==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้  (อ่าน 955492 ครั้ง)

Azygos

  • บุคคลทั่วไป
มาทวงพี่คิงครับ พี่คิงยังไม่ตอบคำถามที่แล้วเลย ผมก็เลยยังไม่ได้เล่า 555+ หรือว่าจะข้ามไปเลย :laugh:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
ใช่ๆ พี่คิงยังไม่ได้เล่าเลยนี่นา อยากรู้เหมือนกัน

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
แวะมากอดจขกท. ตามเคยครับ :กอด1:

แล้วก็กอดคนอื่นๆด้วยครับผม  แม้จะไม่รู้จัก :กอด1:

แต่ก็อยากรู้จักนะครับ

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
/\
/\
/\

ไม่รู้จัก กอดไปเดี๋ยวรู้เองแหละ :z1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
พี่น็อตกอดผมมั๊ย
แต่น้องทีไม่ให้กอดนะ ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
@พี่ #Jackie# ค่ะ  :pig4: สำหรับกำลังใจค่ะ  :กอด1:

 :กอด1: รอบกระทู้

chocolate

  • บุคคลทั่วไป
นะ ถึงบ้านลละเหนื่อยมากกก ช่วงงานที่บ้านด้วย ง่วงสุด ๆ

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
แปะไว้ก่อนครับ เพิ่งถึงห้อง.....................


ไปช๊อป dapper กะ G2000 มาอย่างเพลินในอารมณ์  :m1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
ช็อปเพลินเพราะคนแถวนั้นหรือเปล่า ~~

Bench

  • บุคคลทั่วไป
^
^
ตื่นเช้ามาาาาาาาาาาาาาก 555+


แล้วก็กอดคนอื่นๆด้วยครับผม  แม้จะไม่รู้จัก :กอด1:

แต่ก็อยากรู้จักนะครับ
มารับกอดพี่น๊อต  :กอด1:


:กอด1: รอบกระทู้

กอดพิตด้วย   :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
ส่วนดาราคนนั้น เราจี้ดดเลยกับ Daniel Henry :pighaun:

http://picpost.postjung.com/93044.html

หน้าตาคล้ายกับ เดนนีส มาก หล่อคนละแบบ

ใจเดียวกันเลย ชอบ Daniel Henry เหมือนกัน หน้าคมดี ดูไม่ตี๋เกินไป ผมไม่ชอบตี๋ กลัวจะมาขาวแข่งกะผม 5555
อีกคนก็ Ryan Ranault ชอบรูปร่างเขา เซ็กซี่กำลังดี ไม่บึก ไม่ล่ำจนเกินไป
ส่วนดาราหญิง ผมชอบรูปหน้าของแอ๊ฟ - ทักษอร ดูสวยหวานเป็นหญิงไทยดี แฟนผู้หญิงคนเก่าผม ก็หน้าหวานคล้าย ๆ แบบนี้

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
พี่ปุ้มชอบแอฟหรือครับ ผมชอบแนวนั้นเหมือนกัน ดูเรียบร้อยนิ่งๆดี
เพราะฉะนั้น  Gimme Five  กัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-11-2010 18:43:20 โดย jivetea »

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
เริ่มไม่ชอบแอ๊ฟ ตั้งแต่เป็นแฟนกะสงกรานต์อ่ะครับ

ตอนนี้กะลังชอบน้องญาญ่าแทน  :กอด1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
อะไรน่ะพี่ ไม่ชอบเพราะเค้าเป็นแฟนกับสงกรานต์น่ะนะ
?????????????????????????????
แล้วนางในฝันของพี่เป็นใคร
แล้วเมื่อไหร่้จะเล่าความฝันให้ฟังซักที
รอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
รอฟังเรื่องความฝันของคิงเหมือนกัน  o11
ดาราที่ชอบ Kim Hyun Joong ss501 น่ารักมากกก
กอดด น้องที ส่วนไจฟ์ เอานี่ไป  :ped151:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
โห.....
วันนี้คืนวันเสาร์ซะด้วย
เหอเหอเหอ...
^
^
^
มะช่างไม่เกรงกลัวซะเลย
กอดๆๆๆพี่เนะ สู้ๆนะครับ งานหนัก กำลังใจไม่มี แต่มีกองเชียร์อยู่ตรงนี้นะครับ
เชียร์พี่คิง พี่อ้น พี่คริท พี่บูม พี่หนิง พี่แจ๊ค พี่ปุ้ม พี่กิมตี๋ พี่ตรอง
ว่าแต่ ทู้นี้ทำไมมีแต่คนงานหนักงานยุ่งเนี่ย
แล้วทำไมมีผมเล่นเกมอยู่้เดียว วะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

Tea
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-11-2010 18:43:57 โดย jivetea »

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
อะไรน่ะพี่ ไม่ชอบเพราะเค้าเป็นแฟนกับสงกรานต์น่ะนะ
?????????????????????????????
แล้วนางในฝันของพี่เป็นใคร
แล้วเมื่อไหร่้จะเล่าความฝันให้ฟังซักที
รอๆๆๆๆ
ู^
^
^
เรื่องฝันติดไว้ก่อน ถ้าจะเล่าต้องแลกกันเล่า 555

ช่าย พี่ไม่ชอบแอ๊บที่เป็นแฟนกะสงกรานต์............ก็แอ๊บเค้าเรียบร้อย ก็ต้องห้ามมีแฟนดิ 555



รอฟังเรื่องความฝันของคิงเหมือนกัน  o11
ดาราที่ชอบ Kim Hyun Joong ss501 น่ารักมากกก
กอดด น้องที ส่วนไจฟ์ เอานี่ไป  :ped151:
ู^
^
^
บ้าดาราเกาหลีด้วยเหรอเนะ นึกว่าปลื้มป๋าเบิร์ดซะอีกครับ



โห.....
วันนี้คืนวันเสาร์ซะด้วย
เหอเหอเหอ...
^
^
^
มะช่างไม่เกรงกลัวซะเลย
กอดๆๆๆพี่เนะ สู้ๆนะครับ งานหนัก กำลังใจไม่มี แต่มีกองเชียร์อยู่ตรงนี้นะครับ
เชียร์พี่คิง พี่อ้น พี่คริท พี่บูม พี่หนิง พี่แจ๊ค พี่ปุ้ม พี่กิมตี๋ พี่ตรอง
ว่าแต่ ทู้นี้ทำไมมีแต่คนงานหนักงานยุ่งเนี่ย
แล้วทำไมมีผมเล่นเกมอยู่้เดียว วะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

Tea

^
^
^
คืนนี้มีอะไรเหรอ นายน้ำชา

ทำงานหนักๆ จะได้มีตังค์ซื้อรถเร็วๆ ครับ
เพราะคนสมัยนี้มีแต่ตัวกับหัวใจมันไม่เร้าใจแล้ว
 :กอด1: เด็กม.4 กะพี่ปี 3





greenoak

  • บุคคลทั่วไป
ว่าด้วยเรื่องของอาการบ้าดาราของผมก่อนละกันครับ....



ถ้าใครเป็นเด็กตจว.อย่างผมน่าจะเข้าใจอารมณ์ของคนไม่เคยเห็นดาราตัวเป็นๆ มาก่อนเป็นอย่างดี ผมเองก็คนนึงล่ะครับที่เคยเป็นคนประมาณอย่างนั้น...

ถามว่าประมาณอย่างนั้นคือประมาณอย่างไหนน่ะเหรอ? อืม ก็เอาง่ายๆ ว่าพอเห็นดาราก็ตื่นเต้นดีใจจนต้องเขย่าเพื่อนที่เดินมาด้วยกันอ่ะครับว่าเฮ้ยๆ นั่นดารานี่หว่า

ฮ่าๆๆ ก็ตลกดีครับ จำได้ว่าดาราคนแรกที่ผมเจอในกทม. นี่ก็คือดอม เหตระกูล ตั้งแต่โน่นนนนน ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ปีหนึ่งปีสองอ่ะครับ แล้วผมก็ทำเพื่อนทั้งกลุ่มขายหน้าด้วยการ.....................................อืม..อย่ารู้ดีกว่าครับ เอาเป็นว่ามีแต่ผม เพื่อนผม ดอม และแฟนที่เค้าควงอยู่ด้วยในตอนนั้น รวมถึงคนที่เดินผ่านไปมาอีกประมาณสี่ห้าคนเท่านั้นแหละครับที่น่าจะรู้ดีที่สุดว่าไอ้เด็กบ้านนอกคนนี้..ทำตัวเป็นบ้านนอกเข้ากรุงได้..อื้ม..สุดยอดมากๆ

นั่นแหละครับ..ตั้งแต่วันนั้นเวลาเจอดารา ผมก็เลยต้องทำเมินๆ ทำเฉยๆ เข้าไว้ (ทั้งที่สำหรับดาราบางคนพอเห็นแล้วก็ใจเต้นไม่เป็นล่ำไม่เป็นสันเหมือนกัน)

อย่างตอนที่ผมทำงานอยู่โรงหนังเนี่ย ผมจะเจอดาราบ่อยมาก โดยเฉพาะรอบดึกๆ ที่ดารามักจะควงกันมาดูหนังกระหนุงกระหนิงกะหวานใจกันสองต่อสอง ซึ่ง...ดาราที่ผมเคยเจอก็..เยอะครับ ไล่มาตั้งแต่ผู้ประกาศข่าวเอย นักร้อง นักดนตรี ดีเจ ดารานักแสดง ทั้งตัวร้าย ตัวดี นางเอก พระเอก ตัวร้าย พ่อแม่พระเอก พ่อแม่นางเอก ฯลฯ

แต่ที่ผมจะเล่า ผมจะเล่าถึงดาราชายคู่นึงละกันครับ ณ ตอนนั้น เค้าสองคนนี้มีข่าวแว่วๆ ว่าเป็นเกย์
ผมก็...ความจริงก็ไม่ได้เชื่อข่าวมันทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะครับ เพราะหนึ่งในนั้นเป็นดาราหน้าใหม่ที่ผมกำลังปลื้มๆ อยู่ (แต่ตอนนี้ติดลมบนเป็นพระเอกไปละครับ แม้จะไม่ใช่แถวหน้า การแสดงอาจจะยังไม่เป๊ะซักเท่าไหร่ แต่ผมก็ยังชอบเค้าอยู่จนถึงทุกวันนี้อยู่ดี)
ดาราหน้าใหม่คนนั้น ตอนนั้นหุ่นเค้าจะบางๆ หน่อยอ่ะครับ แต่ก็ไม่ผอม สูง ผิวแทนเล็กน้อย (ปัจจุบันก็หุ่นอย่างนั้นครับ ยังคงรักษาหุ่นตัวเองไม่ให้ล่ำได้ดีมาก)

วันนั้น มีหนังเรื่องนึงเข้าฉายครับ เป็นหนังที่เป็นมหากาพย์ที่ไม่มีใครคงไม่รู้จัก มีอยู่ด้วยกันสามภาค ภาคนั้นเป็นภาคที่สาม ซึ่งก็...ด้วยความที่หนังมันเป็นหนังดังอ่ะครับ คนก็เลยแห่กันมาดู แล้วก็ด้วยความที่หนังมันค่อนข้างจะยาวหรืออะไรผมก็ไม่ทราบได้ นั่นจึงทำให้ผมได้บังเอิญไปเห็นดาราสองคนนี้เค้ากะลังงอนและง้อกันอยู่พอดี..............

เรื่องของเรื่องเกิดจากวันนั้นผมต้องทำลายพวกสแตนดี้ที่หมดอายุไปแล้วอ่ะครับ (เพื่อไม่ให้พนง.หรือใครเอากลับบ้าน) ผมก็นั่งขัดสมาธิ เอาคัตเตอร์กรีดแผ่นฟีจเจอร์บอร์ดอยู่ข้างๆ โรงที่ฉายหนังเรื่องนั้นของผมอยู่คนเดียว แต่เนื่องจากตรงที่ผมนั่งอยู่มีสแตนดี้อีกตัวตั้งบังผมอยู่ เพราะฉะนั้น ถ้าใครไม่สังเกตจริงๆ ก็จะไม่เห็นครับว่ามีคนกำลังนั่งทำงานอยู่ตรงนั้น

ระหว่างที่ผมกำลังนั่งทำงานของผมอยู่ครับ จู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ตามด้วยเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ผมนั่งอยู่ซักเท่าไหร่ ด้วยความที่คนที่กำลังพูดอยู่กำลังจ้อเป็นภาษาอังกฤษในตอนแรก ผมก็เลยไม่สนใจ แต่ซักพัก น้ำเสียงที่ปกติเมื่อครู่ดูเหมือนจะมีน้ำโหหรืออะไรขึ้นมาก็ไม่รู้อ่ะครับ ผมก็เลยชะเง้อคอมองดูว่าฝรั่งที่ไหนมายืนบ่นอะไรก็ไม่รู้ใส่โทรศัพท์อยู่คนเดียว ซึ่ง...พอเห็นก็อึ้งเล็กน้อยครับว่าเฮ้ย นั่นมันดารานี่หว่า (แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าในจอทีวีแล้วอ่ะครับ)

ดาราคนนี้เป็นลูกครึ่งครับ หน้าตาก็สไตล์ลูกครึ่งเลย หุ่นก็ดี สูง ไม่ล่ำ แต่ก็มีบอดี้ที่เป็นนายแบบได้ (แล้วเค้าก็เป็นนายแบบด้วย) ก็..........พอเห็นแล้วก็เฉยๆ นะครับ เพราะตอนนั้นเจอดาราทุกวันจนเริ่มเซ็งละ แต่ซักพักครับ ไม่นานก็มีหนุ่มอีกคนเดินตามออกมา พอเห็นแล้วผมก็อึ้งอีกรอบครับ แต่กับคนนี้ผมอึ้งจริงๆ เพราะเค้าเป็นดาราคนที่ผมชอบอยู่ คือชอบจริงๆ ครับ ชอบแบบอยากเป็นแฟนด้วยเลย เพราะนิสัยเค้าเด็กมาก แต่ก็...นะครับ ดารากะเด็กโรงหนังมันจะเป็นจริงไปได้ยังไงกัน ผมก็เลยหดหัว แล้วนั่งเงียบๆ ฟังว่าเค้าคุยอะไรกัน

ซึ่งที่ฟังๆ ดูก็....................แหะๆๆ ไม่ได้ยินครับ รู้แต่ว่าคนที่มาทีหลังน่าจะงอนคนที่หนีออกมาคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้อยู่ได้เป็นนานสองนานอ่ะครับ เหมือนงอนๆ กัน แล้วอีกคนก็ง้อๆๆๆ คือ....นึกภาพเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยอ่ะครับ ดูยังไงก็แฟนกันชัวร์ (แต่ก็ดูเหมาะกันดีครับ หนุ่มลูกครึ่งผิวขาวตาสวย กะหนุ่มไทยหน้าคม นิสัยเหมือนเด็กด้วยกันทั้งคู่)

ก็...ผมก็ฟังเค้าคุยกันจนคนที่เดินออกมาคนแรก เดินไปนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าโรงอ่ะครับ (สงสัยคงไม่มีอารมณ์จะดูหนังต่อแล้ว) ส่วนคนไทยที่มาทีหลังก็กะลังยืนทำอะไรซักอย่างกะมือถือ(ที่เดาว่าน่าจะเป็นคนแรก)อยู่ ระหว่างนั้นผมก็เห็นว่าไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ก็เลยลุกขึ้นจะเอางานไปเก็บ คนที่กำลังยืนกดมือถืออยู่ก็เลยมองผมแบบอึ้งๆ เหมือนจะตกใจๆ หน่อย ผมก็...ด้วยความที่ไม่คิดไงครับว่าเค้าจะแสดงอาการอย่างนั้น ก็เลยทำเหมือนไม่สนใจ(น่าจะดีกว่า) แล้วกลับหลังหันเดินไปอีกทาง

หลังจากผมกลับเข้าออฟฟิศไปซักพักแล้ว ออกมาก็ยังเจอเค้าอีกครั้งนั่งอยู่ด้วยกันสองคนกะลังเล่นมือถือกันกระหนุงกระหนิง พอเค้า(คนไทย)เห็นผม เค้าก็เหมือนจะพูดอะไรกะผมอ่ะครับ แต่ผมก็ทำได้แค่ทำหน้ามึนๆ ใส่ แล้วก็เดินเข้าอีกโรงไปเช็คความเรียบร้อยแทน.........ด้วยความอิจฉาเล็กน้อย

หลังจากนั้นอีกพักใหญๆ ผมก็เจอเค้าอีกครั้งสองครั้งครับ ช่วงนั้นเค้ามาดูหนังกะสาวคนนึง แต่พอเจอกันเค้าก็เหมือนๆ จะจำผมได้อ่ะครับ แล้วทุกครั้งเค้าก็จะทำท่าเหมือนลังเลว่าจะคุยกะผมดีหรือไม่ดีทุกครั้ง (ตรงนี้ผมไม่ได้หมายความว่าตัวเองหน้าตาดีนะครับ ผม...ก็คนหน้าตาธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ที่คิดว่าเค้าอยากจะคุยกะผมน่าจะเป็นเรื่องที่เค้ากลัวว่าผมจะเอาเรื่องของเค้ากะดาราลูกครึ่งไปแพร่งพรายมากกว่า......แต่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ไม่เคยบอกใครนะ)

จนนั่นแหละครับ ผ่านไปหลายปีมาก จนมาเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาผมได้ไปเจอกะเค้าอีกครั้งที่เซ็น(ทรัล)ลาดพร้าว คราวนี้เค้ามากะผู้หญิงรูปร่างท้วมๆ หน่อย (น่าจะเป็นเพื่อนหรือผู้จัดการส่วนตัว) ก็...เหมือนว่าเค้าจะจำผมได้นะครับ แต่เราก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะคุยกันได้อยู่ดี


นี่แหละครับ ที่มาของหัวข้อของอาการบ้าดาราของผม..........
ส่วนข้อคิดที่ได้จากหัวข้อนี้ก็คงจะประมาณว่า เป็นดารานี่ก็ลำบากเหมือนกันนะครับ
ส่วนคนที่ไปปลื้มดารา......น่าจ๋งจ๋านมากกว่า
 
จบ.


ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
 :m17: คิงก็ ป๋าเบิร์ดเขาร้องเพลงดี
แต่ที่ชอบจริง ๆๆ เกาหลีทั้งนั้น ดาราก็ เบ จอง จุน เท่มาก มาดดี
กอดดน้องที ที่เป็นกองเชียร์ให้ แบบนี้รักตายเลย  :z9:
คิง เหมือนหวงแอ๊ฟเลยนะ เราก็ชอบนะ สวยแบบไทย ๆ มองไม่เบื่อ 

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
คืนวันเสาร์  คืนแห่งการดูบอลไงพี่ ไม่มีอะไรมาก
จริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






greenoak

  • บุคคลทั่วไป
:m17: คิงก็ ป๋าเบิร์ดเขาร้องเพลงดี
แต่ที่ชอบจริง ๆๆ เกาหลีทั้งนั้น ดาราก็ เบ จอง จุน เท่มาก มาดดี
กอดดน้องที ที่เป็นกองเชียร์ให้ แบบนี้รักตายเลย  :z9:
คิง เหมือนหวงแอ๊ฟเลยนะ เราก็ชอบนะ สวยแบบไทย ๆ มองไม่เบื่อ 

ู^
^
^
เบ จอง จุน นี่ใช่ที่เล่นวินเทอร์ป่ะ

ชอบแอ๊ฟแบบเรียบร้อยอ่ะเนะ

แต่พอเห็นโฆษณากานิเย่ที่เปลี่ยนเสื้อเนี่ย เอ่อ น้องแอ๊บครับ เปรี้ยวไปมั้ย



คืนวันเสาร์  คืนแห่งการดูบอลไงพี่ ไม่มีอะไรมาก
จริงๆ
^
^
^
อ๋อ คืนวันเสาร์ของพี่ไม่มีไรทำอ่ะครับ

แบบว่าดูบอลไม่เป็น เล่นก็ไม่เป็น เคยเล่นตอนม. ปลาย แต่ดันเตะเข้าโกตัวเองซะงั้น จนโดนโห่ใส่ทั้งสนาม อย่างอายอ่ะ

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
ว่าด้วยเรื่องของเพื่อนร่วมงานของผมต่อเลยละกันครับ....


ไม่รู้ผมเล่ารึยังว่าผมกะพี่น๊อตเลิกกันเพราะอะไร ถ้ายัง เดี๋ยวค่อยย้อนละกันครับ เอาเป็นว่าตอนที่ผมเลิกกะพี่น๊อต(เพราะความคิดไปเองของผมคราวนั้น) ก็เล่นเอาผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับไปเป็นเดือนเลยทีเดียว ความคิดที่ว่าผมทำผิดอะไรนักหนาเหรอ...พี่น๊อตถึงต้องเอาความรักของผมมาล้อเล่นเหมือนเป็นเรื่องตลก (ผมเนี่ยก็ช่างคิดเป็นฉากๆ เลยนะครับนั่น) แต่ไม่ว่าเรื่องส่วนตัวจะแย่ จะเลวร้ายซักแค่ไหน เรื่องงาน...ก็ยังคงเป็นเรื่องงานครับ หน้าที่และความรับผิดชอบก็ยังต้องดำเนินต่อไปเช่นกัน

จำได้ว่าหลังจากผมลาป่วย...น่าจะซักอาทิตย์ได้ ผมก็กลับไปโฟกัสกะเรื่องงานอีกครั้งครับ ซึ่งไม่ต้องคาดเดาก็น่าจะรู้ใช่มะว่า...พี่น๊อตเค้าไปดักรอ เพื่อพบและต้องการจะ ‘เคลียร์’ ทุกข้อกล่าวหาที่เค้าอ้างว่าผม...เป็นคนจัดฉากเพื่อต้องการจะบอกเลิกกะเค้าซะงั้น (ผมก็คิดไปแบบนึง พี่เค้าก็อุตส่าห์คิดไปอีกแบบนึง แล้วจะ ‘เคลียร์’ กันรู้เรื่องมั้ยนั่น)

ทำไมมันถึงคิดและพูดอย่างงั้นใช่มะครับ? เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนึงพี่น๊อตเค้าดันถือวิสาสะมา(เจือก)เปิดไดอารี่ของผมอ่าน และเค้าก็ดั๊นนนนนนนน...ไปอ่านเอาหน้าที่ผมบรรยายสรรพคุณเพื่อนร่วมงานของผมคนนนึงไว้ราวกับว่าเขา...เป็นเทพเจ้าแห่งดวงดาวดวงใดซักดวง...อย่างบ้าคลั่ง ซึ่ง...ผมก็เพ้อคลั่งบ้าบอของผมไปอย่างงั้นจริงๆ (คงเหมือนอาการบ้าดารามั้งครับ แหะๆๆ หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองซะเรยยยยยยยย)

**อ่อ ลืมบอกไปครับว่างานนี้เป็นงานจ๊อบเล็กๆ ที่ทำแค่เดือนเดียว (เป็นงานก่อนที่ผมจะไปทำโรงหนัง) เป็นเซลล์ประจำบู้ทขายเครื่องใช้ไฟฟ้าโซนี่ในห้างตอนปีใหม่ ถ้าใครเคยไปงานประเภทนี้บ่อยๆ น่าจะพอทราบนะครับว่าโซนี่เค้าเน้นหน้าตาขนาดไหน

เพื่อนร่วมงานของผมคนนี้ชื่อ ‘อิม’ ครับ อิมคนนี้เป็นที่สุดในจ๊อบนั้นละครับ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีที่อายุน้อย...ที่สุด หล่อ...ที่สุด เท่ห์...ที่สุด เก่ง...ที่สุด และเตี้ย...ที่สุด!!
ซึ่งเพราะความเตี้ยและอายุน้อยที่สุดของเค้าเนี่ยแหละครับ ทำให้เค้าดูเป็นน้องน่ารักที่น่าทะนุถนอมเป็นที่สุด เค้าเป็นคนเงียบๆ ครับ แต่สายตาเค้าเนี่ย...พิฆาตมากๆ ใครได้มองเข้าไปในแววตาเค้าเนี่ยผมว่าน่าจะหลงเสน่ห์ของเค้าในทันทีเลยแหละ ซึ่งผมนี่แหละครับคนนึงที่หลงไปเต็มๆ

แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับที่วันๆ นอกจากเค้าจะขายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เยอะกว่าชาวบ้านแล้ว เค้ายังมักจะถูกป๋าๆ ทั้งหนุ่มทั้งแก่ทาบทามไปเป็นสมบัติส่วนตัวด้วยเช่นกัน
อ่อ อีกอย่าง อิมมันจะเป็นเซลล์ขายไวโอ้ ส่วนผมจะขายทีวีกะเครื่องเสียง

อิมจะเก่งภาษาญี่ปุ่นเอามากๆ ครับ ตอนนั้นมันกะลังเรียนอยู่ รู้สึกว่าจะเป็นม. เอกชนที่อยู่แถวๆ หอผม (ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสุวรรณภูมิ) เวลาที่พวกผมปวดหัวกะบรรดาลูกค้าที่เป็นญี่ปุ่นเนี่ย มันจะชอบเสนอหน้าทำตัวเป็นฮีโร่มาพล่ามภาษาญี่ปุ่นกะบรรดาลูกค้าของผมเสมอ ซึ่ง...นอกจากจะทำให้บรรดาลูกค้าของพวกผมอึ้ง ทึ่ง และชื่นชมไปกับความเก่งกาจของมันแล้ว มัน...ยังได้ใจของพวกผมไปเต็มๆ อีกด้วย พวกพริตตี้ทั้งโซนี่ด้วยกันและที่อยู่ข้างๆ จะกรี๊ดมันเยอะมาก

ทุกวันในหนึ่งหนึ่งเดือนนั้น พวกผมจะเลิกงานตามเวลาห้าง คือจะเลิกงานดึกๆ ประมาณสี่ทุ่ม ซึ่งทุกครั้ง...มันก็จะรอผมทุกครั้งครับ
คิดเหมือนผมใช่มะครับว่าเอ...หรือว่ามันจะสนใจในตัวผม คือจริงๆ ที่มันอยู่รอผมเนี่ยเพราะว่า....................ผมกะมันพักอยู่ใกล้ๆ กันอ่ะครับ มันก็เลยอยากให้ผมเป็นตุ๊กตาหน้ารถนั่งเป็นเพื่อนไปกะมันอ่ะครับ แค่นั้น มันบอกมันขี้เกียจขับรถกลับบ้านคนเดียว (เซ็ง!!!) พอเป็นอย่างงี้บ่อยๆ เข้า...เราก็สนิทกันครับ สนิทกันประมาณนึงเลย เช้า...มันก็แวะรับผม เที่ยง...ก็ไปกินข้าวด้วยกัน เลิกงาน...ก็กลับกะมัน มันน่ะดูท่าจะไม่คิดไรกะผมหรอก เพราะมันจะชอบพูดเสมอว่ามันมีแฟนแล้ว (มันไม่ได้เป็นเกย์นะครับ...มันบอก) แต่ผมนี่สิเริ่มยังไงๆ ไม่รู้กะมันอ่ะ ก็จะไม่ให้อะไรได้ไงอ่ะครับ คือมันค่อนข้างจะเทคแคร์ผมดีมาก แล้วสายตาของมันนี่ เวลาว่างมันจะชอบมองมาที่ผมแล้วยิ้มกะผมด้วยสายตาชวนเคลิ้มแบบนั้นอ่ะ คือถ้าใครมาเป็นผม...แล้วยังเฉยอยู่ได้เนี่ยถือว่าสุดยอดมากๆ

ซึ่งถามว่าผมชอบมันมั้ย? บอกตรงๆ ว่าผมชอบมันมากๆ
รักมั้ย? ไม่แน่ใจอ่ะ แต่แคร์น่ะ...แคร์แน่ๆ แคร์จนรู้สึกไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูกเวลาที่เห็นมันหัวเราะสนุกสนานอยู่กับคนอื่น

ความรู้สึกนี้มันปั่นป่วนอยู่ในสมองผมได้ระยะนึงครับ ผมเริ่มบันทึกเรื่องราวของมันลงไปในไดอารี่ ไดอารี่...ที่ครั้งนึงเคยมีแต่เรื่องราวของผมกะพี่น๊อตแค่สองคน จู่ๆ มันซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้...ก็โผล่เข้ามาแทรกแซงอยู่ตรงกลางเฉยเลย (พี่น๊อตเค้าน่าจะคิดแบบนั้น)

ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่น๊อตเค้าชอบมาขโมยอ่านไดอารี่ของผมเสมอๆ นั่น...คงทำให้เค้าเสียใจและเริ่มระแวงมั้งครับ แต่เค้าก็ไม่เคยบอกผมว่าเค้ารู้ จนความมาแตกก็ในวันที่ผมเลิกกะเค้าไปได้อาทิตย์นึง...แล้วเค้ามาตามเฝ้าเพื่อจะขอ ‘เคลียร์’ นั่นแหละครับ เค้าถึงได้เห็นเต็มสองลูกกะตาของเค้าว่าผมกะอิมสนิทกันแค่ไหน!!!

ซึ่งก็อย่างที่บอกแหละครับว่า อิมมันไม่ใช่เกย์ แล้วความรู้สึกของผมก็เป็นความรู้สึกที่ก้ำกึ่งซักเล็กน้อย แต่ถ้าถามว่าผมจะเลิกกะพี่น๊อตเพื่อไปคบกะอิมมันก็ไม่ใช่เรื่องไงครับ เพราะงั้น...ไอ้ที่พี่น๊อตระแวงและคิดว่าผมกำลังให้ความสำคัญกะอิมเกินเพื่อนน่ะใช่อยู่ แต่สิ่งที่พี่น๊อตไม่รู้...คือสิ่งที่ผมไม่ได้บันทึกลงไปในไดอารี่ครับ

ความจริงเป็นอย่างงี้ครับ หลังจากที่ผมรู้ว่าผมเริ่มจะอะไรยังไงกะอิมแล้ว ผม...ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนของการลด ละ เลิกครับ เพื่อนๆคงรู้จักจุดอ่อนของผมในข้อนี้ดี การเป็นคนโลเล รักใครง่ายๆ เป็น ‘จุดอ่อน’ ที่ผมพยายามจะแก้ให้ได้ (แต่ก็แก้ไม่ได้ซักที)

ครับ...ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปมากกว่าที่เป็นอยู่
ก่อนที่ผมจะ ‘รัก’ อิม
ก่อนที่อิมจะเบี่ยงเบน ผมจึงตัดสินใจที่จะเรียกมันไปคุยครับ คุยกัน...ตามลำพัง!!!

ผมเลือกลานจอดรถของห้างที่พวกเราทำงานกันอยู่นั่นแหละครับเป็นจุดนัดพบ ผมสังเกตว่าอิมดูร้อนรนจนเห็นได้ชัด ผมตัดสินใจล้วงเอากระดาษแผ่นนึงที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อให้อิม มันมองหน้าผมงงๆ แต่ก็ยอมรับไปอ่านอย่างว่าง่าย ข้อความในกระดาษแผ่นนั้นเป็นข้อความสั้นๆ ครับ ประมาณหนึ่งแผ่นโพสอิทได้มั้ง

อยากรู้มั้ยครับว่าผมเขียนอะไรให้อิมอ่าน?

จริงๆ ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้วอ่ะ แต่รวมๆ ก็คือบอกมันไปตรงๆ แหละครับว่าผมเป็นเกย์ แล้วก็บอกมันไปว่ามันกำลังทำให้ผมหวั่นไหว แล้วก็...ถ้าไม่เป็นการรบกวนก็...อย่ามาทำดีกับผมมาก เพราะถ้าผมเผลอรักมันขึ้นมา ผมจะเจ็บ อะไรประมาณนี้ครับ

อ่านจบอิมก็มองหน้าผมทีนึง มันยิ้มแบบฝืนๆ (คาดเดาไม่ถูกจริงๆ ครับว่าหมายความว่าไงแน่ ระหว่างผิดหวังหรือกลัวจะพูดอะไรให้ผมเสียใจ) แต่สิ่งที่มันพูดกะผม ผมจำได้ดี อิมบอกกะผมแค่ว่า มันก็ต้องเป็นอย่างงั้นอยู่แล้วล่ะ เพราะมันไม่ได้เป็นเกย์ แล้วถ้ามันทำอะไรให้ผมรู้สึกแบบนั้นมันก็ขอโทษด้วย แล้วมันก็ยิ้มให้ผม แต่เป็นยิ้มที่ห่างเหินที่สุดตั้งแต่ที่เรารู้จักกันมาเกือบๆ เดือนอ่ะครับ แต่พอวันรุ่งขึ้นเราก็กลับมาคุยกันปกติอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลับมาสนิทกันเหมือนเดิม (แต่ก็รักษาระยะห่าง พยามยามไม่ให้เกินเลย) แต่ก็สนิทกันได้ซักพักเท่านั้นแหละครับ เพราะพระเอกตัวจริงของผมเค้าดันมาวีนซะจนบูทโซนี่แทบพัง จนสุดท้ายเราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีกครับ เพราะพอหมดจ๊อบนั้น เราก็ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำอย่างอื่นกัน..................จบครับ   


ข้อคิดที่ได้จากตอนนี้ก็คือ : ถ้าไม่อยากเสียเพื่อนก็อย่ารักเพื่อนตัวเอง และห้ามเขียนเพ้อพร่ำรำพึงรำพันถึงคนอื่นในไดอารี่ที่ควรจะมีแค่เรื่องราวของคุณและเค้าเท่านั้นโดยเด็ดขาด

จบ.

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
ตอนต่อไปผมจะพูดถึงสถานที่ ที่โจอยากให้ผมพาไปมากที่สุด

แต่กลายเป็นว่าการไปคราวนั้น เกือบจะทำให้โจกินยาฆ่าตัวตาย...............




หัวข้อในวันนี้ก็เลย อยากให้ลองมาแลกเปลี่ยนกันดูครับว่า เคยคุยกันมั้ยว่าอยากจะไปที่ไหนด้วยกันมากที่สุด (ในช่วงแรกๆ ที่เพิ่งคบกัน) แล้วพอไปด้วยกันแล้ว เป็นอย่างที่ใจคิดกันรึปล่าวครับ


ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
ถ้าผมเล่าเรื่องเที่ยวกับเรื่องบันทึกตอนนี้มันจะขโมยซีน หักซีันดราม่าของพี่คิงหรือเปล่าเนี่ย คือส่วนใหญ่ที่ผมกับทีไปเที่ยวด้วยกัน..แน่นอนมีเพื่อนผมตามไปด้วย..มันมักจะออกแนววุ่นวาย แกล้งกันไปแกล้งกันมาซะมาก
แต่ครั้งแรกที่ไปด้วยกัน คือการที่ผมทำให้น้องร้องไห้ซะตั้งแต่คืนแรก ผมกลายเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ แ้ล้วก็ทำให้เขา่ห่างจากผมไปหลายช่วงตัว จนต้องเริ่มต้นทำคะแนนนับหนึ่งกันใหม่
กว่าจะทำให้เขาเชื่อว่าผมไว้ใจได้ ใช้เวลาอีกหลายเดือน
ทีเป็นคนแพ้แดดมาก มันทำให้เขาปวดหัวไมเกรน เวลาไปทะเลช่วงกลางวันหลัง 10 โมงเช้าเนี่ยต้องเข้าไปอยู่ในโรงแรม แต่พวกเราก็เล่นน้ำทะเลกันไป ก่อนเที่ยงผมกลับเข้ามาอาบน้ำกินข้าว เขาก็ใส่แว่นกันแดด สวมหมวกเดินออกไปกินด้วยกัน พอบ่ายๆ พวกผมกลับเข้าไปในห้องใหญ่ เขาก็จะหอบโน๊คบุ๊คกับหนังสือย้ายมานอนเล่นที่ห้องใหญ่ด้วย พอเขาง่วงๆ เพราะฤทธิ์ยา ผมก็...."ทีมานอนนี่มะ" ตบที่ตักตัวเอง  :haun5:
เขาก็หอบหนังสือมานอนอ่าน ขณะที่พวกผมก็ดูทีวี เล่นเกมกันไป ตอนเย็นถึงจะออกไปทะเลอีกรอบ
ก็เล่นสารพัดจะเล่น บานาน่าโบ๊ท เจ๊ตสกี วอลเลย์บอลชายหาด แต่ทีจะตื่นตาตื่นใจกับ...สาวริมชายหาดและในน้ำทะเลมาก.....มากซะจน..เฮ้อ...
อันที่จริงจะที่ไหนทีก็จะเป็นอย่างนี้นะครับ ผมนอยด์เองแหละ
คืนหนึ่งผมก็ลุกขึ้นมาพิมพ์อะไรบางอย่างลงโน๊ตบุ๊ค แล้วเขามาเห็นในวันถัดมา
ผมเขียนว่า "....เป็นครั้งแรกที่ผมผวาตื่นขึ้นมากลางดึก เพื่อฟังเสียงลมหายใจของอีกคนว่าหลับสบายหรือเปล่า ยังปวดหัวอยู่อีกมั้ย อยากแตะแขนว่าเย็นเพราะแอร์หรือเปล่า
แต่ที่ทำได้คือนั่งอยู่ที่พื้นข้างเตียง
มองคนที่กำลังหลับ
และถามเขาในใจว่า
เคยฝัีนถึงผมบ้างมั้ย...."
j.

ต่อหน้าึึคนอื่นที่แซวประโยคนี้ที่ผมเขียน น้องจะหัวเราะบ้างเขินบ้างแล้วแต่คนที่แซวว่าเป็นเพื่อนหรือพี่ แต่ในตอนที่อยู่้ลำพังเขาบอกผมว่า "ป๋าน่้ะคิดเยอะไป ถ้าอยา่กรู้ว่าผมเคยฝันถึงป๋าหรือเปล่าทำไมไม่ถาม"
"แล้วเคยฝันถึงมั้ย"
"ไม่อ่ะ" เป็นคำตอบตรงๆที่ผมรู้สึกเหมือนโดนเหวี่ยงลงมาจากบีทีเอส. แต่หน้าผมตอนนั้นมันคงเครีีัยดมาก เพราะทำให้คนตอบรู้ว่าเลือกข้อที่ผิด เขาก็ขอโทษๆๆ ตอบใหม่ได้มั้ย
"ไม่เป็นไร พี่จะได้รู้ตัวไง"
"เห็นมะ คิดเยอะ"
"...."
"ผมไม่ได้ฝันถึง เพราะผมรู้ว่าเมื่อตื่นมาป๋าอยู่กับผมอยู่้แล้วนี่นา แล้วจะฝันถึงทำไม" >///<
แบบ..ทีเอ๊ยที...คนฟังแทบลงไปชักอยู่กับพื้น

PS><ไม่ต้องไปคิดถึงหลักวิทยาศาสตร์หรือผลการทดลองใดๆนะครับ เน้นที่เขาพยายามหาคำให้คนฟังละลายก็พอ...>//<


ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
+ บวก 1 ให้ที ตอบได้ใจมวากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :laugh:

ก็จริงของน้องทีเขาเลย ฝันให้เปลื้องพลังงานสมองทำไม เน้อะ ในเมื่อ... o13

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
@ไจฟ์ :  ที นี่เด็ก ม.๔ จริง ๆ เหรอเนี่ย ความคิดโตกว่าอายุมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีมาก พอมามองย้อนดูตัวเอง ตอน ม.๔ ตรูยังคิดอะไรเองไม่เป็น เรียน เล่น จ้องแต่จะหาเมียไปวัน ๆ (แล้วก็ได้มาในตอนนั้น อิอิ)

@คิง : คนที่เราจะเอาไปเขียนรำพึงรำพัน ในไดอารี่ได้นั้น ต้องมีความสำคัญกับเราในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความสำคัญในแง่ไหน แต่สิ่งหนึ่งคือต้องเป็นในด้านที่ดี การที่พี่น๊อตจะระแวงก็ไม่แปลกหรอกนะ เป็นเราเป็นพี่น๊อตเราก็ไม่ไว้ใจเหมือนกัน หุหุ เพราะคนส่วนใหญ่จะเชื่อตามที่อ่านเจอและตามที่ตาเห็น เพราะชีวิตจริงไม่ใช่ละครที่คนดูจะเห็นการกระทำของอีกฝ่าย แล้วบอกอีกฝ่ายว่าโง่ ระแวงไม่เข้าเรื่อง รู้ไม่ทัน อิอิ






เมื่อคืนไปนอนบ้านมา .... แปลกใจนิดหน่อย แม่ถามว่า ได้เจอเจมส์บ้างเปล่า แม่ผมคิดถึงเจมส์ !!! ยังฝากบอกผมไปบอกเจมส์ว่า แม่คิดถึง ถ้าว่างมาเยี่ยแม่บ้างก็ได้ (ตอนเลิกกันใหม่ ๆ แม่จะถามถึงบ่อย ๆ นี่เป็นปีแล้วที่แม่ไม่ถาม ไม่รู้ว่าวันนี้นึกยังไงที่แม่ถามถึงเจมส์) ...

ผมยังไม่ได้เล่าเลยว่าวันที่พ่อแม่รู้ว่า เพื่อนสนิทของลูกคือแฟนของลูก วันนั้นพ่อแม่และคนในครอบครัวผมจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ... ไว้ว่าง ๆ จะเล่าให้ฟัง แต่วันนี้ไปนอนก่อน ง่วง เพิ่งกลับมาจากนอก (ไม่ไกลไม่ไกลจาก กทม. มากนัก)

JkrR

  • บุคคลทั่วไป

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
ไจฟ์กะน้องทีครับ ==> หวานได้อีกนะครับน้องชายพี่ทั้งสอง
อืม...อยากจะบอกเหมือนกันครับว่าพี่ชอบให้ทั้งพี่น๊อตและโจนอนหนุนตักพี่เหมือนกัน แต่... แต่อะไรรู้มั้ยครับ แต่เพราะทั้งสองคนที่ว่ามานั้นตัวมันเล็กๆ ซะที่ไหนล่ะครับ ตัวหนักๆ หัวหนักๆ กันทั้งนั้น เวลานอนทีเนี่ย....อื้มมมม...ขาพี่ตระคริวกินไปเป็นสิบๆ นาทีเลยเชียวล่ะ (แต่ก็ให้นอนนะครับ ไม่เคยห้าม ไม่เคยว่า)

อยากเล่าเรื่องโรแมนติกระหว่างพี่กะพี่น๊อตที่ทะเลบ้างจัง แต่ค่อยเล่าดีกว่า ปล่อยให้น้องเรียกเรทติ้งไปพลางๆ ก่อน
อีกอย่างถึงมันจะโรแมนติกสำหรับพี่ แต่คงจะเบๆ สำหรับไจฟ์กะน้องทีแน่นอน
จะว่าไปเปลี่ยนจากตอนที่ว่าด้วยเรื่องสถานที่มาโฟกัสที่ทะเลกันดีกว่า......

ตอนพิเศษ ‘ไม่มีอะไรจะสวยงามบนผืนทราย ถ้าสองเราเคียงคู่กัน’

แต่ตอนนี้ ต้องขอไปท่องไอ้เรื่องเกี่ยวกับการเงินที่จะต้องสอบในวันจันทร์ต่อแล้วอ่ะครับไจฟ์

ปล. เชื่อป่ะครับว่าตอนที่อยุ่กันดีๆ พี่ไม่เคยฝันถึงโจเลย แต่พอเลิกกันแล้ว ดันฝันถึงตลอด อย่างเมื่อวันก่อนก็ฝันถึงโจนะครับ แต่ฝันสะเปะสะปะมาก มีหมออ้นเข้ามาเกี่ยวด้วยซะงั้น (สงสัยจะคิดมากเรื่องแก้ม)

อ่อ แล้วก็ลืมเล่าไปครับไจฟ์ว่าไอ้หนุ่มแบงค์คนนั้นอ่ะจริงๆ มันไม่ได้เป็นหนุ่มแบงค์ แต่เนียนไปเอาสายคล้องของเพื่อนเค้ามาใส่ทำเท่ห์ (แต่ก็เท่ห์จริงครับ)

เมื่อวันศุกร์ก็ไปเหมาเสื้อ กางเกง รองเท้าด้วยกันมาคนละหลายตัวเลย
สงสัยงานนี้จะมีเฮละมั้งครับ เค้าน่ารักดี
ไหนๆ  ก็เล่าแล้ว ก็ขอเล่าอีกนิดละกันครับ คือจริงๆ พี่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะมาเจอพี่เมื่อวันศุกร์อีกวันหรอกนะครับ เพราะตอนที่แซวๆ กันก็แซวกันตามประสา(ที่เข้าใจว่า)เป็นหนุ่มแบงค์เหมือนกัน แล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป
จนเมื่อวันศุกร์ซักเที่ยงนิดๆ อ่ะครับ พี่ก็ด้วยความหิว แต่ขี้เกียจออกไปหาร้านข้างทางกิน ก็เลยจะเดินเข้าโออิชิ ราเมน แต่ตอนที่กำลังเดินเข้าไปในร้านก็เห็นเค้ากะลังนั่งอยู่กับเพื่อนอีกสองคน (เหมือนพรหมลิขิตไงไม่รู้ เพราะปกติพี่จะไม่กินของในห้างคนเดียว)
พอเห็นแบบนั้นแล้ว ด้วยความที่กลัวอะไรก็ไม่ทราบได้ ก็เลยจะหันหลังเดินกลับ แต่ผู้หญิงในกลุ่มนั้นคนเดียวในกลุ่มดันเรียกพี่ซะงั้น
'พี่ๆ พี่xxx(ชื่อธนาคาร)คนนั้นอ่ะ' พี่ก็....เอ้อ ซวยแล้วกู ก็หันไปมอง เชื่อมั้ยครับทั้งร้านมองพี่เป็นตาเดียว ส่วนโต๊ะนั้น...คนที่มองก็มีแค่ผู้หญิงคนนั้นและเพื่อนอีกคนแหละครับ ส่วนเค้า...ก็ก้มหน้าดูดเส้นเข้าปากเหมือนไม่แคร์
พี่ก็เลยเดินเข้าไปยืน กึ่งๆ ลังเลว่าจะนั่งดีหรือไม่นั่งดี คิดว่าถ้านั่งด้วยมันจะหาว่าพี่ใจง่ายรึปล่าว อีกอย่าง ถ้านั่ง มีหวังกูได้จ่ายเองทั้งหมดแหง แต่สุดท้ายก็นั่งครับ
คือ...ยังไงซะมีคนกินเป็นเพื่อน ก็ยังดีกว่ากินคนเดียวแหละครับ
ข้ามเรื่องกินไปเลยละกันครับ
พอจบเรื่องกิน เพื่อนของเค้าก็บอกว่าจะไปทำงานต่อละ ฝากเค้าไว้กับพี่ด้วย! พี่กะเค้าก็เอ๊า แล้วก็มองหน้ากันงงๆ ว่ายังไงเนี่ย คือตอนนั้นรู้สึกเลยครับว่าโดนจับคู่ชัวร์ แต่ก็ไม่อะไร
พอจ่ายตังค์เสร็จ (จ่ายเองอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด) พี่ก็เลยถามเค้าว่าทำงานอยู่ชั้นไหน เค้าก็มองหน้างงๆ แป๊บนึง แล้วจึงยิ้มแล้วสารภาพว่าเค้ายังเรียนอยู่ ยังไม่ได้ทำงาน
'หน้าผมแก่ขนาดนั้นเลยจิงดิพี่' เค้าถามผม ผมก็.......อยากบอกเหลือเกินครับว่าจริง แต่เกรงใจ ก็เลยบอกไปว่า
'ปล่าวครับ(พร้อมกับแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน) ก็ยังแปลกใจเลยว่าทำไมทำงานเร็วจัง' 555

นั่นแหละครับ ก็ไม่มีอะไร หลังจากนั้นก็เค้าก็กลับไปเรียน แล้วก็กลับมาอีกทีตอนเย็นๆ แล้วก็ได้ไปซื้อของเป็นเพื่อนเค้านั่นแหละครับ


เพื่อน(น้อง)ใหม่คนนี้ชื่อ...สมมุตว่าชื่อ 'ตี๋' ละกันครับ
ส่วนผม...วันที่สองก็โดนเค้าตั้งฉายาให้ซะแล้ว ชื่อผมออกจะเท่ห์(ชื่อเหมือนผักชนิดนึง) แต่ดันมาเรียกผมว่า 'มะนาว' ซะงั้น
คือ....ฟังแล้วเหมือนอะไรเลยอ่ะครับไจฟ์ เหมือนหมา เหมือนลิง หรืออะไรซักอย่าง แต่พอถามกลับไปว่าทำไมเรียกอย่างงั้น
รู้มั้ยครับ เค้าบอกว่าไง
เค้าบอกว่า
'ผมไม่เรียกพี่ว่าลูกชิ้นก็ดีเท่าไหร่แล้ว'

สรุปคือตอนนี้พี่ไว้ผมรองทรงอ่ะครับ แล้วผมมันคงยาว ยังไม่ได้ไปตัด มันก็เลยดูหัวโตๆ

ดูครับไจฟ์ เด็กสมัยนี้ นี่ขนาดยังไม่สนิทกันมันยังลามปามพี่ซะขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยครับว่าถ้าสนิทกันมันจะขนาดไหนกะพี่


กิมตี๋ครับ ==> เห็นด้วยกะกิมตี๋ครับ ในเมื่อ..ในชีวิตจริงก็มีความสุขอยู่แล้ว ในฝัน...ก็คงไม่มีความหมายหรอกครับ..........จริงมั้ยครับไจฟ์


แจ๊คครับ ==> คิดเหมือนกันว่าบางความคิด..น้องทีก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว แต่หลายๆ ความคิดก็ยังเป็นเด็กอยู่(เลยนะ) แต่ผมก็ชอบที่น้องคิดแบบนั้นนะ.........ก็ในเมื่อความจริงมันมีความสุขอยู่แล้ว แล้วเราจะไปฝันถึงมันอีกทำไมล่ะ???
แต่...ไจฟ์เค้าก็เป็นคนคิดเยอะเหมือนผมเหมือนกันแฮะ
ส่วนเรื่องของไดอารี่..................ผมเริ่มเขียนเพราะเมทของผมเขียนอ่ะครับ พอเห็นว่ามันมีความสุขในการเขียน ผมก็เลยเอามั่ง ซึ่งเรื่องที่เขียนส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เจอมาในแต่ละวันนั่นแหละครับ ไปทำอะไร เจออะไร เจอใคร เขียนลงไปหมดแหละครับ 555 จนมาหลังๆ นั่นแหละครับถึงเริ่มเขียนถึงคนสำคัญ
สรุปคือที่แจ๊คพูดมาน่ะถูกหมดเลยครับ (บอกแล้วว่าผมมือใหม่ในการใช้ชีวิตจริงๆ)
ส่วนเรื่องที่ว่าวันที่พ่อแม่รู้ว่า เพื่อนสนิทของลูกคือแฟนของลูก วันนั้นพ่อแม่และคนในครอบครัวจะมีปฏิกิริยาอย่างไร......อืม...ได้ครับ เดี๋ยวเรามาเล่ากันดีกว่าว่าโดนอะไรเหมือนๆ กันบ้างรึปล่าว (อย่างในเคสผม ที่บ้านผมจะไม่รู้รู้แต่ว่าเค้าคือเพื่อนที่ผมสนิทด้วยเท่านั้น แต่ที่บ้านของพี่น๊อต โจ เค้ารู้ครับว่าผมเป็นแฟนลูกชายของเค้า..........เดี๋ยวค่อยเล่าละกันครับ)


หนิงครับ ==> พีเอ็มมาหลังไมค์หน่อยดิครับว่าหนิงจบวิดวะสาขาไรมา พรุ่งนี้พี่มีประชุมรวม จะได้ถามพี่เค้าให้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 10:43:50 โดย King_Arthur »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
.
เชื่อป่ะครับว่าตอนที่อยุ่กันดีๆ พี่ไม่เคยฝันถึงโจเลย แต่พอเลิกกันแล้ว ดันฝันถึงตลอด อย่างเมื่อวันก่อนก็ฝันถึงโจนะครับ แต่ฝันสะเปะสะปะมาก มีหมออ้นเข้ามาเกี่ยวด้วยซะงั้น (สงสัยจะคิดมากเรื่องแก้ม)
.
ผมไม่เรียกพี่ว่าลูกชิ้นก็ดีเท่าไหร่แล้ว'
.
เห็นด้วยกะกิมตี๋ครับ ในเมื่อ..ในชีวิตจริงก็มีความสุขอยู่แล้ว ในฝัน...ก็คงไม่มีความหมายหรอกครับ..........จริงมั้ยครับไจฟ์
.
บางความคิด..น้องทีก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว แต่หลายๆ ความคิดก็ยังเป็นเด็กอยู่(เลยนะ) แต่ผมก็ชอบที่น้องคิดแบบนั้นนะ.........ก็ในเมื่อความจริงมันมีความสุขอยู่แล้ว แล้วเราจะไปฝันถึงมันอีกทำไมล่ะ???
แต่...ไจฟ์เค้าก็เป็นคนคิดเยอะเหมือนผมเหมือนกันแฮะ
.

1- ครั้งก่อนฝันถึงน้องทีกับพี่อ้นยังไม่เล่า คราวนี้เป็นพี่โจกับพี่อ้น แต่อันหลังนี่พอสรุปได้ว่าฝันสะเปะสะปะ
พอย้อนกลับไปอ่านรีเดิมๆ ผมว่า คงเพราะพี่ห่วงพี่อ้นมากน่ะแหละ

2- พี่ลูกชิ้น พี่มะนาว กร๊าก...หนิทหนมไงเพ่ หนิทหนมกัน ช็อปกระจายสบายกระเป๋า ฮ่าๆๆๆๆ รอฟังข่าวดี

3 - กลางคืนฝันถึง เช้าไปรับ เย็นสอนการบ้าน ค่ำโทรศัพท์ น้องเคยดักคอว่าผมทำให้เค้าเคยตัว ถ้าหมดช่วงโปรโมชั่นเมื่อไหร่เค้าคงเหงา...แต่รู้สึกว่าโปรโมชั่นนี้มันจะยาวนาน จนเจ้าตัวบอกว่า "ป๋าไปอยู่กับเพื่อนมั่งเหอะ"

4 - ผมว่าเราทุกคนมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ผมเองก็มักเป็นเด็กในแง่ที่ว่าถ้าผมโมโหแล้วเบรคไม่ค่อยอยู่มักลงท้ายด้วยการมีเรื่อง ส่วนทีก็มีเวลาที่เป็นเด็ก..เยอะหน่อย..เวลางอแงหรืองอนขึ้นมาเนี่ย แค่เห็นบางรีในบอร์ดนี้ก็งอนได้แล้วกัน แล้วงอนแบบงอนไปเรื่อยๆ งอนจนผมขำ ยิ่งผมขำยิ่งงอน สุดท้ายก็โวยวาย "โอ๊ย..ทำไมผมไร้สาระได้ขนาดนี้เนี่ย"
อ้อ..สรุปงอนตัวเองเนี่ยนะ

อีกนิดนะครับ เรื่องนอนหนุนตัก ผมมีึความรู้สึกว่าเค้าหลับสบาย ไม่รู้ว่าคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ความรู้สึกเหมือนเค้าหลับสบายจริงๆนะครับ ทำให้เราไม่กล้าขยับขาแล้วก็เหน็บกิน แต่หลังๆมาผมก็ขยับขา เหยียดขา ก็ยังไม่ตื่นอยู่ดี

พี่ครับ การพูดคุยและคบหากับใครสักคนไม่ได้มีแต่มุมหวานหรอกครับ แต่ขึ้นอยู่กับเราว่า เมื่อมีความไม่เข้าใจเกิดขึ้น เรามีความตั้งใจที่จะทำความเข้าใจร่วมกันในเรื่องนั้นมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่าใครสักคนบอกว่า ไม่อยากเข้าใจแล้ว มันก็คงจบ ผมกับน้องก็เคยผ่านช่วงขมๆเหมือนกัน เพียงแต่ว่าผมเลือกที่จะจำช่วงเวลาแบบนั้นเ็ป็นบทเรียนเท่านั้นครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 12:16:47 โดย jivetea »

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
น้องที ตอบได้ใจมากเลย น่ารักอีกแล้ว
รอฟังแจ๊ค มาเล่าต่อ...
คิง ถ้ามีเฮ ก็มาบอกกันบ้างนะ แบบนี้ คนโสดก็ลดลงแล้วหล่ะซิเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด