Ch.1
“พี่โอว่าไขจะเรียนต่ออะไรดีอ่ะ” ฟ้าใสนั่งแปะลงตรงหน้าพี่สาวที่อยู่มหาลัยปี2แล้ว จ้องตาแป๊ว
“อื้อ...เธอจะไม่ต่อ ม.ปลายของ สาธิต Z.แล้วเหรอ” ส้มโอถาม มองหน้าน้องชายที่หน้าสวยเหมือนผู้หญิง
เอามือหนึ่งปัดๆผมที่ระหน้าระตาฟ้าใสออก พลางปิดนิตยสารที่อ่านค้างอยู่โดยไม่ลืมที่จะหยิบกระดาษที่จดอะไรไว้มาคั่นหน้า
ฟ้าใสพยักหน้ารับพร้อมกับทำหน้าคิด
“ก็เห็นเพื่อนๆจะออกไปต่อที่อื่นกันหลายคน แทบว่าจะทุกๆคนด้วยซ้ำอ่ะ” ฟ้าใสบอกสาเหตุ
และดูเหมือนส้มโอจะเข้าถึงเหตุผลอย่างดีด้วยซ้ำ ก็พี่ส้มโอก็จบจากที่นี่ ก็รู้ว่าโรงเรียนของพวกเราถึงแม้จะมีชื่อว่าเก่าแก่
แต่ก็ไม่ใช่วิชาการแข็งนัก ออกจะเป็นโรงเรียนที่เรียนๆเล่นๆกิจกรรมเยอะ จะมีชื่อเสียงก็บางครั้งที่มีเด็กเก่งๆหลงมาแล้วทำชื่อเสียงให้บ้าง
แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค เป็นว่านักเรียนจะค่อนข้างอยู่แล้วมีความสุข อาจารย์ก็ออกแนวใส่ใจดูแลเอื้ออาทรผ่อนปรน
ก็ดูอย่างเขาสิยังยอมให้ไว้ผมยาวจนระต้นคอได้เลย แม่เขาถึงได้ชอบที่จะให้เขาเรียนที่นี่แม้รู้ว่าวิชาการสู้โรงเรียนอื่นไม่ได้
ก็แม่หน่ะชอบเห็นเขาไว้ผมยาวๆไม่ชอบให้ลูกชายหัวเกรียนหรอก รองทรงก็ไม่ยอมจนไปเถียงกะอาจารย์ว่าไม่ยอมให้ตัดผม
ก็ผมเขามันหยักศกจนเป็นขอดๆ สีก็ออกน้ำตาลๆ ตอนเด็กก็เหมือนตุ๊กตา
ตอนประถมก็มัดจุกมัดผมให้เหมือนเด็กผู้หญิง จนแม่กับยายพาไปวัดทีไร พระก็ขยับหนีนึกว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิง
แล้วที่แม่ชอบผมของเขาก็คงเพราะเรื่องผมหยักศกนี่คงได้มาจากพ่อ ก็พี่น้องคนอื่นนี่ ผมตรงกันหมด
ครอบครัวเขามีพี่น้องกัน4คน พี่ส้มโอนี่เป็นพี่สาวคนโตที่แก่กว่า4ปี
หน้าตาเรียกว่าสวย ขั้นสวยมากด้วยซ้ำยิ่งโตขึ้นเป็นสาวแล้ว คนนึกว่าเป็นดาราเลยล่ะ เพียงแต่ผิวคล้ำอ่ะ
ก็พี่ส้มโอเล่นเหมาของจากพ่อไปหมดเลย ความเก่งเรื่องภาษาอังกฤษ ความเนี๊ยบ อ้อเหลือแต่เรื่องผมหยักศกนี่แหล่ะ
ที่ยกมาให้ ก็พ่อผมเป็นคนใต้อ่ะครับ แต่เหมือนมีเชื้อทางพวกมาเลเซีย หน้าตาเรียกได้เลยหล่อมาก
ดูจากรูปที่แม่เก็บไว้ อ้อ พ่อผมเสียไปนานมากแล้วตั้งแต่เด็ก
ตั้งแต่ข้าวปั้นเกิดมาได้ไม่ถึงปี พ่อเขาต้องไปตรวจการเรียนการสอนที่โรงเรียนต่างจังหวัดตอนขากลับรถที่นั่งมา
เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต แม่เขาก็ช็อคมาก แล้วก็ไม่ค่อยพูดถึงพ่อเลย
พวกผม4คนพี่น้องดีว่าพวกเราอยู่กันที่บ้านยาย ที่มีบรรดาป้าๆแล้วยายก็ทำธุรกิจเป็นโรงงาน
เลยมีทั้งคนงาน แม่บ้าน ป้าๆที่ยังโสดๆคอยช่วยดูแล ถ้าแม่คนเดียวต้องเลี้ยงลูกตั้ง4คนคงเหนื่อยแย่
พวกผมก็ได้ป้านี่แหล่ะที่ช่วยขับรถมารับ-ส่งที่โรงเรียน จนม.2 ถึงได้ขอขึ้นรถเมล์กลับเอง ม.1ลองขอแล้ว
แต่ไม่ให้ มาอนุญาตตอนม.2 ไม่งั้นไม่ได้สมาคมกับเพื่อนเลย มาส่งก็สาย มารับกลับก็เร็วมาก
เรียกว่า4โมงเย็นนี่ถึงบ้านแล้ว
พวกผม4คนพี่น้อง มีผมเป็นผู้ชายคนเดียวแต่กลับตัวขาวที่สุด ได้มาจากแม่ พี่ส้มโอจะหน้าคมตาคมผิวคล้ำเหมือนพ่อ
พ่อจะเป็นคนตัวเล็ก สูงแค่ 163 พี่ส้มโอกะผมจะตัวเล็ก สูงกันแค่158 ซม.
ส่วนข้าวโอ๊ตน้องสาวคนถัดจากผมจะอ่อนกว่า2ปี แล้วก็ข้าวปั้นอ่อนกว่าข้าวโอ๊ต2ปี เป็นน้องสุดท้อง จะเป็นพวกตัวสูงได้จากแม่
แม่เขาเป็นนักกีฬาสูง170กว่า ขายาว พี่น้องได้ขายาวจากแม่หมด 555 เลยเป็นคนขยันกันหมด เพราะหลังสั้น
อย่างข้าวโอ๊ตนี่ได้ไปทางแม่เต็มๆชอบเล่นกีฬาตัวสูงเกือบ170ขนาดอยู่แค่ม.1กระดูกก็ใหญ่
ข้าวโอ๊ตนี่ก็ออกจากโรงเรียนผมไปต่อที่โรงเรียนหญิงล้วน เข้าไปปีแรกก็ได้เป็นนักกีฬาตัวจริงของทั้งบาสทั้งวอลเล่ย์
แต่เรื่องผิวขาวนี่ ผมก็เหมามาจากแม่คนเดียว น้องสาวทั้งสองก็ยังได้ผิวสองสี โดนแดดหน่อยก็ดำเร็ว
ส่วนผมนี่โดนแดดก็กลายเป็นตัวแดงไปละมากกว่า โรงเรียน Zที่ผมอยู่ตอนนี้ก็เหลือแต่ ผมที่อยู่ม.3กับข้าวปั้น ที่อยู่ป.5
“แล้วไขอยากเรียนสายอะไรล่ะ วิทย์ ศิลป์ภาษา” ส้มโอเริ่มถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ก็ไขยังไม่รู้เลยว่าไอ้สายวิทย์ สายศิลป์ มันคืออะไร แล้วมันต้องเรียนอย่างไง” 555 พี่ส้มโออย่าว่าเค้านะ
แต่พี่ส้มโอใจดีกะฟ้าใสมาตลอด ก็มีช่วงที่แม่ต้องไปเป็นครูใหญ่ที่โรงเรียนต่างจังหวัด
เลยเอาฟ้าใสกับส้มโอไปอยู่ด้วย พ่อก็อยู่ที่บ้านยายกับข้าวโอ๊ต ข้าวปั้นที่กรุงเทพ
แล้วทั้งแม่-พ่อก็ไปๆ-มาๆบ้าง ส้มโอเลยเลี้ยงฟ้าใสเหมือนเป็นตุ๊กตาของเล่นของตัวเอง
เขาเองก็เลยทำตัวเหมือนตัวเองเป็นน้องคนสุดท้อง
ก็พอพ่อเสียนี่แหล่ะแม่ถึงได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านยาย พี่น้อง4คนเลยค่อยอยู่ด้วยกัน
แล้วนี่ถ้าฟ้าใสไปคุยกับแม่มีหวัง โดนว่าแน่ว่าทำไมถึงไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้ มีสิทธิ์โดนประชดจนน้ำตาร่วงแน่
ก็พอทำการบ้านไม่ได้ให้แม่สอนทีไร ก็โดนว่าทุกที ได้แต่อาศัยพี่ส้มโอนี่แหล่ะ
แถมยังแอบเก็บพวกการบ้านพี่โอที่เรียนๆไว้เอามาลอกมาส่ง (รีไซเคิล อ่ะ เราต้องใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วมาทำให้เกิดประโยชน์)
จนผ่านมาได้ทุกวันนี้ และแล้วพี่ส้มโอก็อธิบายให้เขาฟัง พร้อมกับบอกเสร็จว่าเรียนแนวนี้ไป โตขึ้นจะทำงานอะไร
ฟ้าใสฟังไปก็นับถือพี่สาวตัวเองไป นี่พี่ส้มโอเอาสมองจากพ่อกะแม่ไปหมดหรือเนี่ย เหลือถ่ายให้เขาเท่าเม็ดถั่วเขียวเปล่า
เรียนวิชาอะไรๆก็เก่งภาษาก็เก่ง เล่นเกมส์อะไรก็เก่ง สอบก็อยู่ในอันดับที่1-ที่3 เท่านั้น อย่างเขาเคยดีที่สุดก็ได้ที่10
ก็ตอนที่พี่ผึ้งที่เป็นลูกศิษย์แม่มาเป็นครูฝึกสอน แล้วก็เลยเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษ คะแนนเลยออกมาดี
นอกนั้นก็ร่วงมาเป็น 20กว่า การบ้านก็ไม่ยอมทำส่ง จนอาจารย์ส่งจดหมายฟ้องถึงแม่
หลังจากอธิบาย พี่ส้มโอก็ไปให้เขาคิดว่าเขาอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร พอเขากลับไปคิดเอาจริงเอาจัง
เขาก็บอกกับตัวเองว่าเขาน่ะอยากไปอยู่ที่ดาวอังคารกะมนุษย์ดาวอังคาร ซึ่งบอกไปก็คงโดนนนนนน ด่า อ่ะดิ
งั้นอาชีพล่ะ ทำอะไรเขามันก็ขี้เบื่อ ขนาดเพื่อนคบๆกัน ว่าสนิทว่าซี้ ก็ยังเปลี่ยนคนเปลี่ยนกลุ่ม อาศัยว่าตีเนียน
เพื่อนเลยไม่รู้ว่า ถูกทิ้งแล้วนะคร้าบบบผม แล้วกลุ่มก็ยังนัวๆกันมันก็เลยสนิทกันไปโหม๊ด
รึว่าเราชอบด้านเสื้อผ้าฟ่ะ ออกแบบเสื้อผ้ารึเปล่า เพราะผมชอบวาดตุ๊กตา ตัดชุดตุ๊กตาให้ข้าวปั้นเล่น ก็สงสารมันนี่นา
มันเด็กที่สุด พอคนโตๆเขาไปเล่นนอกบ้าน ข้าวปั้นต้องนั่งเล่นคนเดียวกับป้านวล ผมก็เลยวาดตุ๊กตา ชุดเช๊ด ทิ้งไว้ให้
ป้านวลก็จะตัดให้ข้าวปั้นเล่น
อ๊าค!!!สมองเม็ดถั่วเขียวปวดหัวแล้วเฟ้ย เลิกคิดไปก่อน โทรคุยกับไอ้ดรีมดีกว่า ช่วงนี้ผมซี้กับดรีมครับ
มันเป็นหลานสาวนักการเมืองที่เอ่อ...มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีหน่อยตัวลุงของมัน แต่พ่อมันนะเฉยๆมั๊ง
มาซี้กันเพราะมันลื่นหกล้ม ผมเลยเข้าไปช่วยฉุดลุกขึ้น พาไปห้องน้ำ เลยคุยกันถูกคอ มันชอบศิลปะ แฟชั่น
พอคบแล้วมันเลยติดผมแล้วชอบชวนผมไปว่ายน้ำที่บ้านมัน บ้านมันมีสระว่ายน้ำ ห้องดูหนังฟังเพลงใต้ดินด้วยครับ
“ไขเหรอ...” ดรีมจำเสียงผมได้ทันที
“จร้า....” พูดเพราะกะเพื่อนเสมอ อิอิ
“ดีเลย เพิ่งคุยกะไอ้เปรี้ยว ไอ้ลาเต้”
“ไมอ่ะ มีไรเหรอ แหมเสียงตื่นเต้น ดรีมจะแต่งงานเหรอ...555” ผมแซว ก็เห็นมันชอบเล่าว่า
พวกญาติมันชอบพาพวกลูกหลานคนนั้นคนนี้มาให้รู้จักกันไว้ เผื่อวันข้างหน้าจะได้ดองกัน
“แกจะบ้าเหรอไอ้ไข่ โฮะ โฮะ โฮะ”
“อ่ะ...ย้อเย่น 555 ว่าไงจ๊ะ มีเรื่องไรเหรอ บอกมาเร้ย วันเสาร์-ทิตย์ ยิ่งไม่มีไรทำ”
“โห...แหมไม่มีไรทำ รายงานเดี่ยวแกก็ยังไม่ได้ส่งทั้ง2วิชา รายงานกลุ่ม แกก็ยังไม่ช่วยทำเลยนะเว้ย” ไอ้ดรีมจะเป็น
คนที่พูดเพราะสลับกับพูดเอะอะม่ะเทิ่งด่าบ้างหยาบบ้าง จนเหมือนมี 2in1 ในร่างเดียวกัน
+++++++++++++++++
Ch.1 (ต่อ)