ผมเดินเข้ามาในค่ายทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมยังเห็นทหารเกณฑ์ยังคงฝึกหนักเหมือนกับที่ผ่านมารุ่นแล้วรุ่นเหล่า เปลี่ยนไปมาประจำ แต่ก็มีจ่าทหารแก่ๆ คนเดิมเป็นคนฝึกให้เหมือนเดิม
ผมเดินไปที่ทำงานของพ่อผม นี่ก็เหมือนกันที่ยังเหมือนเดิม ด้วยความเคยชินที่มีมาตั้งแต่เด็ก ผมก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของพ่อผมทันที
“น้องหยุดก่อนครับ ที่นี่เข้าไม่ได้นะครับ”
ผมหยุดแล้วหันไปตามต้นต่อของเสียงนั้น แต่ผมก็ต้องตะลึงในความหล่อของเขา และที่สำคัญเขาแต่งชุดทหารเต็มยศเสียด้วย แต่ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน คงจะเป็นผู้หมวดที่ย้ายมาอยู่ใหม่ก็เลยไม่รู้จักผมว่าผมเป็นใคร และไอ้นิสัยดั้งเดิมของผมมันก็ผุดขึ้นมา
“ทำไมเข้าไม่ได้ล่ะครับ ก็ผมจะเข้ามาพบท่านผู้พัน”
“คือที่นี่เขตทหารนะครับ แล้วน้องได้นัดหมายท่านไว้ก่อนหรือเปล่า”
เขายังไม่ยอมให้ผมเข้าไปในห้องทำงานของพ่อผม
“ไม่ได้นัดครับ แต่ท่านผู้พันเคยบอกไว้ครับว่าให้ผมเข้าพบได้ตลอดเวลา งั้นผมไปก่อนนะครับ”
“ไม่ได้ครับน้อง ถ้าไม่ได้นัดท่านไว้ก่อนเข้าไม่ได้ครับ”
“เอ๊ะ...พี่ฟังไม่รู้เรื่องหรือไงว่าท่านบอกว่าผมเข้าพบท่านได้ตลอดเวลานะ”
ผมยังยืนถียงอยู่กับผู้หมวดท่านนั้นอยู่นาน ผมจะเข้าไปแต่เขาไม่ให้ผมเข้าครับ แต่ผมไม่เคลียดอะไร อันที่จริงผมอยากแกล้งเขาเท่านั้นเองครับ แต่ระหว่างที่ผมกำลังสนุกกับการได้ต่อล้อต่อเถียงกับผู้ชายคนนี้อยู่ก็มีเสียงถามมาจากด้านหลังของผม
“หมวดก้อง....มีเรื่องอะไรกัน ทำไมเสียงดังอย่างนี้ห่ะ...ไม่รู้กฎระเบียบหรือไง”
ผมหันกลับไปตามเสียงนั้นแล้วผมก็ยกมือไหว้พี่เขา พี่เขาก็รับไหว้ผม พร้อมกับยิ้มให้ผมอีก พี่หมวดแกรู้จักกับผมครับ และแกก็รู้นิสัยผมดีว่าผมแกล้งเด็กใหม่ของแกอีกแล้ว
“คือน้องคนนี้เขาจะเข้าพบท่านครับ แต่ไม่ได้นัดท่านไว้ผมพูดอย่างไงก็ไม่ยอมเชื่อครับ จะเข้าไปในห้องอย่างเดียว”
เขารีบฟ้องกับทหารอีกท่านหนึ่งที่เดินมาแล้วผมยกมือไหว้
“เฮ้ย...ปล่อยเข้าไปเลย”
“แต่....”
“ไม่ต้องแต่หรอกคนนี้พิเศษปล่อยเข้าไปได้เลยไม่ต้องนัดหมาย ท่านไม่ว่าอะไรหรอก”
“แน่นะครับพี่ ผมไม่อยากโดนดุอีก ท่านยิ่งเฮี๊ยบอยู่ด้วย”
“เออ....พี่รับรองได้”
“ครับ....”
แล้วพี่หมวดก็เดินมากระซิบที่ข้างหูของผมว่า
“อย่าแกล้งให้เขากลัวล่ะน้องบีม แล้วเย็นนี้พี่จะไปกินเหล้าด้วย คิดถึงนะเนี๊ย มาทั้งที พี่ต้องไปฉลองด้วยไม่เจอกันนาน”
“ครับ...พี่หมวดแล้วเจอกันเย็นนี้นะครับ”
พี่หมวดป้องก็มองอย่างสงสัยว่าผมกับพี่หมวดคุยอะไรกันสองคน แต่พอพี่หมวดมองไป เขาก็รีบยืนตัวตรงทำเป็นไม่สนใจ แล้วเดินนำผมแล้วเคาะประตูก่อนที่จะตะโกนรายงานคนในห้องตามระเบียบของทหารก่อนที่จะเข้าไปในห้อง ผมได้ยินเสียงของพ่อ ดังออกมาจากในห้อง เสียงที่ทรงพลังและมีอำนาจ แต่ความใจดีนั้นผิดกันลิบลับ พ่อของผมเป็นคนที่ใจดีมาก แต่เวลาทำงานล่ะก็ดุมาก
เสียงของพ่อของผมอณุญาติให้เข้าไปได้ พี่หมวดก้องมองหน้าผมนิดนึงก่อนที่จะเปิดประตูห้องเข้าไป พ่อผมถามพี่หมวดนิดหน่อยก่อนที่เหงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารพ่อเห็นผมเท่านั้นท่านก็ลุกขึ้นมาจากที่โต๊ะทำงานแล้วมากอดผมแน่น
“ไอ้หมาบีมมาอย่างไงลูก ทำไมมาตั้งแต่เช้าอย่างนี้”
พอพ่อกอดผมเสร็จจนหนำใจแล้ว พ่อก็เอามือมาลูบหัวผมด้วยความรักใคร่ ก่อนที่จะถามผม
“ก็บีมคิดถึงพ่อนี่หน่า ก็เลยอดใจไม่ไหวเลยรีบมา”
“เออ....ไอ้ขี้ประจบคนแก่ เออ...นี่หมวดก้องนี้ลูกชายคนกลางผมเอง เรียนอยู่ที่.........นะ หมวดรู้จักเอาไว้ซิ”
พ่อผมเห็นว่าพี่หมวดแกยืนงงอยู่ ท่านก็เลยแนะนำผมให้พี่หมวดก้องรู้ว่าผมเป็นใคร ผมยิ่งตลกพี่แกเข้าไปใหญ่ พี่แกหน้าเหวอไปเลยเมื่อรู้ว่าผมเป็นใคร
“ครับ...ท่าน”
หลังจากนั้นพี่หมวดก้องก็ขอตัวออกไปจากห้องโดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ผมอยู่กับพ่อเป็นการส่วนตัว
แล้วพ่อก็ลากให้ผมมานั่งที่โซฟาในห้องทำงานของท่านนั้นแหละ แล้วก็ถามเรื่องความเป็นอยู่ของผมกับเรื่องการเรียนของผมก่อนที่จะเรียกหมวดก้องให้เข้ามาอีกรอบ
“นี่...หมวดก้อง ช่วยไปส่งลูกชายให้ผมที่นะ”
“ได้ครับท่าน...”
พี่หมวดก้องรับคำสั่งแล้วก็ออกไปจากห้องทันที ผมก็เข้าไปกอดพ่ออีกครั้งก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง เพื่อไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าที่ทำงานของพ่อโดยที่มีผู้หมวดก้องคอยอยู่ในรถแล้ว ตลอดทางระหว่างผมกับพี่หมวดก้องก็ไม่มีใครพูดอะไรกันจนกระทั้งมาถึงบ้าน พี่หมวดก็ลงมาเปิดประตูรถให้ผม ทำเอาผมเขินไปเหมือนกันที่มีคนมาทำอย่างนี้ให้ผม แล้วพี่หมวดก้องก็ขับรถกลับไป ส่วนผมก็เข้าบ้านไปอาบน้ำแล้วก็นอนยาวไปจนบ่ายผมก็ถีบจักรยานออกไปหาอะไรกินที่ร้านสวัสดิการของทหาร บรรยากาศเก่าๆ
หลังจากกลับมาจากไปหาอะไรกินแล้วผมก็กลับเข้าบ้านแล้วไปเดินสำรวจรอบๆ บ้านก่อนที่จะไปลื้อเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ของผมออกไปซักก่อนที่จะเอามาใส่ ระหว่างรอผ้าซักเสร็จผมก็ต้องโทรไปรายงานกับผู้บัญชาสูงสุดในบ้านเสียก่อนว่าผมกลับมาบ้านแล้ว ผมก็โดนบ่นนิดหน่อยที่ไม่โทรมาบอกก่อน
หลังจากที่ผมซักเสือผ้าเสร็จผมก็ไปนอนเล่นบนแปลที่หลังบ้าน อากาศดีๆ ลมเย็นๆ ทำให้ผมเผลอหลับไปอีกรอบ ไม่ได้กลับบ้านมาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน กลับมาบ้านมันก็มีอะไรดีๆ อย่างนี้แหละ
ผมมาตื่นอีกครั้งตอนที่แม่ของผมมาปลุกให้เข้าไปในบ้านบอกว่าพี่หมวดกิจมาหา พี่หมวดกิจก็คือคนที่มาเจอผมกำลังอำพี่หมวดก้องอยู่ไงครับ แม่บอกว่าพี่หมวดเขามารอแล้วจะไปไหนกันอีก เจอหน้ากันไม่ทันไรเลยจะออกไปตะลอนทัวร์อีกแล้ว
ผมออกไปก็เจอพี่หมวดกิจกำลังคุยอยู่กับพ่อของผมอย่างออกรสออกชาด พร้อมกับที่นั่งข้างๆ ก็คือพี่หมดก้องที่นั่งนิ่ง แก๊กท่าขรึมอยู่เห็นแล้วผมก็อย่างแกล้งอำแกอีกจริงๆ
“อ้าว...บีมมาแล้วเหรอลูก มานั่งข้างพ่อก่อนนี่จะไปไหนกัน หมวดกิจกับหมวดก้องเขาถึงมารับถึงบ้านเลย จริงๆ เลยเราอยู่ไม่เคยติดบ้านเลย”
“ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกพ่อ แค่ใกล้ๆ แถวนี้แหละครับ เดี๋ยวผมก็กลับมา ใช่ไหมครับพี่หมวดกิจ”
ผมหันไปถามพี่หมวดทันทีเพื่อหาคนสนับสนุนเพื่อที่จะได้ไม่ถูกขัดขวาง พี่หมวดกิจแกก็รู้งานดีรีบสนับสนุนพร้อมกับรับปากว่าจะพาผมมาส่งให้ถึงบ้าน
หลังจากที่ออกมาจากบ้านได้พี่หมวดก็พาผมไปนั่งกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ต้องนั่งรถออกมาจากค่ายไกลพอสมควร ผมมองหมวดก้องตลอดเวลาจนพี่กิจสังเกตเห็นแล้วแซวผม แต่ผมก็แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ว่าไม่มีอะไรทั้งๆ ที่ในใจของผมนะมันอยากจะแกล้งคนที่ทำเงียบไม่ยอมพูดยอมจา แล้วอย่างนี้จะมาทำไมกันนะ เสียอารมณ์
แต่พอเหล้าเข้าปากของหมวดก้องเท่านั้นแหละ หมวดแกก็พูดมากแถมตลกเสียด้วย ว่าแล้วพี่กิจถึงชงเหล้าให้หมวดก้องมากขนาดนั้น
สรุปว่าคืนนั้นผมเมาเละไปเลยต้องลำบากพี่กิจหิ้วกลับบ้าน แต่พี่กิจไม่กล้าไปส่งผมที่บ้านหรอกครับ พี่แกกลัวโดนพ่อผมเล่นงานเอาและอีกอย่างพี่แกก็เมามากเหมือนกัน ผมเลยต้องไปนอนที่บ้านของพี่กิจกันแทน
“พี่กิจผมมานอนอยู่ที่นี้ได้ไงอ่ะ”
ผมถามทันทีที่ผมลืมตาขึ้นแล้วเห็นพี่กิจนั่งเกาหัวอยู่ข้างๆ สถาพพี่กิจเองก็ไม่ต่างกับผมเท่าไร
“ก็บีมเมามาก พี่เลยไม่กล้าพาไปส่งบ้าน แล้วอีกอย่างพี่ก็เมาเหมือนกันไม่รู้ว่าพากันกลับมาได้อย่างไง แล้วหมวดก้องกลับบ้านไปตอนไหนพี่ก็ยังไม่รู้เลย”
“อืม...ดี อย่างนี้ผมกลับบ้านไปไม่โดนเหรอนี้ กลับบ้านวันแรกก็หายหัวไม่ยอมไปนอนที่บ้าน”
“บีมนะไม่เท่าไร พี่นะซิไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง”
“5555++ ช่วยไม่ได้ ก็ผมบอกแล้วว่าไม่ พี่กิจก็ไม่เชื่อ แล้วอย่างนี้จะไปทำงานไหวเหรอ”
“ไม่ปฎิเสธนะซิไอ้ตัวแสบ ชงให้ที่ไรหายตลอด อย่ามาพูด”
กว่าผมกับพี่กิจจะออกจากบ้านของพี่กิจได้ก็ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เพราะกว่าที่พี่กิจแกจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงานได้ก็โอ้เอ้อยู่นาน พี่กิจขับรถไปจอดที่หน้าบ้านของผมอย่างช้าๆ เหมือนกับกลัวอะไรสักอย่าง
“ไม่ลงมากินกาแฟก่อนเหรอพี่กิจ”
ผมหันไปถามพี่กิจก่อนที่ผมจะลงจากรถ
“ไม่ดีกว่าพี่ต้องรีบไปทำงานเดี๋ยวสาย”
“รีบจริงเหรอพี่กิจ ไม่ใช่กลัวพ่อผมเหรอ”
“ก็ใช่นะซิ ยังจะมาถามอีก แล้วรีบลงไปเลยขืนชักช้าท่านออกมาเห็นพี่จะซวย”
“5555 ไปก่อนนะพี่กิจแล้วเจอกันเย็นนี้ โชคดีครับ”
“โชคดี ถ้าพี่ไม่โดนเล่นจนอ่วมไปก่อนก็เจอกันเย็นนี้”
แล้วพี่กิจก็ออกรถไปอย่างรวดเร็วไม่เหมือนตอนมาจอด พี่แกคงกลัวพ่อผมมากนะครับ ปกติ พ่อของผมจะใจดีมาก แต่ถ้าใครทำผิดละก็ จะโดนลงโทษหนักมากครับ
ผมเดินเข้าไปในบ้าน แต่ทำไมดูเงียบๆ จัง หรือว่าพ่อกับแม่จะออกไปทำงานแล้ว แต่ไม่น่าจะใช่เพราะนี่มันยังเช้าอยู่เลย ยังไม่ใช่เวลาทำงานเสียหน่อย แต่ก่อนที่ผมจะย่องเข้าทางประตูหลังบ้านผมก็ต้องตกใจที่อยู่ๆ มีคนโผล่ออกมาจากประตู
“ฮันแน่.....ไปไหนมาพี่บีมกลับซะเช้าเลย”
น้องชายของผมนั้นเองครับที่โผล่ออกมาตกใจหมดนึกว่าแม่หรือไม่ก็พ่อของผม
“ไปกินเหล้ากับพี่กิจมานะ แล้วก็หมวดก้อง”
“อ๋อ.....นึกไว้แล้วเชียว พี่กิจก็ก็ไวใช้ได้นะเนี๊ย พี่บีมกลับบ้านมาไม่กี่ชั่วโมงก็มารับแล้วหายกันไปทั้งคืนเลย”
“อืม...พี่เจอแกตั้งแต่ตอนเช้าแล้วที่กรม และก็เจอหมวดก้องด้วย”
“อ๋อ...หมวดก้อง ลูกน้องใหม่พ่อล่ะ เห็นพ่อชมว่าใช่ได้ ขยันดี แล้วพี่ไปแกล้งอะไรหมวดแกหรือเปล่า เดี๊ยวแกตกใจขอย้ายพ่อจะเล่นงานพี่”
“ไม่ได้แกล้งโว๊ย ทักทายกันธรรมดา”
“จริงอ่ะ”
“เออ....”
น้องชายผมทำท่าไม่เชื่อในคำพูดของผมเท่าไร
“จริงไม่ได้แกล้งเขาเลย...แล้วพ่อกับแม่ว่าอะไรหรือเปล่า”
“เรื่องอะไรล่ะพี่บีม...”
“ก็เรื่องที่พี่ไม่กลับบ้านเมื่อคืนนะ”
“ก็มีบ่นนิดหน่อย พอดีมีแขกมานะพ่อก็เลยยังไม่ได้ว่าอะไรมาก เออ...พ่อให้ผมมาตามพี่นะ”
“เฮ้ย...พ่อรู้ได้ไงว่าพี่กลับมาแล้วอ่ะ”
“ก็พ่อคงได้ยินเสียงรถมั้ง พี่กิจมาส่งใช่ป่ะ ไม่เห็นเข้ามาในบ้านคงกลัวลาะซิพาลูกชายคนโปรดหายไปทั้งคืน สงสัยจะโดนหนักแน่คราวนี้”
“เออ..พี่กิจมาส่ง งั้นพี่ไปก่อนนะ เดี๊ยวพ่อจะโกรธหนัก แล้วบอลแกรู้ป่ะว่าแขกของพ่อเป็นใครอ่ะ ถึงได้เรียกพี่ไปหา”
“เห็นว่าเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อนะ แล้วเขาบอกว่ารู้จักพี่ด้วย”
“นั้นพี่ไปก่อนนะพี่ก็อยากรู้ว่าใครเหมือนกัน”
แล้วผมก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะไปห้องรับแขก แต่ตอนที่ผ่านห้องครัวไปนั้นผมก็เจอกับแม่ที่เดินสวนเข้ามาเหมือนกัน แม่เอามมือชี้หน้าผมประมาณว่าเจอดีแน่ ผมก็ได้แต่ยกมือไหว้แล้วรีบเผ่นไปก่อนที่จะโดนของแถมเป็นการเรียกน้ำย่อย เช่นหยิกหรือไม่ก็บิดหู
ผมเดินเข้าไปในห้องรับแขก ผมก็เห็นว่าพ่อของผมกำลังคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งแต่ผมไม่เห็นหน้าของเขาเพราะเขาหันหลังให้กับประตูที่ผมเดินเข้ามา แล้วผมก็ได้ยินเสียงพ่อหัวเราะเสียงดัง ผมค่อยสบายใจขึ้นหน่อย พ่อคงอารมณ์ดี ผมจะได้โดนดุไม่มากเท่าไร
“อ้าว....บีมมาพ่อดี นี่พี่เขามารอนานแล้วนะ”
พอพ่อเห็นผมพ่อก็เรียกผมเข้าไป ผมจึงเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ กับพ่อ พ่อจึงแนะนำให้รู้จักแขกของท่าน แต่พอผมเห็นหน้าแขกของพ่อคนที่เขามารอผม ผมก็ต้องตกใจ พรางคิดว่าชีวิตของผมจะหนีมันพ้นหรือเปล่า
แขกคนที่ว่าก็คือ ไอ้เฟคนั้นเอง
“มาได้ไง....”
มันยิ้มให้ผมนิดนึงก่อนที่มันจะพูดว่า.......อย่าพูดนะว่ามาตามเมียไม่งั้นผมตายแน่ขอร้องล่ะ......