Kiss Love ♥ [12] ทดสอบมากไป
[เอก...☼]
“นี่ แล้วกายกับเต้ยหายไปไหนแล้วล่ะ”
ไอ้สาวมันหันซ้ายหันขวาถามหาสมาชิกอีกสองคน ตอนนี้พวกเราใส่ชุดว่ายน้ำเตรียมพร้อมสำหรับเล่นน้ำกันแล้ว
“คงอยู่ในห้องนั่นแหละ หรือไม่ก็หลับ งั้นพวกมึงไปเล่นกันก่อน เดี๋ยวกูไปปลุกน้องกูก่อนแล้วจะตามไป” ไอ้เป้มันบอก พวกผมพยักหน้าพากันยกโขยงเดินตรงไปยังชายหาด
ยังไม่ทันจะถึงครึ่งทาง ผมเบรกตัวเองลง จำได้ว่าไอ้เป้เคยบอกว่าน้องมันกับกายขี้เซาพอ ๆ กัน ถ้าได้หลับลึก ปลุกยากด้วยกันทั้งคู่ ผมน่าจะไปช่วยมันปลุกอีกแรงนะ
คิดได้ผมก็บอกให้พวกเพื่อน ๆ เดินนำกันไปก่อน ส่วนตัวเองก็หันหลังวิ่งกลับรีสอร์ตไป พอไปถึงก็เห็นไอ้เป้กำลังเคาะประตูหน้าห้องน้องมันอยู่ มันหันมามอง
“สงสัยจะหลับจริง ๆ ว่ะ เคาะหลายทีแล้ว”
ผมพยักหน้าเข้าใจ
มันเคาะเรียกอีกสองสามที พอไม่มีเสียงตอบรับกลับมาจริง ๆ มันถึงได้ตัดสินใจจับลูกบิดหมุนเปิดประตูออก โชคยังดีที่พวกนั้นไม่ได้ล็อคห้อง
ไอ้เป้ดันประตูออกกว้าง และภาพที่เห็นก็พาเอาผมรู้สึกตัวชาขึ้นมาทันที และคงไม่ต้องพูดถึงไอ้เป้มัน
มันยืนนิ่ง กำหมัดแน่น และไม่นานหลังจากนั้น มันก็เดินเข้าไปกระชากคนที่นอนกอดกันอยู่ออกห่างจากกัน
ผมรู้ว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันและคงไม่ได้มีอะไรเกินเลยต่อกัน แต่ภาพแบบนี้ เป็นใครมาเห็น ก็ต้องคิด โดยเฉพาะคนที่มีความรู้สึกพิเศษซ่อนอยู่ในใจอย่างมัน
ไอ้เต้ยตื่นยากสมคำร่ำลือ เขย่าปลุกยังไงก็ไม่ตื่น จนไอ้เป้ตัดสินใจแบกน้องมันพาดบ่า ผมมองตาค้าง
"มึงจะทำอะไรวะ"
“พามันไปปลุก” มันบอกแค่นั้นแล้วเดินออกจากห้องไป
ผมหันมามองคนที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง กวาดตามองมันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วความคิดบางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัว ผมตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้น
ผมแค่ต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง
ผมนั่งลงข้างเตียง แตะปลายนิ้วบนริมฝีปากมันเบา ๆ ก่อนเคลื่อนหน้าลงต่ำ..
เพื่อกดจูบ
ผมแค่ต้องการพิสูจน์..
ว่าผมไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับร่างกายผู้ชาย
ผมขยับริมฝีปากโหมจูบคนหลับเบา ๆ ก่อนปรับเปลี่ยนเป็นหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกอย่างง่ายดายไร้การขัดขืน สอดปลายลิ้นอีกนิด ก็สามารถเข้าไปเลาะเล็มลิ้นเล็กภายในได้แล้ว
ผมละริมฝีปากออก เปลี่ยนเป้าหมายไปยังซอกคอขาว สูดดมและขบเม้มเบา ๆ ผมเกือบจะหยุดตัวเองลงแล้ว ถ้าคนตรงหน้าไม่ครางออกมาให้ได้ยิน
น้ำเสียงแบบนั้น กระตุ้นให้ผมซุกหน้ากับซอกคอมันมากขึ้น ลากไล้ ขบเม้ม เลื่อนจากคอลงมายังแผงอกที่โผล่พ้นตัวเสื้อออกมา เสียงเครือครางดังออกมาให้ได้ยินมากขึ้น
ผมรีบดีดตัวออกมายืนอยู่ข้างเตียง เสยผมไปด้านหลังระงับอารมณ์บางอย่างให้มอดดับลง
ผมมาไกลเกินไป
ทดสอบตัวเองมากไป
ผมกระชากเปิดประตูออก เห็นไอ้เต้ยเปิดประตูออกมาจากห้องพี่มัน เดินปึงปังมาทางผม เนื้อตัวเปียกมะลอก คงถูกปลุกด้วยน้ำเย็นจัดมาแน่ ๆ
“กายยังไม่ตื่นใช่ไหมฮะ” มันถาม ผมพยักหน้า
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมปลุกเอง”
มันเดินเข้าไปในห้อง ในขณะที่ผมเลือกเดินออกไปจากจุดนั้น
เดินไปให้ไกล
ทั้งที่ควรจะหยุด ผมกลับก้าวลงไปเล่นกันไฟ
ทั้งที่ควรจะดับด้วยน้ำ…
แต่ผมกลับเปลี่ยนใจราดน้ำมันลงไปแทนที่
และไฟนั้น...
กำลังลุกลามเข้ามาในตัวผมทีละน้อย...ทีละน้อย
ผมย้ำฝ่าเท้าไปบนผืนทรายสีน้ำตาลอ่อน ทอดน่องตามชายหาดไปเรื่อย ๆ ผ่อนคลายอารมณ์บางอย่างที่ยังค้างคา ก่อนเดินกลับ หวังไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ซึ่งตอนนี้พวกมันกำลังเล่นวอลเล่บอลชายหาดกันอยู่
สายตาของผู้คนรอบด้าน พุ่งตรงไปยังพวกมันเป็นทิวแถว คงเพราะรูปร่างหน้าตาที่สวยหล่อดึงดูดใจ หรือเพราะเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ และเสียงเอะอะโวยวายของหนุ่ม ๆ รวมไปถึงการแต่งตัวที่ต่างพากันงัดเนื้อนมไข่ออกมาโชว์จนล้น
เชื่อเหอะ ขนาดกับเพื่อน ผมยังเกิดอารมณ์เลย เพราะงั้น ผมเป็นผู้ชายปกติแน่ ๆ
ยันไม่ทันจะถึงที่หมาย สายตาผมก็เหลือบไปเห็นใครบางคนเข้าก่อน คนคนนั้นยืนยิ้มอยู่คนเดียวหลังต้นมะพร้าว แม้ใจผมจะสั่งให้เดินไปหาเพื่อน ๆ แต่สองขากลับพาผมก้าวไปหามันช้า ๆ
แม้จะรู้ว่าเป็นไฟ แต่ผมก็ยังเลือกที่จะเดินเข้าไปใกล้
ผมหยุดยืนอยู่ตรงหน้ามัน มันคงไม่รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้ แล้วผมก็ไม่ได้มองว่ามันมองอะไรอยู่ เพียงแต่จ้องหน้ามันนิ่ง ๆ เท่านั้น
“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้”
ผมทักให้มันรู้ตัว มันสะดุ้งรีบหันมามอง ผมถึงได้หันไปมองสิ่งที่มันมองอยู่บ้าง และสิ่งที่เห็นก็คือไอ้กิ๊ฟกำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคน
“สวยใช่ไหมล่ะ แต่พี่ช้าไปแล้วล่ะ ฝรั่งแย่งไปแล้ว”
มันบอก แต่ที่มันไม่รู้ก็คือ ผมไม่ได้แปลกใจที่ไอ้กิ๊ฟมันแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น แต่ผมแปลกใจ ที่มันยอมยืนคุยอยู่กับผู้ชายโดยไม่สะบัดตัวเดินหนีมากกว่า
หรือเพราะคนนี้ เป็นชาวต่างชาติ?
มันมองภาพไอ้กิ๊ฟยิ้ม ๆ ในขณะที่ผมจ้องหน้ามันนิ่ง ๆ พอมันหันมามองผมอีกที รอยยิ้มสดใสเมื่อกี้ ก็ค่อย ๆ จางลง
“เราไปเล่นน้ำกันดีกว่า”
มันชวนและทำท่าจะเดินหนี ผมคลายมือออกมากั้นมันไว้กับต้นมะพร้าว มันยืนตัวลีบทำหน้าตื่น ๆ
“พี่เอก”
มันเรียก ผมยังจ้องหน้ามันนิ่ง
“เราไปเล่นน้ำกันดีกว่า”
มันชวนอีกที มันคงอึดอัดกับความนิ่งเงียบโดยไร้เหตุผลของผม
“พี่…”
มันกำลังจะเอ่ยเรียกอีกรอบ ด้วยน้ำเสียงแบบนั้น น้ำเสียงที่ทำให้ผมลุ่มหลง มันตัวแข็งทื่อ ตาโตอัตโนมัติ เป็นปฏิกิริยาแทบจะทุกครั้งที่ผมจูบมัน
“อื้อ!!”
มันพยายามส่งเสียงทักท้วง แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว มันพยายามดิ้นรนขัดขืน
ผมรู้ว่าเราอยู่กันข้างนอก ผมรู้ว่ามีใครหลายคนกำลังมอง และผมรู้ว่ามันเสี่ยงที่จะให้เพื่อน ๆ รู้ แต่ผมแค่อยากรู้ ว่าตัวผมจะด้านพอที่จะรับความรู้สึกพวกนี้ได้ไหม
การต่อต้านจากสังคม
ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นจับหน้ามัน เกลี่ยนิ้วโป้งผ่านแก้มมันเบา ๆ
..ใบหน้าของผู้ชาย
เลื่อนต่ำลงไปที่ลำคอ
..ลำคออย่างผู้ชาย แม้จะเพรียวได้รูปก็ตาม
เลื่อนลงไปที่ต้นแขนบีบไม่เบานัก จนสัมผัสได้ถึงกระดูกแข็ง ๆ ภายใน เนื้อตัวมันไม่ได้นุ่มนิ่มแบบผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้แกร่งกร้านแบบผมหรือพวกเพื่อน ๆ ของผม ก่อนลูบต่ำลงไปตามท่อนแขนเรียวผ่านฝ่ามือลงไปสิ้นสุดที่บั้นเอว มันสะดุ้งรีบผลักผมออก แต่แรงแค่นั้นหรือจะมาเขยื้อนอะไรผมได้
ผมกระชับบั้นเอวมันเบา ๆ เอวมันเล็กมาก จับได้พอดีเลย ผมละมืออีกข้างจากต้นมะพร้าวมาจับเอวอีกข้างของมัน ดึงเบา ๆ เข้าหาตัวเอง ปากก็ยังไม่หยุดเก็บเกี่ยวความหวามหวิวภายใน
และคนตรงหน้าก็เลิกขัดขืนผมแล้ว
ตอนนี้ผมก็ยอมรับแล้ว
ผมต้องการคนคนนี้
ทั้งตัว
หรืออาจมากกว่านั้น
หลังจากผมปล่อยไอ้ตัวเล็กให้เป็นอิสระ มันก็เดินไปเล่นวอลเล่บอลกับพวกไอ้โอม ผมเดินตามไปสมทบ มันยังทำหน้านิ่ง ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็หลบสายตาทุกครั้งที่ผมมอง พอเล่นวอลเล่บอลกันจนเหนื่อยพวกเราก็วิ่งลงน้ำกันต่อ
มีนักท่องเที่ยวบางส่วนเกาะกลุ่มเล่นกันบ้างประปราย แต่ไม่โหวกเหวกเสียงดังเท่าเรา เล่นกันจนถึงหนึ่งทุ่ม (ที่นี่เขาเปิดไฟให้ มันเลยสว่างแม้จะดึกแล้วก็ตาม) เนื้อตัวของแต่ละคนเริ่มซีด พวกเราถึงได้ชวนกันขึ้น
“ไปอาบน้ำให้เรียบร้อย แล้วเจอกันตอนสองทุ่มครึ่ง จะพาไปกินผักบุ้งไฟแดงเจ้าอร่อยของที่นี่กัน”
ไอ้มอมันบอก ตั้งแต่มาไม่เห็นมันจะพาไปกินอาหารของรีสอร์ตมันสักที
มันให้เหตุผลว่า “กูเบื่อ”
เอ้อ มึงเบื่อ แต่พวกกูยังไม่เคยกินนี่หว่า แต่ก็ยอม ๆ มันครับ มันอุตส่าห์ให้ที่พักฟรีแล้ว
ผมกลับเข้าห้องอาบน้ำต่อจากไอ้เป้มัน พอออกมา ก็เห็นมันยืนเท่เหม่อลอยอยู่นอกระเบียง ผมเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกมันจะนิ่งมากกว่าปกติ
“มึงตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม”
ผมพูดขึ้นมาลอย ๆ
“อืม”
“ขอให้ทำสำเร็จนะเพื่อน”
“อืม แต่เต้ยมันคงเจ็บ”
“แต่กูว่าคนที่เจ็บมากกว่าคือมึงนะ และถ้ายังไม่ทำอะไรสักอย่าง พวกมึงทั้งคู่ก็จะยิ่งเจ็บกว่านี้”
มันพยักหน้า ผมคาดเดาว่ามันน่าจะเข้าใจ
แล้วเราสองคนก็ผันตัวกลมกลืนไปกับความเงียบ สายลมพัดไหวหอบหิ้วเอากลิ่นไอของน้ำทะเลยามค่ำคืนมาปะทะผิวกาย แสงสีนวลส้มจากหลอดนีออนด้านล่างแข่งกันให้แสงแลดูสวยงามแต่คงไม่มากเท่ากับแสงอ่อน ๆ ของหลากหลายดวงดาวบนท้องฟ้าด้านบน
ผมหันหลังค้ำศอกไว้กับราวระเบียง แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าคิดทบทวนอะไรบางอย่าง ในขณะที่ไอ้เป้ ค้ำแขนกับราวระเบียงละสายตาจากท้องฟ้าประดับดาวก้มมองผืนดินว่างเปล่าด้านล่างและคงกำลังคิดทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างไม่ต่างกับผม
“กูเคยคิดนะ ว่าอยากให้กูกับไอ้เต้ยเป็นคนอื่น เป็นคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน อย่างนั้นมันจะง่ายกับกูมากกว่า”
มันระบายตัดความเงียบขึ้นมา
ผมยืนฟังนิ่ง ๆ
“แค่กูรักผู้ชายมันก็ผิดแล้ว…แต่นี่ กูยังมารักคนที่ไม่ควรจะรักอีก”
มันก้มหน้าเค้นเสียงแห่งความทรมานออกมา ผมได้แต่นิ่งฟังมันเท่านั้น
แล้วความเงียบก็กลับคืนมาอีกครั้ง
“กูอยู่ข้างมึงเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเป้”
มันไม่ตอบ และผมก็ไม่พูดอะไรต่อ ผมตบหลังมันเบา ๆ ละตัวเดินออกจากห้องไป อยากให้เวลามันได้คิดทบทวนเรื่องต่าง ๆ คนเดียวอีกครั้ง
พอออกไปก็เห็นไอ้ตัวเล็กกำลังถ่ายรูปกบตัวหนึ่งในอ่างบัว กบมันก็นั่งยอง ๆ อยู่เฉย ๆ มันก็ถือกล้องคุกเข่าจ่อไว้ตรงหน้ากบเฉย ๆ ผมยืนมองมันงง ๆ ดูว่ามันจะทำอะไร
ผมไม่แน่ใจว่ามันเล็งกล้องท่านั้นอยู่นานแค่ไหน และกำลังรออะไรอยู่ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าผมยืนมองมันอยู่นานแค่ไหนเหมือนกัน รู้แค่ว่า กำลังยืนมองมันไปเรื่อย ๆ แค่นั้นแหละ
มันนิ่งอยู่นาน จนมีแมลงตัวเล็ก ๆ บินผ่านเข้ามา กบที่นั่งอยู่นิ่ง ๆ เมื่อกี้ ตวัดปลายลิ้นยาว ๆ คว้าแมลงเข้าปากอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้ตัวเล็กลั่นชัตเตอร์อย่างไวเช่นกัน
“เยส!!”
มันดึงกำปั้นเข้าหาตัว ทำท่าจะลุก แต่คงจะคุกเข่านานไปหน่อย พอลุกขึ้นยืน ขามันเลยเป๋ ผมรีบถลาเข้าไปคว้าเอวมันไว้ทันที
มันเงยหน้ามองผม..
..และผมก็ก้มหน้ามองมัน
“ขอบคุณฮะ ผมยืนได้แล้ว”
มันดันอกผมออกเบา ๆ ผมค่อย ๆ คลายมือออก
“ถ่ายอะไรอยู่”
ผมถาม
ไอ้ตัวเล็กยกกล้องขึ้นมากดให้ดู
และสิ่งที่เห็นก็คือ..
กบตัวหนึ่งกำลังตวัดลิ้นคว้าแมลงกิน = =
“กว่าจะถ่ายได้” มันพูดยิ้ม ๆ
ผมว่ากล้องต้องเป็นเครื่องมือดึงรอยยิ้มของมันแน่ ๆ มีกล้องที่ไหนมีรอยยิ้มที่นั่น แต่ผมก็ชอบที่จะมองรอยยิ้มแบบนั้นของมัน
มันกดไล่ดูภาพไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ผมไล่สายตามองหน้ามันไปเรื่อย ๆ
“นี่ ไอ้สองผัวเมียคู่นั้นน่ะ มาขึ้นรถได้แล้ว”
ไอ้เชี่ยมอมันตะโกนเรียก ผมกับกายหันไปมอง
“ปากมึงนี่เมื่อไหร่จะเลิกเห่าสักที รำคาญว่ะ”
ผมด่ากลับ
“ก็ตอนมีน้องเจนมาช่วยปิดปากไว้ไง”
พูดจบมันก็หันไปจุ๊บปากน้องเจนจริง ๆ จนเพื่อน ๆ พากันโห่แซว ไอ้ตัวเล็กยืนมองเหวอ ๆ สาวนางยืนอายม้วนต้วน ผมแหงนหน้าเหลือบตามองฟ้า ระอากับความหน้าด้านของเพื่อนตัวเองจริง ๆ
“ไปกันเถอะ”
ผมชวนคนข้างตัว มันพยักหน้าหงึกเดียว เดินเคียงข้างผมไปรวมกับกลุ่ม
TBC..
พี่เอกก็นะ ทำตัวเองจริง ๆ - -
หุหุ แอบกระซิบ อีกไม่กี่ตอน NC ก็จะมาแล้ววววว >///< รอ ๆ ลุ้น ๆ - , . -
รักคนอ่านทุกคน
**ติดตามการอัพนิยายได้ที่นี่เลยค่ะ**
เฟสบุค :www.facebook/memew28
ทวิตเตอร์
:@memew28 ประกาศ ๆ !! นิยายเรื่องนี้รวมเล่มแล้วนะคะ ^^
ดูรายละเอียดได้ที่ Kiss Love [บอร์ดเด็กดี] เฟสบุคหรือทวิตเตอร์ค่ะ ^^
ปล. ถ้ามาช้า รีบไปตามหาคนเขียนได้ที่เฟสหรือทวิตนะคะ (งานเยอะ บางทีก็ลืมวันลืมคืน T^T)