บทที่ 30
เมื่อน้องปูนเปิดเทมอช่วงเวลาปิดเทมอของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึก ผมเอาแต่นั่งดูปฏิทินว่าเมื่อไหร่กันที่จะเปิดเทมอเสียที ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากอยู่บ้าน แต่เพราะผมดันไปคิดถึงคนที่อยู่ห่างออกไปเกือบสามร้อยกว่ากิโลเมตร ทั้งที่การคุยโทรศัพท์กับใครคนนั้นกลายมาเป็นเรื่องปกติของผมไปแล้ว
ตลอดทุกวันเอื้อโทร.หาผมไม่ได้ขาด อีกฝ่ายจะมีเรื่องราวต่างๆ มาชวนผมคุยได้เสมอ และมันก็ชอบถามความเป็นอยู่ของผมเช่นกัน มันจะชอบให้ผมเล่าว่าวันนี้ไปทำอะไร ที่ไหน กับใครมา แม้ว่าเรื่องราวจะน่าเบื่อและซ้ำซากกันทุกวันแต่เอื้อก็ไม่เคยที่จะบอกให้ผมหยุด
การที่เราห่างกันแบบนี้ก็ทำให้ผมกังวลเหมือนกัน ผมไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่เอื้อบอกผมในแต่ละครั้งนั้นเป็นความจริงมากแค่ไหน และผมก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าเวลาเกือบสามเดือนที่ผ่านมาเอื้อจะเปลี่ยนใจจากผมไปบ้างหรือเปล่า มันจะมีใครใหม่เข้ามาในชีวิตหรือไม่ และความรู้สึกของมันที่มีต่อผมเหมือนเดิมหรือเปล่า
ส่วนความรู้สึกของผมนั้น...ไม่เหมือนเดิมเลยสักนิด
ระยะทางที่ห่างไกลและระยะเวลาที่ห่างกันพิสูจน์ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอื้อได้แล้ว และผมหวังว่ามันจะพิสูจน์ความจริงใจที่เอื้อมีต่อผมได้เช่นกัน
คำตอบสำหรับคำถามของเอื้อนั้น...ผมพร้อมจะให้มันกับอีกฝ่ายแล้ว
ผมลงจากรถขนส่งสาธารณะหลังจากที่นั่งมาเป็นเวลาราวๆ สามชั่วโมงกว่า คนที่อาสามารับผมเมื่อวานนี้ยืนรออยู่ที่บาทวิถีฝั่งตรงข้ามกับทางที่รถจอดเทียบ เอื้อส่งยิ้มเจิดจ้าก่อนจะข้ามถนนมาหาผมทันทีที่เห็นผมกำลังจะก้าวลงจากรถ และพอผมได้รับสัมภาระ อีกฝ่ายก็มียืนตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อย
เอื้อเอาแต่ยิ้ม ไม่พูดอะไร อีกฝ่ายดูลนลานอย่างไรชอบกล จนผมอดถามออกมาไม่ได้
“เป็นอะไร”
“พี่อยากจะกอดปูน แต่คิดว่าตรงนี้คงไม่เหมาะ” คำตอบที่ทำเอาผมหน้าแดง คนเยอะขนาดนี้ก็ลองมากอดสิ จะต่อยให้ตาเขียวเลย
“ไม่ว่าจะตอนไหนก็ไม่เหมาะทั้งนั้นแหละ”
“โธ่ปูนครับ อย่าใจร้ายกับพี่นักเลย” ผมน่ะเหรอใจร้าย ใจดีกว่าผมก็พ่อพระแล้วล่ะ
เอื้อดึงกระเป๋าสัมภาระส่วนใหญ่ของผมไปถือ ก่อนจะหันมาจูงมือผมแล้วพาเดินไปขึ้นรถคันสวยที่จอดรออยู่ไม่ไกล ก่อนที่เราสองคนจะพากันกลับหอ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงห้องที่คุ้นเคยก็ปรากฏในสายตา
“ห้องไม่เห็นสกปรกเลยแฮะ” ผมวางของลงบนพื้น สำรวจห้องแล้วสะอาดกว่าที่ควร ผมไม่อยู่เกือบสามเดือนแต่ไม่มีฝุ่นเลยสักนิด “ป้าแม่บ้านเขามาทำให้เหรอ”
“ป้าแม่บ้านที่ไหน พี่ต่างหาก”
“อย่างเอื้อเนี่ยะนะ” หันไปมองอย่างสงสัย คุณชายเอื้อน่ะเหรอจะทำความสะอาดห้องให้ผมเองกับมือ
“ใช่ พี่นี่แหละที่เป็นคนพาแม่บ้านมาทำความสะอาดให้”
โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าจะทำเอง ผมคาดหวังอะไรอยู่กัน และดูสิครับ ยืดอกภูมิใจอย่างกับเป็นคนจัดไม้กวาดมาทำความสะอาดให้เสียอย่างนั้น เห็นแล้วอดเบ้ปากใส้ไม่ได้
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง”
“ปูนก็น่าจะรู้ว่าเอื้อไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอก”
เอื้อหัวเราะแล้วก้าวเข้ามาใกล้กว่าเดิม นั่นทำให้ผมได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงของอีกฝ่ายชัดๆ ผิวสีขาวราวน้ำนมของอีกฝ่ายดูแทนขึ้นเล็กน้อย กล้ามเนื้อแขนและหน้าอกก็เพิ่มขึ้นกว่าเื่อเทมอที่แล้ว แต่ใบหน้ายังคงหล่อหมดจดราวกับคุณชายเหมือนเดิม
เหมือนเอื้อจะ...ดูแมนขึ้นหรือเปล่านะ
หมับ!
ระหว่างที่ผมกำลังสำรวจอีกฝ่ายไปพลางๆ ร่างกายของผมก็ถูกแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อตวัดโอบกอดเอาไว้ หน้าของผมแขนไปกับอกกว้างแบบที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เอื้อโยกตัวของผมไปมาราวกับผมเป็นเด็กน้อย
“ปูนตัวเล็กลงหรือเปล่า”
“ปกติ” เรื่องจริงที่น้ำหนักผมลดลงไป แต่ผมไม่มีทางบอกหรอก เดี๋ยวเอื้อก็หาเรื่องมาขุนผมเหมือนเทมอที่แล้ว
“ไม่จริง พี่กอดแล้วมันไม่เต็มไม้เต็มมือเหมือนเดิม อย่างนี้สงสัยต้องพาไปขุนแล้ว” ดูเหมือนผมก็ไม่รอดอยู่ดี
อ้อมกอดนี้ทำให้ผมรู้ว่าผมคิดถึงอีกฝ่ายมากแค่ไหน ผมแอบยิ้มกับตัวเอง หลับตาและซบหน้ากับอกของเอื้อมากขึ้นไปกว่าเดิม ที่จริงอยากจะยกมือขึ้นมากอดตอบ แต่ไม่เอาหรอก...เดี๋ยวมันได้ใจ
“พี่คิดถึงปูนนะครับ” ผมพยักหน้าตอบรับ แต่ไม่มีคำพูดอื่นใดออกมา “ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอ”
“...” ผมยังไม่ตอบ ยังไงก็ไม่อยากพูดออกไป มันน่าอาจจะตายที่ต้องมาบอกอะไรแบบนี้
“ถ้าปูนไม่บอกพี่ งั้นแค่ส่ายหน้าหรือพนักหน้าก็พอ…”ฟังดูเป็นข้อเสนอที่เข้าท่าดี ดูเหมือนเอื้อจะรู้วิธีจัดการกับความขี้อายและปากหนักของผมแล้ว “ถ้าคิดถึงพี่...ให้ส่ายหน้า…”
ผมหัวเราะ ก่อนจะทำตามที่เอื้อบอก แต่ทำได้ไม่มาก เพราะหน้าติดอยู่กับอกของมัน… เดี๋ยวนะ แบบนี้ก็เหมือนผมเอาหน้าถูกกับอกอีกฝ่ายอ่ะดิ
ร้ายนักนะ!!
“พอเลยไม่เล่นแล้ว” ผมดันตัวออก พยายามดิ้นรนแต่อีกคนก็ไม่ยอมแพ้ “เอื้อปล่อย”
“ไม่ปล่อย ไม่ได้เจอกันตั้งนานกอดแค่นี้มันไม่พอหรอก” เอื้อกอดผมแน่ขึ้นไปอีกเหมือนกับกำลังแกล้งกัน มันโยกตัวไปมาแรงขึ้นจนผมเริ่มเวียนหัว
อุ๊ก!
“จะ จะอ้วก...เหวอ!”
ตุบ!
อะ อะ โอยยยยย
ผมนั่งลูบก้นตัวเองอยู่บนพื้น นี่เหรอวะคนที่บอกว่ารักกันคิดถึงกันหนักหนา! พอบอกว่าจะอ้วกแค่นี้ปล่อยถึงกับปล่อยให้นั่งแหละกับพื้นห้องแข็งๆ เลยนะ!
“เป็นไรมั้ยปูน”
ก็เจ็บสิโว้ยถามได้!!
…
..
.
แล้ววันเปิดเทมอก็วันมาถึง แต่แม้ว่าเราจะเปิดเทมอกันวันนี้ เพื่อนส่วนใหญ่ก็กลับมาแสตนด์บายที่มอตั้งแต่หนึ่งอาทิตย์ก่อนแล้วครับ เพราะระหว่างช่วงที่น้องมารายงานตัว ทางเราก็มีกิจกรรมไว้ต้อนรับและกระชับมิตรกับน้องๆ ด้วย หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมประชุมเชียร์ บอกเลยว่าผมโคตรเกลียดอ่ะ ตอนปีหนึ่งก็โดดบ่อยเหมือนกัน พี่บุ๊คมันมาบ่นทีหลังว่าไม่ค่อยเห็นหน้าผมตอนลงวินัยเท่าไหร่
อีกกิจกรรมหนึ่งที่ฮอตฮิตไม่แพ้กันคือเรื่องการประกวดดาวเดือนครับ เฟรชชี่ไนท์กำลังจะมีถึงในวันเสาร์นี้แล้ว ทางมหาวิทยาลัยเสื่อนกิจกรรมเข้ามาให้ไวขึ้น เนื่องจากเทมอนี้วักหยุดเยอะ กลัวว่าจะกระทบกับการเรียน ตอนนี้น้องๆ ดาวเดือนกำลังเก็บตัวซ้อมกันอย่างเต็มที่
ผมได้เห็นน้องดาวแล้วครับ โคตรสวยเลย ยิ้มทีนี่ผมละลาย (ห้ามเอาไปห้องเอื้อเด็ดขาดนะครับ!)
“แหม หน้าตาชื่นบานเชียวนะครับ ไม่ทราบว่าได้น้ำดีหรือเปล่าครับ”
อย่าคิดว่าเสียงที่แซวนี่จะเป็นการแซวผมแต่อย่างใด ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เป้าหมายของพวกเพื่อนๆ ดันเปลี่ยนเป็นไอ้ฟ้า และแทนที่มันจะโกรธ...กลับหน้าแดง
“เงียบไปเลยไอ้บอย!” แถวบ้านผมเรียกโวยวายกลบเกลื่อนครับผมทำบ่อย
“ก็ต้องได้น้ำดีสิวะไอ้บอย...เมื่อคืนได้ไปกี่น้ำ บอกเขาไปสิจ๊ะที่รัก” ไอ้กล้าที่นั่งข้างๆ ไอ้ฟ้ารับมุก ก่อนจะวาดแขนโอบรอบเอวคนตัวเล็กกว่าแล้วดึงให้มาแนบชิด
“อย่ามามั่วนะเว้ย!”
ผมเลิกคิ้ว มันแปลกๆ นะครับสองคนนี้ ทั้งที่ก็หยอกกับเล่นเหมือนวันวาน แต่ไม่เหมือนก่อนคือไอ้ฟ้าดันเขินหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ในขณะที่ไอ้กล้ายิ้มแกล้มปริ
“โอ๊ะๆ มีโอบครับ”
“บอกให้เงียบไงไอ้บอย”
“เขินเหรอครับที่รัก” แน่ะ มีเชยคางด้วยเว้ย
“มึงก็เงียบนะไอ้กล้า!” มึงจะทุบจะดีมันก็ทำแรงกว่านี้หน่อยดิวะ ไม่ใช่แค่เอามือไปแตะๆ แบบนี้แถวบ้านกูเรียกหยอกกันเว้ย
ว่าแต่นี่ผมผมพลาดอะไรไป?
“ทำหน้าอย่างนั้นยังไม่รู้เรื่องสินะ” จี๊ดที่นั่งอยู่ข้างๆ กระซิบถามผม
“เราพลาดเรื่องใหญ่ไปสินะ”
“ไปซื้อขนมกับเรา เดี๋ยวเล่าให้ฟัง” ผมพยักหน้า ก่อนที่เราสองคนจะเดินไปยังร้านขายขนมที่อยู่ถัดไปไม่ไกลพอถึงร้านจี๊ดก็เริ่มเล่า “วันที่พวกเราไปฉลองสอบเสร็จแล้วปูนไม่ได้ไปด้วยอ่ะ กล้ากับฟ้ามันเมาแล้วก็ได้กัน”
“ฮะ?!! มะ มันสองคน...ได้กัน?”
“อือ พวกเราทุกคนรู้เรื่องหมดเลย เพราะวันนั้นเราไปค้างที่ห้องโจม แล้วห้องมัน...ไม่เก็บเสียงอ่ะ เข้าใจป่ะ” จี๊ดพูดไปหน้าก็แดงไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันมีความฟินซ่อนอยู่
“อ่อ…” ผมพยักหน้า รู้สึกพลาดสุดๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญ “แล้วพวกมันคบกันเหรอ”
จี๊ดส่ายหน้า “เรื่องนี้เราไม่รู้อ่ะ พวกนั้นไม่ยอมบอก แต่แอบได้ยินกล้าคุยกับโจมว่ากำลังจีบๆ อยู่”
พอได้ฟังที่จี๊ดพูดผมก็หันไปมองที่โต๊ะ โฟกัสกล้ากับฟ้าโดยเฉพาะ ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของมันทั้งคู่เลยครับ ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็ยังพอรู้ว่ากล้าพยามเอาใจฟ้า สักพักก็เปลี่ยนไปแกล้งกัน แล้วก็ส่งยิ้มให้กัน
นี่มันบรรยากาศคนเป็นแฟนกันชัดๆ
ไม่น่าเชื่อเลยครับ ล้อกันเล่นกลับกลายเป็นเรื่องจริงเฉย
ถ้าอย่างนั้นหนูนากับบอยก็มีสิทธิ์?
ผมเสสายตาไปยังคนทั้งคู่…ก่อนจะเห็นหนูนากำลังตบหัวไอ้บอยอย่างแรง!
เชี่ย ผู้หญิงสายโหด
“เราว่าคู่นั้นน่าจะยากกว่านะ”
“เราก็คิดงั้นแหละ”
เราสองคนเดินกลับไปที่โต๊ะ จี๊ดวางขนมที่ซื้อมากองไว้ ไม่ถึงหนึ่งนาทีมือที่มองเห็นจะๆ ของไอ้พวกตะกละก็คว้าไปหยิบแกะกิน
“พวกมึง นี่ของจี๊ดนะเว้ย” ผมอดไม่ได้พูดขึ้น ดูไอ้บอยดิครับ แกะยัดใส่ปากเฉยเลยอ่ะ
“จี๊ดยังไม่ว่า มึงจะเดือดร้อนเพื่อ? เอานี่กินๆ ไปซะ”
“อื้อ!!!”
ไอ้เห็บหมา!! ไอ้กล้ามันยัดขนมเข้าปากผมครับ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย ดีไม่หลุดเข้าไปในคอ
“ว่าแต่มึงกับแฟนย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วใช่ป่ะ” ไอ้กล้าถาม ด้วยเพราะขนมยังเต็มปากเต็มคำ ผมเลยพยักหน้าแทน “โหยดีว่ะ ฟ้าเมื่อไหร่มึงจะย้ายมาอยู่ห้องกูวะ”
“ทำไมกูต้องย้ายมาอยู่กับมึง”
“เอ้า ก็เราเป็นแฟ...อ๊อก!”
สมน้ำหน้าไอ้กล้ามันครับ โดนฟ้ายัดขนมใส่ปากเลย ไอ้แบบนี้แสดงว่ามันยังไม่คบกัน แล้วหนทางคงอีกยาวไกล แต่ไม่เป็นไรเพื่อน กูเป็นกำลังใจให้
“โจมขาาา ป้อนกูแบบนี้บ้างสิคะ”
เดี๋ยวๆ หนูนา มึงจะคะขาก็แทนตัวเองให้น่ารักๆ หน่อยสิวะ แล้วป้อนอย่างไอ้ฟ้าเนี่ยไม่จุกหลอดลมตายก็บุญแล้ว
“จะเอาแบบนั้นเหรอ” โอ้...ไอ้โจมมาเต็มครับ มันหยิบขนมมาเป็นกำมือ ยื่นให้หนูนาพร้อมรอยยิ้มละมุน “มาสิเดี๋ยวป้อน”
“เอ่อ...กูเกรงใจอ่ะโจม มึงเก็บไว้กินเองนะ”
ฮาาาา
“เขาไม่ป้อนมึง ตัวสำรองอย่างกูป้อนให้ก็ได้นะ”
“มึงก็เก็บไว้กินเองเถอะไอ้บอย”
เออ เป็นผมก็ไม่กินหรอก เปลือกขนมทั้งนั้นนน
โอ๊ยยย อยู่กับพวกมันแล้วเพลียใจ แต่ก็สนุกดี
♣♣♣♣♣
สัปดาห์ที่สองของเปิดเทมอก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ จะมีเปลี่ยนบ้างเล็กน้อยก็ตอนนี้ไม่ค่อยมีเด็กปีหนึ่งมาทำอะไรแปลกๆ กันแล้วครับ ที่คณะของผมเริ่มมีพี่วินัยลงจริงจังแล้ว อ้อ ไอ้พี่สามได้รับเลือกเป็นหนึ่งในพี่วินัยด้วยนะ พี่บุ๊คนั่นแหละที่เลือกพี่มันเป็นทายาทอสูรคนต่อไป ถามว่าผมกลัวหรือเปล่าที่ทั้งสายเป็นพี่วินัยหมดเลย…
ตอบว่าไม่ครับ เชื่อว่าพี่สามมันไม่คิดสั้นเลือกผมเป็นหรอก คิดดูสิ มีพี่วินัยอย่างผมน้องคงไม่เชื่อฟังอะไรแล้วล่ะ
“ปีหนึ่งปีนี้หน้าตาดีว่ะ น้องผู้หญิงก็เยอะขึ้นด้วย แต่ทำไมน้องรหัสกูเสือกเป็นผู้ชายวะ” ไอ้กล้ามันนั่งท้าวคางทำหน้าเซ็งๆ กล้าพูดนะมึง เห็นหน้าคนที่นั่งข้างมึงป่ะครับ
“เออ น้องกูก็เป็นผู้ชาย” อ้าว มึงไม่ห้ามมันหน่อยเหรอฟ้า
“ใคร!?” ผมกับไอ้โจมสะดุ้งขึ้นมาพร้อมกัน ไอ้ผมน่ะสะดุ้งนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร โดยปกติเป็นคนขวัญอ่อนอยู่แล้ว แต่ไอ้โจมเนี่ยนะจะตกใจ มึงเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
“มึงจะเสียงดังทำไมเนี่ยกล้า”
“ก็บอกมาดิว่าใครเป็นน้องมึง หน้าตาเป็นยังไง นิสัยเป็นยังไง หล่อมั้ย หรือว่า…”
“แล้วมึงจะรู้ไปทำไม”
“กูเป็นแฟนมึงไง กูก็ต้องรู้เรื่องทุกอย่างของมึงนะ!” เท่านั้นแหละครับ ไอ้คนขี้เขินอย่างฟ้าก็หน้าแดงเป็นดอกเบญมาศ...เอ่อ...เปลี่ยนๆ มันจะสยองไปนิด เอาเป็นว่าหน้าแดงก็แล้วกัน
“กูยังไม่ได้ตกลง”
“งั้นเปลี่ยนเป็นว่ามึงเป็นเมียกูก็ได้ ปฏิเสธไม่ได้หรอกมึงอ่ะ หลักฐานคาห้อง”
“อะไรวะ” ผิดหรือเปล่าที่ผมสงสัย ก็งงนี่ครับหลักฐานคาห้องมันคืออะไร
“ก็ซากถุงยางของกูไง ใช้เมื่อคืนยังไม่ได้ทิ้งเลย”
“ไอ้กล้าาาา!!!”
โอเค ไว้อาลัยให้กับชีวิตไอ้กล้าด้วยครับ เอาเรื่องอะไรมาพูดก็ไม่รู้ บ้าบอจริงๆ เลย
“มึงไม่ต้องเขินหรอกปูน ยังไงสักวันมึงก็ต้องเจอ” ไอ้โจม ไอ้เลวไอ้เพื่อนนิสัยแย่ เหอะ กูขอแช่ง ขอให้มึงได้ผัวไม่ใช่เมีย!!
ระหว่างที่ผมกำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่นั้นก็มีมือที่ผมไม่เห็นมาสะกิดข้างหลังยิกๆ พอหันไปก็พบกับสาวสวยที่พ่วงตำแหน่งเดือนสาขาของผมเอง
ก็หนูนาไงครับ ทุกคนลืมเหรอว่ามันเป็นเดือนสาขาอ่ะ ว้ายๆ หนูนามันไม่สวยแล้วใช่มั้ยครับ (ผัวะ!! โดนหนูนาตบหัวทิ่ม)
“ปูนๆ ไปกับกูหน่อยดิ อาจารย์เพชรเรียกไปเอารายงานคืนอ่ะ”
“รายงานไรวะ” ฟ้าที่เลิกทำการฆาตกรรมไอ้กล้าแล้วถามขึ้น บอกทีว่ามึงไม่ได้ติดนิสัยขี้เสือกจากผัวตัวเองมา
“รายงานที่ส่งไปเมื่อไฟนอลครั้งที่แล้วอ่ะ อาจารย์เขาจะคืนให้ เมื่อกี้เจอเขาที่ทางเดินเขาเลยบอกให้เอาเพื่อนไปช่วยขน”
“แล้วทำไมต้องเป็นไอ้ปูนวะ” นั่นสิฟ้า กูก็คิดเหมือนมึง
“ก็แหม จะให้กูเอาพวกมึงสองคนไปหรือไง” มองไปทางฟ้ากับกล้าที่นั่งใกล้กัน “กูไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอนะ ไอ้บอยก็ไม่อยู่ จี๊ดก็ไปซื้อขนม (อีกแล้ว?)”
“อ้าว แล้วไอ้โจมล่ะ” นั่นสิ แล้วไอ้โจมล่ะ
“กูไม่อยากให้ผัวกูลำบากไง”
ถุยยยยยย
จ้าาาา แม่คุณหนูนา กระผมทราบแล้วครับ สุดท้ายมันก็ต้องเป็นกูใช่มั้ยล่ะ เหอะ!
“มึงแหละปูน ไปกับกูเลย” ได้ฟังเหตุผลของหนูนาแล้วก็ต้องยอมลุกไปกับมันครับ ถึงแม้เหตุผลข้อสุดท้ายจะทำให้รู้สึกหมั่นไส้มากก็ตามที
เราสองคนเดินไปหาอาจารย์เพชรที่ห้องพัก รายงานการเพาะปลูกที่เราทำวางกองอยู่ตรงพื้น ผมกับหนูนาหยิบมาคนละกอง หนักเอาเรื่อง ถ้าให้จี๊ดมากับหนูนาสองคนก็ไม่ไหวครับ สงสารเพื่อน
ว่าแต่ให้มาแต่รายงาน แล้วต้นไม้ล่ะ
“ต้นไม้พวกคุณผมเอาไปให้คนสวนจัดการที่สวนคณะแล้วครับ ว่างๆ ก็ไปเดินเล่นเยี่ยมมันได้นะ” อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าจะแอบขโมยต้นไม่ของผมกลับห้องก็คงได้สินะ “อือ...จะเอากลับไปก็ได้นะ ยังไงผมก็ทวงคะแนนคืนไม่ได้อยู่ดี”
เชรดดดด อาจารย์อ่านความคิดผมออกป่ะเนี่ย หรือเป็นเอ็ดเวิร์ค คัลไลน์ ปลอมตัวมา!
เหอะๆ บ้าบอได้อีกกู
ผมกับหนูนาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะไหว้ลาอาจารย์แล้วเดินออกจากห้องมา เราก็อาศัยความระมัดระวังขึ้นสุดเพื่อไม่ให้สะดุดล้มไประหว่างทาง
ทว่า…
ปึก!
ตุบ!!
กองหนังสือให้มือผมหล่นกระจายเต็มพื้น ส่วนตัวผมก็ล้มลงไปนั่งอยู่บนปูนแข็งๆ ก้นกระแทกไปเต็มๆ
อูย…เจ็บตัวอีกแล้วกู
“ปูนมึงเป็นไรบ้างวะ” เจ็บดิวะถามได้ ทำไมต้องเป็นกูตลอดที่ซวย ทำไมต้องเป็นกูตลอดที่เจ็บตัวหรือมีแผล โอ๊ยยยย ชีวิตหนอชีวิต งงตัวเองว่าอยู่มาจนอายุเท่านี้ได้อย่างไรโดยที่ไม่ตายเสียก่อน “ไม่ระวังเลยวะมึง เย็นนี้กูฟ้องพี่เอื้อแน่”
“ห้ามมึงบอกเอื้อเด็ดขาด” คุณว่าที่เภสัชกรเขาจะค่อนข้างซเรียสกับอาการบาดเจ็บของผมครับ มดกัดนิดเดียวพ่อคุณเล่นใหญ่ยิ่งกว่าละครเวทีของค่ายดังอีก
“มึงว่าพี่เขาไม่รู้เหรอ ตัวมึงมีรอยถลอกอีกแล้ว” หนูนามันจับแขนผมพลิกไปมา โธ่รอยเท่าเข็มทิ่มแบบนี้ปิดลาสเตอร์ก็ไม่เห็นแล้ว แล้ววันนี้กูก็ช่างดวงดีที่สุด เสือกใส่เสื้อแขนสั้นมาด้วยนะ
“เอาเป็นว่าห้ามบอกเอื้อเด็ดขาด” ถึงจะเจ็บแค่ไหนต้องข่มใจขู่มันไว้ครับ ผมกันหนูนาช่วยกันเก็บรายงาน (ที่ผมทำ) หล่นกระจายอยู่เต็มพื้น
“เฮ้ยเล่มนั้นนี่รายงานเราป่ะ” หนูนาชี้นิ้วไปยังหนังสือที่กางแผ่อยู่บนพื้นเยื้องๆ ไปทางซ้าย ผมเลยเอื้อมมือไปหยิบมา เป็นรายงานของพวกผมเองครับ
เห? ชื่อไอ้บอย
“อยากรู้ป่ะว่ามันปลูกอะไร” ผมถาม
“มึงนี่ก็ขี้เสือกนะปูน แต่กูก็อยากรู้ว่ะ คนอย่างมันจะปลูกอะไร”
ผมเสียมารยาท (แต่จริงๆ ไอ้เจ้าของมันก็ไม่ค่อยมีมารยาทอยู่แล้วครับ เรื่องนี้มันไม่ถือหรอกครับ) เปิดดูภาพในรายงานของไอ้บอย มันทำงานเรียบร้อยกว่าที่ผมคิดไว้ครับ ตัวหนังสือเรียงเป็นระเบียบ ส่วนต้นไม้ที่มันเลือกปลูกก็ผิดกับที่ผมคิดไว้ ผมเดาว่ามันจะปลูกอะไรง่ายๆ อย่างคุณนายตื่นสาย ไม่ก็พลูด่าง แต่ที่มันเลือกปลูกจริงๆ กลับเป็น…
“กุหลาบแดง?”
ผมค่อยๆ เปิดหน้ากระดาษอย่างระมัดระวัง บอยดูแลกุหลาบอย่างดีเชียวครับ ออกดอกออกใบสวยงาม สมกับคะแนนที่เขียนไว้ที่หน้าปก
“หือ? ‘อยากรู้เหตุผลที่ผมปลูกหรือเปล่าครับ ถ้าอยากรู้พลิกหน้าต่อไปเลย’ มีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ” ว่าแล้วผมก็จับกระดาษแผ่นนี้ไว้ เตรียมจะพลิกมือ แต่หนูนากลับยื่นมือมาจับมือผมไว้
“ดะ เดี๋ยว…”
“อะไร ไม่อยากรู้เหตุผลเหรอ” ผมถาม ใบหน้าสวยที่อยู่ใกล้กันดูตื่นเต้น จนผมอดขมวดคิ้วสงสัยไม่ได้ “มึงโอเคป่ะเนี่ย”
“ปูน…”
“ว่า?”
“กะ กูชอบดอกกุหลาบ…”
“...”
“โดยเฉพาะสีแดง”
อย่าบอกนะว่า…
ผมพลิกไปอีกหน้า ภาพในกระดาษแผ่นสุดท้ายคือหนูนาที่กำลังก้มลงดอกกุหลาบแดงบนแปลงดอกไม้ของคณะ เป็นภาพถ่ายตอนที่เจ้าตัวเผลอ ใบหน้ามีรอยยิ้มเล็กๆ แต้มตรงมุมปาก แลดูละมุนละไมจนอดยิ้มตามไม่ได้
บอยชอบหนูนา
“บอยชอบมึง…”
ใบหน้าหนูนาขึ้นสีแดงจัด มันรีบหยิบรายงานในมือผมไปถือแล้วแทรกไว้กับเล่มอื่นในกอง ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนพร้อมถือรายงานไว้อย่างเดิม ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มึงอย่าบอกใครนะ”
หึๆ...หึๆๆๆๆๆ มึงเสร็จกูแน่นอนหนูนาเอ๋ยยยยยย
“กูจะไม่บอกใคร ถ้ามึงไม่บอกเอื้อเรื่องวันนี้”
หนูนามันถลึงตาใส่ผมก่อนจะกระแทกเสียงตอบ “เออ!!”
“แล้วช่วงนี้มึงก็ต้องมาเป็นเบ้ให้กูด้วย” หึๆๆๆ
“มากไปแล้วมึง”
“หรือจะให้กูบอก ได้นะ เรื่องขยายข่าวนี่กู…”
ผัวะ!! ไอ้หนูนามันเอารายงานตึหัวผมมมม ผมจะฟ้องตากับยายคอยดู!!
“ถ้าเรื่องนี้หลุดไป มึงได้กลายเป็นซากให้หมาแทะแน่” ไอ้เชี่ยยย บอยมึงชอกนางแม่ดอย่างหนูนาเข้าไปได้ยังไงวะ!
“แล้วมึงจะเอายังไงวะ”
หนูนาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบ “ถ้ามันชอบกูจริงๆ มันต้องกล้าบอก”
“แล้วไงต่อ ถ้ามันบอกมึงแล้วมึงจะทำไง”
“แล้ววันนี้กูจะบอกมันเอง”
ถึงจะยังตกใจแต่ก็อดยินดีกับเพื่อนไม่ได้ (ไม่นับเรื่องที่มันตีหัวผมเมื่อกี้นะ) แล้วดูจากท่าทางของหนูนาตอนนี้ ผมคิดว่าถ้าบอยมันมีความกล้าอีกสักนิด รับรองมันได้ฟังข่าวดีแน่
อ่า...นี่เพื่อนๆ ผมกำลังจะมีความรักกันทุกคนแล้วใช่หรือเปล่าครับเหลืออีกสองคนสินะ...จี๊ดกับโจม
เดาไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะเป็นรายต่อไป
สาวที่ชอบให้ผู้ชายได้กัน
กับหนุ่มที่มนุษยสัมพันธ์เข้าขั้นน่าเป็นห่วงที่เหมือนยังไม่ลืมคนเท่า
…
..
.
======================================================
========================================
ฮัลโหลทุกคนนนนน พาน้องปูนมาส่งค่ะ และในส่วนของโจมนั้นนน ขอติดไว้ก่อนเนาะ
เรากำลังสอบค่ะ (สอบอีกแล้ว สอบอะไรนักหนา) และถ้าสอบเสร็จคราวนี้เราจะปิดเทมอแล้วนะ
ขอโทษค่ะที่หายไปนานมากก
รักทุกคนนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ