จัดการจักรกฤษณ์ไปแล้วหนึ่ง เหลืออีกหนึ่งที่ต้องจัดการ…ก็ไอ้คุณอธิปนี่ไง!!!
“คุณก็ออกไปได้แล้ว! เดี๋ยวก็แจ๊คพ็อตแตกมีคนมาเจออีกหรอก!!!” จอมขวัญรีบไล่ทันที ไม่อยากจะหันไปมองหน้ามันด้วยซ้ำ…ฮึ้ย!! เสร็จผู้ชายด้วยกันก็เรื่องใหญ่แล้ว! แล้วนี่ยังมาเสร็จไอ้บ้านี่อีก!!
อธิปมองคนหน้าหงิกตรงหน้าแล้วได้แต่ส่ายศีรษะไปมา ทีเมื่อคืนล่ะเรียกเขา ‘พี่โต’ ทุกคำ พอเช้ามาฤทธิ์ยาหมดล่ะกลายเป็น ‘คุณ’ ทันที
“เรียกว่าพี่โตก่อน แล้วจะไป” เขายื่นข้อเสนอ ทำเอาจอมขวัญตวัดสายตามามองอย่างเอาเรื่อง
“ทั้งชีวิตผมมีแต่พี่จักร พี่โตมาจากไหน?!!”
“งั้นก็ไม่ไป” อธิปนึกขวาง …ทั้งชีวิตมีแต่พี่จักรอย่างนั้นหรือ…แต่เมื่อคืนเขาไม่ได้ยินคำว่า ‘พี่จักร’ สักคำ
“ไอ้!...โธ่เว้ย! แล้วไอ้พี่โตมันเป็นใครล่ะวะ! ไม่รู้จักเว้ย!!!”
“ชื่อพี่เอง พี่ชื่อโต” คำตอบของอธิปทำเอาจอมขวัญอ้าปากค้าง
“เรียกพี่ว่าพี่โต แล้วพี่จะยอมออกจากห้อง แต่ถ้า…ของขวัญไม่เรียก…เราต่อรอบเช้ากันเลยมั้ย?” อธิปทำท่าจะขึ้นคร่อม เล่นเอาร่างโปร่งรีบร้องลั่น
“เออๆ พี่โต!!!” เท่านั้นล่ะ ทุกอย่างหยุดชะงักแต่โดยดี…อธิปยอมขยับกลับไปนั่งที่เดิม แต่ไม่วายชี้นิ้วสั่ง
“อาบน้ำแต่งตัวซะ พี่จะรออยู่ข้างนอก” เขาว่าอย่างนั้น ก่อนจะหากางเกงที่ตกอยู่ข้างเตียงมาใส่ มันยังชื้นอยู่บ้าง แต่ก็พอใส่ได้ ร่างสูงก้าวขาออกจากห้องไปแล้ว ในขณะที่จอมขวัญยังแยกเขี้ยวตามอย่างหงุดหงิด
…ฮึ้ย!! ทั้งชาตินี้ก็ญาติดีกับมันไม่ได้!! ‘พี่โต’ งั้นเหรอ?! ไม่จวนตัว กูไม่เรียกเด็ดขาด!!!
เมื่อเหลือเพียงแค่เจ้าของบ้านพัก จอมขวัญก็ตวัดผ้าห่มออกจากตัว เหวี่ยงเท้าลงเหยียบพื้น ยันตัวลุกขึ้นยืนปุ๊บ ก็ทรุดฮวบลงไปนั่งกองปั๊บ!
…เฮ้ย!! ทำไมขาไม่มีแรงงี้วะ!!!
เขาได้แต่นั่งหน้าซีด นึกแค้นไอ้บ้าที่เพิ่งออกจากห้องไปเมื่อกี้ เพราะมันคนเดียว! เพราะมัน!! ไอ้บ้าเอ๊ย!!...มันทำให้เขาเป็นแบบนี้! เพราะมัน!!!...
และกว่าจะหาวิธีไปถึงห้องน้ำ กว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย จอมขวัญก็หมดลมหายใจไปอีกหลายเฮือก แถมยังลำบากลำบนต้องเอาแป้งมาโปะลงไปบนไอ้รอยเวรตะไลบนอกเขาอีก เพราะกลัวเผอเรอแล้วพี่ชายตาดีอย่างจักรกฤษณ์จะแอบเห็นเข้า! ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ไอ้รอยบ้าๆพวกนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นรอยอะไรถ้าไม่ใช่รอยจูบ!...แต่แล้วไอ้อธิปนั่นมาจูบอกเขาทำไมวะเนี่ย!!!
จอมขวัญอยากจะทรุดตัวลงไปนอนก่ายหน้าผาก ถ้าไม่ติดว่ากลัวจักรกฤษณ์จะมาเรียกอีกรอบ เกิดเข้ามาในห้องแล้วเห็นสภาพเตียงเละเทะขนาดนี้ เขาได้ถูกซักอีก แล้วคราวนี้ถ้าความแตกขึ้นมา จอมขวัญไม่รู้เลยว่าจะเอาหน้าตัวเองไปไว้ที่ไหน
ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะก้าวขาเดินไปเปิดประตูช้าๆ เพราะก้าวแต่ละทีนั้นส่งผลให้เจ็บเสียดจนต้องคิ้วขมวด แต่…เขาต้องคิ้วขมวดหนักกว่าเดิมทันทีที่เปิดประตูออกมาเจอใครบางคนยืนอยู่
“เฮ้ย!” เขาร้องเมื่อเห็นอธิปยืนคอยอยู่ที่หน้าประตู และทันทีที่ฝ่ายนั้นเห็นเขา ก็รีบเข้ามาช่วยพยุงทันที
“มาจับทำไมเล่า!”
“เจ็บไม่ใช่รึไง” พอถูกย้อนอย่างนั้น จอมขวัญก็ได้แต่เงียบกริบ จะเถียงว่าไม่เจ็บก็ใช่ที่ เรื่องแบบนี้มันรู้กันอยู่ที่ท่าเดินนี่ล่ะ!
…แต่…แต่…ทำไมต้องเป็นมันวะ! เขายังไม่อยากเจอมันตอนนี้ ไม่อยากถูกมันจับแขนจับขาตอนนี้…จอมขวัญทั้งโกรธ ทั้งอาย…แค่คิดว่าไอ้รอยจูบนั่นไปอยู่ตรงไหนของร่างกายเขาบ้าง ร่างโปร่งก็อยากจะถามจริงๆว่ามันกล้าทำได้ยังไง!!!
“อย่าดื้อนะของขวัญ เรายังไม่ได้อธิบายให้พี่ฟังว่าวางยาน้ำทิพย์ทำไม?!” เสียงอธิปดังกระซิบอยู่ข้างหูอย่างเอาจริงเมื่ออีกฝ่ายพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของเขา จอมขวัญตวัดสายตาไปมอง ก่อนจะเบือนหน้าหนี
…ไอ้เรื่องผิดแผนนี่ก็อีก! เขาตั้งใจจะให้น้ำทิพย์กินไอ้ยาเวรนั่น แล้วมอมเหล้าจักรกฤษณ์ ก่อนจะเอาสองคนนั่นไปขังไว้ในห้องไหนสักห้อง รับรองแน่นอนว่าเรื่องต้องเกิด! แล้วถ้าเรื่องเกิด จักรกฤษณ์และน้ำทิพย์จะต้องแต่งงานกัน เพียงเท่านี้เขาก็หมดห่วงหญิงสาวแสนดีคนนั้นแล้ว เธอจะต้องมีคนปกป้องและดูแลไปตลอดชีวิต แต่แล้วทำไม…ทำไมกลายเป็นว่าเรื่องดันมาเกิดที่เขาและไอ้อธิป!!
“ว่ายังไง วางยาน้ำทิพย์ทำไม?” เสียงทุ้มดังกำชับอีกครั้ง จอมขวัญตวัดสายตาไปมอง แต่ไม่ยอมพูด
…พูดก็โง่แล้ว!! ใครจะยอมเล่าว่าเรื่องทั้งหมดมันผิดแผนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าขนาดนี้!!...
“ก็ได้!...งั้นพูดมา ไปเอายามาจากไหน?!” จอมขวัญเงียบ…เงียบอย่างที่ทำเอาอธิปนึกอยากตีให้อีกฝ่ายรู้สำนึก
“ไม่พูด…งั้นแสดงว่าอยากให้พี่เล่าให้ทุกคนฟังใช่มั้ยว่าเรื่องเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น?! หลักฐานพร้อมนะ พี่บอกไว้ก่อน!”
“หลักฐานอะไร?!” จอมขวัญย้อนอย่างเอาเรื่อง
“บนตัวพี่ มีรอยเล็บของขวัญ แล้วไหนจะบนตัวของขวัญอีก…ไม่ต้องให้บอกมั้งว่ามีรอยอะไร”
“ไอ้!!”
“พูดมา! ไปเอายามาจากไหน!!!”
“…ทรงพล…” จอมขวัญยอมเอ่ยปาก
“ยังติดต่อมันอีกเหรอ?!!” อธิปรู้จากจักรกฤษณ์ว่าจอมขวัญได้ปืนปลอมมาจากมาเฟียใต้ดินอย่างทรงพล แต่เขาคิดว่าเรื่องเมื่อคราวก่อนจะทำให้จอมขวัญรู้สำนึกและไม่กลับไปคบค้าสมาคมกับทรงพลอีก…ทว่า…ไม่เลย! ไม่มีคำว่าเข็ดในใจจอมขวัญ วิมลกิตติ!!!
ชายหนุ่มโกรธ…ทว่าในความโกรธคือความห่วงใย…ห่วง…เพราะกลัวจอมขวัญจะเข้าไปติดร่างแหของทรงพล…
“ทำไม…กลับไปยุ่งกับมันทำไม” น้ำเสียงที่อธิปใช้ถามไม่ใช่เร่งเร้าเอาคำตอบ หากแต่แฝงไปด้วยความห่วงใยอย่างที่ทำเอาจอมขวัญต้องหันมองอย่างเสียใจ
…กี่ครั้ง…กี่ครั้งแล้วที่เขาทำให้คนรอบข้างต้องเป็นห่วง กี่ครั้ง…ที่คนรอบข้างต้องเสียใจเพราะการกระทำของเขา…
“…ผม…ผมเป็นห่วงคุณน้ำ…คุณน้ำ…เป็นคนใจดี ผมกลัว…กลัวใครใช้ความใจดีของเธอมาหลอกเธอ…”
“คุณก็เลยพยายามจะหาคู่ให้น้ำทิพย์ เพื่อให้คนคนนั้นปกป้องเธอไปตลอดชีวิตอย่างนั้นสิ!”
จอมขวัญได้แต่พยักหน้ารับช้าๆ ทั้งๆที่ตัดสินใจมาดีแล้ว และทำใจยอมรับว่าหากความแตก เขาจะต้องถูกคนรอบข้างโกรธเกลียดและโมโห…ทว่า…พอคนรอบข้างคนนั้นคืออธิป หัวใจที่พยายามเข้มแข็งกลับสั่นไหว เขาอยากจับแขนอธิปเบาๆ อยากขอโทษที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจ และถ้าเป็นไปได้…ก็อยากย้อนเวลากลับไป…กลับไปทำยังไงก็ได้ ที่จะไม่ทำให้อธิปพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้…
“…แล้วคนที่คุณอยากให้มาปกป้องน้ำทิพย์ก็คือคุณจักรใช่มั้ย” จอมขวัญพยักหน้ารับอีกครั้ง
อธิปเม้มปากแน่น เขาเบาโหวงไปทั้งอก ไม่ว่าเมื่อไหร่…ในใจจอมขวัญก็ยังคงมีน้ำทิพย์เสมอ ต่อให้ปากว่าเหลือแค่ความเป็นเพื่อนก็ตาม…
“สิ่งที่คุณทำ ไม่ต่างอะไรกับที่น้ารุ่งพยายามทำให้คุณเลิกกับน้ำเลย…คุณบังคับน้ำ คุณต้องการให้น้ำเป็นในสิ่งที่คุณอยากจะให้เป็น…ไม่เคยถาม ไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอ…จอมขวัญ” ชื่อจริงที่ออกมาจากปากของอธิปนั้นทำเอาคนฟังสะท้านไปทั้งใจ แม้ทุกครั้งที่อธิปเรียกเขาว่า ‘ของขวัญ’ จะทำให้เขาหงุดหงิด แต่พอร่างสูงเปลี่ยนมาเรียกว่า ‘จอมขวัญ’ แล้วกลับทำให้เขาสั่นโหวงอย่างน่าประหลาด
“ผม…ผมแค่…”
“มีอีกตั้งหลายวิธีที่ปกป้องน้ำทิพย์ได้ แต่คุณกลับเลือกวิธีนี้…เพราะว่าตัวคุณเองอยากให้น้ำทิพย์อยู่กับคุณตลอดไปใช่ไหม ในเมื่อเป็นคนรักไม่ได้ ก็ให้เป็นพี่สะใภ้ก็ยังดีอย่างนั้นหรือ…” อธิปเอ่ยปาก สบตากับคนที่เขาพยุงแขนอยู่ ดวงตาของจอมขวัญไหววูบ ทว่า…ไม่มีคำแก้ตัวใดๆหลุดออกจากปาก
…จอมขวัญยังรักน้ำทิพย์เสมอ…ยังรัก…แม้ว่าจะเป็นคนรักไม่ได้ก็ยังรัก…
“อ้าว ไอ้ขวัญ…เป็นอะไรวะนั่น” เสียงจักรกฤษณ์ดังขึ้น ทำเอาสองหนุ่มต้องพากันหันมอง จักรกฤษณ์เดินตรงเข้ามาหาทันทีที่เห็นว่าน้องชายตัวเองกำลังถูกพยุง
“เอ่อ…อ่า…ขวัญ…ข้อเท้าแพลงน่ะ” จอมขวัญตอบออกไป และเพียงเท่านั้นจักรกฤษณ์ก็ทำตาโต
“ไปทำท่าไหนวะเนี่ย อ้อ! ที่แกบอกว่าออกไปจ้อกกิ้งเมื่อเช้าล่ะสิ! ว่าแล้ว…หน้าอย่างแกมันออกกำลังกายเป็นที่ไหน นี่คงออกไปจ้อกกิ้งแล้วข้อเท้าแพลงสิท่า!” หนุ่มผิวคล้ำดุน้องชาย ก่อนจะเข้าไปพยุงแขนอีกข้างของจอมขวัญ
“คุณอธิป ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมพาไอ้ขวัญไปเอง ขอบคุณมากนะครับ” เขาหันไปบอกชายหนุ่มอีกคนที่พยุงแขนอีกข้างของจอมขวัญอยู่ และเพียงเท่านั้น อธิปก็จำต้องยอมปล่อย
สองพี่น้องเดินนำหน้าออกไปแล้ว แต่อธิปยังยืนนิ่ง เขาได้แต่มองตาม แขนของจักรกฤษณ์โอบไหล่ของจอมขวัญเอาไว้แล้วพาก้าวเดินช้าๆอย่างนุ่มนวล
…ความรู้สึกตะขิดตะขวงก่อเกิดขึ้นในใจ…เขาหวง…ที่จอมขวัญยังคงรักน้ำทิพย์…เขาหวง…ที่คนประคองจอมขวัญคือจักรกฤษณ์…เขาหวง…หวงทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์…ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว…
……………………………
อธิปเดินตามมาที่หน้าหาดซึ่งใช้จัดเป็นสถานที่รับประทานอาหารมื้อเช้าของวันสุดท้าย เนื่องจากทั้งรีสอร์ทมีแต่พวกเขา โต๊ะรับประทานอาหารที่จัดเอาไว้จึงเป็นโต๊ะยาวที่มีจำนวนที่นั่งตามจำนวนพวกเขาเท่านั้น
…ที่โต๊ะมีแค่คุณรุ่งทิพนั่งอยู่เพียงคนเดียว อ้อ…มีจอมขวัญอีกคนที่ถูกจักรกฤษณ์บังคับให้นั่งลง
“เอาข้าวต้มปลาหมึกอย่างเดียวใช่มั้ยไอ้ขวัญ” จักรกฤษณ์หันมาถามน้องชาย จอมขวัญก็ได้แต่พยักหน้ารับ ชายหนุ่มผิวคล้ำจึงหันมาทางอธิป
“คุณอธิปเอาข้าวต้มอะไรดีครับ วันนี้เป็นข้าวต้มทะเล เลือกเครื่องได้ มีทั้งปลา ทั้งกุ้ง ทั้งปลาหมึก” เขาถามอย่างมีไมตรี แต่อธิปกลับปฏิเสธ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปจัดการเอง” จักรกฤษณ์พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปที่ซุ้มข้าวต้ม ซึ่งมีพ่อครัวยืนประจำคอยปรุงให้ทีละชาม อธิปเหลือบตามองแผ่นหลังคนพี่ ก่อนจะหันมามองจอมขวัญที่นั่งแกร่วรอ
“เอาน้ำอะไร” เขาเอ่ยปากถาม ทำเอาร่างโปร่งต้องเงยหน้ามองเขา จอมขวัญนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบตามองไปที่ซุ้มกดน้ำ เขาเห็นน้ำเปล่า น้ำส้ม และนมสด
…ปกติ เวลามาพักโรงแรม เขาชอบดื่มน้ำส้มตอนเช้า …เขาไม่เคยพักที่รีสอร์ทแห่งนี้มาก่อน…แล้ว…น้ำส้ม…จะอร่อยมั้ยนะ?...
“เอาน้ำเปล่าก็ได้ครับ”เพราะไม่รู้ว่าจะอร่อยถูกปากหรือไม่ ร่างโปร่งจึงเลี่ยงเป็นขอน้ำเปล่าแทน อธิปพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่ซุ้มกดน้ำ จอมขวัญมองตาม แล้วได้แต่เกาท้ายทอยตัวเองอย่างไม่เข้าใจนัก
…เขารู้แต่ว่า มันรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่จักรกฤษณ์เข้ามาพยุงเขาแทนอธิป…แม้ตอนแรกจะไม่ได้อยากให้อธิปมาแตะเนื้อต้องตัว แต่พอมืออุ่นๆนั่นปลดออกจากแขนเขาไป…จอมขวัญกลับรู้สึกไม่ดีเลย…แล้วเมื่อกี้ก็อีก ตอนที่อธิปถามว่าเขาจะเอาน้ำอะไร…สายตาที่อีกฝ่ายมองมา…มัน…ทำให้เขาประหม่า…
จอมขวัญถอนหายใจเบาๆ แล้วได้แต่ก้มหน้าก้มตาเล่นช้อนเล่นส้อมที่วางอยู่บนโต๊ะ เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองควรจะทำอะไร
…ทว่า…ทุกพฤติกรรมของอธิปและจอมขวัญนั้น ตกอยู่ในสายตาของคุณรุ่งทิพที่นั่งร่วมโต๊ะเรียบร้อย เธอเห็นตั้งแต่ตอนที่จักรกฤษณ์หิ้วปีกน้องชายเข้ามานั่ง เห็นสายตาอธิปที่มองตามสองพี่น้อง…
คุณรุ่งทิพวางช้อนลงกับถ้วยเบาๆ ก่อนจะยกกระดาษขึ้นซับปาก พลางชำเลืองมองทีท่าของจอมขวัญ
…เธอก็พอจะรู้หรอกว่าโลกสมัยนี้ เรื่องพวกนี้พบเห็นได้ง่าย แต่…เธอไม่เคยพบเห็นอย่างใกล้ชิดเช่นนี้มาก่อน…คิดแล้วมันก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ถ้าหากว่าสองคนนี้คบหากันเพราะเธอเป็นตัวแปรชักจูงมาให้เจอ อย่างนี้ก็เท่ากับเธอเป็นกามเทพล่ะสิ!...
แม้จะรู้สึกตื่นเต้น แต่ก็แอบนึกสงสารเพื่อนตนที่เป็นแม่ของอธิป แต่กนกนุชไม่ใช่คนคิดมาก ถ้าหากรู้ว่าอธิปหันมาคบหากับจอมขวัญ ก็อาจจะไม่ฟูมฟาย…แต่…ประวัติเสียๆของจอมขวัญเล่า?!...
เธอเหลือบมองพฤติกรรมของจอมขวัญอีกครั้ง รายนั้นยังเขี่ยปลายส้อมเล่นไปมาเหมือนเด็กไม่มีอะไรทำ…แต่บางที…อธิปที่เป็นผู้ใหญ่และพึ่งพาได้…ก็…อาจจะเหมาะกับคนไม่มีที่พึ่งแบบจอมขวัญก็ได้…
อธิปเดินกลับมาแล้ว พร้อมกับน้ำเปล่าและน้ำส้ม เขาวางทั้งสองแก้วลงตรงหน้าจอมขวัญ
“คุณจักรชิมน้ำส้มแล้วบอกว่าอร่อย คุณทานได้ ก็เลยฝากให้ผมเอามาให้ด้วย” อธิปเอ่ยเสียงขื่น ก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่ซุ้มข้าวต้ม
…จักรกฤษณ์รู้ทุกเรื่องของจอมขวัญดีกว่าเขา…เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องปกติถ้าหากจักรกฤษณ์จะรู้ทุกความคิดของน้องชาย รู้ว่าน้องชอบกินน้ำส้ม แต่ก็ระแวงว่าจะไม่อร่อยถูกปาก ถึงขนาดที่จักรกฤษณ์ต้องกดชิมให้ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าอร่อยจริง จึงกดจนเกือบเต็มแก้วแล้วฝากเขาให้เอาไปให้…รายละเอียดเล็กๆน้อยๆในชีวิตของจอมขวัญนั้น จักรกฤษณ์รู้ทุกอย่าง…ไม่เหมือนเขา…
ชายหนุ่มรับถ้วยข้าวต้มมาจากพ่อครัว ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ สองพี่น้องจักรกฤษณ์และจอมขวัญตีกันเล็กน้อยเพราะจักรกฤษณ์ดันใส่ตังฉ่ายของไม่โปรดมาในถ้วยข้าวต้มของน้องชาย
“ก็รู้ว่าไม่ชอบ!” จอมขวัญบ่น ขณะตักตังฉ่ายที่กระจายเต็มชามไปใส่ชามของพี่ชายซึ่งเอาแต่หัวเราะ
“รู้ว่าไม่ชอบก็เลยใส่มาไง”
…จักรกฤษณ์รู้ว่าอะไรบ้างที่จอมขวัญชอบ รู้ว่าอะไรบ้างที่จอมขวัญไม่ชอบ รู้ทุกสิ่ง รู้ทุกอย่าง….ในขณะที่เขา…ไม่รู้อะไรเลย…
ชายหนุ่มเหลือบตามองสองพี่น้องที่สนิทสนมจนเขานึกหงุดหงิด แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เขาทรุดตัวลงนั่งแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าว พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สนใจสองพี่น้องที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีก
…และนั่น…อยู่ในสายตาคุณรุ่งทิพเช่นเคย…
…ที่จอมขวัญบอกว่าอธิปมีเป้าหมายเป็นผู้ชายคนใหม่ เห็นที่จะไม่จริงเสียแล้ว ในเมื่อเธอยังเห็นสายตาของอธิปมองจอมขวัญอย่างน้อยใจเสียใจขนาดนั้น…
“เอ่อ…” คุณรุ่งทิพส่งเสียงเล็กน้อยเพื่อให้ทั้งสามหนุ่มที่ดูจะอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง รับรู้การมีอยู่ของเธอ
“คุณจักรกฤษณ์ ช่วยน้าสักเรื่องได้มั้ยคะ” ในฐานะที่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวในโต๊ะ และรู้เห็นเรื่องราวตรงหน้า จะให้ปล่อยไปก็ใช่ที่ อธิปนั้นก็เหมือนเป็นหลานเพราะเป็นลูกเพื่อน ในขณะที่จอมขวัญก็เป็นเพื่อนของลูกสาว จะให้เธอปล่อยปละละเลยไม่ดูดำดูดีก็เห็นจะไม่ได้
“ครับ?”
“คือ…ยัยน้ำยังไม่ออกมาจากห้องเลย รบกวนคุณจักรกฤษณ์ช่วยไปตามให้หน่อยได้มั้ย น้าจะไปเอง…ก็…พอดียังทานไม่เสร็จ” เธอเหลือบตาลงมองที่ชามข้าวต้มของตนเอง ส่วนจักรกฤษณ์นั้นทานเป็นชามที่สองแล้ว เพราะชามแรกทานล่วงหน้าไปกับบิดามารดาที่เพิ่งลุกจากโต๊ะไปจัดการสั่งให้พนักงานโรงแรมช่วยเก็บเตาปิ้งบาร์บีคิวที่เอาของส่วนตัวมาใช้ที่นี่
“เอ่อ…ก็ได้ครับ” จักรกฤษณ์เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่สั่ง เขาจึงไม่อยากขัด ชายหนุ่มผิวคล้ำลุกจากโต๊ะเดินกลับไปที่ละแวกบ้านพักอีกครั้ง ที่โต๊ะจึงเหลือเพียงแค่อธิปและจอมขวัญที่ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้ม
“อธิป…น้า…อยากได้น้ำส้มเพิ่ม ช่วยไปเติมให้น้าหน่อยได้มั้ย อ้อ…น้าอยากได้แบบไม่เย็น แต่ที่ซุ้มมีแต่น้ำส้มเย็นๆทั้งนั้นเลย อธิปช่วยขอพนักงานให้น้าหน่อยนะ” อธิปรับคำเสียงแผ่ว ก่อนจะเดินมาหยิบแก้วน้ำของหญิงวัยปลายแล้วเดินไปที่ซุ้ม คราวนี้จึงเหลือเพียงคุณรุ่งทิพและจอมขวัญเท่านั้น
“จอมขวัญ…” จอมขวัญหันมอง
“คุณน้าอยากได้เพิ่มเหรอครับ”
“ไม่ใช่…ฉันจะสอนเธอ…”
“สอน?!” คนจะถูกสอนร้องอย่างงุนงง
คุณรุ่งทิพถอนหายใจเล็กน้อย อันที่จริงเธอก็ไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่สนิทชิดเชื้ออะไรของจอมขวัญ ไอ้จะเข้าไปจ้ำจี้จ้ำไชก็เห็นจะไม่เหมาะ แต่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้เธอก็รำคาญลูกหูลูกตาเสียเหลือเกิน
“ฉันก็ไม่มีประสบการณ์หรอกนะ เรื่อง…รักเพศเดียวกัน แล้วก็…ไม่เคยใกล้ชิดกับพวกนี้มาก่อน แต่ว่า…ยังไงมันคงเหมือนๆกันใช่มั้ยล่ะ ไอ้เรื่อง…ความรัก…” จอมขวัญคิ้วขมวดด้วยความงุนงง คุณรุ่งทิพเหลือบมองไปที่ซุ้มน้ำ เห็นว่าอธิปกำลังรอให้พนักงานไปจัดการเอาน้ำส้มแบบไม่เย็นมาให้อยู่ เธอก็เลยหันมาสอนชายหนุ่มอีกคนต่อ
“…ก็…เรื่อง…เรื่องของแกกับอธิป…ฉันไม่ใช่หูหนวกตาบอด อายุก็ขนาดนี้แล้ว พบเห็นคู่รักมาก็มาก แกอย่ามาปฏิเสธเลยว่าแกกับอธิปไม่ได้…มีอะไรกัน”
…มีอะไรกัน?!!!!... จอมขวัญตาเหลือกค้าง เขาเข้าใจว่า ‘มีอะไรกัน’ ของคุณรุ่งทิพคงจะหมายถึงแค่ความสัมพันธ์ แต่สำหรับเขา!...ชายหนุ่มนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืน! เรื่องเมื่อคืนที่เขากับมัน ‘มีอะไรกัน’ จริงๆ!!!
“จอมขวัญ…แกน่ะมันเป็นคนไม่มีที่พึ่ง ฉันไม่ได้หมายความว่าคุณจักรกฤษณ์ คุณชัย หรือคุณพัชรีเป็นที่พึ่งให้แกไม่ได้นะ แต่ที่ฉันพูด ฉันหมายถึงแกไม่มีที่พึ่งทางใจ แกเหมือนกิ่งไผ่ ลู่ตามลม ลู่ตามมรสุม แต่อธิป…เขาเหมือนต้นไม้ใหญ่ ถ้าแกกับเขาอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่ง จะเป็นโชคดีของแกนะ เพราะฉะนั้น…จะทำอะไร จะสนิทสนมกับใคร แกก็ต้องคิดถึงอธิปให้มาก ต้นไม้ใหญ่ก็โงนเงนได้เหมือนกัน ถ้าถูกทำร้ายจิตใจมากๆ…”
จอมขวัญอ้าปากค้างกับคำพูดของหญิงตรงหน้า เขารีบยกมือสองข้างขึ้นห้าม ก่อนที่คุณรุ่งทิพจะพูดจาให้เขางงหนักกว่าเดิม
“เดี๋ยวๆ คุณน้า…ไอ้เรื่องกิ่งไผ่ ต้นไม้ใหญ่นี่พักไว้ก่อน…แต่เรื่องที่ผมกับนายอธิปนั่น…”
“แกไม่ต้องมาแก้ตัว ฉันมองปราดเดียวฉันก็รู้ ไม่ต้องมาโกหกฉันว่าอธิปไปเล็งคนอื่นเลยนะ! แกคิดว่าฉันอายุเท่าไหร่ อายุฉันปูนนี้ เป็นรุ่นน้องคุณชัยคุณพัชรีไม่กี่ปี แทบจะเรียกว่าเป็นแม่แกได้อยู่แล้ว!...ที่ฉันสอน ที่ฉันบอกแก เพราะฉันไม่อยากเห็นแกล่องลอยเป็นกิ่งไผ่ไม่มีที่ยึด การได้รัก ได้คบหากับอธิปนั่นน่ะเป็นโชคดีแล้ว แกน่ะนะจอมขวัญ…ถ้าจะรักกับผู้หญิง ก็ต้องเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและช่วยยึดเหนี่ยวแกได้ แต่ถ้าจะรักกับผู้ชาย ฉันว่าที่แกเลือกอธิปนั่นแหละ ถูกแล้ว”
“ผมไม่เคยเลือกอธิป!” จอมขวัญร้องบอกอย่างตกใจที่คุณรุ่งทิพเข้าใจอะไรไปได้ไกลโขเสียขนาดนั้น!
“นี่ยังจะมาดื้อเถียงฉันอีก! อ้อ…แล้วก็เมื่อกี้ก็เหมือนกัน แกรู้มั้ยว่าอธิปเขามองแกยังไง ฉันรู้หรอกนะว่าแกกับคุณจักรกฤษณ์เป็นพี่เป็นน้องกัน แต่แกก็ต้องมีขอบเขตให้พี่น้อง เข้าใจมั้ย…เฮ้อ…ตอนที่แกคบกับยัยน้ำ ฉันก็ดูแกรู้เรื่อง เชี่ยวชาญด้านเทคแคร์แฟนออกจะตาย แล้วทำไมพอมาคบกับอธิป แกถึงทำตัวเป็นเด็กอินโนเซ้นท์ซะขนาดนี้”
“ผมไม่ได้คบกับอธิป!!!” คราวนี้จอมขวัญตะโกนดังลั่น จนทำเอาเจ้าของชื่อที่ถูกเขาอ้างถึงซึ่งกำลังเดินกลับมาที่โต๊ะได้แต่ชะงักค้าง คุณรุ่งทิพอ้าปากพะงาบๆอย่างพูดไม่ออกที่อยู่ดีๆจอมขวัญก็ตะโกนใส่หน้าเธอ
ชายหนุ่มร่างโปร่งหมุนตัวจะเดินออกจากโต๊ะอย่างหงุดหงิด แต่พอเขาหันมาเห็นว่าอธิปยืนมองอยู่ จอมขวัญก็ยิ่งหัวเสียหนัก กลายเป็นเร่งฝีเท้าเดินจากไปทันทีจนอธิปนึกห่วง เขารีบวางแก้วน้ำส้มให้กับคุณรุ่งทิพ ก่อนจะตามออกไป ทิ้งให้หญิงสูงวัยมองตามพลางส่ายศีรษะไปมา
“กิ่งไผ่ลู่ตามลมลู่ตามมรสุมจริงๆ แบบนี้ต้องต้นไม้ใหญ่เท่านั้นล่ะ! ถึงจะเอาอยู่!!”
……………….
“เดี๋ยวก่อน…” จอมขวัญก้าวเร็วๆอย่างไม่สนใจสิ่งใดแม้แต่น้อย อธิปเลยต้องรีบคว้าแขนเอาไว้ แล้วพอเขาคว้าแขนให้อีกฝ่ายหันมามองได้ จอมขวัญก็สะบัดแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขาทันที
“ไม่ต้องมาจับเว้ย!”
“ของขวัญ…”
“ไม่ต้องมาเรียกชื่อนั้น!” จอมขวัญพาล…ใช่…เขาพาล…จะไม่ให้พาลได้ยังไงในเมื่อคุณรุ่งทิพเข้าใจผิดคิดว่าเขากับอธิปคบหากัน แล้วไหนจะเรื่องเมื่อคืน…เรื่องเมื่อคืนที่…
“ของขวัญ…ใจเย็นๆก่อนได้มั้ย มานี่…” อธิปเกรงว่าอีกฝ่ายจะโวยวายจนคนอื่นๆมาเห็นเข้า เขาลากจอมขวัญไปที่บ้านพักของเขา
“เอาล่ะ เป็นอะไร…” พออยู่ในบ้านพักกันแค่สองคนแล้ว อธิปก็เอ่ยปากถามอย่างใจเย็น แต่จอมขวัญยังอารมณ์ร้อน เขาตวัดสายตาจ้องมองคนถามอย่างไม่พอใจ
“เป็นอะไร?! ก็จะเป็นบ้าอยู่แล้วเนี่ย! แม่คุณน้ำคิดว่าผมกับคุณเป็นแฟนกัน! บ้าไปแล้ว!!!” อธิปนิ่งไปเพราะตกใจ เขาไม่คิดว่าคุณรุ่งทิพจะถึงขั้นจับคู่เขาและจอมขวัญเช่นนี้
“จากนี้ไป คุณกับผมห่างกันไปเลย! เราไม่ต้องเจอกันอีก! ถ้าใครยังคิดได้! ผมจะไปอาละวาดให้ดู!!!” จอมขวัญสั่งเสียงดังอย่างไม่พอใจ อธิปมองคนพูดที่ยังแสดงสีหน้าโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เขาควรจะเออออตามใจจอมขวัญไป เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียบานปลาย…แต่…
“ผมทำไม่ได้” เขาตอบเสียงเรียบอย่างที่ทำเอาจอมขวัญตวัดสายตามองเขาอย่างไม่พอใจระคนสงสัย
“ทำไม?!!!”
ชายหนุ่มร่างสูงส่ายหน้าไปมา
“ผมเองก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าทำไม่ได้…”
“ไม่รู้?!!! ไม่รู้แต่เสือกบอกว่าทำไม่ได้เนี่ยนะ!!! บ้าไปแล้วรึไง!!”
“ผมอาจจะบ้าจริงก็ได้…ของขวัญ…สำหรับคุณ คุณอาจจะจำไม่ได้ว่าเมื่อคืน มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีรายละเอียดเล็กน้อยอะไรบ้างระหว่างที่เราสองคน…กอดกัน…แต่สำหรับผม ผมจำได้ทุกอย่าง ผมจำได้ว่าผมรู้สึกยังไง ผมยินดีแค่ไหน ผมกอดคุณด้วยความรู้สึกแบบไหน…และไอ้ความรู้สึกพวกนั้น…ก็ทำให้ผมแน่ใจ ว่าผมห่างกับคุณไม่ได้” อธิปตอบเสียงเรียบแต่จริงจังและมั่นคง เขามองจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวของจอมขวัญที่มีแต่ความไม่เข้าใจฉายชัดอยู่ในนั้น
…เขาเองก็ไม่เข้าใจ…ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ความสัมพันธ์เพียงคืนเดียวถึงเด่นชัดอยู่ในมโนสำนึกเสียขนาดนั้น แถมยังกลายเป็นความหวง ความหงุดหงิดเมื่อเห็นจอมขวัญถูกพี่ชายดูแลและเทคแคร์ดีเสียจนเขาไม่ต้องเอื้อมมือเข้าไปช่วยเหลือ…
จอมขวัญอ้าปากค้าง เขาพูดไม่ออก อยากจะเถียงให้สาแก่ใจว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้! แต่…ห้วงหนึ่งในความทรงจำคือเสียงทุ้มอ่อนโยนที่เรียกชื่อเขา
‘ของขวัญ’
เสียงนั้นเร่งเร้าอย่างอ่อนหวานขอให้เขาเรียกอีกฝ่ายกลับว่า ‘พี่โต’ วินาทีนั้น เหมือนหัวใจที่ดำมืดและหนาวเหน็บมีใครอีกคนเปิดประตูเข้ามา เข้ามาพร้อมแสงสว่าง เข้ามาพร้อมความอบอุ่น…ใครคนนั้น…ที่จะเป็นของเขาเพียงคนเดียว…
‘พี่โต’
“ถ้าไม่อยากออกไปทานแล้ว ให้พี่…เอ่อ…ให้ผมสั่งอะไรมาให้มั้ย” เสียงอธิปดังขึ้นเบาๆ จอมขวัญเงยหน้ามอง และเพิ่งรู้ตัววินาทีนั้นว่าเขากับอีกฝ่ายยืนใกล้กันเสียเหลือเกิน ร่างโปร่งถอยหลังอย่างตกประหม่า ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากบ้านพักทันทีแต่ก็ยังช้ากว่าคนเรียก
“ของขวัญ…” อธิปเสี่ยงเรียกชื่อเล่นที่จอมขวัญหวงนักหวงหนาอีกครั้ง และครั้งนี้จอมขวัญหยุดเดิน ทว่า...ไม่ยอมหันกลับมามอง
“ถ้า…คุณเอาเรื่องเมื่อคืนไปบอกใคร ผมเอาคุณตายแน่!” จอมขวัญขู่เสียงแข็ง กำลังจะก้าวขาเดินแต่แขนกลับถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน
“แล้ว…พี่ต้องลืมมันมั้ย” อธิปเสี่ยงอีกครั้ง…เสี่ยงที่จะเรียกตัวเองว่า ‘พี่’ เสี่ยงที่จะเข้าไปสนิทสนมราวกับคนคุ้นเคย และเสี่ยง…ที่จะถามว่าเขาจำเป็นต้องลืมเรื่องราวเมื่อคืนหรือไม่…ถ้าจอมขวัญบอกให้เขาลืม เขาจะดื้อหัวชนฝาได้อีกไหม
จอมขวัญนิ่งไป ปากอยากบอกว่าให้อธิปลืมให้หมด…แต่…
“อยากลืมก็ลืมดิ! ผมไม่เกี่ยว!” แล้วคนตอบก็กระชากแขนตัวเองออกจากมืออุ่นร้อนของอีกฝ่าย ก่อนจะเดินปึงปังออกจากบ้านพักไปทันที ทิ้งอธิปให้มองตามแล้วรอยยิ้มบางก็จุดขึ้นที่มุมปากอย่างอิ่มเอม
… ‘ผมไม่เกี่ยว’… จะยอมให้ไม่เกี่ยวแค่วันนี้เป็นวันสุดท้าย…กลับจากทะเลไป ‘พี่โต’ คนนี้จะไม่ยอมให้มีคำว่า ‘ไม่เกี่ยว’ สำหรับเราสองคนอีกแล้ว…ของขวัญ
ติดตามตอนต่อไป (ขอพฤหัสหน้านะคะ)
คดีพลิกตามคาด ฮ่าฮ่า (รอบนี้ไม่แกล้งคนอ่านแบบปืนปลอมแหละ กร๊ากๆๆๆ )
ตอนเขียนพาร์ทนี้ ชอบคุณรุ่งทิพมากกกกกกกก แต่ก็นั่งแก้ฉากเรทซะหัวฟู
เอาล่ะ หลังจากนี้ จะเป็นวายอย่างจริงจังล่ะนะ (ก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ นกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ฮาฮา)
แต่ว่าหลังจากนี้ จะมาลงได้อาทิตย์ละตอนเท่านั้นล่ะค่ะ เพราะว่าบัวเริ่มทำงานพิเศษวันเสาร์อาทิตย์ ก็เลยไม่มีวันหยุดเลย เศร้ามากกกกก
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกกำลังใจนะคะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดเช่นเคยยยยย
เจอกันพาร์ทหน้า
(ไม่มีสปอยล์ เพราะว่าบัวยังไม่ได้เขียนเลยสักตัวอักษรเดียว สุดยอดแห่งความรับผิดชอบบบบ )