TWINS บทที่ 36 ฝาแฝดและความรักที่เฝ้ารอ ผมละจากระเบียงเดินเข้ามาในห้องนอนที่ถูกจัดตกแต่งไว้ เป็นห้องที่สวยจริงๆ แต่ผนังรอบด้านกลับเป็นกระจกสีครึ้ม ซึ่งคนด้านนอกสามารถมองเห็นข้างในได้ เตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ผ้าปู ผ้าห่ม หมอน ดูนุ่มนิ่มน่านอนสุดๆ โคมไฟระย้าที่เป็นรูปดวงดาวน่ารักๆ ห้อยลงมาจากเพดานหลายจุด มันส่องสว่างสีนวลๆ ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ผมยิ้มออกมา เพราะดูก็รู้ว่าเจ้าของที่นี่นั้นใส่ใจมากแค่ไหน มันดูอบอุ่น จนความเหน็บหนาวในหัวใจของผมเหมือนจะละลายหายไป
" ชอบไหม " ผมมองบุคคลที่ยืนพิงกรอบประตูมองดูผมอีกครั้ง
" ก็ดีนี่ ใช้ได้ " ผมพูดบ้าอะไรเนี่ย ต้องบอกว่าชอบสุดๆ ต่างหาก
" โอ้โห เหมือนฝันเลยฮะ ผมชอบที่สุด " ธัชโผล่หน้ามาใต้แขนเซนเซย์พลางตาโตอย่างตื่นตะลึง
" ดีใจที่พวกเธอสองคนชอบนะ " ผมมองเซนเซย์ที่ยิ้มอย่างใจดีพลางขยี้หัวธัช แต่ว่า สองคนงั้นเหรอ
" พี่ธิชมานี่สิ เตียงนุ่มมากเลย " อยู่ดีๆ ธัชก็ดึงผมเข้าไปกอดและทิ้งตัวลงกับที่นอน ซึ่งทำให้ผมล้มลงไปด้วย ผมทำท่าอึกอักเพราะเซนเซย์มองพวกเราอยู่ ผมไม่อยากเห็นคนคนนั้นเสียใจ
" ธัช ไม่เอาน่า " ผมทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่ธัชก็ยังคงกอดผมไว้แน่นและฟุบหน้าลงกับตัวผม
ผมมองเซนเซย์ที่สีหน้าเหมือนกำลังเป็นกังวล เพราะธัชดูแปลกๆ อีกแล้ว นี่ผมกำลังทำผิดอีกใช่ไหม
" ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมครับ และพี่กับเคียวซังต้องสัญญาว่าจะพูดความจริง " ธัชเงยหน้าออกจากตัวผม และมองพวกเราด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ผมใจหาย ธัชนั้นเป็นอะไรอีกแล้ว ผมไม่อยากให้น้องเป็นแบบนี้เลย
" ผมรักพี่ครับ คงไม่ต้องบอกว่ารักแบบไหนใช่ไหม " ผมก้มหน้างุด ถึงจะรู้ว่าเซนเซย์นั้นรู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่กล้าสบตาอยู่ดี
" ผมรักพี่ และก็รักเคียวซัง ทั้งสองคนเป็นคนสำคัญของผม ผมไม่อยากเห็นทั้งสองคนเป็นแบบนี้เลย ถ้าผมรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่อยากให้เราสามคนอยู่ด้วยกัน " ผมสะเทือนใจมากเพราะธัชนั้นเหมือนทำเป็นไม่รู้แต่จริงๆ ก็รู้ทุกอย่าง แต่ผมทำไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง มันเป็นไปไม่ได้
" พี่รักผมหรือเปล่าครับ " ผมจ้องมองธัช
" แน่นอนพี่รักธัช " ผมตอบอย่างหนักแน่น
" แล้วพี่รักเคียวซังหรือเปล่า " ผมหลบตาธัชจ้องมองที่พื้น
" ธัช " ผมตกใจที่อยู่ๆ ก็ถูกถามแบบนั้น
" สัญญาว่าจะพูดความจริงแล้วนะ " ธัชมองผมด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
" ธัช ขอเถอะ " ผมไม่ได้พูดออกไป แต่กลับเป็นเซนเซย์ที่พูดออกมา และทำท่าจะเดินหนีไป
" ถ้าเคียวซังเดินหนีไป ผมก็ไม่ว่า แต่ผมคงไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ผมไม่อยากให้คนที่ผมรักต้องเสียใจ ผมตามใจพี่ธิชทุกอย่าง ผมเชื่อฟังเคียวซังทุกครั้ง แล้วทำไมละครับ ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังผมบ้าง ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ " ธัชเริ่มน้ำตาไหลออกมา
" มันผิดนะธัช มันไม่ถูกต้อง " ผมพูดพลางจับแขนธัชไว้
" แล้วอะไรคือความถูกต้องเหรอครับ ที่พวกเราเป็นมากกว่าพี่น้อง พี่คิดว่ามันถูกเหรอครับ พี่ต้องการให้เราหยุดอีกใช่ไหม "
ผมพูดไม่ออก เพราะที่ธัชพูดนั้นก็ถูกต้องแล้ว พวกเราทำผิดมาตั้งแต่ต้นแล้ว และผมไม่ต้องการที่จะหยุด ผมพอแล้วกับความคิดงี่เง่านั่น มันจะทำลายพวกเราอีกครั้ง
แต่ว่าผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมคิดยังไงกับเซนเซย์ แต่ผมก็คิดว่าพวกเราจำเป็นต้องมีคนคนนี้อยู่ ผมปรารถนาที่จะให้เขาอยู่กับพวกเรา
" ไม่ต้องถามฉันหรอก เพราะคำตอบก็คือ ใช่ ฉันรักพวกเธอทั้งสองคนนั่นแหละ อาจจะต่างกัน แต่ความรักก็คือความรัก เธอตัดสินใจละกันธัช แต่ขอบอกไว้อย่าง ว่าฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกเธอไปจากฉัน แค่นั้นก็พอ " เซนเซย์พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเคร่งเครียด
" เหลือแต่พี่แล้วนะ ผมอยากให้เราสามคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจริงๆ ครับ ได้โปรด อย่าแสร้งทำอีกเลย มันเจ็บปวดนะ ธัชเหนื่อยแล้ว ธัชอยากพัก ธัชไม่อยากทำร้ายใครอีกแล้ว "
" ธัช ไม่โกรธ ไม่รู้สึกแปลกๆ เหรอ ถ้าพวกเราเอ่อ แบบว่าสามคน "
" ตอนนี้ผมเชื่อจริงๆ ว่าทั้งสองคนรักผม เพราะงั้น ผมอยากให้พี่ ให้เคียวซังมีความสุข ถ้าทั้งสองคนมีความสุข ผมก็มีความสุขเหมือนกัน " อย่างนั้นเหรอ ก็เหมือนกันเลยนะ ความคิดของพวกเราทั้งสามคนนั้นเหมือนกัน ต่างคนก็ต่างอยากทำให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข และแบบนี้ ก็คงได้คำตอบแล้ว
" ใช่สิ ไม่มาเป็นพี่ไม่รู้หรอก " ผมเปรยเป็นนัยๆ และยิ้มให้น้อง ธัชมองผมและยิ้มกลับมาเช่นกัน
ธัชยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ และจูบผมที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ผมไม่ขัดขืน แต่หน้าตอนนี้แดงเถือกสุดๆ
" ยืนทำอะไรล่ะครับ เข้ามาสิ " ธัชยักคิ้วให้เซนเซย์ที่เลิกคิ้วมองพวกผมเช่นกัน
" ธัช ไม่เอาน่ะ ทำบ้าอะไรเนี่ย " ผมพูดกระซิบ และตีน้องเบาๆ ไปเรียกมาทำม๊าย เซนเซย์ที่กอดอกพิงกรอบประตู เริ่มเดินเข้ามาสองมือล้วงกระเป๋า
" เอ้า เรามาจูบสาบานกันนะ ฮ่าๆ " ธัชพูดพลางหัวเราะสดใส เซนเซนย์ที่เดินมาแค่หยุดยืนและทำหน้านิ่งๆ ไม่พูดอะไรออกมาสักอย่าง
" ไม่!! " ผมหน้าขึ้นสี ปิดหน้าไว้ด้วยสองมือ ผมยังไม่ยอมหรอก จะให้ยื่นหน้าไปจูบ เอ่อ คนที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่นี่ ยากไปแล้วเฟ้ย
" โถ่ว ถ้างั้นผมขอละนะ " ผมเปิดตาออกก็พบว่าธัชนั้น เขย่งจูบเซนเซย์อยู่ เซนเซย์ทำหน้าตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยอมให้จูบแต่โดยดี
" ห้ามนะ " ผมรีบเดินเข้าไปดึงธัชออก และกอดไว้แบบหวงแหน แต่ใบหน้าผมนั้นกลับกำลังยิ้มอยู่
" นี่หึงผมหรือหึงเคียวซังกันแน่ครับ " ธัชทำหน้าทะเล้นมองผมแบบกวนประสาทสุดๆ
" ชิ ไม่ยุ่งด้วยละ หิวข้าว " ผมเดินเชิดออกมา พลางเหยียบทีนเซนเซย์ด้วยความหมั่นไส้
มื้อเย็นวันนี้มันช่างแสนวิเศษ ผมมองคนสองคน ที่ตอนนี้ล้วนเป็นคนสำคัญของผม กำลังคุยกัน หัวเราะด้วยกัน ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดียิ่งกว่าผมซะอีกเชอะ เซนเซย์นั้น ผมไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่แปลกขนาดนี้ ตั้งแต่แรกที่ผมได้เจอ ผมก็รู้สึกว่าผมเกลียดขี้หน้าหมอนี่ชะมัด ทั้งดูหยิ่ง โหดร้าย และปากแมวอย่างที่สุด เจอกันทีไรก็ไม่เคยพูดดีๆ กันสักครั้ง แต่ความจริงแล้วกลับเป็นคนที่ใจดีเกินคาด พึ่งพาได้ ถึงจะยังกวนประสาทอยู่ก็เถอะ แต่ก็ต้องยอมรับนะว่า หมอนี่หล่อสุดๆ เพอร์เฟคจนน่าหมั่นไส้ แต่ธัชก็หล่อเหมือนกัน หรือจะบอกว่าน่ารักสุดๆ ไปเลย พูดไปก็เหมือนชมตัวเองแปลกๆ หึหึ
" อะแฮ่ม จ้องขนาดนี้ เพราะผมกับเคียวซังหล่อสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ " ธัชพูดแบบกลั้นขำพร้อมทำท่าเก็กหล่อ และกอดคอเซนเซย์ไว้ ซึ่งเซนเซย์แค่มองผมเท่านั้น
" น้อยๆ หน่อย ธัชหล่อพี่ก็ต้องหล่อสิ ส่วนอีกคนก็งั้นๆ แหละ " ปากกับใจไม่ตรงกันก็งี้แหละ จะให้ชมตรงๆ ผมคงไม่ไหว เสียฟอร์มหมด
" เซนเ...เอ่อ เคียวซัง " ผมเห็นเซนเซย์ยิ้มมุมปากเล็กน้อยที่ได้ยินผมเรียกชื่อ แต่ผมว่าผมควรเรียกชื่อของเซนเซย์ เพราะว่าตอนนี้พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน
" คือผมอยากรู้ว่า คุณแยกพวกเราออกได้ยังไงเหรอครับ " เป็นสิ่งที่ผมสงสัยมานาน ถ้าไม่ดูจากนิสัยละก็ ยังไงการแยกคนที่เหมือนกันขนาดนี้ออกมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา
" นั่นสิ ธัชก็อยากรู้ครับ " ธัชเกาะแขนเซนเซย์พลางทำหน้าตาสนใจเต็มที่
" แววตาไม่เคยหลอกสิ่งที่หัวใจกำลังบอก แต่ก็มีครั้งหนึ่งนะ ที่พวกเธอทำให้ฉันสับสน " เซนเซย์พูดพลางยิ้มน้อยๆ
" แปลว่าแยกพวกเราจากแววตาล้วนๆ เลยเหรอครับ " ผมก็ยังคิดว่ามันยากอยู่ดีนั่นแหละ และเพราะแบบนั้นอารมณ์หลอกๆ เลยไม่ได้ผลสินะ
" ใช่เป็นส่วนใหญ่ ถ้าพวกเธออยู่คนเดียว ฉันจะสังเกตจากแววตาที่เธอจ้องมองฉัน ซึ่งทั้งสองคนนั้นจ้องมองฉันแตกต่างกันมาก "
" แล้วถ้าพวกผมมาด้วยกันละครับ " ผมสนใจอยากรู้เรื่องนี้จริงๆ หมอนี่เทพมากเลย ผมละยอม
" ดูจากแววตาที่พวกเธอมองกันและกัน "
ผมเลิกคิ้วน้อยๆ อย่างอึ้งๆ เป็นแบบนั้นเองเหรอ ถึงพวกเราจะพยายามแสร้งทำเป็นยิ้มหรือนิ่งเฉย แต่เวลาที่ผมมองธัช และธัชมองผม พวกเราก็จะเผลอเป็นตัวของตัวเอง เป็นความรัก ที่ส่งผ่านทางแววตา มันลึกซึ้งมากจริงๆ เพราะแบบนั้น เซนเซย์ถึงรู้ว่าผมกับน้องรักกันแบบไหน รู้มาตลอดเลยสินะ
" แล้วที่บอกว่าสับสนละครับ " จะมีตอนไหนนะที่ทำให้เซนเซย์สับสนได้
" ตอนประกวดเดือน ฉันพลาดจริงๆ นั่นแหละ ไม่ได้แกล้งทายผิดหรอก " งั้นที่ผมดีใจก็ถูกต้องแล้วสินะ ผมภูมิใจนิดๆ แฮะ
" ปกติสายตาธัชที่มองธิชา จะเป็นแบบที่คนคนนึงรักคนอีกคน ดูออกง่ายที่สุด แต่ธิชาจะไม่ใช่ความรักแบบนั้น แววตาจะเหมือนดูห่วงใย แคร์น้องแบบปกติ แต่วันนั้นแววตาของธิชาก็เปลี่ยนไป แววตาของพวกเธอที่มองกันและกันเริ่มเหมือนกันตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งมันยากมาก ถ้าพวกเธอไม่ได้แสดงนิสัยส่วนตัว หรือจ้องมองฉัน มันก็ยากจริงๆ ที่จะแยกพวกเธอ ออกจากกัน "
ผมมองธัชที่ส่งยิ้มให้ผม พลางเกาหัวเขินๆ หนอยเด็กนี่ นายคิดแบบนั้นกับพี่มาตลอดเลยงั้นเหรอ และผมก็ซื่อบื้อจริงๆ อย่างที่เซนเซย์เคยบอก ที่เพิ่งมารู้ก็ตอนที่ผมนั้นทำให้ธัชเสียใจอยู่บ่อยๆ ไปแล้ว
แต่ต่อไปนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว เพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าใครที่รักผม และผมนั้นรักใคร พวกเราสามคนในตอนนี้ ต่างมีแววตาที่เหมือนกัน เวลาที่เรามองกันและกัน
เป็นความรักที่ผมเฝ้าถวิลหามาเป็นเวลานานแสนนาน