ตอนที่ 15 -สิทธวีร์-
ผมนอนมองผู้ชายตัวอ้วนกลมที่หลับสนิทอยู่ข้างๆ ปากอิ่มเผยอน้อยๆ แก้มกลมซุกอยู่กับหมอนใบใหญ่
หน้าตามันน่ารักน่าชัง นิสัยเหมือนเด็กจนบางครั้งอยากตีมันแรงๆ แต่ใครจะไปทำลง ดันเผลอไปชอบมันเข้าให้
ใช่ ผมชอบปุ่น
อย่าถามผมว่าชอบเมื่อไหร่ นานแต่ไหน ถ้าผมรู้ตัวผมคงไม่ตกมาอยู่ในหลุมแบบนี้
ถ้าผมคิดได้ทันคงห้ามตัวเองไม่ให้ชอบผู้ชายไปแล้ว
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจยอมรับ เมื่อผมพบว่าบางอย่างเปลี่ยนไป ไวเกินกว่าจะยื้อความรู้สึกตัวเองไว้ได้
ความใกล้ชิด ความเอ็นดู อยากสัมผัส อยากกอด มันล้นอยู่ในอก สุดท้ายผมเลือกที่ยอมรับและปล่อยไปตามความรู้สึก
ผมเป็นห่วงปุ่นแทบบ้าวันที่ปุ่นตกลงไปในน้ำ โกรธที่มีคนอื่นโดดลงไปช่วยปุ่นก่อนผม
ไม่ต้องพูดถึงตอนที่ริวบอกผมว่าไอ้ยักษ์นั่นเป็นแฟนปุ่น
สิ่งเดียวที่ผมคิดคือ ถ้าผมรู้ว่าปุ่นชอบผู้ชาย ผมคงไม่ต้องเสียเวลาเก็บกดความรู้สึกตัวเองเอาไว้แบบนี้
ผมตัดสินถามปุ่นตรงๆ ปุ่นตอบว่าไม่ได้เป็น ใจนึงผมดีใจที่ไอ้ยักษ์นั่นไม่ได้เป็นอะไรกับปุ่น ผมไม่ได้ช้าเกินไป
แต่อีกใจก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าอย่างนั้นปุ่นก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย
ความรู้สึกผมกลับตาลปัดอีกครั้งเมื่อปุ่นถามผมว่าถ้าปุ่นเป็นเกย์ผมจะรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกที่เคยดีใจเปลี่ยนเป็นเสียใจ
เรื่องที่เสียใจเปลี่ยนเป็นดีใจ แถมไอ้ยักษ์นั่นยังตามมาตอกย้ำผมถึงบ้าน มันกล้าเกินไปแล้ว
(หวังว่าริวจะมีข่าวดีให้ผม สายสืบของผมคนนี้เก่งพอตัว คงพอหาข้อมูลอะไรมาให้ผมได้บ้าง)
ผมต้องเปลี่ยนแผนใหม่ทั้งหมด จากที่คิดจะตะล่อมปุ่นไปช้าๆ หลอกล่อมันไปเรื่อยๆ ทำให้ปุ่นเคยชินกับผม ติดอยู่กับผม
ตอนนี้อาจไม่ทันการณ์ อุปสรรคชิ้นใหญ่ของผมหน้าตามันเอาเรื่องใช้ได้ ผมที่ไม่เคยกลัวใครยังต้องหยุดประเมินฝ่ายตรงข้าม
ปุ่นยืนยันว่าไม่ใช่แฟนแต่ผมไม่คิดจะวางใจ ดูมันกอดแขน ดูสายตามันอ้อนไอ้ยักษ์
เรียกพี่ทุกคำกับผมมันเคยไหม แทนตัวเองว่าน้องๆ ผมฟังแล้วอยากกระทืบไอ้ยักษ์นั่น
ผมเอามือเขี่ยแก้มปุ่นเล่น ปุ่นครางอืออา ขยับหน้าหนีมือผม
ไอ้ตัวดีหลับสบาย ไม่ได้รู้เลยว่าคนข้างๆ คิดอะไรอยู่ มันจะซื่อไปไหน สักวันคงโดนปล้ำไม่รู้ตัว
เมื่อคืนผมเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ปุ่น ผิวมันขาวเนียน แก้มมันใส ตัวมันนุ่มนิ่ม
ผมเคยชินกับหุ่นบาง ผอมเพรียว เพิ่งรู้ว่าเวลาจับต้องเนื้อนุ่มหยุ่นมันให้ความรู้สึกเต็มไม้เต็มมือกว่ากันแค่ไหน
ปุ่นจะรู้ไหมว่าผมแอบจูบแอบหอมมันไปกี่ครั้ง ใครจะว่าผมฉวยโอกาสก็ช่าง อดใจทำแค่นั้นก็เก่งแล้ว
คนอย่างผมไม่เคยต้องอดกลั้นมาก่อน
“ปุ่น ตื่นได้แล้ว”
“ปุ่น” ผมเอามือประคองแก้มนุ่ม นิ้วหัวแม่มือไล้ไปบนแก้มใส มันกลมเหมือนซาลาเปาที่ผมชอบล้อ
น่ากัดกินไม่ให้เหลือ
“แป๊บนึงน้องง่วง” เสียงงัวเงียของคนไม่ยอมตื่นทำเอาผมชะงัก
ปุ่นไม่เคยแทนตัวเองว่าน้องกับผม คนเดียวที่ผมเคยได้ยินปุ่นพูดด้วยคือคนที่ทำให้ผมไม่สบอารมณ์
หรือเคยนอนด้วยกัน
“ปุ่น” ผมเรียกเสียงดังขึ้น อยากเขย่าตัวอ้วนให้หัวสั่นหัวคลอนโทษฐานทำให้ผมหงุดหงิด
ตาปรือค่อยๆ ลืมขึ้น จ้องมองหน้าผมงงๆ เหมือนเจ้าตัวยังปรับโฟกัสไม่ได้
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เด็กบ๊อง นอนจนไม่รู้เวลา
“ห้าโมงเย็นจะรีบอรุณสวัสดิ์ไปไหน ตื่นไปล้างหน้าล้างหน้าได้แล้ว นอนนานเดี๋ยวคืนนี้จะนอนไม่หลับ”
“อ่าใช่ ผมมานอนพัก ขอโทษนะครับไม่เคยนอนกลางวัน เลยงงๆ”
“ไม่เป็นไร เอาไว้บอกใหม่ตอนตื่นพรุ่งนี้เช้า” ผมลุกขึ้นนั่งแกล้งเฉียดหน้าเข้าไปใกล้แก้มใส คนเพิ่งตื่นหน้าแดงจนถึงหู
ผมอยากรู้เหมือนกันว่าเสน่ห์ของผมจะใช้กับปุ่นได้ไหม
“คุณวีร์ครับ” ปุ่นลุกขึ้นนั่ง เรียกผมเอาไว้
“คืนนี้ผมขอกลับไปนอนบ้าน แล้วค่อยมาใหม่วันจันทร์ได้ไหมครับ”
“ทำไม”
“ผมกะจะขอคุณวีร์อยู่แล้วว่าเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ผมขอกลับไปนอนบ้านได้ไหมครับ”
“ไม่ได้ ปุ่นไม่รู้ตัวเหรอว่าตกอยู่ในอันตราย จะกลับไปให้ที่บ้านเดือดร้อนด้วยทำไม”
ปุ่นอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วหุบไป ทำหน้าคิดไม่ตก
“งั้นขอกลับแค่วันนี้กับพรุ่งนี้ได้ไหมครับ ผมเพิ่งย้ายมากลัวพี่ชายเป็นห่วง”
“ได้ พี่ไปด้วย” ผมไม่ได้เล่นมุขเหมือนตอนบังคับให้ปุ่นย้ายมา ผมจะตามไปค้างด้วยอย่างน้อยจะได้แน่ใจ
ว่าปุ่นไปค้างบ้านตัวเองไม่ใช่บ้านคนอื่น
“ไม่ขำนะครับคุณวีร์ ผมไม่เชื่อมุขนี้แล้ว”
“ปุ่นจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ พี่จะไปด้วย” ผมหงุดหงิดไปหมด คิดว่าไม่ควรอยู่ในห้องต่อไม่อยากอารมณ์เสียใส่ปุ่น
มันไม่ได้ผิดอะไร ผมไม่มีสิทธิ์จะห้ามแต่ผมไม่ยอม
“ปุ่นล้างหน้าล้างตาเถอะ พี่จะออกไปก่อน”
ผมเดินลงไปชั้นล่าง นั่งรอปุ่นอยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่รู้ปุ่นตัดสินใจยังไงจะไปบ้านจริงหรือเปล่า
ผมกระแทกหมัดลงกับพนักเก้าอี้ หัวเสียที่ทำอะไรไม่ได้ ไม่อยากรู้สึกเหมือนเมื่อคืน
รู้สึกว่าผมช้าเกินไป ภาพปุ่นในอ้อมแขนไอ้ยักษ์ยังติดตา
ภาพที่มันโอบปุ่นชิดอก ก้มหน้าลงไปใกล้ ภาพที่ปุ่นซุกหน้าเข้าหามันเหมือนไว้เนื้อเชื่อใจให้มันปกป้อง
ผมไม่สนว่าต้องใช้วิธีไหน แต่ไอ้หมอนั่นต้องไม่ได้ปุ่นไปจากผม
“คุณวีร์” หน้ากลมโผล่พ้นกรอบประตูเข้ามา เสียงทักที่เต็มไปด้วยลูกอ้อน บอกผมว่าให้ใจแข็งเข้าไว้
“มีอะไรปุ่น” ผมทำหน้าตึงกำราบไว้ให้รู้ว่าไม่เล่นด้วย
“ผมขอกลับบ้านแค่วันพรุ่งนี้ได้ไหมครับ คืนเดียว แล้ววันจันทร์ผมรีบไปทำงานแต่เช้า”
ผมมองหน้าคนถาม ถอนใจออกมา ไอ้ลูกอ้อนทั้งน้ำเสียงหน้าตานี่มันไปฝึกมาจากไหน
รอยยิ้มตาหยีแก้มป่องนั่นอีก เห็นแล้วอยากจับมาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว
“ถ้าวันนี้ทำตัวน่ารักพรุ่งนี้จะให้ไป” ผมยังไม่อยากตัดสินใจ ห้ามปุ่นมากก็กลัวจะโดนเกลียดเอา
ไม่ห้ามก็กลัวตัวอ้วนมันไปหาไอ้ยักษ์ ผมอยากรอข่าวจากริวก่อน รายนั้นเงียบกริบ ออกไปตั้งแต่บ่าย
เมื่อสักครู่โทรไปไม่รับสาย
“ผมโตจนทำงานแล้วนะครับ ทำเหมือนพูดหลอกเด็ก” หน้ายิ้มๆเปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ย
“นี่โตแล้วเหรอนึกว่าเด็กมัธยม” ผมเอื้อมมือไปดึงแก้มกลม ชอบใจเวลาทำปุ่นหัวเสียได้
“อย่าเล่นเหมือนผมเป็นเด็กครับ” คนโตแล้วทำจมูกรั้นปากเชิด หน้าตาถือดี
“คุณวีร์กับพี่ชายผมเหมือนกันเข้าไปทุกวัน” ตัวอ้วนมันบ่นพึมพำกับตัวเอง
แต่ผมเริ่มคิดได้ว่าตกลงที่ปุ่นไม่เอะใจอะไรผมเลย เพราะคิดว่าผมเล่นกับมันเหมือนที่พี่มันทำเหรอ
ให้ตายเถอะ ตัวอ้วนมันซื่อหรือมันเซ่อกันแน่
คงต้องเล่นอะไรที่พี่ชายไม่เล่นสินะ ผมมองมันตาพราว ไม่อยากให้เล่นเป็นเด็กผมก็จะเล่นแบบที่ผู้ใหญ่ชอบกัน
ระวังตัวให้ดี
“อาหารพร้อมแล้วค่ะ” แม่บ้านเข้ามารายงาน ตัวอ้วนรีบลุกขึ้นยืนยิ้มปากจะฉีกถึงหู เรื่องกินไวเสมอ
“คุณวีร์ครับ” คนเรียกยังเคี้ยวข้าวเต็มปาก ตกลงจะทานหรือจะถาม
ปุ่นรีบเคี้ยวรีบกลืนจนผมกลัวมันจะอาหารไม่ย่อย ต้องรีบห้าม บอกให้มันกินช้าๆ
“คุณลินกับคุณซันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคุณวีร์เหรอครับ”
“ทำไมจู่ๆ ถามเรื่องนี้” ผมขมวดคิ้วแปลกใจ
“ผมเห็นไปกับคุณวีร์เกือบทุกงานเลยครับ ผมถามเอาไว้ต่อไปจะได้รู้ว่างานไหนควรเชิญไปด้วย
จะได้ไม่ต้องคอยถามคุณวีร์” คำตอบปุ่นดูวกวนไปมา มันคงเรียบเรียงคำพูดไม่ค่อยถูก
“สนิท สนิทมาก โดยเฉพาะซัน ซันเรียนกับพี่ตั้งแต่มหาลัยจนไปเรียนต่อด้วยกันที่อังกฤษ เรียกว่าไปไหนไปกัน”
“แล้วคุณลินล่ะครับ”
“ลินสนิทกันตอนอยู่มหาลัย ตอนไปอังกฤษก็ยังติดต่อกันตลอดแต่ติดต่อกับซันมากกว่าพี่ กลับมาก็อย่างที่เห็น”
“คุณลินดูเป็นคนเงียบๆ นิ่งๆ นะครับ”
“อืม เพราะอย่างนั้นถึงอยู่ด้วยกันได้ ลินไม่เซ้าซี้ ไม่เรื่องมาก อยู่ด้วยเหมือนเพื่อนผู้ชายคนนึง”
ตัวอ้วนทำหน้าครุ่นคิด คิ้วมันขมวดน้อยๆ เผลอทำปากยื่น ผมก็มองเพลินไป
“คุณลินชอบคุณวีร์หรือเปล่าครับ”
“หะ” ผมตกใจ ปุ่นมันคิดอะไรของมันอยู่ แต่เห็นหน้าอยากรู้อยากเห็นทำตาโตจ้องผมแบบสนใจเต็มที
ก็คงต้องตอบคำถามมัน
“ไม่ ลินไม่ได้ชอบพี่”
“แต่..แต่ผมว่าชอบนะครับ” ตัวอ้วนทำเสียงอึกอัก เหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่อยากพูด
“ทำไมคิดแบบนั้น” ผมถามมันกลับบ้างอยากรู้ว่าคิดอะไร
“ผมพูดได้เหรอครับ” เสียงคนถามกล้าๆ กลัวๆ
“ถามมาขนาดนี้ยังจะกลัวอะไรอีก”
“ผมเห็นคุณลินชอบมองคุณวีร์กับคุณวิกาบ่อยๆ แล้วสายตาก็ดูแบบ..อื้อ ผมอธิบายไม่ถูก”
ปุ่นทำสีหน้าลำบากใจ ผมชอบมองเวลาหน้ากลมๆ เปลี่ยนไปตามอารมณ์
ปุ่นเป็นคนเก็บอาการไม่ค่อยมิด มีอะไรก็แสดงอออกมาหมด
“เชื่อเถอะลินไม่ได้ชอบพี่ ” ตัวอ้วนจ้องผมจนตาแทบถลน มันดูแปลกใจ งง สับสน ไม่อยากเชื่อ
“จริง แต่อย่าถามว่าทำไมพี่ถึงรู้” ผมยิ้มให้คนที่กำลังเอ๋อกิน โอ้ย อยากจับมันมาฟัดให้หายเอ๋อ
“คุณวิกาล่ะครับ” คราวนี้ผมสำลักน้ำแกงที่กำลังซด จะตอบมันยังไงดีไม่อยากเสียคะแนนที่ไม่รู้ว่ามีอยู่หรือเปล่าไป
“วิกาคงชอบพี่แต่พี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับวิกา” ผมพยายามตอบช้าๆ แบบรอบคอบที่สุด
ปุ่นหยุดทาน มองผมอย่างจริงจัง
“คุณวีร์ไม่ได้ชอบคุณวิกาแล้วทำไมถึงไปไหนมาไหนด้วยครับ ไม่ดีกับผู้หญิงเลย” แววเสียคะแนนผมมาเต็มๆ
“วิกากับพี่เรียกว่าคู่ควง ”
“แต่คุณวีร์ก็..เอ่อ..ก็..มี..อย่างว่ากันไม่ใช่เหรอครับ” คนถามหลบสายตาผม คำพูดไม่ประติดประต่อ หน้าแดงเป็นลูกตำลึง
“อย่าบอกว่าปุ่นไม่รู้นะว่าคนเรามีความสัมพันธ์กันได้ถึงแม้จะไม่ได้รักกัน ถ้ามันเป็นความพึงพอใจของทั้งคู่”
“พี่กับวิกาเราคุยกันชัดเจน”
“แต่ผมว่าคุณวิกาไม่คิดแบบนั้นนะครับ”
“ทานต่อได้แล้ว” ผมตัดบท ยิ่งพูดยิ่งเห็นว่าปุ่นสีหน้าแย่ลงเรื่อยๆ เดี๋ยวจะพาลโดนเกลียดขี้หน้าเอา
แถมผมเพิ่งจูบกับวิกาไป ถึงปุ่นไม่เห็นแต่หลักฐานเต็มตา ต่อไปคงต้องระวังเรื่องวิกาให้มากกว่านี้
“คุณวีร์” เสียงเคาะประตู กับเสียงเรียกใสๆ ดังอยู่หน้าห้องนอน ผมโทรไปเรียกปุ่นให้มาหา
ปุ่นชะโงกมาแต่หัว ตัวเกาะกรอบประตูเอาไว้ ไม่ยอมก้าวเข้ามา
“คุณวีร์มีอะไรครับ”
“อาบน้ำแล้วใช่ไหม” ผมถามไปเรื่องอื่น
“ครับ”
“เข้ามา จะยืนเกาะเป็นตุ๊กแกอยู่ตรงประตูอีกนานไหม”
ปุ่นเดินตุ๊บตั๊บ ท่าทางไม่สบอารมณ์ ผมต้องพยายามกลั้นยิ้มเมื่อเห็นชุดนอนของตัวอ้วน
เสื้อกางเกงสีฟ้าอ่อนลายการ์ตูน เหมาะกับปุ่นมาก
“นวดให้พี่หน่อย ปวดหัว” ผมยกมือนวดขยับเพิ่มความน่าเชื่อถือ
“ปวดมากไหมครับ”
“อื้อ”
“เดี๋ยวผมมาครับไปหยิบของแป๊บนึง” ปุ่นวิ่งออกไปท่าทางเป็นห่วง ผมยิ้มถูกใจเอนตัวลงนอนรอ
ปุ่นกลับเข้ามาพร้อมขวดน้ำมันหอมในมือ เดินมาทีเตียง มองซ้ายมองขวาคงกำลังตัดสินใจว่าจะนั่งตรงไหน
“มานี่” ผมลุกขึ้นดึงปุ่นลงนั่งบนเตียงจับให้พิงหัวเตียงไว้
ผมขยับตัวแล้วล้มลงนอนหนุนตักปุ่น จับมือนุ่มวางบนหัว
ผมหลับตา ครู่ใหญ่กว่าที่มือนุ่มๆ จะเริ่มนวดลงบนขมับผม คนนวดดูตั้งใจมาก
ปุ่นนวดขมับ นวดหัว นวดหว่างคิ้ว วนไปมาเรื่อยๆ เพลินจนผมเกือบเผลอหลับ
“พอแล้ว” ผมยกมือขึ้นจับมือนุ่มกลัวปุ่นจะเมื่อย น่าจะเกือบครึ่งชั่วโมง
“ขอบคุณ” ผมดึงมือที่จับอยู่มาจูบ ปุ่นสะดุ้งจนมือกระตุก
“พี่นวดให้บ้างไหม”
“ไม่..ไม่เป็นไรครับ คุณวีร์ลุกก่อนได้ไหมครับ ผมจะล้างมือ”
ผมชยับหัวออกจากตักปุ่น อดเสียดายไม่ได้ กำลังสบาย ตักปุ่นนุ่มมาก ผมไปชอบแบบผอมบางอยู่ได้ตั้งนาน
เพิ่งรู้ว่าแบบนี้มันดีกว่ากันเยอะ
ปุ่นเดินออกมาจากห้องน้ำ ดูรู้ว่ากำลังจะกลับห้อง
“ปุ่น”
“ครับ”
“นอนได้แล้ว"
“ครับ ผมกำลังจะกลับไปนอนเหมือนกัน ราตรีสวัสดิ์ครับคุณวีร์”
“ปุ่นลืมอะไรไปสองข้อหรือเปล่า”
ตัวอ้วนเอียงคอทำหน้าสงสัย นึกยังไงคงนึกไม่ออกถึงถามผมกลับ
“ลืมอะไรครับ”
“มานี่สิ” ปุ่นดูลังเลแต่สุดท้ายก็เดินมาหาผมที่เตียง
ผมใช้ความไวดึงปุ่นล้มลงนอน ล็อคปุ่นไว้ในวงแขนไม่ให้ดิ้นหนีได้ มือนึงก็เอื้อมไปปิดสวิทช์ที่แผงควบคุมไฟ
“ลืมว่า..” ผมจับหัวปุ่นให้นอนซบลงมาบนอก
“เราต้องประหยัดแอร์” ผมจูบหน้าผากปุ่นเบาๆ ปุ่นส่งเสียงประท้วงเเอามือมาปิดหน้าผากไว้
“และปุ่นยังติดคำว่าอรุณสวัสดิ์พี่พรุ่งนี้เช้า” ผมกระชับวงแขนให้แน่นเข้า
“ราตรีสวัสดิ์” คราวนี้ผมโจมตีแก้มนุ่ม กะว่าจะหอมทีเดียวให้ปุ่นทำใจคุ้นเคยเสียก่อน
“คุณวีร์ อย่าทำแบบนี้” เสียงปุ่นสั่น มันปลุกเร้าความรู้สึก จนผมอดใจไม่ไหว
ขโมยหอมตัวอ้วนไปอีกสองสามที ปุ่นเลิกประทัวง ซุกหน้าเข้ากับอกผมแน่นคงกลัวโดนรังแกอีก
ผมสูดลมหายใจยาวๆ เข้าออกสามสี่ครั้ง ต้องสะกดอารมณ์ตัวเองให้อยู่
ไม่อยากบุ่มบ่ามทำปุ่นตกใจจนกระโจนหนี
หวังว่าพี่ชายตัวอ้วนคงไม่ได้ทำแบบผมอีกนะ
....................................................TBC......................................................
เรื่องนี้รักกันเร็ว เพราะเนื้อหาตรงกลางเยอะ
พรุ่งนี้เป็นตอนของ ปั้น ♥ ริว นะคะ ^^
ปล.ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ
Darin ♥ FANPAGE