บทที่ 11 ช่อม่วง
ปิ๊งป่อง เจ้าของห้องโผล่หน้าออกมาก่อนจะยิ้มหวานให้ “ดั้นเมฆ”
“เราขอรบกวนหน่อยนะแบ๋ม”
“ไม่ได้รบกวนหรอก เข้ามาเลย” ร่างบางเปิดประตูให้ ผมเดินเข้ามาในคอนโดฯ ของบ๋อมแบ๋มพลางมองซ้ายมองขวา ห้องกว้างใช้ได้เลยนะเนี่ย ดูทรงแล้วคอนโดฯ ห้องนี้น่าจะแพงเอาเรื่อง
“แบกอะไรมาเยอะแยะเลย”
“อ๋อ เรากะว่าจะมาทำขนมให้กินด้วยอะ เดี๋ยวขอยืมครัวหน่อยนะ” ผมบอกก่อนจะวางของทั้งหมดไว้ที่เคาน์เตอร์ครัว
“ตามสบายเลย เราเพิ่งรู้นะว่าเมฆทำขนมเป็นด้วย”
“คุณย่าสอนน่ะ แล้วนี่ช่อม่วงอยู่ไหนเหรอ”
“ในห้องนอนอะ เมฆเข้าไปปลุกช่อละกัน เดี๋ยวเราออกไปซื้อของแป๊บนึง”
“โอเค” ผมรับคำพลางมองเจ้าของห้องเดินออกไป
เมื่อวานที่ช่อม่วงมาหาผมที่ร้าน สภาพเขาคือโดนทำร้ายมา เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าคนที่ทำร้ายก็คือพ่อของเขาเอง ผมไม่เข้าใจพ่อของช่อม่วงเลยสักนิด ถึงจะมีปัญหากันยังไงแต่ก็ไม่ควรทำร้ายร่างกายกันขนาดนั้น นี่ดีนะว่ามันตรงกับช่วงวันหยุดพอดี เลยพอมีเวลาให้ช่อม่วงได้พักหน่อย เอาจริงๆ เมื่อคืนผมเป็นห่วงเขามากเลยนะ อยากจะให้เขามาค้างที่บ้านด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่ว่าผมเป็นกระต่ายกากอยู่ไง
ความจะแตกเอา
ผมเลยบอกให้ช่อม่วงติดต่อเพื่อนสักคนแล้วก็ขอไปค้างด้วย ซึ่งคอนโดฯ ของบ๋อมแบ๋มถือว่าโอเคอยู่เพราะเธออยู่คนเดียวแถมยังสนิทที่สุด ถ้าจะฝากเขาไว้กับใครสักคนก็ต้องบ๋อมแบ๋มนี่แหละ ผมว่าช่อม่วงน่าจะโทรบอกน้าเขาเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วนะ เมื่อคืนหลังจากที่เลิกงานผมก็ทำเนียนโทรไปหาช่อม่วงด้วย ก็นั่นแหละ เขาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ผมปลอบเขาไปแล้วบอกวันนี้จะมาหา
จะมาทำขนมให้กินด้วย
ผมเดินเข้ามาในห้องนอนก็พบกับร่างโปร่งที่ซุกอยู่ในผ้าห่ม ตอนนี้ 10 โมงกว่าแล้วนะครับแต่เหมือนคนขี้เซาจะยังไม่ตื่น ใจนึงผมก็อยากให้เขานอนเยอะๆ แต่อีกใจก็อยากปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาคุยกับผม แปลกตาจริงๆ ที่ใบหน้าขาวมีรอยช้ำเยอะไปหมดแบบนี้ ไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลากี่วันมันถึงจะหายดี ผมเลื่อนนิ้วไปเกลี่ยที่แก้มช่อม่วง คนที่หลับอยู่ส่งเสียงครางในลำคอออกมาเบาๆ
“อื้มมม....ม.....แบ๋ม”
“ไม่ใช่แบ๋มนะ” ผมเอ่ยบอกเขาก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปลูบหัวแทน “ตื่นได้แล้ว เรามาหาช่อแล้วนะ”
ร่างโปร่งลืมตาขึ้นมองผม “.....ดั้นเมฆ”
“เป็นไงบ้างหืม....ยังเจ็บอยู่รึเปล่า”
“ดีขึ้นมากแล้วแหละ” ดวงตาเรียวมองผมนิ่งๆ “เมฆลูบหัวเราด้วย”
“ไม่ชอบเหรอ ถ้างั้นเรา......”
เจ้าตัวจับมือผมเอาไว้ที่เดิม “เปล่า ยังไม่ทันบอกเลยว่าไม่ชอบ”
“งั้นก็แปลว่าชอบน่ะสิ”
“มันก็ดีอะ มันไม่ได้แย่” เขาบ่นอุบอิบ “แล้วนี่เมฆมานานรึยัง”
“เพิ่งมานี่แหละ เราว่าจะปลุกช่อไปช่วยทำขนมหน่อย”
“ทำขนมงั้นเหรอ”
“อื้ม เดี๋ยวเรารอข้างนอกนะ ช่อก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกมาละกัน” ผมยิ้มหวานให้เขา ช่อม่วงพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปห้องน้ำ
สีหน้าเขาดูโอเคขึ้นนะ ผมว่าในใจนั่นน่าจะยังเศร้าอยู่แต่คงไม่มากเท่าเมื่อวาน อาจเป็นเพราะเขาเล่าเรื่องราวที่เจอมาให้คนอื่นได้ฟังมั้ง การระบายคงทำให้เขารู้สึกดีขึ้นนั่นแหละ แต่แค่นี้ยังไม่พอหรอก ผมจะทำให้ช่อม่วงยิ้มให้มากกว่านี้ให้ได้ ผมเป็นคนโลภครับ รอยยิ้มของคนที่ผมชอบเนี่ยะ เห็นเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกว่ามันพอจริงๆ ถึงแม้ว่าตัวเองจะดูเป็นคนพิเศษที่ได้เห็นมันบ่อยๆ ก็เถอะ
แต่เชื่อไหมว่ามีคนพิเศษกว่าผม
กระต่ายกากที่ชื่อว่า....ไวท์บันนี่ไง
ช่อม่วงยิ้มให้นังกระต่ายกากมากกว่ายิ้มให้ผมอีก ถึงแม้ว่าไวท์บันนี่คือตัวผมแต่ช่อม่วงเขาไม่รู้ไง เขาต้องคิดว่าเป็นคนอื่น นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมอิจฉาแล้วก็หึงตัวเอง รู้อยู่หรอกว่ามันเป็นเรื่องบ้าบอแต่คิดทีไรก็น่าหงุดหงิดใจจริงๆ นั่นแหละ ทุกวันนี้ก็คิดนะครับว่าเมื่อถึงวันที่ผมต้องบอกเขาว่าไวท์บันนี่กับดั้นเมฆเป็นคนๆ เดียว ถึงเวลานั้นผมจะพูดออกไปยังไงดี
กลัวเขาโกรธที่ผมปิดบัง
แต่ถึงยังไงมันก็ต้องมีแน่ๆ แหละวันที่ผมบอกเขา ก็ขออวยพรให้ตัวเองโชคดีมีชัยล่วงหน้าเลยละกัน ผมเดินออกมาเตรียมของไว้โดยจัดแจงล้างวัตถุดิบรอช่อม่วง ขนมที่ตั้งใจจะทำวันนี้ค่อนข้างใช้เวลาอยู่เหมือนกันแต่ผมคิดว่าเขาน่าจะชอบนะ เพราะทุกครั้งที่ไปที่ MASCOT แล้วถ้ามีขนมอันนี้เขาจะสั่งเยอะเป็นพิเศษ ที่น่าเหลือเชื่อคือกินจนหมดเกลี้ยงเลยด้วย
ขนมที่เหมือนกับชื่อของเขาน่ะ
“ช่อตื่นแล้วใช่ไหมเมฆ” บ๋อมแบ๋มถามพลางเอาของเก็บไว้ในตู้เย็น
“อื้ม คงล้างหน้าแปรงฟันอยู่น่ะ เมื่อคืนช่อได้เล่าอะไรให้แบ๋มฟังไหม”
“ก็เล่านะ น่าจะเรื่องเดียวกับที่เมฆรู้นั่นแหละ” ร่างบางเดินมานั่งบนเก้าอี้ ใกล้ๆ เคาน์เตอร์ “เราเป็นเพื่อนของช่อก็จริงนะแต่ว่าเราไม่เคยรู้เลยว่าครอบครัวของช่อเป็นยังไง เขาไม่เคยเล่าให้ฟังเลยล่ะ เราไม่เคยเห็นช่อทำหน้าเศร้าขนาดนี้ด้วย มันเป็นครั้งแรก”
“เราก็เหมือนกัน ไม่รู้ด้วยว่าช่อจะทำยังไงต่อ เราได้แต่หวังว่าเรื่องทุกอย่างมันคงจะดีขึ้น”
“มันต้องดีขึ้นนั่นแหละ”
ร่างโปร่งออกมาจากห้องก่อนจะเดินเข้ามาทางพวกเรา “เราพร้อมละ จะทำขนมอะไรเหรอ”
“ช่อม่วง”
“เรียกเราทำไม” เจ้าของชื่อถามผมพลางทำตาใสใส่ นี่เขาไม่รู้หรือเล่นมุกวะเนี่ย
“ติ๊งต๊องน่ะช่อ” มือบางบีบที่แก้มช่อม่วงอย่างมันเขี้ยว “เมฆหมายถึงจะทำช่อม่วง เขาไม่ได้เรียกแก”
“อ๋อ งี้นี่เอง” เขารับคำก่อนจะไล่มองดูของทั้งหมด “ทำเลยไหม หิวแล้วอะ จะได้เสร็จเร็วๆ ”
“เอาสิ เราเตรียมของไว้ทั้งหมดแล้ว มาลงมือทำกันเลย”
“มีอะไรให้เราช่วยป้ะ หรือจะทำกันสองคน” บ๋อมแบ๋มเอ่ยถาม
“แบ๋มอยากช่วยป้ะล่ะ” ช่อม่วงเหลือบมองเธอพลางมองประตูห้องนอน
ร่างบางส่ายหน้าช้าๆ “เรา....รอกินละกัน เดี๋ยวดูหนังรอในห้องนะ เสร็จแล้วก็เรียกด้วย” เธอยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินไปทันที เอาล่ะ ทีนี้ก็เหลือผมกับช่อม่วงแค่สองคนแล้ว
สำหรับขนมช่อม่วงเนี่ยะ วิธีการทำค่อนข้างหลายขั้นตอนพอสมควรเพราะต้องทำไส้และก็ทำตัวแป้ง แต่ว่ามันเป็นขนมที่ผมทำบ่อยนะ ถือว่าคล่องมือพอสมควรเลยครับ ก่อนที่จะทำแป้งผมจะทำไส้ก่อน พอคิดได้แบบนั้นผมก็หยิบสันในไก่มาหั่นเป็นชิ้นก่อนจะสับละเอียด ต้องหั่นหอมใหญ่ด้วยแต่เดี๋ยวผมจะทำเอง
ไม่อยากให้ช่อม่วงต้องแสบตาอะ
“เมฆให้เราทำอะไรบ้าง”
“ช่อเห็นสามเกลอในครกป้ะ”
“สามเกลอเหรอ”
“อื้ม คือมันเป็นส่วนผสมที่ใช้เรียกรากผักชี กระเทียม พริกไทยอะ” ผมบอกเขา “ตำละเอียดเลยนะ เดี๋ยวต้องเอาไปผัดรวมกัน”
“โอเค” มือเรียวจับสากก่อนจะตำส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด “เพิ่งรู้เลยนะว่าเขาเรียกว่าสามเกลอ”
“เราก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมเขาถึงเรียกแบบนั้น แต่คุณย่าสอนมาแบบนี้ก็เลยจำมาด้วยน่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง อะเสร็จแล้ว ละเอียดยิบเลย”
“เดี๋ยวเราผัดไก่แป๊บละกัน” ผมตั้งกระทะก่อนจะตักสามเกลอในครกมาใส่ ตามด้วยไก่และหอมใหญ่สับตามลำดับ พอไก่เริ่มสุกก็ปรุงรสด้วย น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย เกลือป่นและน้ำปลาครับ จากนั้นก็ผัดจนแห้งเลย
“คล่องจัง เราไม่ค่อยชอบทำกับข้าวอะ เวลาน้ำมันกระเด็นใส่มันแสบ”
“ตอนเราเด็กๆ เราก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่มันก็สนุกดีนะเวลาทำกับข้าวหรือทำขนม จนมาวันนึงมันก็ชินไปเอง เออช่อล้างดอกอัญชันแล้วก็เด็ดขั้วออกให้เราหน่อยสิ เดี๋ยวเราจะเอาไปต้ม”
“ได้เลย”
ผมมองร่างโปร่งที่กำลังจัดการกับดอกอัญชัน ตอนนี้ไส้ไก่เสร็จแล้วครับเดี๋ยวพักไว้ให้เย็นก่อน ผมย้ายมาเตรียมในส่วนของแป้งต่อ แป้งของขนมช่อม่วงจะใช้แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้งข้าวเหนียวแล้วก็แป้งท้าวฯ
“เราต้มน้ำไว้ให้แล้วอะ ช่อใส่ดอกอัญชันลงไปเลยนะ แล้วก็ต้มจนสีดอกซีดเลย”
“โอเค” มือเรียวเทดอกอัญชันลงไปในหม้อ ใช้เวลาไม่นานนักเพื่อรอให้ดอกซีด หลังจากนั้นผมก็บีบมะนาวใส่ลงไปนิดหน่อยก่อนจะยกน้ำอัญชันมากรองแล้วค่อยนำไปใช้ แต่เดี๋ยวต้องรอให้เย็นขึ้นด้วย
ระหว่างรอน้ำอัญชัน ผมก็หยิบกระเทียมกลีบเล็กมาใส่ในครกก่อนจะดันไปทางช่อม่วง เจ้าตัวตำอย่างรู้งาน เดี๋ยวทำกระเทียมมเจียวก่อนครับไว้กินเคียงกับขนม ผมเดินไปตั้งไฟอ่อนๆ แล้วตักกระเทียมละเอียดในครกไปเจียว ต้องเจียวจนเหลืองเพื่อที่จะได้มีกลิ่นหอม พอเจียวเสร็จก็ต้องกรองแยกน้ำมันออก ส่วนของน้ำมันที่เราใช้เจียวกระเทียมผมจะนำมาทาบนใบตองที่ใช้นึ่งขนม
อื้มมมม.....อยากให้เสร็จเร็วๆ จัง
“หอม” ช่อม่วงโผล่หน้ามาจากด้านหลัง “อยากกินแล้ว”
“เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว” ผมกรองกระเทียมเจียวกับน้ำมันออกจากกัน “เดี๋ยวทำแป้งกัน”
“มันต้องใส่อะไรบ้างอะ”
“นี่ไงเราเตรียมแป้งไว้แล้ว เดี๋ยวใส่หัวกะทิกับน้ำอัญชัน ช่อหยิบมาเทให้เราเลยก็ได้”
“เยอะไหม” ช่อม่วงหยิบถ้วยหัวกะทิกับน้ำอัญชันมาก่อนจะเทช้าๆ
“ทั้งหมดนั่นแหละ เรากะสัดส่วนไว้แล้ว” ผมเริ่มคนแป้งให้เข้ากัน “เดี๋ยวเราต้องกวนแป้งแต่ก่อนหน้านั้นต้องกรองก่อน”
“ทำไมต้องกรองอะ”
“เพราะบางทีแป้งมันจะเป็นเม็ดๆ ไง การกรองก็เพื่อให้เนื้อแป้งมันละเอียด”
เขาพยักหน้ารับรู้ “อย่างนี้นี่เอง”
“เดี๋ยวช่อตั้งไฟอ่อนนะ เราจะกรองลงกระทะเลย”
“ได้” ร่างโปร่งหยิบกระทะใบใหม่ก่อนจะตั้งใจตามที่บอก ผมยกชามแป้งขึ้นเหนือกระทะแล้วเทผ่านตัวกรอง เอาล่ะ ต่อจากนี้ก็จะกวนจนแป้งร่อนแล้วไม่ติดกระทะนะครับ
ผมยืนกวนแป้งไปเรื่อยๆ โดยมีช่อม่วงยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างสนใจ บ่อยครั้งที่เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไว้ด้วย ผมดีใจนะที่ได้เห็นสีหน้าที่ดีขึ้นของเขาน่ะ อย่างน้อยการที่เรามาช่วยกันทำขนมมันก็น่าจะทำให้เขาลืมเรื่องแย่ๆ ไปได้บ้าง ถ้าผมมีโอกาสได้ทำขนมกับเขาบ่อยๆ ก็คงดี ชอบนะครับเวลาได้เห็นแววตาที่ดูตื่นเต้นน่ะ
น่ารัก
ใช้เวลาสักพักแป้งก็ร่อนจนจับตัวเป็นก้อนแล้วครับ เดี๋ยวต้องนวดก่อนจะนำมาใช้ห่อไส้ ผมหยิบแป้งนวลมาโรยแล้วเริ่มจัดการนวดแป้ง ช่อม่วงจะรู้ไหมว่าเขายืนชิดผมมากแค่ไหน คือหน้าเขาแนบอยู่กับแขนผมเลยแหละ คงอยากเห็นว่าผมทำยังไง กลัวเหมือนกันว่าจังหวะที่ขยับแขนแล้วมันจะไปกระแทกแผลบนหน้าเขาซะจริง พอคิดได้แบบนั้นผมควรเปลี่ยนท่ายืนหน่อยละล่ะ
เป็นแบบนี้น่าจะดีกว่านะ
“เมฆทำอะไรเนี่ยะ”
“เรากลัวแขนมันจะไปกระแทกหน้าช่อน่ะสิถ้าช่อยังอยู่ตรงนั้น” ผมถือวิสาสะเอามือตัวเองที่เปื้อนแป้งนวลไปลูบบนฝ่ามือเขา “เดี๋ยวเราสอนช่อนวดแป้ง....เอาไหม”
“.....อื้ม” เขารับคำพลางก้มหน้ามองแป้งอยู่อย่างนั้น น่าเอ็นดูจังเลยน้า ขอเถอะ ใบหน้าและท่าทางแบบนี้ขอให้ผมได้เป็นคนเดียวที่ได้เห็น
เพี้ยง
ผมเริ่มนวดแป้งต่อ มือเรียวก็ทำตามผม ใจเต้นแรงเหมือนกันนะที่เราสองคนอยู่ในท่ายืนแบบนี้น่ะ ช่อม่วงอยู่ด้านหน้าโดยมีผมยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง อารมณ์เหมือนผมกำลังกอดเขาอยู่ เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองตัวใหญ่มากเลยว่ะ มันทำให้นึกถึงตอนที่ผมนอนกอดเขาได้เลย หัวหน้าห้องดูตัวเล็กมาก ทั้งผอมทั้งตัวบาง นี่ถ้าเขาเตี้ยกว่านี้มันจะดูเป็นนิยามของคำว่าตัวเล็กตัวน้อยมากเลย
มันน่าขังไว้ในอ้อมแขนตลอดเวลาจริงๆ
“เนี่ยะ พอมันเนียนจนไม่ติดแล้วก็ใช้ได้ จากนั้นแบ่งเป็นก้อนแบบนี้เท่าๆ กันนะ” ผมแบ่งก้อนแป้งก่อนจะวางเรียงไว้บนจาน
“แบ่งเสร็จแล้วยังไงต่อ”
“เราก็จะกลึงให้กลมก่อนจะกดให้แบนแบบนี้” ผมทำแป้งให้เขาดู “แล้วเราก็เอาไส้มาใส่ก่อนจะห่อแล้วกลึงให้กลมเหมือนเดิม อะลองทำดู”
เจ้าตัวหยิบแป้งมากลึงตามที่ผมบอก “แล้วก็ทำให้แบน ตักไส้มาใส่แล้วก็ห่อ....แบบนี้ใช่ไหม”
“ใช่ เนี่ยะ ทำทุกอันแบบนี้เลย แล้วเดี๋ยวค่อยทำกลีบกัน”
“โอเค” ช่อม่วงรับคำก่อนจะจัดการห่อไส้ต่อ เขาดูมีความสุขที่ได้ทำอะไรแบบนี้นะ ผมเองก็มีความสุขเหมือนกันที่ได้ยืนอยู่ตรงนี้
ตัวเขาหอมมากเลยอะ
“เสร็จแล้วเราก็ใช้อันนี้ เขาเรียกว่าหัวบีบใบไม้ อันนี้เป็นหัวบีบแบบตัด” ผมหยิบแป้งที่กลึงขึ้นมาก่อนจะทำกลีบให้ช่อม่วงดู “ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนมันออกมาเหมือนดอกไม้แบบนี้”
“น่ากินอะ”
“แต่ยังกินไม่ได้นะ ต้องนึ่งก่อน เดี๋ยวช่อทำกลีบ ส่วนเราจะเตรียมซึ้งนึ่งให้”
“ไว้ใจได้เลย” เจ้าตัวยักคิ้วให้ผมก่อนจะลงมือทำกลีบขนมอย่างขะมักเขม้น โอ่ยยยย ใครไหวก็ไหวไปเลยนะแต่ดั้นเมฆไม่ไหวแล้วจริงๆ
ทำไมช่อม่วงน่ากินจังเลยวะ
วันนี้เจ้ากระต่ายกากชักจะคิดเหิมเกริมแบบบ้ากามหลายรอบมากเลยนะครับ แต่ก็นะ ผมก็ผู้ชายป้ะวะ มีความรู้สึก ของแบบนี้มันก็ต้องมีบ้างแหละ พยายามห้ามใจแล้วแต่ก็แบบ คนที่ชอบยืนอยู่ตรงนั้นอะ ห่างแค่เพียงเอื้อมมืออย่างเงี้ยะ ไม่แปลกหรอกที่ความคิดพวกนี้จะเข้ามาในหัว ผมคงต้องตั้งเป้าหมายเพิ่มแล้วล่ะมั้งว่าถ้าอยากทำในสิ่งที่ใจอยาก ผมจะต้องคว้ำหัวใจของช่อม่วงมาให้ได้
เก่งจริงงงง
เรื่องเพ้อเจ้อเนี่ยะเก่งจริงๆ เลยดั้นเมฆ
ผมหยิบใบตองมาวางไว้ในซึ้งแล้วเอาน้ำมันที่แยกไว้ตอนแรกมาทา ตั้งน้ำไว้จนเดือดก่อนจะกลับไปดูขนมที่ช่อม่วงกำลังทำ อันสุดท้ายแล้วล่ะบนมือเขาน่ะ มันออกมาสวยอยู่นะ เดี๋ยวพอนึ่งแล้วก็จะยิ่งน่ากิน
“เดี๋ยวนึ่งสัก 10 นาทีก็จะได้กินแล้วนะ” ผมหยิบส่วนที่เสร็จแล้วไปเรียงบนซึ้งก่อนจะหยิบน้ำมาฉีดเพื่อให้แป้งนวลหลุดออกแล้วปิดฝา ทีนี้ก็รอแค่เวลาละครับ
“ทำขนมเนี่ยะ หลายขั้นตอนเหมือนกันเนอะกว่าจะเสร็จ”
“ใช่ แต่มันก็สนุกดีใช่ไหมล่ะ”
“อื้ม” ช่อม่วงยิ้มหวานให้ผม “ครั้งหน้าสอนเราอีกนะ”
“ได้สิ” ผมเลื่อนหลังมือขึ้นไปเช็ดแก้มช่อม่วงเบาๆ “แป้งเลอะน่ะ”
“....ขอบใจ”
อื้มม..ม....ของแรงจังวะวันนี้
ผมยิ้มหวานให้ช่อม่วงก่อนเก็บของไปล้างเพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกฟุ้งซ่านมากเกินไป แต่ดูเหมือนไม่ค่อยเป็นผลเพราะร่างโปร่งมายืนช่วยผมล้าง หื้ออออ....ใจผมบางไปหมดแล้วครับคุณ คุณนี่ชักมีอิทธิพลต่อใจผมมากเกินไปแล้วนะครับคุณช่อม่วง
เกิ๊นนนน
หลังจากที่ล้างอุปกรณ์ทั้งหมดเสร็จผมก็เดินมาเปิดฝาซึ้ง เสร็จเรียบร้อยแล้วครับสำหรับขนมช่อม่วง กลิ่นหอมน่ากินสุดๆ ผมยกขนมลงมาก่อนจะจัดใส่จานแล้วทาน้ำมันบางๆ จากนั้นก็โรยกระเทียมเจียวไว้เคียง เรากินคู่กับผักกาดหอมก็ได้นะครับ ก็จะอร่อยไปอีกแบบ ผมตักขนมช่อม่วงใส่ช้อนก่อนจะยื่นไปหาคนที่อยู่ข้างๆ เจ้าตัวมองอยู่แวบนึงก่อนจะอ้าปากกินขนมที่ผมป้อนแล้วก็ยิ้มออกมา
โว้ยยยยยยยยยยย
ไม่ไหวแล้วน้า
“เป็นไง อร่อยป้ะ”
“อื้ม” ช่อม่วงพยักหน้ารัวๆ “อร่อยมากๆ รสชาติเหมือนขนมในร้าน MASCOT เลย”
ก็ต้องเหมือนสิ....มันสูตรเดียวกันหนิ
“งั้นเหรอ เดี๋ยวแบ่งไว้ให้แบ๋มด้วยเนอะ” ผมหยิบจานมาใส่ขนมแยกไว้ให้แบ๋ม ส่วนช่อม่วงก็เดินถือจานของตัวเองไปนั่งกินที่โซฟาเรียบร้อย
ผมเดินมานั่งลงข้างๆ เขาก่อนจะหยิบขนมมากินบ้าง อื้มม...ม....อร่อยจัง อร่อยผิดปกติด้วยแฮะ หรือเป็นเพราะว่าผมกับช่อม่วงช่วยกันทำนะ มันต้องใช่แน่ๆ เพราะปกติเวลาผมทำคนเดียวมันไม่อร่อยขนาดนี้ไง เนี่ยะ สงสัยต้องหาเรื่องมาทำขนมกับเขาบ่อยๆ มันจะได้อร่อยกว่าเดิม โอเค การทำขนมคือข้ออ้าง ความจริงผมแค่อยากมีเวลาได้ใช้ร่วมกับเขาเท่านั้นแหละ มันมีความสุขน่ะครับ....ก็ไม่แปลกที่ผมจะอยากให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ
ถ้าช่อม่วงรู้สึกเหมือนกันก็คงจะดี
“ถ้าเราทำขนมเป็นนะ เราจะทำกินเองทุกวันเลย” ช่อม่วงบอกพลางเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย
“ถ้าแบบนั้นช่อก็ไม่ต้องไปที่ร้านขนมก็ได้น่ะสิ”
“อืม....งั้นเราไม่ต้องทำเป็นก็ได้ ไว้ไปกินที่ MASCOT จะได้เจอคุณกระต่ายด้วย”
“ชอบขนาดนั้นเชียว”
“แน่ล่ะ” เจ้าตัวยิ้มให้ผม “เขาน่ารักนะ”
เขาชมผมว่ะ
นี่ต้องเขินสินะ
ผมพยักหน้ารับก่อนจะหยิบขนมกินไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมกำลังสงสัยในตัวช่อม่วงมาก คือไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลยนะครับแต่บางทีการกระทำหลายๆ อย่างของเขามันบ่งบอกว่ามีใจให้ผมอยู่จึ๋งนึง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเริ่มปันใจมาให้ผมแทนคนที่เขาชอบแล้วก็ได้ เอาว่ะ ถ้าเป็นแบบที่คิดจริงๆ ผมควรจะทำอะไรให้มันมากกว่านี้แล้วล่ะ ถ้าช่อม่วงรู้ว่าคนที่ผมชอบคือเขา ผมก็อยากรู้นะว่าเรื่องต่อจากนี้มันจะเป็นยังไง
จะสมหวังหรือจะผิดหวัง
ถ้าสมหวังมันก็ดีแต่ถ้าไม่ ผมก็ต้องหาทางทำใจให้ได้ อีกอย่างผมยังเป็นกระต่ายกากที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเขา ในวันนึงเรื่องของเรามันอาจจะเป็นไปได้ก็ได้ มันคงดีถ้าในอนาคตของผมมีช่อม่วงอยู่ตรงนั้นด้วย มันคงจะมีความสุขมากๆ เลย
ผมเนี่ยะ....ชอบเขาขนาดนี้เลยนะ
“เมฆ”
“หืม....”
“ทำไมเมฆถึงทำช่อม่วงล่ะ” เจ้าตัวเอ่ยถามพลางเหลือบมอง “ขนมมีตั้งเยอะแยะ ทำอย่างอื่นก็ได้หนิ”
“เราคิดว่าช่อคงชอบอะ” ผมเห็นว่าเขาสั่งทุกครั้งเวลาที่ร้านทำไง ขนมช่อม่วงน่าจะอยู่ในลิสต์ขนมที่เขาชอบมากๆ เลยล่ะ
“ก็จริง เราชอบมากเลยแหละ ยิ่งของ MASCOT ด้วยนะ อร่อยมากเลย”
“ดีแล้วที่ช่อชอบ” ผมยิ้มหวานให้เขา
“แล้วเมฆล่ะ....ชอบไหม”
“ชอบอะไรอะ”
“ช่อม่วง”
ผมเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางคลี่ยิ้มให้ “ก็ชอบนะ แต่ว่า....”
“แต่ว่าอะไร”
“ถ้าชอบช่อม่วง ที่ไม่ใช่ขนม.....” “.....”
“ช่อจะว่ายังไงอะ”
TBC
สวัสดีค้าบ ชาลมาส่งมาสคอตแล้วน้า ก็ในที่สุดเจ้าคนเด๋อก็บอกชอบยัยช่อแล้วนะ จะเป็นยังไงต่อรอติดตามคับ
สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis หรือเพจ Fiction Yaoi Th น้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า