Chapter 13
ภายในบ้านของวารินทร์ที่ตกแต่งแบบยุคโบราณในสมัยก่อน ซึ่งถูกใจคุณหญิงสุดามาก และถึงบ้านวารีรินทร์จะเป็นไม้แต่กลับดูเหมือนไม้ใหม่ไม่เก่าเลยสักนิดเดียวถึงแม้ว่าอายุของบ้านหลังนี้จะเก่าแก่กว่าอายุของทุกคนในบ้านนี้รวมกันแล้ว
“เชิญนั่งครับ” วารินทร์บอกแขกที่มาเยือนพร้อมกับเดินเข้าไปในครัวเพื่อรินน้ำออกมาให้ตามมารยาทอย่างที่เจ้าบ้านควรจะทำ
“ขอบใจจ่ะ” คุณหญิงสุดาบอกก่อนจะรู้สึกว่าลูกชายคนเล็กดูรนรานผิดปกติชะเง้อมองไปรอบบ้านแต่ก็ไม่เจอกับสิ่งที่ต้องการ วารินทร์เองก็สังเกตเห็นเหมือนกันจึงพูดลอยๆขึ้นมา
“ไม่อยู่หรอกนะ คนที่คุณชะเง้อหาน่ะ…อย่าหาว่าผมรวบรัดเลยละกันนะครับ พวกคุณมีธุระอะไรจะพูดก็พูดมา” วารินทร์พูดเสียงนิ่งในจังหวะนั้นทุกคนก็เงียบกันอย่างไม่ได้นัดหมายในใจของทุกคนไม่อยากทำให้วารินทร์โกรธเพราะพวกเค้าเคยเห็นมาแล้วว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
“ป้าแค่อยากจะให้เจ้าตัวต้นเหตุมาขอโทษหนูนารินทร์ซะ…” ยังไม่ทันที่คุณหญิงสุดาจะพูดจบวารินทร์ก็พูดแทรกขึ้นมาเหมือนฟ้าผ่ากลางวงโดยไม่ไว้หน้าใครเลยสักคนเดียว
“นารินทร์ไม่พร้อมจะพบใครทั้งนั้น…จริงๆพวกคุณไม่ต้องมาถึงที่นี่ก็ได้…ผมไม่คิดที่จะไปยุ่งหรือวุ่นวายกับพวกคุณสักนิด รวมถึงนารินทร์ด้วย…มีแต่พวกวายุเทพนั่นแหละ ไม่รู้จักจบจักสิ้นกันเสียที” วารินทร์พูดตอนสุดท้ายอย่างแค้นเคืองเพราะเรื่องราวในอดีตบางอย่างมันตามหลอกหลอนวารินทร์จนทำให้วารินทร์พยายามเก็บตัวเงียบและห่างไกลจากผู้คนมากที่สุด แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องกลับมาพบกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้
“แต่ผมต้องการขอโทษนารินทร์คนเดียว…คนอื่นไม่เกี่ยว” ทุกคนอึ้งกับคำพูดของวายุที่พูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยความอยากเอาชนะและถือศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นทำให้วายุคิดจะต่อกรกับวารินทร์
“ขอชมเชยนะที่กล้าพูดแบบนี้กับฉัน…แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สถานะของตัวเองเลยสินะ ว่ากำลังตกเป็นรองขนาดไหน” พูดจบวารินทร์ก็ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็นทำเอาพายุขนลุกวาบเมื่อเห็นหน้าของวารินทร์ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ฟ่อ…ฟ่อ…ฟ่อ…ฟ่อ…ฟ่อ…ฟ่อ…ฟ่อ…” งูจำนวนมากมายโผล่ออกมาจากที่ไหนไม่มีใครทราบและมีงูตัวหนึ่งซึ่งใหญ่ยักษ์ขนาดกลืนวารินทร์กับนารินทร์ได้สบายๆ โอบพันรอบตัววารินทร์เหมือนเป็นที่นั่งของนางพญา ในสายตาของตระกูลเทพวายุทั้งสี่คนรู้สึกแปลกใจที่วารินทร์และนารินทร์อยู่ร่วมกับสัตว์ใหญ่โตขนาดนี้ได้อย่างไม่เกรงกลัวสักนิด…แต่วายุเทพก็ไม่รู้เลยว่า พี่ดำหรืองูยักษ์ในสายตาของพวกเค้าไม่มีทางทำร้ายคนของวารีรินทร์ แต่ถ้าคนอื่นก็ไม่แน่…
“หนูวารินทร์คะ ป้าขอร้องล่ะ ไม่ต้องพบนารินทร์ก็ได้…วายุ เลิกพูดได้แล้ว ขอโทษคุณวารินทร์ซะ แล้วจะได้กลับบ้านกันลูก” คุณหญิงสุดาพูดเสียงสั่นเครืออย่างหวาดกลัวกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
“วารินทร์ ผมขอร้องล่ะคุยกันก่อนได้ไหม” พายุพยายามหว่านล้อมวารินทร์แต่วารินทร์ก็ไม่ได้สนใจสักนิด เพราะในเมื่อศัตรูมาเหยียบจมูกถึงที่วารินทร์ก็คงอยู่เฉยๆไม่ได้
“หึหึ…คุณยังหวังว่าจะกลับกันไปแบบมีลมหายใจอีกหรือ…มาเหยียบจมูกกันขนาดนี้แล้วคิดจะกลับไปง่ายๆเลยหรือ” วารินทร์หัวเราะน้อยๆและแสดงอาการอย่างสะใจต่ออาการของคนทั้งสี่คนที่กำลังกลัวอย่างสุดขีดเพราะบริวารของวารินทร์เริ่มเลื้อยปีนป่ายขึ้นไปบนตัวของคนจากวายุเทพบ้างแล้ว
“วารินทร์ผมขอร้อง เอาพวกเค้าออกไปพ่อกับแม่ผมกลัวแล้ว ถ้าจะทำขอให้ทำที่ผมอย่าทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย” พายุเห็นว่าพ่อกับแม่ของตนเริ่มตัวสั่นอย่างหวดกลัวเค้าเป็นลูกย่อมทนไม่ได้อยู่แล้ว วารินทร์เริ่มได้สติขึ้นมาเพราะคำพูดของพายุจึงจัดการทำให้งูออกไปจากบ้าน
“ผมต้องการแค่อย่างเดียว…อย่ามายุ่งกันอีก ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีกต่อจากนี้ไป วารีรินทร์ กับ วายุเทพ ไม่รู้จักกัน คุณคงเข้าใจนะที่ผมพูดหมายความว่าอะไร คุณสุบรรณ” พายุที่ได้ยินอย่างนั้นก็เสียใจอยู่ไม่น้อยพายุคิดว่าความพยายามของเค้าคงมาได้แค่นี้ ต้องยอมจำนนต่อความต้องการของวารินทร์เพื่อความสุขของทุกฝ่าย
“ตกลง…วายุเทพจะไม่รู้จักวารีรินทร์นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป…พ่อ แม่ กลับกันเถอะครับ ไอ้วายุกลับ” พายุรีบดึงคนในครอบครัวให้ออกไปจากบ้านนั้นให้เร็วที่สุด…เมื่อทั้งสี่เดินพ้นประตูรั้วบ้านออกมาแล้ว รั้วบ้านวารีรินทร์ก็กระแทกปิดเองอย่างแรงพร้อมกับมีเสียงล็อคแม่กุญแจดังขึ้นกริ๊กหนึ่งโดยที่ไม่ปรากฏร่างของมนุษย์เลยสักคน จะบอกว่าเป็นระบบไฟฟ้าก็คงไม่ใช่เพราะของในบ้านนี้แทบทุกอย่างล้วนทำมาจากไม้ทั้งสิ้น
“พี่รินทร์จ๋า…เป็นยังไงบ้าง” วารินทร์ที่หลังจากส่งแขกเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับเข้ามาในสถานที่ลับของบ้านอีกครั้ง เพราะตอนนี้น้องชายของวารินทร์กำลังฝึกควบคุมตัวเองและการใช้อำนาจวิเศษในตัวโดยมีพี่ดำและวารินทร์คอยแนะนำสั่งสอนจนนารินทร์รู้สึกเริ่มคุ้นเคยกับมันบ้างแล้ว
“ทุกอย่างเรียบร้อย…พวกนั้นยอมรับข้อเสนอ ต่อจากนี้เรากับเค้าไม่รู้จักกันอีก” นารินทร์ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะโผเข้ากอดวารินทร์จนพี่ชายที่ไม่ได้ตั้งตัวเกือบล้มหงายหลัง แต่ก็ยิ้มให้กับความไร้เดียงสาของน้องชายตัวเอง แต่ในใจของวารินทร์กลับข้องใจกับอะไรบางอย่าง เพราะดูเหมือนเรื่องระหว่างวารีรินทร์กับวายุเทพจะจบเร็วเกินไป ซึ่งลึกๆแล้ววารินทร์ก็ยังไม่วางใจเท่าไรนักแต่อย่างน้อยเค้าก็สบายใจ…ในตอนนี้
“อื้อ…พอแล้วนารินทร์พรุ่งนี้ไปมหาลัยได้แล้ว…รีบๆเรียนให้จบสักทีเถอะเราน่ะ” วารินทร์บอกน้องชายพร้อมกับรอยยิ้มอย่างงดงามที่น้อยคนนักจะได้เห็น แต่นารินทร์ได้เห็นมัน
“ครับ…นาจะรีบเรียนให้จบแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงพี่รินทร์เอง พีรินทร์จะได้เลิกรับจ้างรำตามงานสักที…แต่จะว่าไปไอ้ของที่อยู่ที่นี่ถ้าเอาไปขายสักหน่อยก็สบายทั้งชาติแล้วนะพี่รินทร์” นารินทร์หมายถึงโลหะทองคำมากมายที่อยู่ในห้องลับแห่งนี้ซึ่งแต่ละชิ้นก็ดูท่าทางจะมีราคาสูงลิบ
“ของประจำตระกูลไม่จำเป็นจริงๆเราจะไม่แตะมันเด็ดขาด” นารินทร์ก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ จากนั้นสองคนพี่น้องก็พากันออกมาจากห้องลับห้องนั้นเพื่อเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงที่แสนจะโหดร้ายและสกปรกขึ้นทุกวัน หากแต่นั้นคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาทั้งนั้นจะโทษใครได้
เช้าวันต่อมานารินทร์มาเรียนมหาลัยตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือท่วงท่าการพูดการจาหรือการกระทำดูจะระมัดระวังมากขึ้นจนเพื่อนๆแซวว่าเหมือนเป็นเงาวารินทร์เข้าไปทุกที แต่นารินทร์กลับไม่คิดคิดแบบนั้น เพราะนารินทร์คิดว่ายังไงเสีย ตัวเค้าเองก็ห่างชั้นจากวารินทร์หลายขุมในทุกๆด้าน
“นายนารินทร์ไปเลี้ยงฉลองกับพวกเราด้วย…นี่ไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำสั่งเพราะฉะนั้นไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะจ๊ะ” ไมย์เดินมากอดคอนารินทร์แล้วพูดสิ่งที่ตัวเองตกลงกับเพื่อนคนอื่นๆเอาไว้แล้วโดยไม่ให้คนถูกชวนได้ปริปากขัดขืนอะไรเลย และโอก็ทำหน้าที่โทรบอกวารินทร์แม้ในใจจะกลัวๆอยู่บ้างแต่ก็ทำใจดีสู้เสือซึ่งพี่วารินทร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ถ้าหากมีอะไรให้โทรหาวารินทร์ทันที โอก็รับคำแบบสะดุ้งสุดตัวเพราะคำพูดของวารินทร์ที่หลุดมาตามสายโทรศัพท์เคลื่อนที่
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนารินทร์…พี่เอาตาย!!!” ทำเอาโอสะอึกอยู่ไม่น้อย…เพื่อนๆทุกคนพานารินทร์มาเที่ยวผับ ซึ่งที่นี่ก็เป็นสถานที่แปลกใหม่ของนารินทร์เพราะนี้คือครั้งแรกของเจ้าตัวน้อยของกลุ่มที่ได้เที่ยวในที่แบบนี้
“ตื่นเต้นจัง…นี่ครั้งแรกของเราเลยนะ” นารินทร์พูดอย่างตื่นเต้นก่อนจะเดินนำหน้าเพื่อนเข้าไปอย่างคนอยากรู้อยากเห็น ซึ่งเพื่อนๆทุกคนก็กุรีกุจอตามนารินทร์กันแทบไม่ทัน เพราะโอแอบกระซิบสารจากวารินทร์ให้ทุกคนได้รับรู้ด้วยทำให้เพื่อนๆจึงต้องประคบประหงมนารินทร์เป็นพิเศษ
“อ้าว ไอ้โอมาเที่ยวกันหรอวะ” เสียงของใครบางคนที่คุ้นๆหูของนารินทร์ทักโอ เมื่อนารินทร์หันไปตามเสียงก็เจอกับร่างของวายุเต็มๆที่ยืนยิ้มนิ่งๆถามโออยู่
“พอดีพาน้องหนูนามาผ่อนคลายหน่อยน่ะพี่” พูดจบวายุก็ตวัดมองนารินทร์ด้วยหางตานิดหน่อยก่อนจะลาจากไปโดยที่ไม่ทักนารินทร์เลยสักนิด เสมือนกับว่าเค้าทั้งสองคนไม่รู้จักกัน ซึ่งนารินทร์เองก็ไม่ได้แคร์อยู่แล้วกลับรู้สึกดีเสียอีก
“เห้ย ทำไมวันนี้พี่ไอ้โอไม่แทะหนูนาเราเลยวะ”
“ก็แหมมึง ไอ้นามันขาดเรียนไปตั้งหลายวัน เสืออย่างวายุน่ะทนรอไม่ได้หรอก คงตัดใจแล้วหาล่าอย่างอื่นแทนแล้ว” สาพูดอย่างเหยียดๆเพราะไม่ค่อยชอบผู้ชายนิสัยอย่างวายุ และเกลียดผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นที่สุด
“คือมึงไม่ต้องขึ้นขนาดนั้นก็ได้ พี่เค้าก็ไม่ได้มาจีบมึงนี่หว่า ฮ่าๆๆๆๆ” โอแซวสากลับได้ค่อนข้างรุนแรงแต่ก็เป็นการหยอกกันระหว่างเพื่อนซึ่งสาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากและหวังอย่างยิ่งว่าอย่าได้ให้ผู้ชายอย่างวายุคิดจะจีบสาเลย…ตลอดคืนทุกคนกินเหล้ากันอย่างเมามันซึ่งในการดวลครั้งนี้นารินทร์ก็ดื่มด้วย แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกเมาเลยสักนิดเดียวทั้งที่กระดกกินแทบตาย
“เห้ย ทำไมยังนิ่งอยู่เลยวะ กูโลกหมุนแล้วนะ…นี่มึงคอเป็นทองแดงตั้งแต่เมื่อไหร่” โจ้พูดเสียงเมาๆถามนารินทร์ แต่นารินทร์เองก็ไม่รู้เพราะตั้งแต่วารินทร์ทำอะไรบางอย่างกับเค้าเหมือนมีหลายๆอย่างในตัวเค้าเปลี่ยนไป ไม่ง่วงนอน ไม่หิว รู้สึกแข็งแรงกระปรี้กระเปร่าตลอดเวลา
“ไม่รู้โว้ย” นารินทร์ตอบพร้อมกับกระดกดื่มต่อจนกระทั่งเพื่อนๆของนารินทร์ทุกคนเริ่มไม่ไหวแล้วจึงจะพากันกลับแต่สภาพตอนนี้เหมือนจะไม่มีใครขับรถไหวเลย แถมตัวนารินทร์เองที่ไม่เมาก็ดันขับรถไม่เป็นเสียอีก
“ทำไงเนี่ย…เดี๋ยวพี่ไปส่งให้” นารินทร์ที่แบกเพื่อนๆมาขึ้นรถของโอแล้วก็เผลอพูดกับตัวเองเพราะขับรถไม่เป็น แต่วายุก็เข้ามาให้ความช่วยเหลือ…นารินทร์ไม่ปฏิเสธแต่ยื่นกุญแจรถให้วายุก่อนจะหันหลังเตรียมเดินหนี แต่ก็ถูกวายุจับมือไว้
“ส่งเราด้วยนั่นแหละ…พี่ไม่ทำอะไรหรอก” นารินทร์จ้องหน้าวายุเพื่ออ่านนัยน์ตาว่าวายุกำลังคิดจะทำอะไรอีก แต่ก็อ่านไม่ออกสุดท้ายแล้วนารินทร์ก็ถูกวายุยัดเข้ามาในรถอย่างช่วยไม่ได้ แต่นารินทร์ก็ไม่ได้กลัววายุแต่อย่างใดเพราะตอนนี้นารินทร์ไม่ใช่คนเดิมที่ทุกคนรู้จักอีกต่อไปแล้ว
ปล. ผู้เขียนบินกลับมาเรียนต่อที่ออสเตรเลียแล้วนะครับ
เวลาอาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้างก็รอหน่อยนะครับ
สัญญาว่าจะพยายามมาลงทุกวันเหมือนเดิม ^^