ช่วงเวลาสองสัปดาห์มันเหมือนฝัน ไม่มีสิ่งใดเป็นเรื่องจริง
วฤทธิ์มองลอดหน้าต่างของเครื่องบิน ที่กำลังจะมุ่งหน้าไปอเมริกา
ใช่....เขากำลังมุ่งหน้าไปหาพี่สาว หลังจากนอนซมอยู่ในโรงพยาบาล
วาทินพี่ชายบอกทางบ้านว่าเขาไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน
แต่ตลอดเวลาเขานอนซมอยู่โรงพยาบาล มีหมอที่ดูแลเป็นเพื่อนพี่ชายจึงไม่ต้องห่วงว่าทางบ้านจะรู้
เขาต้องเย็บถึง 6 เข็ม จะลุกจะนั่งจะขับถ่ายแต่ล่ะทีก็ลำบาก แต่แผลทางใจนี่สิ มันยากจะเยียวยา
เพราะทุกครั้งที่หลับตาเขาต้องเห็นหน้าหมอนั้น ไอ้ฝรั่งผมทอง เขาอยากจะฆ่ามันนัก
จับมาหั่นเป็นชิ้นถ่วงน้ำก็ยังไม่สาแก่ใจ วฤทธิ์ต้องอาศัยยาคลายเครียดช่วยกว่าจะผ่านพ้นช่วงลำบากมาได้
“ไปอเมริกาไหม พี่มิงค์ก็อยู่ที่นั้นไปเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยเราอาจรู้สึกดีขึ้น”
“จะให้ผมหยุดเรียนเหรอ”
“ดรอบไว้ก่อน พี่ไม่อยากให้อาร์มไปเรียนในสภาพนี้ นะ....ไปเที่ยวสัก 2-3 เดือน พี่จะคุยกับพ่อแม่เอง”
อเมริกา.....บางทีมันอาจจะทำให้เขาดีขึ้นก็ได้ ขอให้ช่วยเขาได้เถอะ
....................................................
.............................
“อาร์ม” เสียงใสกังวานเหมือนเด็กเป็นเอกลักษณ์ของวราทิพย์ พี่สาวคนรอง
เธอโบกมือหยอยๆร่าเริงราวกับนกน้อย ก่อนกางแขนโอบกอดเขาด้วยความคิดถึง กลิ่นหอมนุ่มนวลโอบล้อมเขาอย่างอบอุ่น
“คิดถึงจังเลย”
“ผมก็คิดถึงพี่...คิดถึงมากๆเลย”
“พ่อแม่เป็นไงบ้าง สบายดีไหม”
“ดีครับ ทำไมพี่ไม่กลับไปบ้านบ้างล่ะ” สองพี่น้องช่วยกันหอบกระเป๋าขึ้นหลังรถ ท่ามกลางอากาศหนาวติดลบ
“งานพี่กำลังรุ่งจ๊ะ อีก 2-3 ปีก่อนขอเก็บเงินก่อน” วราทิพย์หัวเราะร่วนขับรถพาเขาไปอาร์พาร์เม้นท์ใจกลางเมือง ชิคาโก
ทิวทัศน์ที่แปลกหูแปลกตา กลิ่นอากาศไม่เหมือนที่บ้านทำให้ชายหนุ่มตื่นเต้นไม่น้อย
“เมืองนี้ใหญ่พอๆกับกรุงเทพไหม”
“ใหญ่กว่าจ๊ะ สะอาดสะอ้าน แต่ก็มีแหล่งเสื่อมโทรมบ้าง ที่ที่พี่อยู่ดีมากนะ ไม่ค่อยมีปัญหาเลย เพื่อนบ้านก็น่ารัก”
“แล้วงานพี่ล่ะ”
“ไปได้โลด พี่กำลังรอตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย อีกไม่กี่เดือนนี่แหละ” หญิงสาวเล่าอย่าตื่นเต้น
วฤทธิ์มองเล็บยาวสีชมพูกับแหวนเพชร เธอดูหรูและมีความสุขมาก
ห้องที่เธอเช่าเป็นห้องหรูทั้งชั้นของตึกเก่าๆแห่งหนึ่งใจกลางเมือง
ค่าเช่าเดือนหนึ่งก็หลายพันดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยแล้วชายหนุ่มถึงกับตะลึง
“พี่....ดูรวยจัง” วฤทธิ์เดินรอบห้องแล้วต้องอ้าปากหวอ ทุกอย่างในห้องหรูหราไปหมด
มีเตาพิงในห้อง เครื่องเสียงชั้นหนึ่ง แถมชั้นวางไวน์อีกเป็นสิบๆขวด ไม่อยากเชื่อว่าพี่สาวเขาจะเริ่ดขนาดนี้
“ใช่ไหม....บริษัทของพี่กำลังรุ่งมากๆเลย พี่ได้โบนัสตั้ง 10 เดือนแน่ะ”
“โว่...”
“เจ้านายพี่ก็นิสัยดีมากๆเลย แฟรน์ลี่กับลูกน้องทุกคน แถมชอบเมืองไทยมากๆด้วย พี่ได้เป็นครูสอนภาษาไทยเขาด้วยนะ”
“ดีจังเลยนะฮะ”
“ช่วงนี้พี่มีงานต้องเคลียร์ให้เสร็จ อาร์มอยู่คนเดียวได้ไหมแล้วพี่จะพาเที่ยววันศุกร์”
“ได้สิครับ ผมอยู่ได้ จะช่วยดูแลบ้านด้วย”
“น่ารักนะ น้องคนนี้” วราทิพย์กอดเขาแน่นเหมือนเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ
แค่การมาที่นี่ไม่กี่นาทีก็มีเรื่องเซอร์ไพร์เสียแล้ว บางที....เขาอาจชอบที่นี่ก็ได้
“พี่...นี่เราอยู่ชั้นบนสุดเหรอ”
“จ๊ะ มีดาดฟ้าด้วยนะ มองเห็นเมืองทั้งเมืองเลย”
“ผมขอไปดูหน่อยนะ”
“ใส่เสื้อหนาๆด้วย”
ชายหนุ่มสวมสเว็ตเตอร์หนาๆกับหมวกไหมพรมเดินขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ตึกที่นี่เหมือนเห็นในหนังเลย
ดาดฟ้ากว้างไม่มีมุงอะไรมาขวางหูขวางตา เมืองที่นี่กว้างสุดลูกหูลูกตา
ตึกสูงรายล้อมแต่ก็ไม่บังทิวทัศน์รอบนอก ลมเย็นปะทะเข้ามาเขาต้องห่อตัวหนีก่อนจะเห็นบางอย่าง
หิมะ....
หิมะโปรยปรายลงมา สวยมากเลย
“เฮ่....”
วฤทธิ์สะดุ้งโหยงหันไปมองข้างหลังทันที
ติดตามตอนต่อไปจ้า