บทที่ 4
...บ้าชะมัด นี่เขาเป็นอะไรไปกันแน่! ถึงจะหน้ามืดตัณหากลับยังไง แต่เด็กนั่นก็แค่ 8 ขวบ แถมยังเป็นเด็กผู้ชายอีกต่างหาก เขาวิปริตไปแล้วรึ! ...
โชเฮเฝ้านั่งโทษตัวเองหลังจากที่ได้สติ ยิ่งเมื่อเหลือบไปมองเห็น ร่างเล็กนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างอ่อนเพลียใกล้ ๆ ตัวเขา เจ้าตัวก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างกลัดกลุ้ม
…แล้วนี่จะบอกรุ่นพี่ยังไงดีล่ะ ลูกชายเขาทั้งคน ถ้ารุ่นพี่รู้มีหวังโดนฆ่าทิ้งแน่...
เสียงถอนหายใจไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของชายหนุ่มทำให้ร่างเล็กพลิกกายน้อย ๆ ก่อนจะปรือตาขึ้นมามองอย่างงัวเงีย
“...อรุณสวัสดิ์ครับ คุณโชเฮ ...เป็นอะไรไปหรือครับ”
โชเฮสะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินเสียงทักทายจากคนใกล้ตัว
“อ่ะ...เอ่อ ไคริ ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
ประโยคหลังเขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงทำให้เจ้าตัวยิ้มหวานรับ
“เพลียนิดหน่อยครับ ...ปวดเมื่อยตามตัวด้วย...แล้วก็เจ็บ...”
ประโยคสุดท้ายเจ้าตัวกล่าวไม่จบก็หน้าแดงระเรื่อ ใบหน้านั้นช่างแสนจะน่ารัก ทำให้คนมองต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัว
“คุณโชเฮ....เป็นอะไรไปครับ”
ไคริถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนเป็นนิ่งเงียบไปเสียอย่างนั้น
“มะ...ไม่เป็นอะไร...ฉันสบายดี”
ท่าทางอึกอักนั้นทำให้เด็กชายเงียบใช้ความคิดสักพัก ก่อนจะก้มหน้าลงนิด ๆ น้ำเสียงที่พูดก็เริ่มสั่นเครือ
“คุณคงจะเสียใจสินะครับ ...ที่เผลอมีอะไรกับผมลงไป...ผมมันแย่มากใช่ไหมครับ”
โชเฮสะดุ้งเฮือก ก่อนจะโพล่งกลับไปทันทีด้วยความตกใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
“บ้ารึ! ไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย ฉันเองต่างหากล่ะที่แย่ ดันไปเผลอตัวทำแบบนั้นกับเธอ อีกอย่างถ้าพ่อเธอรู้เข้า เขาคงเสียใจมาก ทั้ง ๆ ที่เขาอุตสาห์ไว้ใจฉันแท้ ๆ”
พอพูดถึงเคนจิเจ้าตัวก็ถอนหายใจอีกครั้งไคริเงยหน้ามองพร้อมรอยยิ้มหวาน ที่ทำให้โชเฮแปลกใจเพราะนึกว่าเด็กชายจะร้องไห้เสียอีก
“เรื่องพ่อไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่พูด คุณโชเฮไม่พูด พ่อก็ไม่มีทางรู้หรอก”
ชายหนุ่มแค่นยิ้มรับ สรุปว่าคนที่เครียดมีแต่เขาฝ่ายเดียวสินะ เด็กนี่ไม่ได้คิดมากอะไรเลยสักนิด ที่ทำเป็นเหมือนจะร้องไห้เมื่อครู่ก็แค่แกล้งลองเชิงเขาดูเท่านั้นว่าจะมีปฏิกิริยายังไงกับเรื่องนี้
โธ่เอ๊ย! นี่เขาดันตกหลุมกับดักของเจ้าปีศาจตัวน้อย นี่เสียแล้วสินะ!
“แต่วันนี้ขอโดดไม่ไปโรงเรียนวันนึงนะครับ มันปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย ขยับไม่ค่อยจะไหว”
น้ำเสียงเล็ก ๆ เริ่มอ้อน จนโชเฮชักจะไม่แน่ใจว่าที่พูดมาน่ะมีความจริงปนอยู่กี่เปอร์เซ็นต์
“ก็ได้...ให้พักก็ได้ นี่เพราะเห็นว่าเมื่อคืนน่ะ เอ่อ หนักไปหน่อย... แบบว่า...”
คนพูดกลับดันเขินเสียเอง ใบหน้าของผู้ใหญ่เวลาเขินอายแบบนี้ทำให้ไคริอมยิ้ม เพราะน้อยครั้งนักที่จะได้เห็น
“คุณโชเฮน่ารักจัง”
คำชมที่ทำให้คนฟังรีบโพล่งใส่ด้วยความขัดเขิน
“อย่ามาแซวผู้ใหญ่นะ!”
“ก็น่ารักจริง ๆ นี่นา”
เจ้าตัวบอก พลางนิ่วหน้าคล้ายเจ็บอะไรสักอย่าง ทำให้ชายหนุ่มตกใจ แต่เมื่อโน้มตัวเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง ก็ถูกคนตัวเล็กกว่า ขโมยจูบเสียอย่างนั้น
“วันนี้ก็ได้กำไรอีกแล้ว”
เด็กชายบอก พลางยันกายลุกขึ้นนิ่วหน้าเล็กน้อย จนคนที่กำลังจะต่อว่าที่ถูกขโมยจูบตกใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ไหว ก็อย่าเพิ่งลุกเลย”
ไคริช้อนสายตามองคนพูด ก่อนตีหน้าละห้อย
“แต่ผมอยากอาบน้ำนี่นา”
โชเฮชะงัก พลางถอนหายใจ แล้วจึงอุ้มร่างเล็ก เข้าไปห้องอาบน้ำด้วยกัน
“งั้นไปอาบพร้อมกันก็ได้”
ร่างเล็กโอบคอร่างสูง ปล่อยให้อีกฝ่ายอุ้มไปห้องอาบน้ำ ใบหน้าหวานซุกพิงอกกว้าง ซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไว้ไม่ให้ใครเห็น
โชเฮไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการอาบน้ำให้เด็กมันจะเหนื่อยขนาดนี้ โดยเฉพาะเด็กตรงหน้าที่ดูเหมือนจะสรรหาเรื่องมาแกล้งแหย่ให้เขาเตลิดอยู่ตลอดเวลานี่
“อืม...อาบด้วยกันเลยสิครับ คุณโชเฮ”
น้ำเสียงเล็ก ๆ เว้าวอน ใบหน้าหวาน ๆ ก็ออดอ้อนเสียจนโชเฮเริ่ม ใจสั่น
“อย่าดีกว่า อาบให้เธอเสร็จแล้วฉันค่อยอาบแล้วกัน”
เจ้าตัวปฏิเสธโดยไม่ยอมมองหน้า เพราะเริ่มรู้สึกว่าหน้าตัวเองจะร้อนขึ้นมานิด ๆ
“ทำไมต้องเสียเวลาด้วยล่ะ ก็แช่อ่างพร้อมกันก็สิ้นเรื่อง อ่างอาบน้ำบ้านคุณโชเฮก็ใหญ่ดีออก แช่สองคนได้สบาย ๆ”
ไคริไม่ยอมแพ้ ยังคงตื๊อต่อ ทว่า โชเฮยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว เด็กชายจึงหน้ามุ่ยลง ก่อนจะเอื้อมไปหยิบขันน้ำ และตักน้ำในอ่างสาดใส่ ชายหนุ่มจนเปียกทั้งตัว
“เธอทำอะไรน่ะไคริ!”
โชเฮโพล่งใส่ดุ ๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มหวานของอีกฝ่าย
“คุณก็เปียกแล้ว มาอาบพร้อมกันดีกว่า ขืนอยู่แบบนี้นาน ๆ ระวังเป็นหวัดนะครับ”
ร่างเล็กบอกพลางลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำรอก่อน ซึ่งโชเฮก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความเอาแต่ใจของเด็กชาย แล้วจึงจัดการถอดเสื้อผ้าเปียก ๆ ของตัวเองออก ตามไปแช่ในอ่างด้วยอีกคน
ไคริยิ้มหวานเมื่อชายหนุ่มลงมาแช่ด้วยกัน จากนั้นจึงจัดแจงเบียดตัวเข้าไปซุกพิงอกของร่างสูง ซึ่งโชเฮอยากจะแย้งแต่ก็พูดไม่ออก เนื่องจากประโยคถัดมาที่เขาได้ฟังจากอีกฝ่าย
“ผมไม่ได้อาบน้ำกับคนอื่นมานานแล้ว เมื่อก่อนตอนเด็กกว่านี้ ตอนที่แม่ยังอยู่ ยังได้อาบพร้อมแม่บ้าง พร้อมพ่อบ้างตลอด แต่พอแม่เสียพ่อก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เหมือนเคย”
ไคริบอกเล่าความหลังของตัวเอง ท้ายประโยคน้ำเสียงเจ้าตัวเบาลง จนโชเฮเห็นใจ เลยโอบกอดร่างเล็กจากข้างหลังอย่างอ่อนโยน
“ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ฉันจะอาบเป็นเพื่อนเธอเองเอาไหมล่ะ”
ไคริหันมายิ้มให้ เป็นรอยยิ้มยินดีจากใจอย่างไร้สิ่งอื่นใดเคลือบแคลง
รอยยิ้มดังกล่าวทำให้โชเฮเกิดอาการใจเต้นประหลาด พวกเขาแช่น้ำด้วยกันสักพัก จนในที่สุดร่างเล็ก ก็เริ่มเบียดกายแนบชิดเสียดสีร่างหนาเข้า ไปอีก โชเฮสะดุ้งพยายามขยับตัวออกห่าง แต่ดูเหมือนเด็กชายจะเกาะติดเขาแน่น และเริ่มเข้ามานัวเนียจนทำเอาเขาเตลิดควบคุมตัวเองไม่อยู่อีกครั้ง
“คะ...ไคริ จะทำอะไรน่ะ”
โชเฮถามเสียงสั่น เมื่อร่างเล็กพลิกกายหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา มือเล็กนั่นก็โอบกอดรอบคอเขาแน่นไม่ยอมปล่อย
“อยากให้คุณโชเฮกอดอีกจัง”
เจ้าตัวตอบพร้อมกับเริ่มส่งสายตาหวานยั่วยวน
“ตอนนี้ก็กอดอยู่ไม่ใช่เหรอ”
โชเฮบอกพลางกลืนน้ำลายลงคอ คิดในใจอย่างระแวงว่าเด็กคนนี้จะมาไม้ไหนอีก
“ไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย กอดแบบเมื่อคืนต่างหาก”
ใบหน้าหวานนั้นง้ำลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มพยายามจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในสิ่งที่ตนต้องการจะสื่อ
“ยังไม่หายเจ็บไม่ใช่หรือไง”
น้ำเสียงถามอย่างระอา ปนเหนื่อยอ่อนเมื่อได้เห็นสีหน้างอน ๆ ของอีกฝ่าย
“ทำบ่อย ๆ จะได้ชินไงครับ”
ใบหน้าหวานยิ้มตอบ เพราะรู้ดีว่าคนพูดเริ่มใจอ่อนยอมตามใจเขาอีกจนได้
“ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ ถ้าเกิดไม่สบายหนักขึ้นมากว่าเดิมจะทำยังไง”
โชเฮดุ ซึ่งไคริก็ชะโงกหน้ามาจูบปากอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างเอาใจ
“ดีใจครับที่คุณโชเฮห่วงผม แต่ผมรู้ร่างกายตัวเองดี และตอนนี้....”
เจ้าตัวบอกพร้อมกับลูบไล้ที่แผ่นอกกว้างแผ่วเบาคล้ายยั่วเย้า
“ผมต้องการคุณโชเฮครับ...”
เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนของร่างสูงดังขึ้น แต่ก็ยังคงยอมปล่อยให้ร่างเล็ก เป็นฝ่ายนำไม่ว่าไคริต้องการให้เขาทำอะไร ชายหนุ่มก็ยินยอมพร้อมใจสนองโดยไม่ขัดข้อง ซึ่งเจ้าตัวเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเหตุใดเขาจึงเป็นเช่นนี้ หรืออาจเป็นเพราะเขาเริ่มตกบ่วงเสน่ห์ของปีศาจน้อยตรงหน้านี่แล้วก็เป็นได้...
ร่างเล็กนอนอมยิ้มมองร่างสูงเปลือยเปล่าข้างกายที่กำลังหลับสบาย เด็กชายเขี่ยไรผมของอีกฝ่ายเล่น ก่อนโน้มกายไปจุมพิตที่หน้าผากนั้นแผ่วเบา
“ชอบคุณโชเฮ จังครับ”
เด็กน้อยกระซิบบอกคนที่กำลังนอนหลับ และลุกขึ้นมาจ้องหน้าอีกฝ่าย เจ้าตัวนิ่งแบบนั้นพักใหญ่ ก่อนจะเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ตามมา
“อืม ... อา...” เสียงทุ้มครางอย่างมีความสุข กับสัมผัสที่เพลิดเพลิน และอ่อนนุ่ม ที่เคลื่อนไหวผ่านผิวกาย ทว่า ไม่นานก็ต้องขมวดคิ้ว ฉุกคิด เรียกสติกลับ ก่อนลืมตาโพลง
“เฮ้ย!”
เสียงตะโกนของชายหนุ่ม ทำให้ร่างเล็ก ที่กำลังพรมจูบทั่วร่างเปลือยเปล่านั้น ลุกขึ้นมานั่งยิ้มยั่วมองบนอกของร่างสูง
“ตื่นแล้วหรือครับคุณโชเฮ เป็นไงครับหลับสบายดีไหม”
โชเฮกะพริบตาปริบ ๆ มองดูสถานการณ์แล้วเห็นว่าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ชายหนุ่มรีบถามอีกฝ่ายละล่ำละลัก
“เธอกำลังทำอะไรฉัน!”
ไคริซ่อนยิ้ม ทั้ง ๆ ที่นึกขำกับปฏิกิริยาตอบรับของผู้ใหญ่ตรงหน้า ก่อนตอบกลับหน้าตาเฉย
“ก็ลักหลับไงล่ะครับ คุณโชเฮไม่เคยทำกับใครบ้างเหรอ?”
คนฟังหน้าแดงวาบ ทั้งฉุนทั้งอาย ที่อีกฝ่ายดันเปลี่ยนสถานะให้เขากลับกลายเป็นฝ่ายรับแทนแบบนี้
“เลิกเดี๋ยวนี้นะเด็กบ้า! เธอนี่นับวันชักจะเอาใหญ่แล้วนะ!”
โชเฮโพล่งใส่ พร้อมกับยกร่างเล็กออกจากตัวเขา วางไว้ข้าง ๆ แทน พร้อมยันกายลุกขึ้นมาถลึงตาใส่ดุ ๆ
“โกรธหรือครับ”
เด็กชายช้อนตาละห้อย ทำเสียงสำนึกผิดเล่นเอาชายหนุ่มใจอ่อนวูบ
“ก็ไม่โกรธนักหรอก ... แต่ไม่ควรทำแบบนี้รู้ไหม”
โชเฮพยายามสอนถึงความเหมาะสม ซึ่งอีกฝ่ายก็ตีหน้างุนงง เอียงคอถามอย่างไร้เดียงสา แต่ชายหนุ่มก็ชักไม่แน่ใจว่านั่นเป็นอาการแกล้งทำหรือว่าเป็นจริง
“ทำไมล่ะครับ ก็ผมชอบคุณโชเฮ ก็อยากจะกอด อยากสัมผัสคุณ มันผิดตรงไหนหรือครับ”
คนฟังอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี จึงได้แต่อึกอักบอกไป
“คะ...คือ มันไม่สมควร ...แบบว่า อายุอย่างเธอกับฉัน ..มัน ..คือ....เธอไม่ควรจะเป็นฝ่ายรุกฉันเองแบบนี้”
ชายหนุ่มบอกไปก็หน้าแดงไป นึกสมเพชตัวเอง ที่ต้องมานั่งอธิบายเรื่องดังกล่าวให้เด็กเล็ก ๆ ฟัง แถมยังเป็นเด็กที่เขาเผลอไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเข้าเสียด้วย
ไคริมีท่าทีนิ่งฟังอย่างสนใจ ก่อนจะแย้มยิ้มน่ารัก ทว่า นัยน์ตาส่งประกายเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
“ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณโชเฮอยากบอกแล้วครับ เอาเป็นว่าคราวหลังผมจะไม่ทำแบบนี้”
โชเฮฟังแล้วก็เบิกตา ก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอกตามมา แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายกล่าวต่อ
“เอาเป็นว่าหน้าที่ลักหลับต่อไปนี้จะยกให้คุณโชเฮแทนนะครับ อย่าลืมย่องเข้าหาผมล่ะ ผมจะเปิดประตูไว้รอทุกคืนเอง มาให้ได้นะครับ”
บอกพลางก็ยื่นหน้าไปจูบแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ พร้อมกับลุกเดินฮัมเพลงกลับห้องไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้ร่างสูงในห้อง ที่นั่งตะลึง ค่อย ๆ สีหน้าเปลี่ยนสภาพ เป็นแดงจัด ด้วยความฉุนเฉียว ปนอับอาย ที่เสียรู้อีกฝ่ายเข้า จนได้
------
----
--