Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ควรจะมีภาคต่อไหม ?

มีก็ดี :D
34 (82.9%)
ไม่มี จบแค่นี้ก็ฟินแล้ว ~
3 (7.3%)
มีก็ได้ไม่มีก็เฉยๆ
4 (9.8%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 41

ผู้เขียน หัวข้อ: Ominous Bird นกบอกลาง [จบแล้ว]  (อ่าน 70336 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 49 10 พ.ค 59 p.15
«ตอบ #420 เมื่อ10-05-2016 23:42:39 »

ตอนที่ 49

"ข้าสงสารเจ้าเด็กนั่นชะมัด ที่มาชื่นชมเจ้า" ฟาร์คัสบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้ระหว่างที่กำลังถูกวัดตัวจากปีศาจที่ทำเกี่ยวกับชุดแต่งงานโดยเฉพาะ 

คาร์บิลัสนั่งเท้าคางมองฟาร์คัสด้วยสายตาหวานเชื่อม "สงสารทำไม ข้าออกจะตั้งใจทำงานใส่ใจครอบครัวและรักชายามากๆ"

"มียางอายบ้างเถอะ แพะเวร" ฟาร์คัสสบถเมื่อเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของปีศาจที่มาช่วยเรื่องชุดแต่งงาน พวกมันพยายามตั้งหน้าตั้งตาจดปิดบังความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง

"ท่านคาร์บิลัสขอรับ สำหรับชุดแต่งงานท่านจะใช้สีอะไรดี" ปีศาจตนหนึ่งพูดพร้อมยื่นหนังสือที่รวบรวมสีทุกสีในดินแดนปีศาจเอาไว้ให้กับนายของตัวเอง

คาร์บิลัสเหลือบมองสั้นๆ และมองฟาร์คัสต่อ  "ข้าเอาสีดำ แล้วเจ้าล่ะฟาร์คัส สีขาวดีไหม จะได้ตัดกับข้าพอดี"

"ข้าเอาสีดำ" ฟาร์คัสตอบอย่างไม่ต้องคิด จะให้อีกาสีดำอย่างเขาไปใส่ชุดขาวบริสุทธิ์ก็คงไม่ใช่เรื่องที่เข้าท่าสักเท่าไหร่

"สีดำนะขอรับ" รับคำและจดยิกๆ ลงสมุดเล่มเล็ก "แล้วชุดล่ะขอรับ ท่านคาร์บิลัสอยากได้แบบไหน แบบดั้งเดิมหรือจะให้ออกแบบมาใหม่เลยขอรับ"

"ดั้งเดิมแล้วกัน ชุดสวยดี อ้อ สำหรับชายาข้าพวกเจ้าออกแบบมาใหม่แล้วกัน" คาร์บิลัสตอบโดยไม่รอคำตอบของฟาร์คัส   
ซึ่งฟาร์คัสก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะก็เป็นแค่ชุดที่สวมใส่แค่ไม่ถึงวันเท่านั้น

ต่างกับคาร์บิลัสที่ภายนอกอาจจะดูตื่นเต้นนิดหน่อยแต่ภายในดีใจมากๆ ถึงขั้นตั้งใจจะลางานไปเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานโดยเฉพาะ

"เรื่องห้องหอท่านจะเอากุหลาบกับเทียนหอมไหมขอรับ ข้าเคยเห็นเมืองมนุษย์โปรยเอาไว้บนเตียงคู่บ่าวสาว"

"ดีๆ เพราะข้าอาจจะอยู่ในห้องนั้นสักวันสองวัน ไม่สิ อืมม ข้าว่าเรื่องนี้ค่อยคุยกับข้าเวลาอื่นแล้วกัน" คาร์บิลัสพยักหน้ารับโดยไม่ต้องคิดก่อนจะสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงสายตาเย็นเยียบบางอย่างจากด้านหลัง

ฟาร์คัสหน้าแดงก่ำเพราะได้ยินประโยคงี่เง่าเมื่อกี้นี้พอดี

หมายความว่าไงที่จะอยู่ในห้องหอนั่นวันสองวัน !?

แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากว่ากล่าวอะไรนักเพราะมีคนอื่นอยู่เต็มห้อง ได้แต่ปล่อยให้ถูกวัดขนาดตัว ข้อมือ ข้อเท้าไปเรื่อยๆ แต่สายตายังคงจับจ้องแผ่นหลังของราชาปีศาจที่โน้มตัวลงไปกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับปีศาจตัวอ้วน มันหน้าแดงก่ำและกระวี
กระวายจด

"ฟาร์คัสข้าจะส่งคำชวนไปหาเอลล์กับลุกซ์ เจ้าจะฝากข้าชวนใครไหม" คาร์บิลัสพูดขึ้นมาหลังจากกลับมานั่งปกติ

ชวน ?

ฟาร์คัสพูดทวนคำเบาๆ กับตัวเอง ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

เพราะรู้สึกเหมือนได้ยินคำพูดของบาร์ลินข้างหูตัวเอง

"ถ้าเจ้าแต่งงาน เจ้าต้องชวนข้าด้วยนะ! เพราะข้าเป็นเพื่อนสนิทมากๆ คนเดียวของเจ้า"

ส่ายหัวกับความคิดไร้สาระและพยายามคิดถึงบุคคลที่จะมางานแต่งงานของตัวเอง

เพื่อนเพียงคนเดียวที่นึกออกก็มีเพียงเอลล์ซึ่งเจ้าแพะโง่นั่นก็ชวนให้แล้ว... ส่วนอีกคนที่อยากชวนก็ใช่ว่าจะชักชวนมาได้อย่าง วารัน ชาร์เลส   

ทำไมบุคคลที่ข้ารู้จักล้วนเกี่ยวข้องกับท่านโฟเทียสกัน?

ฟาร์คัสคิดอย่างเหนื่อยอ่อน พวกเขาล้วนแล้วแต่กลับไปอยู่ข้างกายท่านโฟเทียสกันแล้ว แล้วเขาจะมีปัญญาที่ไหนไปชวนมางานแต่งงานตัวเองกันล่ะ ผู้ควบคุมกาลเวลาไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายๆ ตามท้องตลาดหรอกนะ

"โรซ์เวลไหม ข้าเห็นเจ้านกนั่นชอบคุยกับเจ้านี่" คาร์บิลัสเสนอขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าติดจะเศร้าหมองของฟาร์คัส

"อืม ชวนมาก็ได้"

คาร์บิลัสยิ้มแห้งเอ่ยไล่ปีศาจที่เหลือในห้องออกไปแล้วไปนั่งข้างๆ ฟาร์คัสดึงมือที่เย็นเฉียบมาแนบแก้มตัวเอง "มันเป็นงาน
แต่งงานของข้ากับเจ้านะ อย่าทำหน้าเศร้านักสิ"

ฟาร์คัสหลุดยิ้มบาง "แล้วเจ้าล่ะ มีเพื่อนที่จะชวนมางานไหมหรือนิสัยปัญญาอ่อนเกินไม่มีใครคบ"

"มีสิ แต่ไม่กี่คนหรอก เจ้าพวกนั้นต้องไม่เชื่อข้าแน่ๆ ว่าที่ข้าได้แต่งงานเป็นคนแรก!" คาร์บิลัสพูดอย่างร่าเริง

ซึ่งสีหน้าที่ดูภูมิใจจนเกินเหตุของคาร์บิลัสก็ทำเอาฟาร์คัสเริ่มรู้สึกไม่ไว้วางใจในตัวเพื่อนของแพะโง่ที่จะมาร่วมงาน
หวังว่าจะไม่ปัญญาอ่อนเหมือนแพะโง่นี่

 
"แง้ ข้ายังไม่ได้คุยกับท่านแม่เลย แก๊ซ!" ดัฟฟ์งอแงเพราะทันทีที่วัดตัวเสร็จก็โดนส่งกลับมายังโรงเรียนทันที โชคดีที่พอไหวตัวทันจึงพอคว้าลูกอมบนโต๊ะมาได้บ้าง ในปากดัฟฟ์ตอนนี้จึงเต็มไปด้วยลูกอมหลากสี 

"เอาน่า ดัฟฟ์ อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ได้เรียนหรอก เพราะมันเป็นวันเข้าชมรมของโรงเรียน" กริสเซลตอบทั้งๆ ที่กำลังมองเศษเสื้อคลุมที่มีสภาพยู่ยี่ในมือด้วยสายตาชื่นชม "ข้าว่าจะแวะไปชมรมเย็บปักสักหน่อย ให้พวกนั้นทำไอ้นี่ให้กลายเป็นสนับข้อมือ ข้าจะได้รู้สึกว่ามีท่านคาร์บิลัสอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา!" ยิ่งพูดปีศาจสิงโตก็ยิ่งคึกจนปิดอาการดีใจไม่อยู่

"แก๊ซ?" ดัฟฟ์เหลือบมองกริสเซลและหันมาสนใจนาซัสที่มองเดินพื้นนิ่งๆ คล้ายกับกำลังใช้ความคิด
ซึ่งก็เป็นตามที่ดัฟฟ์คิดเพราะนาซัสกำลังคิดไม่ตกถึงอายุกับอดีตของตัวเอง นัยน์ตาหลุบต่ำเมื่อรู้สึกถึงความว่างเปล่าในหัวที่ไร้ซึ่งคำตอบในสิ่งที่ตัวเองกำลังสงสัย

"อ้ะ! ถ้าเข้าชมรม ก็ได้ทำอาหารสินะ แก๊ซ!!" ดัฟฟ์ที่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองเข้าชมรมทำอาหารก็เขย่าตัวนาซัสจนตัวโยน "จะได้กินแล้ว! จะได้กินแล้ว แก๊ซ" 

นาซัสยิ้มน่ารัก "ดัฟฟ์ เจ้าทำอาหารเป็นด้วยเหรอ"

ดัฟฟ์ส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก "แก๊ซ! ไม่น่ายากหรอกน่า"

"ทำอาหารไม่ยากหรอกแต่ขั้นตอนที่ต้องหาวัตถุดิบมาทำนี้เหนื่อยเป็นบ้าเลย" กริสเซลพูดขึ้นเมื่อดื่มด่ำชายเสื้อท่านคาร์บิลัสจนพอใจและมีสีหน้าเหยเก "ข้าเคยเข้าอยู่ปีที่แล้ว รสชาติอาหารที่ท่านอาจารย์ทำแย่มาก เอาเป็นว่าเจ้าพลาดแล้วล่ะ ดัฟฟ์ที่เข้าชมรมนี้ ต่อให้เจ้าจะเป็นพวกกินไม่เลือกก็เถอะ"

กริสเซลมีสีหน้าเสียใจที่ตัวเองไม่รั้งดัฟฟ์เอาไว้ตอนนั้น

"แก๊ซ ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็จะพยายามกิน" ดัฟฟ์พูดเสียงเบา เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในชมรมที่ตัวเองกำลังจะเข้า 

นาซัสโคลงหัวไปมา "อย่างน้อยตอนที่เจ้าหาวัตถุดิบ ก็น่าจะแวะซื้อได้นะ"

"ดีจัง แก๊ซ นาซัสฉลาดที่สุดด" ดัฟฟ์โถมตัวเข้ากอดนาซัสยิ้มกว้างจนตาหยี 

โฮกกกกกก

เสียงคำรามของมังกรดังลั่นจนอากาศสั่นสะเทือน

กริสเซลสะดุ้งสุดตัวตาโต "แย่แล้ว! ถึงเวลาเข้าชมรมแล้ว ข้าเข้าชมรมท่านคาร์บิลัสจงเจริญด้วยสิ ถ้าไปสายตั้งแต่วันแรกข้าต้องไม่ได้เข็มกลัดรูปท่านคาร์บิลัสแน่ๆๆ ว้ากกก ดัฟฟ์ ข้าอยากไปส่งเจ้านะ แต่ข้าต้องไปแล้วล่ะ ชมรมเจ้าอยู่ในโรงอาหารนะ!!"
โบกมือไวๆ แล้วรีบวิ่งไปทันทีทิ้งดัฟฟ์กับนาซัสไว้ที่ทางเดินเชื่อมตึกซึ่งสองข้างทางก็เต็มไปด้วยปีศาจวิ่งกันวุ่นวายแต่ก็มีบางตัวที่เดินอย่างสบายอกสบายใจเพราะอยู่ชั้นปีสูงใกล้จะเรียนจบเต็มทน 

"เฮ้ พวกเจ้ารีบๆ ไปเข้าชมรมได้แล้วไป ก่อนที่ข้าจะจดชื่อเจ้าลงสมุดรายงานพฤติกรรมนักเรียน" ปีศาจร่างยักษ์ย่างสามขุมมาหาดัฟฟ์กับนาซัสด้วยสีหน้าถมึงทึงบนเสื้อถูกปักด้วยรูปปีศาจถมดำใช้ไม้จิ้มปีศาจตนอื่นพร้อมเขียนกำกับว่ากรรมการนักเรียน

ดัฟฟ์เงยหน้ามองจับมือนาซัสแน่น "แก๊ซ ข้า ข้ากำลังไป" พูดเสียงสั่น

เพราะขนาดตัวที่ต่างกันมากรวมกับสีหน้าดุร้ายทำให้ตอนนี้กรรมการนักเรียนในสายตาดัฟฟ์ก็เหมือนสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะกินมังกรดำตัวเล็กๆ 

"เร็วสิ! ถ้าเจ้าช้าไปกว่านี้แม้แต่วินาทีเดียว ข้าจะจดชื่อเจ้าแล้วโยนเจ้าเข้าในกรง----"

ดัฟฟ์ไม่รอฟังจนจบวิ่งหน้าตั้งน้ำตาคลอเบ้าไปทางโรงอาหารที่ตั้งอยู่ไกลๆ

"แง้ น่ากลัว นาซัส วิ่งหนีๆ ข้าไม่อยากโดนมันกิน ฮือ"  ดัฟฟ์โหยหวน

นาซัสยอมวิ่งตามอย่างว่าง่ายหันหลังไปมองก็เห็นกรรมการนักเรียนมองตามมาด้วยสายตางุนงง

ความเร็วของดัฟฟ์มากพอที่จะทำให้มาถึงโรงอาหารภายในเวลาอันสั้น ซึ่งพอมาถึงดัฟฟ์ก็สะดุดขาตัวเองล้มหน้าคว่ำ "แง้ เจ็บ ฮือออ แฮ่กๆ"

นาซัสที่สะดุดดัฟฟ์จนล้มอีกที ปัดฝุ่นตัวเองแล้วจึงลุกขึ้นยืนยื่นมือให้ดัฟฟ์จับ

ดัฟฟ์กลั้นความเจ็บร้าวไปทั้งตัวจับมือนาซัสและฝืนลุกขึ้นยืน  หันซ้ายหันขวาเมื่อไม่เห็นใครสักคนในโรงอาหารนอกจากพ่อค้า
แม่ค้าที่ขายอาหารกับปีศาจที่กำลังเดินออกจากโรงอาหารพร้อมอาหารในมืออยู่ประปราย

"แง้ กริสเซลโกหก ดัฟฟ์แน่เลย" 

นาซัสไม่ได้พูดอะไรพยายามชะเง้อหน้าหาอาจารย์ที่รับสมัครเข้าชมรมแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า

"แก๊ซ ข้าว่าไปนั่งรอตรงนั้นกัน" ดัฟฟ์จับมือนาซัสแน่นค่อยๆ พยุงร่างอันรวดร้าวของตัวเองไปนั่งเก้าอี้ ส่วนสายตาถูกแช่แข็งไว้กับอาหารที่กำลังถูกจัดใส่ตู้ 

โครกกก

ดัฟฟ์หน้ายู่ลูบท้องตัวเอง "แง้ ข้าหิวอีกแล้ว นาซัส"

"ยังกินไม่ได้ ดัฟฟ์ ต้องเข้าชมรมก่อน" นาซัสพูดอย่างมุ่งมั่นกระชับมือดัฟฟ์แน่น เพราะดัฟฟ์เริ่มทำท่าจะวิ่งไปซื้ออาหารมากิน
แทนการนั่งรอเข้าชมรมเฉยๆ

"ข้าว่ากินไปรอไปก็ดีนะ แก๊ซ" ดัฟฟ์มองพลางเช็ดน้ำลายที่เลอะมุมปาก

นั่งรอไปสักพักใหญ่ๆ ก็ไม่มีปีศาจสักตัวปรากฎตัวในโรงอาหารเพิ่มเติม จนดัฟฟ์หาวหวอดกลิ้งไปมาบนเก้าอี้ "แง้ นาซัส ข้าว่าพวกเราต้องโดนชมรมไล่ออกแล้วแน่ๆ เลย "

นาซัสที่ตอนแรกไม่คิดอะไรก็เริ่มวิตกบ้างแต่พอเห็นร่างคุ้นตาก้าวเร็วๆ มาทางตนเองก็กลับมาใจชื้น

"ขอโทษที ข้าลืมบอกพวกเจ้าไปเลย" อาจารย์คนเดิมที่รับดัฟฟ์กับนาซัสเข้าชมรมยิ้มแห้งๆ "พอดีว่าคนที่เข้าชมรมมีจำนวนน้อยเกินไปจนผู้อำนวยการไม่อนุญาตให้ตั้งชมรมน่ะ น่าแปลกนะ ปีที่แล้วก็ออกจะมีเยอะปีนี้กลับมีแค่พวกเจ้าสองคน เอาเป็นว่าพวกเจ้าหาชมรมอื่นเข้าได้เลยเพราะชมรมข้าถูกยุบแล้ว"

ดัฟฟ์อ้าปากค้างรู้สึกถูกทำร้ายจิตใจขั้นร้ายแรง เพราะจุดประสงค์หลักของการเข้าชมรมก็คือการกินและการฝึกทำอาหารที่ทำไปกินไป "แล้ว แล้ว มีชมรมเกี่ยวกับอาหารอีกไหม" 

"อืมมม จะว่ามีก็มีนะ เป็นชมรมทำขนมแต่คนเข้าเยอะมากจนข้าอิจฉาเลยล่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าจะคัดตัวคนเข้าชมรมอยู่"
ความหวังที่เพิ่งดับไปลุกโชนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง 

"ที่ไหน แก๊ซ ที่ไหน ข้าจะเข้า ข้าจะเข้าาา"

ขนมก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดัฟฟ์ไม่มีวันปฏิเสธ

อาจารย์หัวเราะหึๆ "ลานประลองน่ะ ชมรมนี่ถ้าเจ้าสู้ชนะอาจารย์ไม่ได้เขาไม่รับเข้าชมรม"

"แต่ แต่ว่ามันเป็นชมรมทำขนมนะ แก๊ซ" ดัฟฟ์ถามเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า

ชมรมทำขนมก็ควรทำขนมสิ.. ทำไมถึงได้มีการประลองกันล่ะ? 

"ก็นะ ชมรมสบายๆ ใครๆ ก็อยากเข้ากันทั้งนั้น หลังจากที่เจ้าเข้าชมรมนี่ได้วันๆ นอกจากอบขนมเจ้าก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ข้าล่ะเกลียดชมรมนี้จริงๆ ที่ไม่ยอมให้พวกนักเรียนเห็นคุณค่าของวัตถุดิบแต่ละอย่าง" 

ดัฟฟ์กับนาซัสมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายเพราะพอจะเดาสาเหตุที่ชมรมนี้ถูกยุบได้ลางๆ

"เอาเถอะ วันนี้เข้าชมรมวันแรกพวกเจ้าก็ลองเดินๆ ดูชมรมก่อนก็ได้ ชอบชมรมไหนก็เข้าชมรมนั้น" อาจารย์ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "ข้าต้องไปแล้วล่ะ แผนการสอนสำหรับสอนนักเรียนอย่างพวกเจ้าข้าก็ยังไม่ได้เขียนเลย" 

"ตะ แต่ว่า"

ดัฟฟ์พยายามรั้งอาจารย์เอาไว้เพื่อที่จะถามว่ามีชมรมอะไรอีกบ้าง แต่ก็ไม่ทันเพราะอาจารย์เดินหนีไปแล้ว

"ข้าว่าชมรมทำขนม ไม่น่าจะเข้าได้นะ" นาซัสออกความอย่างตรงไปตรงมา

ดัฟฟ์ตอนแรกจะปฏิเสธแต่พอนึกถึงฝีมือการต่อสู้ของตัวเองก็พูดไม่ออก

"งื้ม...."
 


"นี่ๆ เจ้าน่ะ เข้าชมรมข้าไหม ชมรมนักฆ่าน่ะ... เฮ้ย  หยุดก่อนสิ อย่าเพิ่งหนี!"

ดัฟฟ์กับนาซัสพยายามก้าวไวๆ หนีออกจากปีศาจที่สวมหน้ากากหัวกะโหลกแสยะยิ้มกับชุดคลุมสีดำทั้งตัวซึ่งมายืนดักรอหาสมาชิกอยู่ตามซอกตึกมืดๆ ต่างจากชมรมอื่นที่มาตั้งซุ้มหาคนเข้าชมรมกันอย่างจริงจังตามทางเดิน

"ชมรมวาดรูปรับสมัครคนเข้าชมรมจ้าาา เจ้าเด็กสองคนนั้นน่ะ! สนใจเข้าไหม วาดสวยไม่สวยไม่เป็นไร ขอแค่มีใจรัก ถ้าสนใจก็วิ่งเข้ามาเลย สมัครตอนนี้แถมชุดชมรมด้วยนะ"

"ชมรมวาดรูปเจ้าคนมันก็เยอะอยู่แล้วป่ะ แบ่งเด็กมาชมรมหนอนหนังสือบ้างเซ่ ชมรมข้าต้องการเด็กน่ารักๆ มาเป็นอาหารตาอยู่นะ"

"แหมมม เยอะกว่าอยู่สองคนนี่นับด้วยเหรอ"

ดัฟฟ์ก้มหน้างุดพยายามไม่สบตาเพราะไม่รู้สึกสนใจชมรมทำนองนี้สักนิด ถ้าเผลอไปสบตาเข้าอาจจะเผลอใจอ่อนเข้าชมรมไปก็ได้

"ดัฟฟ์! เฮ้ ดัฟฟ์ เจ้าเข้าชมรมเดียวกับข้าสิ ชมรมท่านคาร์บิลัสจงเจริญ!" 

เสียงเรียกคุ้นเคยทำให้ดัฟฟ์ยอมเงยหน้าขึ้นมามองกริสเซลที่กระโดดโลดเต้นด้วยเสื้อรูปคาร์บิลัสกำลังนั่งบนบัลลังก์ ข้างๆ กันมี

ปีศาจร่างเล็กสวมเสื้อคลุมที่ทำเลียนแบบจากของท่านคาร์บิลัสกำลังยืนเรียกหาคนเข้าชมรม

"แก๊ซ ไม่เอา" ดัฟฟ์ส่ายหน้าดิกพยายามเดินหนีพร้อมลากนาซัสที่ทำท่าจะเดินเข้าไปหาเข็มกลัดแจกฟรีที่ชมรมท่านคาร์บิลัสจงเจริญกำลังแจก

"ทำไมล่ะ ชมรมนี้เจ้าจะได้รู้จักท่านคาร์บิลัสมากขึ้นไปอีกนะ เจ้าไม่อยากรู้จักเหรอ" กริสเซลวิ่งมาหาดัฟฟ์พยายามดึงแขนทั้งดัฟฟ์และนาซัสไว้ "ชมรมนี้ดีจริงๆ นะ ข้าเข้ามาตั้งแต่เข้าโรงเรียนนี้เลย"

"ม่ายย แก๊ซซซ ข้าไม่เข้าาา" ดัฟฟ์พยายามแกะแขนกริสเซลออก "นาซัสก็ไม่อยากเข้าใช่ไหม แก๊ซ"

นาซัสส่ายหัว "ข้ายังไงก็ได้"

"แง้ นาซัสไม่อยากเข้าสิ ถ้าเจ้าเข้าข้าก็ต้องเข้าด้วย ข้าไม่อยากเข้าาา" ดัฟฟ์พยายามทิ้งน้ำหนักตัวแต่กริสเซลก็ยังคงลากต่อไปได้อย่างง่ายดาย

"เจ้าต้องลองอยู่ดู ดัฟฟ์ แล้วเจ้าจะชอบชมรมนี้เหมือนที่ข้าชอบ" กริสเซลยิ้มยิงฟัน "อีกอย่างถ้าเจ้าเข้าชมรม ข้าก็จะได้เสื้อคลุมที่ประธานแจกด้วย"

ซึ่งนั่นก็เป็นเป้าหมายที่แท้จริงของกริสเซลที่พยายามหาคนเข้าชมรม

"นาซัส เจ้าต้องไม่อยากเข้าสิ" ดัฟฟ์พูดเสียงสั่น "เจ้าต้องอยากเข้าชมรมที่มีของกินเหมือนข้าสิ แง้"

"แต่ข้าไม่อยากประลองนี่นา" นาซัสพูดเสียงเบา 

"เอาชมรมอื่นก็ได้ที่ไม่ใช่ชมรมนี้ กริสเซล อย่าบังคับข้าาาา" ดัฟฟ์โหยหวน "ไม่งั้น ฮือ ข้าจะร้องไห้จริงๆ ด้วย"

กริสเซลสะดุ้งปล่อยทั้งดัฟฟ์กับนาซัสทันที

"อย่าร้องนะ ข้าไม่เอาเจ้าเข้าชมรมก็ได้"

ดัฟฟ์เบะปากหันไปหานาซัส "แก๊ซ ข้าตัดสินใจแล้ว ถ้าเจ้าจะเข้าก็เข้านะ นาซัส ข้าไปคนเดียวก็ได้!" พูดจบก็วิ่งหนีอออกไปทันทีพร้อมกับความเสียใจมากที่นาซัสไม่ยอมมาด้วย

"เดี๋ยวดัฟฟ์!" กริสเซลตะโกนไล่หลังแล้วเกาหัวเงาๆ แต่พอเห็นนาซัสที่ยังอยู่ก็ยิ้มออก "เจ้าจะเข้าชมรมนี่ใช่ไหม นาซัส"
เสื้อคลุมต้องเป็นของข้า!!!

กริสเซลคิดอย่างมุ่งมั่น

"อืม ข้าเข้าชมรมเจ้าก็ได้"  ถึงจะตอบไปอย่างนั้นก็พยายามมองหาดัฟฟ์ในฝูงชนด้วยสายตาเป็นห่วง

ดัฟฟ์จะเข้าชมรมอะไร..?

แล้วจะกลับห้องได้ไหมนะ..?

นาซัสคิดและพ่นลมหายใจออกมาเมื่อนึกได้ว่าดัฟฟ์เป็นพี่ของตัวเอง

คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง...

"นี่เซ็นตรงนี้เลย นาซัส เจ้าจะได้กลายเป็นสมาชิกชมรมท่านคาร์บิลัสจงเจริญเต็มตัวแล้วเจ้าจะได้สิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะสิทธิ์แลกซื้อโปสเตอร์รูปท่านคาร์บิลัสในราคาเฉพาะสมาชิก อ้อ เจ้าจะส่งจดหมายหาท่านคาร์บิลัสก็ได้นะ! บางทีถ้าท่านอารมณ์ดีๆ ก็จะส่งจดหมายตอบมาด้วย ข้าเคยได้รับรอบนึงตอนนี้ข้าใส่กรอบแปะไว้กลางบ้านเลย ทุกคนในบ้านข้าตื่นเต้นกันมาก ถ้าเจ้าอยากเห็นไว้ไปบ้านข้าจะเอาให้ดู"

นาซัสพยักหน้าหงึกหงักทั้งๆ ที่จับใจความไม่ได้สักนิดว่ากริสเซลพูดอะไร คล้ายโดนมอมเมาจนเผลอเซ็นใบเข้าชมรมไม่รู้ตัว 

"เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าก็เป็นสมาชิกเต็มตัวแล้ว! เจ้าไปหาคนเข้าเพิ่มเป็นเพื่อนข้าเลย หน้าที่ของพวกเราสำหรับวันนี้ก็คือหาคนเข้าให้มากที่สุด!"

กริสเซลฉวยเอาเสื้อท่านคาร์บิลัสจงเจริญจากใต้โต๊ะมาสวมให้นาซัสซึ่งขนาดตัวที่เล็กของนาซัส ทำให้เสื้อหลวมโพรกจนเกือบติดพื้น กริสเซลจิ้ปาก "นี่เป็นตัวที่เล็กที่สุดแล้วนะ แต่ช่างมันเถอะ นั่นมีปีศาจเดินมาแล้ว ไปกันเร็ว! ข้าว่าข้ารู้จักพวกนั้นอยู่"
แล้วนาซัสก็ถูกกริสเซลลากไปช่วยล่อลวงคนเข้าหาชมรม

โดยที่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย...

------------------

ในที่สุดก็หายจากไข้หวัดสนิทแล้วค่ะ  :a2: หลังจากไฟว์กับมันมาร่วมสองอาทิตย์ 5555

มีกิจกรรมให้เล่นค่ะ คือเสนอชมรมที่ดัฟฟ์จะเข้า อันไหนโดนใจจะจับดัฟฟ์เข้าเลยค่ะ  ดัฟฟ์ # :z10:

ตอบเมนต์  :man1:

คุณ BlueCherries : กว่าดัฟฟ์จะโต  o22  นาซัสจะเริ่มหาอดีตตัวเองค่ะ  :กอด1:

คุณ lizzii : วิญญาณที่โดนขังในรูปปั้นดินแดนมารค่ะ (ย้อนไปไกลมาก 555)

คุณ  natsikijang : พยายามเกลี่ยบทให้ฟาร์คัสกับคาร์บิลัสอยู่ค่ะ รู้สึกกลายเป็นตัวประกอบไปแล้วจริงๆ 5555 ฉากแต่งงานจัดเต็มค่ะ จะจัดบทให้เยอะๆ สมกับเป็นคู่หลักเลย  :z2:

คุณ •♀NoM!_KunG♀• : หายแล้วววค่าา  :กอด1: 

คุณ zuu_zaa :  :กอด1:
 


   
 
 
 
 
 

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 49 10 พ.ค 59 p.15
«ตอบ #421 เมื่อ11-05-2016 00:06:03 »

ไหวมั้ยลูก ดัฟ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 49 10 พ.ค 59 p.15
«ตอบ #422 เมื่อ11-05-2016 01:27:35 »

อ้ออออออ นึกออกแล้ว
แล้วดัฟฟหนูจะเดินไปไหนละลูกเอ้ยยย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Ominous Bird นกบอกลาง ตอนที่ 49 10 พ.ค 59 p.15
«ตอบ #423 เมื่อ11-05-2016 07:26:19 »

 :monkeysad: มาไม่ทันเมื่อคืนอีกละ


อืมมมมม เอาชมรมกลับบ้านไป (แอบสงสารดัฟฟ์ เลยไม่แกล้งมาก อิอิ)

****

แอบขำ ทำไมมีชมรมท่านคาร์บิลัสจงเจริญ ด้วยนี้

ถ้าฟาร์คัสมาเจอคงไม่เข้าใจ ทำไมมีแต่คนสรรเสริญแพะบ๊องๆน้อออออ  :hao7:

ปอลอ ท่านโฟเทียสปล่อยลูกน้องมางานแต่งงานเถอะ เค้าได้แต่งกันเพราะลูกน้องของท่านนะ  :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2016 07:56:38 โดย BlueCherries »

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 50

ใกล้วันเข้าพิธีแต่งงานเข้าไปทุกที ทำให้คาร์บิลัสค่อนข้างลนลานเพราะยังไม่ได้เข้าคอร์สเจ้าบ่าวเสริมหล่อเสริมอำนาจเสริมบารมีหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ฟาร์คัสต้องประทับใจกว่าปกติ
ทำให้เช้านี้จึงต้องยอมกรีดใจตัวเองเอ่ยปากขอเวลาส่วนตัวกับฟาร์คัสบนเตียงหลังนุ่ม

"ฟาร์คัส ช่วงนี้เจ้าต้องอยู่คนเดียวไปก่อนนะ บังเอิญว่าช่วงนี้ข้ายุ่งมากๆ เลย" ราชาปีศาจพูดด้วยสีหน้าเจี๋ยมเจี้ยมขณะที่พูดก็กอดแขนฟาร์คัสที่นอนอยู่ข้างๆ ไปด้วย

ฟาร์คัสหรี่ตามองคาร์บิลัสอย่างไม่ไว้ใจ

ท่าทีของแพะโง่นี่น่าสงสัยชะมัด

"เจ้ายุ่งเรื่องอะไร ให้ข้าช่วยไหม?" ถามเรียบๆ และยิ่งจ้องคนเป็นราชาปีศาจด้วยสายตากดดันกว่าเดิม

ใครใช้ให้แพะโง่ทำท่าคล้ายถูกเหยียบหางล่ะ?

สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำให้ฟาร์คัสเริ่มจะจับเค้าลางอะไรบางอย่างในตัวคาร์บิลัสได้

"เจ้ากำลังปิดบังอะไรข้าอยู่รึเปล่า คาร์บิลัส"

คาร์บิลัสสะดุ้งในใจแต่สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม "คอร์สบอกว่าใกล้งานแต่งงานเข้าทุกที ข้าต้องรีบสะสางที่ค้างไว้ให้เสร็จน่ะ" พูดไปก็พลางมือลูบมือปีศาจอีกาไป 

ได้ยินคำว่างานแต่งงานฟาร์คัสก็ชะงักหน้าแดงวาบ

"งั้นเจ้าก็ตั้งใจทำงานไปแล้วกัน ข้าไม่ยุ่งแล้ว" 

ไม่ได้สงสัยอะไรในตัวคาร์บิลัสอีก

ทำเอาคนเป็นราชาปีศาจลอบหัวเราะเริงร่าในใจ 

ข้านี่มันแสดงเก่งจริงๆ เลยให้ตาย! 

คาร์บิลัสคิดอย่างชื่นบาน

เทียนหอม? กุหลาบแดง? ตัดผมทรงใหม่? ข้าควรจะทำอะไรก่อนดีนะ

"ข้าไม่อยากทำงานเลย ฟาร์คัสสส" คาร์บิลัสพูดอ้อนๆ เปลี่ยนจากกอดแขนมากอดเอว แนบหน้าลงกับซอกคอแต่ก็ต้องรีบผละออกไปเพราะถูกศอกเข้ากับหน้าท้อง

"จะไปก็รีบไป นี่มันจะสายแล้ว"  ฟาร์คัสมองดุๆ

"งั้นข้าไปทำงานก่อนนะ!"  ราชาปีศาจยิ้มกว้างโบกมือลาชายาตัวเองและผละออกไปจากห้อง
ซึ่งท่าทีกระดี้กระด้าจนเกินไปของคาร์บิลัสก็ทำฟาร์คัสเคลือบแคลงอยู่บ้าง แต่พอนึกถึงงานแต่งงานที่จะมาถึงก็พอเดาได้ว่าดีใจเรื่องนั้นเลยไม่ได้สนใจอะไรอีก

แพะโง่ก็ดีใจกับเรื่องโง่ๆ แบบนี้นั่นแหละ!

ทั้งๆ ที่คิดอยู่คนเดียวแต่กลับรู้สึกประหม่าจนหายใจติดขัด

ฟาร์คัส่ายหน้าพ่นลมหายใจกับอาการเขินของตัวเอง

ไร้สาระชะมัด ก็แค่งานแต่งงานเท่านั้น ข้าจะเขินไปทำไมกัน? 
 

เคยได้ยินเรื่องทำนองว่าหลังจากที่สามีไปทำงานภรรยาจะทำงานบ้านไม่ก็เลี้ยงลูกๆ แต่ฟาร์คัสกลับไม่จำเป็นต้องทำสองอย่างที่ว่านั่น ทำให้ตอนนี้ว่างมากถึงมากที่สุดเรียกได้ว่าไม่มีอะไรทำเลย
ปีศาจอีกาพ่นลมหายใจเบื่อๆ ขณะที่นั่งจิบชาในห้องนอน

ฟาร์คัสเคยขอตำแหน่งงานให้ตัวเองทำจากคาร์บิลัส แต่ก็ถูกปฏิเสธและให้ช่วยทำงานเอกสารนิดหน่อย แต่ก็แค่นั้นใช้เวลาทำไม่นานก็เสร็จ ทำเอาฟาร์คัสอดคิดถึงอาชีพเก่าของตัวเองไม่ได้

ถึงตอนนี้จะมีโอกาสกลับไปทำได้แต่ท่านโฟเทียสคงจะไม่ให้อภัยคนที่กล้าเปลี่ยนสายเลือดอันทรงเกียรติ์อย่างนกบอกลางแล้วกลายเป็นแค่ปีศาจอีกาธรรมดาๆ ตัวนึง

"หรือว่าข้าควรจะไปหาสมัครงาน?" ฟาร์คัสบ่นพึมพำกับแก้วน้ำชาในมือ

น้ำชาชั้นเลิศสีเหลืองอ่อนส่งกลิ่นหอมดอกไม้ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายถูกฟาร์คัสดื่มอักๆ จนหมดในคราวเดียว ไม่ได้สนใจจะนั่งละเลียดละไมอย่างที่ปีศาจตนอื่นที่ลิ้มรสชานี้กระทำ

แล้วปีศาจอีกาอย่างเขาควรจะทำอะไรล่ะ?

ฟาร์คัสหยิบปากกาขนนกที่วางบนโต๊ะใกล้มือมาจุ่มหมึกและเขียนลงบนแผ่นกระดาษ

ข้าทำอะไรได้บ้างนะ...

คิดในใจด้วยความเคร่งเครียด สีหน้าไร้อารมณ์ ปลายปากกาค่อยๆ ถูกขีดเขียนเป็นคำ

บิน....

และขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมเมื่อคิดเห็นคำที่ตัวเองเขียนชัดๆ

ปัญญาอ่อน นี่ข้าติดเชื้องี่เง่าจากแพะบ้ารึไงกัน! 

ฟาร์คัสสบถกับความไร้สาระของตัวเอง นกที่ไหนมันก็บินได้ทั้งนั้นนั่นแหละ!

หลังจากสบถจนพอใจ คำว่าบินก็ตกผลึกในหัวของฟาร์คัสเสร็จ   

"หรือว่าข้าจะไปทำงานส่งสารเหมือนเดิมดี?"

ยังไงก็ตาม ในดินแดนปีศาจนี้มันก็ต้องมีงานส่งสารบ้างแหละ แต่เป็นส่งสารธรรมดาไม่ใช่ส่งสารความตายแบบข้า... แต่ถ้าหาก
ข้าไปส่งสารจดหมายสาสน์หรืออะไรทำนองนั้นด้วยร่างอีกามันก็อันตรายอยู่ดี!

ข้าไม่ได้อยากเป็นชายา ที่วันๆ ทำแค่กินกับนอนหรอกนะ

ทำเอาใบหน้าฟาร์คัสไร้อารมณ์ในขนาดที่ว่าคาร์บิลัสเห็นยังต้องยอมถอยหนีขอเจรจาอย่างสันติ

ก็อก ก็อก

"ท่านฟาร์คัสขอรับ หวา!" คอร์สที่ตั้งใจจะชวนฟาร์คัสไปเข้าคอร์สเตรียมแต่งงานก็ต้องตกใจกับสีหน้าเคร่งเครียดของฟาร์คัส ทำให้หูตั้งๆ ของคอร์สลู่ลง กระต่ายร่างอ้วนยิ้มแห้งๆ รับกับสายตาดุปนสงสัยของฟาร์คัส

"มีอะไรงั้นเหรอ คอร์ส" น้ำเสียงราบเรียบกรุ่นอารมณ์หงุดหงิด

"ท่าน ท่านหิวหรือขอรับ ดูท่านอารมณ์ไม่ดีเลย" คอร์สยิ้มแหยๆ

ปีศาจอีกาส่ายหน้าเบาๆ "เปล่า ข้าแค่มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย เจ้ามีอะไรรึเปล่า?"

"เรื่องงานแต่งงานขอรับ ตามธรรมเนียมแล้วต้องมีการเตรียมตัวขอรับเพราะเป็นงานสำคัญ" ปีศาจกระต่ายพยายามควบคุมน้ำ
เสียงให้ดูน่าเชื่อถือ เพราะเหตุผลที่แท้จริงก็คือท่านคาร์บิลัสต้องการให้ชายาของตัวเองเตรียมตัวเหมือนกันโดยเอาข้ออ้างคำว่า
ธรรมเนียมมาใช้

จะว่าโชคดีก็ดีที่ทำให้ฟาร์คัสไม่นึกสงสัยในคำพูดของคอร์สเท่าที่ควร เพราะจุดสนใจส่วนใหญ่ไปตกอยู่ที่งานแต่งงานหมดแล้ว

"อืม.."  ส่งเสียงเชิงรับรู้ในลำคอก่อนจะมองคอร์สด้วยความสงสัย "นี่ข้าต้องเตรียมตัวอะไรอีก เสื้อผ้าข้าก็ตัดไปแล้วนะ"

เพราะส่วนใหญ่ยกให้คาร์บิลัสเป็นคนตัดสินใจทั้งหมดไม่ว่าจะสีหลักในงานแต่ง ดอกไม้ อะไรต่างๆ นานาจิปาถะ ที่ฟาร์คัสฟังไม่
ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เพราะไม่ใช่ชาวปีศาจแต่กำเนิดเลยต้องยอมยกให้เจ้าถิ่นอย่างคาร์บิลัสจัดการทั้งหมด

"ไม่ต้องห่วงนะขอรับ ข้าเตรียมคนที่จะมาช่วยท่านโดยเฉพาะอยู่แล้ว!" คอร์สยิ้มและกระดิกหูเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเป็นจังหวะ
สม่ำเสมอซึ่งการลงฝีเท้าเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองจนรู้สึกได้

ก็อก ก็อก

"เข้ามาเลย พัพพ์ ท่านฟาร์คัสอยู่นี้แล้ว" พูดยิ้มๆ เมื่อสามารถโยนภาระของตัวเองออกได้

"ยินดีที่ได้รับใช้ท่านนะขอรับ!" เสียงเล็กๆ ฟังดูน่ารักพูดขึ้นซึ่งก็มาพร้อมกับชุดฟูฟ่องสีชมพูหางพวงที่เคยเป็นสีส้มถูกย้อมเป็นสีม่วงอ่อน หูทั้งสองข้างที่เป็นสัตว์ก็ถูกย้อมเป็นสีม่วงเช่นเดียวกันนับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดในดินแดนปีศาจ เพราะส่วนใหญ่มักจะมั่นใจในรูปลักษณ์ชาติกำเนิดไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งแปลกๆ เหล่านี้กลับขับให้ใบหน้าของปีศาจจิ้งจอกดูน่ามองยิ่งกว่าเดิมซึ่งถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีการแต่งแต้มเครื่องสำอางของสตรีด้วย

ฟาร์คัสเลิกคิ้วมองอึ้งๆ เล็กน้อย

ปีศาจจิ้งจอกตรงหน้ากำลังส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับเขา

จึงต้องยิ้มบางตอบเพราะเป็นสิ่งที่ควรทำ

"ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าเช่นกันแล้วข้าต้องทำอะไรอีก? สำหรับงานแต่ง.. งาน" ฟาร์คัสพูดเสียงเบาในประโยคหลัง รู้สึกกระดากอายที่จะพูดอย่างบอกไม่ถูก

"โอ๊ย ท่านฟาร์คัสไม่ต้องอายหรอกขอรับ ข้าน่ะนะนอกจากจะขายข่าวสารแล้วยังรับจัดคอร์สเจ้าสาวด้วย! ด้วยฝีมือของข้านะ  ท่านคาร์บิลัสของท่านนี้ต้องติดท่านหนุบหนับเหมือนกับชีสเหนียวๆ เลย!!" พัพพ์ยืดอกพูดอย่างภูมิใจ ท่าทีเขินอายของฟาร์คัสทำให้พัพพ์รู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก

"ชีส? มันคืออะไร" ฟาร์คัสถามด้วยสีหน้างุนงง แต่หน้ากลับแดงก่ำ

ไอ้แพะเวรมันจัดคอร์สเจ้าสาวให้ข้า!!  ธรรมเนียมบ้าอะไร! 

พัพพ์สะดุ้งเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป "ไม่มีอะไรท่าน มันเป็นแค่คำไร้สาระน่ะ เอาเป็นว่าข้าจะทำให้ท่านพร้อมสุดๆ เลยแล้วกันสำหรับงานแต่งงาน!"

ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูกเลย กรี๊ดๆ

พัพพ์หรือนายพายมองฟาร์คัสเขม็ง ประเมินคุณภาพหน้าค่าตาว่าสมควรแต่งเติมอะไรลงไปบ้าง เจ้าบ่าวรีเควสมาแบบน่ามอง แล้วน่ามองของนางหมายถึงอะไรคะ บอกนางพายที นางพายไม่เข้าใจ ดูทรงแล้วนางไม่น่าออกสาวทั้งๆ ที่มีสามีหล่อน่าแย่งขนาดนี้ ผิวพรรณนางก็ดูโอเค ผู้ชายแมนๆ จะเอาอะไรมาก โดยรวมสรุปว่าหน้านางผ่านเกณฑ์ งานแต่งแต่งหน้าเพิ่มแค่นิดหน่อยก็น่าจะโอเคแล้ว 

งั้นสอนร้อยวิธีมัดใจสามีนางดีไหม?

คิดถึงเรื่องนี้พัพพ์ก็หลุดหัวเราะออกมา 

บ้าแล้วกู จะไปสอนเรื่องแบบนี้ให้กับปีศาจพวกนี้เนี่ยนะ ไร้สาระจริงๆ แล้วดูหน้านาง ดูความจริงจังที่นางมี เกิดสอนไปโดนนาง
ตบนี่รู้เรื่อง

"เจ้าหัวเราะอะไร" นั่นนางทำหน้างุนงงได้น่าเอ็นดูจริงเชียว 

"ข้าแค่หัวเราะที่ข้าไม่รู้จะพาท่านเข้าคอร์สอะไรดีน่ะเพราะทุกอย่างท่านก็อยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว เผลอๆ ท่านแต่งงานวันนี้เลยก็ยังได้" แถได้แถไปค่ะ รู้จักไหม

เอาจริงๆ นางก็เข้างานได้เลยนะ ที่เหลือก็ไปคุยกันในห้องหอเอานะจ๊ะ น้อง แต่ช่วยไม่ได้บิ๊กบอสสุดหล่ออย่างท่านคาร์บิลัสสั่งมา อิฉันก็ต้องทำ เซ็งจริงๆ วันนี้ก็เป็นวันหยุดด้วย

แน่ะ ยังคงทำหน้างงและเปลี่ยนเป็นแดง

ดีมากจ้ะ ดีมาก น่ารักแบบนี้ไม่โดนผู้เทแน่นอน 

ไม่เหมือนนายพายที่โดนผู้เทวันนั้นหรอก ฮือๆ คิดแล้วก็เสียใจ โดนรถชนสลบแล้วมาโผล่ในโลกนี้ซะงั้น เสียดายที่ยังไปขอเบอร์
ผู้หล่อๆ ที่เดินผ่านในเซเว่นไม่ได้ น้องพายเสียใจมากมาย

"แล้วข้าต้องทำอะไรอีกหรือเปล่า"  นางถามซื่อๆ

เป็นคำถามที่ยากอยู่นะ เธอเพอร์เฟคแล้วจะเอาไรอีกจ๊ะ หรือจะต้องเตรียมคิว รอพ่อเจ้าบ่าวมาพูดคุยเรื่องตลกโปกฮาของเจ้าบ่าวก่อน เออ ลืม พ่อบิ๊กบอสตายนานแล้วนี่หว่า งานแต่งปีศาจก็ไม่เห็นมีไรมากมาย กล่าวคำสาบานมีคนร่วมฉลองเข้าห้องหอก็จบ เรียบร้อย แล้วมันต้องทำอะไรอีกวะ

----------------------

พายนี่่ตัวละครลับในเรื่องนี้เลยค่ะ 555555  :mew4:
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ผู้เทแปลว่าอะไรรรรรรร

**

อื้มมมมมม ฟาร์คัสว่างเกินไปจริงนั่นล่ะ ถึงหลังแต่งงานก็น่าจะหาอะไรทำน้าาาาาาาาา

เสกตำแหน่งเองขึ้นมาได้ไหม? อันที่ในเมืองยังไม่มีใครทำกัน  :กอด1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อารายยังงายยยยย

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
"อืมม ข้าว่าท่านก็ทำงานบ้านไปพลางๆ แล้วกัน!"

ฟาร์คัสกลอกตาเพราะรู้ว่าคำตอบนั่นเป็นคำตอบส่งๆ "แล้วคอร์สบ้าๆ นั่นล่ะ เจ้าไม่ให้ข้าทำแล้วรึไง" ถึงยังไงก็เจ้าแพะโง่นั่นก็ส่งเจ้าปีศาจจิ้งจอกนี่มาแล้ว ถ้าเป็นสิ่งที่พอจะทำได้โดยไม่กระอักกระอ่วนใจเท่าไหร่นักก็อาจจะลองทำดู

"หรือท่านอยากไปขัดผิวล่ะ? ข้าขัดให้ท่านได้นะ ถ้าท่านต้องการ แต่ดูจากสภาพผิวท่านมันก็ไม่ได้แย่อะไร"

ฟาร์คัสก้มมองแขนตัวเองใช้มือลูบเบาๆ

หรือว่าข้าควรจะทำอะไรกับมัน? แต่มันก็ไม่ได้แย่และข้าก็ไม่ใช่พวกผู้หญิงที่ต้องไปขัดผิวด้วยสิ ไอ้แพะโง่นั่นเห็นลูบๆ คลำๆ ก็ไม่ได้บ่น

"ข้าไม่อยากขัด"

"ก็ตามใจ"

สำนวนการพูดแปลกๆ ของพัพพ์ทำเอาฟาร์คัสคิ้วขมวด

"เจ้าพูดว่าอะไรนะ"

พัพพ์สะดุ้งยิ้มแหยๆ "เปล่า ท่านฟาร์คัส ตอนแรกข้าคิดว่าท่านน่าจะพอมีอะไรต้องขัดๆ ถูๆ ดูบ้างแต่พอข้ามาเห็นท่านด้วยตาตัวเองก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องเพิ่มแล้วล่ะ"

"นั่นก็หมายความว่าข้าก็มีหน้าที่แค่รอวันแต่งงานงั้นสิ" 

"ก็ทำนองนั้นนั่นแหละขอรับ ข้าขอตัวก่อนแล้วกัน ขอให้ท่านคาร์บิลัสรักท่านนานๆ นะขอรับ อ้ออีกอย่าง คอร์ส วันหลังถ้าจะเรียกข้ามาใช้กรุณาส่งนกพิราบหรืออะไรมาบอก ไม่ใช่ส่งรถมารับเลย ข้าเตรียมตัวไม่ทัน!" พัพพ์ถลึงตามองกระต่ายอ้วนที่ยังคงเพลิดเพลินไปกับการกินแครอท

นี่คือเตรียมตัวไม่ทัน?

ฟาร์คัสมองปีศาจจิ้งจอกอึ้งๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีอะไรที่สามารถติติงได้สักอย่าง

คอร์สหัวเราะ "ช่วยไม่ได้ช่วงนี้พวกนกส่งสารในวังขาดแคลนนี่นา"

"ปีศาจนกมันก็มีเยอะแยะ เจ้าก็วานๆ มาสักคนสิ"

ขณะที่พัพพ์กับคอร์สเริ่มโต้วาทีกันฟาร์คัสก็พูดขัดขึ้นมา "นกส่งสารในวังขาดแคลนงั้นเหรอ คอร์ส"

"ขอรับ พวกนกส่งสารเห็นว่าเปลี่ยนไปทำงานให้นอกวังเพราะปลอดภัยกับชีวิตมากกว่า"
เมื่อฟังจนจบฟาร์คัสก็ยิ้มพอใจทำให้ปีศาจกระต่ายอ้วนงุนงง คิดทบทวนว่าคำตอบตัวเองมีอะไรน่าตลก 

"คอร์ส ข้าจะสมัครงานนี้"

คอร์สสะดุ้งเฮือกเบิกตากว้าง "เดี๋ยวก่อนขอรับ ท่านฟาร์คัสเป็นถึงชายาของราชาปีศาจเลยนะขอรับ! ถ้า ถ้า--" 

"ตำแหน่งงี่เง่าพรรค์นั้นเจ้าจะสนใจทำไม" ฟาร์คัสพูดเสียงเย็น "ต่อให้ข้าเป็นราชาปีศาจ แล้ววันๆ นอกจากกินกับนอนไม่ทำอะไร ข้าทำไม่ได้ ข้าต้องการงานทำ เข้าใจไหมคอร์ส"

น้ำเสียงของฟาร์คัสราบเรียบเสมอต้นเสมอปลายทำให้คอร์สทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ รับ "งั้น งั้นข้าจะทำเรื่องสมัครงานให้แล้วกันขอรับ" 

ทำเรื่องอะไรล่ะ ต้องไปบอกเรื่องนี้กับท่านคาร์บิลัสต่างหากเล่า! 

ปีศาจกระต่ายพยายามซ่อนสีหน้าสะพรึงของตัวเอง 

ไม่อยากคิดเลยว่าท่านคาร์บิลัสจะทำหน้ายังไง ถ้าข้าไปบอกเรื่องนี้กับท่าน!

ได้ยินคำตอบที่ต้องการฟาร์คัสก็ยิ้ม

"ขอบคุณเจ้ามาก" 

"ขอ ขอรับ งั้นข้าขอตัวเหมือนกันนะขอรับ" คอร์สโค้มหัวลวกๆ รีบวิ่งออกจากห้อง หูสองข้างตั้งชันอย่างตื่นตระหนกขาที่อวบและสั้นมาก พยายามพาเจ้าของไปยังห้องลับเฉพาะของท่านคาร์บิลัสให้ว่องไวที่สุด

ปีศาจอีกามองตามงงๆ เพราะไม่คิดว่าเรื่องที่ตัวเองจะสมัครงานดูจะเป็นเรื่องด่วนขนาดนั้น 

"ก่อนที่ข้าจะไปข้าขอพูดอะไรหน่อยแล้วกัน ท่านฟาร์คัส" 

เจ้าของชื่อจึงหันกลับมามองนิ่งๆ "เจ้าคิดออกแล้วเหรอว่าจะให้ข้าทำอะไร"

พัพพ์หัวเราะคิกคัก "ดูท่านอยากจะทำจริงๆ นะเนี่ย แต่เอาเถอะไว้ข้าจะส่งของบำรุงมาให้ท่านกินแล้วกัน ไม่สิเรื่องที่ข้าอยากพูดไม่ใช่เรื่องนี้แต่เป็นเรื่องของท่านกับท่านคาร์บิลัสต่างหากล่ะ"

ฟาร์คัสหน้าแดงวาบอดถลึงตามองปีศาจจิ้งจอกไม่ได้ซึ่งนัยน์ตาเจ้าเล่ห์นั่นมองมาอย่างรู้ทัน

"ข้าเนี่ย ทำงานเกี่ยวกับข่าวสาร แล้วข่าวลือเกี่ยวกับท่านกับท่านคาร์บิลัสนี่เยอะมากๆ มีทั้งเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง ไหนๆ ข้าก็เจอท่านแล้ว ข้าขอถามท่านสักคำถามนึงสิ"

"ถ้าไม่ใช่คำถามที่ไร้สาระเกินไป ข้าก็จะตอบตามตรง"  ฟาร์คัสมองพัพพ์อย่างไม่ไว้ใจ 

"ท่านคาร์บิลัสไม่เคยได้กินท่าน มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?"
 


"เจ้าว่ายังไงนะ คอร์ส ฟาร์คัสจะไปทำงานกับพวกนกส่งสารพวกนั้นเนี่ยนะ! แล้วเจ้าตอบกลับไปว่าอะไร อนุญาตงั้นเหรอเจ้าถามข้าที่เป็นเจ้านายเจ้ารึยังว่าอนุญาตหรือไม่อนุญาต" 

คาร์บิลัสบ่นยาวเหยียดมองกระต่ายในการบังคับบัญชาของตัวเองอย่างคาดคั้น

"อย่าขยับมากสิขอรับ ท่านคาร์บิลัส ถ้าข้าตัดผมท่านแหว่ง ท่านจะโทษข้าไม่ได้นะ" ช่างตัดผมพูดด้วยความเกรงใจมากถึงมากที่สุด น้ำเสียงนุ่มนวล

ราชาปีศาจสบถอย่างไม่พอใจแต่ก็ยอมนั่งหลังเหยียดตรงนิ่งๆ พยายามไม่เหล่ไปมองปีศาจกระต่าย "ตอบมาสิ เจ้าบอกฟาร์คัสไปว่าไง"

คอร์สที่หน้าหดเหลือสองนิ้วพูดเสียงอ้อมแอ้ม "ข้าตอบไปว่าข้าจำเรื่องสมัครงานให้ขอรับ"

คาร์บิลัสยิ้มเหี้ยม "ดี ดีมาก เจ้าอยากให้ข้ากับชายาแยกกันอยู่นักใช่ไหม"

"ไม่นะขอรับ ไม่เลย ท่านฟาร์คัสบอกว่าท่านไม่อยากเป็นชายาที่่วันๆ ทำแค่กินกับนอน ท่านฟาร์คัสบอกแบบนั้นจริงๆ นะขอรับ"
หลังจากฟังคำตอบของคอร์ส คาร์บิลัสก็มีท่าทีอ่อนลง ลดบรรยากาศมาคุไปในห้องไปได้หนึ่งส่วน

"ข้าไม่อนุญาต ชายาของข้าก็ต้องมีหน้าที่ช่วยข้า"

"แต่ แต่ท่านเป็นคนบอกเองนะขอรับว่าไม่ต้องให้งานท่านฟาร์คัส"

คาร์บิลัสหลุดยิ้มมุมปาก เมื่อนึกถึงใบหน้าฟาร์คัสที่มีรอยดำบริเวณใต้ตา "ก็ข้าไม่อยากให้ฟาร์คัสนอนดึกนี่  อีกอย่างงานบางอย่างที่ข้าทำมันก็อันตรายเกินไปสำหรับฟาร์คัสด้วย"

ถึงแม้จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องทำงานเพื่อทำเอกสารต่างๆ แต่งานหลักของคาร์บิลัสก็คือดูแลความสงบสุขของดินแดนปีศาจ ปัญหาความขัดแย้งหรือการบุกรุกพื้นที่ก็เป็นคาร์บิลัสที่เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยหรือช่วยกำจัดปัญหาที่ว่า คาร์บิลัสมักจะใช้เวลาในช่วงที่ฟาร์คัสหลับในการลอบออกไปเพราะไม่อยากให้ฟาร์คัสต้องติดตามไปด้วย

ต่อให้เป็นถึงราชาปีศาจแต่คาร์บิลัสก็ไม่อยากประมาท

"แล้วท่านจะทำยังไงล่ะขอรับ ท่านบอกว่าให้ช่วยงานท่านแต่ท่านก็ไม่อยากให้ท่านฟาร์คัสทำงานของท่าน ข้าว่าท่านก็ยอมให้ท่านฟาร์คัสทำไปเถอะขอรับ งานส่งสารข้าจะเป็นคนเลือกงานให้เอง ท่านจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย" คอร์สพยายามหาทางที่สันติวิธีที่สุด 

ราชาปีศาจหน้าบึ้ง

 "ก็ได้ เอาตามนั้นก็ได้"

คอร์สถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ชีวิตของมันรอดไปอีกหนึ่งวันแล้ว..

หลังจากพูดคุยจนได้ไม่นานช่างตัดผมก็ตัดผมคาร์บิลัสเสร็จ

"เสร็จแล้วขอรับ ท่านคาร์บิลัส" พูดอย่างนอบน้อม

คาร์บิลัสรับกระจกที่ถูกคอร์สยื่นมาให้มาส่องทรงผมใหม่ของตัวเองด้วยความพึงพอใจ "ขอบใจเจ้ามาก " ก่อนจะหันมาถามความเห็นจากคอร์ส "เจ้าคิดว่าข้าเป็นยังไงบ้าง?"

ปีศาจกระต่ายตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด

"หล่อมากขอรับ ท่านฟาร์คัสเห็นต้องตกตะลึงมากแน่ๆ"

"ข้าก็คิดแบบนั้น ฟาร์คัสต้องชอบทรงผมนี่ของข้า"  คาร์บิลัสยิ้มพลางชื่นชมทรงผมใหม่ของตัวเองไปพลาง ผมที่เริ่มจะยาวถูกตัดสั้นจนเกือบติดหนังหัวและถูกตัดแต่งเพิ่มช่วยขับใบหน้าหล่อเหลาของคาร์บิลัสให้ดูเคร่งขรึมและดุดันมากขึ้นไปอีก

คอร์สหยิบแครอทออกมาค่อยๆ เคี้ยวมันเสียงเบาเพื่อระบายความเครียดของตัวเอง มันจ้องทรงผมท่านคาร์บิลัสไปสักพักก็ก่อนจะได้สะดุ้งเฮือก ท่านคาร์บิลัส ท่านบอกว่าท่านจะทำให้ท่านฟาร์คัสตกตะลึงในงานวันแต่งงานไม่ใช่เหรอขอรับ! ถ้าท่านตัดผมวันนี้ท่านฟาร์คัสก็เห็นผมสิ!"

คาร์บิลัสชะงักค้างจนเผลอทำกระจกในมือหล่นตุ้บลงพื้น

งานแต่งงานเริ่มขึ้นในอาทิตย์หน้า นั่นก็หมายความว่าคาร์บิลัสต้องหาทางซุกซ่อนทรงผมนี่เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์

"ทำไมข้าถึงได้โง่เง่าขนาดนี้นะ" คาร์บิลัสสบถกับตัวเองซึ่งถ้าฟาร์คัสยืนอยู่ใกล้ๆ คงไม่วายพยักหน้าเห็นด้วยและพูดแดกดันเพิ่มเติม

"ข้า ข้าพอจะมีผมปลอมอยู่บ้าง ถ้าหากท่านต้องการ" ช่างตัดผมคนเดิมเอ่ยออกมาอย่างหวังดี

คนเป็นราชาปีศาจส่ายหน้ายิ้มแห้งๆ 

"ไม่ได้หรอก ฟาร์คัสชอบทึ้งหัวข้าถ้าหากข้าไม่ยอมตื่น"

"ท่านก็ใช้เวทสิ" คอร์สพยายามแนะนำ

คาร์บิลัสส่ายหน้าอีกครั้ง

"ข้าว่าไม่ถึงสองวัน ฟาร์คัสก็ต้องรู้แน่ว่าข้าปิดบังอะไรไว้ แต่ไม่เป็นไร ข้ารู้แล้วว่าข้าควรจะทำยังไง" 

"ท่านจะทำยังไงล่ะขอรับ ดูๆ ไปแล้วไม่ว่ายังไงท่านฟาร์คัสก็ต้องรู้แน่ๆ"

"ข้าจะอ้างว่าทำงานไงล่ะ ทำงานหนักมากจนไม่สามารถเจอหน้ากันได้หนึ่งอาทิตย์" คาร์บิลัสยืดอกพูดอย่างภูมิใจเมื่อตัวเองหาทางออกกับเรื่องคิดไม่ตกเรื่องนี้ได้ แต่ไม่นานก็ไหล่ทรุด

นี่ข้าต้องไม่เจอหน้าฟาร์คัสถึงหนึ่งอาทิตย์เลยงั้นเหรอ!

คาร์บิลัสคิดด้วยความเศร้าหมองระดับสิบ

-------------------------------

 :กอด1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่า

คำว่า ผู้เท คือโดนผู้ชายทิ้งค่ะ 55555 (สงสัยดูไดอารีย์ตุ้ดซีย์เยอะเกิน)
 
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
บร๊ะ

คาร์บิลัสจะเอาแผนนี้จริงดิ? เสกให้ผมยาวชั่วคราวไม่ได้เหรออออ?  :ling3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อยู่ได้หราคาบี้อาทิตย์นึงเลยนะ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แทบรอดูวันแต่งงานไม่ไหวละ 5555

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
เฮ้อ แค่วันเดียวไม่เจอหน้าชายาก๋หนักแล้ว นี่อาทิตย์หนึ่ง  คาร์บิลัสจะทนได้เหรอ รอดู คิคิ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 51

ภายในสวนหลังปราสาทมีร่างรายาของราชาปีศาจกำลังนั่งจิบชาดอกไม้ด้วยสีหน้าหงุดหงิดและสบถกับตัวเองไม่หยุด "ไอ้แพะบ้านั่นมันหายไปไหนของมัน"

ถึงคอร์สจะบอกว่าคาร์บิลัสจะไม่อยู่สักพักแต่ก็ไม่บอกอยู่ดีว่าไปไหน ทำเอาปีศาจว่างงานอย่างฟาร์คัสไม่เป็นทำอะไร แม้ว่าจะได้รับคำอนุญาตให้ไปทำงานแล้วก็เถอะแต่อารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านตลอดเวลาแบบนี้คงจะไม่เหมาะนักที่จะไปส่งสารให้ใคร
สิ่งที่ฟาร์คัสคิดว่าพอจะดับอารมณ์หงุดหงิดนี้ได้ก็เป็นสวนไม้นี่ แต่พอมานั่งจริงๆ ก็หงุดหงิดอยู่ดี 

แพะปัญญาอ่อนมันจะหนีงานแต่งงาน?

ฟาร์คัสขมวดคิ้วแน่น

ถ้ามันจะหนีแล้วจะส่งคนมาเตรียมตัวข้าทำไม บัดซบเอ้ย!

ยิ่งคิดปีศาจอีกาก็คิดฟุ้งซ่านไปทางด้านลบเรื่อยๆ

หรือมันจะเบื่อข้า? แล้วไปหาชายาคนใหม่มาแทนที่ข้า  ถ้าไอ้แพะโง่กล้าทำอย่างนั้นกับข้าจริง ข้าจะเผาปราสาทมันให้ดู!

... หรือแพะบ้านั่นคิดจะทำให้ข้ารอเก้อ..

แก้วหรูในมือฟาร์คัสสั่นเทาจนน้ำเกิดเป็นวงเกิดจากอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็วของฟาร์คัส จากความหงุดหงิดเริ่มจะเปลี่ยนเป็นเซื่องซึม

หรือว่าเพราะข้าที่เป็นชาย แข็งกระด้าง ไม่อ่อนหวาน.. จะทำให้คาร์บิลัสเบื่อจนต้องไปหาคนมาแทนที่ข้า

นิสัยข้ามันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว.. เจ้าแพะโง่นั่นอาจจะเบื่อก็ได้

นัยน์ตาของปีศาจอีกาฉายแววสับสน

คงไม่มีราชาปีศาจที่ไหนมากลัวชายาหัวหดเท่าแพะโง่นั่นแล้ว ถ้าหากปีศาจทั่วไปได้ยินก็คงหัวเราะจนปวดท้อง แพะโง่นั่นอาจจะอายก็ได้ที่จะต้องเป็นแบบนี้

ฟาร์คัสยิ้มบางมองมือหยาบของตัวเอง

มือของข้าไม่ได้นุ่มเหมือนหญิงสาว...

ก่อนที่จะเหลือบมองหน้าท้องราบเรียบของตัวเอง มือเผลอลูบเบาๆ

ยังมีความจริงอีกอย่างที่ว่าข้าไม่มีวันให้กำเนิดทายาทให้คาร์บิลัสได้..

ถึงเจ้าแพะโง่นั่นปากจะบอกไม่ชอบเด็กๆ แต่พอเอาเข้าจริงเวลาที่ข้าไม่สนใจกลับเห็นแพะโง่นั่นสรรหาของเล่นมาให้ดัฟฟ์กับนาซัส ทำเอาเจ้าเด็กพวกนั้นติดแจ

ฟาร์คัสหลุบตาต่ำลงมองพื้นหญ้าสีเขียวที่ถูกตัวเองเหยียบ

บางทีข้าอาจจะโผบินบนท้องฟ้านานมากไปหน่อยจนคิดว่าตัวเองเป็นนายแห่งท้องฟ้าโดยที่ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ทำให้ข้าเป็นนายแห่ง
ท้องฟ้าได้นั้นก็คือราชาปีศาจที่วิ่งตามมาจากบนพื้นหญ้า

อาจจะถึงเวลาที่ข้าต้องกลับลงมาเหยียบย่ำดินอีกครั้งเมื่อบนท้องฟ้าไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

เพราะเจ้าแพะโง่เลือกที่จะเลิกวิ่งตามข้าและหันหลังกลับไปทางเดิม 

เพล้ง

ปีศาจอีกาสะดุ้งเฮือกเมื่อแก้วในมือตัวเองแตกกระจาย มือที่ควรจะจับแก้วเอาไว้ตอนนี้กลับอ่อนปวกเปียก ฟาร์คัสหยิกตัวเองขนแขนช้ำเรียกสติของตัวเอง

"อย่างี่เง่าน่า เจ้าแพะโง่มันก็แค่หนีเที่ยว ข้าจะคิดมากเกินไปแล้ว"

พยายามปลอบใจตัวเอง 

โลกของฟาร์คัสนั่นเล็กนักถ้าเทียบกับคาร์บิลัสที่รู้จักผู้คนมากมาย สิ่งที่ทำให้ฟาร์คัสให้ความสำคัญที่สุดก็มีแค่คาร์บิลัส การเกิดสิ่งที่ผิดแผกไปจากปกติล้วนทำให้ฟาร์คัสวิตกไปทั่วได้ทั้งสิ้น

บางครั้งเมื่ออยู่ตัวคนเดียว

ฟาร์คัสคิดเสมอว่าหากวันใดที่คาร์บิลัสเบื่อปีศาจอีกาอย่างเขาขึ้นมา

เขาจะทำยังไงดี...

แม้ลึกๆ จะรู้สึกเชื่อมั่นในตัวคาร์บิลัสแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวการถูกทอดทิ้ง กลัวมากจริงๆ เพราะหากถูกทอดทิ้ง ปีศาจอีกาอย่างมันก็คงจะไม่เป็นที่ตอนรับจากที่ไหนนัก

"ข้าควรจะนอนแล้วสินะ" พูดออกมาอย่างไม่ต้องการคำตอบ

ชายาของราชาปีศาจนั่งยองๆ ใช้เวทผสานแก้วใบร้าวให้กลับมาเป็นแบบเดิมแต่ก็พบว่าทำไม่ได้ ทำได้เพียงเชื่อมต่อพวกมันให้เข้ากันเท่านั้น

มือกำด้ามจับแน่น ก้มหน้านิ่งซ่อนนัยน์ตาที่สั่นระริก

"ขอให้มันเป็นเพียงสิ่งที่ข้าคิดไปเองจริงๆ เุถอะ"
 


"ฮึก แย่ที่สุด แม้แต่นาซัสก็ยังทิ้งข้าได้ลงคอ" ดัฟฟ์สะอื้นในลำคอตาแดงก่ำและหันไปมองข้างหลังบ่อยๆ ด้วยความหวังที่ว่าจะเห็นนาซัสวิ่งตามมา

แต่ไม่เลย ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว!

ดัฟฟ์คิดเศร้าๆ ก้มหน้าเดินไปต่อ เสียงร้องเรียกหรือตะโกนรอบตัวไม่ได้ทำให้ดัฟฟ์สนใจเท่าที่ควร 

"ข้าว่าข้าได้กลิ่นมังกร... ! นี่ไง หนูน้อยสนใจเข้าชมรมนี่มังกรไม่ใช่จิ้งจกไหม" เสียงทุ้มแหบต่ำฟังเสียดหูแต่มือที่ลูบเบาๆ บนหัว
ดัฟฟ์กลับตรงกันข้าม มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน 

ดัฟฟ์เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะต้องมองตาค้างเมื่อพบว่าคนที่เรียกตัวเองนั้น เป็นปีศาจร่างผอมสูงผมสีฟ้าตัดสั้นเข้ากับรูปหน้าคมคาย เสื้อผ้าเป็นเครื่องแบบโรงเรียนของนักเรียนหญิงแต่เมื่อคนๆ นี้ใส่กลับให้ความรู้สึกเท่มาก

"อ้าว เจ้าหนูเป็นอะไรน่ะ? เฮ้ย คาอิสไปเอาน้ำแดงมา เจ้าหนูนี่อาจจะเป็นลม"

คนโดนใช้เงยหน้าขึ้นจากหนังสือในมือเมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องของตัวเองก็ยอมทิ้งหนังสือไปแล้วเข้าไปช่วยพยุงตัวดัฟฟ์

ไม่มีท่าทีเกี่ยงงอนหรืออะไร การอยู่ร่วมห้องทั้งห้องเรียนและห้องพักทำให้คาอิสรู้สึกคุ้นชินกับดัฟฟ์ ซึ่งลึกๆ แล้วก็มีความรู้สึกว่าอยากปกป้องอยู่ด้วย 

ใครใช้ให้มังกรดำงี่เง่านี่มันง้องแง้งขนาดนี้กันล่ะ?

คาอิสคิดเบื่อๆ "ลีอา เจ้าแน่ใจนะว่าจะเอาดัฟฟ์เข้าชมรมนักรบมังกรของพวกเราน่ะ"

"แน่ใจสิ เจ้าหนูนี่ออกจะน่าเอ็นดู ชมรมพวกเราจะได้มีอะไรไว้แกล้งได้บ้าง" ลีอาพูดกลั้วหัวเราะระบายรอยยิ้มเต็มใบหน้า มือล้วงหยิบลูกอมรูปมังกรในกระเป๋าเกงเกงและยื่นมันให้ดัฟฟ์ที่จ้องตัวเองไม่วางตา

"กินซะสิ ถ้าเจ้าชอบ ก็เข้าชมรมข้า ข้าจะให้เจ้ากินทั้งกระปุกเลย" 

"เดี๋ยวๆ นี่ถือว่าเป็นการล่อลวงเด็กหรือเปล่า ลีอา ข้าว่ามันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนะ" มังกรไฟถลึงตามองคนที่พยายามหลอกล่อเด็กเข้าชมรมด้วยลูกอม

ลีอายังคงรอยยิ้มไว้ได้ดวงตากลิ้งกลอกไปมาบนท้องฟ้า "พูดไป เจ้าก็โดนวิธีนี้ดึงเข้าชมรมเหมือนกันนั่นแหละ คาอิส ข้ากับท่านประธานคนก่อนยังจำสีหน้าใสซื่อของเจ้าได้ ฮ่าๆๆ"

"เงียบไปเลย" คาอิสแยกเขี้ยวขู่หน้าขึ้นสีแดงจางๆ 

แต่ลูกอมบ้านี่มันอร่อยจริงๆ กินแล้วอยากกินอีก เหมาะสมมากสำหรับใช้ในการล่อลวงเด็กเข้าสังกัดตัวเอง

ดัฟฟ์ไม่กล้าพูดอะไรมากนักเพราะแม้แต่สิ่งที่ทั้งสองคนพูดกันข้ามหัวตัวเองก็ยังไม่ค่อยรู้สึกเข้าใจเท่าไหร่เลย สิ่งที่พอจะชัดเจนในหัวก็คงเป็นลูกอมลายมังกรสีสวยตรงหน้า

มือเอื้อมหยิบทันทีตามความเคยชินแต่ก็ชะงักกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของบุคคลตรงหน้าา 

"ถ้าเจ้ากิน เจ้าต้องสัญญากับข้าว่าเจ้าจะเข้าชมรม"

"เอาอีกแล้ว ใช้วิธีนี้อีกแล้ว เจ้ารู้ไหมว่ามันเปลืองลูกอมข้าแค่ไหน!!!"  เสียงโวยวายดังมาแต่ไกลมาพร้อมกับร่างปีศายชายที่ตัวสูงพอๆ กันโบกเข้ากับหัวของลีอา

คนโดนโบกมีสีหน้าเหยเกลูบหัวตัวเองป้อยๆ "งกชะมัด เดนิช งกมากจะทำให้หาแฟนยากเจ้ารู้รึเปล่าเนี่ย"

เจ้าของลูกอมมีสีหน้าหงิกงอยิ่งกว่าเดิม "รู้สิ ข้ารู้ดีเลยล่ะ ว่าทำไมข้าถึงหาแฟนไม่ได้สักที ก็เพราะเจ้ายังไงล่ะ ไอ้บ้าลีอา!!! ยืนข้างเจ้าแล้วทำให้ข้ารู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นสตรีบอบบางเลย บัดซบ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าต้องดูพึ่งพาได้มากกว่าข้าด้วยนะ"

ดัฟฟ์หน้ายู่ภายในหัวเกินการตีกันระหว่างฝ่ายเหตุผลกับฝ่ายอารมณ์ แต่น่าเสียดายสุดท้ายความหิวของดัฟฟ์ก็ชนะทุกอย่างทั้งปวง จึงโยนลูกอมเข้าปากทันที

"!!!" ดัฟฟ์สะดุ้งเมื่อรู้สึกรสชาติของลูกอม มันเป็นรสชาติที่ดัฟฟ์ไม่เคยลิ้มรสมาสักครั้งในชีวิต

ความหวานลงตัวที่ไม่ได้มากจนทำให้แสบคอเมื่ออมไปได้สักพักก็พบความเปรี้ยวแผ่ไปทั่วลิ้นก่อนที่จะจบลงด้วยความรู้สึกเย็นๆ กับความหวานที่ยังติดค้างอยู่ที่ปลายลิ้น

"อร่อย.." เผลอพูดออมาอย่างเหม่อลอย

"เยี่ยม โอกาสนี่แหละ ข้าจะหาคนเข้าชมรมได้" ลีอาร้องอย่างดีใจลนลานดึงใบรับคนเข้าชมรมยับๆ ออกมาจากกระเป๋าหลังและค่อยๆ รีดมันด้วยมือให้เรียบและยื่นปากกาให้ดัฟฟ์เซ็นและเขียนชื่อตัวเอง

"เจ้านี่มันแย่ชะมัด ข้าจะส่งเจ้าไปหาพวกทหารที่ดูแลความประะฤติของพลเรือน" เดนิชมองลีอาที่ดูดีใจเกินหน้าเกินตาเบื่อๆ

"อย่าทำเป็นโกรธไปเลยน่า อย่างน้อยปีนี้ชมรมเราก็มีคนเพิ่มขึ้นมาคนนึงนะ" ลีอายิ้มระรื่นเมื่อดัฟฟ์ยอมเซ็นให้ตัวเองและกินลูกอมที่ยื่นให้อีกสองสามเม็ดอย่างเอาเป็นเอาตาย

"ใครใช้ให้ชมรมนี่มันมีกฎรับแต่มังกรล่ะ ข้าเข้ามาในชมรมนอกจากกินกับนอนก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย" เดนิชเป็นมังกรน้ำแข็งที่หลวมตัวเข้ามาในชมรมเพราะคารมของประธานรุ่นก่อนที่โม้ไว้มากมายว่าจะนำพาเผ่าพันธ์ุมังกรให้เป็นที่รู้จักโด่งดังมีชื่อเสียงแต่เอาเข้าจริงอย่างมากพวกเขาก็แค่เป็นตัวทำเงินของนักพนันในตอนที่แข่งบินกับมังกรดินแดนอื่นเท่านั้น

"ใครว่า ตอนนี้ข้าเป็นประธานชมรมนะ ต้องมีมากกว่านี้สิ" ลีอายิ้มมีเลศนัย

"ถ้าเจ้าจะจับพวกข้าไปประกวาดมังกรงาม ข้าไม่เอากับท่านแล้วนะ!" คาอิสเหน็บขึ้นมาเสียงแข็ง ทุกคนในชมรมเผลอหลงเชื่อลีอาว่าจะไปทำอะไรสนุกๆ แต่พอถึงเวลากลับพบว่าถูกจับยัดงานประกวดมังกรงามที่จัดกันระหว่างโรงเรียน พวกเขาในร่างมังกรถูกจับไปอาบน้ำขัดถูจนเกล็ดมันเป็นประกายแล้วยังถูกผูกริบบิ้นสีชมพูไว้กลางหัวเพื่อเสริมความน่ารัก ความอับอายนั่นยังคงตราตรึงแน่นในอกคาอิส

"ไม่ ต้องสนุกกว่านั้นสิ" ลีอาส่ายหน้าลูบหัวดัฟฟ์เบาๆ เมื่อดัฟฟ์เข้ามาใกล้และมองลีอาด้วยสายตาอ้อนๆ คล้ายลูกหมาขาดความรัก ลีอาเอียงคอไปมาก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อนึกออก "อ้อ ข้ารู้แล้ว เดนิช เจ้าก็ทำขนมไงแต่เพิ่มเติมคือต้องทำขาย พวกเราจะได้มีเงินไปเที่ยวบ่อยๆ ไม่ต้องเสียเวลาบินให้เมื่อยปีก"

"นั่นมันโยนภาระให้ข้าไม่ใช่เหรอ ลีอา เจ้านี่ประสาทกลับแล้ว" เดนิชถลึงตามองเพื่อนร่วมห้องตัวเอง

"หรือเจ้าจะทำอะไรล่ะ เสนอมาสิ สมาชิกอย่างพวกเจ้ามีหน้าที่ฝันข้าก็มีหน้าที่ทำให้มันเป็นความจริงไงล่ะ" มังกรน้ำไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

"เจ้ากับท่านประธานคนก่อนนี่มันสายเลือดเดียวกันชัดๆ พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เป็นเหมือนเรื่องใหญ่่"

"จะให้ข้าทำอะไรนักล่ะ ชมรมเราก็มีกันอยู่ไม่กี่คน พวกที่เป็นมังกรก็เข้าชมรมอื่นกันหมดแล้ว"

เดนิชสาวเท้าเข้าไปหาลีอาพูดเสียงลอดไรฟัน

"ใครใช้ให้เจ้าไปเป็นคนหาเด็กเข้าชมรมกันเล่า!! พวกมังกรที่รู้จักเจ้ารู้ดีอยู่แล้วล่ะ ว่าเจ้ามันจืดชืดน่าเบื่อขนาดไหน ถึงจะมีหน้าตาที่ดีแต่ก็ไม่ได้ทำให้มังกรพวกนั้นต้องพากันถาโถมมามอบตัวให้เจ้าหรอกนะ"

ไม่แน่ใจเพราะอิจฉาหรืออะไรน้ำเสียงของมังกรน้ำแข็งจึงเต็มไปด้วยความประชดประชัน

ทำเอาลีอาเบะปากร้องจิ้จ้ะอย่างไม่พอใจ "เจ้าจะสบประมาทข้าเกินไปล้วนะ เดนิช อย่างน้อยข้าก็คิดออกแล้วกันว่าอาทิตย์พวกเราจะทำอะไรดี"

เดนิชกอดอกมองเลิกคิ้วมองคนพยายามแก้ตัวด้วยสีหน้ายียวน 

"ว่ามาสิ ข้ารอฟังอยู่"

มังกรน้ำยักคิ้วให้อย่างท้าทาย "ก็นะ อาทิตย์หน้ารู้สึกพวกชมรมอื่นเขาจะเริ่มเรียนๆ เล่นๆ กันแล้ว ข้าว่าสำหรับพวกเขาแล้ว เวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก"

"มีอะไรก็รีบๆ พูดมา อย่ายืดยาว"

"ข้าว่าไหนๆ พวกเราก็ไม่ค่อยทำอะไรกันอยู่แล้ว ไปแย่งงานฮัลก็น่าจะสนุกดี"

เดนิชขมวดคิ้วเป็นปม

"เดี๋ยวนะ เจ้ากำลังจะพูดว่าเจ้าจะไปขัดขวางการทำงานของมังกรหอนาฬิกางั้นเรอะ!!!!" เดนิชอ้าปากค้างชี้นิ้วสั่นๆ ไปหาลีอา

นี่มันไม่ใช่ความคิดของผู้หญิงแล้ว! ลีอามันเป็นผู้ชายปลอมตัวมาใช่ไหม!

ข้ารู้!!!

ลีอายิ้มพอใจ "ใช่ๆ เจ้านี่มันฉลาดจริงๆ คิดในแง่ดีหน่อยสิ อย่างน้อยพวกเราก็ช่วยฮัลทำงานนะ อ้อ อย่าลืมเอาลูกอมไปด้วย ฮัลคำรามมาทั้งวันน่าจะเจ็บคอมาก"
 
"เขาเป็นที่ปรึกษาชมรมเราเลยนะ ทำแบบนี้ฮัลจะไม่โกรธเหรอ ลีอา""

ถึงจะเป็นที่ปรึกษาแค่ในนามก็ตามเถอะ แต่ก็ยังถือเป็นที่ปรึกษาอยู่ดีี

"โกรธไม่โกรธไม่รู้ แต่แค่ข้าคิดภาพพวกเด็กในโรงอาหารวิ่งกันจ้าละหวั่นเพราะเสียงคำรามหลอกๆ ของข้า มันก็ทำให้ข้าอารมณ์ดีจนหัวเราะได้ทั้งวัน"
 
-----------------------------
 :t3: ง่วงแรง
 
 
 
 
 
 
 

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ง่วงเหมือนกัน

เริ่มฟุ้งซ่านเป็นเพื่อนฟาร์คัสแล้ว

(ประกอบแก้วคืนไม่ได้ คือเวทอ่อนเสื่อมแล้วเปล่าหนอออ??)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ป่วนกันเกิ้นนนน

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
"ปัญญาอ่อน" เดนนิชแค่นเสียงหึแต่ใบหน้าคมเริ่มมีรอยยิ้มกริ่ม "แต่ก็น่าสนุกดี"

ลีอาพยักหน้าอย่างพอใจ

"ใช่ไหมล่ะ ประธานชมรมฉลาดก็มีกิจกรรมฉลาดๆ แบบนี้แหละ เป็นไงดัฟฟ์ เจ้ารู้สึกซาบซึ้งใจใช่ไหมที่ได้เข้าชมรมนี้"

"แก๊ซ อร่อย ข้าอยากกินอีก!" ดัฟฟ์ด้วยตาเป็นประกาย สิ่งที่ลีอาพูดๆ มาไม่ได้เข้าหูแม้แต่น้อย

"ดูเหมือนเจ้าจะตอบไม่ตรงประเด็นนะ ไอ้มังกรเอ๋อ เอ๊ย" คาอิสเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ให้พูดถากถางดัฟฟ์ไม่ได้เพราะมันกลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว

"แง้ คาอิสว่าดัฟฟ์" ดัฟฟ์หน้าบูดแต่ก็ยิ้มอย่างรวดเร็วเมื่อมีคนบริจาคลูกอมมาให้เพิ่ม

"กินซะสิ" เดนิชนั่งยองๆ ตรงหน้าดัฟฟ์และยิ้มใจดี "ดูเหมือนว่าไอ้ประธานโง่มันจะลืมพูดประโยคสำคัญอย่างคำว่ายินดีต้อนรับ ฉะนั้นข้าจะพูดแทนเองแล้วกัน" ก่อนจะยิ้มจนตาหยี "ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชมรมนักรบมังกรนะ ถึงชมรมพวกเราจะมีคนอยู่ไม่มากแต่ก็รักกันดี มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เอาเป็นว่าถ้าเจ้ามีปัญหาก็เรียกหาพวกเข้าได้เสมอ ไม่ต้องเกรงใจ"

"นั่นมันควรจะเป็นประโยคที่ประธานอย่างข้าควรพูดนะ ไอ้จิ้งจกสายฟ้าฟาดธรณี" ลีอาเหน็บและผลักหัวเดนิชจนเกือบล้ม
คนเป็นมังกรฟ้าถลึงตามองทันที

"ไอ้คำขยายความนั่นมันคืออะไร ข้าเป็นมังกรไม่ใช่จิ้งจกบ้าบอคอแตกที่เจ้าเลี้ยงไว้ในโหล"

"อย่ามาว่าสัตว์เลี้ยงน่ารักของข้าสิ ข้ากำลังศึกษาอยู่ว่าถ้ามังกรหางขาดจะงอกใหม่ได้ไหม" ลีอาตอบโต้กลับไฟแลบแล้วจึงหันมาคุยกับดัฟฟ์

"นอกจากคาอิสก็มีมังกรแสงอีกตัวที่น่าจะอายุพอๆ กับเจ้า ถ้าเจ้าอยากรู้จักก็นั่งอยู่ตรงนั้นนะ เห็นไหมใต้ต้นไม้น่ะ ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนาปึ้กนั่นอยู่ นั่นแหละเพื่อนเจ้าชื่อฟรังก์เป็นมังกรแสง"

ไม่ว่าเปล่ายังชี้ไปยังคนที่ถูกกล่าวถึงซึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆ กำลังอ่านหนังสือด้วยสีหน้าจริงจัง

"ฟรังก์.." ดัฟฟ์พูดทวนมองฟรังก์พลางเคี้ยวลูกอมที่ยังมีอยู่เต็มปาก

"นั่นแหละ เพื่อนของเจ้า ข้าเห็นแววเจ้าแล้วว่าเจ้าน่าจะเป็นเพื่อนกับฟรังก์มังกรใบ้แห่งชมรมเราได้ รู้อะไรไหม เจ้าจิ้งจกเรืองแสงนี่มันเคยคุยกับข้าแค่คำเดียวก็คือคำว่า "อืม" ตอนเข้าชมรม หลังจากนั้นไอ้มังกรบ้านี่มันก็เอาแต่พยักหน้าส่ายหน้าแทนคำพูดทั้งหมด หน้าตาก็ออกจะน่าเอ็นดูเหมือนข้าตอนเด็กๆ นะ " ในประโยคสุดท้ายคล้ายกับบ่นกับตัวเองซะมากกว่า

คาอิสเมื่อได้ยินท่านประธานชมรมที่ร่างเป็นหญิงแต่บุคลิกไปทางชายมากกำลังนินทาคนหยิ่งประจำชมรมอยู่ก็รีบเข้ามาร่วมวง นอกจากจะขี้หงุดหงิดแล้วคาอิสยังชื่นชอบการนินทาเป็นที่สุดเรียกได้ว่าเป็นชีวิตจิตใจเลยก็ว่าได้ "ข้ายืนยันได้ ดัฟฟ์ ไอ้มังกรบ้านี่ไม่เคยคุยกับข้าสักคำทั้งๆ ที่ข้ายอมเป็นฝ่ายเข้าไปทักมันก่อน! นอกจากมันจะมองหน้าข้าด้วยสีหน้านิ่งๆ แล้วมันยังจ้องหน้าข้าหาเรื่องด้วย!!"  มือคาอิสกำหมัดแน่นอย่างฉุนเฉีนยว แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นมานานมากแล้วก็ตาม แต่ในความรู้สึกของคาอิสเหตุการณ์ยังคล้ายกับเกิดขึ้นเมื่อวาน

ดัฟฟ์มีสีหน้าตกใจนิดหน่อยและส่ายหน้าดิก "แก๊ซ อาจจะเหมือนท่านแม่ก็ได้ ท่านแม่ของข้าชอบดุข้า รำคาญข้า แต่ก็ใจดีมากๆ เลย เพราะฉะนั้นข้าว่าฟรังก์ต้องมีนิสัยเหมือนแม่ข้าแน่ๆ!"  ดัฟฟ์พูดเองเออเองแล้วสาวเท้าเข้าไปหาฟรังก์ทันทีเพื่อเป็นการพิสูจน์

เสียงฝีเท้าดังไม่เป็นจังหวะเรียกความสนใจของคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ได้ดี

ใบหน้าที่ฉายแววคมคายแต่เด็กเหลือบขึ้นมามองเด็กที่ตัวเล็กกว่าตัวเองกำลังใช้ดวงตาสองสีมองตัวเองอย่างกระตือรือร้นขีดสุด

ฟรังก์กลืนน้ำลายดังเอือก สีหน้ายังคงไร้อารมณ์เช่นเดิม นัยน์ตาสีทองสว่างจับจ้องใบหน้าดัฟฟ์อย่างพิจารณา สมองพยายามประมวลผลท่าทีที่ตัวเองควรตอบรับกลับไป

นัยน์ตาของมังกรแสงฉายแววสับสน

ใครน่ะ?  แล้วข้าควรจะตอบกลับไปแบบไหน... ใบหน้าที่มีรอยยิ้มนั่นมันเป็นรอยยิ้มจริงๆ รึเปล่า? หรือว่ามันคือการแสยะยิ้ม ถ้าข้ายิ้มตอบจะถูกเขม่นไหมหรือข้าควรจะเมินมันดี

ในชั่วขณะที่ฟรังก์ตกอยู่ในภวังก์ดัฟฟ์ก็เอ่ยทักทายขึ้นมา

"ข้าชื่อดัฟฟ์ แก๊ซ เป็นสมาชิกชมรมเดียวกับเจ้า" พูดจบก็ยิ้มกว้างและเอื้อมมือไปหาฟรังก์ตั้งใจจะจับมือเพื่อกระชับมิตร

มังกรแสงที่ตกอยู่ในภวังก์ก็ยังคงตกอยู่ในภวังก์ มองดัฟฟ์อย่างไม่เข้าใจ

ข้าควรจะยินดีใช่ไหม.. ถ้าหากมีสมาชิกชมรมเข้ามาใหม่ หรือว่าข้าควรเสียใจที่ตัวเองไม่ได้กลายเป็นสมาชิกคนล่าสุด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังนั่นข้าควรจะตอบมันกลับด้วยแบบเดียวกันใช่ไหม

เวลาครู่ใหญ่จนดัฟฟ์เคี้ยวขนมจนหมดฟรังก์จึงค่อยยกมือของตัวเองไปหาดัฟฟ์

"ยินดีที่ได้รู้จักนะ แก๊ซ!!" ดัฟฟ์ยังคงยิ้มแม้ว่าจะไม่ได้คำตอบรับอะไรแม้แต่คำเดียวของฟรังก์ ไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในการตอบคำถามของฟรังก์

ใบหน้าที่มีรอยยิ้ม.. หมายความว่ามีความสุข ข้าต้องมีความสุขเหมือนกันงั้นเหรอถ้ามีสมาชิกใหม่? ถ้าข้าชอบการอยู่คนเดียวมากกว่า ข้าไม่อยากจะต้องมาเสียเวลาคิดหาท่าทีที่ควรตอบรับกลับไป มันต้องใช้เวลานานและทำให้ข้าปวดหัว

แต่ถึงอย่างนั้นมือของฟรังก์ก็ถูกดัฟฟ์จับแน่น

"แก๊ซ!!!" ดัฟฟ์เบิกตากว้างร้องลั่นราวกับต้องของร้อน ปล่อยมือจากมือจากฟรังก์ทันควันและสะบัดมือที่ร้อนผ่าวของตัวเองน้ำตาคลอ

ฟรังก์ไม่ได้มีท่าทีตกใจอย่างที่คนปกติพึงจะมี

อา... ใบหน้าเจ้าเด็กนี่เปลี่ยนเป็นเหยเกซะแล้ว ใบหน้าบิดเบี้ยวนี่มันหมายความว่ายังไงนะ? … อืมม เจ็บปวดสินะ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องขอโทษเจ้าเด็กนี่เพราะข้าเป็นต้นเหตุของเสียงร้อง

"ขอโทษ... พอดีว่าข้าควบคุมพลังในตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่"

น้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่แฝงไปด้วยอำนาจ ฟรังก์จับจ้องดัฟฟ์ด้วยสีหน้านิ่งสนิท

"ข้าไม่ต้องการเพื่อน... ถ้าเจ้าอยากได้เพื่อนก็ไปหาคนอื่นที่ไม่ใช่ข้า"

ลำพังแค่พยายามวิเคราะห์สีหน้าของแต่ละคนแล้วละบุออกมาว่าอารมณ์ไหน ก็ทำเขาเสียเวลาชีวิตไปครึ่งวันแล้ว จะให้มีเพื่อนให้คุยทั้งวันเขาคงไม่ได้นอนกันพอดี

"แง้" ดัฟฟ์เบะปากเตรียมจะร้องไห้

รู้สึกคล้ายกับถูกทำร้ายด้านจิตใจขั้นรุนแรง ดัฟฟ์ไม่เคยถูกใครปฎิเสธรุนแรงขนาดนี้มาก่อน 

ฟรังก์เหลือบมองต่อสักพักและก้มลงมองหนังสือในมือที่เขียนเกี่ยวกับอารมณ์กับสีหน้าท่าทางที่แสดงออกมา 

ดูเหมือนเจ้าเด็กนี้กำลังทำหน้าบิดเบี้ยว มีน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตา... อาการนี้ข้าเคยเห็นบ่อย แต่จำไม่ได้สักทีว่ามันเรียกว่าอะไร..

อืม..

มังกรแสงโคลงหัวไปมาสองสามครั้งก่อนจะนึกขึ้นได้

ร้องไห้ไง! ข้าจำได้แล้ว

"แง้!  ข้า ข้าไม่ยอมจริงๆด้วย ฮึก" 


------------------

ตัวละครใหม่อีกแล้วว ตัวนี้ค่อนข้างชอบ มีสิทธิ์มาตบตีกับกริสเซลค่ะ  :katai2-1:
 

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
นั้นๆ ราชินีปีศาจแทนราชาสินะ 55555 ชัดเจนขึ้นทุกวันๆ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ชอบดัฟฟ์ตอนร้องไห้


....

คนอ่านซาดิสต์

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 51 

หลังจากอยู่ในโรงเรียนมาได้หลายวัน ดัฟฟ์ก็เลิกอาการหลงทางทุกสองนาทีกลายเป็นดัฟฟ์ที่รู้แทบทุกที่ในโรงเรียนเพราะเคยหลงไปหมดแล้วและกลับห้องได้เมื่อกริสเซลตามกลิ่นเจอ

"แม่ แก๊ซ ข้าชอบร้านนี้มาก อร่อย!" ดัฟฟ์ยื่นน่องไก่ย่างให้กับฟาร์คัสพร้อมยิ้มตาหยี

"ขอบใจ" ฟาร์คัสรับมาพยายามฝืนยิ้มบางๆ ยีหัวดัฟฟ์ ตาทอดมองภายในโรงเรียนปีศาจด้วยแววตาที่พยายามจะสนอดสนใจ
ไม่รู้ว่าเพราะว่างหรืออะไรจู่ๆ กลับรู้สึกอยากมาหาดัฟฟ์ซะอย่างงั้น หรือเพราะเจ้าแพะโง่นั่นหายหัวไปสองวันถามใครก็ไม่ยอบตอบว่าหายไปไหน

ทำงานบ้าอะไรของมัน ถึงต้องหายไปดื้อๆ แบบนี้

"แก๊ซ? ไม่กินเหรอ อร่อยนะ แม่" ดัฟฟ์เอียงคองงๆ กระตุกชายเสื้อฟาร์คัส

เสียงเล็กๆ ของดัฟฟ์คล้ายกับเรียกสติฟาร์คัสกลับคืนมา

ฟาร์คัสสะบัดหัวตัวเองเบาๆ หวังจะสลัดความรู้สึกไร้สาระกับความหน่วงในอกไปด้วย

พอๆ ข้าจะคิดอะไรให้มันมากมายนัก ข้าต้องเชื่อใจคาร์บิลัสสิ! เจ้าแพะโง่นั่นถึงจะดูเอ๋อๆ แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นมันไปสุงสิงกับใคร 

"ข้าไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่ เจ้ากินเถอะดัฟฟ์" ยื่นคืนให้กับปีศาจมังกรร่างเล็กในชุดโรงเรียนถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า

"งื้อ งั้นข้าจะช่วยท่านแม่กินเองนะ แก๊ซ!" ดัฟฟ์ยิ้มจนตาหยีหยิบไก่คืนและจัดการมันอย่างรวดเร็ว

ฟาร์คัสเผลออมยิ้มกับท่าทีมูมมามของดัฟฟ์ที่แก้ไม่หายสักทีจนปล่อยเลยตามเลยแต่ดูไปได้สักพักก็เผลอเลิกคิ้ว "ดัฟฟ์ นี่เจ้าสูงขึ้นงั้นเหรอ" ไม่ว่าเปล่าดึงตัวดัฟฟ์มาใกล้ตัวเองเพื่อวัดระดับความสูง

"อื้อ อ้าอูงขึ้น! กริส กริสเซลก็บอก คิกๆ" ดัฟฟ์หัวเราะคิกคักทั้งๆ ที่ในปากยังเต็มไปด้วยไก่

"ตอนนั้นเจ้ายังสูงแค่เอวข้าเอง" ปีศาจอีกาบ่นงึมงำเมื่อนึกถึงที่เจอดัฟฟ์ครั้งแรกซึ่งถ้าเทียบๆ กับตอนนี้แล้วก็นานพอควร

ดูเหมือนว่าเวลาจะไหลไปเรื่อยๆ โดยที่ข้าไม่รู้ตัวสักนิด จะว่าไปข้ากับเจ้าแพะโง่นั่นก็รู้จักกันมานานเหมือนกัน

บัดซบ!

ฟาร์คัสหยิกแขนตัวเอง

นี่ข้าจะไปคิดเรื่องแพะโง่นั่นทำไมกัน? มันก็แค่หายตัวไปและทำให้ข้าหงุดหงิดมากๆ เท่านั้นแหละ แต่ถึงอย่างนั้น..ถ้าเจ้าแพะโง่

โผล่มาตอนนี้ก็ดีสิ..

การนอนบนเตียงที่ใหญ่เกินไปนั่นคนเดียวมันเหงาชะมัด..

หรือว่าข้าอาจจะคุ้นชินกับการโดนเจ้าแพะโง่นั่นพยายามออดอ้อนด้วยการกอด ดึงแขนไปหนุนบ้าง ตัวของเจ้าแพะโง่ร้อนมากแต่มันก็ให้ความรู้สึกทีไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่

อีกไม่กี่วันก็จะวันแต่งงานของเราแล้วนะ แพะเวร..

นี่เจ้าหายไปไหนของเจ้าน่ะ?  ถ้าต้องการให้เวลาข้าไปเข้าคอร์สเจ้าสาวปัญญาอ่อน ข้าไม่เข้าหรอกนะ ของบ้าๆ พรรค์นั้นเก็บไว้เข้าเองเถอะ 

"ท่านแม่ ท่านแม่ แก๊ซ! เป็นอะไรง้าา" ดัฟฟ์กอดฟาร์คัสแน่น มองฟาร์คัสงุนงงเพราะจู่ๆ ก็ซึมไปเลย

"ข้าก็แค่เหงาน่ะ ไม่มีอะไรหรอก ดัฟฟ์" ฟาร์คัสแค่นหัวเราะ

เหงามากๆ น่าจะเป็นคำพูดที่ตรงกับฟาร์คัสตอนนี้มากกว่า

แต่สิ่งที่เจ้าตัวพอใจที่จะพูดออกมาก็แค่คำว่าเหงาเท่านั้น

"เจ้าเถอะ ไม่มีเพื่อนคบงั้นเหรอ ถึงเอาแต่พาข้าเดินสำรวจโรงเรียน"

ดัฟฟ์หน้ามุ่ยทันที

"แก๊ซ! ดัฟฟ์งอนอยู่ กริสเซลแย่งกับนาซัสไปอยู่ด้วยทำให้ดัฟฟ์ต้องอยู่ชมรมคนเดียว คนอื่นๆ ในห้องข้าไม่ค่อยสนิทด้วยเท่า
ไหร่ แต่ข้ามีคนที่อยากให้ท่านแม่รู้จักนะ แก๊ซ!" ดัฟฟ์พูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นอะไรสีทองๆ ก้าวอาดๆ ไปยังหอพักนักเรียน
เปลี่ยนจากใบหน้างอนๆ เป็นร่าเริงทันที

ทำเอาฟาร์คัสอดรู้สึกไม่ได้ว่าดัฟฟ์็มีส่วนคล้ายเจ้าแพะโง่นั่น 

"ฟรังก์ แก๊ซซซซซซ"  ดัฟฟ์กระโดดโหยงเหยงโบกไม้โบกมือพยายามเรียกให้อีกฝ่ายหันมาสนใจตนเองซึ่งมันก็ได้ผล 

ฟรังก์่เหลือบมามองดัฟฟ์ช่วงเวลาสั้นๆ และเดินต่อไปอย่างไม่ใส่ใจราวกับว่าดัฟฟ์เป็นอากาศธาตุ

"แก๊ซ!! ฟรังก์ เจ้าจะทำแบบนี้กับข้าไม่ได้น้า!!" ดัฟฟ์มุ่ยหน้าฝากน่องไก่ที่เหลือไว้กับฟาร์คัสส่วนตัวเองวิ่งสุดชีวิตไปหาฟรังก์ 

ฟาร์คัสเหลือบมองน่องไก่ในมือสลับกับดัฟฟ์และเผลอถอนหายใจออกมา

ดัฟฟ์ ทึกทักไปเองรึเปล่า ว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าหัวทองนั่น? 

และภาพที่เห็นถัดจากเห็นดัฟฟ์โวยวายใส่หน้าเจ้าหัวทองนั่นก็คือภาพที่ดัฟฟ์พยายามลากฟรังก์มาหาตนเองสุดชีวิต

"เจ้าจะลากข้ามาทำไม ข้ามีสอบท่องเวทย์พรุ่งนี้" คนโดนลากด้วยสีหน้าไร้อารมณ์สิ่งที่พอจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงด้าน
อารมณ์ได้ก็คงจะเป็นคิ้วที่ขมวดเล็กๆ แสดงถึงความไม่พอใจที่ถูกก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง

"ก็ท่านแม่ข้าอยากเจอเพื่อนข้านี่นา แล้วเจ้าก็ตกลงเป็นเพื่อนข้าแล้วด้วย แก๊ซ" ดัฟฟ์ยิ้มเมื่อน่องไก่กลับมาอยู่ในมือตัวเอง

มังกรแสงจึงย้ายจุดสนใจมาหาปีศาจอีกาที่ยืนรอคำทักทายนิ่งๆ

ใบหน้าของฟรังก์กลับมาเย็นชาเหมือนเดิมเพราะในหัวเริ่มกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง

เจอคนแปลกหน้าเขาให้ทำอะไรนะ? เหมือนข้าจะจำได้.. อา แต่ก็จำไม่ได้เหมือนกัน ตอนนั้นรู้สึกว่าท่านพ่อจะไล่ข้าไปนอนพอดี

งั้นก็..

สีหน้าของฟรักง์ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มไร้อารมณ์ แววตาไม่มีประกายความเป็นมิตรแต่อย่างใด "ยินดีที่ได้รู้จัก.. แต่ตอนนี้ข้าไม่ว่างสักเท่าไหร่ ข้าขอตัวก่อนแล้วัน" ว่าจบก็ค้อมศีรษะเล็กๆ อย่างขอไปทีและรีบสาวเท้าออกไปทันที

"แง้! ไม่ ฟรังก์เจ้าต้องมาอยู่กับข้าน้า เจ้าเป็นเพื่อนข้านะ แก๊ซ" ดัฟฟ์โยนกระดูกเข้าถังขยะส่วนตัวที่ว่างแล้วก็กระโจนไปเกาะขา

ฟรังก์ไม่ให้เดินต่อ

ซึ่งขนาดตัวที่ไม่ได้ต่างกันมากก็ทำเอาฟรังก์แทบล้มสะดุดไปบนพื้น

ฟรังก์หันมาถลึงตาใส่ดัฟฟ์อย่างหงุดหงิด 

มีแต่อารมณ์หงุดหงิดนี่แหละ ที่เขาสามารถแสดงออกมาได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดมาก

"ข้ามีสอบ ดัฟฟ์ อย่ายุ่งกับข้า!"

"แง้ ฟรังก์ใจร้าย ฮือ" ดัฟฟ์แกล้งร้องไห้ฮือๆ เกาะขาฟรังก์แน่นกว่าเดิมจนเจ้าตัวขยับไปไหนไม่ได้

"ปล่อยข้า!!" ฟรังก์คำรามลอดไรฟัน "นี่เจ้าอยากโดนข้าเผารึไงกัน" 

ถึงจะพอควบคุมพลังมหาศาลในตัวนี้ได้ในระดับนึงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าควบคุมได้ตลอด บางทีเขาก็ควบคุมมันไม่ได้จนเผลอไปลวกมือคนอื่นๆ 

สิ่งที่ทำให้เขาควบคุมมันไม่ได้บ่อยๆ ก็อารมณ์โกรธนี่แหละ

"กลัว ดัฟฟ์กลั้วกลัว แก๊ซ" ดัฟฟ์หัวเราะคิกรู้สึกสนุกเมื่อสามารถแกล้งฟรังก์สำเร็จ

จนแล้วจนรอดมังกรแสงก็ต้องยอมแพ้ดัฟฟ์ยอมคุยกับผู้ปกครองมังกรดำงี่เง่านี่ดีๆ ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นก็เห็นรอยยิ้มเอ็นดูบนใบหน้า
นั่นแล้ว

รอยยิ้มแบบนี้ข้าพอใจจะรู้จักอยู่.... รอยยิ้มแบบเดียวกับท่านพ่อ

อา.. ข้าต้องยิ้มตอบเหมือนกันสินะ ไม่สิ ต้องแนะนำตัวด้วย..

"ยินดีที่ได้รู้จักท่าน ข้าชื่อฟรังก์เป็นมังกรแสง ข้ามีปัญหาเรื่องการอ่านสีหน้าคนนิดหน่อย ถ้าหากข้าตอบช้าไปเองก็ขอโทษด้วย"

แนะนำตัวพร้อมบอกสาเหตุที่ทำให้การเป็นคนที่ดูหยิ่งและตอบช้ามาก 

ซึ่งเหตุผลนี้ก็มีน้อยคนที่จะรู้เพราะฟรังก์รำคาญเกินกว่าจะมาเห็นใบหน้าเห็นใจที่มาจากเพื่อนแต่ละคน

ฟาร์คัสพยักหน้ายื่นมือไปยีหัวดัฟฟ์

"ข้าเชื่อแล้วล่ะ ว่าฟรังก์เป็นเพื่อนเจ้าจริงๆ"

ดัฟฟ์ยิ้มกว้าง 

"ใช่ ใช่ แก๊ซ ข้ากับฟรังก์เป็นเพื่อนกันแค่สองคน คนอื่น ข้าไม่นับ แก๊ซ!" และเผลอมุ่ยหน้าอีกครั้งเมื่อนึกถึงท่าทีของเพื่อนๆ
แต่ละคนในห้องที่ทิ้งตนเองได้ลงคอ

มังกรแสงกลอกตาเซ็งๆ "ข้าจะไปได้รึยังดัฟฟ์"  พยายามดึงขาตัวเองออกจากการจับกุมของมังกรดำที่ตอนนี้ดูจะคล้ายกับตุ๊กแกซะมากกว่า

"ไม่ได้ เจ้าต้องไปกับข้า แก๊ซ ข้าจะพาท่านแม่ไปเที่ยวโรงเรียน"

ฟรังก์ขมวดคิ้วมุ่นในความดื้อดึงของดัฟฟ์

หากเป็นเวลาปกติคนอื่นที่เห็นสีหน้าเย็นชาของเขาเปลี่ยนอารมณ์ คงจะไม่วายถอยหนีทันทีแต่กับเจ้ามังกรดำสติปัญญาต่ำต้อยนี่ไม่เป็นแบบนั้นมันยังสามารถเกาะขาของเขาได้อย่างชื่นบาน

"ข้ามีสอบ ดัฟฟ์ ถ้าเจ้าว่างมากนักก็ไปหาหนังสืออ่านเหมือนข้าไป"

"แก๊ซ ฉลาดมากไปไม่ดี"

"ฉลาดไม่ฉลาดมันก็ตัวข้า เจ้าเลิกยุ่งกับข้าสักที"

ดัฟฟ์ส่ายหน้าดุ้กดิ้ก "ม่าย ฟรังก์ไม่มีเพื่อน ดัฟฟ์จะเป็นเพื่อนให้เอง"

คำว่าเพื่อนคล้ายจะแทงใจดำฟรังก์จนพูดไม่ออกไปสักพักก่อนที่เจ้าตัวจะมองค้อนดัฟฟ์ตรงๆ "เออ อยากทำอะไรก็ทำ เดี๋ยวข้าไปด้วย พอใจรึยัง" พูดด้วยสีหน้าเหม็นเบื่อเต็มทน

"อื้ม!"

เมื่อภารกิจสำเร็จดัฟฟ์ก็ปล่อยมือจากขาฟรังก์อย่างว่าง่าย กลับมาลุกขึ้นยืนดีๆ ในหัวพลันก็นึกสถานที่อะไรออก "ท่านแม่ แก๊ซ ข้าจะพาท่านแม่ไปดูหอนาฬิกา มีมังกรตัวใหญ่มากๆ เลยที่นั่น" ไม่ว่าเปล่าพยายามกางแขนอธิบานคุณลักษณะของมังกรหอ
นาฬิกาที่มีหน้าที่คำรามเสียงดังเพื่อบอกเวลา

จะว่าเป็นเอกลักษณ์ของที่นี้ก็ได้ที่ยังคงใช้มังกรในการบอกเวลาเพราะโรงเรียนอื่นเปลี่ยนไปใช้เวทกันหมดแล้ว

ปีศาจอีกาหัวเราะเบาๆ ลูบผมนุ่มของดัฟฟ์อีกครั้ง

"ข้าคงต้องไปแล้วล่ะดัฟฟ์ ไว้ข้าจะหาเวลามาเยี่ยมเจ้าใหม่นะ"

การเดินรอบโรงเรียนจนขาลากไม่ใช่เรื่องตลก

"แง้ แม่ไปแล้วเหรอ ข้าจะอยู่กับใครล่ะ แก๊ซซ แง้" ดัฟฟ์งอแงทำท่าจะเข้ามากอดขาฟาร์คัสเป็นรายที่สองซึ่งฟาร์คัสก็หลบได้
ทันอย่างฉิวเฉียด

"ฟรักง์ไง เจ้าเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ เอาเป็นว่าตั้งใจเรียนนะดัฟฟ์ ขอบใจเจ้ามาก เจ้าทำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้นเยอะ
เลย" 

ก็พอจะช่วยข้าไม่ให้ฟุ้งซ่านเรื่องเจ้าแพะโง่นั่นได้สักพัก...

"แง้! ไม่ ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ไป ฮืออ" ดัฟฟ์ยังคงไม่ยอม ร้องไห้งอแง

จากที่อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลาตอนนี้เหลือไม่ถึงชั่วโมงทำให้ดัฟฟ์รู้สึกโหวงใจไม่น้อย ถึงเพื่อนจะพอทำให้ลืมเรื่องคิดถึงบ้านได้สักพักแต่ก็ไม่ได้หมายถึงตลอดเวลารวมถึงตอนนี้

"นาซัสทิ้งข้า แง้ ข้าเป็นพี่น้า ทำไมนาซัสไม่รักพี่ดัฟฟ์ ตอนนี้ท่านแม่ก็จะทิ้งดัฟฟ์เหมือนกันใช่ไหม ฮือ"

ฟาร์คัสชะงักขาที่กำลังจะเข้าไปในวงเวทเคลื่อนย้ายที่เพิ่งร่ายเสร็จแต่พอเหลือบเห็นคนที่ดัฟฟ์ติ้ต่างว่าเป็นเพื่อนสนิทตัวเองยัดลูกอมอะไรสักอย่างใส่เต็มมือดัฟฟ์แล้วลูบหัวเบาๆ คล้ายกับพยายามปลอบก็โล่งใจ พูดพึมพำเสียงเบา

"ฝากเจ้าดูแลดัฟฟ์ด้วยแล้วกัน ฟรังก์"

----------------

ตอนหลังๆ ค่อนข้างสบายๆ ให้อารมณ์เหมือนไดอารี่เลยค่ะ 5555  :really2:
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โถ่ๆๆๆ ลูกเอ้ยยย น้องก็ทิ้ง แม่ก็ทิ้ง น่าสงสารจริงๆ
อยู่กับฟรังก์ก่อนแล้วกันเนอะดัฟเนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จ้าา! แค่ลูกก้อเอาอยู่5555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
คิดถึงเธอ เธอก็มา~

ฟาร์คัสนี่เย็นชากับลูกจริง นานๆได้เจอทีนะ น่าจะลากนาร์ซัสกับดัฟฟ์มากอดๆหอมๆหน่อย  :m16:

ลองแกล้งนอนเป็นผัก เดี๋ยวก็โผล่มาเองแหละ  :laugh:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
"โอ๊ย ข้าจะลงแดงตายแล้ววววว ฮืออ งานตงงานแต่งไม่ต้องจัดมันแล้วถ้ามันทำให้ข้าต้องหลบหน้าฟาร์คัสเนี่ย" คาร์บิลัสครางออกมาอย่างน่าสงสารขณะที่กำลังนั่งเขียนจนหมายชวนคนรู้จักสำคัญๆ ให้มาร่วมงาน

"ท่านเป็นคนคิดเองนะขอรับ ท่านคาร์บิลัส เรื่องตัดผมของท่าน ตามจริงแล้วรู้สึกว่าข้าจะบอกท่านไปแล้วว่าท่านน่าจะตัดก่อนวันงานสักวันสองวัน" คอร์สมองนายตัวเองเซ็งๆ เพราะรู้สึกว่าเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับท่านฟาร์คัสทีไรท่านคาร์บิลัสก็ดูจะทำอะไรผิดพลาดไปหมดคล้ายกับว่าตั้งตัวไม่ถูก

"เออ ช่างข้าเถอะน่า คอร์ส หูยาวๆ ของเจ้าน่าจะหาอะไรมาอุดซะบ้าง ดูจะสนใจเรื่องของข้าทุกเรื่องเลย" คนเป็นราชาปีศาจมองผู้ใต้อาณัติของตัวเองดุๆ

เขายอมรับว่าตัวเองผิดพลาดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากให้ใครมาซ้ำเติมซ้ำหรอกนะ แค่ต้องอดใจไม่ไปเจอฟาร์คัสมาสองสามวันนี่ก็แทบจะคลั่งตายในห้องอยู่แล้ว

สิ่งที่พอจะช่วยบรรเทาความคิดถึงไปพลางๆ ก็คงเป็นขนอีกาที่แอบดึงเก็บไว้ตอนฟาร์คัสหลับ

ซึ่งตอนนี้มันก็อยู่ในมือคาร์บิลัสและกำลังใช้มันจุ่มหมึกเขียนคำเชิญด้วยภาษากลางที่ใช้สื่อสารกันในทุกดินแดน 

หูคอร์สลู่ลงทันควัน ปีศาจกระต่ายหดคอลงอย่างน่าสงสารเมื่อโดนดุ แขนสั้นๆ รับกระดาษที่เขียนคำเชิญแล้วจากท่านคาร์บิล์สมาพับและใส่ในซองจดหมายสีดำขลิบทองก่อนจะประทับซองจดหมายเป็นรูปเปลวเพลิงสีแดงก่ำรูปกะโหลกซึ่ง่เป็นสัญลักษณ์ของดินแดนปีศาจ

"อืมมม ชวนพวกเจ้าดินแดนหมดแล้วแฮะ คอร์สเจ้าว่าข้าดินแดนมนุษย์ด้วยดีไหม? แต่ข้าก็คุ้นๆ ว่ามันเคยทำร้ายฟาร์คัสของข้า" คาร์บิลัสพูดด้วยสีหน้าถมึงทึงมืออีกข้างลูบปลายขนอีกาเบาๆ อย่างอ่อนโยนคล้ายกับพยายามปลอบประโลมฟาร์คัสอยู่

หูข้างนึงตั้งชันขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ คอร์สกลืนน้ำลายเอือกรับรู้ถึงอารมณ์ไม่ดีของผู้เป็นนายของตัวเอง "ข้า ข้าว่าไม่ชวนดีกว่าขอรับ กับพวกมนุษย์ต่อให้อยากรบกับเราก็ทำไม่ได้หรอกขอรับ ท่านไม่ต้องรักษามารยาทกับพวกมันหรอก"

คาร์บิลัสเลียริมฝีปากแห้งผากก่อนจะยิ้มแสยะ "ข้าว่าชวนมาดีกว่า ไหนๆ ช่วงนี้ดินแดนของเราก็เปิดเสรีให้เข้าออกกันตามสบายแล้ว เชิญมันมาสานความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดี" และลงมือเขียนชื่อกษัตริย์เมืองมนุษย์อย่างบรรจงทันที

 "ขอรับ" คอร์สพยักหน้าหงึกๆ ตัวสั่น สีหน้าของท่านคาร์บิลัสขณะที่พูดเหมือนจะเชือดเจ้ากษัตริย์เมืองมนุษย์ที่น่าสงสารนั่นเป็นพันชิ้น

ข้าว่าเอาคำว่าสงครามมาใส่แทนคำว่าสัมพํนธ์อันแน่นแฟ้นยังดูจะเหมาะกับสีหน้าของท่านคาร์บิลัสตอนนี้กว่าเลย!

"พวกคนสำคัญๆ ข้าเชิญหมดแล้ว ก็เหลือแต่พวกไร้ความสำคัญสินะ" คาร์บิลัสพูดยิ้มๆ เมื่อนึกถึงเพื่อนแต่ละคนของตัวเอง "หึ ไอ้พวกเวรที่ชอบมาล้อข้าว่าหาคู่หมั้นไม่ได้ อย่างน้อยข้าก็แต่งงานก่อนพวกมันแล้วกัน"

คอร์สที่ได้ยินสิ่งที่คาร์บิลัสพูดก็สะดุ้งเฮือก

เพราะเพื่อนแต่ละคนของท่านคาร์บิลัสนี่ไม่ปกติกันสักคน! ไม่รู้ว่าท่านคาร์บิลัสไปสรรหาจากไหนมาเป็นเพื่อนสนิทตัวเองได้ ยกตัวอย่างเช่นผู้ควบคุมกาลเวลาที่ข้าเคยแอบเห็นท่านคาร์บิลัสเรียกตอนกำลังจิบน้ำชาคุยกันในสวน ส่วนคนอื่นก็รู้สึกว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยกัน

"อย่างพวกมันคงไม่ต้องใช้คำเชิญ" คาร์บิลัสหัวเราะหึๆ ใช้ปลายนิ้วจุ่มหมึกสีแดงออกมาเขียนเป็นอักษรเวทไม่นานมันก็กลายเป็นเหยี่ยวสีแดงก่ำทั้งตัวที่สร้างจากน้ำหมึก ราชาปีศาจเคาะบนโต๊ะหนึ่งครั้งเบาๆ ทำให้มันเริ่มขยับตัว มันส่งเสียงร้องออกมา
หนึ่งครั้งก่อนจะโผบินขึ้นไปในอากาศทันที

"งั้นข้าขอตัวไปส่งจดหมายนะขอรับ ท่านคาร์บิลัส" คอร์สก้มหัวหลัดๆ รีบหาทางพาตัวเอง พยายามหาทางออกห่างจากท่านคาร์บิลัสให้ไวที่สุด

"เดี๋ยวสิ เจ้ามาช่วยข้าเลือกชุดเจ้าบ่าวก่อน ข้าว่าชุดที่เจ้าเพิ่งตัดมาให้ข้ามันไม่เข้าใจถูกใจข้าสักเท่าไหร่" ไม่ว่าเปล่าหยิบชุดสีดำที่ทำจากผ้าเนื้อดีที่สุดในดินแดนปีศาจมันถูกปักอย่างประณีตด้วยลวดลายสวยงาม

ปีศาจกระต่ายหน้าซีดกว่าเดิมในหัวสบถรุนแรงไม่หยุด ปกติมันจะชินกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของท่านคาร์บิลัส แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้มันถึงรู้สึกกลัวนัก

คงจะเพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับท่านฟาร์คัสแน่ๆ!

"แล้วท่านคาร์บิลัสจะเปลี่ยนเป็นแบบไหนล่ะขอรับ ข้า ข้าจะบอกช่างให้ ไม่สิ ข้าจะเรียกช่างมาให้ท่านตอนนี้เลยก็ยังได้" คอร์สพูดอย่างรวดเร็วหูของมันตั้งชันขึ้นอย่างตื่นตระหนก

คาร์บิลัสหลุดหัวเราะเมื่อแผนแกล้งกระต่ายขี้ตกใจสำเร็จ

ปกติชาคอสจะไม่ค่อยกลัวมันสักเท่าไหร่ เวลาแกล้งอะไรสีหน้าจะไร้อารมณ์เหมือนเดิม

"ไปซะ คอร์ส ข้าก็แค่แกล้งเจ้าเท่านั้นแหละ ชุดตอนนี้สวยมาก ฝากขอบใจช่างให้ข้าด้วยแล้วกัน"

คอร์สขมวดคิ้วแต่ไม่กล้าบ่นอะไรออกมา มือเล็กๆ ลูบอกตัวเอง "งั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับ" พูดจบกระต่ายตัวอ้วนก็รีบกระโดดโหยงเหยงออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

คาร์บิลัสมองตามก่อนจะพ่นลมหายใจเศร้าๆ ออกมา

"ข้าต้องทนได้ไม่ถึงงานแต่งแน่ๆ เลย"

มือหนาลูบขนปีกอีกาใจลอยก่อนที่จะกำขนอีกาแน่นและพูดออกมาอย่างหมายมั่น

"ไม่สิ ข้าต้องทนให้ได้สิ งานแต่งมีได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เรื่องแค่นี้ราชาปีศาจอย่างข้าต้องทนให้ได้!"
 


"วันนี้มันก็ยังไม่กลับมาสินะ" ฟาร์คัสบ่นเบาๆ ขณะที่นั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงมองไปยังประตูอย่างใจจดใจจ่อมาแทบค่อนคืนจนเริ่มรู้สึกง่วงจึงละความพยายามลง สะบัดมือเรียกเวทลมดับคบไฟในห้องและทิ้งตัวนอนบนเตียงที่ข้างตัวเต็มไปด้วยหมอนข้าง

"ไอ้แพะเวรเอ้ย... งานเจ้ามันเยอะมากจนกลับบ้านไม่ได้เลยรึไง?" ฟาร์คัสบ่นขณะที่หลับตานิ่งแขนกอดกับหมอนข้างตัวยาวที่สุด

"ข้ากลับมาแล้ว" เสียงทุ้มแหบพร่าพูดข้างหูฟาร์คัส

ปีศาจอีกาสะดุ้งเฮือกลุกขึ้นนั่งเตรียมจะจุดไฟเพื่อให้ห้องสว่างแต่กลับถูกคาร์บิลัสล็อกแขนไว้แน่นพร้อมถูกหมวกคลุมทั้งหัวจนมองอะไรไม่เห็น

จากความดีใจเปลี่ยนเป็นหงุดหงิด

"ไอ้แพะเวร เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้า!!" ฟาร์คัสพูดเสียงเหี้ยมแขนพยายามดิ้นออกจากพันธนการแกร่ง

นอกจากความมืดสนิท ข้ามองอะไรไม่เห็นแม้แต่นิดเดียว!

"ข้าคิดถึงเจ้าชะมัด" คาร์บิลัสกระซิบรวบตัวฟาร์คัสมากอดแต่ก็ได้เพียงไม่นานเพราะถูกศอกเข้าที่ท้อง ทำให้คา์บิลัสต้องยอม
ปล่อยกอดแต่ก็ยังล็อคข้อมือไว้อย่างเหนียวแน่น

"ปล่อยข้า แล้วบอกข้ามาว่าเจ้าหายไปไหนมา" ฟาร์คัสพูดเสียงอู้อี้

"ข้าทำงานจริงๆ นะเชื่อข้าเถอะ" 

"ทำอะไรมันก็เรื่องของเจ้า แต่เอาไอ้หมวกโง่ๆ นี่ออกจากหัวข้าได้แล้ว! ข้าหายใจไม่ออก" 

ราชาปีศาจสะดุ้งเฮือกก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเศร้ามาก

"ไว้ข้าจะมาหาเจ้าใหม่นะ"

ฟาร์คัสกำลังจะอ้าปากด่าอีกครั้งเมื่อสามารถดึงหมวกเวรออกจากหัวได้ แต่พอหันไปรอบๆ กลับพบเพียงความว่างเปล่า

"แพะเวรเอ้ย..!"

มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย

---------------------
ขำคาร์บี้ 55555555555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โถ คาร์บี้

สร้างเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ

 :katai5:

อีกกี่วันถึงงานแต่งคะนี่??

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 53

บนเตียงหลังยักษ์ของคาร์บิลัสมีปีศาจอีกานั่งเอนหลังพิงหัวเตียงสีหน้าหงุดหงิด ข้างๆ กันมีมือขวาของคาร์บิลัสยืนหน้านิ่งอยู่

"ข้าจะไม่สนใจมันแล้ว!" ฟาร์คัสสบถกับตัวเองเสียงดัง หน้าตาง่วงงุนเพราะอดหลับอดนอนมาหลายวัน สาเหตุน่ะเหรอ? คือนั่งรอให้คาร์บิลัสมาหาจนดึกดื่นแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา!

"ท่านจะไม่สนใจไม่ได้นะขอรับ ท่านฟาร์คัส วันนี้เป็นวันแต่งแล้วนะขอรับ รู้สึกว่าท่านพัพพ์จะส่งชุดของขวัญคู่บ่าวสาวมาให้ท่านด้วย" ชาคอสพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบไม่ยินดียินร้าย

คนเป็นว่าที่ชายาราชาปีศาจสะดุ้งเฮือก "วันนี้? ไม่ใช่พรุ่งนี้งั้นเหรอ เจ้าจำผิดรึเปล่า ชาคอส"

ชาคอสส่ายหน้านิ่งๆ "ไม่ผิดขอรับ วันนี้จัดในห้องโถงของปราสาท"

ฟาร์คัสสบถอย่างหัวเสีย นี่ถ้าเจ้าแพะปัญญาอ่อนนั่นไม่หายหน้าหายตาไป ข้าคงไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ "งั้นข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน"

"ทำเวลาหน่อยนะขอรับ เพราะชุดของท่านออกจะยุ่งยากนิดหน่อยต้องให้ท่านพัพพ์มาช่วยใส่"

"ข้าจะรีบแล้วกัน" ฟาร์คัสพูดตอบอย่างขอไปทีรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องน้ำในหัวครุ่นคิดถึงกำหนดการงานแต่งที่คอร์สมาอธิบายคร่าวๆ ให้ฟัง

ช่วงเที่ยงจะมีการเลี้ยงอาหารและต้อนรับแขกที่จะมางานแต่งงาน.. พอสักบ่ายสองบ่ายสามก็จะจัดพิธีแต่งงานในห้องที่ใช้สำหรับเพื่อการแต่งงานโดยเฉพาะ ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมากมายนอกจากกล่าวคำสาบานเหมือนครั้งงานแต่งงานของเอลล์ มีพิธีแลกแหวน แล้วก็.. อืม การจูบสาบาน ทุกอย่างเน้นความเรียบง่ายเหมือนงานแต่งงานทั่วไป คอร์สบอกว่าถ้าหากจะจัดแบบไม่เรียบง่ายก็สามารถทำได้ แต่ทุกอย่างยุ่งยากกว่ามาก การพาเจ้านั่งสาวเกี้ยวแห่ในเมืองหลวงเอย การแสดงพลังเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเหมาะกับราชาปีศาจเอย ทุกอย่างยุ่งยากทั้งนั้นและนั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ
ส่วนหลังจากนั้นก็เป็นการเข้าห้องหอ..

มันจะไม่มีอะไรมากกว่าการนอนแน่ๆ ข้าแน่ใจ!

ฟาร์คัสส่ายหัวน้อยๆ สลัดเรื่องไร้สาระอย่างการเข้าห้องหอกับคาร์บิลัสออกจากหัว 

แต่โดยรวมแล้วพิธีต่างๆ ของงานก็ถือว่าเรียบง่ายในแบบที่ข้าชอบดี..

ระหว่างที่คิดเรื่อยเปื่อยฟาร์คัสก็อาบน้ำจนเสร็จพอดี สบู่นม สมุนไพรรักษาผิวอะไรสักอย่างที่ทำให้ผิวนุ่มนวล ถูกเอานำมาใช้ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ฟาร์คัสถือว่าวันนี้เป็นวันที่ดีจึงตัดสินใจยอมบำรุงร่างกายของตัวเองให้สะอาดกว่าทุกวันแม้ว่ามันคล้ายกับการกระทำของสตรีก็ตาม

ฟาร์คัสเหลือบมองชุดสีดำที่ดูหรูหราเรียบง่ายวางอยู่บนโต๊ะก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมาสวมใส่อย่างไม่ชำนาญ ความรุ่มร่ามที่มาพร้อมความสวยงามนั้นทำเอาฟาร์คัสหงุดหงิดมาก เข้าใจดีถึงเหตุผลว่าทำไมพัพพ์ถึงจะมาช่วยใส่

เพราะว่าชุดพวกนี้มันปัญญาอ่อนมากยังไงล่ะ!

ก็อก ก็อก

"มาแล้ว ข้ามาแล้ววว"

เสียงเคาะประตูดังขึ้นซึ่งก็เป็นช่วงที่ฟาร์คัสต้องการผู้ช่วยเหลือพอดี

"เข้ามา" ฟาร์คัสตอบและถอดเสื้อบ้าๆ ออกจากตัว เหลือเพียงชุดซับในสีขาวที่ใส่ง่ายกว่ากันมาก

เมื่อได้รับคำอนุญาตพัพพ์ก็เข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับรถเข็นขนาดย่อมที่ใส่เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องประดับจนเต็มคันรถ พัพพ์กำลังจะทักทายฟาร์คัสก็ต้องตาโต

"ชุด ชุด! นี่หล่อนจะทึ้งชุดรึไงยะ โอ้ยย"

รีบเข็นรถมาใกล้ๆ ฟาร์คัสแล้วถลาเข้าไปจับชุดสีดำที่มีลักษณะคล้ายชุดสูทแต่ทุกอย่างอลังกว่านั้นมาก ลายเส้นของปีศาจที่เป็นมักจะเป็นแบบกดน้ำหนัก สั้นๆ แข็งกร้าว ตามวิสัยของชาวปีศาจทั่วไปซึ่งมันก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นลวดลายปีศาจอีกาสยายปักอย่างสง่างาม บริเวณดวงตาของอีกาประดับด้วยอัญมณีหายากของดินแดนปีศาจอย่างทับทิม มันถูกปักด้านหลังเสื้อด้วยขนาดที่ว่ามองจากหน้าปราสาทก็ยังสามารถเห็นอีกาสยายปีกนี่ได้ แต่ที่เด่นกว่านั้นคือมงกุฏสีทองจางๆ ที่เย็บอยู่เหนือหัวอีกา มันแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งอันสำคัญในอนาคตของฟาร์คัส ส่วนด้านหน้าเสื้อประกอบด้วยความรุ่มรามมากๆ เพราะดูเหมือนฟาร์คัสจะใส่มันไม่เป็นแล้วดันทุรังใส่มั่วจนพันกันไปหมด

"เจ้าใส่ไม่เป็นก็เรียกคนมาช่วยใส่ ท่านฟาร์คัส" พัพพ์เอ็ดออกมาตรงๆ มือแก้ปมเชือกที่พันกันมั่ว

"ข้าคิดว่ามันใส่ง่ายกว่านี้" ฟาร์คัสตอบกลับเสียงเบา สลดลงนิดหน่อยเมื่อถูกดุ

"ไม่ต้องทำเสียงเศร้าขนาดนั้นก็ได้ เกิดท่านคาร์บิลัสมาเห็นเข้าเดี๋ยวฆ่าข้ากันพอดี" พัพพ์อดหัวเราะไม่ได้รู้สึกเอ็นดูในตัวฟาร์คัสอย่างบอกไม่ถูก "มานี่ท่าน ข้าจะใส่ให้ ของสวยๆ งามๆ แบบนี้มันต้องละเอียดละออ"

ฟาร์คัสก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าพัพพ์อย่างว่าง่ายสีหน้ายังคงสลดเล็กๆ ที่ตัวเองทำชุดเละไม่เป็นท่าแล้วต้องมาให้คนอื่นแก้ให้อีก
"ท่านใส่มันเข้าไปก่อนเดี๋ยวที่เหลือข้าจัดการเอง" พัพพ์ยื่นเสื้อที่กลับมาหน้าตาแบบเดิมพร้อมจะสวมใส่ให้กับฟาร์คัสและรอให้อีกฝ่ายสวมจนเสร็จก็ลงมือจัดพวกเชือกปมอะไรทั้งหลายแหล่ที่มีเพื่อเพิ่มความสวยงามบนเสื้อ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย

"เสร็จแล้วท่าน เนี่ย แค่ท่านเรียกข้ามาช่วยก็จบละ ไม่ต้องมางมหาวิธีใส่เอง" พัพพ์ยิ้มออกเมื่อจัดชุดเสร็จแล้วฟาร์คัสออกมาดูน่ามองมาก ชุดนี้ก็คล้ายกับว่าเน้นแสดงหุ่นของเจ้าของร่างทำให้รู้ว่าฟาร์คัสนั้นตัวเล็กและผอมกว่าที่คิดมาก ส่วนพวกความรุ่มร่ามก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีช่วยขับชุดให้ออกมาดูมีค่าและทำให้ดูสง่างาม 

ฟาร์คัสเบิกตากว้างมองพัพพ์ด้วยสวยตาชื่นชมที่สามารถแก้ปัญหาชุดปัญญาอ่อนได้ไวมาก

"แต่เดี๋ยวนะ นี่ตาท่านไปทำอะไรมาเนี่ย!" นายพายถึงกับยิ้มค้างเมื่อเห็นหน้าอิดโรยของฟาร์คัสและถุงใต้ตาอันโดดเด่น 
ฟาร์คัสยิ้มแหยๆ "ข้านอนดึกนิดหน่อยน่ะ"

"โอ้ย ท่านน่าจะนอนดึกช่วงอื่นที่ไม่ใช่ช่วงนี้นะ" พัพพ์บ่นจริงจังเดินกลับไปควานหาเครื่องสำอางในรถเข็นออกมาเพื่อปกปิดร่องรอยบนใบหน้าฟาร์คัส ซึ่งตามจริงแล้วไม่ต้องใช้ด้วยซ้ำไปถ้าตามันไม่ดำขนาดนี้

เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้นอนดึกฟาร์คัสก็หน้านิ่งเจือหงุดหงิด "ข้าไม่ผิดสักหน่อย เจ้าแพะโง่นั่นไม่ยอมกลับห้องมาเอง"

"อะไรนะ? ท่านคาร์บิลัสไม่ยอมกลับห้องเหรอ" พัพพ์พูดขณะที่กำลังใช้พวกแป้งอะไรสักอย่างของดินแดนปีศาจทาทับรอยดำจากอาการนอนดึก

ฟาร์คัสนั่งลงบนเก้าอี้เมื่อเห็นพัพพ์พยายามเขย่งขึ้นมาแต่งหน้าตัวเอง "อืม มันหายหัวไปไหนก็ไม่รู้"

"ท่านไม่ต้องทำหน้าหึงขนาดนั้นหรอกน่า ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าท่านคาร์บิลัสติดท่านขนาดไหน" พัพพ์พูดกลั้วหัวเราะ ข่าววงในนี่ถือว่าเรื่องนี้เด็ดและเมาท์สนุกมาก 

ฟาร์คัสหน้าแดงเล็ก หลบตาพัพพ์ "ข้ารู้ ว่ามันคงจะไม่ทำอะไรโง่ๆ หรอก แต่ข้าก็แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงไม่ยอมกลับมาหาข้าบ้าง"
แต่พอนึกถึงเรื่องที่ตัวเองโดนคลุมหัวแล้วกอดฟาร์คัสก็หงุดหงิดขึ้นมาทันควัน หน้าหงิกงอไม่พอใจ

"พอกลับมาทีก็ทำเรื่องปัญญาอ่อนอีก"

"เรื่องปัญญาอ่อนอะไรเหรอ? เล่าหน่อยสิท่าน ข้าให้คำปรึกษาได้นะ" พัพพ์หูผึ่งทันที  งานเผือกก็มา

ฟาร์คัสแค่นเสียงขึ้นจมูกหน้าแดง "ไม่มีอะไรหรอก เรื่องไร้สาระ"

"ไร้สาระข้าก็ให้คำปรึกษาได้ ท่านไม่รู้อะไร ข้าโด่งดังมากเลยนะเรื่องให้คำปรึกษาคู่รัก มีคู่ไหนบ้างที่มาปรึกษาข้าแล้วไม่คืนดีกัน ฉะนั้นท่านต้องเล่ามา" พัพพ์ปั้นหน้าให้น่าเชื่อถือในขณะที่พูดเพราะทุกอย่างที่กล่าวมาโม้ล้วนๆ 

"ไม่" ฟาร์คัสตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด เรื่องน่าอายแบบนี้มีข้ากับเจ้าแพะโง่นั่นที่รู้ก็พอแล้ว "แล้วนี่ใกล้เสร็จรึยัง ข้าต้องออกไปรับแขกตอนเที่ยงอีก"

มันเป็นแค่ข้ออ้างหนีจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของพัพพ์เท่านั้น.. แต่สิ่งที่ไม่ใช่ข้ออ้างก็คือความอยากเจอเจ้าแพะโง่นั่น วันนี้เป็นวันแต่งงานไม่มีทางที่มันจะหลบหน้าข้าได้แน่ๆ

"ไม่เล่าก็ไม่เล่า" พัพพ์กลอกตาเซ็งๆ "เสร็จแล้วล่ะ ท่านเข้างานได้เลย ถ้ามีปัญหาอะไรกับชุดกับหน้า ท่านก็เรียกข้าได้ ข้าอยู่ในงานของท่านนั่นแหละ" 

"ขอบคุณเจ้ามาก" ฟาร์คัสผงกหัวรับและคลี่ยิ้มให้ก่อนจะก้าวไวๆ ออกจากห้องน้ำเพื่อที่จะไปถึงที่จัดงานให้ไวที่สุด ในหัวเริ่มคิดหาคำด่าคาร์บิลัสที่กล้าทิ้งให้อยู่คนเดียว แต่เมื่อเปิดประตูกลับเข้าไปในห้องก็ถูกบางอย่างโถมกอดแน่นจนหน้าจมลงไปในอก

"คาร์บิลัส?" ฟาร์คัสเรียกออกมาอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมานั่งรออยู่ในห้องนอน

"อืม" คาร์บิลัสยังคงกอดแน่นเพื่อคลายความคิดถึงที่ก่อตัวมานานหลายวัน

"ปล่อยข้าไอ้แพะเวร" ฟาร์คัสพยายามผลักตัวคาร์บิลัสออก ถึงแม้ในอกจะรู้สึกดีใจแต่ความหงุดหงิดนั้นมีมากกว่า

คาร์บิลัสยอมผละออกมาแล้วยิ้มให้ฟาร์คัสด้วยท่าทางที่คิดว่าตัวเองดูดีที่สุด

ฟาร์คัสเมื่อเห็นหน้าคาร์บิลัสชัดๆ ก็หน้าแดงก่ำ

เดิมทีคาร์บิลัสก็มีหน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่ทรงผมใหม่นั้นดูจะขับให้ใบหน้านั้นดูดุและลึกลับมากกว่าเดิม ยิ่งรวมกับเสื้อผ้าสีดำหรูหรานั่นยิ่งทำให้คาร์บิลัสดูเหมือนราชาปีศาจที่เต็มไปด้วยสเน่ห์ลึกลับและพลังอำนาจ แต่ที่ต้องยอมรับจริงๆ คือความหล่อเหลาของคาร์บิลัสที่ทำเอาฟาร์คัสแค่มองก็รู้สึกประหม่า

"นี่คือสาเหตุที่เจ้าหายไป?" ฟาร์คัสพูดเสียงขาดๆ หายๆ รู้สึกคล้ายกับโดนนัยน์ตาสีเทาของราชาปีศาจมอมเมา

"อืม ข้าทนหลบหน้าเจ้าตั้งหลายวัน" คาร์บิลัสยิ้มทำท่าจะกอดฟาร์คัสอีกรอบ แต่ฟาร์คัสก็ไหวตัวทันหลบได้ก่อน หน้าตายิ้มๆ
ของราชาปีศาจจึงงอง้ำเล็กน้อย "ขอข้ากอดหน่อยสิ ฟาร์คัส ข้าคิดถึงเจ้ามากเลยนะ"

"แพะโง่ก็อยู่ส่วนของแพะโง่ไปสิ" ฟาร์คัสอดด่าไม่ได้ กับแค่เรื่องนี้เจ้าแพะปัญญาอ่อนนี่ถึงกับต้องหลบหน้าข้าตั้งหลายวันจนข้ารู้สึกเสียดายในความกังวลและกระวนกระวายของตัวเอง

ถ้ารู้แบบนี้ ข้าไม่คิดมากให้โง่หรอก!

"ข้าคิดถึงเจ้าจริงๆ นะ เจ้าไม่คิดถึงข้าเหรอฟาร์คัส" คาร์บิลัสส่งสีหน้าน่าสงสารให้กับฟาร์คัส ซึ่งมันก็คล้ายกับสุนัขตัวโตมองเจ้านายตัวเองหงอยๆ

---------------------------

มาแล้วววว  :mc4:

 

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เย้ๆ มาแล้ว
โถ่เอ้ย คาบิลัส สุดท้ายก็แอบมาหาฟาร์คัสอยู่ดี ฮ่าๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่อย 555555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1:

อยากเห็นแฟนอาร์ทชุดแต่งงานจริง T T สไตล์โกธิคเหรอคะ??

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
"เออๆ" ฟาร์คัสถอนหายใจเซ็งๆ ยอมยืนนิ่งให้คาร์บิลัสโถมตัวกอดอีกรอบ 

คาร์บิลัสยิ้มกริ่มในขณะที่กอด มือแกล้งอยู่ไม่สุขสอดเข้าไปในเสื้อ

ฟาร์คัสสะดุ้งเฮือก "ไอ้แพะเวร ชุดนี้มันใส่ยาก เอามือเวรๆ ของเจ้าออกไปซะ"

"เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ข้าไม่ได้ยินเลย" คาร์บิลัสลอยหน้าลอยตาพูด

"คาร์บิลัส.."

"อุ้ย!" 

เสียงแปลกปลอมจากบุคคลที่สามทำเอาทั้งคาร์บิลัสและฟาร์คัสรีบผละออกจากกันทันที

"ดูเหมือนข้าจะมาขัดจังหวะพวกเจ้านะเนี่ย" เป็นนายพายคนเดิมเพิ่มเติมคือความอิจฉาแรง ก่อนที่พัพพ์จะสะดุ้งสุดตัวรีบเข็นรถเข็นออกจากห้องเมื่อเห็นสีหน้าของราชาปีศาจที่ส่อกลายๆ ว่ารีบๆ ออกไป นี่มันเวลาส่วนตัวของข้า

"ฟาร์คัสอย่าลืมที่ข้าบอกนะ วันไหนเจ้าลูกสิบแล้วเรียกข้ามาตั้งชื่อด้วย!" แต่ก็ไม่วายแกล้งหย่อนระเบิดลูกโตเอาไว้และหนีออกไปทันที

ฟาร์คัสคิ้วกระตุกส่วนคาร์บิลัสยิ้มขำๆ

"นั่นคือคำอวยพรรึเปล่า ฟาร์คัส? เจ้าว่าเราทำให้มันเป็นจริงดีไหม"

"เจ้าประสาทกลับแล้วเหรอ คาร์บิลัส" ฟาร์คัสจ้องดุๆ คล้ายจะตำหนิเรื่องการเล่นไม่รู้เวล่ำเวลา "นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ ข้ากับเจ้าไม่ต้องไปหน้างานคอยรับพวกมางานเหรอ"

พยายามเบี่ยงเบนความสนใจออกจากเรื่องพวกนี้เพราะถ้าเจ้าแพะโง่นี่คิดจะทำจริง ข้าคงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

"เจ้าไม่รู้อะไร เจ้าพวกนั้นมางานกันตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนตอนนี้พวกมันก็ยังกินไม่เสร็จเลย" คาร์บิลัสพูดกลั้วหัวเราะ "เชื่อข้าสิ ต่อ
ให้งานพิธีจะเริ่มพวกมันก็ยังจะกินต่อไม่สนใจใคร"

"ก็ไม่แปลกนักหรอก แพะปัญญาอ่อนอย่างเจ้ามันก็ต้องมีเพื่อนประหลาดๆ อยู่แล้ว"

"ข้าจะถือว่านั่นเป็นคำชมนะ"

คาร์บิลัสพูดยิ้มๆ แล้วเอื้อมมือไปโอบไหล่ฟาร์คัสมาเบียดกับไหล่ตัวเองและร่ายเวทสั้นๆ เพื่อไปยังหน้าหน้างานที่เพิ่งหลบออกมาหาฟาร์คัส
 

ภายในงานเลี้ยงนั้นประกอบด้วยโต๊ะยาวขนาดยักษ์ที่มีอาหาร น้ำ เหล้าแทบจะทุกชนิดในดินแดนปีศาจวางเรียงรายอย่างอลังการโดยมีปีศาจคอยเติมให้อย่างสม่ำเสมอเมื่ออาหารบางเมนูหมด ส่วนโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งนั้นถูกวางอย่างเป็นระเบียบรอบห้อง
ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ไม่เน้นความเป็นทางการมากนักแต่นิสัยของคาร์บิลัสคือความเป็นระเบียบและมีวินัย ทุกอย่างจึงยังคงอยู่ในความเป็นระเบียบ 

แขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่นั้นเป็นคนที่คาร์บิลัสสนิทด้วยและไว้ใจเป็นส่วนใหญ่ซึ่งก็มีจำนวนไม่มาก อีกส่วนหนึ่งก็เป็นพวกเพื่อนของคาร์บิลัสและฟาร์คัสอีกทีซึ่งรวมๆ แล้วแขกที่มางานมีไม่ถึงครึ่งของจำนวนปีศาจที่ทำงานในปราสาทด้วยซ้ำไป
ซึ่งในตอนนี้แขกที่เชิญมาก็ทยอยเข้ามาหยิบและนั่งกินข้าวกันเงียบๆ ผิดกับโต๊ะหนึ่งที่โหวกเหวกโวยวายคุยกันแทบจะตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาในปราสาท

คนแรกนั้นเป็นปีศาจร่างยักษ์หน้าตาหล่อจัดสวมชุดทางการ ตามแขนขาและข้อมือมีรอยสักสีดำทมิฬประจำตระกูล ผมสีดำถูกตัดระสั้นเข้ากันดีกับนัยน์ตาสีดำสนิทซึ่งถ้ามองไปนานๆ คล้ายจะรู้สึกถูกมอมเมา ซึ่งในตอนนี้ก็กำลังถือแก้วไวน์และเอนแก้วไปมาเล่นฆ่าเวลา 

ส่วนอีกคนนั้นเป็นปีศาจแวมไพร์ร่างไม่บางไม่หนานัก มีผมสีทองยาวในตอนนี้ถูกถักเป็นเปียเดียวผูกด้วยริบบิ้นสีแดงสดเพื่อแสดงถึงความสุภาพ เนื้อตัวซีดจัดเพราะเจ้าตัวไม่ยอมกินเลือดมนุษย์หรือปีศาจตนใดและใช้ชีวิตด้วยการกินอาหารทั่วไปแทน นัยน์ตาสีเลือดจดจ้องไปยังหน้างานอย่างเกียจคร้าน

"เฮ้ เฮ้ นั่นมันไอ้โง่คาร์บิลัส มันพาเมียมันมาด้วย ดูสิ วินตัส" ซัคคาร์ผลักไหล่เพื่อนตัวเองจนเซและชึ้ไปยังคาร์บิลัสด้วยความหมั่นไส้

วินตัสหรือปีศาจแวมไพร์หน้าแดงก่ำ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ชื่นชอบกันกินเลือดแต่ถ้ากับสุราน่ะเหรอ หนังคนละม้วนเลยทีเดียว ขอแค่มันสามารถทำให้มึนเมาหรือมีรสชาติจัดจ้านขมลิ้น วินตัสชอบทั้งนั้นน นัยน์ตาสีแดงติดจะหวานเชื่อมมองตามมือเพื่อนรักตัวเองแล้วพูดเสียงอ้อแอ้ ""จริงด้วย.. นั่นมันปีศาจอีกาที่มันชอบโม้ถึงบ่อยๆ นี่นา ไม่คิดว่าจะดูดีขนาดนี้"

"เนอะไอ้ค้างคาวคออ่อน หน้าตาธรรมดาๆ อย่างมันต้องเป็นคนสุดท้ายที่หาเมียได้สิ ไม่ใช่ข้ากับเจ้าต้องมาแย่งชิงตำแหน่งสุดท้ายกันเอง"

"ใครจะแย่งกับเจ้ากันซัคคาร์ อย่างน้อยข้าก็มีคนที่ชอบแล้วกัน" หัวเราะหึๆ ในลำคออย่างสะใจ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกมึนเมาไม่น้อยแต่วินตัสก็ยังพอโต้ตอบได้

"ถ้าเจ้านับไอ้งั่งที่ยอมให้เจ้ากินเลือดนั้น ข้าไม่นับนะ"

"นับสิต้องนับ เจ้าปัญญาอ่อนนั้นถึงกับยอมให้ข้ากินเลือด ทั้งๆ ที่ข้าอดเลือดได้ตั้งนานแล้ว!" วินตัสโวยวายเมื่อนึกถึงภาพมนุษย์หน้าโง่ตัวนึงที่ติดเขาแจจนยอมให้กินเลือดฟรีๆ 

ถ้าไม่เรียกว่ามนุษย์หน้าโง่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว
 
"มันก็แค่หลงหน้าเจ้าเท่านั้นแหละ ถ้ารู้ว่านิสัยเจ้าแย่แบบนี่้ เป็นข้าก็ไม่เอา" ซัคคาร์แกล้งส่งสีหน้าขยะแขยงใส่

"หุบปากเน่าๆ ของเจ้าไปซะ" วินตัสขู่แง่งๆ มองตาขวางแทบจะสร่างเมาและกระโดดกัดคอไอ้เพื่อนปากเสียนี่ให้รู้แล้วรู้รอด

"ข้าไม่หุบใครจะทำไม ใช่ไหม เพื่อนยาก คาร์บิลัส" ซัคคาร์พูดพร้อมโบกไม้โบกมือให้สองคู่บ่าวสาวที่เดินเข้ามาใกล้ นัยน์ตาสีดำเปล่งประกายวูบมองฟาร์คัสอย่างสำรวจ

"ข้าบอกแล้วว่าไว้ใจได้ ไม่ต้องมาแอบดูเรื่องในหัวว่าที่เมียข้า!" คาร์บิลัสดึงฟาร์คัสให้ไปหลบข้างหลัง จ้องซัคคาร์ด้วยสีหน้าถมึงทึง

"ดูเหมือนว่าวันนี้มีแต่คนหงุดหงิดข้าแฮะ" ซัคคาร์พูดด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนใดๆ และไหวไหล่ให้คาร์บิลัส "ข้าก็แค่เป็นห่วงเฉยๆ ว่าเมียเจ้าคิดจะฆ่าเจ้ารึเปล่าเพราะเจ้าทั้งโง่และปัญญาอ่อนขนาดนี้"

ฟาร์คัสหลุดหัวเราะออกมาซึ่งมันก็ทำให้คาร์บิลัสหันขวับมองตัดพ้อทันที

"ข้าไม่มีปัญญาเจ้าแพะโง่นี่หรอก" ฟาร์คัสพูดยิ้มๆ เลิกคิ้วให้คาร์บิลัส คาร์บิลัสจึงกลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม

"เฮ้ๆ เพื่อนก็อยู่ ถ้าเจ้าอยากจู๋จี๋กันรอตอนเข้าห้องหอ ขอเวลาและความสำคัญให้พวกข้าบ้าง รู้ไหมกว่าจะหาโอกาสรวมตัวกันแบบนี้ได้มันยากมากเลยนะ" วินตัสบ่นกระปอดกระแปดเรื่อยเปื่อย อารมณ์หงุดหงิดยังคงตกค้างจากการดูแซวเรื่องมนุษย์หน้าโง่

"เจ้าเหงานักรึไง วินตัส เมื่อคืนมนุษย์หน้าโง่ไม่กอดเจ้าเหรอถึงดูอยากให้พวกข้าสนใจนัก" ซัคคาร์แขวะอีกรอบแล้วจิบไวน์ที่
เหลือจนหมดเพราะคอแห้งจากการพูดมากเกินไป

"โอ๊ย ข้าบอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ เจ้าจะอะไรกันนักกันหนากับมันวะ รู้ไหมกว่าข้าจะโกหกหนีมันมางานแต่งคาร์บิลัสได้เนี่ย ข้าต้องเสียน้ำตาไปเท่าไหร่!" วินตัสโอดครวญในประโยคท้ายๆ

เพราะเจ้ามนุษย์หน้าโง่เอาแต่จะขอตามมาด้วย ซึ่งงานแต่งงานของเพื่อนแบบนี้ เขาไม่ต้องการส่วนเกินของงานอย่างมันแน่นอน

"พวกเจ้านี่นับวันยิ่งพูดมาก ข้าว่าตอนที่พวกเรายังเรียนด้วยกัน พวกเจ้ายังไม่พูดมากและขี้บ่นกันขนาดนี้นะ" คาร์บิลัสขมวดคิ้วมุ่นพูดเสียงจริงจัง

"เจ้าอย่ามาสร้างภาพต่อหน้าเมีย ขอร้อง แค่อ้าปากข้าก็รู้หมดแล้วว่าเจ้าคิดอะไรในหัว" ซัคคาร์พูดกลั้วหัวเราะกระชากร่างหนาๆ ของคาร์บิลัสให้ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้และยื่นแก้วไวน์ที่รินไวน์ไว้เต็มแก้วให้กับคาร์บิลัสเชิงบังคับ

"ดื่มซะ แก้วนี้สำหรับเจ้าที่กำลังจะได้แต่งงานเป็นคนแรก"

คาร์บิลัสยิ้มกว้างหัวเราะ รับมันมาดื่มรวดเดียว และหันไปสบมองฟาร์คัส

ฟาร์คัสพยักหน้านิ่งๆ ก่อนที่จะเดินจากไป ทิ้งให้เหลือเพียงสามสหายที่สนิทกันมากๆ

วินตัสโคลงหัวไปมาเมื่อได้ยินคำว่าแต่งงานคนแรกและขมวดคิ้วเมื่อตัวเองไม่ได้แสดงความยินดีเป็นคนแรก "ซัคคาร์ ข้าตกลงกับเจ้าแล้วนะ ว่าข้าจะเป็นคนพูดคำนี้และยื่นแก้วให้ นี่เจ้าแย่งข้าพูดเหรอ"

ซัคคาร์ยิ้ม "ช่วยไม่ได้เจ้ามัวแต่เมามองคนเดินผ่านไปผ่านมาตาเยิ้มเอง ช่วยไม่ได้"

วินตัสขยับปากด่าไร้เสียงก่อนจะหยิบกล่องของขวัญออกจากกระเป๋าเสื้อมายื่นให้กับคาร์บิลัส "ข้าเคยได้ยินว่าอีกาชอบอัญมณีสีสันสดใส หวังว่าเมียเจ้าจะชอบแล้วกัน"

"ขอบใจ วินตัส" คาร์บิลัสกล่าวยิ้มๆ "จะว่าไปข้าก็ชักอยากจะเห็นมนุษย์หน้าโง่ของเจ้าบ้างแล้ว ซัคคาร์เจ้าพอจะดึงภาพมันออกมาให้ข้าเห็นได้ไหม" 

"ถ้าข้าทำได้ ตระกูลข้าคงเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว คาร์บิลัส" ซัคคาร์ส่งสีหน้าเหม็นเบื่อ "น่าเสียดายที่เจ้าไม่เคยเจอมัน ไม่งั้นเวทของเจ้าก็พาเจ้านั่นมางานแต่งเจ้าได้แล้ว"

"อืม ข้าก็ว่าน่าเสียดาย แล้วเจ้าไปเจอเจ้ามนุษย์หน้าโง่นั่นตอนไหนเหรอ วินตัส" 

วินตัสหน้าแดงก่ำจนไม่แน่ใจว่ามาจากสุราที่ดื่มไปหรือเขินอายกันแน่ "หุบปากพวกเจ้าไปซะ นี่มันงานแต่งของคาร์บิลัส เจ้าก็คุยเรื่องคาร์บิลัสสิ จะมาคุยเรื่องของข้าทำไม!"

ซัคคาร์ชักสีหน้าใส่วินตัส

"แค่เจ้ายอมๆ ให้ข้าดูความทรงจำในหัวก็จบละ จะได้เล่าง่ายๆ ไม่ต้องถามเจ้าให้ยุ่งยาก"

"ซัคคาร์ หรือว่าเจ้าอยากเป็นเหยื่อรายแรกในรอบห้าปีของข้า!" วินตัสแยกเขี้ยวโชว์เขี้ยวแหลมของแวมไพร์ที่งอกออกมาพร้อมจะกัดคอเหยื่อ

"โอัะๆ ข้ากลัวจังเลย" ซัคคาร์แสร้งทำท่าตกใจ "คาร์บิลัส ข้าก็เตรียมของมาให้เจ้าเหมือนกัน เจ้าไม่ต้องน้อยใจไป ถึงของที่ข้าให้มันจะมีมูลค่าไม่มากแต่มันมีมูลค่าต่อจิตใจมากในขนาดที่ว่าแค่เจ้าก็เห็นก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของข้าที่พยายามสรรหามาให้เจ้า"

ถ้อยคำที่ถูกพ่นออกมายาวเหยียวถูกใช้ในการแนะนำของขวัญของซัคคาร์ที่ถูกบรรจะอยู่ในถุงลายดอกไม้สีดำ

"ขอบใจเจ้ามาก" คาร์บิลัสพูดด้วยความดีใจและแกะเปิดของซัคคาร์ทันทีด้วยความสงสัย เพราะดูจะมีการบรรยายสรรพคุณของชิ้นนี้ซะมากมาย

คาร์บิลัสหยิบมันออกมาด้วยความกระตือรือร้นและชะงักค้างไป

สีหน้าที่จากรอยยิ้มค่อยๆ กลายเป็นนิ่งสนิท

"นี่เจ้าให้ผ้าเช็ดตัวเป็นของขวัญงานแต่งงานข้า?"

--------------

ตอนนี้ดูๆ แล้วน่าจะยาวมากเลยหั่นเป็นสองตอนค่ะ ตอนนี้ตอนหนึ่งส่วนตอนสองก็  :z10:

ชุดแต่งงานเอาจริงๆ อยากได้สูทเพราะชอบชุดสูท  :o8:

แต่มันจะดูไม่ค่อยแฟนตาซีก็เลยออกแนวๆ โกธิคอย่างที่คุณ Bluecherries ว่าค่ะ 5555




 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด