“คุณก็แค่สับสนกับสิ่งที่ได้ยิน...และประคองสติไม่อยู่เพราะกำลังเมาเท่านั้น พรุ่งนี้เช้าคุณก็จะลืมทุกอย่างที่คุณพูด...”
แบบนั้นแล้ว...
ใครกันแน่ที่ใจร้าย...
อนิรุทธ์อยากย้ำถามนัก...
ศราวินไม่ได้ตอบอะไร แต่เอาแต่จ้องมองเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวดทั้งน้ำตา อนิรุทธ์สูดลมหายใจลึกก่อนจะสอดมือลงไปกอดเอวอีกฝ่ายและออกแรงดึงพยุงให้ลุกขึ้น
“ดึกมากแล้ว คุณไปนอนดีกว่านะ”
คราวนี้ศราวินยอมที่จะลุกขึ้นเดินตามแรงประคองของอาจารย์ไป
อนิรุทธ์พาเขามายังห้องนอนรับรองแขกและพยุงเด็กหนุ่มไปจนถึงเตียง เขาประคองให้ศราวินนั่งลง นึกขอบคุณแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดให้อยู่เสมอจนมันสะอาดเรียบร้อยดีพร้อมที่จะให้คนตัวเล็กได้นอนอย่างสบาย
“เดี๋ยวผมจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนก็แล้วกัน”
อนิรุทธ์พึมพำเช่นนั้นก่อนเดินออกจากห้องไปเมื่อรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ตามลำพังกับเด็กหนุ่ม ศราวินมองตามอาจารย์ไปแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ซุกหน้าลงกับหมอนก่อนร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น..
เขาอาจจะเมา แต่ก็ยังมีสติครบถ้วนดีทุกอย่างที่จะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป
แต่คำพูดของเขา อาจารย์กลับคิดว่าเป็นเพราะเขาขาดสติ
หรือเป็นเพราะอาจารย์ไม่ต้องการยอมรับในสิ่งที่เขาพูดและไม่อยากได้ยินมัน
ทั้งหมด..ก็คงเป็นเพราะใจของอาจารย์ไม่ตรงกับศราวิน...
อาจารย์จึงได้ปฏิเสธความรู้สึกที่ศราวินรวบรวมความกล้าบอกออกไปอย่างนี้
"ซัน..."
เสียงเรียกที่ดังแผ่วเบาอยู่ข้างหูทำให้คนที่กอดหมอนสะอื้นอยู่ต้องชะงัก เพราะเสียงนั้นเป็นเสียงของอาจารย์ แต่ศราวินไม่ได้ยินเสียงอาจารย์เปิดประตูเดินเข้ามา ซ้ำอาจารย์ของเขาไม่เคยเรียกเขาด้วยชื่อเล่นมาก่อน ศราวินพลิกหน้าหันมาทางต้นเสียงช้าๆ และต้องนิ่งอึ้งเมื่อเห็นเงาโปร่งแสงในความมืดสลัวนั่งอยู่ข้างศีรษะและกำลังมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน
ตรงหน้าคือวิญญาณของอาจารย์อนิรุทธ์ที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อสี่สิบปีก่อนเป็นแน่แท้
"หมอ...อย่าร้องไห้..."
ศราวินได้แต่นอนอึ้งเมื่อวิญญาณตรงหน้าเอ่ยเช่นนั้นพร้อมกับยื่นปลายนิ้วมาไล้เช็คราบน้ำตาของเขา สัมผัสที่ไม่สามารถแตะต้องตัวเขาได้ กลับสร้างกระแสอุ่นวาบขึ้นมาในใจ ศราวินมองพิศรูปหน้าและลักษณะกายที่เหมือนกีบอาจารย์ของเขาทุกกระเบียดนิ้วอย่างรู้สึกเจ็บหน่วงในใจ
"อาจารย์..ยังไม่ไปเกิดหรอกครับ?"
ความสงสัยทำให้ศราวินถามออกไป การได้เห็นวิญญาณของอีกฝ่ายทำให้ศราวินหมดสิ้นซึ่งความหวังที่คนเองกับอาจารย์จะเคยเป็นคนรักกันในชาติที่แล้ว
"ผมว่าคุณจะหาคำตอบได้ด้วยตัวเองนะ"
วิญญาณอาจารย์ว่าเช่นนั้นก่อนลูบศีรษะเขาช้าๆ ชั่วความคิดหนึ่งที่ศราวินไม่อยากให้วิญญาณอาจารย์จากไป อยากให้เขาอยู่กับศราวินตรงนี้และกอดเขาไว้
"กอดของผมไม่อุ่นหรอกนะหมอ...แต่เชื่อเถอะว่าอ้อมกอดที่หมอปรารถนา หมอจะได้รับมันในคืนนี้"
วิญญาณของอาจารย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มลงจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากอิ่มบางของคนที่ตนลูบศีรษะอยู่ก่อนเลือนหายไป
"อะ..อาจารย์ อาจารย์!?"
ศราวินร้องหาและสะดุ้งขึ้นมานั่ง เขาไม่เห็นวิญญาณของอาจารย์อีก
"อาจารย์...."
ศราวินครางแผ่วเบาก่อนยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเอง เด็กหนุ่มเอนนอนลงกับเตียง มือเลื่อนไปลูบที่นอนตรงจุดที่วิญญาณของอาจารย์อนิรุทธ์นั่งเมื่อสักครู่อย่างเหม่อลอยก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลง
มีแต่เสียงแผ่วเบาในใจที่ดังซ้ำช้าๆ
อาจารย์....
อีกด้านนั้น อนิรุทธ์กำลังหยิบเอาเสื้อผ้าชุดนอนของเขาออกมาจากตู้ เมื่อปิดประตูและกำลังจะเดินออกจากหน้าตู้เสื้อผ้า อนิรุทธ์ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเงาบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ทางหางตา และพอหันกลับมามองเต็มตา อนิรุทธ์ก็ต้องตะลึงที่ได้เห็นเงาของศราวินซึ่งนอนอยู่ในห้องรับรองแขกมันสะท้อนอยู่ในกระจกที่สมควรต้องสะท้อนเงาของเขา ซ้ำยังเห็นตัวเอง..ไม่สิสมควรเรียกว่าวิญญาณของอาจารย์หมออนิรุทธ์คนที่มีชีวิตเมื่อสี่สิบปีก่อนเดินเข้าไปนั่งข้างๆ พูดอะไรบางอย่างกับเด็กน้อยของเขาก่อนก้มลงไปจูบและตัวหายไป
อนิรุทธ์แทบจะวิ่งออกจากห้องไปหาศราวินในตอนนั้น ทว่าเมื่อภาพมันหายไป เงาของเขาก็สะท้อนกลับมาพร้อมกับเงาของใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังซึ่งทำให้อนิรุทธ์ถึงกับสะดุ้ง
วิญญาณของศราวินที่เขาได้พบเมื่อช่วงเที่ยงคืนมาปรากฏกายอีกครั้งด้วยแววตาเศร้าหมองเช่นเดิม
“คุณ..ทำไมคุณกับคนรักของคุณถึงมาที่นี่?”
อนิรุทธ์หันไปถามอย่างข้องใจ อีกฝ่ายเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเขาและมองหน้าเขา
“คุณกำลังทำให้ผมเสียใจ...”
ถ้อยเสียงหวานที่ดังก้องไม่เหมือนกับเสียงมนุษย์เอ่ยขึ้นอย่างโศกสร้อย อนิรุทธ์อึ้งกับคำพ้อของวิญญาณหนุ่มตรงหน้า
“คุณจะบอกว่า...ศราวินคือตัวคุณอย่างนั้นหรือครับ?”
วิญญาณตรงหน้าไม่ตอบคำถามของเขา แต่อนิรุทธ์ก็แน่ใจในคำตอบจากคำถามของตัวเองได้จากสีหน้าเจ็บปวดที่อีกฝ่ายใช้มองเขา
“ถ้าอย่างนั้น...ผมก็ยิ่งไม่สมควรรักเขา..”
ศัลยแพทย์หนุ่มสรุปออกมาทันที และคำพูดจากปากนั้นก็ดูว่าจะสร้างความเกรี้ยวโกรธให้กับวิญญาณของศราวินไม่น้อย มันสะท้อนออกมาในแววตาอย่างชัดเจน และความโกรธนั้นทำให้ทั่วห้องของอนิรุทธ์ถูกลมปริศนากระชักพัดอย่างแรงจนแจกันมันตกมาแตก
“คุณกำลังจะทำผิดซ้ำรอยเดิมอีกแล้วอาจารย์!”
เสียงตะคอกจากวิญญาณดังขึ้นก้อง วิญญาณของศราวินมองเขาอย่างเจ็บช้ำและเอื้อมมือมาจับมือเขาไว้ บังคับมือศัลยแพทย์ให้เคลื่อนไหวมาตามความต้องการของตนเอง อนิรุทธ์มองมือที่ถูกจับไปวางไว้บนแผ่นอกของวิญญาณหนุ่มอย่างสงสัย วิญญาณของศราวินมองหน้าเขาก่อนดันมือเขาเข้าไปในร่างของตัวเอง
อนิรุทธ์สัมผัสได้ถึงอวัยวะภายในที่ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ แต่มันปราศจากไออุ่นของความมีชีวิต มือของเขาถูกบังคับให้ไปจับอวัยวะอันหนึ่งที่เขาจำได้ดีว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการมีชีวิต
“หัวใจของผมเมื่อสี่สิบปีก่อนมันหยุดเต้นแล้ว...แต่อย่าทำให้มันต้องหยุดเต้นอีก...”
อนิรุทธ์รู้สึกว่าโสตประสาทของตัวเองมันกำลังถูกแช่แข็ง เขามองหน้าอีกฝ่ายที่พูดทันที
“คุณหมายความว่ายังไง...ถ้าผมกับศราวินไม่รักกันมันไม่ดีกว่าหรือยังไงกัน?”
วิญญาณของศราวินส่ายหน้าช้า...ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วที่ทำให้ใจของอนิรุทธ์แทบร่วงไปกองที่เท้า
“ถ้าคุณไม่รักผมต่างหาก...ที่จะทำให้ผมตาย...”
น้ำตาใสไหลกลิ้งจากหน่วยตาคู่สวยแสนเศร้า วิญญาณของศราวินมองหน้าเขาแล้วร้องไห้ออกมาขณะที่ร่างค่อยๆเลือนหายไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงเสียงที่ดังก้องให้อนิรุทธ์ได้ยิน
“อาจารย์..พวกเรากลับมาเกิดเพื่อรักกันอีกครั้งแท้ๆ...”
“ได้โปรด.. อย่าใจร้ายฆ่าผมด้วยความไม่รักกันเลยนะ...”
อนิรุทธ์นิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ไฟที่ดับไปเมื่อสักครู่เปิดสว่างกลับมาอีกครั้ง แจกันที่ตกลงมาแตกคือเครื่องยืนยันว่าเมื่อสักครู่วิญญาณของศราวินมาเยือนเขาแล้วจริงๆ
“ศราวิน...” เขาครางชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนผลุนผลันไปหาเด็กน้อยของเขาอย่างนึกเป็นห่วง
เมื่อสักครู่..ภาพที่เขาเห็นในกระจกนั่น อาจารย์หมออนิรุทธ์จะต้องมาหาศราวินแน่ๆ
เพียงไม่กี่ก้าวเท้ายาวๆก็พาอนิรุทธ์พรวดพราดเข้ามาในห้องที่ศราวินกำลังนอนอยู่ ศัลยแพทย์หนุ่มรีบเข้าไปหาและใจไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ที่เห็นเด็กน้อยของเขานอนซุกอยู่โดยไม่หันมาหา
“ศราวิน..ศราวิน?”
เขาจับตัวเด็กหนุ่มพลิกให้กลับมานอนหงาย ศราวินที่ร้องไห้จนผล่อยหลับไปก็ปรือตาขึ้นมามอง
“ฮะ?...อ๊ะ!”
เด็กหนุ่มที่ถูกปลุกกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันมองซ้ายทีขวาทีราวกับต้องการมองหาอะไรบางอย่าง
“คุณกำลังมองหาอะไรอยู่?”
“อะ..เอ่อ..”
ศราวินยกมือขึ้นเกลี่ยไรผมไปถัดหูตัวเองอย่างเก้อเขินและไม่กล้าบอกว่าสิ่งที่ตัวเองมองหาอยู่คือวิญญาณของอาจารย์อนิรุทธ์ที่เสียชีวิตเมื่อสี่สิบปีก่อนเพราะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ตัวเองคงจะฝันไป
“ไม่มีอะไรหรอกฮะ..”
ศราวินบอกแล้วก้มหน้าลงมองดูมือตัวเองที่วางอยู่บนตัก..และรู้สึกใจเต้นขึ้นมาเมื่ออาจารย์เอื้อมมือมาจับที่มือของเขา
“หมอ..”
ดวงตาคู่สวยที่บอบช้ำจากการร้องไห้แต่ก็ยังคงความน่ามองเอาไว้ค่อยๆช้อนขึ้นมาสบตาเขา อนิรุทธ์ยกมือขึ้นมาเกลี่ยผมอีกข้างไปถัดหูไว้ให้ราวกับต้องการให้ศราวินได้ยินคำถามของเขาชัดๆก่อนเอ่ยถาม
“ก่อนที่หมอจะรู้เรื่องจากอาจารย์รเมศวันนี้...”
อนิรุทธ์ถามช้าๆอย่างพยายามไม่เร่งร้อนทั้งตัวเองและความรู้สึกของตัวเอง เขาลูบไปตามนิ้วเรียวเล็กอย่างถนอม
“หมอรู้สึกยังไงกับผม?”
สองแก้มของคนถูกถามแดงปลั่งขึ้นมาทันที ศราวินรู้สึกหน้ามันร้อนผ่าวกับคำถามและสายตาของอาจารย์ที่มองมาอย่างรอคอยคำตอบ ริมฝีปากบางเม้มสองสามครั้งก่อนที่เขาจะเงยหน้ามามองอาจารย์แต่ก็เขินจัดจนมองหน้าตรงๆไม่ได้จนต้องเลื่อนสายตาลงมามองช่วงอกของอีกฝ่ายแทน
“ผม...มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆอาจารย์ ไม่อยู่ใกล้ก็คิดถึง อยากเป็นเด็กดีที่อาจารย์คอยชม เป็นคนที่อยู่ในสายตาอาจารย์ตลอดเวลา สำหรับผม..อาจารย์คือคนสำคัญที่สุด แล้วก็อยากให้อาจารย์รู้สึกแบบเดียวกัน”
เด็กหนุ่มสารภาพเสียงเบาด้วยความรู้สึกเหมือสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในมันล้นทะลักออกมาจนไม่อาจห้ามเอาไว้ได้ ศราวินช้อนสายตาขึ้นมาหน้าอาจารย์อีกครั้งแล้วพูดเสียงแผ่วเบา
“ผมรักอาจารย์..”
คำว่ารัก..เมื่อเอ่ยออกไปแล้ว มันก็ยากที่จะถอนคืน
แต่ศราวินไม่คิดจะเอาคำพูดที่พูดให้อาจารย์ได้ฟังกลับคืนมาเลยสักนิด
เขาเพียงแต่กลัวว่าคำพูดของตัวเอง มันจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดให้หากถูกปฏิเสธอย่างรังเกียจจากอีกฝ่าย...
อาจารย์ของเขานิ่งไปครู่ใหญ่จนพาให้เขารู้สึกใจเสีย ศราวินพยายามฝืนยิ้มก่อนก้มหน้าลง เขาดึงขาขึ้นมาชันเข่าก่อนวางคางลงไป รู้สึกหดหู่กับใจของตัวเองไม่น้อยที่คิดว่าคงจะทนไม่ไหวเป็นแน่หากอาจารย์แสดงทีท่ารังเกียจออกมา
“มันน่ารังเกียจใช่ไหมครับ ที่ผมรู้สึกแบบนี้กับอาจารย์?”
เด็กหนุ่มถามออกไปเสียงเบา ทว่าสิ้นคำถามของเขา อาจารย์ก็ถามกลับมา
“เป็นผม...ดีแล้วหรือ?”
เสียงทุ้มของอาจารย์หนุ่มเอ่ยถามคล้ายคลางแคลงใจ
ศราวินพลิกหน้ามามองเขา สีหน้าและแววตาของอาจารย์อ่อนโยนและอบอุ่น อาจารย์เขยิบเข้ามาใกล้เขาแล้วถามซ้ำอีกครั้ง
“เป็นผม..ดีแล้วจริงๆน่ะหรือ?”
คนถูกถามไม่ตอบแต่ยิ้มให้เขาก่อนพยักหน้า อนิรุทธ์ยิ้มอ่อนๆให้แล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของอีกฝ่าย ก่อนโน้มตัวไปหาและจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากเนียน ศราวินหลับตาลงฟังเสียงหัวใจของตัวเองเต้นแรงอย่างเกินความคาดหมาย
“ขอโทษ...ที่ทำให้เสียใจ..”
เสียงทุ้มของอาจารย์กระซิบอยู่กับหน้าผาก ความดีใจและความสุขมันทะลักล้นในใจ
“อาจารย์...อาจารย์”
ศราวินอดไม่ได้ที่จะปล่อยสองมือออกจากขาตัวเองก่อนโอบแขนกอดร่างสูงของอาจารย์เอาไว้ อนิรุทธ์รับกอดของเด็กน้อยไว้แล้วยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็ก ปล่อยให้ศราวินกอดเขาอย่างไม่คิดจะผลักไสและเมื่อเด็กหนุ่มเป็นฝ่ายผละกอดจากเขาเพื่อมองหน้าเขาพร้อมกับรอยยิ้ม อนิรุทธ์ก็ไม่อาจรั้งห้ามหัวใจของตัวเองที่จะปล่อยให้ความรู้สึกมันดำเนินไปตามครรลองของมัน เขาก้มลงไปหาใบหน้าที่ลอยอยู่ใกล้ สองตาคมมองดูแววตาตกใจของเด็กน้อยของเขาที่ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำในสิ่งที่แม้กระทั่งเขาเองยังเชื่อได้ยาก...
ริมฝีปากของเขาบรรจงจูบลงที่กลีบปากอุ่นนุ่มของศราวิน...
รสชาติหอมหวานกำซาบไปในใจของทั้งสองที่ค่อยๆปล่อยใจไปกับสัมผัสอ่อนละมุน ศราวินหลับตาลงปล่อยให้อาจารย์เป็นฝ่ายพาเขาไปสู่ความอ่อนหวานที่เพิ่งได้รู้จักเป็นครั้งแรก มือเล็กยกขึ้นทาบอกกว้างของอาจารย์โดยไม่รู้ตัวตัว เข่าที่ดึงขึ้นมาชันก็ค่อยๆขยับเหยียดลง
อนิรุทธ์เบียดจูบกับกลีบปากนุ่มก่อนไล้เลียด้วยปลายลิ้นของตนเอง แทรกไปตามร่องกลีบปาก ควานลึกเข้าไปในราวกับกำลังลิ้มชิมความหอมหวานจากเด็กหนุ่ม ศราวินเผยอริมฝีปากอ้าออกให้อาจารย์สอดลิ้นเข้ามา ความไม่ประสีประสาในการจูบทำให้อนิรุทธ์ต้องหยุดชะงักตัวเองเอาไว้เมื่อตระหนักได้ว่าเด็กหนุ่มอ่อนเดียงสาต่อเรื่องที่กำลังทำกันมากแค่ไหน
“อาจารย์..?”
ศราวินปรือตาขึ้นมาครางเรียกอีกฝ่ายอย่างงุนงงเมื่ออาจารย์ผละจูบจากเขา และเมื่อเห็นว่าอนิรุทธ์ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองท่าทางครุ่นคิด หัวใจที่พองโตด้วยความสุขเมื่อครู่มันก็ทำท่าจะฟีบลงทันที
“อาจารย์รู้สึกแย่หรอฮะ?”
ศราวินถามอย่างกังวลใจ ทั้งนึกคิดมากว่าตัวเองไม่ได้ความจนทำให้อาจารย์รู้สึกไม่ดีหรือเปล่า แล้วก็อดพาลคิดด้วยว่าอาจารย์จะรู้สึกแย่เพราะตัวเองเป็นผู้ชายด้วยหรือไม่
น้ำเสียงที่ถามออกมาอย่างกังวลใจทำให้อนิรุทธ์ชะงัก เขาหันกลับมามองคนพูดที่มีสีหน้าไม่ต่างจากคำถามก่อนส่ายหน้า
เขาไม่ได้รู้สึกแย่เลยสักนิด
ตรงกันข้าม...เขากลับรู้สึกดีสุดๆกับจูบครั้งนี้
อนิรุทธ์ยิ้มอ่อนโยนให้และโน้มตัวไปจูบเบาๆที่หน้าผากของคนซึ่งกำลังมองหน้าเขาอยู่
“ผมรู้สึกดีมากเกินไปต่างหาก..”
รู้สึกดีมาก...จนอยากทำให้ร่างเล็กของเด็กน้อยกลายเป็นของเขา
แต่ส่วนลึกในใจก็รู้สึกว่ามันยังเป็นสิ่งไม่ควรนัก
“จริงหรอฮะ? ดีใจจัง”
ศราวินอุทานแล้วยิ้มเต็มแก้ม ภาพรอยยิ้มของเด็กหนุ่มพาให้อนิรุทธ์ต้องยิ้มตามอย่างมีความสุขและสำนึกได้ว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ยอมเปิดรับความรู้สึกของอีกฝ่าย อนิรุทธ์เลื่อนตัวไปนั่งเอนพิงกับหัวเตียงและดึงร่างเล็กให้เอนพิงลงมาที่อกของตัวเอง เขาลูบศีรษะเล็กอย่างถนอม..
“หมอ..ผมขอโทษที่ใจร้ายบอกให้คุณลืมเรื่องที่ได้ยินนะ..”
ศราวินที่เอนพิงกับอกของเขาแหงนหน้าขึ้นมามองแล้วส่ายหน้าช้าๆ รอยยิ้มยังคงมีอยู่บนริมฝีปาก..
“ไม่เป็นไรครับ..อาจารย์ทำไปก็เพราะความเป็นห่วงเท่านั้น”
ศราวินบอกอย่างตระหนักรู้ ซึ่งทำให้อนิรุทธ์อดรู้สึกไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจในตัวเขาดีเสียยิ่งกว่าตัวเขาเองเสียอีก
และไม่ว่ามันจะเป็นเพราะศราวินเคยเป็นคนรักของเขามาก่อนหรือเด็กน้อยของเขาเป็นคนฉลาดก็ไม่รู้ แต่ทุกสิ่งมันทำให้อนิรุทธ์รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้มีอีกฝ่ายมาอยู่เคียงข้างแบบนี้
ทว่า..เมื่อตระหนักได้ถึงน้ำหนักกายของเด็กหนุ่มที่นอนอิงกันอยู่กับกลิ่นกายหอมๆจากนวลเนื้อนุ่ม อนิรุทธ์ก็รู้สึกได้ว่าตนเองกำลังคิดผิดอย่างมหันต์ที่รั้งกอดเด็กหนุ่มให้ลงมานอนอิงตนเองเช่นนี้
ราวกับอารมณ์หนุ่มมันกำลังจะตื่นขึ้นจากการหลับใหลมาหลายปี อนิรุทธ์นึกอยากจะหัวเราะตนเองนัก กี่ปีแล้วที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เป็นเด็กหนุ่มวัยแรกคะนองรึก็เปล่า แต่กลับมานึกใจเต้นที่ได้กอดร่างผอมบางไว้ในวงแขนเช่นนี้
ศีลธรรมที่มีมันก็ค้ำคอเสียเหลือเกินที่จะฉกฉวยโอกาสที่ดูเหมือนจะเปิดกว้างให้เขาหน้ามืดตามัวที่จะทำให้เด็กหนุ่มกลายเป็นของตนเอง
“อาจารย์ครับ..”
“หืม...”
อนิรุทธ์ครางตอบเสียงเรียกในลำคอขณะที่มือยังคงลูบศีรษะของเด็กหนุ่มที่ซุกหน้าลงกับไหล่ของเขา
“กอดผมไว้แบบนี้..ทั้งคืนเลยได้ไหมครับ...?”
สุ่มเสียงหวานที่ถามดูแฝงไว้ด้วยความเกรงใจระคนขี้อ้อน แม้จะรู้สึกว่าถ้าหากทำตามคำขอ มันก็คงจะดูยากแก่การหักห้ามอารมณ์ของตัวเอง แต่อนิรุทธ์ก็กลับไม่คิดที่จะปฏิเสธ
“ได้สิ..”
อนิรุทธ์ตอบกลับไปและกดริมฝีปากจูบลงกลางกระหม่อมของคนที่ยิ้มเต็มแก้มและหลับตาลง
“ฝันดีนะหมอ...” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาก่อนเอื้อมมือไปปิดไฟที่ส่องสว่างลง
“ฝันดีครับอาจารย์...” ศราวินกระซิบบอกก่อนกอดร่างสูงแน่นขึ้น..
อนิรุทธ์ดึงผ้าห่มมาคลี่คลุมกายของลูกศิษย์คนโปรดที่ตอนนี้ก้าวเข้ามาอยู่ในฐานะพิเศษของหัวใจและตนเองก่อนข่มตานอนหลับทั้งที่อ้อมแขนยังคงกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมอกอย่างรู้สึกสงบสุขในใจ
-TBC-
Talk : ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณทุกคอมเม้นส์มากนะคะ
ถ้าใครอยากติดตามข่าวสารอัพเดทต่างๆสามารถเข้าไปกดไลค์เพจได้นะคะ
http://facebook.com/zynestrasfix