TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: TWINS " รัก ลวง หลอก " [Incest][3P][ #43 เราสามคนตลอดไป [END] ](28/10/60)  (อ่าน 51860 ครั้ง)

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ดูเหมือนจะแฮปปี้ราบรื่น(?)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ฉันรออะไรอยูน๊าาาาาาาาาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สงสัยจะได้กินแซนด์วิช
รอดูฉากอัศจรรย์ก่อน เดาไม่ถูก

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เหมือนใกล้จะแฮปเอนด์แล้วใช่ไหมคะ อย่ามีดราม่าอีกเลยนะอยากเห็นฝาแฝดหวานๆมีความสุขสักที

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถ้าหลานธิชมัวแต่เขิน แล้วเมื่อไหร่จะ 3P กันซักที  :m17:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 37 ฝาแฝดและสัตว์กินเนื้อทั้งสอง


          หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ ซึ่งมื้อนี้เป็นอาหารจากภัตตาคารชื่อดังระดับ 5 ดาว กินแบบนี้ทุกวันผมคงกลิ้งได้แน่ๆ ยิ่งมองพุงตัวเองกับกล้ามท้องของสองคนนั่นผมยิ่งท้อ เอาเวลาไหนไปฟิตกันนะ ผมว่าผมต้องฟิตบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นจะมีแรงไปสู้พวกนี้ได้ยังไงกันละ

          ผมมองสองคนนั้นที่กระซิบกระซาบอะไรกันสักอย่างด้วยรอยยิ้มแปลกๆ และอยู่ดีๆ ทั้งสองคนก็ลุกขึ้นยืน พลางจ้องมองผม

          " อิ่มแล้วทำไรกันดีธัช ออกกำลังหน่อยไหม " เคียวซังยิ้มแบบมีเลศนัยและหันไปพูดกับธัชที่ยิ้มแบบมีเลศนัยเช่นกัน

          " อย่าแม้แต่จะคิด ธัช ธัชต้องอยู่ข้างพี่สิ " ผมรู้สึกถึงรังสีอะไรสักอย่าง จึงลุกขึ้น ถอยหลังช้าๆ และพยายามหาพวกไปด้วย

          " ขอโทษครับพี่ธิช แต่ฝั่งนี้เป็นของสัตว์กินเนื้อ ต้องล่าเหยื่อ " ธัชพูดทำท่ากางกรงเล็บ หนอย นายมันก็แค่ลูกแมวดีๆ นี่เอง แต่ไอ้ข้างๆ นั่น โครตน่ากลัว หมอนั่นแค่เพียงยืนนิ่งๆ สองมือล้วงกระเป๋า แต่กลับทำให้ผมหวั่นใจมากกว่า

          แล้วจะอยู่ทำไมละครับ ผมใส่เกียร์หมา วิ่งรอบโต๊ะ เพราะสองคนนั้นก็ออกตัวไล่ขับผมเช่นกัน คอนโดของเซนเซย์กว้างมาก ผมวิ่งเข้ามุมนั้นมุมนี้ ซอกนั้นหลืบโน้น พลางหัวเราะจนเหนื่อย แต่คนที่ตั้งใจตะครุบผมจริงๆ คงมีแต่ธัช เพราะเคียวซังหายไปไหนแล้วไม่รู้ ผมยืนหอบหายใจอยู่ข้างชั้นหนังสือ หลบอยู่ในซอกและถอยหลังหนีเสียงฝีเท้าธัชที่ดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ได้เล่นซ่อนหามานาน แบบนี้ก็สนุกดีแฮะ 

          " จับได้แล้ว " แต่ผมที่เดินถอยหลังก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะว่าเคียวซังมาจากไหนก็ไม่รู้ มาล็อคผม กอดผมไว้จากด้านหลัง

          " ปล่อยผมลงนะ~! " ผมดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่ไหว เข้าอีหรอบเดิม โดนจับยกขึ้นบ่าก็จบกัน เคียวซังเดินแบบชิลๆ โดยมีผมที่สูง 180 อยู่บนบ่า แกจะถึกไปไหนฟะ

          " โหย เก่งอ่ะ ผมไม่เคยจับพี่ธิชได้เลย ฮ่าๆ " ธัชกระโดดโลดเต้นรอบๆ เคียวซังพลางแลบลิ้นใส่ผม ไอ้เด็กนี่ ช่วยยพี่ก่อนสิโว้ย

          เคียวซังแบกผมมาและวางลงที่โซฟาสีดำตัวยาวตัวเก่าที่เคยมีคดี ผมนอนมองไอ้สองตัวร้ายที่จ้องผมแบบอยากกินเข้าไปทั้งตัว 

          " เหนื่อยแล้วอ่ะเลิกเล่นเถอะ " ผมทำท่าจะลุก แต่ธัชก็กดผมไว้ตามเดิม

          " พี่ยังต้องเหนื่อยอีกเยอะเลยฮะ " 

          " เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนนะ นั่งเล่นกันไปก่อน " เคียวซังพูดพลางทำท่าจะเดินหนี แต่ธัชก็ดึงเอาไว้

          " ตกลงกันไว้แล้วนี่ครับ ว่าจะไม่ทำลับหลังกัน " เดี๋ยวๆๆ ไอ้ทำนี่ทำอะไร แล้วไปตกลงกันตอนไหน ไม่คิดจะถามความเห็นกันเลยเหรอห๊ะ จะมากไปแล้วนะ

          " เอ่อ ถามพี่ด้วยสิธัช พี่ไม่รับได้ไหม " 

          " ไม่ได้!! " หนอย ผมมองไอ้สองคนที่มันประสานเสียงพร้อมกัน สามัคคีกันจังนะ 

          ไม่รู้แหละ หนีสิครับ จะรออะไร ผมค่อยๆ คลานลงจากโซฟาตอนที่สองคนนั้นเถียงกันและวิ่งฉิวเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว 

          " ว้าว~ " ผมอดร้องว้าวไม่ได้ เพราะมันแบบว่า อลังการสุดๆ อ่างอาบน้ำกลมๆ ขนาดใหญ่ที่น่าจะลงได้แบบเป็นกลุ่ม ห้องน้ำกว้างซะจนจะนอนได้ และตกแต่งเรียบหรูมีสไตล์ ผมถอดเสื้อผ้า เปิดน้ำและแช่น้ำแบบสบายสุดๆ ที่ผมกล้าแก้ผ้าอาบน้ำเพราะในห้องน้ำมีชุดคุมอาบน้ำเยอะมากแถมผ้าเช็ดตัวอีกเป็นตั้ง นอนในนี้เลยก็ยังได้ หึหึ

          " พี่ธิชขี้โกงนี่นา หนีมาแช่ก่อนได้ไง " ผมรีบมุดลงในน้ำแบบโผล่หน้าออกมาบนผิวน้ำแค่จมูกกับตาเท่านั้น เข้ามาได้ยังไงละเนี่ย ไอ้แสบเอ้ย

          " เข้ามาได้ไงอ่ะ " ผมขมวดคิ้วมองธัชที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เอว อวดกล้ามเนื้อสมส่วนและผิวขาวใส 

          " มันก็ต้องมีที่เปิดอยู่แล้วสิครับ ฮ่าๆ " ธัชพูดพร้อมชูรีโมทสีดำในมือไปมาแบบกวนๆ

          และผมถึงกลับต้องสำลักน้ำเพราะว่าไม่ได้มีแค่ธัชที่เข้ามา แต่เคียวซังก็เดินตามเข้ามาและมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กผูกอยู่ที่เอวเช่นกัน​ ผมเหลือบมองกล้ามเนื้อแน่นๆ ของเคียวซังพลางถอยหลังชิดขอบอ่างอีกมุม ซึ่งเป็นมุมที่ไกลที่สุดด้วยความหวาดหวั่น เป็นการอาบน้ำที่หวาดเสียวสุดๆ ไปเลย

          " ฮ่าๆ ดูเหมือนจะมีคนกลัว " ผมมองธัชที่ค่อยๆ ลงมาในน้ำและถอดผ้าขนหนูออกวางบนขอบอ่าง ผมไม่ค่อยอายน้องหรอกครับ เพราะถึงไม่ได้อาบน้ำหรือนอนด้วยกัน แต่ก็คุ้นเคยกันดี อาจจะมีเขินบ้างเล็กน้อย เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ชอบกันอยู่แล้วล่ะนะ

          แต่เคียวซังนี่สิ ความที่ไม่คุ้นเคยกัน ถึงหมอนั่นจะเคยเห็นอะไรต่อมิอะไรของผม แต่ก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ผมยังไม่ได้คุ้นเคยกับหมอนี่เท่าไหร่ เลยทำให้ผมเกร็ง และตื่นเต้นมากเกินไป ผมแทบไม่กล้ามองใครเลยตอนนี้ ผมจะรู้สึกแปลกๆ ถ้าเผลอจ้องมอง มันเป็นจุดอ่อนของผมอย่างหนึ่ง

          " เอ่อ พี่ขึ้นก่อนดีกว่า แช่นานแล้วอ่ะ " ผมทำท่าจะขึ้น แต่ก็นึกเสียใจสุดๆ เพราะว่าผ้าขนหนูก็อยู่ไกลเหลือเกิน ผมลืมเอามาไว้ใกล้ๆ ซะได้ ไม่กล้าขึ้นโว้ย

          " อ้าว ไม่ขึ้นแล้วเหรอครับ " ธัชยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผม และยิ้มแบบรู้ทัน

          " หยิบให้หน่อยดิ " ผมเหลือบมองคนที่ยังไม่ได้ลงมาในอ่าง และใช้งานซะเลย แต่หมอนั่นกลับยืนนิ่งและไม่ยอมทำตามที่ผมสั่ง

          " อยากขึ้นก็มาหยิบเองสิ " หนอย โอ้ยย แกล้งกันได้แกล้งกันดี ผมก็ผู้ชายนะ ที่อายไม่ใช่อะไร ก็อายหุ่นไง ถ้ากล้ามแน่นๆ หุ่นดีๆ บ้างพ่อจะเดินแก้ผ้าเลยเอ้า ผมหน้ามุ่ยแบบเซ็งๆ 

          " โอ้โหวว สุดยอดไปเลยฮะ ฮ่าๆๆ "

          อยู่ดีๆ ธัชก็โหวกเหวกขึ้นมา ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้บ้านั่น อยู่ดีๆ ก็แก้ผ้าขนหนู และเดินลงมาในอ่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย ผมที่หันข้างอยู่ก็รีบหันหน้าไปอีกทางทันที คนปกติเค้าไม่แก้ผ้ากันโทงๆ โชว์คนอื่นหรอกครับ แต่ผมลืมไป หมอนี่มันคนญี่ปุ่นแท้ๆ คงจะชินกับอะไรแบบนั้น และถึงผมจะอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ไม่เคยใช้ชีวิตปกติแบบคนอื่นเขา เลยไม่นับครับ

          " พี่ต้องแย่แน่ๆ หึหึ " ธัชเลื่อนตัวมาอยู่ข้างๆ ผมและกระซิบกวนๆ หมายความว่าไงฟะ นี่อย่าบอกนะว่า แค่ของเอ็งพี่ก็จะตายละนะ ฮือ

          ผมสังเกตุได้ว่าสีผิวของเคียวซังนั้นเข้มกว่าของพวกเรา ออกไปทางสีแทนนิดๆ ที่ดูทำให้กล้ามเนื้อยิ่งสวยงามน่ามอง เอ้ย เอาเป็นว่าดูดีแหละ แต่ผมไม่สนเลย จริงจริ๊ง

          " พี่ครับ ผมถูหลังให้นะ " ธัชเริ่มเขยิบเข้ามาชิดตัวผมเรื่อยๆ ผมรู้สึกหน้าร้อนฉ่า ยิ่งธัชมาใกล้ ผมก็ยิ่งเลื่อนถอย แต่พอเลื่อนไปเรื่อยๆ หลังก็มาชนกับคนที่นั่งอยู่อีกคนซะนี่ ก็อ่างมันกลม โอ้ยย แย่แล้ว

          " ฮ่าๆ พี่ธิชหน้าแดงแจ๋เลย " ผมหน้ามุ่ย ผมผู้ชายแท้ๆ อกสามศอก ทำไมถึงโดนคุกคามได้ขนาดนี้ สองคนนี่มันร้ายกว่าผม ต้องยอมรับเลยจริงๆ

          " ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าพี่ไม่พร้อม ผมก็ไม่ทำหรอกครับ ใช่ไหมครับเคียวซัง " ผมเหลือบมองหน้าเคียวซังที่กำลังจ้องมองผมอยู่

          " ไม่อยู่แล้ว " เฮ้อ ค่อยโล่งใจหน่อย

          " ไม่เหลือ " ห๊ะ ผมหันควับไปอีกครั้ง หวังว่าเมื่อกี้คงฟังผิดนะ

          " ฮ่าๆๆ เคียวซังเขาล้อเล่นนะครับ " ผมมองหน้าไอ้คนล้อเล่นที่แววตาไม่ล้อเล่นเลยสักนิด 

          " ผมขอโทษนะครับคืนนั้น ผมคิดว่าผมแค่ฝันไป แต่พอผมเห็นพี่อยู่ในสภาพแบบนั้นในวันต่อมา ผมก็รู้เลยว่าเป็นฝีมือผม ผมรักพี่แต่ก็ทำร้ายพี่ ผมในตอนนี้แค่จะจับมือพี่ยังรู้สึกผิดเลยครับ ยกโทษให้ผมด้วยนะ " ผมมองธัชที่ทำสีหน้าหมองเศร้า ผมจะโกรธธัชได้ยังไง เพราะผมน่ะเต็มใจ 

          " พี่ไม่เป็นไร อย่าคิดมาก " ผมลูบแก้มธัชเบาๆ 

          " ขอบคุณครับ " ธัชเลื่อนตัวมาหอมแก้มผมเบาๆ ผมส่งยิ้มให้น้อง แค่นี้ก็หายสงสัยแล้ว สบายใจสักที

          " เคียวซังเล่าให้ผมฟังแล้วนะ เรื่องพี่น่ะ แบบจับมัด " ผมตาโตขึ้นทันทีพร้อมหัวควับไปมองไอ้คนปากพล่อยที่บังอาจเล่าเรื่องแบบนี้ให้ธัชฟัง

          " พวกเราจะไม่มีความลับต่อกัน ฉันคิดว่าแบบนั้นดีที่สุด " เซนเซย์พูดพลางเอาน้ำลูบหน้า

          " ผมก็เห็นด้วยครับ " ถึงแบบนั้นก็เถอะ น่าอายจะตายชัก

          " แล้วพี่ชอบไหมแบบนั้น "

          "  ถามบ้าอะไรเนี่ย " ผมดึงแก้มน้องแทนคำตอบ

          " ฟันธงเลยว่าชอบ " ผมมองหน้าไอ้คนที่ทำหน้านิ่งๆ กวนประสาท

          " มันก็ปกติมั้งแบบว่า โดนกระตุ้นขนาดนั้นใครละจะทนได้ " ผมพูดเบาๆ พลางกวักน้ำเล่น 

          " น่าสนใจแฮะ " ธัชพูดพลางยิ้มหวาน

          " อย่าแม้แต่จะคิด พี่ไม่เอาแล้วนะแบบนั้น ซาดิสม์ชะมัด " ผมจิกตามองไอ้คนที่เอาน้ำเสยผมสบายใจ

          " สงสารเคียวซังจัง อย่าถือสาเลยนะครับ พี่ธิชน่ะถ้าพูดแบบนี้แปลว่าชอบฮะ " หนอยย ไอ้เด็กนี่

          " ฉันไม่ค่อยฟังที่พูดหรอก แต่สังเกตจากการกระทำมากกว่า " อ๋อหรอออ หึ อย่าหวังจะได้ทำอีก

          " เคียวซัง รับให้ผมหน่อยสิ ฮ่าๆ " ผมตาโตมองธัช นี่พูดบ้าอะไรเนี่ย มันเป็นไปไม่ได้ ผมสังเกตเคียวซังที่แค่ขมวดคิ้วน้อยๆ

          " ไม่มีทาง " เคียวซังตอบแทบจะทันที เหอๆ ก็แน่นอนล่ะ สภาพแบบนั้น แค่คิดก็แปลกๆ ละ ฮ่าๆ

          " งั้นธัชรับให้พี่บ้างสิ " ธัชหันควับมาหาผม

          " ไม่มีทาง " เอ๋~ ไอ้เด็กนี่ ปกติจะไม่ค่อยขัดใจผมเลยนะ

          แต่มันทำให้ค้นพบว่า การที่ธัชชอบไปนัวเนียกับหนุ่มๆ ทั้งหลาย คนอื่นอาจคิดว่าธัชนั้นเป็นรับ แต่ที่ไหนได้ ไอ้เด็กนี่จ้องจะกดทุกคนที่ขวางหน้าต่างหาก ร้ายนักน้องพี่

          หลายนาทีต่อมาทั้งสองคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นจากน้ำ ดูเหมือนตั้งใจจะรอให้ผมขึ้นจากก่อนน่ะสิ เหอะ ฝันไปเถอะ นอนในนี้แม่งละงั้น

          " พี่ธิชตัวเปื่อยหมดแล้วมั้งเนี่ย จะไม่ขึ้นจริงๆ เหรอครับ " ผมบอกได้อย่างเดียวว่าผมขึ้นก่อนไม่ได้เด็ดขาด จริงๆมันไม่ใช่แค่เรื่องหุ่นหรอก แต่แบบว่า ร่างกายมันไม่รักดีจริงๆ  ดีนะที่บนผิวน้ำนั้นมีฟองลอยอยู่ ไม่งั้นละแย่แน่

          " เฮ้ย ธัช ทำบ้าอะไรเนี่ย " ผมสะดุ้งสุดตัวเพราะว่ามีมือ มือหนึ่งมาจับที่ต้นขาของผม

          " เอ่อ ผมเปล่านะครับ " ธัชยกมือขึ้นจากน้ำทั้งสองข้าง ทำให้ผมต้องหันไปมองไอ้คนที่มันยังหน้านิ่งอยู่ได้ทั้งๆ ที่มือกำลังลวนลามผมอยู่

          " ปล่อยไว้ไม่ดีหรอกนะ เสียสุขภาพ " คนพูดทำท่าเลื่อนตัวเข้ามาหาผมช้าๆ ผมถอยหลังก็ไปชนกับธัชที่ดักทางผมอยู่ 

          " อะไรเนี่ยพี่ธิช แอบคิดลามกอะไรอยู่กันน้าถึงเป็นแบบนี้ได้ " ธัชกอดผมไว้จากดันหลัง และเริ่มหอมที่ซอกคอผมเบาๆ 

          " มันเป็นเองต่างหากเล่า แล้วก็เดี๋ยวทำเองได้ " ผมยกเข่ากันคนที่กำลังเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ด้วยความหวั่นใจ

          " อย่า ไม่เอา ไหนบอกจะไม่บังคับกันไง " ผมเอี้ยวคอถามธัชด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว

          " ก็แค่ช่วยเองครับ ไม่ได้ทำมากกว่านั้นหรอก เนอะ " ธัชยิ้มให้เคียวซังที่แค่ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากเท่านั้น

          " ขึ้นอยู่กับว่าทนได้หรือเปล่านะ " ห๊ะ แล้วจะรู้ไหมอ่ะ ฮือ ผมไม่รอดแล้วล่ะแบบนี้

          ผมถูกธัชเชยคางและงับริมฝีปากผมแผ่วเบา ก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้ามากระหวัดพันเกี่ยวกับลิ้นของผมไว้ 

          " อ..อื้อ " ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าตอนนี้ยอดอกเล็กๆ ของผม ก็ถูกเคียวซังโลมเลียอย่างแผ่วเบาเช่นกัน ผมเกร็งตัว จิกเล็บลงบนไหล่หนาของคนที่พยายามลุกล้ำร่างกายของผมอยู่ ผมกำลังโดนเหมือนตอนนั้น แต่เปลี่ยนจากเชือกที่รัดผมจนเจ็บ เป็นธัชที่กอดรัดผมไว้และดูดกลืนริมฝีปากของผมจนแทบขาดอากาศหายใจ

          " อ่ะ.อื้อ. " ผมหันหน้าหนีริมฝีปากของธัช นิ่วหน้าร้องครางออกมาเมื่อรู้สึกได้ว่านิ้วที่สองกำลังแทรกเข้าไป

          " แบบนี้ก็แย่สิครับ เสียงของพี่จะทำให้ผมทนไม่ไหว " ธัชกระซิบแผ่วเบา พร้อมขบเม้มที่ใบหู ซุกไซร้จนผมขนลุกไปทั้งตัว

          น้ำในอ่างนั้นไม่ได้ลึกมาก สูงแค่ประมาณต้นขาเท่านั้น ตอนนี้พวกเราทุกคนแค่ชันเข่าในน้ำ และกอดรัดฟัดกันนัวเนีย ความลื่นของสบู่ทำให้ไม่ต้องใช้ครีมหรือโลชั่นใดๆ ก็สามารถสอดใส่นิ้วเข้ามาในร่างกายได้อย่างง่ายดาย

          " พี่ครับ ผมขอได้ไหม " ธัชกระซิบที่หูของผมอย่างแผ่วเบาด้วยเสียงกระเส่า ผมที่มีอารมณ์เต็มที่เพราะการกระตุ้นของทั้งสอง ใจก็อายเพราะคนตรงหน้า แต่ก็อยากปลดปล่อย ร่างกายผมมันร้อนและต้องการ ดูเหมือนว่าคนที่อยากที่สุดคงจะไม่ใช่สองคนนี่ซะแล้ว

          เคียวซังถอนนิ้วมือออกจากช่องทางด้านหลัง และเคลื่อนตัวมาแนบตัวผมช้าๆ ดึงพวกเราที่ชันเข่าทั้งหมดให้ลุกยืนขึ้น ผมเอียงหน้าหลบเล็กน้อยด้วยความเขินขณะที่เคียวซังเลื่อนหน้ามาใกล้ จนริมฝีปากของเราประสานกัน ผมยอมอ้าปากน้อยๆ ให้ลิ้นของเราสัมผัสกันอย่างเนิบนาบสลับกับร้อนแรงจนผมแทบละลาย

          ธัชนั้นกำลังจูบเลียไปทั่วลำคอและไหล่ของผม พร้อมเขี่ยติ่งไตสีชมพูด้านหน้าลูบไล้มันไปมา ส่วนแข็งขืนของธัชกำลังขยับถูไถอยู่ที่ก้นน้อยๆ ของผมจนรู้สึกแปลกๆ ขณะที่ริมฝีปากของผมก็ยังไม่ผละออกจากริมฝีปากของเคียวซัง ผมวางมือลงบนหน้าท้องและอกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเคียวซังอย่างลืมตัว   

          ผมเริ่มรู้สึกได้ว่าธัชนั้นกำลังกดน้ำหนักลงที่แผ่นหลังของผมลงเรื่อยๆ จนผมผละออกจากริมฝีปากของเคียวซังเลื่อนลงช้าๆ และจูบผ่านต้นคอ หน้าอกแกร่ง และหน้าท้องที่สวยงามนั่น

          " อ๊า! " ผมเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจและเสียวซ่านเพราะ ธัชนั้นดันท่อนกายของตัวเองเข้ามาอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากมายเพราะว่าช่องทางอ่อนนุ่มนั้นได้ถูกเตรียมมาแล้วด้วยมือของเคียวซัง

          " ช้าๆ หน่อยธัช " เสียงของเคียวซังอ่อนนุ่ม และมือกำลังลูบแผ่วเบาที่แก้มของผม ผมใช้เอวของเคียวซังเกาะยึดตัวเองไว้ ทำให้เบื้องหน้าของผมนั้นก็คือ แก่นกายร้อนของคนที่ทำให้ผมเขินอายสุดๆ ผมตกใจเล็กน้อยกับขนาดของมัน แต่ก็รู้หน้าที่ของตัวเองดี ผมใบหน้าร้อนผ่าว ค่อยๆ เกาะกุมท่อนกายตรงหน้านั้นไว้ และใช้ลิ้นลากอย่างแผ่วเบาตั้งแต่โคนยันสุดปลาย พลางเชยตามองคนตัวสูงเบื้องหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

          แต่ผมก็ต้องนิ่วหน้าลงอีกครั้ง เพราะด้านหลังนั้น ธัชเริ่มขยับตัวช้าๆ อย่างเนิบนาบ ถอนออกสุดและดันเข้ามาสุดแบบช้าๆ ผมรู้สึกสมองตื้อ ขาสั่นน้อยๆ ด้วยความรู้สึกวาบหวาม พลางเม้มปากกลั้นเสียงสุดกำลัง

          " สีหน้าดูดีมาก " ผมมองคนตรงหน้าที่เชยคางผมและมองดูด้วยรอยยิ้มน้อยๆ อย่างพึงพอใจ ผมเลื่อนหน้าออกจากมือนั้น และค่อยๆ ใช้ริมฝีปากกอบกุมแก่นกายตรงหน้าไว้ และดูดเลียตรงส่วนที่พอจะเป็นไปได้ มือของคนตรงหน้าลูบไล้ไปตามไรผมของผมอย่างแผ่วเบา และใช้นิ้วเกลี่ยผมทัดที่ใบหูสีแดงของผม เพื่อจะได้มองดูใบหน้าของผมให้ชัดขึ้น

          ช่างแตกต่างจังเลยนะ คนที่ดูน่าจะรุนแรงแต่กลับอ่อนโยน และคนที่นิสัยอ่อนโยนแต่กลับชอบทำรุนแรงมากกว่า แต่เอาจริงๆ ผมก็ชอบทั้งสองแบบนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาให้คิดมาก เพราะตอนนี้ธัชเริ่มขยับกายเร่งจังหวะเร็วขึ้น จนทำให้ผมเผลอร้องครางออกมาเป็นระยะ

          " อ่าา ถ้ายังรัดผมแน่นขนาดนี้ก็แย่สิครับ " ธัชกระแทกเข้าออกพลางก้มลงขบเม้มหลังของผม ทำให้เกิดความรู้สึกทั้งเสียวและเจ็บแปร๊บๆ ผมอ้าปากหอบหายใจและยังคงพยายามใช้ปากให้คนตรงหน้าอย่างสุดกำลัง

          ธัชละจากแผ่นหลังของผม โน้มตัวยื่นใบหน้าเข้าไปหาเคียวซังที่โน้มตัวเข้าไปประกบริมฝีปากกับธัชเช่นกัน กลายเป็นผมที่อยู่กึ่งกลางของสองคนนั้น ที่กำลังดูดกลืนริมฝีปากกันอย่างร้อนแรง 

          เอวของเคียวซังเริ่มขยับมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับที่ธัชนั้นเร่งจังหวะมากขึ้นจนผมแทบจะขาพับลงไป แต่ทั้งเอวและลำตัวของผมก็เหมือนถูกอุ้มไว้โดยคนทั้งสอง ผมทั้งร้องครางสลับกับดูดกลืนแท่งร้อนอย่างกระหาย คนตรงหน้าเริ่มล็อคแก้มผมและกระแทกท่อนกายร้อนเข้ามาในโพรงปากอ่อนนุ่มของผมเช่นกัน 

          " อึก.. ทนหน่อยนะ แค่แปบเดียว " เคียวซังพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่คำตอบของผมคงมีแค่เสียงร้องครางอู้อี้ในลำคอเท่านั้น 

          ในโค้งสุดท้ายของการร่วมรักอย่างเร่าร้อน เสียงครางและหอบหายใจของคนสามคนดังสะท้อนไปมาในห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ตัวผมนั้นเหมือนถูกลุมทึ้งจนแทบขาดใจ และรู้สึกว่าผมคงกลั้นไม่ไหวอีกแล้ว ความรู้สึกมันอัดแน่นจนล้นปรี่ ผมเกร็งตัวครั้งสุดท้าย กระตุกรัดแท่งกายที่กระแทกช่องทางเบื้องหลังและปลดปล่อยหยาดน้ำของตัวเองออกมา ในขณะที่ช่องทางด้านหลังก็รู้สึกถึงความร้อนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ และสุดท้ายภายในปากของผมก็ถูกเติมเต็มไปด้วยหยาดน้ำรัก ที่ทำให้ผมแทบสำลักออกมาแต่ผมก็กลืนลงไปโดยไม่เหลือสักหยดเดียว ผมรู้สึกว่าผมกำลังจะหล่นลงไปในน้ำ


แต่ตัวผมก็ถูกช้อนขึ้นด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง และหลับไหลไปเพราะความอ่อนแรง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2018 17:59:00 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อีกนิดเดียวน้ำในอ่างก็เดือดแล้ว

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตายแล้ว ยังไม่พอ เอามาอีก  :haun4: :pighaun:
ไม่เคยเห็นรุกจูบกันแฮะ  เลยสงสัยว่าธัชไม่ยอมรับให้ธิช แล้วกับเซนเซย์จะยอมรับไหม แต่ธัชรุกไง หรือจะแซนด์วิช เซนเซย์ก็รักธัชแบบน้องอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2017 06:23:02 โดย palmiers »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :jul1:  คนแก่ไม่ไหวแล้ว ขอ.... ขอตอนหน้าด่วน

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ไม่ผิดหวังจริงๆ เดินเรื่องกระชับฉับไว ไม่ออกอ่าวออกทะเล

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
กับธิชนี่พอเข้าใจเพราะเป็นรับแต่ธัชกับเคียวนี่สิรุกทั้งคู่จูบกันนี่มันเลยดูแปลกๆเพราะถ้าเป็นแนวรุกxรุกมันก็คงไม่เท่าไหร่แต่ทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกกันแบบชู้สาวไม่ใช่เหรอ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 38 ฝาแฝดและคำว่ารักที่พูดออกไป


          ผมลืมตาตื่นขึ้นเพราะรู้สึกถึงความอบอุ่น และผมไม่สามารถขยับตัวได้เลย ผมมองเพดานที่เต็มไปด้วยดวงดาวเรืองแสงที่ตอนหัวค่ำยังเป็นแสงสีส้มนวลๆ มันสวยจัง ผมชอบมันมาก ผมก้มมองมือที่กอดก่ายตัวผมไว้ทางด้านขวาก็คือธัชที่นอนหันหน้ามาหาผมหลับตาและยิ้มน้อยๆ ดูเหมือนจะกำลังฝันดีสินะ ผมยื่นหน้าเข้าไปจรดริมฝีปากลงที่กลางหน้าผากมนนั่น ช่างเหมือนเทวดาตัวน้อยๆ จริงๆ ถ้าไม่นับความซาดิสม์เมื่อหัวค่ำนั่นก็นะ หึหึ 

          ผมมองแขนของคนอีกคนที่กอดก่ายผมอยู่อีกด้านเช่นกัน หนอย ไหนบอกว่าเตียงนี้สำหรับผมกับน้องไง แต่ก็นะ ผมชอบแบบนี้มากกว่า ผมยิ้มให้กับภาพตรงหน้า คิ้วคมเข้มที่มักดูดุดันอยู่เสมอ และปากที่คอยจิกกัดผมเรื่อยมา แต่พอได้มองใกล้ๆ ตอนกำลังสงบแบบนี้ ผมว่าคนคนนี้เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดยังไงยังงั้น เหมือนกับความฝัน ที่ได้แตะต้องและอยู่ข้างๆ กัน ผมยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตที่ริมฝีปากได้รูปนั้นเบาๆ เอาล่ะ เท่าๆ กันแหละเนอะ หึหึ ทีนี้ผมจะได้นอนต่อสักที ฝันดีนะ ที่รักทั้งสองของผม


          " อรุณสวัสดิ์ครับพี่ " ผมงัวเงียลืมตาตื่นพลางลุกขึ้นบิดไปมาเพราะความเมื่อยตัว และก็พบว่าธัชนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมเขินนิดๆ เพราะไอ้เด็กแสบนี่เล่นผมไว้เยอะเลยเมื่อวาน

          " ขอจุ๊ฟอรุณสวัสดิ์หน่อยสิ น้า~ " ผมมองน้องที่ทำหน้าอ้อนขอจุ๊ฟเต็มที่ เอาเถอะ อยากน่ารักเองทำไม ฮ่าๆ ผมยื่นหน้าไปจุ๊ฟที่ปากน้องหนึ่งทีเป็นรางวัล 

          " อย่าลืมให้เคียวซังด้วยน้า ต้องเท่าเทียมกัน ฮ่ะๆ " ห๊ะ เอาจริงดิ ผมว่าผมขอคืนได้ไหมจูบเมื่อกี้ แต่ก็นะ เมื่อคืนเอ่อ คนที่ขาดทุนที่สุดคงเป็นหมอนั่น แต่ก็ช่วยไม่ได้ ผมรับไม่ได้ทั้งสองคนในครั้งเดียวหรอก ตายกันพอดี พอคิดเรื่องนี้ขึ้นมาผมก็หน้าแดงจัด จะทำหน้ายังไงตอนมองหน้าเคียวซังดีนะเนี่ย

          " เอ่อ เคียวซังไปไหนล่ะธัช " ผมถามขึ้นเพราะตื่นมาก็ไม่เห็นเลย

          " เป็นเชฟอยู่ในครัวฮะ เคียวซังนี่ฝีมือระดับภัตตาคารเลย ผมชิมมาจนจะอิ่มแล้ว ฮ่าๆ " ผมบีบจมูกน้องอีกทีด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟัน และเดินไปยังโถงที่ใช้ทำอาหารและมีโต๊ะกินข้าวสวยๆ ตั้งอยู่

          ผมยังคงอยู่ในชุดนอนสีเข้มผ้าลื่นสบายๆ และสังเกตุว่าเป็นแบบเดียวสีเดียวกันกับธัช เสื้อผ้าชุดเก่าผมแทบไม่ต้องใส่ เพราะว่าเคียวซังนั้นซื้อให้ใหม่จนเต็มตู้ ทุกสิ่งทุกอย่างสองชิ้น สำหรับผมและธัช เหมือนกันทุกระเบียดนิ้ว ช่างรู้ใจกันจริงๆ 

          " เอ่อ อรุณสวัสดิ์ " ผมอ้ำอึ้งๆ ไม่ค่อยกล้าทักทายมากนัก มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ เพราะว่าตลอดมา ก็มีเพียงแค่ผมกับน้องเท่านั้น ผมหน้าแดงน้อยๆ เกาหัวแก้เขิน แต่ท้องร้องหิวข้าว 

          " อรุณสวัสดิ์ เป็นไงบ้าง ถ้ารู้สึกแปลกๆ ก็บอกเลยนะ เผื่อเป็นแผลหรืออะไร จะได้.. " เคียวซังหยุดพูดและหันมองผมที่กำลังปิดหูตัวเองอยู่ทั้งสองข้าง พลางหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ไอ้บ้าเอ้ย ใครใช้ให้พูดเรื่องนี้ฟะ ไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอกว่าอายแค่ไหน 

          " หิวข้าว แค่นั้นพอ " ผมทำหน้ามุ่ย พลางเอามือลง และเริ่มดึงดอกไม้บนโต๊ะแก้เขิน

          " ฮ่าๆ น่ารักจังคนเขิน " ธัชนั่งแหมะลงข้ามผมและเท้าคางมองผมด้วยใบหน้ากวนๆ ผมเตะขาน้องใต้โต๊ะอย่างหมั่นไส้ และเดินไปหาเคียวซังที่ยังคงทำกับข้าวอยู่

          " ให้ช่วยไหม " ผมพูดเบาๆ พลางแกะเกาขวดเครื่องปรุงไปด้วยแต่ไม่กล้าสบตา

          " พี่ธิช~ อย่าลืมน้า จุ๊ฟตอนเช้าอ่ะ ฮ่าๆ " ผมหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ไอ้ตัวแสบพลางเกาขวดซอสต่อ

          " ไปนั่งเถอะ จะเสร็จแล้วเดี๋ยวยกไปให้ แล้วตอน.. " เคียวซังชะงักทันทีเพราะผมดึงเน็กไทของเคียวซังและจุ๊ฟเบาๆที่ริมฝีปากนั้น ก่อนจะรีบวิ่งมานั่งแหมะที่เก้าอี้ตัวเดิม พร้อมเสียงหัวเราะลั่นของไอ้น้องตัวแสบ

          เคียวซังแค่ทำหน้ามึนๆ และยิ้มน้อยๆ พลางยกออมเล็ตที่โครตน่าทานมาให้ และซุปข้าวโพดหอมๆ ผมที่รู้สึกหิวเหมือนกินช้างได้ทั้งตัวก็ลงมือจัดการไม่เหลือซาก ฝีมือผมกับน้องนี่เทียบไม่ติดเลยทีเดียว นี่นายจะเพอร์เฟคไปถึงไหนกัน หึ่ย เริ่มหมั่นไส้อีกแล้ว 

          " เมื่อกี้จะถามว่าอะไรเหรอครับ " ผมนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เหมือนเคียวซังจะพูดอะไรสักอย่าง 

          " อ๋อ จะบอกว่าตอนไปเรียน ก็ไปพร้อมกันนั่นแหละ วันนี้จะบรรยายที่ห้องสโลปที่เดิม " 

          " จะดีเหรอครับที่ไปพร้อมกัน ที่มหา'ลัยคงลือสนั่นว่าแบบ เอ่อ " ผมไม่ได้อะไรหรอกนะครับ แต่ว่าผู้คนคงลือกันแน่ๆ และอาจเป็นข่าวดังที่ทำให้เคียวซังโดนลดความน่าเชื่อถือลง 

          " ถ้าแคร์ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันขับดูคาติไป พวกเธอก็ขับสปอร์ตคันดำของฉันไปก็ได้ " 

          " พี่ธิชเขาไม่ได้หมายความแบบนั้นหรอกฮะ แค่เป็นห่วงเคียวซังนั่นแหละ " ผมยิ้มให้น้อง นายช่างรู้ใจพี่ดีจริงๆ 

          " เอาเป็นว่าไปด้วยกันแหละครับ ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขาละกันเนอะ " ผมว่าเอาแบบนี้แหละ จะไปแคร์ทำไม และผมว่าคงไม่มีอะไรทำร้ายคนคนนี้ได้หรอก หึหึ

          หลังจากผมกับน้องแต่งตัวเสร็จ ก็ลงมาพร้อมกันทั้งสามคน ที่ชั้นใต้ดินที่เคียวซังจอดรถไว้ 

          " โห มีแต่รถสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ คนที่อยู่นี่ต้องรวยกันทุกคนแน่ๆ เลย " ธัชตาโตพลางเดินไปลูบไล้รถหลายคันที่จอดอยู่ ซึ่งเป็นรถหรูทั้งสิ้น 

          " ของฉันทั้งหมดนั่นแหละ " เคียวซังพูดพลางกดรีโมทเปิดประตูรถด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม ซึ่งตอนนี้ธัชช็อคไปเรียบร้อยแล้ว 

          " ผมขับนะ ให้ผมขับน้า~ " ผมมองไอ้ตัวแสบที่กำลังกอดแขนเคียวซังแน่นและพยายามแย่งหน้าที่คนขับ ซึ่งเคียวซังก็ยื่นกุญแจให้ธัชแต่โดยดี และขึ้นไปนั่งข้างๆ แทน ส่วนผมนั้นแน่นอนว่าข้างหลัง ผมมองเคียวซังที่กำลังสอนธัชว่าปุ่มอะไรเป็นอะไรอย่างตั้งใจ และธัชที่ดูตื่นเต้นซะเหลือเกิน 

          ไม่นานผมก็มาถึงมหา'ลัยโดยฝีมือการขับของธัชที่ห่วยแตกสิ้นดี ความประหม่าทำให้ธัชเหยียบโน้นเหยียบนี่มั่วไปหมด จนสุดท้ายต้องเปลี่ยนให้เคียวซังขับแทนอยู่ดี

          " ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวก็ชิน " ผมมองเคียวซังที่ลูบผมธัชเบาๆ อย่างรักใคร่ ในขณะที่ธัชหน้าบูดสุดๆ ด้วยความผิดหวัง ฮ่าๆ 

          ตั้งแต่ที่พวกเราลงจากรถ เสียงซุบซิบนินทาก็ดังไปทั่วสารทิศ เพราะพวกเราสามคนก็เหมือนคนดังของที่นี่ ซึ่งเคยมีข่าวว่าเคียวซังนั้นควงหนึ่งในแฝดอยู่แล้ว และตอนนี้มาเป็นแพคคู่ กลายเป็นว่าเคียวซังนั้นเหมาแฝดเลยยังไงล่ะ แต่ใครจะไปรู้ว่าคนที่โดนเคี้ยวมีเพียงคนเดียว ก็คือผม ฮือ 

          ผมและธัชเดินขึ้นไปนั่งยังชั้นบนๆ เช่นเดิมเหมือนทุกครั้ง และมองเคียวซังที่เดินเข้ามาเพื่อสอนพวกนักศึกษาแบบเดิมอีกเช่นเคย แต่ที่เปลี่ยนไปนั้นคือความรู้สึกของพวกเรา เคียวซังยังคงดูหล่อเนี๊ยบอยู่เสมอ วันนี้ใส่เสื้อสีขาวและไทสีดำ หน้าตาก็ยังคงดูดุอยู่เสมอเวลาสอน ฮ่าๆ แต่ผมไม่กลัวแล้วล่ะ ผมเท้าคางมองดูอาจารย์หนุ่มรูปหล่อที่กำลังตั้งใจสอนนักศึกษาอย่างขมักเขม้น เป็นความบันเทิงในรูปแบบหนึ่งของผมตอนนี้

          ผมมองหน้าเคียวซังที่ตอนนี้พูดบรรยายและเลิกคิ้วน้อยๆ มองมาทางผมและน้อง ทำให้ผมแปลกใจ แต่นั่นก็เพราะว่าไอ้ตัวแสบข้างๆ ผมกำลังทำมือรูปหัวใจให้เคียวซังพลางหัวเราะขำเบาๆ กับท่าทางของเคียวซังต่างหากล่ะ 

          " ถ้าไม่ตั้งใจเรียนจะโดนลงโทษนะ " เคียวซังพูดเสียงเย็นแต่แววตากลับดูยิ้มๆ ใจดี ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนคงโดนไล่ออกจากห้องไปแล้ว ฮ่าๆ 

          " อย่ากวนตอนเคียวซังกำลังสอนสิ " ผมดึงแก้มน้องเบาๆ และดุใส่

          ' เซนเซย์กำลังยิ้มว่ะ ถ่ายรูปๆ ' 

          ' อร๊ายย หล่อชิบหาย กำลังยิ้มจริงด้วย '

          ' โอ้ย กูอยากโดนลงโทษ '

          นักศึกษาหลายๆ คนต่างมองดูอาจารย์หนุ่มผู้ไม่เคยยิ้มแย้มเลย ซึ่งตอนนี้นั้นกลับยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข และต้นเหตุนั้นก็มาจาก

          ผมป้องปาก และทำท่าตะโกนแบบไม่มีเสียงส่งไปให้เคียวซังที่ด้านล่าง ปากของผมนั้นอ่านได้ว่า

          ' รักนะ สู้ๆ นะครับ ' 

          ผมซึ่งได้ทำแบบนั้นไปก็ต้องรีบเอาหนังสือปิดหน้าแทบจะทันทีด้วยความเขินสุดๆ 

          " พี่พูดอะไรกับเคียวซังเหรอครับ ขี้โกงอ่ะ พูดกับผมบ้างสิ " ไอ้ตัวแสบยื่นหน้าเข้ามาใกล้หลังหนังสือพลางยิ้มตาหยีแบบรู้ทัน
         
          " พี่รักธัช " ผมหอมแก้มน้องเบาๆ อีกหนึ่งที และยืดตัวจากหลังหนังสือกอดคอน้องไว้ และโบกมือไปมาให้เคียวซังที่กำลังมองมาเช่นกัน ผมนั้นรักทั้งสองคนจริงๆ


และตอนนี้ผมก็มีความสุขมากเช่นกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2018 18:01:22 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หวานชื่นเหลือเกินนะ
จะมีเหตุการณ์อะไรอีกไหม

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เหมือนจะราบรื่นแล้วนะก็หวังว่าจะไม่มีม่าตามมาทีหลังนะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 39 ฝาแฝดและข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจ


          หลังจากเรียนเสร็จ ผมและน้องยืนอยู่ที่หน้าห้องสโลป เพื่อรอเคียวซังที่กำลังเก็บของอยู่ในห้อง และไม่นานเคียวซังก็ออกมา แต่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ก็ไม่รู้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " ทั้งสองคน เดี๋ยวกลับไปก่อนนะ พอดีติดธุระนิดหน่อย " เคียวซังที่คุยโทรศัพท์เสร็จ ก็เดินเข้ามาบอกพร้อมยื่นกุญแจรถให้ผม 

          " ธิชา ขับได้ใช่ไหม ดูแลน้องด้วยนะ ฉันจะรีบกลับ ธัช เดี๋ยวค่อยเจอกันนะ " ผมหน้ามุ่ยเล็กน้อย เพราะผมคิดว่าวันนี้จะอ้อนให้พาไปเที่ยวซะหน่อย อดเลยแฮะ  เคียวซังลูบหัวผมกับน้องและเดินไปอีกทาง ผมสงสัยจริงๆ ว่ามีเรื่องอะไรกันนะ ที่ทำให้เคียวซังทิ้งพวกเราได้

          " ช่วยไม่ได้น้า ไปไหนกันดีน้องพี่ " ผมกอดคอธัชที่หน้ามุ่ยอยู่เช่นกัน 

          " ไปช้อปปิ้งกันเมียน้อง " ผมหยิกแก้มไอ้เด็กแสบนี่ไปหนึ่งที พูดเสียงดังซะด้วยมันน่านัก

          " โอ้ยย เดี๋ยวเอาคืนสองเท่า " ธัชร้องโวยวายแต่กลับทำหน้าทะเล้น

          " เหรอ กลัวตาย " ผมเดินหนีน้องชายตัวดีและเดินไปที่รถสีดำคันงามที่จอดอยู่ 

          ไม่นานผมก็มาจอดรถที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง ผมที่ไม่เคยจับรถแบบนี้มาก่อน แต่ก็ขับได้สบายๆ  ในขณะที่ธัช นั่งจ้องวิธีการขับรถของผมตาเป็นมัน ธัชนั้นหัวช้าและขี้ตื่นเกินไป จึงยังไม่เหมาะที่จะขับรถ ผมยิ้มให้น้องแบบกวนๆ ทำเอาธัชทำหน้างอนไปใหญ่

          "  ธัช ไม่เอาน่า เดี๋ยวขากลับให้ขับนะ เดี๋ยวพี่สอน " ผมดึงจมูกน้องและจุ๊ฟปากเบาๆ ไปอีกที 

          " พี่ธิช " แต่ผมที่กำลังจะลงจากรถนั้น ก็ถูกธัชดึงคอเข้าไปจูบแบบไม่ทันตั้งตัว ผมตอบรับธัชด้วยความเต็มใจ พวกเราจูบกันอยู่เนิ่นนาน และผละออกจากกันในที่สุด

          " แบบนี้เคียวซังจะไม่ว่าเหรอ " ผมถามเขินๆ

          " ถ้าไม่ได้ทำอย่างว่าก็ทำได้ครับ แต่ผมก็จะบอกเคียวซังว่าผมจูบพี่ไป 5 นาทีวันนี้ อิอิ " เชอะ ตกลงบ้าอะไรกันไว้ไม่ปรึกษาผมอีกละ อายนะเฟ้ย

          เมื่อเข้ามาในห้างนั้น ธัชก็วิ่งไปมาชี้นั่นชี้นี้เหมือนเด็กๆ ซึ่งเป็นปกติของธัชที่มักจะสดใสร่าเริงอยู่เสมอ ผมมองตามน้องที่ดูมีความสุขพลางยิ้มอย่างมีความสุขเช่นกัน

          " แฝดน่ารักมากเลย พี่เลี้ยงไอติมไหม " ผมหุบยิ้มทันทีเพราะมีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้อยู่ดีๆ ก็ดึงมือธัชไปจับ โครตจะไม่มีมารยาท

          " ฮ่ะๆ พี่เป็นใครละเนี่ย ผมกับพี่ชายยังไม่หิวหรอกครับ " ธัชยังคงยิ้มแย้มและยังไม่ดึงมือออกอีกนะ เด็กคนนี้มันเหลือเกินจริงๆ เป็นแบบนี้ตลอด ผมหวงน้องมากกว่าเก่าเป็นล้านเท่า

          " ปล่อยมือนั่นซะ อย่าให้พูดซ้ำ " ผมหน้านิ่งเฉย แต่ปากรนหาเรื่องไปก่อนแล้ว เจอแบบนี้ของขึ้นจริงๆ
         
          " คนพี่โครตดุ ของชอบเลยอ่ะ ฮ่าๆ " ผมไม่อยากจะบอกว่า คนน้องที่ดูน่ารักน่ะ ระวังจะกระซวกไส้พวกแกแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

          " เอ่อ น้องๆ มากับผมครับ ไม่ทราบมีปัญหาอะไร " ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะพี่โชนที่มาจากไหนก็ไม่รู้ เดินมาพอดีกับเพื่อนที่โครตหล่ออีกคน โลกช่างกลมซะจริงๆ ผับผ่า

          ไอ้บ้านั่นที่จับมือธัชอยู่ กำลังมองมาที่พวกผมแบบลังเล และก็ตัดสินใจปล่อยมือธัช คงเพราะว่าฝั่งผมคนเยอะกว่าพวกมันที่มากันสองคน และพวกพี่โชนก็ตัวใหญ่กว่าด้วย  ผมรีบเดินเข้าไปหาน้องที่ยังคงยิ้มแป้นอยู่ มือข้างหนึ่งของธัชล้วงกระเป๋ากางเกง ซึ่งผมมั่นใจเลยว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เฮ้อ ผมช่วยพวกชีวิตมันแท้ๆ เลยนะเนี่ย

          " ขอบคุณครับพี่โชน " ผมหันไปยกมือไหว้พี่โชนและเพื่อนพี่โชนอีกคน

          "  ระวังหน่อยก็ดีนะสองแฝด หน้าตาแบบนี้อันตรายจะตาย ใช่ไหมพริ้น " พี่โชนหันไปพูดกับเพื่อนด้วยสีหน้ายิ้มกวน

          " ก็ดี " เพื่อนพี่โชนตอบด้วยสีหน้าเบื่อๆ หนอย แค่ก็ดีงั้นเหรอ

          " แล้วมาทำไรกัน เซนเซย์ไปไหนซะล่ะ ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้วนี่นา " พี่โชนถามพลางขมวดคิ้ว

          " เอ่อ ไปทำธุระน่ะครับ พวกเราก็เลยมาเดินเล่นกัน " 

          " อ๋อ เดินเล่นรอเซนเซย์ใช่ป่ะ เห็นนั่งอยู่ข้างบน ก็ว่าอยู่ว่าทำไมนั่งอยู่กับคนอื่น "

          ผมชะงักและขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น นี่มันหมายความว่าไง เคียวซังอยู่ชั้นบนกับใคร

          " ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะ " ผมรีบลาพี่โชนกับพี่พริ้นและดึงมือธัชให้เดินตามมา

          ผมรีบขึ้นไปชั้นบนตามที่พี่โชนว่า พลางมองไปตามร้านอาหารและร้านกาแฟต่างๆ ด้วยความรู้สึกเดือดปุดๆ หนอย ทิ้งผมกับน้อง แล้วมากับคนอื่นเนี่ยนะ ไอ้บ้านั่น

          ผมกับน้องยังคงมองหาเคียวซังไปทั่วทุกที่ ทุกร้าน ทุกซอกทุกมุม และในที่สุดก็เจอจนได้

          " พี่ครับ มันอาจไม่ใช่แบบที่คิดก็ได้ " ธัชพยายามยื้อผม ไม่ให้พุ่งเข้าไปในร้าน

          " ไม่ใช่แล้วไง แล้วทำไมไม่บอกว่าไปไหน " ผมลากธัชและเดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในร้านกาแฟยี่ห้อดัง ผู้คนต่างมองผมเป็นตาเดียว เพราะว่าผมผลักประตูอย่างแรง ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

          แต่ผมก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มน้อยๆ ทันทีและเดินช้าๆ ไปหยุดยืนข้างหลังเคียวซังที่นั่งอยู่ตรงข้ามสาวสวยคนหนึ่ง ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมก็ว่าแล้วว่าผมลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง มันเป็นสิ่งที่ผมชอบถามเคียวซังอยู่บ่อยๆ ว่าผู้หญิงพวกนี้เป็นใคร มีเยอะเหลือเกินจนผมจำหน้าไม่ได้

          ผู้หญิงคนนั้นทำท่าอึกอัก หน้าตากำลังบอกว่าตกใจเหลือเกินที่เห็นผม แบบนี้มันจะไม่ให้โมโหได้ยังไง ผมมองธัชที่แค่ทำหน้าตึงๆ และขมวดคิ้วสงสัยอยู่เช่นกัน

          " เอ่อ เซนเซย์คะ เดี๋ยวมิ้วกลับก่อนดีกว่าเนอะ เซนเซย์คงมีธุระ ยังไงจะติดต่อไปนะคะ " ผู้หญิงนั่นทำท่าจะลุกขึ้น 

          " จะไปไหนละครับ ผมแค่จะมาร่วมด้วย ไม่ต้องกลับหรอกครับ " ผมยิ้มและนั่งลงตรงที่ว่างระหว่างทั้งสองคน  ผมหน้าบึ้งมองเคียวซังที่มองผมด้วยใบหน้าแปลกใจ และขมวดคิ้วน้อยๆ 

          " กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวจะนัดเจออีกที " ผมยิ่งหน้ามุ่ยเข้าไปอีก เมื่อเคียวซังหันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้สนใจผมกับน้องที่นั่งตาเขียวอยู่

          สาวสวยนั่น ลุกขึ้นก้มหัวและยิ้มแบบรู้สึกผิดและรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ผมอาจทำเกินไปก็จริง แต่ผมมีสิทธิ์จะรู้นะ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ผมรู้สึกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างใจคิดเวลาโมโห

          " คำถามเดิมเหมือนเมื่อก่อนที่ผมเคยถาม ผู้หญิงพวกนั้นมันหมายความว่ายังไง จะบอกผมได้หรือยังครับ " เคียวซังนั้นทำแค่เพียงแค่ยกกาแฟขึ้นจิบ และ หนอย ยังมีหน้ามายิ้มอีก

          " หึงเหรอเนี่ย หึงแรงซะด้วย ธัชล่ะ หึงฉันด้วยหรือเปล่า " 

" ผมเชื่อใจเคียวซัง แบบไหนผมก็รับฟัง " ผมมองน้องที่ยิ้มน้อยๆ ให้เคียวซัง แบบนี้ก็เหมือนผมเป็นนางร้ายอยู่คนเดียวสินะ

          " ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจ แต่ว่าผมสงสัย ผมอยากรู้ บอกผมหน่อยสิ พูดอะไรก็ได้ ผมไม่สบายใจ " ผมอาจจะนิสัยไม่เหมือนน้อง ผมทนไม่ได้

          " ดีใจจังเลยนะ ที่พวกเธอรักฉันขนาดนี้ " ผมมองเคียวซังที่ยิ้มออกมาเหมือนกับตอนที่ผมบอกว่ารัก ทำไมยังยิ้มอยู่ได้นะ ผมอยากต่อยชะมัด

          " รักได้ก็เกลียดได้ กลับกันธัช ปล่อยคนบ้าไว้นี่แหละ " ผมจูงน้องหนีออกมาแต่ก็โดนเคียวซังจับมือไว้ เรียกได้ว่าจับมือผมกับน้องและเดินตรงกลาง ประสานมือเราสองคนไว้ซะแน่น ผมพยายามแกะออกแต่ก็ไม่เป็นผล คนบ้านี่แรงเยอะดีจริงๆ

          " อ้าว ธิชธัช เอ่อเซนเซย์ " ผมเจอพี่โชนอีกแล้ว แต่ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะยิ้มทักทายได้

          " มีอะไรกันหรือเปล่า ถ้าไม่สบายใจก็... "

          " คนของฉัน ฉันจัดการเองได้ " เคียวซังพูดขัดพี่โชนและแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ ไอ้บ้านี่เป็นเด็กหวงของหรือไง ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เลย หึ่ย ผมเริ่มอายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้คนตอนนี้ต่างจ้องมองพวกเราสามคนอย่างสนใจ

          ผมบอกลาพี่โชนและถูกลากต่อไป ในขณะที่ธัชนั้น ก็ยังคงยิ้มแย้มโบกมือลาพี่โชน ที่ยังคงยืนอยู่ไกลๆ


ฮึ่ม คอยดูนะ คืนนี้ผมจะไม่ยอมให้ไอ้บ้านี่ขึ้นที่นอนเด็ดขาดคอยดูสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2018 18:09:26 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เหนื่อยหน่อยนะธิช คนรักหน้าตาดี ว่าแต่เซนเซย์จะง้อคนขี้หึงยังไงนะ น้องจะเสียเปรียบอีกรึป่าว

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
          TWINS บทที่ 40 ฝาแฝดและครอบครัวที่แสนอบอุ่น


          แล้วเมื่อคืนก็เป็นดังว่า หลังจากกลับมาจากห้างสรรพสินค้านั้น ผมก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน และไม่ยอมให้เคียวซังเข้ามา ผมยื่นข้อเสนอ ว่าถ้าหากยังไม่ยอมบอกผม ก็อย่าได้หวังจะแตะต้องผมหรือนอนห้องผม ซึ่งไอ้น้องตัวดีของผมก็เหมือนจะไม่ค่อยเข้าข้างผมเลย ยังคงคุยและออเซาะเคียวซังเหมือนเก่า

          " ธิชา " เคียวซังดักจับตัวผมอยู่ที่หน้าห้องน้ำในตอนเช้า และกอดผมไว้จากด้านหลัง แต่อย่าหวังเลย ไม่ยอมเฟ้ย ผมดีดตัวออกจากอ้อมแขนนั่นและวิ่งไปหาน้องอย่างรวดเร็ว 

          " พี่ธิช ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ ผมสงสารเคียวซัง " ธัชทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หนอยแล้วแกไม่สงสารพี่แกบ้างเหรอ หรือสงสารตัวเองบ้างสิไอ้เด็กดื้อ

          ผมมองเคียวซังที่ทำหน้าหงอยๆ จ้องมองผมตลอดเวลา พอผมเผลอมองตาก็จะยิ้มให้ เป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่เมื่อคืน ผมจะบ้าตาย อยากถลกหนังหน้าคนแถวนี้จริงโว้ย

          ผมรีบกินอาหารเช้า ฝีมือไอ้คนหลายใจ และรีบหนีขึ้นแท็กซี่มาเรียนโดยไม่รอธัชด้วยซ้ำ ผมโกรธ โกรธมาก อึดอัด ไม่เข้าใจ ยังกับสาวน้อยอกหัก โอ้ยทรมาน เซ็งโว้ย 

          ผมเตะถังขยะแถวคณะปลิว จนหมาที่วิ่งอยู่แถวนั้นเห่าเสียงดัง เชอะ ใครสนกันล่ะ

          ผมหาที่นั่งแถวนั้นและนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ ผมที่เพิ่งมีเรื่องแบบนี้เข้ามานั้น มันทำให้ผมสับสนและไม่สบายใจ ผมที่ไม่เคยเชื่อใจใคร พึ่งแต่ตัวเองมาตลอด พอได้มาพบเคียวซัง ผมก็เชื่อจนหมดใจ มันผิดเหรอที่ผมจะหวง ผมหวงทุกคนแหละ ถ้าธัชเป็นแบบนี้ผมสาบานเลยว่าจะตีน้อง ตีๆๆ จนกว่าจะไม่กล้านอกใจผมเลย 

          " เอ่อ น้องธิชาหรือเปล่าคะ " ผมเงยหน้ามองคนที่กำลังเรียกผมอยู่ และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีหลายคนเลยทีเดียว ซึ่งผมจำได้ว่า ทุกคนเป็นผู้หญิงที่เคยอยู่กับเคียวซัง

          " ขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ พวกพี่อยากคุยด้วยจริงๆ "  ผมหน้ามุ่ย แต่ก็ยอมตามไปแต่โดยดี นี่ผมจะโดนหลอกไปรุมโทรมอีกหรือเปล่าเนี่ย

          ไม่นาน ผมก็มานั่งซึมๆ ดูดน้ำหวานอยู่ท่ามกลางสาวๆ ในร้านกาแฟข้างมหา'ลัย ซึ่งเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่ดูร่มรื่น ผมไม่มองหน้าใคร ไม่สบตาใครทั้งนั้น ยัยพวกตัวแสบ ไม่ต้องมาขอโทษ ไม่ยกโทษให้ และไม่ยกเคียวซังให้ด้วย ชิ

          " พี่รวมตัวกันเพราะว่าพี่อยากมาบอกน้องธิชากันเอง เซนเซย์เขาไม่ได้ขอร้องพวกเรามานะ แต่เห็นเซนเซย์สีหน้าไม่ดีเลย โทรไปก็น้ำเสียงเครียดๆ แปลว่าเขาต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ แล้วพี่ก็เลยคิดว่าเป็นเพราะพวกเรา ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่อย่าโกรธเซนเซย์เลยน้า " ผมเงยหน้าขึ้นจากน้ำหวาน หนอย หลอกกันใช่ไหม ไอ้บ้านั่นใช้ให้มาอยู่แล้วแบบนี้

          " คือ พวกเรากำลังรักษา เอ่อ อาการซึมเศร้ากับเซนเซย์ค่ะ " ผมชะงักจ้องมองพวกรุ่นพี่พวกนี้ เดี๋ยวนะ เป็นอย่างนั้นเองเหรอ เคียวซังถึงไม่บอกผม ผมนี่มันบ้าจริงๆ 

          ผมทึ้งผมตัวเอง ผมมันงี่เง่าสิ้นดี โล่งเลยล่ะ โล่งใจสุดๆ แต่ว่าก็เครียดเช่นกัน ผมทำให้เคียวซังไม่สบายใจ กดดันให้เสียใจ และผมยังทำให้พวกพี่ๆ พวกนี่มาเปิดเผยความลับกับผมอีก  คำว่าจรรยาแพทย์ของเคียวซังนั้นเต็มเปี่ยม ปิดปากเงียบแม้กระทั่งต้องทำร้ายจิตใจผมก็ยอม เป็นคนดีจังเลยนะ  ผมอยากตีตัวเองจริงๆ 

          " ผมขอโทษครับ ผมมันโง่จริงๆ " ผมพูดขอโทษจนแทบจะกราบแทบเท้าพวกพี่ๆ เลยครับ 

          " ไม่เป็นไรค่ะ น้องธิชาเป็นแฟนเซนเซย์ใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นพวกเราคิดว่าไม่เป็นไร " พวกรุ่นพี่ต่างพากันยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดู
         
          "  ฝาแฝดน่ารักแบบนี้นี่เอง เซนเซย์ถึงได้หวงนัก อิจฉาเนอะ " ผมยิ้มแห้งๆ พลางเกาหัวแบบเขินๆ 

          " ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ ครับ " ผมโบกมือลาพวกพี่ๆ สาวสวย และรีบวิ่งกลับไปที่คณะ ตอนนี้ยังอยู่ในชั่วโมงเรียนอยู่ น่าจะยังไปทัน ผมวิ่งสุดชีวิตจนเหงื่อท่วมตัว และมายืนหอบหายใจอยู่ที่หน้าห้องสโลปที่เก่า

          ผมผลักประตูเข้าไป แน่นอนว่าสายตาทุกคนต่างจับจ้องมาที่ผม ผมก้มหน้าเดินขึ้นไปยังที่นั่งที่ธัชนั้นกำลังนั่งอยู่ด้วยใบหน้าหมองเศร้า 

          " พี่ขอโทษ " ผมยิ้มและจับมือน้องกำไว้แน่นใต้เก้าอี้ พลางเหลือบมองเคียวซังที่มีสีหน้าเคร่งเครียด และดูเหนื่อยอ่อน ตอนนี้เซนเซย์ยังคงสอนอยู่ และคอยเหลือบมองผมด้วยแววตาเศร้าๆ

          ผมขยับตัวไปใกล้ๆ น้องและเล่าเรื่องที่ได้เจอกับพวกรุ่นพี่ที่เป็นคนไข้ของเคียวซังให้ธัชฟัง ธัชที่ตั้งใจฟังผมนั้น ก็เริ่มกลับมายิ้มเหมือนเก่าแล้ว แต่ผมก็บอกน้องว่า ให้ทำตัวซึมๆ เหมือนเดิมไปก่อน เพราะว่าผมมีแผนต้องขอโทษเคียวซัง ต้องตอบแทนให้สาสมที่สุด หึหึ

          ก่อนเลิกเรียน ผมหนีออกจากห้องก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเคียวซังถึงกับหยุดบรรยายกระทันหัน และมองตามผมที่เดินออกประตูไป ผมขอโทษนะครับ ผมแค่อยากทำอะไรบางอย่าง ซึ่งผมอยากเตรียมตัวสักนิดก่อนที่เคียวซังจะมา


          เคียวเซนเซย์


          ผมยังคงรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ผมนั้นทำให้ธิชาน้อยใจถึงขนาดนี้ แต่ผมก็อดดีใจไม่ได้ที่ได้เห็นว่าธิชาและธัชนั้นรักผมมากแค่ไหน ธัชนั้นค่อนข้างจะเชื่อใจผมเสมอมา เพราะพวกเราเคยอยู่ใกล้ชิดกัน และผมไม่เคยโกหกธัชเลยสักครั้ง พวกเราเชื่อใจกันและกันมากกว่าธิชาที่เพิ่งรู้จักผม ซึ่งผมไม่โทษธิชาเลย เพราะความที่เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนที่มั่นใจและเป็นพวกช่างคิด มันเป็นนิสัยส่วนตัวซึ่งทำให้เกิดความครางแครงใจมากเป็นเท่าตัว แต่ผมก็ไม่อาจบอกธิชาถึงเรื่องของเด็กสาวพวกนั้นได้ ผมไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ผมคงทำได้แค่บอกว่า ผมรักเขามากที่สุดจนกว่าเขาจะยอมใจอ่อนและเห็นใจผมบ้าง

          ผมมองตามธิชาที่เดินเข้ามาในชั้นเรียนด้วยสภาพที่เหมือนกับวิ่งมาจนเหนื่อย ธิชายังคงไม่ยอมสบตาผม มันทำให้ผมปวดใจจริงๆ แต่ธัชนั้นก็แอบยิ้มให้ผมเสมอ ทำให้ผมยังคงยิ้มและมีกำลังต่อไปได้ แต่แล้วพอใกล้จบคาบเรียน ธิชาก็หนีผมไปอีกแล้ว ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่าความสิ้นหวังมันเป็นยังไง

          " เคียวซัง " เมื่อจบคาบเรียนผมและธัชก็เดินมาที่รถเพื่อเตรียมตัวกลับไปยังที่ของเรา

          ผมหันมองตามเสียงเรียกของธัชที่ส่งยิ้มให้ผม ภายในรถธัชกอดผมเอาไว้เหมือนกำลังให้กำลังใจผมซะอย่างนั้น เด็กน้อย เพราะแบบนี้ผมถึงรักธัชมากเช่นกัน 

          " ผมรักเคียวซังนะครับ และแน่นอนว่าพี่ธิชก็เหมือนกัน " ผมยิ้มให้กับความอ่อนโยนของธัช 

          " ฉันก็รักเธอมาก " ผมยิ้มให้กับความอ่อนโยนของธัช 

          เมื่อก่อนนั้นผมเอ็นดูธัชเหมือนกับน้องชายของผม ผมปกป้องธัชโดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆ และตอนนี้ พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของพวกเราหยุดอยู่แค่นั้น ผมไม่อยากทำเหมือนผมกำลังใช้คนรักร่วมกับธััช ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดี สู้ให้พวกเราทั้งสามคนรักกันแบบนี้นี่แหละที่ผมคิดว่าดีที่สุด 

          ตอนนี้ผมกับธัชนั้น พวกเราจึงเป็นเหมือนทั้งพี่น้องและคนรักกัน และพวกเราก็มีคนที่รักเหมือนกันอีกคน มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมคิดว่าผมโชคดีจริงๆ ที่เกิดมา ได้พบได้เจอ และได้รักคนถึงสองคน ที่ล้วนเป็นคนสำคัญ เป็นคนที่ทำให้ผมลืมเรื่องเลวร้ายภายในหัวใจ แค่พวกเราสามคนมองตากัน ผมก็รู้สึกเหมือนจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาล

          ผมขับรถกลับมาที่คอนโดด้วยความรู้สึกที่ยังหม่นหมอง ผมจับมือธัชและเดินขึ้นไปยังที่ของเรา 

          " หลับตาได้ไหมครับ " ผมมองธัชที่อยู่ดีๆ ก็ยิ้มให้ผม และเดินมาด้านหลัง ปิดตาผมเอาไว้ และพาเดินตรงไปยังห้องห้องหนึ่ง ซึ่งผมจำตำแหน่งของมันได้ 

          " อย่าเพิ่งลืมตานะครับ " ผมยิ้มน้อยๆ นี่แอบวางแผนอะไรกัน ผมยังคงหลับตา และยื่นมือไปข้างหน้าทั้งสองข้าง เพื่อพยายามจับตัวคนที่วางแผนแบบนี้ขึ้นมา 

          สัมผัสเย็นๆ ที่นิ้ว ทำให้ผมลืมตาขึ้น และก็พบว่าทั้งสองคนกำลังสวมแหวนที่นิ้วนางทั้งสองข้างให้ผมอยู่ ผมมองเด็กน้อยทั้งสองคนที่กำลังหัวเราะยิ้มขำกับสีหน้าประหลาดใจของผม

          " ถึงมันจะเล็กน้อย แต่ก็ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้เราเสมอมา แล้วผมก็ขอโทษครับที่เข้าใจเคียวซังผิดไป " ผมมองธิชาที่ทำท่าเขินน้อยๆ แต่ก็จ้องมองผมด้วยความรู้สึกดีๆ

          ผมดึงธิชามากอดไว้แน่น และดึงธัชเข้ามากอดไว้ด้วยอีกคน ผมดีใจมาก ดีใจเหลือเกิน หัวใจของผมมันเหมือนกับจะระเบิดออกมาด้วยความรัก


เพราะไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการที่พวกเราสามคนเข้าใจกันอีกแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2018 18:13:20 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ AkaneSama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เริ่มแรกเนื้อเรื่องมันก็ดีอยู่หรอก แต่หลังๆรู้สึกตะขิดตะควงใจแบบแปลกๆ คือพวกเขายอมรับกันง่ายเกินไปนะหรือว่าจะมีหักมุมรึยังไง ไม่คิดว่าธิชจะยอมง่าย ส่วนธัชก็ดูห่วงพี่จะตาย ก็เลยรู้สึกขัดๆไงไม่รู้ แต่ก็ยังจะติดตามตอนต่อไปนะค่ะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เริ่มแรกเนื้อเรื่องมันก็ดีอยู่หรอก แต่หลังๆรู้สึกตะขิดตะควงใจแบบแปลกๆ คือพวกเขายอมรับกันง่ายเกินไปนะหรือว่าจะมีหักมุมรึยังไง ไม่คิดว่าธิชจะยอมง่าย ส่วนธัชก็ดูห่วงพี่จะตาย ก็เลยรู้สึกขัดๆไงไม่รู้ แต่ก็ยังจะติดตามตอนต่อไปนะค่ะ สู้ๆค่ะ

เซนเซย์นั้นถือว่าเป็นบุคคลที่ช่วยเหลือ เกื้อหนุนทั้งสองแฝดมานานสุดๆ ถ้าไม่มีเซนเซย์ธัชนี่นรกของแท้เลยค่ะ เรียกว่าตายทั้งเป็น ธัชรักและบูชาเซนเซย์มากจ้า 555+ และธิชนั้นก็ดิ้นรนต่อสู้เพื่อน้องมานาน ตอนแรกที่ไม่ชอบเซยเซย์ก็เพราะว่ายังไม่ไว้ใจ แต่พอได้มารู้ว่าคนคนนี้นั่นคอยช่วยเหลือเสมอมาก็เกิดความรู้สึกดีๆขึ้นมา เปรียบเสมือนผู้ช่วยให้รอดเลยทีเดียวไรท์ว่าไม่ง่ายเลยน้า 555+ ขอบคุณที่ติชมและติดตามจ้า   o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด