วันอาทิตย์มาถึง ปืนมารับคนรักและน้องชาย ในตอนสายเพื่อไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านตามที่นัดกับทุกคนที่บ้านไว้ รถเลี้ยว
เข้ามาจอด เทนนิสลงจากรถมองสำรวจไปรอบบ้านหลังใหญ่ยังเหมือนเดิม เดินเข้าไปด้านในเห็นทุกคนนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ปืน
แนะนำธารรพีและเทนนิสให้ทุกคนรู้จัก เทนนิสมองหญิงสาวคุ้นหน้าที่เขาเคยเจอก่อนหน้านี้ที่งานการกุศลที่แท้เธอก็เป็นลูกพี่ลูก
น้องของเขานี่เอง ปรีญารัตนแปลกใจที่ได้เห็นเทนนิสสายตาของเธอจ้องอย่างไม่วางตา พี่ชายของเธอพาไอ้เด็กนี่มาด้วยทำไม
เมื่อทุกคนมาพร้อมก็เริ่มกินข้าวพูดคุยถามหญิงสาวที่ลูกชายพามา อยากรู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน เรียนหรือทำงานอยู่ ทำไมทั้ง
สองถึงได้มารู้จักกัน ธารรพีกินข้าวไปด้วยคอยตอบคำถามของผู้ใหญ่ทั้งสองไปด้วย อาการที่รู้สึกประหม่าและกังวลตั้งแต่ที่ยังมา
ไม่ถึงก็ค่อยๆดีขึ้น เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองดูเป็นกันเองโดยเฉพาะปรีญาวรรณคอยบอกให้ลูกชายตักโน่นตักนี่ให้ธารรพี เทนนิสนั่ง
สังเกตผู้ใหญ่ทั้งสองเหมือนจะชอบธารรพี เห็นแค่นี้เขาก็ดีใจไปด้วย เขานั่งกินข้าวเงียบเงียบไม่สนสายตาที่ปรีญารัตนมองมา
เขาเกือบลืมผู้หญิงคนไปแล้วถ้าวันนี้ไม่มาเจอที่นี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นญาติกัน เธอน่าจะเป็นน้องสาวของปืนที่ส่งไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่
เด็ก
”ป้าไม่ได้เจอเทนนิสตั้งนาน โตขึ้นมากเลย สบายดีไหมเรา”ปรีญาวรรณถามหลานชายที่นั่งเงียบตั้งแต่มาถึง ถ้าเป็นแต่ก่อนสามี
ของเธอคงไม่นั่งเงียบอย่างนี้
“ขอบคุณครับ สบายดีครับ แล้วคุณป้าละครับ”
“เรื่อยๆตามประสาคนแก่ ได้ยินว่าน้องธารเป็นรุ่นน้องที่มหาลัยของเราด้วย”
“ครับ”
“ถึงว่าทำไมพี่เราชอบไปหาบ่อยๆที่แท้ก็มีเป้าหมาย”
“ผมไปหาน้องจริงๆ”
“จ้าแม่เชื่อ ตักกับข้าวให้เทนนิสด้วยลูก กินเยอะๆนะลูกดูผอมไปนะเรา”
ท่าทางที่ดูสนิทสนมเป็นกันเองของปรีญาวรรณกับเทนนิสทำให้ปรีญารัตนอดแปลกใจไม่ได้ คงไม่ได้หมายความว่าแม่ของเธอ
รู้จักกับไอ้เด็กนี่หรอกนะ แล้วที่บอกว่าไม่ได้เจอตั้งนายหมายความว่ายังไงไม่เข้าใจ ไหนใครช่วยบอกเธอได้บ้าง
“เปรียวคงไม่รู้จักน้อง นี่เทนนิสลูกชายของอาอติพัทธ์”คำพูดของปรีญาวรรณ ทำให้ปรีญารีตน์ที่นั่งเงียบต้องกำมือแน่น
หมายความว่าไอ้เด็กนี่เป็นญาติของเธอ ไม่ยอม เธอไม่มีวันยอมรับเรื่องบ้าๆแบบนี้ได้หรอก ใครจะนับญาติกับมันก็ช่างแต่กับเธอ
ไม่ใช่ เธอจ้องไปที่เทนนิสส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้เธอ ยิ้มนี่หมายความยังไงต้องการที่จะยิ้มเยาะเย้ยเธอรึไง
“อย่างที่ผมเคยบอกก่อนหน้านี้ ผมจะโอนหุ้น 5% ให้น้อง และหลังจากเรียนจบผมจะให้น้องเข้าไปช่วยงาน ตอนนี้ผมกำลังจะ
เริ่มทำโครงการใหม่ Happy Mart”ปืนมองหน้าอธิพจน์ที่รู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว อธิพจน์นั่งฟังเงียบๆได้แค่พยักหน้าเบาๆ เขาจะทำ
อะไรได้ ในเมื่อตกลงกับลูกชายแล้วว่าถ้าสามารถกู้วิกฤต Happy Mall ได้สำเร็จเขาก็จะไม่ยุ่งทุกเรื่องของลูกชาย
ปรีญารัตนนั่งฟังมองใบหน้าของพ่อที่ไม่พูดอะไรสักคำ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เธอไม่พอใจ ทำไมหุ้น 5% นั่นไม่ใช่ของเธอแต่กลับ
เป็นของไอ้เด็กเหลือขอนี่ ก่อนหน้านี้ที่เธอจะเข้าไปช่วยงานที่บริษัทพี่ชายยังไม่ดีใจ หรือกระตือรือร้นอยากให้เธอไปช่วยงาน
อย่างนี้เลย เธอรู้สึกว่านั่งทนอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ไม่ไหว“ขอตัวก่อนนะคะ รู้สึกไม่ค่อยสบาย”รู้สึกว่าหายใจเอาอากาศเดียวกับ
ไอ้เด็กนี่แล้วรู้สึกแทบอยากอาเจียนออกมาให้ได้
เดินออกไปข้างนอก ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ ปรีญารัตนหยิบกิ่งไม้แห้งขึ้นฟาดกับต้นไม้ดอกไม้ในสวนเพื่อระบายอารมณ์
ความรู้สึกอึดอัดในใจ”นี่แน่ะ นี่แน่ะ แก ตายซะเถอะ ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กเหลือขอ ทำไมแกไม่ตายตายไปนะ ทำไม ไม่ใช่แค่พี่ชาย
ของเธอ พ่อกับแม่ก็คอยเห็นมันดีไปด้วย”ไม่ได้การแล้วเธอต้องทำอะไรซักอย่าง เธอไม่แพ้มันหรอก หยิบโทรศัพท์ออกมาจาก
กระเป๋ากดโทรศัพท์ โทรออกไป
“แพรนี่ฉันเอง แกรู้ไหมว่าพี่ปืนพาแฟนมาที่บ้าน ไม่พอยังพาไอ้เด็กคนนั้นมาด้วย”เธอหยุดฟังปลายสายพูด“แล้วไง แกพูด ว่า
แล้วไง แกรู้ไหมว่า ไอ้เด็กนั่นแม่บอกว่ามันเป็นญาติกับฉัน แล้วแค่นั้นยังไม่พอพี่ปืนพี่ชายฉันยังยกหุ้น 5% ให้มันแทนที่จะยกหุ้น
นั้นให้ฉัน คอยดูนะคราวนี้ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่ครั้งก่อนแค่ขู่แต่ครั้งหน้าของจริง ไม่มันก็ฉันต้องตายกันไปข้าง”เธอวางสายไป
แล้วใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาแต่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเกลียด
ใกล้ๆกันมีคนแอบฟังเรื่องราวที่ปรีญารัตนคุยผ่านโทรศัพท์ ดวงตาสีเข้มมองตามร่างคนที่คุยโทรศัพท์เมื่อครู่เดินหายเข้าไปใน
บ้าน ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ถ้าไม่ได้ยินเรื่องที่ปรีญารัตนคุยผ่านโทรศัพท์เมื่อครู่ก็คงไม่รู้ว่าใครที่ต้องการทำร้ายเขา การที่อยู่
เฉยๆไม่ได้แปลว่าใครจะเข้ามาหาเรื่องก็ได้ เขาไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นยิ่งถ้ารู้ว่าใครคือคนทำร้ายแล้วด้วย
“พี่เทนนิสมายืนทำอะไรตรงนี้”
“มาเดินย่อย พอดีกินเยอะไปหน่อย กับข้าวอร่อยทุกอย่างเลย”
“ใช่ คุณป้าทำกับข้าวอร่อยจริงๆ ธารก็กินไปเยอะเหมือนกัน”รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องยังไงไม่รู้เพราะเธอทำกับข้าวไม่เป็น ทั้งที่
แม่ของเธอก็เคยสอนแต่ทำออกมากลับไม่ได้เรื่อง
“เป็นไงบ้างรู้สึกเป็นยังไง”
“ดีกว่าที่คิดไว้ คุณลุงคุณป้าน่ารัก”โดยเฉพาะคุณป้าที่คอยสนใจถามโน่นถามนี่เรื่องของเธอ ถึงคุณลุงจะนั่งเงียบไม่ค่อยพูด และ
น้องสาวพี่ปืนที่ดูเหมือนไม่ค่อยเป็นมิตรแต่โดยรวมของการมาพบผู้ใหญ่ครั้งแรกก็ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ
วันหยุดพักผ่อนผ่านไปวันทำงานเริ่มต้นอีกครั้ง เทนนิสตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิซ เขาใช้ขนมปังโฮลเกรน
แผ่นหนาทาด้วยน้ำสลัดทูน่า วางบาโลน่าหมูลงไป ตามด้วยผักกาดแก้วแตงกวาสไลด์ บาโลน่าหมูอีกชั้นและขนมปังทาน้ำสลัด
อีกแผ่นกระกบลงไป จากนั้นเทน้ำผลไม้สดที่ได้จากเครื่องสกัดใส่กระติก เปลี่ยนจากดื่มกาแฟเปลี่ยนมาดื่มน้ำผลใม้สกัดสดเพื่อ
สุขภาพบ้างก็ดี จัดของใส่ตระกร้าร่างสูงแต่งตัวเรียบร้อยเดินออกมาจากห้อง
“วันนี้ทำอะไรให้กิน”
“แซนวิซกับน้ำผลไม้ ลองใช้เครื่องสกัดที่พี่ซื้อมาให้”
“อืม ตื่นแต่เช้ามาทำกับข้าวเหมือนแม่บ้านเลย”
“ผมว่าเหมือนพ่อบ้านก็พอมั้ง”
ธีรภัทรยิ้มให้คนตรงหน้าแล้วกดจมูกลงบนแก้มใส คนถูกฉวยโอกาสค้อนให้
เช้าวันทำงานผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังพักเที่ยงเสร็จทุกคนกลับเข้าทำงานปกติ เทนนิสเดินส่งเอกสารไปตามแผนกต่างๆ
“เอกสารพี่หมวยเซนต์รับด้วยครับ”
“แปบนะ พี่หยิบปากกาก่อน”
“นั่นพี่ดูอะไรอยู่ครับ”
“อ๋อ พี่ดูเทคนิคการแต่งหน้าเขียนคิ้ว เดียวนี้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับความสวยความงามแค่คลิกเดียวมีให้ดูหมดทุกอย่าง”
“ผมว่าผู้หญิงในคลิปเขาดูสวยอยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรมากก็สวยอยู่แล้วรึเปล่าครับ”
“คิดเหมือนพี่เลย แต่ถ้าหน้าตาไม่ดีใครเขาจะอยากดู”
“อาจจะริงอย่างที่พี่พูด แต่หน้าตาดีนิสัยแย่ แบบนั้นก็ไม่ไหวนะครับ”พูดแล้วคิดถึงญาติของเขาที่หน้าตาสวยแต่นิสัยไม่เหมือน
หน้าตา ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรอีกบ้าง
“พี่ก็คิดเหมือนเรา เหมือนที่เรากำลังทำงานกันอยู่ หน้าตาอาจมีส่วนช่วยในบางเรื่องแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เขาวัดกันที่ผลงาน ความ
สามารถ”
“ครับ”
“เออ แล้วแผนกเรางานปีใหม่บริษัทจะทำการแสดงอะไร”
“แอบสืบความลับแผนกจากผมหรือครับ ถามไปก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“อ้าว เป็นงั้นไป”
“แล้วรางวัลการแสดงนี่ได้เยอะไหมครับ”
“เยอะเหมือนกันนะ แต่อย่ามาถามแผนกที่ไม่เคยชนะมาก่อนเลย”พูดแล้วมันเศร้า”แต่ทุกคนจะลุ้นรางวัลต่างกายแฟนซีมากกว่ามี
ทั้งแต่งแบบทีม แบบเดี่ยวนะ”
มิน่าพนักงานสาวๆหลายคนคุยกันเรื่องไปหาเช่าชุดแฟนซีสวยสวยกัน เทนนิสเดินเอกสารเรียบร้อยกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะ เขา
รวบรวมรูปถ่ายเอกสารกิจกรรม ผลสำรวจแบบประเมิน กิจกกรมที่สามเพื่อดูผลตอบรับเบื้องต้น
นั่งทำงานจนเพลินเสียงสัญญาณเลิกงานดังขึ้น ถึงได้เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ วีร์มานั่งคุยกับเพื่อนสักพักก็กลับ เหมือน
พนักงานคนอื่น
อุณหภูมิค่อยค่อยลงลด หลายจังหวัดได้สัมผัสอากาศหนาว ทะเลหมอกและน้ำค้างแข็งในตอนเช้าบนยอดเขาสูง ในเมือง
หลวงเสื้อกันหนาวแฟชั่นใหม่ออกมาวางขาย วันหยุดสิ้นปีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหลายคนวางแผนไว้แล้วเรียบร้อย
หลายคนเลือกเดินทางออกต่างจังหวัด การฝึกประสบการณ์ของเทนนิสและเพื่อนสิ้นสุดลงแล้ว หลายคนโห่ร้องออกมาด้วยความ
ดีใจ รอผลประเมินที่ทางบริษัทไปฝึกงานส่งมาให้มหาวิทยาลัย และส่งเล่มรายงานหลังจากฝึกงานเสร็จ ทางมหาวิทยาลัย
ประกาศวันสอบออกมาแล้วสองสัปดาห์ก่อน เขาและเพื่อนวิ่งวุ่นส่งงานเกือบทั้งสัปดาห์ และจะเริ่มสอบวิชาแรกในวันพรุ่งนี้ คน
ขยันกำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะ ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องวางแก้วนมอุ่นบนโต๊ะ
“พักหน่อยไหม พี่เห็นเราอ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว”มือหนาวางที่ไหล่อีกฝ่ายบีบนวดคลึงเบาๆ
“สบาย จังเลย”เพิ่งรู้ว่ามีแฟนเป็นหมอนวด
“ถ้าเหนื่อยก็พักก่อน ตอนนี้พี่มีแฟนเป็นหมีแพนด้าแล้ว”นิ้วเรียวลูบไปบนขอบตาที่บวมช้ำเพราะอดนอนติดต่อกันหลายวัน สภาพ
เขาตอนนี้คงแย่น่าดู ใครใช้ให้ต้องส่งรายงานหลายชิ้นก่อนสอบกัน ไม่พอยังเป็นรายงานที่ต้องเขียนด้วยมืออีก อย่างนี้มันฆ่ากัน
ทางอ้อมชัดๆ
“อีกนิดครับ เดี๋ยวจะจบแล้ว”รู้สึกเพลียเหมือนกันคอยดูพรุ่งนี้สอบเสร็จจะรีบกลับมานอน นอน และก็นอน
“อืม” นี่ขยันขนาดนี้ กะจะเอาเกียรตินิยมเลยรึไง
“ถ้าง่วงนอนก่อนได้เลยครับ ไม่ต้องรอ”
ธีรภัทรนอนบนเตียงเอนหลังพิงหมอนนั่งมองคนขยัน“หลังเรียนจบ คิดไว้แล้วรึยังว่าจะทำอะไร”
“อือ ผมจะไปทำงานช่วยพี่ปืน กำลังจะทำ Happy Mart”
“Happy Mart”
“ใช่ Happy Mart ตอนนี้แผนงานส่วนหนึ่งเรียบร้อยแล้ว”เทนนิสปิดหนังสือแล้วลงไปนอนข้างๆคนตัวโต
“เหมือนถูกทิ้ง”
“แค่ไปทำงานกับพี่ เลิกงานก็กลับมาเจอกัน วันหยุดก็ไปเที่ยวกัน”
ไม่มีอะไรแค่ไม่อยากให้น้องไปอยู่กับไอ้พี่ชายหวงน้องเท่านั้นไม่รู้ว่าจะเล่นตลกอะไรอีก“ทำงานแล้วเก็บเงิน มาขอพี่นะจะบอก
แม่ไว้ไม่ให้เอาค่าสินสอดเยอะๆ”
“บอกแม่ยกให้ฟรีไม่ได้หรอ”เทนนิสเลื่อนมือไปหยิกแก้มอีกฝ่ายอย่างหมั่นเคี่ยว
แหม พูดเหมือนไปขอลูกหมาอย่างงั้นแหล่ะ”ให้พี่หอบกระเป๋าหนีตามไปเลยไหม อ้าว หลับไปแล้ว นอนดึกมาหลายวันแล้วนี่นา
ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก”ริมฝีปากหนากดลงบนหน้าผากเนียน
ธีรภัทรขับรถออกมาจากบริษัทมารับเทนนิสที่มหาวิทยาลัย วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย ส่วนที่บริษัทคืนนี้มีงานเลี้ยงปีใหม่
ก่อนจะปิดยาวถึงปีใหม่ ตอนสายนิมนต์พระมาฉันภัตรตาหารเพลที่บริษัท จากนั้นปล่อยให้พนักงานเตรียมตัวสำหรับงานคืนนี้ เขา
ตั้งใจมารับอีกฝ่ายไปเตรียมตัวไปงานคืนนี้ด้วยกัน เลี้ยวรถเข้าไปในคณะลานจอดรถปกติที่มีรถจอดอยู่เต็มวันนี้ดูโล่ง ดูเหมือนว่า
วันนี้สอบวันสุดท้ายของมหาวิทยาลัยแล้ว จอดรถเสร็จแล้วเขานั่งรออีกฝ่ายอยู่ในรถ คอยชะเง้อมองหาอีกฝ่ายว่าสอบเสร็จแล้วรึ
ยัง รอไม่นานเห็นเทนนิสเดินลงมาจากอาคารเรียน ยืนคุยกับกลุ่มเพื่อนสนิทสองสามคนไม่รู้ว่าพูดอะไรแล้วก็แยกกันเดินตรงมาที่
รถ
“บรี้น บรี้นนนนนนนนนน”
ธีรภัทรนั่งอยู่ในรถได้เสียงแตรรถดังขึ้น เกิดลางสังหรณ์ใจไม่ดีเขารีบลงมาจากรถ”เทนนิส”ริมฝีปากหนาขยับแทบไม่มีเสียงออก
มา เขาวิ่งเข้าไปดูคนที่นั่งกองอยู่บนพื้น“เทนนิส”ธีรภัทรเรียกคนที่นั่งอยู่”เป็นอะไรมากไหม”สำรวจตามเนื้อตัวที่มีแผลถลอกและ
เลือดไหลหลายที่
“โอ๊ย พี่ธีร์”คนเจ็บร้องออกมาเมื่อถูกจับที่แขน
“เป็นอะไรมากไหม”
“เจ็บแขน”
“เทนนิสเป็นอะไรมากไหม”วีร์กำลังจะไปขึ้นรถแต่ได้ยินเสียงรถบีบแตรดังหันกลับมาเห็นเพื่อนนั่งกองอยู่กับพื้น เลยรีบวิ่งเข้ามา
ดู”พี่ธีร์พามันไปส่งโรงพยาบาลดีกว่า”
“ลุกไหวไหม”
คนเจ็บพยักหน้า ร่างสูงรีบอุ้มไปที่รถแล้วตรงไปที่โรงพยาบาล
หมอทำแผลตรวจร่างกายคนเจ็บเรียบร้อยแล้ว เทนนิสถูกพามาพักที่ห้อง ถึงดูภายนอกแผลไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ เอ็กเรย์
ร่างกายแขนซ้ายหักต้องใส่เฝือกสักระยะ สแกนสองไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่หมออยากให้นอนดูอาการสักคืน ธีรภัทรโล่งใจขึ้น
เมื่อเห็นคนเจ็บเข้ามาในห้อง เขาเข้าไปถามอาการคนป่วยจากหมอ แล้วลงไปหาซื้ออะไรให้คนป่วยก่อนกินยาเพราะเทนนิสไม่
ชอบอาหารโรงพยาบาลที่เตรียมให้ ธีรภัทรกลับเข้าห้องมาอีกครั้งเห็นคนป่วยนอนดูโทรทัศน์อยู่ เขาจัดการเทข้าวต้มใส่ถ้วยให้
คนป่วย
“กินรองท้องก่อนกินยา ตัวเริ่มร้อนแล้วคงจะมีไข้”มือหนาวางบนหน้าผากมน เลื่อนมาจับแก้มนุ่มที่เริ่มร้อนเพราะพิษไข้
“ปวดตามเนื้อตามตัวด้วย”คนป่วยกินข้าวต้มอย่างว่าง่าย อย่างน้อยก็รสชาติดีกว่ากับข้าวโรงพยาบาลเป็นไหนๆ นั่งกินข้าวอยู่
โทรศัพท์อีกฝ่ายดังขึ้น เห็นคุยได้ไม่นานก็วาง“มีธุระหรอครับ”
“ตำรวจโทรมา บอกว่าจับคนร้ายได้แล้ว”คราวนี้ทำงานได้เร็วดี คงเพราะหลักฐานที่เขาให้คนคอยตามสืบมาด้วย ธีรภัทรมองคน
เจ็บอย่างเป็นห่วงรู้ว่าใครเป็นคนจ้างวานให้ลงทำร้ายคนรัก
“ดีที่ผมเห็นรถเก่งคันนั้นก่อนไม่งั้นเจ็บหนักกว่านี้แน่”ดูเหมือนว่าคนร้ายอยากให้เขาตาย
“พี่บอกเพื่อนเราแล้วว่าเราไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องแห่กันมาเยี่ยม”มือหนาลูบแก้มใส ที่ดูซีดและตัวร้อน
“ขอบคุณครับ แล้วงานคืนนี้จะเอาไงครับ”ดูสภาพตัวเองแล้วคงแบกสังขารไปงานด้วยไม่ได้ อุส่าว่าจะกินของอร่อยซะหน่อยแต่ก็
อดเลย
“อยากไปรึไงเรา”
“ก็อยากไปอยู่แต่สภาพนี้คงไม่ไหว”
“แฟนซีใส่เฝือกไง”
ล้อเล่นรึไง“ผมว่าปีใหม่จะไปไหว้พระทำบุญบ้าง เข้าออกโรงพยาบาลหลายรอบแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“ดีเหมือนกัน”เขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีที่เห็นอีกฝ่ายเสียเลือดบ่อยๆ”กินข้าวแล้วกินยาจะได้นอนพัก พี่จะไปคุยกับตำรวจหน่อยแล้วจะ
รีบกลับมาเฝ้า”
“ครับ”ธีรภัทรปรับเตียงให้คนป่วย ดึงผ้าห่มให้ กดจมูกลงบนหน้าผาก แล้วเดินออกไปจากห้อง
หลับไปได้สักพักได้ยินเสียงคนคุยกันในห้อง ไม่รู้ว่าคุยอะไรอยู่แต่เสียงดังจนคนที่หลับอยู่ต้องตื่นขึ้นมาดูว่าใคร คนป่วย
ตื่นขึ้นมามองไปรอบๆห้องเห็นคนรักและพี่ชายยืนคุยกันอยู่
“พี่ปืน มาได้ไง”
“เป็นไงบ้างเรา”ปืนเดินมายืนข้างเตียงน้องชาย เห็นคนป่วยแล้วรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“พี่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังไปทำเรื่องประกันตัวเปรียวออกมา”รู้สึกผิดที่น้องสาวตัวดีคิดจะฆ่าญาติตัวเอง รู้ว่า
น้องชายถูกรถชนจนต้องมานอนโรงพยาบาล แถมได้ยินมาว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกปรีญารัตนจ้างวานคนมาทำร้าย”ไม่ต้องห่วงนะ
พี่จะไม่ให้เปรียวมาทำร้ายเราอีก”
คนป่วยหันไปมองร่างสูงยืนกอดอกทำหน้าตาไม่สบอารมณ์อยู่ข้างเตียง ไม่รู้ว่าสองคนนี้คุยอะไรกันอยู่แต่ท่าทางเครียดน่า
ดู“ครับ”
“พี่ขอโทษแทนเปรียวด้วย หลักฐานพยานมัดตัวแน่นข้อหาจ้างวานโทษหนักทีเดียว”
“ไม่ใช่ความผิดของพี่นี่ ไม่ต้องคิดมาก”
“ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เปรียวกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ แต่คนทำความผิดก็คงต้องรับโทษที่ทำไว้”
ปืนขอบใจน้องชายที่เข้าใจ เขาปล่อยให้คนป่วยพักผ่อนแล้วกลับไปหาพ่อกับแม่ที่กำลังทำเรื่องประกันตัวน้องสาว
วันต่อมาคนป่วยอาการดีขึ้นร่างกายไม่มีอาการผิดปกติ หมออนุญาตให้กลับได้ กลับมาถึงห้องเทนนิสคุยกับเพื่อนผ่านโซ
เชียบเอฟบอกอาการป่วยว่าดีขึ้นแล้วไม่เป็นห่วง ส่วนเรื่องคนร้ายปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจัดการ เขาอัพเดทข่าวสารเห็นพี่
ที่บริษัทฝึกงานโพสตข้อความลงว่าได้ของขวัญปีใหม่เป็นอะไรบ้าง เห็นภาพที่แต่ละคนเอาลงแล้วอิจฉา
ผ่านไปหนึ่งวันนอนพักผ่อนอยู่ห้องตั้งแต่เช้าถึงเย็นแถมมีคนคอยดูแลอย่างดี อาการปวดเมื่อยและไข้ก็ลดลง
วันต่อมาเทนนิสไปให้ปากคำกับทางตำรวจมีธีรภัทรไปเป็นเพื่อน เสร็จจากนั้นไปทำบุญที่วัดแล้วกลับบ้าน
เช้าวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มาถึง อุณหภูมิลดลงอีกอากาศในตอนเช้าหนาวเย็น จนทำให้เทนนิสขยับตัวเล็กน้อยพลิก
ตัวเข้าไปหาคนนอนข้างๆ
“หนาวหรอ”ธีรภัทรกอดคนต้องการความอบอุ่นไว้
“นิดหน่อย”ได้กอดคนข้างๆแล้วรู้สึกอุ่นขึ้นเยอะเลย
“วันนี้ไปไหว้แม่พี่กัน”
“อือ ผมยังไม่ได้เตรียมของขวัญเลย”ของขวัญแฝดก็ยังไม่ได้เตรียม แต่ของพี่ผมมีแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก แม่พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”คนนอนอยู่เงยหน้ามองคนตัวโตที่ลูบแผ่นหลังเขาอยู่”เรื่องของเรา”ฟังดูแล้วรู้สึกกลัวอยู่
บ้างที่ต้องไปเจอคุณป้าในฐานะคนรักลูกชายของท่าน ไม่รู้ว่าจะเป็นยังบ้าง เวลานี้เขาเข้าใจความรู้สึกของธารรพีแล้ว
เย็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เทนนิสนั่ง รวมกินข้าวกับครอบครัวของธีรภัทร ก่อนหน้านี้เขาได้ขึ้นไปคุยกับทิพวรรณบน
ห้อง
“แม่รู้เรื่องเราทั้งคู่แล้ว ตอนแรกก็ตกใจอยู่บ้าน แต่เห็นว่าตาธีร์โตแล้ว”
“ขอบคุณครับแม่ที่เข้าใจ”
หญิงสูงวัยหนักใจอยู่บ้างเรื่องความรักที่ไม่ปกติของลูกชาย แต่เห็นลูกชายที่เปลี่ยนไปหลายก็เข้าใจ เรื่องความรักมันบังคับกัน
ไม่ได้”แม่ไม่มีอะไรจะให้ มีแค่สร้อยพระ”เธอหยิบสร้อยพระที่เตรียมไว้สวมให้คนละเส้น ให้พระช่วยคุ้มครอง”เทนนิสเอาลูกชาย
แม่ไปแล้วดูแลพี่เขาให้ดีนะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน มีอะไรค่อยพูดค่อยจา”
“ครับ”ตอบรับแล้วหันไปมองคนข้างๆ เห็นธีรภัทรหยิบแหวนออกมาจากกล่องกำมะหยี่ จับมือขาวมาแล้วสวมแหวนทองคำขาวให้
อีกฝ่าย
“พี่จองไว้ก่อน กลัวคนมาแย่งไป”เทนนิสยิ้มให้คนสวมแหวน”ขอบคุณครับ”
“สวมแหวนให้พี่ด้วยสิ”เทนนิสหยิบแหวนในกล่องอีกวงสวมให้อีกฝ่าย ดูไปแล้วเหมือนงานแต่งงานยังไงไม่รู้ และยังมีคุณแม่ช่วย
เป็นพยาน
อาหารมื้อค่ำผ่านไปอย่างอบอุ่น เทนนิสเอาของขวัญที่เตรียมมาให้แฝด เด็กๆดีใจที่ได้ของขวัญ ธีรภัทรพาเทนนิสขึ้นไป
บนห้อง
เทนนิสเดินสำรวจห้องนอนคนรักแล้วเดินออกไปนอกระเบียง เหมือนมองจากตรงนี้จะเห็นห้องของเขาพอดีไม่รู้คิดไปเองรึ
เปล่า
“มายืนข้างนอกไม่หนาวหรอ”ร่างสูงกอดอีกฝ่าย
“นิดหน่อยครับ นี่มองจากตรงนี้เห็นห้องผมพอดีเลย”
“หึ หึ ใช่”
“วันนี้ของปีที่แล้ว เรายังเป็นแค่เพื่อนบ้านกัน ผมยังได้ไปนอนที่คอนโดพี่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแฟนแล้ว”
“อืม เดี๋ยวปีหน้าก็จะได้เป็นเมียพี่แล้ว”
“ดึกแล้วผมกลับก่อนนะ”
ธีรภัทรยิ้มเมื่อรู้ความคิดอีกฝ่าย“วันนี้นอนที่นี่นะ”
“ก็..ก็ได้”เทนนิสตอบเสียงค่อย
ธีรภัทรกอดอีกฝ่ายไว้แน่นกลัวว่าจะหนาว ใครจะรู้ว่าเด็กหนุ่มในอ้อมกอดเขาคนนี้ จะทำให้เขาที่ไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากทำงาน
ได้มารู้จักความรัก ทั้งสองยืนมองท้องฟ้าในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จนเข้าสู่วันแรกของปี
“พี่รักเรานะ”คำพูดบอกรักดังข้างหู
“ผมก็รักพี่ธีร์เหมือนกัน”บอกรักคนตรงหน้าออกไป ริมปากบางก็ถูกริมฝีปากอีกฝ่ายประกบลงมา เป็นจูบที่เนิ่นนาน อบอุ่น
เป็นคำสัญญาว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรแต่พวกเขาทั้งคู่ จะทำช่วงเวลาของทุกวันให้มีความสุขตลอดไป
********************************************************************
จบแล้วจ้า
[/size]