Chapter 20
“พี่พายุ…ผมขอพูดอะไรด้วยหน่อย” หลังจากทานข้าวกันเรียบร้อยแล้ววายุก็ปล่อยให้นารินทร์นั่งคุยกับวารินทร์ไปเรื่อยๆ ส่วนตัวเค้าก็จะมาเคลียร์เรื่องการกักตัววารินทร์ของพี่ชายเค้าให้รู้เรื่อง…เพราะยังไงเสียวายุก็รู้สึกดีไม่น้อยที่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของนารินทร์และวายุเองก็แน่ใจว่าพายุเองก็คงเห็นรอยยิ้มของวารินทร์ที่แสนหวานเมื่อได้อยู่กับน้องชายไม่ต่างกัน
“แกมีอะไรก็ว่ามา” วายุเดินนำพายุขึ้นไปที่ห้องของตัวเองเพื่อคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ผมอยากให้วารินทร์กลับไปอยู่บ้านกับนารินทร์” เมื่อวายุพูดจบสีหน้าของพายุก็เปลี่ยนไปทันที และแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างมากที่วายุมาพูดเรื่องนี้กับเค้า
“นี่ไม่ใช่เรื่องของแกวายุ”
“มันจะไม่ใช่ได้ยังไงพี่!!!...พี่ไม่เห็นหรอว่าสองพี่น้องเค้ารักกันขนาดไหน แล้วพี่ไปแยกเค้าออกมาจากกันแบบนี้มันจะทำให้พวกเค้าทุกข์ใจมากแค่ไหนพี่รู้บ้างไหม!!!” วายุพูดด้วยความโมโหกับพี่ชายของตัวเอง เพราะเค้าเองก็ไม่อยากเห็นมันอีกแล้ว…น้ำตาของนารินทร์
“พี่ไปคิดดูเอาละกันถ้าหากพี่ยิ่งกักตัวเค้าไว้นานๆพี่ก็อย่าหวังเลยที่จะได้ใจจากเค้า” หลังจากที่พายุยืนเงียบมานานจนวายุรู้สึกอึดอัด วายุจึงพูดเพื่อให้พายุคิดแม้จะไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ก็ตาม
“นารินทร์กลับบ้านดีๆ คุณเองก็ขับรถดีๆด้วย” วารินทร์พูดด้วยน้ำเสียงขอบคุณอย่างใจจริงกับวายุทำให้วายุเริ่มรู้สึกว่ามีความหวังที่จะพิชิตใจสองพี่น้องนี้แน่ๆ อย่างไรเสียเค้าก็มีโอกาสมากกว่าพี่ชายของตัวเองในตอนนี้แน่นอน
“ขอบคุณนะ…ที่วันนี้คุณพาผมมาหาพี่รินทร์น่ะ” วายุยิ้มเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของนารินทร์ แค่นี้วายุก็มีความสุขมากแล้วแต่ก็มีความทุกข์เกี่ยวกับเรื่องที่คุยกับพี่ชายอยู่ในใจที่มันอาจจะไม่สำเร็จ
“ผมลองไปคุยกับพี่พายุแล้ว…ผมไม่มั่นใจว่ามันจะสำเร็จหรือเปล่า” วายุมีสีหน้าที่กังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดจนนารินทร์รู้สึกไหววูบอยู่ในใจเพราะคิดว่าวายุยอมเข้าไปพูดเรื่องของวารินทร์เพื่อเค้าเลยหรอ
“ไม่เป็นไรหรอกคุณ…แค่คุณพาผมมาหาพี่รินทร์บ่อยๆก็พอแล้ว” วายุยิ้มและพยักหน้าอย่างไม่มีปัญหาอะไร…หลังจากนั้นพักเดียวรถของวายุก็เลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้าบ้านวารีรินทร์เพื่อส่งนารินทร์กลับบ้าน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มารับ…อย่าให้รอนานละ” นารินทร์ยิ้มอย่างสดใสแทนคำตอบพร้อมกับพยักหน้ารับคำ ส่วนวายุก็อารมณ์ดีขับรถกลับบ้านอย่างสบายใจเพราะคิดไว้ว่าความสัมพันธ์ของเค้ากับนารินทร์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปถ้าหากอีกฝ่ายยอมเปิดใจรับเค้ามากขนาดนี้…ต่างกับนารินทร์ที่กำลังสับสนกับใจของตัวเองที่มันว้าวุ่นกับความรู้สึกที่มีต่อวายุมีทั้งเกลียด ทั้งโกรธ ทั้งห่วง ทั้งชอบ ปนกันไปหมดเพราะเมื่อนารินทร์ได้ใกล้ชิดกับวายุแล้วจึงรับรู้ได้ว่าวายุมีมุมที่ดีมากกว่าที่คิด
วารินทร์ที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกจนดึกดื่นเพื่อรอการกลับมาของใครอีกคนจนกระทั่งได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาในบ้านและเสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดีของคนที่พึ่งกลับมาใหม่วารินทร์ก็ปั้นยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินไปต้อนรับการกลับบ้านของวายุ
“อ้าว…คุณวารินทร์ยังไม่นอนอีกหรอ” วายุถามด้วยเสียงและสีหน้าที่ค่อนข้างจะทะเล้น
“ก็รอคุณกลับมานั่นแหละ…ขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้” วารินทร์ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูวายุ ทำให้วายุรู้สึกขนลุกและเขินแปลกๆวารินทร์ยิ้มหวานให้วายุอีกครั้งทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจอีกฝ่ายเต้นผิดจังหวะไปนิดหน่อยและในขณะเดียวกันกับพายุที่เดินมาเห็นพอดี
“ไอ้วายุกลับมาแล้วหรอ…วารินทร์เค้ารอมึงอยู่” พายุพูดอย่างไม่สบอารมณ์จนวายุจับได้ว่าพี่ชายของเค้ากำลังหึงเค้ากับวารินทร์
“ก็อย่างที่เห็น…ไม่เป็นไรหรอกคุณวารินทร์ยังไงเสียนารินทร์ก็เป็น…” วายุเกือบจะเผลอหลุดคำบางคำออกไปแต่ก็กลืนมันลงคอไปได้อย่างทันท่วงที ส่วนวารินทร์ก็ยืนมองยิ้มๆแบบรอคำตอบว่านารินทร์เป็นอะไรของวายุ
“เป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยน่ะ มีอะไรช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยกันไป”
“ยังไงก็ขอบใจอีกที…คุณจะเอาเครื่องดื่มหน่อยไหมเดี๋ยวผมจะเอาไปให้…ที่ห้อง” วารินทร์ใช้เสน่ห์ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ร้อยทั้งร้อยไม่ว่าใครก็ตกหลุมพรางเค้าไม่ยากหรอก…ไม่ยากเลยสักนิดเดียวและไม่เว้นแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งนภาสองตนตรงนี้ด้วย
“เอ่อ…ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณครับ” วายุรู้สึกประหม่ากับวารินทร์จึงเลี่ยงหนีโดยการเดินขึ้นชั้นสองไป ส่วนพายุเองที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วก็ลากวารินทร์ขึ้นห้องมาด้วยพร้อมกับล็อคประตูห้องเพื่อถามอะไรบางอย่างกับวารินทร์
“คุณอยากกลับบ้านไหม…ผมไม่อยากรู้สึกว่าพรากรอยยิ้มของคุณกับน้องของคุณ” วารินทร์รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยกับคำถามของพายุแต่ก็ส่งยิ้มหวานฉ่ำให้กับพายุ ทำเอาพายุหัวใจกระตุกไปครู่หนึ่งที่เห็นวารินทร์ส่งยิ้มแบบนี้ให้กับเค้า
“ผมไม่กลับหรอก…บางทีนี่อาจจะเป็นการฝึกให้นารินทร์อยู่คนเดียว”
“คุณรู้ใช่ไหมว่าไอ้วายุคิดยังกับนารินทร์” วารินทร์ยิ้มแต่ไม่ตอบ…รู้สิ ทำไมวารินทร์จะไม่รู้ เพียงแต่ว่าวารินทร์คงยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้นารินทร์เข้ามาพัวพันกับวายุเทพ เพราะฉะนั้นวารินทร์คงต้องเร่งจัดการเรื่องนี้ให้ไวที่สุดก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป พายุที่ยังคงจ้องมองตาของวารินทร์อยู่นั้นก็เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เค้าต้องก้มหน้าลงไปหาวารินทร์จนกระทั่งกลีบปากของวารินทร์ถูกสัมผัสโดยริมฝีปากของพายุ เวลาผ่านไปอย่างช้าๆโดยวารินทร์เองก็ไม่ได้มีทีท่าขัดขืนแม้แต่นิดเดียว
“เอ่อ…ผมขอโทษ” วารินทร์ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่หันหน้าหนีไปทางอื่น ส่วนพายุที่ทำตัวไม่ถูกจึงเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าลับหลังวารินทร์กำลังยิ้มอย่างเยือกเย็นเพราะได้กระทำบางสิ่งบางอย่างกับพายุไว้เรียบร้อยแล้ว
“เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย” พายุที่ปลีกตัวออกมาจากห้องของตัวเองเพราะเกรงว่าจะควบคุมตัวเองไม่ให้ทำอะไรวารินทร์น้อยกว่านี้ไม่ได้ ขืนอยู่ต่ออีกนิดเดียวความอดทนอดกลั้นของพายุคงได้สิ้นสุดลงแน่ๆ แต่พายุก็ยังคงวนเวียนคิดถึงสัมผัสจูบอันแผ่วเบาที่เค้ามอบให้กับวารินทร์ กลับริมฝีปากที่แสนจะนุ่มและนิ่มอันนั้นมันต้องเป็นของเค้าสักวันหนึ่ง
“คุณวายุ วันนี้คุณจะไปรับนารินทร์ที่บ้านนี่…คุณทานนี่เถอะ” วารินทร์จัดอาหารให้กับวายุไว้ชุดหนึ่งซึ่งแน่นอนทุกอย่างเป็นอาหารไทยที่อาทานยากพร้อมกับขนมอีกนิดหน่อยซึ่งวารินทร์ตั้งใจทำให้วายุ แต่วายุก็คิดว่าวารินทร์ไม่น่าจะต้องถึงขนาดเอามาให้ถึงห้องนอนแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากมาย
“ขอบคุณมากนะครับคุณวารินทร์” จากนั้นวายุก็จัดการทำธุระส่วนตัวโดยที่มีวารินทร์นั่งคอยอยู่ในห้องด้วยจนกระทั่งวายุอาบน้ำเสร็จก็รู้สึกเขินหน่อยๆที่วารินทร์ช่วยวายุแต่งตัว แต่วายุก็เผลอนึกไปว่าถ้าคนข้างหน้าเค้าตอนนี้เป็นนารินทร์ก็คงจะดีไม่น้อย
“เรียบร้อยแล้ว” วารินทร์พูดขึ้นพร้อมกับกระตุกเนคไทเป็นอันเสร็จสิ้น
“ขอบคุณนะครับ” วารินทร์ยิ้มน้อยๆแล้วชวนให้วายุนั่งทานอาหารที่ตัวเองจัดมาพร้อมกับชวนคุยไปด้วยในเรื่องราวต่างๆทั้งเรื่องเรียน เรื่องอนาคต เรื่องความรัก ซึ่งวายุก็พึ่งได้รู้วันนี้เองว่าวารินทร์อายุน้อยกว่าเค้าหนึ่งปีแต่ความคิดและลักษณะท่าทางกลับดูเหมือนว่าผ่านโลกมามากมายเพราะในตอนแรกวายุคิดว่าวารินทร์น่าจะอายุมากกว่าตัวเค้าเองสักสามสี่ปี
“ไอ้วายุ…วารินทร์” พายุที่เดินเข้ามาหาวายุเพราะต้องการจะพูดเรื่องบางอย่างก็ต้องชะงักกับภาพที่เห็นตรงหน้า…ภาพที่วารินทร์และวายุคุยกันอย่างออกรสชาติ ไหนจะอาหารที่ดูก็รู้ว่าวารินทร์เป็นคนทำแล้วยกขึ้นมาให้ถึงห้อง และสิ่งสุดท้ายที่ทำให้พายุอารมณ์เสียที่สุดคือวารินทร์มาทั้งชุดคลุมอาบน้ำที่ตอนนี้มันหลุดลงมาจากไหล่หน่อยๆทำให้ตอนนี้วารินทร์เปิดโชว์อกขาวเนียนหน่อยๆโดยไม่รู้ตัว
“อ้าว…มีอะไรพี่ กินข้าวก่อนไหม วารินทร์เค้าทำมาให้” วายุพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเพราะไม่ได้คิดอะไรกับวารินทร์มากไปกว่าพี่ชายของเมีย…ต่างกับพายุที่คิดไปไกลแสนไกลและกำลังมีอาการหึงกับคนที่ไม่มีสิทธิ์ในตอนนี้
“กูไม่หิว ไว้เดี๋ยวกูค่อยโทรหา…วารินทร์มานี่” พายุกระชากวารินทร์อย่างแรงจนทำให้วายุเสียวว่าแขนเล็กๆท่อนนั้นจะหลุดคามือพี่ชายของตัวเอง วารินทร์ได้แต่ส่งสายตาเศร้าสร้อยไปให้กับวายุและมันก็ทำให้วายุเริ่มไม่พอใจกับการกระทำของพี่ชายตัวเองแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากจึงต้องปล่อยไปอย่างนั้น
“เข้าไปทำอะไรกับมัน” พายุถามทันทีที่ดึงร่างของวารินทร์เข้าห้องได้สำเร็จ
“ก็เอาอาหารไปให้…ก็วายุเค้าต้องไปเรียนแล้วอีกอย่างวายุก็จะไปรับนารินทร์ที่บ้านด้วย…คุณมีอะไรหรือเปล่า” วารินทร์ถามตาใสอย่างซื่อๆ ทำให้พายุไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อเพราะพายุที่โมโหหึงไปเอง…หึงทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน
“อย่าอยู่กับมันสองต่อสองอีก…ผมไม่ชอบ” พายุพูดกดเสียงต่ำเพราะยังเสียวารินทร์ก็ต้องเป็นของเค้าคนเดียวเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนี้กับใครยกเว้นเค้าเท่านั้น
“ไม่เอาน่า…คุณมีเหตุผลหน่อยสิ…นั่นน้องชายคุณนะ ไม่เข้าท่าเลย” วารินทร์พูดพร้อมกับยิ้มคลี่บางๆให้กับพายุทำเอาพายุเหมือนตกอยู่ในภวังค์และถูกดึงดูดให้เข้าหาวารินทร์เข้าไปอีก แต่คราวนี้วารินทร์กลับเบนหน้าหนีพร้อมกับบอกปัดๆให้พายุไปทำงาน
“คุณไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะสายเอานะ” พายุแสดงสีหน้าหงุดหงิดเพราะถูกขัดใจนิดหน่อยแต่ก็ยอมปล่อยตัววารินทร์แล้วเตรียมตัวออกไปทำงานตามที่วารินทร์ว่า…จนกระทั่งพายุขับรถออกจากบ้านไปแล้ววารินทร์ที่ยืนมองจากชั้นบนของบ้านก็แสยะยิ้มขึ้นอย่างร้ายกาจ
“หึหึ…ทุกอย่างมันพึ่งเริ่มต้นครับ คุณสุบรรณ” ไม่มีใครได้ล่วงรู้เลยว่าแผนการครั้งนี้ของวารินทร์คืออะไร แต่ระดับวารินทร์แล้วจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งย่อมต้องได้ผลที่คุ้มค่ามหาศาลแน่นอน!!!