อะไรของมัน.....เบสกับต่าย*
“กูไม่ไป”ฟังแค่น้ำเสียงก็รู้แล้วละครับ ว่ามันไม่พอใจ
“........................”
“เมิงคิดอะไรไรอยู่”
“........................”
“ไม่รักกูแล้วใช่มั้ย”
“ไม่ใช่น่ะ........ เรารักนาย รักมากด้วย” ผมตอบกลับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมองหน้าไอ้เบสที่นิ่งสนิท ไม่มีแววล้อเล่น
สายตาผมจับอยู่ที่สายคนตรงหน้าไม่ละไปไหน เหมือนต้องการหาคำตอบ เหมือนต้องการความแน่ใจ ผมไม่คิดว่าคำพูดของผมมันจะมีผลทำให้ตัวเองและคนที่ผมรักต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้
“แล้วทำไมเมิงถึงต้องผลักกูให้คนอื่นด้วย”
“ระ....เรา เราไม่ได้ผลักนะ ก็ตอนที่นายคุยกับใหม่ ดูนายมีความสุขมาก จนเรากลัว.... ”
“เมิงกลัว เมิงกลัวแล้วทำไมต้องคิดไปเอง ทำไมไม่ถามกูตรงๆ เมิงรู้เปล่าว่าตอนนี้กูรู้สึกยังไง.......”
ไอ้เบสหยุดคำพูดลง สายตาไอ้เบสไม่ได้เกรียวกราว แต่เหมือนคนกำลัง.....หมดหวัง
“ตลอดเวลาเมิงไม่เคยไว้ใจกูเลย”ไอ้พูดต่อ
ผมยืนนิ่งหลบสายตาของมัน น้ำตาที่พยายามอดกลั้นตกลงบนพื้น พร้อมกับความไม่แน่ใจในสิ่งที่ไอ้เบสพูดออกมา
วันแรกจนถึงวันนี้ ที่ผมกับมันตกลงเป็นแฟนกัน ผมรู้ว่าไอ้เบสยอมเปลี่ยนหลายๆอย่างเพื่อผม ไม่ว่าเวลาว่างตอนค่ำ ซึ่งปกติไอ้เบสจะต้องออกไปกินเหล้ากับเพื่อน หรือไม่ก็ออกไปเที่ยวกลางคืน แต่มันก็ยอมปฏิเสธเพื่อน แล้วมานั่งกินข้าวดูทีวีกับผมสอง หรือเรื่องผู้หญิงที่มันนอนด้วย ไม่ว่า คนที่มันเคยคบมา ชายหรือหญิง มันโทรไปบอกเลิกหมด และยอมเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์
เพื่อใครละ....ก็เพื่อผม.....ทำไมผมถึงไม่คิดนะที่ไอ้เบสทำมาทั้งหมดนั้นก็เพื่อผม
แล้วกับเรื่องแค่นี้ กับเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อใหม่ แค่นี้ทำไมผมถึงไม่เชื่อใจมันนะ ทำไมนะ
น้ำตาผมไหลมากขึ้น พร้อมความเสียใจที่ประดั่งเข้ามาเหมือนฝน ผมยืนก้มหน้าร้องไห้ ไม่กล้าที่จะมองหน้าไอ้เบสเลย ผมคือคนที่งีเง่า ผมคือคนที่ผิด แล้วผมจะบอกไล่ให้ไอ้เบสไปหาคนอื่นอีก ทำไมผมถึงเลวแบบนี้นะครับ ผมทำกับคนที่ผมรักแบบนี้ได้ไง
“บ.....เบส”
อึก.........................
ฮือ............................
เสียงที่ผมเรียกชื่อไอ้เบสดังอยู่ในคำคอ เพราะไม่ทันที่ผมจะบอกขอโทษ หรือพูดอะไร ที่เป็นการสำนึกว่าตัวเองผิด ไอ้เบสก็ดึงผมเขากอดแน่น ความอบอุ่นกับความอึกอัดมันผสมกันอยู่ในอ้อมกอดนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือ เสียงหัวใจไอ้เบสที่เต้นแรง มันเหมือนกำลังบอกผมว่าไม่เป็นไร และมันก็ยังรักผมเหมือนเดิม ผมร้องไห้นักขึ้นกับตัวที่เริ่มสั่น ไอ้เบสกระซิบข้างหูผมเบาๆ
“ไม่ว่าเมิงจะทำให้กูเจ็บมากแค่ไหน แต่ขอแค่ให้เมิงรู้ไว้ ว่ากูจะไม่มีวันไปจากเมิงเด็ดขาด”
ฮื่อ........................
ไอ้เบสพูดจบ ผมทรุดลงกับพื้น จนไอ้เบสต้องลงมานั่งกอดปลอบไม่ให้ผมร้องไห้นักไปกว่าเดิม ผมซบหน้าลงที่แผ่นอกอุ่นๆของมัน และไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน แต่ตอนนี้ผมไม่มีน้ำตาอีกแล้ว
ลมหายใจ เริ่มเข้าสู่ปกติ และไอ้เบสพยายามจับหน้าผมให้มองหน้ามันตรงๆ แต่ผมได้ไม่ยอม ได้แต่หลบ ก้มหมุดอยู่ที่อกของมันไม่ยอมไปไหน จนเมื่อไปเบสดึงมือให้ผมยืนขึ้นแล้วเดินไปที่เตียง ผมก็ยอมลุกขึ้น แล้วเดินไปอย่างเงียบๆ
ไอ้เบสให้ผมนอนลงบนเตียง พร้อมกับมันที่นอนลงข้างๆ มันกอดผมหลวมๆแต่รู้สึกอบอุ่น
“กูจะไปอาบน้ำ เมิงก็ไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่า”เมื่อผ่านไปสักพักไอ้เบสถึงได้พูดขึ้น
“อือ.........”
ผมเดินตามมันไปอย่างว่างาย ซึ่งเนื้อตัวตอนนี้ก็ไม่มีอะไรปกปิดอยู่เลย ผมเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาอีกครั้ง แต่พอตอนที่กำลังจะออก ไอ้เบสที่ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่ตัวเปล่า ก็จับผมไว้อีกครั้ง
“อาบน้ำกับกูก่อนน่ะ”
“อือ.........”ผมตกลงเสียงเบา แต่เอ๊ะ แล้วทำไมผมต้องอาบกับมันอีกเนี่ย ในเมื่อผมก็พึ่งอาบไป แต่ก็ช่างเหอะ เพราะไม่กล้าขัดใจมัน เมื่อตัวเองก็เป็นฝ่ายผิดอยู่
เมื่อผมเปิดน้ำก็สะดุ้งนิดหน่อย ที่ไอ้เบสเข้ามากอดผมจากด้านหลัง แล้วจูบผมเบาๆที่ต้นคอ
“เมิงยังอยากให้กูไปหาคนอื่นอีกไหม”
“ไม่.....”ก็ลองมันไปดิ ผมคงได้ตายแน่ๆ
“แล้วเมิงรักกูเปล่า”ผมพยักหน้า
ไอ้เบสจับหน้าให้ผมมองมันตรง แล้วเข้าประกบปากเบาๆ ลิ้นที่อุ่นร้อนของมันเข้าในโพรงปากของผมที่ปล่อยเป็นอิสระ เนินนานที่เราสองคนต่างมองความอบอุ่นนี้ให้กัน โดยไม่มีใครที่อยากจะแยกจาก
สายน้ำที่ไหลผ่าน ผมอยากให้มันไปพร้อมกับความคิด ความหวั่นไหว และความไม่เชื่อใจในตัวไอ้เบส
ตอนนี้ผมมีความสุขมาก ผมรู้สึกอบอุ่นที่มีไอ้เบสอยู่ตรงนี้ กอดของมันที่ผมคงคิดถึงมาก หากต้องจากกับมันไปจริงๆ วันนี้ผมจะจำเอาไว้ ว่าคือวันที่ผมเกือบเสียคนที่ผมรัก เพราะแค่คำว่าไม่เชื่อใจ ความรักมันเป็นสิ่งที่เราสองคนต้องต่างปรึกษากัน และต้องทำความเข้าใจกัน ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต่างเงียบ แล้วเก็บเอาไปคิดอย่างที่ผมทำ
ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าหากมันเกิดขึ้น ต่อให้สักอีกสิบครั้ง ร้อยครั้ง หรือมากแค่ไหน แต่ตอนนั้นผมคงจะมั่นใจ และเชื่อใจในตัวไอ้เบส จนยากที่จะจากกัน และความรักที่ผมกับไอ้เบสต่างเติมให้กัน มันคงมากจนเกินกว่าที่เราสองคน จะจากกันได้....
.
.
.
“โอ้ทะเลแสนงามมมมมมม......
ฟ้าสีครามสดใสสสสสสส.......
มองเห็นเรือใบบบบบบบ.........
แล่นอยู่ในทะเลลลลลลล...........”บทเพลงอันแสนจะแสบหูก็จบลงพร้อมกับที่พวกผม 7 ชีวิตมาอยู่กันที่ขอบนถนนในตอนเที่ยงๆของวันที่ 18 กันยายน ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นวันสำคัญอะไรหรอกครับ แค่ชวนกันมาเที่ยวแก้เบื่อ อยู่บ้านกับไอ้เบสนอนกิน จนชักจะเบื่อๆ เลยลองไปช่วยพวกมันดู ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีใครว่าง แต่ทำไมมันถึงชั่งว่างได้ตรงกันอย่างนี้ว่ะ เหะๆ
ทะเลสงขลาช่างสวยงามไม่มีที่ติ เอ๊ะ หรือว่าผมมาเที่ยวแค่ที่นี้ที่เดียวก็ไม่รู้ เพราะทะเลอื่นไม่ค่อยได้ไป เวลาไปไหน ก็มาแต่ทะเลสาบสงขลา หึหึ
“ยืนทำอะไรค่ะคุณต่ายยยยยย......ช่วยกันขนของลงสิค่ะ ถึงเมิงมีผัวเเป็นเจ้าของรถ ก็เหอะ”
นั้นไงโดนอีโมกันจนได้ แถมยังโดนไอ้พวกที่มาด้วยหัวเราะซะกูไม่รู้จะเอาหน้าไปไหวไหนเลย อีสัดโม.....
“ชอบกัดกูจริงๆน่ะเมิง”
“ไม่กัดเมิงแล้วจะให้กัดไอ้เบสเหรอ แต่กูว่าหากเป็นเบสกูขอดูดนะ ไม่ขอกัด อิอิ” อีโมทำสายตากรุมกริมไปทางไอ้เบส จนมันหลุดหัวเราะใหญ่
ผมไม่ขอยุ่งกับอีโมดีกว่าครับ อีนี่มันกัดแต่ละที อายคนกันทั้งบาง
ผมหันมาช่วยไอ้คมขนของที่อยู่ท้ายรถเก๋งสีดำขันงามของไอ้เบสเสร็จ เราก็ช่วยกันถือของที่ขนออกมาไปโยนไว้บนเสื่อที่ไอ้ต้ากับบูมปูรอไว้แล้วเรียบร้อย ต้นสนที่นี่ปลูกเป็นแนวยืนต้นสูง จนไม่เห็นแดดเลยครับ แถมลมก็สบายได้บรรยากาศมากๆ ผมลุกขึ้นถอดรองเท้าเดินเล่นแถวๆนั้นหลังจากช่วยพวกมันจัดของเสร็จ
เด็กผู้ชายสองสามคนเล่นน้ำอยู่ที่ทะเลจนผมชักอยากเล่นขึ้นมา แต่ขณะกำลังคิดอยู่นั้น ไอ้เบสก็เอามือมาโอบไหลผมไว้หลวมๆ ดูๆไปเหมือนเพื่อนกันมากกว่าแฟน(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)
“เมิงจะเล่นน้ำหรือจะกินก่อน”ไอ้เบสพูดขึ้น
“อยากเล่นน้ำอ่ะ แต่ก็หิวเหมือนกัน”ผมเลือกไม่ถูก
“งั้นก็เอาลงไปกินในน้ำ หึหึ”ดูมันกวนครับ
“พอเลย....เดี๋ยวเราว่าไปเล่นน้ำก่อนดีกว่า แล้วค่อยขึ้นมากิน”
“ตามนั้น”
ผมเดินกลับไปที่กลุ่ม เห็นพวกมันนั่งเล่นกันอยู่ เลยลองชวนไปเล่นน้ำทะเล พวกมันพยักหน้าเหมือนนัดหมาย (ใจง่ายจริงๆ) ผมจัดการถอดเสื้อจนเหลือแต่กางเกงขาสั้นที่ใส่มา เมื่อเสร็จเรียบร้อยกันทุกคน ผมก็เดินเตรียมทะเลแต่ไอ้เบสไม่รู้มากจากไหน เข้ามาช้อนตัวผม แล้ววิ่งพาลงทะเลไปพร้อมกับมัน
พวกผมดำพุดดำวายโดยมีอีโมกรี๊ดกราดเพราะเห็นกล้ามหน้าท้องผู้ชาย ขำมันจริงๆ มันเข้าไปเล่นกันคนโน้นทีคนนี้ที จนผมกับไอ้ต้าหลุดหัวเราะเพราะกลั้นไว้ไม่อยู่ ผ่านไปเกือบชั่วโมง พวกผมก็พากันกลับขึ้นไปที่นั่ง กลับมาเห็นอาหารทุกอย่างอยู่ครบ ตอนแรกลืมไปว่าไม่มีใครเฝ้า กลัวของ(กิน)หาย แต่โชคดี มั้ยอย่างนั้นอีโมคงไอ้ร้องแน่ๆ เพราะอีนี่มันห่วงของกิน ขนาดตอนไปซื้อ ยังไปเลือก ด้วยตัวเองเลยครับ หึหึ
พวกผมแยกย้ายกันนั่งตามเก้าอี้แถวนั้น เพราะแต่ละคนเปียกจนนั่งบนเสื่อไม่ได้ ไอ้เบสไปยิบกล่องของกินมาสองสามกล่อง แล้วมานั่งใต้ต้นไม้ ที่มีผมนั่งอยู่ก่อนแล้ว ผมมองไอ้เบสตอนที่กำลังเดินมา ดูเซ็กซี่เป็นบ้าเลยครับ หุ่นมันดีมากๆ จนคิดแล้วอารมณ์ขึ้น เหะๆ
“กูหล่ออ่ะดิ”มันรู้ทัน
“แหวะ หลงตัวเอง”
“เมิงมากว่ามั้งที่หลง เพราะไม่งั้นคงไม่ยอมกูทั้งคืนหรอก”
“..........................”ผมหน้าแดงเลยครับ ไอ้เบสมันชอบเอาเรื่องอย่างว่ามาพูด ซึ่งไอ้ผมก็ไม่ชินสักที พยายามจะให้ชิน แต่ไม่รู้ทำไมถึงทำไม่ได้
ผมเลิกคุยกับมัน แล้วหันมากินแทน เพราะหิว แถมพูดไปก็เข้าตัว ไอ้เบสที่นั่งกินอยู่ข้างๆ พูดเรื่องโน้นเรื่องนี่ จับใคความสำคัญอะไรไม่ได้ เหะๆ
หลังจากกินเสร็จผมก็ลงไปเดินเล่นกับไอ้เบสที่ทะเล ตอนนี้แดดอ่อนลงมากแล้ว ส่วนกางเกงที่ปียกก็ยังใส่อยู่ จนชักจะเริ่มแห้ง ฮ่าๆ ทะเลที่มีเกาะอยู่สองสามเกาะ แต่ที่เด่นๆก็เกาะหนูกับเกาะแมว (มองไงว่ะเหมือนแมว) ผมเดินไปสักพักก็แหงนขึ้นมองท้องฟ้า ที่ดูฟ้าใสสวย จนผมต้องเรียกให้ไอ้เบสดู แต่มันกลับว่าเฉยๆ อ่าวไอ้นี่ ชมสักคำก็ไม่มี
“เมิงว่ากูเป็นเกย์เปล่า”จู่ๆไอ้เบสก็ถามขึ้นมา จนผมต้องหันไปมองมันเพราะความไม่เข้าใจ
“แล้วนายว่านายเป็นหรือเปล่า”
“กูรู้แล้วจะถามเมิงมั้ย”เอ่อ....กูโง่เอง
“คนเป็นเกย์คือคนผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน”ผมไม่ตอบแต่ให้มันคิดเอง
“งั้นกูก็เป็นดิว่ะ”อ่าว....อย่างมาทำเป็นฉลาดน้อย
“ก็คงงั้น แล้วทำไมถึงถาม”ผมตอบไปอย่างไร้อารมณ์
“ก็กูมาคบกับเมิง กูเลยไม่แน่ใจ”
“อ่าว แล้วนายไม่เคยชอบผู้ชายเหรอ”ผมหยุดเดิน แล้วหันมองหน้ามันอย่างแปลกใจ
“ไม่”ไอ้เบสมองหน้าผมงงๆ เหมือนจะบอกผมว่า เมิงจะถามทำไม
“อ่าว แล้วผู้ชายที่นายคบคนอื่นๆอ่ะ”
“กูไม่เคยคบผู้ชาย กูแค่เอาเฉยๆ”ผมตกใจ แปลกใจ มันผสมป่นกันไปหมด
“ยะ...อย่าบอกน่ะ ว่าเราคือแฟนผู้ชายคนแรกของนาย”
“เออ”ไอ้เบสตอบปัดๆ แต่แอบเห็นหน้ามันแดงๆ
ผมช็อค เพราะ คนอย่างไอ้เบสที่เคยมีอะไรกับเกย์มาหลายคน แต่ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย ใจหนึ่งก็แอบดีใจน่ะครับที่ผมเป็นผู้ชายคนแรกที่มันรัก
“ละ...แล้ว.....มันต่างจากมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือเปล่า”ผมถามเพราะอยากรู้ เหะๆ
“ไม่ต่าง”
“แล้วทำไมนายถึงไม่คบกับผู้ชายด้วยกันอ่ะ”
“ไม่รู้”
“อ่าว.....แล้วทำไมนายถึงมาคบกัยเรา”ผมถามพร้อมกับทำหน้ายุ่ง (สงสัยครับสงสัย)
“ก็เพราะ...............”ไอ้เบสหยุดคำพูดไว้เท่านั้น แล้วเดินต่อ โดยทิ้งให้ผมยืนงงกับคำตอบที่เหลือ
“เห้ย....บอกมาว่าทำไม บอกมาก่อน”ผมวิ่งตาม แต่ไอ้เบสเดินเร็วขึ้น จนผมชักจะตามไม่ทัน
“ก็อย่างนั้นแหละ”ไอ้เบสไม่ยอมบอกง่ายๆ จนผมต้องออกแรงเดินมาตามมันให้เร็วขึ้น
“อย่างนั้นอ่ะอย่างไหน”
“ไม่รู้โว้ย”
“เห้ย....หยุดก่อนดิ บอกมาก่อน”
“ไม่เอา บอกแล้วกูจะได้อะไร”
“อยากได้อะไรได้หมด แต่บอกมาก่อน”
อั๊ก...............................................
ไอ้บ้าหยุดก็ไม่บอก ผมชนเข้ากับหลังมันเต็ม ปวดหัวชิบหาย....
“ทุกอย่างแน่น่ะ”ไอ้นี่ก็ยังย่ำ
“อืม.....บอกมา”
“มาใกล้ๆดิ”
ผมเข้าไปยืนใกล้ๆมัน แต่พอผมเดินไปหยุดตรงหน้ามัน มือมันทั้งสองข้างก็จับหน้าผม นิ่ง แล้วก็จูบอย่างรวดเร็วที่ริมฝีปาก ผมตัวแข็งนิ่ง แต่ไอ้เบสกลับยิ้มดีใจ ไหนว่ามันจะบอก แล้วนี่มันกลับมาแกล้งผม ไอ้เบส เลวจริงๆเมิง ผมหันมองซ้ายมองขวาปรากฏว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น เหอ....โล่งอก
“บอกมาเร็วๆ...ไม่เล่นแล้ว”ผมเร่งมัน
“มาใกล้ๆดิ”เอาอีกแหละเมิง แกล้งกูอีกอ่ะดิ
“ไม่เอาแล้ว บอกมาเลย”
“เมิงเข้ามาใกล้ๆดิ”
“ไม่เอา เดี๋ยวนายแกล้งอีก”
“ไม่แกล้งแล้ว”ผมมองหน้ามันอย่างไม่มั่นใจ แต่ก็ยอมเดินไปอยู่ใกล้มันเหมือนเดิม
“เมิงจำไว้น่ะ เมิงจะเป็นผู้ชายคนแรกและะเป็นคนสุดท้ายที่กูจะพูดอย่างนี้…..”.
.
.
.
“......เบสรักต่ายครับ......”