยันตัวเองหรือสังคมรอบข้าง
“แต่ผมก็หวังว่า ในที่สุด ผมคงมองสารวัตรกัณต์ไม่ผิด” ชาลีสรุป
“คุณอาจมองผมผิดตั้งแต่ทีแรกแล้ว”
“ไม่ครับ ผมมองคนไม่พลาด ตั้งแต่เรียนจบแพทย์ผมไม่เคยมองคนพลาด” น้ำเสียงนายแพทย์ชาลีมั่นใจยิ่งนัก
“ถ้ายังงั้น ตั้งแต่เรารู้จักกัน จนถึงเวลานี้ คุณมองผมเป็นคนยังไง”
“บอกไปตรงๆ ก็ง่ายเกินไปสิครับ” ชาลียิ้มท้าทาย “คุณเป็นสารวัตรสืบสวน คุณลองสืบเอาเองดูสิ หรือว่าคุณไม่อยากสอบสวนผม” ท้ายประโยคชาลีทำเสียงทุ้มต่ำ
...ถ้าจะให้สืบสวนสอบสวนหมอชาลีก็คงไม่ง่ายเท่าไหร่นัก เพราะเขาคิดว่า ‘คดี’ นี้น่าจะเรียกได้ว่าซับซ้อนซ่อนเงื่อนพอสมควร...
...ชาลีกำลังคิดจะทำอะไร...
...จะว่าทอดสะพานให้เขาจีบก็ไม่น่าจะใช่ แววตาของหมอชาลีบางครั้งดูไม่ค่อยน่าไว้ใจ...

ชายหนุ่มทั้งสองคนนั่งรับประทานอาหารและคุยกันไปเรื่อยๆ ส่วนมากเป็นเรื่องงาน ต่างฝ่ายต่างเล่าเรื่องงานให้กันฟัง จนกระทั่งกัณต์วกกลับมาเรื่องรถของชาลีโดนทุบกระจก
“ผมบอกแล้วไงว่าช่างเถอะ” ชาลีตอบด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ
“ผมก็บอกแล้วว่าช่างไม่ได้ ผมไม่อยากให้ใครมาตำหนิตำรวจว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพ”
“คุณคงคิดว่าใครคนนั้นเป็นผม” ชาลีหัวเราะเสียงเบา
“หมอชาลีครับ ผมจะพิสูจนให้คุณเห็นว่าพันตำรวจตรีกัณต์ เวโรจน์ เป็นสารวัตรสืบสวนที่ทำงานไม่เคยพลาด” กัณต์พูดเสียงหนักแน่น
“ดีครับ ผมจะรอวันที่หมวดคนเก่งอย่างคุณจะลากคอคนทำความผิดมารับโทษ”
“สารวัตร” กัณต์แก้ยศที่ถูกอีกฝ่ายลดขั้นอยู่ตลอดเวลา “เมื่อไหร่คุณจะเรียกยศที่ถูกต้องของผมซะที จะว่าไป ผมมีสิทธิจับคุณในข้อหาดูหมิ่นล้อเลียนเจ้าพนักงานได้นะครับ”
“จริงหรือครับ มีกฎหมายว่าไว้ยังงั้นหรือ” ชาลีเบิกตากว้าง ทำท่าตกใจ “ผมพยายามแก้ให้ถูกแล้วนะครับ แต่มันก็ติดปากตั้งแต่ครั้งแรกก็เลยเผลอไปบ้าง”
“เผลอปากบ่อยเลยทีเดียวล่ะ” กัณต์ส่ายหน้า บ่นพึมพำ แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด ซึ่งเมื่อพูดเสร็จก็อดตำหนิตัวเองว่าไม่น่าเลย
“เย็นแล้ว ไม่ไปรับเด็กหรือครับ ป่านนี้น้องคงเลิกเรียนแล้ว”
“ผมกับเขาเป็นแค่...” ชาลีตาลุกวาบขึ้นมาทันที เสียงห้วน แต่ก็หยุดพูดอยู่แค่นั้น
“คุณพูดเองว่ากิ๊กเป็นนักศึกษา ผมก็แค่อยากรู้” กัณต์ยกเหตุผลขึ้นมาพูด
“คุณเป็นคนพูดเอาเองนะว่าผมชอบเด็ก” ชาลีสวนกลับ “คุณรู้หรือว่าผมมีรสนิยมยังไง”
“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้” กัณต์ยักไหล่ “ผมมองคนออกเหมือนกัน”
“คุณมองว่าผมเป็นคนชอบเด็ก”
“งั้นจริงหรือเปล่าครับ” กัณต์เลิกคิ้วถาม
“”ไม่จริง” ชาลีทำเสียงเข้ม มองตานายตำรวจหน้าเข้มชั่วอึดใจแล้วพูดว่า “ผมชอบผู้ใหญ่ ชอบคนที่เหนือกว่าผม แข็งแกร่งกว่าผม ไม่เหลาะแหละ ชอบคนที่สามารถดูแลผมได้ ส่วนคนอื่นนั้น แค่ทางผ่าน”
กัณต์แทบจะกลั้นหายใจ ชาลีบ่งบอกความนัยอะไรบางอย่างที่ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองกำลังโดนจีบ
...หรือไม่ชาลีก็กำลังเปิดทางให้เขาจีบ...
“วันเสาร์นี้ผมจะไปเยี่ยมพายัพ เด็กที่ถูกแทง จำได้ไหมครับ คนที่เข้าไปช่วยคนโดนกรรโชกทรัพย์แล้วถูกแทง คนที่เราไปเจอที่...”
“ผมจำได้ครับ ไม่ใช่คนความจำสั้นขนาดนั้น” กัณต์รีบแทรกด้วยเสียงเคร่งปนขำ
...ดูเอาเถอะ ชาลีเปลี่ยนอารมณ์ หรือทำให้เขาเปลี่ยนอารมณ์ได้ฉับพลันแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้...
“ไปด้วยกันนะครับ” ชาลีทอดเสียงอ่อนโยน “อย่างน้อยเราสองคนก็เป็นคนช่วยเขา”
กัณต์อึ้กครั้ง ไม่นึกว่าชาลีจะชวนเขาดื้อๆ เขายังจำครั้งแรกๆ ที่พบกันได้ แม้แต่จะขอให้เป็นผู้ให้ปากคำหรือชี้ตัวผู้ต้องหา ชาลีก็โยกโย้อยู่เป็นนานสองนาน ไม่ยอมให้ความร่วมมือและแสดงชัดเจนว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา แม้จะพาไปดูตัวผู้ต้องสงสัย ชายหนุ่มยังต่อรอเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทำเหมือนเขาจะพาไปตกระกำลำบาก แต่วันนี้กลับมาชวนเขาไปด้วยกัน
...ชาลีกำลังคิดอะไรกับเขาอยู่...


///// 10 */////

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #182 เมื่อ09-02-2010 17:37:02 »

 :z13: :z13: :z13:
 :laugh:
____________________
ชาลี อ่อย :oo1:
เวลาทิ้ง ระวังจะทิ้งไม่ลงนะจ๊ะ
นุ้งชาลี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2010 17:57:23 โดย iloveu4you »

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #183 เมื่อ09-02-2010 18:14:55 »

นั่นสิ ชาลี จะทำอะไร

จะอะไรก้อช่างรีบ ๆทำเถอะ :m20:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #184 เมื่อ09-02-2010 18:34:46 »


ร้ายพอกัน   :laugh:

 :L2: ++ แล้วนะเป็นกำลังใจ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #185 เมื่อ09-02-2010 18:55:40 »

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:



คุนหมอ ผม นี้ เก่ง จริงๆๆๆ




แบบนี้ รักตาย เรยย


 :3123: :3123: :3123:

cipher

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #186 เมื่อ09-02-2010 19:16:27 »

เข้ามาเชียร์หมอชาลี :z2:


morrian

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #187 เมื่อ09-02-2010 19:42:50 »

ตามอ่านทันแล้วค้าบ  :z2:

เรื่องนี้สงสัยจะดราม่า อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นจริงๆ

สุดท้าย หมอชาลี ก็จะตกหลุมรักสารวัตร จนยากเกินจะถอนใจ 

และที่สำคัญ เมื่อรู้ว่า ใครคนนั้น ที่ทำให้เพื่อนอย่างเควิน

ต้องฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังในความรัก คือ สารวัตร คนนี้

ก็คงต้องทั้งรักและทั้งเกลียด กันละนะงานนี้ คุณหมอ  :m15:

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #188 เมื่อ09-02-2010 20:37:12 »

สารวัตรฉลาดจัง

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #189 เมื่อ09-02-2010 20:46:27 »

แหมคุณตำรวจคุณหมอเค้าทั้งอ่อยทั้งทอดสะพานแบบนี้
เค้าไม่ได้แค่คิดเฉยๆนะคะเค้าจะเอา...คุณตำรวจให้ได้ด้วยล่ะคะ  :o8:
ทั้งเปรี้ยวทั้งฉลาดไม่มีใครเกินเก็บอารมณ์เก่งอีกต่างหากละ่นะแม่นางฟ้าชาลี
ต่างคนต่างชอบความท้าทายไม่ยอมแพ้ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนที่ตัวเองคิดว่าเดายากด้วยแล้ว
งานนี้มาลองเคี้ยวของยากๆกันเหอะ ไฟกับน้ำมันอั๊ยย นุ้งชาลีเหมือนมีความแค้นสังคมมาแต่ชาิติ
ปางก่อนนะนั่น หมอชาลีใจดีและอ่อนโยนคนนั้นหายไปไหนล่ะนั่น ค.อ่อนโยนใจดีจะมีไว้
ให้แก่วิชาชีพอย่างเดียวรึเนี่ย  :เฮ้อ:

“แฟนผมเป็นหมอครับ" ชาลีเงยหน้าขึ้นยิ้มเยือกเย็นให้กัณต์ "แต่กิ๊กเป็นนักศึกษา"
>>เปิดเผยได้น่าปล้ำมวกมากจ๊ะคุณหมอชาลี

+1 คะ  o13 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
« ตอบ #189 เมื่อ: 09-02-2010 20:46:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #190 เมื่อ09-02-2010 21:00:43 »

มันยังไงอยู่น้า บอกว่าจะแกล้งเขา แต่เกือบบอกไปว่า เด็กคนนั้นเป็นใคร

คิดจะแกล้งศาลาวัด แต่ซักวัน จะโดยย้อนศรเอานา

+1 ให้พี่นาย เป็นกำลังใจให้เสมอ ๆ ครับ  :z2:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #191 เมื่อ09-02-2010 21:13:00 »

ใครจะเพลี้ยงพล้ำในเกมนี้ ?? 

รอ...

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #192 เมื่อ09-02-2010 21:20:04 »

ช่วงstart ชาลีนำไปก่อน  1-0  o13

รอดูกลางเกมว่า ผู้หมวด เอ๊ยท่านสารวัตรจะตีตื้นได้มั้ย 

McDeliVery

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #193 เมื่อ09-02-2010 21:25:55 »

มาสเตอร์พีซชิ้นนี้

ดูท่าว่าจะยาก!!!


ปล. รักกันจริง ๆ ขึ้นมามีหวัง ชาลีโดนสารวัตรตื๊อเเน่

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #194 เมื่อ09-02-2010 22:36:14 »

เกมส์......ใครแพ้เสียหัวใจ...ให้ผู้ชนะ



สมน้ำสมเนื้อ..ดีจริงๆ  :laugh:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #195 เมื่อ09-02-2010 22:41:01 »

ตกลงจะเอายังงัยกันเนี้ยะ

chae

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #196 เมื่อ10-02-2010 00:07:08 »

เนื้อเรื่องเข้มข้น แบบว่ากัดกันได้อย่างเจ็บแสบและเป็นผู้ดีมาก...............
หมอชาลีคงผ่านอะไรมาเยอะ และทุกสิ่งที่ผ่านมามันคงร้ายแรงของจริง
นี่เป็นอีกเรื่องนึงของเรื่องนี้ที่ทำให้ประทับใจตรงที่ว่า ความรัก นานวันมันก็ยิงร่วงโรย
ยิ่งอยากรักเขามากเท่าไหร่ แต่ถ้เลือกคนไม่มี ไม่ยอมมองความเป็นจริง มัวแต่ให้ความักบังตา
อยากจะต้องเจ็บปวดเหมือนที่หมอชาลีเคยโดนเป็นแน่แท้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #197 เมื่อ10-02-2010 02:32:02 »

เอาล่ะ เกมเริ่มแล้วววววว

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10 (9/2/2010)
«ตอบ #198 เมื่อ10-02-2010 13:16:31 »

ย้อนเวลาหาอดีตกันนิดนะครับ

บทที่ 6 ที่ติดค้างเอาไว้ครับ ผมพิมพ์ใหม่อีกรอบ เพราะบทที่ 6-7 ที่พิมพ์ในโน๊ตบุ๊คเสร็จแล้วคงต้องถูก 'กักขัง' ไว้ในนั้นอีกนานเพราะอแดบเตอร์มันเสียและผมก็ไม่มีเงินซื้อใหม่  :m15:

ขอบคุณผู่้อ่านทุกท่านครับ

ความเดิม บทที่ 5 ชาลีกับนาวิน น้องชายคนใหม่ไปเยี่ยวพายัพ พลเมืองดีที่ถูกแทง ตอนที่ชาลีกับกัณต์วิ่งเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บพร้อมกัน

เพลิงรัก บทที่ 6

ชาลีกับนาวินเดินออกมาจากอาคารผู้ป่วยของโรงพยาบาลช้าๆ ชาลีคุยกับนาวินเรื่องทั่วๆ ไปและลงท้ายด้วยการย้ำเรื่องการเดินทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน เด็กหนุ่มเลิกเรียนแล้วจะนั่งรถประจำทางมารอเขาที่หน้าโรงพยาบาล ยกเว้นสามวันที่ชาลีออกตรวจที่โรงพยาบาลศิริราชที่นาวินจะไปรอเขาหน้าห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่บนเส้นทางกลับบ้าน
ชาลีเริ่มจะคุ้นเคยกับการมีใครอีกคนหนึ่งเพิ่มเข้ามาในบ้าน นาวินก็เริ่มปรับตัว อาการซึ้มเศร้าที่สูญเสียพี่ชายก็เริ่มหายไป หากบางคราวที่อยู่คนเดียว เด็กหนุ่มมักจะนั่งเงียบ คิดถึงพี่ชายแล้วบางครั้งก็ร้องให้
ชาลีไม่เคยนึกเลยว่า จู่ๆ เขาก็จะกลายมาเป็นพี่ชายคน ในชีวิตของเขาอยู่คนเดียวมาตลอดตั้งแต่พ่อกับแม่หย่าร้างกัน ตอนนี้พ่อของเขาแต่งงานใหม่และมีครอบครัวที่น่ารัก ต่างจากเมื่อครั้งที่เคยอยู่กับแม่และเขาโดยสิ้นเชิง แม่เขาทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น ไม่ยอมกลับมาเมืองไทย ไม่ยอมแม้แต่จะไปเยี่ยมเขาที่สหรัฐอเมริกา ไม่ยอมแม้แต่จะมาเยี่ยมเขาที่เมืองไทยคราวที่เขาถูกหามส่งโรงพยาบาลถึงสามครั้งสามคราเพราะคนใจดำสองคนที่เกือบทำลายชีวิตของเขา
คนที่เคยบอกว่ารักเขามาก คนที่เขาทุ่มเททั้งชีวิตและหัวใจให้จนหมดสิ้น...
...โง่สิ้นดีที่หลงเชื่อในความรัก ตอนนั้นเขาโง่สิ้นดี...
...อ่อนเยาว์และโง่ คิดแล้วอยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตนัก ถ้าทำได้ บาดแผลที่อยู่บนกายและอยู่ในใจเขาคงจะหายไป...

“ถ้าตอนที่รอพี่มีคนเข้ามาคุยด้วยหรือชวนไปถ่ายแบบ ห้ามตอบตกลงเด็ดขาด เรื่องเรียนต้องมาก่อน” ชาลีสั่งสอนนาวินพลางเดินลงไปยังลานจอดรถ “เรื่องจะเข้าวงการนี่เอาไว้คิดตอนจบปริญญาโท ตอนนี้เรายังเด็กอยู่ โลกภายนอกนี่มันร้ายกาจ พี่ไม่อยากให้นาวินเจอพวกคนไม่ดี”
“ผมรู้แล้วน่า” นาวินตอบ
“พี่เป็นห่วง”
“ผมรู้แล้วว่าพี่เป็นห่วง”
“แล้วเวลารอพี่ในห้างให้เปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ดังสุด เปิดระบบสั่นด้วย เวลาพี่โทรมาจะได้รับสายเลย ตอนรอให้ไปยืนใกล้ๆ ตู้โทรศัพท์ถัดจากป้ายรถเมล์ ถ้ารถเมล์เข้าป้ายหลายคันพี่จะเลยไปอีก ให้เดินตามไปขึ้นตรงใต้สะพานลอย” ชาลีสั่งต่อ
“ครับ ครับ ครับ” นาวินพยักหน้า
“แล้วอย่ามัวแต่กดโทรศัพท์เล่นเกม เงยหน้าขึ้นคอยมองรถพี่ด้วย”
“พี่หมอไม่ต้องห่วงหรอก พอรถพี่ใกล้มาถึงรับรองผมเห็นแน่ๆ ขับปาดไปปาดมาซะขนาดนั้น มีเสียงบีบแตรด่ามาก่อนอีกต่างหาก” นาวินหัวเราะ
“เดี๋ยวเถอะ ทำเป็นพูดดี” ชาลียกมือขึ้นทำท่าจะฟาดน้องชายคนใหม่
“พี่หมอ...” เสียงนาวินเรียกเขาเบาๆ พร้อมสะกิดแขนเขาให้หันไปมอง
...เอาอีกแล้ว อะไรกันนักกันหนา นายตำรวจคนนี้ทำไมมาวุ่นวายกับเขานัก...
พันตำรวจตรีกัณต์กำลังยืนพิงรถเขาด้านประตูคนขับ ก้มหน้ามองโทรศัพท์ในมือของตัวเอง ราวกับกำลังอ่านข้อความอะไรสักอย่าง
นายแพทย์ชาลีเดินตรงไปที่รถ นาวินเดินตามมาช้าๆ แต่ชาลีหันไปหาเด็กหนุ่มแล้วชี้มือให้ไปนั่งรอที่ม้าหินอ่อนไม่ไกลจากรถเท่าใดนัก
เมื่อเข้าไปใกล้สารวัตรหนุ่มที่โดนเขาลดยศเหลือแค่เป็นหมวด กัณต์ยังไม่รู้สึกตัว ยืนกดโทรศัพท์อยู่ยังโดยไม่สนใจสิ่งต่างๆ รอบกาย แม้จะหยุดยืนหน้านายตำรวจแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เงยหน้าขึ้น แต่ชาลีรู้ว่ากัณต์คงรู้สึกตัวแล้วว่ามีคนมาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ
...กวน...
คำเดียวที่ชาลีนึกได้ก็คือคำนี้
“ผมตามตัวคนร้ายเจอแล้ว ถึงคุณไม่ยอมเป็นพยานผมก็เข้าจับกุมได้” กัณต์พูดเสียงเรียบ มือยังกดโทรศัพท์อยู่ เสมือนว่าน่าสนใจกว่าเขานัก
...กวน...ชาลีพูดในใจซ้ำๆ
“มาบอกผมทำไม” ชาลีพูดห้วนๆ “ถ้างั้นก็ไม่มีเหตุผลที่หมวดจะมาวุ่นวายกับผม”
“ผมมาบอกให้เด็กรู้” กัณต์กดปุ่มบนโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย แล้วสอดโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงเครื่องแบบสีกากีรัดติ้ว
...เขาหุ่นดีมาก ชาลียอมรับว่านายตำรวจคนนี้สวมชุดเครื่องแบบแล้วดูเท่ยิ่งกว่าตำรวจคนอื่นๆ ที่เขาเคยพบ
...แต่กวนและขี้เก๊ก ท่าทางหลงตัวเองอีกต่างหาก คงคิดว่าตัวเองหน้าตาดีมากจนไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง...
“แต่พอดีเจอคุณหมอ ก็เลยบอกให้คุณหมอรู้ด้วยอีกคน”
“พอดีเจอผมหรือ” ชาลีพยักหน้าทำเป็นรับรู้ “ฮื่อ หมวดคงไม่รู้ว่ารถที่ยืนพิงอยู่นี่นะเป็นรถผม”
“อ๋อ เหรอครับ โทษที” กัณต์ทำหน้าตกใจ
...แกล้งทำหน้าตกใจสิไม่ว่า...ชาลีเบ้ปาก เริ่มจะหมั่นใส้คนหน้าหล่อมากขึ้นทุกที
“เสียดาย ผมกำลังคิดจะเป็นพยานให้พอดี พอหมวดไม่ต้องการพยานแล้ว ผมเลยอดเป็นพลเมืองดีไปเสียนี่” ชาลีทำหน้ามุ่ย
...แกล้งทำหน้าเสียดายได้แนบเนียนมาก...
กัณต์ยิ้มเยาะ ก่อนจะแก้ยศของเขาให้ถูกเพราะชักจะทนไม่ไหวแล้วที่โดนนายแพทย์หัวดื้อเรียกเขาลดขั้นลงมาฮวบฮาบ
“สารวัตรครับ ผมพันตำรวจตรีกัณต์ เวโรจน์ เป็นสารวัตรสืบสวนมาหลายปีแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เป็นพันตำรวจโท เลิกเรียกผมว่าหมวดได้แล้ว”
“โอ๊ะ ขอโทษครับ ผมตาไม่ดี เห็นดาวไม่กี่ดวงบนบ่าของหมวด เอ๊ย สารวัตร ก็เลยเผลอปาก ลืมไปว่ามีมงกุฏครอบด้วย”
...กวน...
กัณต์เบือนหน้าไปด้านข้าง เบ้ปาก ก่อนจะหันมาหาชายหนุ่มที่ก็เบือนหน้าไปด้านข้างเช่นกัน แต่เป็นคนละทาง
“ผมจะสวมเครื่องแบบมาให้เห็นบ่อยๆ คุณหมอจะได้เรียกถูก ส่วนเรื่องเป็นพยานหรือไม่เป็นนั้นก็ตามใจครับ ยังไงๆ ผมจะรีบปิดคดีให้ได้” กัณต์ขยับตัวออกจากรถของนายแพทย์หนุ่ม ผายมือเปิดทางให้ ก่อนจะพูดว่า “แต่ผู้ร้ายจะหลุดคดีหรือไม่ อันนี้ผมไม่รับประกัน พอจับได้แล้วก็ถือว่าผมทำงานของตัวเองเสร็จ ที่เหลือเป็นเรื่องของศาล ถ้าพยานหลักฐานแน่นหนา ก็ไม่รอด แต่ถ้า...”
...ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไร...ชาลีบอกกัณต์อยู่ในใจ
“ผมไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวลไปได้หรอก” ชาลีบอกเสียงเข้ม “แล้วคุณไม่ต้องมาใช้คารมแบบนี้กับผม ผมรู้ทัน ผมรู้ว่าคุณจะพูดอะไรต่อไป ไม่ต้องมาเล่นเกม”
“ผมหรือเล่นเกม” กัณต์เลิกคิ้ว “ผมไม่รู้เลยนะนี่ว่าผมกำลังเล่นเกม ผมนึกว่าคุณหมอต่างหากเป็นคนเล่น”
ชาลีกรอกตา พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วเดินหนีกัณต์ไปเสียดื้อๆ เพื่อไปตามนาวินซึ่งนั่งคอยอยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้ พลันได้ยินเสียงของนายตำรวจแว่วมาเบาๆ
“ไม่น่าเชื่อว่านิยมเด็ก”
นายแพทย์ชาลีกัดฟัน หันขวับทันที อีกฝ่ายหันหน้าหนีไปเสียแล้ว ร่างสูงเดินห่างออกไปช้าๆ
“หมวดปืนสั้น ฮึ” ชาลีพึมพำ น้ำเสียงดูถูกคนที่เขาเห็นว่า “กวน” ที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา “ระวังตัวให้ดีเถอะ”

“หมวดปืนสั้น” นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถVolvo XC 90คู่ชีพ ตามองร่างสูงโปร่งของนายแพทย์หนุ่มที่ “ยอม” ไปกับเขา ชาลียังเล่นเกมยื้อเวลากับเขาอยู่อีกถึงสองวันกว่าจะยอมเป็นพยาน วันนี้เขาจะพาชาลีไปชี้ตัวผู้ต้องสงสัย เขาสืบสวนจนรู้ว่า “อ้วน” ผู้ต้องสงสัยชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัสกบดานอยู่ที่สมุทรปราการ แต่ชาลีต้องการให้เขาแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ไม่เช่นนั้น แพทย์หนุ่มจะไม่ยอมเป็นพยาน
กัณต์ยอมรับว่าเขาเหนื่อยที่จะถกเถียงกับนายแพทย์หัวดื้อคนนี้ ชาลีไม่เคยยอมลงให้เขาเลย ไม่ฟังคำอธิบายอะไรด้วยซ้ำ หากชาลีท่าทางจะเถียงสู้เขาไม่ได้ หมอหนุ่มก็จะหยุดพูดแล้วเดินหนีหรือวางสายโทรศัพท์ไปเสียเฉยๆ แล้วเขาก็จะต้องเป็นฝ่าย “เริ่ม” ถกกันใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เขากลับไปสงบสติอารมณ์แล้วซักระยะ
กัณต์ไม่เคยคิดเลยว่า บางคืน เขาต้องเอามือก่ายหน้าผาก พยายามคิดหาวิธี ‘จัดการ’ กับนายแพทย์หน้าเข้มคนนี้...
...คนที่กำลังขึ้นรถนั่งอยู่ข้างๆ เขาแล้วปิดประตูเสียงดังปัง...
“ไม่ใช่รถบรรทุกนะครับ รถผมคันละหลายล้าน ประตูพังไปนี่ซ่อมแพงนะ”
“ขอโทษครับ ผมเคยชินกับรถตัวเอง” ชาลีกล่าวขอโทษเสียงเรียบ หากหน้าตาไม่ได้รู้สึกเช่นที่พูด “สองชั่วโมงเท่านั้นนะครับ ผมต้องรีบกลับไปรับเด็กที่เลี้ยงอยู่ ต้องพาไปทานข้าว พาไปเล่นเกม พาไปทำอะไรสารพัด” ชาลีประชด ยังจำที่กัณต์พูดกระทบเขาได้ไม่ลืมว่าเขา “นิยมเด็ก”
“สองชั่วโมงไม่ทันหรอกครับ สามดีกว่า” กัณต์ต่อรอง
“สองชั่งโมงครึ่ง”
กัณต์ส่ายหน้า เลิกต่อรองกับนายแพทย์ชาลีที่เลิกต่อรองเช่นกัน เพราะหยิบหูฟังไอพอดสีขาวขึ้นมาแล้วเอาหูฟังอุดหูทันทีที่พูดจบ จากนั้นนั่งกอดอกนิ่ง มองออกไปนอกหน้าต่าง ตัดขาดการสนทนากับนายตำรวจซึ่งนั่งหน้าตึงอยู่หลังพวงมาลัย

ทันทีที่เห็นผู้ชายที่กัณต์พามาดูตัว ชาลีก็ตอบว่า "ใช่" ด้วยเสียงเบาๆ  ตายังยังจับจ้องอยู่ที่ชายหน้าเหี้ยมผิวสีดำแดงที่กำลังนั่งพ่นบุหรี่อยู่บนเก้าอี้ในเพิงขายของเก่าๆ ข้างถนน
“ฆ่าทิ้งซะเลยดีไหมครับสารวัตร เอาปืนมาให้ผม เดี๋ยวผมเป็นคนยิงเอง”
ทั้งที่รู้ว่าชาลีแกล้งพูดเพราะอารมณ์ แต่กัณต์ก็อดพูดไม่ได้ว่า "กฏหมายก็คือกฏหมายนะครับ ยังไงก็ต้องว่ากันไปตามผิดตามถูก"
“ผิดถูกของคุณจะทำให้ไอ้คนนี้ติดคุกกี่ปีล่ะ ไม่นานก็จะลดหย่อนโทษ อีกหน่อยก็ออกมาเดินเล่นอยู่ริมถนนตอนกลางคืนได้แล้ว”
“ผิดถูกของกฏหมาย ไม่ใช่ของผม ผมไม่ได้เป็นคนกำหนดว่าใครควรจะตายหรือไม่ควร คนทำโทษก็ต้องได้รับโทษ นั่นมันกระบวนการของศาล ผมไม่ได้เรียนนายร้อยตำรวจมาเพื่อฆ่าคนนะครับ” กัณต์เสียงเข้ม
"แล้วศาลให้ความยุติธรรมได้แค่ไหน ผมไม่เชื่อในระบบยุติธรรมของเทศนี้หรอก ไม่เคยเห็นคนผิดได้รับโทษสาสมกับความผิดเลยซักครั้ง จะเสียเวลากันในศาลทำไมไม่รู้ คุณรู้ไหม ระบบยุติธรรมของประเทศนี้เหมือนอะไร เหมือนตราชั่งขึ้นสนิมหนึ่งอัน วางทิ้งไว้บนพื้นทรายที่น้ำกัดเซาะทีละนิด แล้วซักหน่อยก็มีคนมายกตราชั่งไปเช็ดซักทีสองที แล้วเอามาตั้งห่างไปจากที่เดิมอีกนิด"
กัณต์ไม่ตอบเพราะรู้ว่านายแพทย์ชาลีนั้นหัวรั้นเกินกว่าจะรับฟังเหตุผลของเขาจึงเคลื่อนรถออกไป นายแพทย์หนุ่มหันไปมองผู้ต้องสงสัยคนนั้นจนลับตาราวจะบันทึกไว้ในความทรงจำแล้วจึงหันกลับมา
"ผมชี้ตัวแล้ว คุณก็เข้าจับกุมได้เลยสิ เมื่อกี้ทำไมไม่ลงไป"
กัณต์ส่ายหน้าเล็กน้อย ปรายตาไปมองชาลีแล้วตอบว่า "รออีกหน่อยเถอะ ไหนๆ คุณก็รอมาได้หลายวัน พรุ่งนี้ไม่เกินเที่ยงให้คุณได้ชี้ตัวผู้ต้องหาได้แน่ ผมจะโทรไปบอก"
ชาลีเอนตัวลงกับเบาะรถ ยกมือขึ้นมามองเวลาแล้วหันไปมองผู้ต้องสงสัยหน้าเหี้ยมคนนั้นอีกครั้ง
“ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงสิบห้านาทีครับ” เสียงกัณต์ดังขึ้น
...ประชดอีกแล้ว ประชดได้ประชดดี ตำรวจอะไรปากร้ายจริงๆ...
ชาลีปรายตาไปมองกัณต์อย่างฉุนๆ เม้มปาก พยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ตอบโต้
“คุณหมอชาลีครับ ผมจะพยายามให้ดีที่สุด แล้วที่คุณหมอกรุณาช่วยเป็นพยานให้นี่ก็จะช่วยให้คนผิดต้องได้รับทาสาสามกับที่เขาทำ แต่เราก็ต้องพึงระลึกไว้ด้วยว่า กฎหมายก้มีขอบเขต มีความเหมาะสมอยู่ในระดับหนึ่ง”
“แต่มีช่องโหว่อยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ” ชาลีแทรก “คุณจะให้ผมอุปมาเปรียบเทียบระบบยุติธรรมให้ฟังอีกไหมล่ะ”
“เจ้าทุกข์ก็แค่บาดเจ็บ พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยนั้นบาดเจ็บสาหัส แพทย์ก็ให้การรักษาอยู่”
“พยายามฆ่า หรือสารวัตรกำลังจะพยายามโน้วน้าวให้ผมคิดว่ามันควรจะเป็นแค่เรื่องคดีวิ่งราวชิงทรัพย์”
“มันก็...”
“ผมไม่ให้สารวัตรรับประกันหรอกว่าไอ้คนนั้นต้องได้รับโทณจำคุกสิบปียี่สิบปีหรือตลอดชีวิต” ชาลีถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แต่คุณรับปากกับผมได้ไหมว่า มันต้องได้รับโทษอย่างสาสมกับความเลวที่ทำ”
กัณต์ไม่ตอบเพราะเกรงว่าจะต้องเถียงกันเรื่อง ‘ระบบยุติธรรมของประเทศ’ อีกครั้ง นายตำรวจหนุ่มหันไปมองถนนเบื้องหน้าและแอบถอนหายใจเบาๆ อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมหมอชาลีเป็นเดือดเป็นแค้นนัก
“คนทำผิด ต้องได้รับโทษหนักๆ” ชาลีย้ำเสียงห้วน
“พรุ่งนี้ผมจะจัดการให้เรียบร้อย คุณหมอรอไปชี้ตัวได้เลย” กัณต์ย้ำอีกเช่นกัน
“เย็นนี้เลยไม่ได้หรือ”
“เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงห้านาทีครับ เดี๋ยวไปรับเด็กไม่ทัน”
“กวน” คราวนี้ชีพูดสิ่งที่เอาแต่พูดในใจออกมา
...ดื้อรั้น...กัณต์ตอบโต้อยู่ในใจ
...ชาลี คุณนี่ยังไงกันนะ ตอนแรกทำเหมือนไม่สนใจ ไม่ยอมแม้แต่จะให้ปากคำกับตำรวจด้วยซ้ำ กว่าจะยอมเป็นพยานให้ก็เล่นเอาเหนื่อย คราวนี้ทำท่าอย่างกับจะกระโดดลงไปสำเร็จโทษผู้ต้องสงสัยเสียเอง...
กัณต์ไม่เข้าใจนายแพทย์ปากร้ายคนนี้เลยจริงๆ แต่จากการสังเกตทำให้เขาสงสัยว่าหมอชาลีน่าจะเคยมีอดีตไม่ดีเกี่ยวกันเรื่องแบบนี้ เขาได้ยินชายหนุ่มย้ำเรื่องทำผิดต้องได้รับทาสาสมมาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งนัยน์ตาจะแข้งกร้าวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

กัณต์เคาะแป้นคีย์บอร์ดเพื่อเลื่อนดูหน้าเอกสารบนจอคอมพิวเตอร์ช้าๆ คิ้วขมวดเป็นระยะสลับกับการถอนหายใจเมื่อเห็นอะไรบางอย่างก่อนจะยกมือขึ้นกดขมับเพราะรู้สึกปาดตาที่อ่านตัวหนังสือเล็กๆ บนหน้าจอมาเป็นเวลานาน
“หมอชาลี เกิดอะไรขึ้นกับคุณ” กัณต์พึมพำคนเดียวแล้วเอื้อมมือไปปิดหน้าจอ
ภาพและตัวหนังสือที่ได้เห็นและอ่านทำให้เขาอึ้ง  นายแพทย์ชาลีเมื่อเป็นวันรุ่นดูแตกต่างจากปัจจุบันมากเกือบจะเป็นคนละคนแต่นัยน์ตาคมกริบแฝงเศร้าและดื้อรั้นคู่นั้นยังดูเหมือนเดิม ปากอิ่มเต็มที่เขาชอบมองก็เหมือนเดิม หากอีกภาพของชาลีหลายสิบภาพในแฟ้มคดีเมื่อสิบปีที่แล้วนั้นแตกต่างไปจนเขาต้องเบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราว
กัณต์ถอนหายใจอย่างคาดไม่ถึง ความจริงเขาเพียงแต่อยากจะรู้ข้อมูลเบื้องต้นของนายแพทย์ตัวร้ายบ้างเท่านั้น แต่ไม่นึกเลยว่าข้อมูลในแฟ้มประวัติบุคคลของชาลีนั้นจะมีมากจนไม่น่าเชื่อ
...ชาลี ตอนนี้คุณรู้สึกยังไง แผลกายคงจะจากหายไปตามกาลเวลา แต่แผลใจล่ะ...
****6***

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
+++++ให้คุณนายยังอุตส่าห์พิมพ์บทที่หกให้ใหม่

ขอ  :กอด1: ได้ไหม :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: เพลิงรัก บทที่ 10
«ตอบ #200 เมื่อ10-02-2010 14:31:25 »

 :sad4: :o12: สารวัตรทำเกินหน้าที่อีกแล้วนะคะ
แหม..รู้ประวัติคุณหมอแล้วรึเนี่ย...แผลกายคงหายไปแล้วล่ะแต่ว่า
สนใจจะช่วยรักษาแผลใจให้หมอชาลีมั๊ยล่ะนั่น ได้ข่าวตัวเองก็ฟันแล้วทิ้ง เล่นสนุกกับหัวใจคนเหมือนกันมิใช่เรอะคุณตำรวจ..

คู่นี่จิกกันกันกวนประสาททั้งคู่เลยนะนั่น ...หมอก็นะไม่ยอมลดลาวาศอกสักนิดเลยอ่ะ
เถียงๆๆๆ ดื้อจริงๆ
สารวัตรเคอะ...สนใจจะเป็นเด็กในสังกัดของหมอชาลีบ้างมั๊ญนั่น มัวจิกกัดเค้าว่า นิยมเด็กอยู่ได้555

เลิศ!!!

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
มาขอตามอ่านด้วยคนคับ สนุกดี

Jinkle

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

เข้ามาขอความรุ้

สืบสวน Vs. สอบสวน

ต่างกันอย่างไร

 :pig4:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

ไปหามา....


สืบสวน และ สอบสวน

คำว่า สืบสวน ประกอบด้วยคำว่า สืบ กับคำว่า สวน.  คำว่า สืบ หมายถึง เสาะหา, แสวงหา   คำว่า สวน สันนิษฐานว่ามาจากคำภาษาเขมรว่า สวร (อ่านว่า ซัว) แปลว่า ถาม   สืบสวน หมายถึง แสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง เช่น เจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนให้รู้ว่าใครเป็นมือวางระเบิด  สถานีตำรวจต่าง ๆ พยายามเร่งรัดการสืบสวน และจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

คำว่า สอบสวน ประกอบด้วยคำว่า สอบ กับคำว่า สวน   คำว่า สอบ หมายถึง ตรวจ ทดลอง เปรียบเทียบ หรือไล่เลียงเพื่อหาข้อเท็จจริง   สอบสวน หมายถึง ซักถามเพื่อรวบรวมหลักฐานหรือข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ความผิด เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนผู้ต้องหาอย่างเคร่งเครียด   ในการสอบสวนครั้งสุดท้าย จำเลยยังให้การปฏิเสธทุกข้อหา

สืบสวน หมายถึง แสวงหาข้อเท็จจริงด้วยวิธีการต่าง ๆ  ส่วน สอบสวน หมายถึง หาข้อเท็จจริงด้วยการซักถาม



ที่มา :  บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย"  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.



ความหมายยาวๆ ต้องดูใน ป.วิอาญา ม.2 (10) ค่ะ



ออฟไลน์ railay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 983
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0

morrian

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่มาต่อให้นะคับ


รออ่านตอนต่อไปนะค้าบบ  :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมอชาลีในอดีตจิง ๆ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
++  :L2: ขอบคุณสำหรับบทที่ 6
ไม่ได้ทวงนะคุณนาย  o18 บทที่ 7 อีกนานป่าว

น่าสงสารหมอชาลี
สารวัตรจะจัดการกะเคสนี้ยังไง  :z2:

ToRMoR

  • บุคคลทั่วไป
 o11   หึหึรีบๆมาซะดี :fire:
 :m31:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด