- 3 -
เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งตื่น ผมเผลอหลับไปที่ข้างหน้าต่าง ผมไม่อยากเปิดประตูเพราะโต้งสั่งไว้
" ผมเข้าไปนะครับคุณหนู"
ผู้ดูแลคนเดินเข้ามาทั้งที่ผมล๊อคห้อง เขาคงมีกุญแจ เขาสั่งให้ผมอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อ
" คุณชายฟางจะมารับคุณหนูด้วยตัวเอง ทำตัวให้สมเกียรติและฐานะของนายท่านด้วยนะครับ"
เขาบอกแล้วเดินจากไป เกียรติอะไรกัน นายท่านอะไรกัน พ่อที่ไม่เคยดูดำดูดีผมเลยซักนิด ผมจะไปให้เกียรติทำไม
ผมนั่งเฉยไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อ จนกระทั่งผู้คุมกลับมา เมื่อเห็นผมไม่เปลี่ยนเสื้อ เขาก็ขู่ผม
" ถ้าคุณหนูไม่เปลี่ยน ผมจะเปลี่ยนให้เองนะครับ คุณหนูรู้ไหม ว่าผมต้องอดทนแค่ไหน ที่ไม่แตะต้องคุณหนู"
เขาบอกและส่งสายตาโลมเลียมา ผมไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้มาก่อน ผมไม่ชอบ และผมกลัว
ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำและจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งที่ไม่ได้อาบน้ำ
ผู้คุมสั่งให้ผมหวีผม แต่ไม่ต้องมัด เขาเดินนำหน้าผม ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเดินตามเมื่อเห็นผมไม่เดินออกจากห้อง
" เดินไปครับคุณหนู อย่าให้ผมต้องเสียมารยาท"
ผมต้องเดินออกไปเมื่อเขาโน้มตัวลงมาใกล้จนเกือบถึงซอกคอ ผมตัวสั่น ผมไม่ได้เอามือถือติดมา เมื่อกี้ผมคว้ามาได้แต่มีดก่อนเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ
นี่ป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมเดินไกลขนาดนี้ ผมเดินจากชั้นสองมาที่ขั้นหนึ่ง ผมถูกสั่งให้นั่งรอที่โต๊ะรับแขก
" ถ้าคุณชายฟางมา คุณหนูต้องรินน้ำชาให้เขานะครับ ลองดูสิครับ อย่าทำหกนะ"
ผู้คุมบอกแล้วสั่งให้ผมทำตาม ผมมือสั่นจนทำชาหกไปหลายรอบ เขาเช็ดชาที่หกเลอะ ก่อนที่จะจับมือผม
" ถ้าเขาจับมือคุณหนูก็ห้ามสะบัด ต่อไปคุณหนูจะเป็นคนของตระกูลฟางแล้ว"
ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมโต้งต้องกัดปาก เพราะเวลาเราทำอะไรใครไม่ได้ สิ่งเดียวที่เราทำได้ คือการทำร้ายตัวเอง
ผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะรับแขกอยู่นาน ผมไม่ได้รอคุณชายฟาง แต่ผมรอโต้ง โต้งจะรู้ไหมว่าผมอยู่ข้างล่าง โต้งจะเป็นห่วงไหมถ้าผมไม่รับโทรศัพท์
ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ มันน่าจะเป็นรถที่คันใหญ่มาก เพราะเครื่องมันเงียบ โต้งบอกผมว่ายิ่งรถวิ่งเงียบแปลว่ารถยิ่งดี และรถที่ดีจะคันใหญ่และราคาแพง
ผมถูกบังคับให้เดินออกไปต้อนรับคุณชายฟาง เขายังดูเด็กมาก เด็กกว่าโต้งเสียอีก แต่ก็ไม่แน่ เพราะโต้งดูแก่กว่าวัยตลอดเวลา
" เนี่ยน่ะเหรอนกน้อยของนาย น่ารักดีนี่ เป็นผู้ชายสินะ คุณหนูลู่ ยินดีที่ได้พบ"
" ผมชื่อ อี้ ผิงอัน "
ผมบอกแล้วสะบัดมือออกจากมือเขาที่ก้มหน้าลงมาจูบ ผู้คุมด้านหลังคำราม แต่คุณชายฟางกลับหัวเราะแบบไม่ถือสา
" ไม่เป็นไร เป็นนกน้อยที่น่ารักดี คุณหนูอี้ จะไม่เชิญแขกเข้าบ้านหน่อยเหรอ"
ท่าทางการพูดจาของเขาไม่น่าไว้ใจ ทั้งที่กำลังยิ้มแต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกกลัว
" จุ๊ๆๆๆ อย่ากลัวผมเลยครับ คุณหนู ผมสัญญาเลยว่า ผมจะดูแลคุณอย่างดี"
เพียงแค่เท่านั้น เพียงแค่เขาพูดแค่นั้นผมก็หันหลังหนี ผมวิ่งขึ้นไปที่ห้องชั้นสอง ผมได้ยินเสียงหัวเราะลั่นตามหลอกหลอน จนเมื่อผมเปิดประตูเข้ามาได้ ผมถึงได้รู้ว่าเขาตามมา
" นี่เหรอครับ กรงทองของคุณ ขอบคุณนะที่นำทางผมมา แต่ผมคงต้องยืมเตียงของคุณหน่อย คุณคงไม่ว่าอะไรนะ"
" ไม่!!!"
ผมร้องลั่นเมื่อถูกอุ้มขึ้น ผมพยายามหนี แต่เขาเดินเร็วมาก ไม่นานเขาก็โยนผมลงเตียง
" จะร้องก็ได้นะครับ แต่ผมขอเป็นเสียงครางนะ เสียงคุณเพราะมาก แล้วอย่าลืมร้องดังๆนะครับ คนอื่นเขาจะได้รู้ว่าคุณมีความสุขแค่ไหน"
เขาบอกแล้วกระชากเสื้อผมจนขาด เขาขึ้นมาคร่อมตัวผม ก่อนโน้มตัวลงมา
" ผมจะทำให้คุณมีความสุขเอง นกน้อย"
" ไม่!!! โต้ง!! ช่วยพี่ด้วย!!"
เสียงเรียกตะโกนร้องขอให้ช่วยทำให้คนด้านบนชะงักมือ แต่ยังไม่ทันที่เขาได้ได้พูดอะไร ผมเห็นเงาของโต้งอยู่ที่ด้านหลังเขา โต้งใช้อะไรไม่รู้ตีคุณชายฟางจากด้านหลัง เลือดไม่ออก แต่คุณชายฟางสลบไปแล้ว
" ไปเร็วพี่ เพื่อนผมกำลังจะมารับ ผมเอาของมาแล้ว ไปเร็ว ไปที่ต้นไม้"
ผมวิ่งตามโต้งที่จูงมือ ผมดีใจมากที่โต้งมาช่วย แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่จะมาดีใจ โต้งเปิดหน้าต่างแล้วปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ก่อนที่จะยื่นมือมารับผม
ปัง!
" อย่าขยับ ไม่งั้นผมยิงคุณทั้งคู่แน่"
เสียงคุณชายฟาง เขายังยืนไม่ตรง แต่เขาถืออาวุธบางอย่างขึ้นมาขู่
โต้งกระโดดลงมาจากต้นไม้แล้วเอาตัวมาบังผมไว้
" มึงเป็นใคร"
" ผมน่าจะต้องถามคุณมากกว่านะ จุ๊ๆ ไหนว่าเป็นนกน้อยที่ไร้เดียงสา แอบคบชู้สู่ชาย ลากผู้ชายมานอนที่ห้อง เจ้าพ่อลู่รู้เข้าคงดีใจแย่"
ผมไม่ได้โกรธหรือสนใจคำพูดเขา เจ้าพ่อลู่ คุณพ่อที่ทิ้งผมไป ผมไม่สนใจเขา
แต่โต้งคำรามในลำคอ
" เราไปกันเถอะโต้ง พี่ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว"
ปัง!
" คุณหนูอี้ ผมว่าคุณอย่าหนีจะดีกว่านะ เพราะตอนนี้พ่อคุณเป็นหนี้ตระกูลผมอยู่หลายล้าน การที่ผมต้องบอกคุณพ่อว่าจะเอาตัวคุณมาเป็นของแลกเปลี่ยนน่ะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ ที่นี้ว่าง่ายๆนะครับ เดินออกมา แล้วตามผมกลับไปบ้านตระกูลฟาง"
ผมไม่รู้ว่าเขาเอาอะไรมาขู่ผมกับโต้ง ผมรู้แต่ว่าโต้งกลัวมัน โต้งไม่ได้ตัวสั่น แต่โต้งกำลังระวังภัย
" พอผมนับสามพี่กระโดดไปที่ต้นไม้นะ ไม่ต้องกลัวตก จับต้นไม้ให้ดีๆแล้วปีนออกไปนอกรั้ว เพื่อนผมรออยู่"
โต้งบอกแค่นั้นแล้วนับสามทันทีโดยไม่มีหนึ่งสอง ผมหันหลังและปีนไปที่ต้นไม้ เสียงปังดังหลายนัด ตามด้วยเสียงร้องของคุณชายฟาง ตอนนี้พวกคนดูแลตามเข้ามาในห้องแล้ว ผมได้ยินเสียงโต้งตะโกนให้ผมกระโดดข้ามกำแพงไป โต้งกำลังวิ่งเข้ามา แต่โต้งต้องล้มลงไปเพราะเสียงดังปังอีกครั้ง
ผมรีบวิ่งกลับไปหาโต้ง แต่โต้งลุกขึ้นมาก่อนกระชากตัวผมไปที่ต้นไม้
" ฆ่ามัน! แต่อย่าให้คุณหนูอี้บาดเจ็บ"
เสียงของคุณชายฟาง
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงไม่ได้ยินเสียงดังอีก อาจเป็นเพราะผมอยู่ใกล้โต้งมากเกินไปพวกเขาเลยกลัวว่าผมจะบาดเจ็บ
" ไปพี่! ปีนไป! เร็ว!"
ผมปีนตามที่โต้งบอก ผมไม่ลังเลที่จะกระโดดลงพื้น พื้นดูสูงมาก แต่ผมก็กระโดดออกไปนอกกำแพง เท้าผมแตะพื้นก่อนที่จะทรุดลง
เจ็บ..
เท้าผมเจ็บแต่ก็พยายามลุกขึ้นมา
โต้งกระโดดตามมาแล้ว เขามองหาเพื่อน แต่พอไม่เจอ เขาก็ลากผมให้ออกวิ่ง แต่เพราะผมเจ็บขาเขาเลยอุ้มผมวิ่งทั้งที่ตัวเองมีเลือดออก
" อดทนหน่อยนะพี่ ไปถึงถนนใหญ่ได้ก็สบายแล้ว"
โต้งบอกผมทั้งที่ตัวเองหอบไม่หยุดและเริ่มหน้าซีด
โต้งพาผมวิ่งไปจนถึงหน้าปากทาง แต่กลับมีรถคันใหญ่สีดำมาขวางไว้ ไม่นานคนบนรถก็เดินลงมา คุณพ่อ.. และลูกน้องของคุณพ่อ
" แกกล้าเหยียบเท้าลงบนพื้นได้ยังไง! ฉันสั่งแล้วใช่ไหมว่าห้ามให้เท้าแกแตะพื้น!"
คุณพ่อตะโกนเป็นภาษาจีนเสียงดังลั่น ท่านดูแก่ไปเยอะมาก แต่ก็ยังดูน่าเกรงขามอยู่ดี
ตอนนั้นเองที่มีเสียงรถดังมาจากด้านหลัง เป็นรถสีดำเหมือนกัน เมื่อประตูเปิดออกมา ผมเห็นเด็กผู้ชายอายุเท่าโต้งวิ่งออกมาพร้อมผู้ชายหลายคน
" ขอโทษที่มาช้าว่ะโต้ง พอดีกูเห็นท่าไม่ดีเลยตามคนมาช่วย"
โต้งไม่ได้ตอบอะไร เขาหันหลังพาผมไปที่รถ
แต่ผมได้ยินคุณพ่อสั่งคนเป็นภาษาจีนว่าให้พาผมกลับไป ท่านย้ำว่าอย่าให้เท้าผมถูกพื้น พวกเขาเริ่มแย่งชิงตัวผมให้ออกห่างจากโต้ง จนกระทั่งมีเสียงดังปังขึ้นมาอีก กลุ่มคนของโต้งดึงตัวโต้งไปที่รถ ในขณะที่ผมอยู่ในมือของคนของคุณพ่อ
" โต้ง!!!"
" พี่!! ไอ้จ้าวปล่อยกู พี่ผิง! ผิงอัน!"
" ไม่!! โต้ง!! ช่วยพี่ด้วย!"
" ผิงอัน! ผิงอัน! ปล่อยกู!"
" รีบไปก่อนเถอะครับคุณหนู ตรงนี้ไม่ใช่ถิ่นเรานะ ตำรวจไทยก็กำลังจะมาแล้ว ไปก่อนเถอะครับ"
" ไม่! ปล่อยกู!! ผิงอัน ผิงอัน!"
" โต้งง!!"
โต้งจากไปแล้ว เขาถูกเพื่อนและคนกลุ่มนั้นลากขึ้นรถ ผมเองก็ถูกลากขึ้นรถเหมือนกัน ผมต้องนั่งข้างคุณพ่อในขณะที่คุณพ่อสั่งให้คนออกรถ
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือคุณพ่อกระทบหน้า
แต่ผมไม่เจ็บ ที่ผมเจ็บคือการถูกแยกออกจากโต้ง
" งามหน้านักนะ แต่ก็ดีที่แกยังมีประโยชน์ กลับเข้าบ้านแล้วหุบปากซะ อย่าพูดอะไร"
คุณพ่อสั่งเป็นภาษาจีน ผมฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง เพราะผมไม่ได้ยินภาษาจีนมานานแล้ว
คุณพ่อสั่งคนให้ขับรถกลับเข้าบ้าน ไม่นานก็มาถึง คุณพ่อสั่งให้คนอุ้มผมขึ้นจากรถ พอมาถึงต้วบ้าน ผู้ชายตัวใหญ่ถึงได้วางผมลง
" เจ้าพ่อลู่ ไม่ได้เจอกันนานนะ สบายดีไหมครับ"
คุณพ่อไม่ได้ตอบอะไร ท่านมองไปรอบบ้านๆ ในขณะที่คุณชายฟางเข้ามากระชากตัวผม
" ผมขอตัวนกน้อยไปก่อนนะครับ ถึงผมจะไม่ได้เจ็บอะไรมาก แต่ก็ถือว่านี่เป็นความผิดของคุณ ผมจะรับนกน้อยไปแทนค่าสินไหม ส่วนเงินก้อนที่คุณเป็นหนี้ตระกูลฟาง ค่อยหาอย่างอื่นมาชดเชยแล้วกัน"
เขาบอกกับคุณพ่อแล้วลากตัวผม ผมส่งสายตาไปอ้อนวอนคุณพ่อ แต่ท่านไม่ได้มองผม ท่านถืออาวุธสีดำขึ้นมา แล้วเล็งไปที่คุณชายฟาง
ปัง!
คุณชายฟางล้มลงและลากผมลงไปด้วย คนของคุณพ่อเข้ามาฉุดผม ในขณะที่คนอื่นถืออาวุธสีดำไล่ยิงคนของคุณชายฟางที่มีจำนวนน้อยกว่า
" คิดว่าฉันจะถูกเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแกมาหักเขี้ยวรึไง รู้ไว้ด้วยว่าทุกอย่างมันเป็นแผน แกคิดเหรอว่าฉันจะเสียเงินเป็นล้านๆจนต้องมายืมเงินตระกูลแก แต่ก็ดี ฉันจะถือซะว่าเป็นค่าขนมให้เด็กๆ ส่วนแก จะต้องมาเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับการขายที่ดินในจีน และตระกูลแกต้องถอนตัวออกจากสัมปทานการขุดเหมือง"
ผมไม่เข้าใจว่าคุณพ่อพูดอะไร ท่านพูดเร็วมาก แต่ผมแน่ใจว่าคงมีการหักหลังกันเกิดขึ้น
คุณพ่อสั่งให้คนเอาตัวคุณชายฟางไปขัง ก่อนที่ท่านจะเดินกลับเข้ามาตบหน้าผมอีกรอบ
" พามันไปขัง แล้วพรุ่งนี้เตรียมตัวพามันขึ้นเครื่อง ฉันจะพามันกลับเมืองจีน"
เมืองจีน...
" ไม่! คุณพ่อ อย่าพาผมไป ให้ผมอยู่ที่นี่!"
เพี๊ยะ
" อย่ามาพูดภาษาไทยกับฉัน แล้วแกจะต้องกลับจีน เลยกำหนดเวลาที่แกจะเป็นตัวซวยแล้ว ต่อไปแกจะเป็นตัวนำโชคของตระกูลลู่ แต่แกต้องถูกขัง และอย่าให้เท้าแกแตะพื้น"
คุณพ่อไม่สนใจผมที่ดิ้นรน ท่านสั่งให้คนพาผมไปขังที่ห้องเดิม
ห้องที่ยังมีเลือดของโต้งนองเต็มพื้น
ผู้ดูแลเข้ามาทำความสะอาดและสั่งผมให้อาบน้ำและเข้านอนทั้งที่เพิ่งเที่ยง
ผมนอนไม่หลับ เอาแต่นั่งร้องไห้และรอโต้งกลับมารับ ถ้าเลยวันพรุ่งนี้ไป ผมจะไม่ได้เจอโต้งอีก โต้งจะไม่รู้ว่าผมอยู่เมืองจีน และจะไม่มีใครมารับผมอีกแล้ว
รุ่งเช้าคุณพ่อสั่งคนให้มาอุ้มผมขึ้นรถ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเท้าผมถึงแตะพื้นไม่ได้ ทำไมผมถึงเดินไปเองไม่ได้
" ซินแสบอกว่าแกเป็นนกนำโชค แกจะบนลงมาอยู่ที่พื้นดินไม่ได้ แต่แกต้องอยู่ห่างจากบ้านจนกว่าจะอายุยี่สิบ และตอนนี้แกก็เป็นตัวนำโชคจริงๆ ฉันสามารถโค่นตระกูลฟางที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจีนลงได้ ได้สัมปทานเหมืองที่จีน และได้สัมปทานรังนกที่ไทย
ผิงอัน แกเป็นนกนำโชคจริงๆ แต่จงจำไว้ว่าอย่าให้เท้าแตะพื้น ไม่อย่างนั้นแกจะนำความล่มจมมาให้ตระกูลลู่ แล้วฉันจะตัดขาแกทิ้ง"
ผมไม่ได้ฟังอะไรอีก
เป็นเพราะคำทักของซินแสใช่ไหมผมถึงถูกทอดทิ้ง
แต่เพราะคำทำนายทำให้ผมได้เจอโต้ง
แต่ตอนนี้ผมคงไม่ได้เจอโต้งอีกแล้ว เพราะผมคงถูกขังไว้ที่เมืองจีน เป็นนกน้อยนำโชคอย่างที่คุณพ่อต้องการ
ห้าปีผ่านไปแล้ว
ตอนนี้ผมอายุยี่สิบเจ็ด ตั้งแต่กลับมาที่จีนผมก็ถูกขังไว้ในบ้านหลังเล็กสูงห้าชั้น คุณพ่อบอกว่ายิ่งผมอยู่สูงผมจะยิ่งนำโชคลาภมาให้ ผมพูดภาษาจีนได้แล้ว เพราะมีแม่บ้านคนจีนเข้ามาพูดคุย แต่ผมยังเขียนไม่ได้ เพราะคุณพ่อบอกว่า ผมไม่จำเป็นต้องเรียน เพราะผมต้องอยู่บนนี้ไปจนตาย
นับตั้งแต่กลับมาผมได้แต่นั่งมองไปนอกหน้าต่าง ที่ตรงนี้ไม่มีต้นไม้ ไม่มีหน้าต่างที่โต้งจะปีนขึ้นมาหาได้
ตอนนี้ผมเขียนภาษาไทยได้แค่สองคำ เพราะผมไม่มีกระดาษและดินสอทบทวนคำศัพท์
สองคำนั่นคือคำว่าโต้ง และคำว่า ผิงอัน
สองคำที่โต้งสอนผมเขียนเป็นครั้งแรก
ผมใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาตลอดห้าปี มีแม่บ้านเข้ามาคุยบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่บ่อยมาก
สิ่งที่แตกต่างไปจากตอนอยู่เมืองไทยก็คือ
ผมมีผู้ดูแลมากขึ้น
พ่อบอกว่าเป็นการป้องกันคนที่คิดจะว่าชิงตัวสมบัติของตระกูลลู่ไป
ตอนนี้ผมดูคืนและวันผ่านสายฝน ผ่านมาห้าฝนและห้าหนาว และตอนนี้เพิ่งผ่านปีใหม่ไป เพราะผมได้ยินเสียงประทัดจุดอย่างยิ่งใหญ่ ให้สมกับความยิ่งใหญ่ของตระกูลลู่
ผมนั่งมองหน้าต่างอยู่ทุกวัน จนกระทั่งรู้สึกว่าวันนี้มีอะไรต่างออกไป คนดูแลดูกระวนกระวาย บางคนวิ่งบางคนเดิน แต่มีอยู่บางที่เหมือนกันคือ พวกเขาถือปืน
อาวุธที่เคยทำร้ายโต้งมาแล้ว
และไม่นานหลังจากที่ผมสังเกตุเห็นถึงสิ่งปกติ เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ผมจำเสียงมันได้ มันไม่เหมือนประทัด มันน่ากลัวกว่ามาก
ผมวิ่งไปแอบที่ข้างเตียง ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมได้ยินเสียงปืนคือตอนที่เสียโต้ง และตอนนี้ถึงผมจะไม่มีโต้ง แต่ก็อาจมีคนมาพาผมออกไปก็ได้
แต่ผมไม่อยากไป
ผมสัญญาไว้แล้วว่าจะรอเขามารับคนเดียว
ผมพยายามทำตัวให้เล็กลีบอยู่ข้างเตียง ผมขดตัวอยู่นานแต่เสียงปืนก็ยังดังไม่หยุด
" อาซ้อ! พี่ผิงอัน! พี่อยู่ในนี้รึเปล่า ผมเป็นคนของพี่โต้งนะ ผมจะเปิดเข้าไปแล้วนะ!"
" มึงจะถามทำเตี่ยเหรอไอ้มอ! ถีบประตูเข้าไปสิ เร็ว!"
ภาษาไทย.. พวกเขาพูดกันเป็นภาษาไทย
ผมอยากลุกไปหา แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะใช่เพื่อนของโต้งหรือเปล่า เสียงและชื่อที่เขาเรียกกันฟังดูคุ้นหู แต่ผมไม่แน่ใจ
ปัง!
เสียงถีบประตูให้เปิดออก ผมขดตัวซ่อนอยู่ข้างเตียง แอบมองขึ้นมา
ไม่ใช่..
คนที่ผมเคยเห็นตอนที่มาช่วยโต้งดูเด็กกว่านี้มาก และไม่มีรอยแผลเป็นเต็มตัวแบบนี้
" ไม่มีว่ะจ้าว ข่าวมั่วรึเปล่าวะ"
" มึงหารึยังล่ะ! หลีกดิ๊ กูหาเอง ถ้าพี่โต้งขึ้นมาแล้วไม่เห็นอาซ้อ พวกเราตายแน่"
คำว่าจ้าว และโต้งทำให้ผมออกมาจากที่ซ่อนทันที พวกเขาเป็นคนของโต้ง เพราะคงไม่มีคนจีนคนไหนพูดภาษาไทยและรู้จักโต้งในเมืองจีนแห่งนี้
" อ๊ะ อาซ้อ ว้าววว อาซ้อสวยจัง สวยกว่าในรูปอีกนะ"
" ไอ้เชรี่ยมอ หุบตูดแล้วไปพาอาซ้อมา กูจะแจ้งลูกพี่"
" ไม่เอา กูโทรเอง มึงไปเอาตัวซ้อมา ขืนกูแตะอาซ้อกูก็ตายคาตีนพี่โต้งอ่ะดิ"
" ถ้ามึงไม่รีบพาซ้อมา มึงจะตายคาตีนกู เร็ว! สายติดแล้ว!"
" เฮ้อ... อาซ้อครับ ผมชื่อมอนะ เป็นลูกน้องพี่โต้งที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยโน้นนน ผมขออุ้มอาซ้อหน่อยนะครับ พี่โต้งกำลังจะขึ้นมา แต่ผมว่าผมพาพี่ไปหาพี่โต้งเลยน่าจะดีกว่า"
คนที่ชื่อมอพูดแล้วช้อนตัวผมขึ้น ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมเริ่มชินแล้วที่มีคนอื่นคอยอุ้ม เพราะเท้าผมแตะพื้นไม่ได้ เวลาคุณพ่อเรียกไปพบ ผมต้องถูกอุ้มเสมอ
" อาซ้อตัวเบ๊าเบา กลับไปให้พี่โต้งขุนเยอะๆนะ จะได้จับแบบเต็มไม้เต็มมือ ซ้อเชื่อไหมว่าพี่โต้งรอซ้อคนเดียวเลยนะ ถึงขนาดลงทุนเข้าแก๊งค์ของนายท่าน เพื่อสร้างอำนาจบารมี จนมาชิงตัวซ้อได้ไง"
มอบอกกับผมขณะพาวิ่งลงมาที่ข้างล่าง คนชื่อจ้าวยิงปืนตอบโต้คนของคุณพ่อ ผมแยกไม่ออกมาฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน ผมมองหาแต่โต้ง
และผมก็เจอ..
โต้งกำลังวิ่งตรงเข้ามาหาผม
ผมดิ้นลงจากแขนมอทันที
เท้าผมสัมผัสพื้นดินเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี
ผมวิ่งเข้าไปหาโต้ง
ในที่สุดโต้งก็มารับผมตามสัญญา
ผมไม่รู้ว่าโต้งมาได้ยังไง แต่แค่เขามา..
ผมก็พอใจแล้ว
" โต้ง!!"
ผมกอดโต้งแล้วสะอื้นฮัก โต้งดูสูงใหญ่กว่าเดิมมาก โต้งอุ้มผมไว้ และจูบผมไม่หยุด
" ผิงอัน ผิงอัน ผมมารับพี่แล้ว"
ผมกอดโต้งไว้แน่น โต้งมารับผมแล้ว
" อะแฮ่ม บอสครับ จะจูบก็ไปจูบกันที่บ้าน ตอนนี้ยังมีปืนเล็งมาอยู่นะครับ ระวังตัวด้วย"
" โต้งเปลี่ยนชื่อเหรอ ใช้ชื่อบอสแล้วเหรอ"
" ไม่ใช่ครับ เราค่อยคุยกันนะ ผมจะพาพี่กลับบ้าน บ้านที่ผมสัญญาแล้วไงว่าจะพาพี่ไปอยู่ด้วยกัน"
โต้งบอกแล้ววิ่งอุ้มผมไปที่รถที่วิ่งเข้ามารับในสวน มอกับจ้าวยังคงยิงปืนสกัด พวกเขาดูไม่กลัวเลย
ผมเองก็ไม่กลัวเหมือนกัน..
เพราะตอนนี้ผมอยู่กับโต้งแล้ว
" โต้ง โต้ง พี่คิดถึงเธอ"
" ผมก็คิดถึงพี่ ขอโทษนะครับที่ให้พี่รอนาน แต่ตอนนี้ผมมารับพี่แล้วนะ ผมมารับพี่ตามสัญญาแล้ว"
โต้งบอกแล้วไล่หอมตั้งแต่หน้าผาก จมูก คาง แก้มสองข้าง ลำคอ และมาหยุดที่ริมฝีปาก โต้งสอดลิ้นเข้ามา ผมเกี่ยวรับ คิดถึง..
คิดถึงจนแทบขาดใจ
" อะแฮ่มๆ พอดีว่าผมต้องขับรถนะบอส ผมไม่อยากเป็นตากุ้งยิง ขอบอสช่วยหยุดลวนลามอาซ้อด้วย เห็นแล้วผมของขึ้น"
" ถ้ามึงไม่หุบปาก กูจะเหนี่ยวไกยิงมึง มึงจะได้เลิกของขึ้นเอาไหม"
" โหดร้ายยย"
เสียงคนชื่อมอตัดพ้อ
ผมยิ้มได้แล้ว แค่มีโต้งมาผมก็ไม่กลัวอะไร และตอนนี้ผมก็ยิ้มได้แล้ว
>> To Be ConTinue <<