ตอนที่ 2
เจ้าชายกับเจ้าหญิง
“แล้วเป็นไงมาไงเนี่ย ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ไอ้ห่า!!!!!” ไอ้ธามมันตกใจได้อย่างดีเลย์มากๆเลยแฮะ “กูไม่เคยคิดเลยว่ากูจะได้เจอมึงอีก ครั้งเดียวก็เกินพอ!”
สัด . . ครั้งนั้นที่เจอกันมันเลวร้ายมากนักรึไง? “กูก็ไม่คิดว่าจะได้เจอมึงอีกครั้งเหมือนกัน ไม่อยากเจอด้วยแหละ” ขอสวนคืนมั่งไรมั่ง
ไอ้ธามมองผมที่ขับรถอยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ทำไมต้องมองแบบนั้นด้วยวะ ผมเริ่มจะไม่มั่นใจในตัวเอง ชุดนิสิตไม่ผูกไทด์เสื้อยัดเข้าในกางเกงเกือบหลุดลุ่ย . . มันมองอะไรของมัน
“หมะ มึงยังเรียน . . เรียนที่XXเหรอ!!”
มันทำตาโตเท่าไข่ห่าน ทำไม หน้าอย่างผมมันไม่น่ามาเรียนมหาลัยเหรอ?
“อื้อ”
“สาดดดดดด บังเอิญไปป่ะ กูก็เรียนที่XXเหมือนกัน!!”
บะ บ้าน่า . . มันจะบังเอิญเกินไปมั้ยเนี่ย! หรือดวงผมกับมันจะสมพงศ์กันแบบแปลกๆ หือ ไม่เอาอ่ะ . . ผมจะคิดซะว่าโลกนี้มันแคบ
“กูจะถือซะว่ากูโชคร้ายที่เจอมึงอีกทีละกัน” ดูปากของมันสิ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้คนๆนี้มันจะเป็นคนๆเดียวกับที่น้องๆมอต้นกรี๊ดกร๊าดอยู่บนเวทีเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
“คนนี้รึไงที่ทำมึงอกหักอ่ะ” ผมแหย่เล่นๆ พาดพิงถึงไอ้โอ๊ต ผู้ชายที่ปล้ำจะเอาจูบมันเมื่อตะกี้นี้
“ไอ้เหี้ย มึงใช้สมองส่วนไหนคิดไม่ทราบว่าไอ้โอ๊ตมันทำกูอกหัก กูนี่แหละหักอกมัน”
“กูนึกว่ามึงจะชอบผู้หญิงซะอีกนะ” ตอนแรกที่เจอมันผมโชว์โง่โดยการที่เดาไปเองว่าไอ้เหี้ยธามมันไปชอบผู้หญิงที่ตัวสูงกว่า . .
“กูเป็นเกย์เว้ย กูไม่ได้ชอบผู้หญิง” เอ่อ . . มึงชัดเจนไปป่ะ มันพูดได้อย่างหน้านิ่งหน้าตายมากๆไม่แคร์สิ่งอื่นใดเลย
“คิดอะไรอยู่ หน้าอย่างมึงกูไม่แลหรอก”
โอ๊ย . . ปากเสียจี้ใจผมให้จี๊ดชิบหาย พูดไม่พอยังทำท่าทางหยิ่งผยองใส่ผมอีกนะ มีอย่างที่ไหนกันเนี่ย
“แล้วนี่มึงจะขับไปถึงไหนเนี่ย”
“ก็มึงจะไปไหนล่ะ ไม่บอกกูสักที”
“อ้าว ไอ้สัด” มันด่าอย่างกับผมทำผิด “ไม่ต้องไปไหนไกล คอนโดกูอยู่แถวรัชดา”
“และมึงขอบคุณกูรึยัง ที่กูช่วยมึงไว้อ่ะ” ผมแอบทวงเล็กๆ
“ไม่ กูไม่ได้ขอให้มึงไปช่วยสักหน่อย”
ฮึ่มมมมมมมม . . เย็นไว้ไอ้ปอนด์ มึงเย็นไว้ . . “มึงชื่อไร เรียนคณะไหน ปีไหน” ไอ้ธามยิงคำถามส่งมาให้ผม
“ไหนมึงบอกว่าหน้าอย่างกูมึงไม่แลไง”
“จิ๊” มันหัวเสียที่ผมกวนใส่
“ฮ่าๆ กูชื่อปอนด์ ปีหนึ่ง บัญชีอินเตอร์”
“ปีหนึ่ง หึ มึงลืมไหว้พี่มึงแล้วล่ะ”
ว่าไงนะ . . ไอ้ละอ่อนนี่น่ะเหรอ รุ่นพี่ผม ผมมองหน้ามันด้วยสายตาสำรวจ
“กูเรียนสถาปัตย์ปีสาม ไหว้กูสิ”
“ไม่อ่ะ”
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย”
เป็นการพบเจอกันแค่สองครั้ง แต่คุยกันได้อย่างลื่นไหลมาก . . ผมงงตรงที่ผมกับมันสามารถต่อปากต่อคำใส่กันและกันได้โดยไม่แคร์ความรู้สึกอีกฝ่าย การที่คนเราเพิ่งจะเจอกันแล้วมาด่ากันฉอดๆๆแบบนี้ผมว่ามีน้อยคนอยู่นะที่จะเป็นแบบนี้
“สาดดดดดดด มึงขับเลยคอนโดกู!!!!” หลังจากที่ฝ่าด่านรถติดอันมหาศาลก็มาถึงหน้าคอนโดมันสักที
“ขอบคุณกูซะ” ผมก็ยังอุตส่าห์ทวง
“ไม่ ก็บอกแล้วไงว่าจะให้ลายเซ็น”
“กูไม่เห็นอยากได้”
“กวนตีน กูไปละ ขออย่าให้กูได้พบได้เจอกับมึงอีกเลย สาธุ”
ถุย อย่างกับกูอยากจะเจอมึงมากมายนักอย่างนั้นแหละ ผมมองเบื้องหลังตัวผอมๆนั่นที่เดินไหวๆเข้าไปในคอนโดสุดหรู อันที่จริงผมก็ไม่ได้เกลียดขี้หน้ามันมากสักเท่าไหร่หรอก ผมไม่ใช่คนที่จะเกลียดอะไรง่ายๆขนาดนั้น แค่อยู่กับไอ้นี่แล้วผมต้องเถียงต้องด่ามันจริงๆ ไม่งั้นคงจะมีแต่มันฝ่ายเดียวนั่นแหละที่ทำกับผม ซึ่งผมยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ผมพูดอย่างกับว่าจะมีครั้งต่อไปที่ผมได้เจอมันอีก . . เหอะๆ คงไม่มีทางแล้วล่ะ อย่างมากก็แค่หันหน้ามันโลดแล่นอยู่ในทีวี ในยูทู้ป สวนกันบ้างในมหาลัย แค่นั้นนั่นแหละ
แต่ใครจะรู้ . . ว่าผมคิดผิด “วู้ววววว มึงดูนั่น อักษร สวยสาดดดดดด” ไอ้คิกพูดเสียงร่าเริงในตอนเช้าของอีกวันหนึ่งที่กำลังรอเวลาขึ้นเรียน ผมนั่งสัปหงกเพราะโคตรจะง่วง ส่วนเพื่อนอีกสองคนแม่งคุยกันเรื่องสาวๆตั้งแต่ก้นหย่อนลงถึงเก้าอี้
“รู้ได้ไงว่าอักษร” ไอ้บูมถาม
“ไม่รู้ กูเห็นเค้าหอบหนังสือภาษาต่างประเทศมาตั้งเยอะนี่หว่า”
“อาจจะเรียนอินเตอร์แบบเราก็ได้”
“กูว่าไม่ใช่อ่ะ โน่นอีก ว้าวววว นิเทศๆ เอกซ์นะครับมึง”
พวกแม่งจะวู้จะว้าวจะว่างไปไหนวะ? ผมหาวหวอดๆ ฟุบหน้าลงกับหนังสือเรียน กว่าจะได้เรียนก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผมกับเพื่อนครับที่จะต้องขึ้นเรียนเป็นกลุ่มสุดท้าย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ไอ้บูมเคยให้เหตุผลหนหนึ่งว่าถ้าเข้าเรียนช้าที่สุด มันจะเด่นที่สุด . . เด่นกับผีน่ะสิ อาจารย์หมายหัวมึงชอบเหรอ?
“เออนี่ไอ้เชี่ยปอนด์ เย็นนี้กูกับไอ้บูมมีนัดกับสาวๆ ว่าจะไปร้องเกะกับโยนโบลว์กันอ่ะ สนรึเปล่าวะ” ไอ้คิกยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม พร้อมกับจิ้มแก้มของผมอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
“ไม่เอา ขี้เกียจ”
“ไม่ได้นะเว้ยเชี่ยปอนด์ กูสัญญากับเจนนี่ไว้แล้วว่ามึงจะไปด้วย สาดดดด ไปเหอะนะ สาวเยอะนะมึง”
“เจนนี่นมตู้มๆที่เค้าปิ๊งมึงไง” บูมช่วยเสริมอีกแรง “อยากลืมรักครั้งเก่าไม่ใช่เหรอวะสาด ไม่ได้นะเว้ย หัดลืมแล้วก้าวต่อไปซะมั่ง เพื่อนกูหน้าตาโคตรหล่อ กะอีแค่ผู้หญิงคนเดียวลืมๆไปบ้างเหอะน่ะ”
พวกนี้มันรู้ว่าผมยังลืมรักครั้งเก่าไม่ได้ครับ . . แต่มันไม่รู้ว่ารักครั้งเก่าของผมเป็นเพศอะไร ผมขี้เกียจบอกน่ะ
“วันนี้จะไปอ่านหนังสือ โทษทีว่ะ”
“เฮ้ย จะให้กูบอกเจนนี่ว่าไงวะ กูคิดว่ามึงจะไปแน่ๆอะ” ไอ้เชี่ยคิกลงทุนทำหน้าน่าสงสารใส่ผมเลยครับ ซวยจริง ช่วงนี้ยิ่งขี้เกียจพบเจอผู้คน ไอ้คิกเอ๊ย คิดได้เนอะ . . มึงไม่น่าคิดแทนกูเลยว่ะ
“เออ ก็ได้”
“เยส! เดี๋ยวกูโทรบอกเจนนี่”
ปวดสมอง . . เมื่อวานก็กลอย วันนี้ก็เจนนี่ ไอ้คิกมันกะยัดเยียดผู้หญิงให้ผมจริงๆใช่มั้ยนี่ มันจะเข้าใจผมมั้ยนะว่าผมน่ะยังไม่ลืมคนเก่า ไม่ใช่ว่าผมไม่พยายามที่จะลืมนะ แต่มันทำไม่ได้และทำได้ยากต่างหากล่ะ
คนที่ผมเคยแอบไปมองเขาทุกวี่ทุกวันทุกหนทุกแห่งแบบนั้น . . จะให้ผมลืมง่ายๆได้ยังไง
พยายามทำอกทำใจไม่ให้เข้าไปส่องเฟสบุ๊ก ส่องโซเชียลเน็ตเวิร์คของเค้าทุกอย่าง ผมกำลังพยายามอย่างที่สุด แต่ทุกครั้งไปที่ผมล้มเหลว เผลอจิ้มโทรศัพท์ดูรูปทีเผลอของเค้า . . เผยให้เห็นเสน่ห์มากมายโดยไม่ต้องเสียเวลาปรุงแต่ง
“ธาม คอนเมื่อวานเจ๋งดีนะ กำลังไปได้สวยล่ะสิ”
“อ้าว ไปดูมาด้วยเหรอ”
ชื่อนี้เสียงนี้โผล่มาอีกแล้ว . . เมื่อคืนผมอุตส่าห์คิดว่าผมจะไม่ได้เจอมันอีกแล้วแท้ๆ มหาลัยนี้มันก็ไม่ได้เล็กมากนี่หว่า ทำไมผมจะต้องมาเจอมันอีกด้วยเนี่ย แต่เช้าด้วยเหอะ
มันที่เอาแต่ด่าผมเมื่อคืนนั่นไง . .
“พอดีผ่านไปเจอน่ะ น่ารักนะ เดี๋ยวต้องขอลายเซ็นเก็บไว้ซะแล้ว”
“เนยไม่ต้องขอ ธามก็เซ็นให้อยู่แล้วน่า”
“น่ารักจริงๆเลย”
ผมที่เท้าคางอยู่กลอกตาขึ้นไปข้างบนอย่างเบื่อๆ . . ไอ้เชี่ยธามมันคิดว่ามันมีเสน่ห์มากมายนักรึไงวะ กับผู้หญิงที่ตัวพอๆกันกับมันก็ยังจะกล้าเล่นหูเล่นตาใส่ เขาดูออกกันหมดเหอะว่ามึงนิยมเพศไหน?
“ไอ้ปอนด์ มองอะไรอยู่ เจนนี่เค้าขอสายมึงแน่ะ”
“หะ” ผมสะดุ้งนิดนึง
ไอ้คิกใช้มือถือของมันเขี่ยแขนผม “เจนนี่ขอคุยด้วย”
“เฮ้ย . . แปดโมงครึ่งพอดี กูไปเรียนละ”
ชะแว้บ. . ผมหอบทุกอย่างแล้วเดินลิ่วๆนำเพื่อนทั้งสองขึ้นไปในตึกเรียน ไอ้คิกถึงแม้จะออกเสียงด่าไล่หลังผมแต่มันกระหืดกระหอบวิ่งตามมาเหมือนกัน . . บังเอิ๊ญบังเอิญ ผมรีบเกินไปหน่อย
ชนคนที่เดินสวนมาอย่างจัง เวรกรรม
“ดูทางบ้างดิครับ” เสียงคุ้นมาก
ผมเก็บของของตัวเองที่หล่นกับของของคู่กรณีด้วย ยืนขึ้น แล้วมองหน้าฝ่ายตรงข้าม ปรากฏว่า . .
เป็นไอ้ธาม . . หนีไม่พ้นมันจริงๆ เมื่อกี้เห็นเดินไปอีกทางไม่ใช่เร่อะ!!!!!!!!
“อะ ไอ้ . .”
“ขอโทษครับ” ผมพูดสวนขึ้นไป . .
“เกิดอะไรขึ้น” ไอ้คิกโผล่มาทีหลัง “อ้าวพี่ธาม หวัดดีครับพี่”
ไอ้คิกรู้จักด้วย ? อืมมมม โลกนี้มันทั้งกลมทั้งแคบอะไรอย่างงี้วะ . . “ไอ้คิก ไอ้บูม นี่เพื่อนมึงเหรอ” ผมว่าดูจากท่าทางหน้าตาของไอ้ธามแล้ว มันก็คงคิดไม่ต่างจากผมมากนักหรอก
“อ่ะครับพี่ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ” ไอ้คิกมันคงรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ที่ร้อนระอุเกินกว่าความเป็นจริง มันคงคิดว่าแค่ชนกันไม่น่าจะมองกันด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อขนาดนี้มั้ง . . คนไม่ค่อยชอบหน้ากันน่ะ
เมื่อให้คิดกันเป็นเลเวล ผมอาจไม่ชอบมันเลเวลแค่ 60 ส่วนไอ้ธามพุ่งพรวดทะลุไปที่เลเวล 99 แล้วมั้งน่ะ
“ไม่มีอ่ะ เนย ไปเรียนกันเถอะ” ไอ้ธามดึงมือเพื่อนสาวของมันไป . . โด่ว ไหนมึงบอกมึงเป็นเกย์ ??
แต่มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของผมนี่หว่า . . “มึงรู้จักด้วยเหรอ” ผมแอบถามไอ้คิกไอ้บูมทันที
“รุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า ค่อนข้างสนิทอยู่พี่เค้าทำงานให้ชมรมดนตรีน่ะ” ไอ้บูมตอบ บูมกับคิกจบที่เดียวกันครับ และก็ชอบดนตรีเหมือนกัน “ทำไมวะ มึงชอบพี่เค้าเหรอ”
“ถุย” ผมพูดทันที แต่พูดแบบเล่นๆนะครับ “จะบ้าเหรอครับ”
“โอ๊ยยยย อย่ามาๆ พี่เค้าฮอตจะตาย โคตรฮอตของฮอต อยู่ที่เดิมที่ว่าแน่แล้ว มาอยู่ที่นี่แทบจะกลายเป็นเฮเลนแห่งทรอย ศึกชิงนายอะ ประมาณนั้น”
เทียบหมอนั่น . . กับเฮเลนเนี่ยนะ ? และพวกมึงอยู่ที่นี่กันมานานแล้วเหรอรู้ถึงขนาดนั้นน่ะฮะ - - “ “ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างงั้นเลย” ไอ้คิกกอดคอผม “กูรู้เว้ยพี่เค้าอาจจะไม่ใช่ประเภทหน้าสวยเท่าไหร่ เพราะออกแนวเกาหลีๆ แต่หุ่นนี่ แม่เจ้า”
“พูดอย่างกับเคยเห็น”
“ก็เคยอ่ะดิ ฮ่าๆๆ” ไอ้คิกตอบ “กูกับพี่เค้าค่อนข้างสนิทกันไง แฟนเก่าพี่เค้าก็รุ่นพี่กูนี่แหละ”
“ซับซ้อน” ผมปัดเลี่ยงๆ “นิยมอะไรแบบนี้รึไง เมื่อเช้ายังพากันส่องดูขาขาวๆของผู้หญิงอยู่เลย”
“ถ้าผู้ชายตัวเล็กๆน่ารักๆแบบนั้น กูก็ส่อง”
เพลียกับไอ้สองตัวนี้จริงๆ พวกมันผิวปากอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะลากผมเข้าไปในคลาส ซึ่งอาจารย์กับนิสิตอยู่พร้อมเพรียงกันหน้าสลอน . .
. . 2 Broken Hearts . .
นี่ผมจะต้องร้องเกะกับสาวๆจริงเหรอ ?
“ปอนด์ อยากร้องเพลงอะไรอ่ะ ร้องหน่อยดิ เจนอยากฟังเสียง” ที่นั่งข้างๆผมเป็นสาวจากมอเอกชนเพื่อนของไอ้คิกไอ้บูมที่พวกมันอยากจับคู่ให้ผมอ่ะครับ เธอสวยมากๆๆๆและท่าทางจะพออกพอใจในตัวผม ส่วนผม . . พยายามที่จะทำตัวลีบๆนั่งอยู่บนโซฟา แต่ทำตัวลีบมากเท่าไหร่ คุณเธอก็พยายามจะเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมนี่ทำเอาผมเวียนหัว ที่มากไปกว่านั้นคือเสียงแหกปากร้องเพลงของไอ้คิกไปบูม ยิ่งทำให้มึนเข้าไปใหญ่
“ไม่เป็นไรครับเจนนี่ ผมร้องไม่เพราะอะ” ในใจคิดอย่างเดียวว่ากูไม่น่ามาเลย ให้ตายเหอะ
“ว้า จริงเหรอ ทำไมคิกกับบูมถึงบอกว่าปอนด์ร้องเพราะล่ะคะ น่านะ ร้องให้เจนนี่ฟังหน่อยนะ”
“เอ่อ - - ก็ได้ครับ”
โรคปฏิเสธไม่เป็นนี่ผมติดมาจากใครนะ . . การคะยั้นคะยอแบบนี้มันเป็นสิ่งที่คุ้นตาดีเหลือเกิน แต่ผมนะที่เป็นฝ่ายคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายปฏิเสธไม่ลง
กินไอติม . . ไปดูบาส . . เหตุการณ์ที่คนๆนั้นของผมมีแต่คนอื่นเข้ามาในสายตา ทั้งๆที่ผมอยู่กับเค้าแท้ๆ
แม่ง ผมยังเสียใจอยู่ “ไอ้บูม เจ้าชายกับเจ้าหญิงดิ๊ เดอะมูสอ่ะ”
“บร๊ะ ฟวยปอนด์จะร้องเพลง” อ้าว ไอ้นี่ สรุปมึงเคยได้ยินกูร้องมั้ยเนี่ย แล้วมึงไปบอกผู้หญิงเค้าว่ากูร้องเพลงเพราะเนี่ยนะ เหลือเชื่อ!
เจนนี่ดี๊ด๊ายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปผมแชะๆ ทันทีที่ผมจับไมค์ . .
เสียงอินโทรน่ารักๆดังขึ้นมา แต่เนื้อเพลงบ่งบอกถึงความเศร้า
“ถึงเวลาที่เราต้องร่ำลา . .” “กรี๊ดดดดดดดดดด” เสียงเจนนี่ครับ
“เมื่อเสียงน้ำตา มันพาให้เข้าใจ . . ว่าชั้นและเธอ มันต่างกันมากมาย . . ไม่ได้เหมือนเจ้าชาย ดั่งในนิทาน . . ” ถึงจะเหมือนเจ้าชายในนิทานสักแค่ไหน เมื่อเขามองเราว่าไม่ใช่ เราก็ไม่ใช่อยู่แล้ว . .
แม่ง เศร้าชิบหาย เมื่อไหร่ผมจะลืมๆไปสักที “เห้ย!” ผมร้องเสียงหลงใส่ไมค์ ทุกคนในห้องคาราโอเกะสะดุ้ง เสียงดนตรียังดังต่อไป แต่เสียงคนร้องหายหดเพราะเมื่อกี้มันเจออะไรบางอย่างเข้า
ไอ้ธามอีกแล้ว . . นี่ถ้าผมมีใจให้มันล่ะก็ ผมคงคิดไปนานละว่ามันกับผมคงเป็นเนื้อคู่กันแหงมๆเลย แต่ประเด็นคือผมไม่ได้มีใจให้มันสักนิดน่ะสิ เห็นมันอยู่นอกห้องคาราโอเกะ มากับเพื่อนคณะสถาปัตย์ของมัน(ผู้หญิงเยอะเลย - -) หัวเราะเฮฮากันอยู่ข้างนอก แล้วก็เดินเข้าไปในห้องคาราโอเกะไม่ใกล้ไม่ไกลกับห้องของพวกผมมากนัก
“เป็นไรคะปอนด์ ร้องต่อสิ กำลังเพราะเลย”
“อะ เอ่อ . .” ถึงไหนแล้ววะเนี่ย ผมรีบลากสายตาตัวเองมามองเนื้อเพลง
“คะ แค่รู้ว่าเธอนั้นยัง ยังคงมีชั้น ชั้นก็ยังรักเธอ อยู่เสมอ . .” เสียงข้างหลังตกไปเลย เพราะเมื่อกี้ผมได้เห็นศึกชิงนายอยู่หน้าห้อง
ไอ้ธามถูกไอ้โอ๊ต(เจ้าเดิม) ลากไปไหนก็ไม่รู้ครับ . . ท่าทางไอ้โอ๊ตจะหัวเสียมาก ส่วนไอ้ธามก็ไม่แพ้กัน
ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะเสือกมากนักหรอกนะ . . แต่ . . “เดี๋ยวกูมานะ”
“อ้าวปอนด์ จะไปไหนล่ะคะ?”
ห้างนี่ก็ใหญ่เกิน ไอ้โอ๊ตขายาวลากไอ้ธามไปไหนไม่รู้แต่พยายามไม่ทำให้คนที่สวนกันไปมาในห้องต้องประหวั่นพรั่นพรึง จนในที่สุด . . ลานจอดรถที่ลับหูลับตาคนของห้าง ผมแอบดูสถานการณ์อยู่มุมหนึ่ง
“โอ๊ย!” ไอ้โอ๊ตผลักไอ้ธามชิดกำแพง ตัวบางๆของมันดูเหมือนจะอ่อนไหวไปตามแรงลมราวกับปุยนุ่น ไอ้โอ๊ต มึงเล่นแรงเกินไปป่าววะ?
“ไปอ่อยใครมา”
“อะไรนะ”
“โอ๊ตถามว่าไปอ่อยใครมา!” ไอ้โอ๊ตตะคอกเสียงดัง ใช้มือทั้งสองข้างยันกำแพงเอาไว้ ไม่ให้ไอ้ธามมันหนีออกมาได้
“อ่อยเหี้ยไร ธามไม่ได้อ่อย ไอ้บ้านั่นมันมาขอเบอร์เองนี่”
“แล้วให้มันไปรึเปล่า!”
“ไม่ได้ให้ หรือถ้าให้ก็ไม่ใช่ธุระอะไรของโอ๊ตอีกต่อไปแล้วไม่ใช่เหรอ!”
“จะไม่ใช่ได้ยังไง เรายังไม่ได้เลิกกัน!”
“เลิกบ้าซะที ยอมรับความจริงได้แล้วว่าเราไปกันไม่ด้ะ . .”
คำพูดตะโกนแต่เสียงติดจะหวานนั่นถูกดูดกลืนลงไปโดยปากของไอ้โอ๊ตเอง ผมแอบตกใจเล็กๆ และก็นึกขึ้นมาได้ว่าผมมาทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้ และในระหว่างที่ผมจะหันหลังกลับไปนั่นเอง . .
มันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่าวะ ? “อะ ไอ้ เอี้ย ปล่อยกู!” ไอ้โอ๊ตมันบ้ามากๆ นี่มันกะจะเอาไอ้ธามในลานจอดรถเลยรึยังไง ทั้งจูบทั้งไซร้ ปลดกระดุมไอ้ธาม ตัวเล็กๆของมันสู้แรงไอ้โอ๊ตไม่ไหวเลยสักนิด
“ไอ้น้อง คนนั้นมันนักร้องวงโคบร้าสลีครึเปล่าน่ะ?”
มีใครคนหนึ่งมากระซิบถามผม กล้องในมือเตรียมแชะจะถ่ายรูปอยู่รอมร่อ ไอ้ธามไอ้โอ๊ตเอ๊ย อนาคตในวงการพวกมึงกำลังจะดับเพราะไอ้กล้องบ้าข้างๆกูอยู่แล้วนี่ รู้ตัวบ้างป่าววะ
“ไม่ใช่พี่ เพื่อนผมเอง ผมจะเข้าไปช่วย”
“ว้า งั้นเหรอ” พี่คนนั้นเดินเซ็งๆกลับไป บ่นกระปอดกระแปดว่าไม่ได้ถ่ายภาพเด็ด ดีนะที่เชื่อคนอื่นง่ายไปหน่อย
ผมหันกลับไปมองอีกที พวกแม่งหาย . . ชิบหายน่ะสิ!
ได้ยินเสียงอื้ออึงอยู่ไม่ไกล ผมรีบเดินเข้าไปหา มองซ้ายมองขวาหาต้นเสียง ที่แท้ไอ้โอ๊ตก็พาไอ้ธามมายังซอกหลืบเล็กๆลับหูลับตาคนนี่เอง
“เฮ้ย!” ผมร้องออกไปทันที
“ไอ้สัด แม่งเอ๊ย!” ไอ้โอ๊ตร้องแล้วรีบสวมเข็มขัดเข้าไปให้มันอยู่ตามเดิม เมื่อไอ้โอ๊ตเผลอ ไอ้ธามมันรีบลุกขึ้นมาแล้วมาหลบหลังผมอย่างกลัวๆ ตัวมันสั่นระริก มือไม้ของมันจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ผมไม่เคยเห็นคนปากกล้าอย่างมันในมุมนี้มาก่อน “เสือกไร อ๋อ มึง ไอ้คนเมื่อวานใช่มั้ย”
“เออ มีปัญหาอะไรไม่ทราบ”
“เสือกไม่เข้าเรื่องเหรอ?” มันก็หล่อดีแต่ทำตัวได้สถุนมาก เหมือนมันจะฟาดหมัดใส่หน้าผม แต่ไอ้ธามมาขวางเอาไว้
“หมะ มึง ฮึก จะทำอะไรแฟนกู” ฮะ ?
มันว่าไงนะ ตะกี้ . . “อะไรนะ!”
“คนนี้ ฟะ แฟนกู เพราะฉะนั้น ฮึก . . เลิกยุ่งกับกูซะ” มันแพล่มอะไรของมันออกไปวะเนี่ย! ไอ้โอ๊ตมองผมกับไอ้ธามสลับกัน ก่อนที่จะเดินหัวเสียออกไปอีกทาง . .
ผมตั้งหน้าตั้งตาจะโวยวายใส่มันเรื่องที่มันเพิ่งกุออกไปเมื่อตะกี้
แต่พอมันหันหน้ามา . .
เท่านั้นแหละ คำพูดที่จะโวยวายของผมหายวับลงไปในลำคอแทบจะในทันที
คนปากกล้าอย่างไอ้ธาม . . น้ำตานองหน้า สะอื้นไห้อย่างที่ผมไม่เคยเห็นใครร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน ผมตัวแข็งทื่อ เหมือนทุกอย่างรอบตัวผมหยุดลงที่หยดน้ำตาของมัน+ เรื่องนี้ดราม่าไม่หนักจริงๆนะ อย่าเพิ่งคิดไปอื่นไกลเน้อ
+ เจอกันบ่อยขนาดนี้ ไม่พรหมลิขิตก็โชคชะตาล่ะวะ
+ เหนือกับคินอีกเก้าวันหมดเขตจองหมดเขตโอนเน้อ ^^
+ ไว้พบกันตอนหน้าค่ะ