ต่อจากด้านบนค่ะ....
ผมสั่งงานไอ้ต้นเสร็จก็ขับรถกลับไปที่บ้านแล้วค่อยเข้าร้านอีกทีค่ำๆ พอรถผมจอบเทียบหน้าบ้านเท่านั้นแหล่ะ เด็กแสบสองคนแย่งกันวิ่งเข้ามาหา ผมอุ้มหลานรักทั้งสองคนแล้วจับฟัดจนหนำใจแต่เจ็บปวดตรงที่บอกว่าคิดถึงโจมากกว่าอาแท้ๆ อย่างผมนี่ซิ หึหึ มันน่าจับตีก้นจริงๆ ไอ้เด็กสองคนนี้ ผมเล่นเป็นเพื่อนหลานจนเหนื่อย งอแงกันใหญ่ใครห้ามก็ไม่ฟัง บอกอยากให้อาโจมาหาบ้าง อยากไปหาอาโจบ้างเล่นเอาผมเหนื่อยเลย พอหลานหมดฤทธิ์สลบคู่ผมถึงได้พัก ระหว่างรอไอ้ป่านกลับมาผมก็โทรหาที่รักของผมดิครับรออะไร คิดถึงมันจะแย่ล่ะ ว่าแต่ทำไมมันเงียบขนาดนี้วะไม่คิดจะโทรหากันเลย!! โทรเช็คสักหน่อยล่ะกัน
…
"โทรเบอร์โต๊ะแล้วกัน หึหึ"
Tru Tru~~~
"ทำไมไม่มีคนรับวะ!!"
Tru Tru~~~
ผมลองกดโทรอีกครั้ง ไม่มีคนรับอีกล่ะ
"ไปไหนของมันวะ!! ถ้ากูโทรอีกรอบไม่มีคนรับกูจะของขึ้นล่ะนะ"
Tru...
"บริษัท... สวัสดีค่ะ"
"อ้าว.. โจไปไหนทำไมคุณจูนมารับแทนล่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณปู บอสออกไปข้างนอกค่ะ"
"ไปไหนทำไมผมไม่รู้!!" "บอสบอกจูนว่ามีธุระด่วนค่ะคุณปู จูนไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าบอสไปไหน"
"เฮ้อ!! โทรมาบอกกันก่อนไม่เป็นรึไง"
"คุณปูโทรเข้ามือถือบอสนะคะ บอสน่าจะมีเรื่องสำคัญจริงๆ เลยรีบออกไปแบบนั้นค่ะ"
"อืม... ขอบคุณมาก เดี๋ยวผมโทรหาโจเอง"
"ค่ะคุณปู"
ผมวางสายจากจูนก็รีบโทรหาโจทันที มันน่าจริงๆ ไปไหนน่าจะบอกกันสักคำดิวะ!!
ผมโทรหาโจแอบหงุดหงิดที่มันไม่โทรบอกผมก่อนว่าจะออกไปไหน แถมไม่บอกใครไว้อีกว่าออกไปทำอะไรแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงมันได้ไงล่ะ แต่พอมันรับสายพอได้ยินเสียงมันผมก็ดีขึ้นมานิดนึง โจบอกว่าพ่อมันไม่สบายมันเลยรีบกลับไปที่บ้าน โจเล่ารายละเอียดให้ผมฟัง ผมแกล้งโมโหมันไปนิดหน่อยมันจะได้รู้ว่าครั้งหน้าต้องบอกผมให้รู้ก่อนจะทำอะไร ไปไหนมาไหนต้องบอกกันดิวะเผื่อเกิดอะไรขึ้นกับมันแล้วผมไม่รู้ล่ะจะทำยังไง พอคุยกันรู้เรื่องผมก็ปล่อยให้โจอยู่ดูแลพ่อมัน สองพ่อลูกนี้เพิ่งจะได้ดูแลกันจริงๆ ก็หลังจากเกิดเรื่องขึ้นครั้งนั้น ช่วงนี้โจงานเยอะเลยไม่ค่อยได้กลับบ้านไปหาพ่อสักเท่าไหร่ ปล่อยให้พ่อลูกได้อยู่ด้วยกันบ้างก็ดีเหมือนกัน
ไอ้ป่านกลับมาถึงบ้านมันก็ตรงดิ่งไปหาลูกมันก่อน พอเสร็จจากภาระกิจพ่อสุดที่รักของลูกๆ มันก็เข้ามาตามผมเพราะถึงเวลาต้องออกไปร้านอีกรอบ คืนนี้ผมว่าจะไม่ทำอะไรหนักมากเพราะโจมันขอร้องไว้หรอกนะ กูจะพยายามระงับอารมณ์ตัวเองเพื่อมึงแล้วกัน
ผมกับไอ้ป่านขับรถกลับเข้าไปที่ร้าน ระหว่างรอให้ถึงเวลาผมก็นั่งดื่มนั่งคุยกับไอ้ป่านไปพลางๆ เล่าเรื่องคืนนี้ให้มันฟังคร่าวๆ ไอ้ต้นเข้าบอกผมว่าเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ผมแค่รอเวลา
"มึงจะทำอย่างนั้นจริงดิ"
"อืม.. มึงคิดว่าไง?" ผมถามไอ้ป่าน
"ก็ดี" ไอ้ป่านตอบ
"งั้นมึงรอดูคืนนี้ กูว่าจะไม่ออกแรงอะไรมากถ้าไม่จำเป็น"
"คนอย่างมึงเนี่ยนะจะไม่ใช้ความรุนแรง ถุยยย!"
"เออดิ!! กูคนดีนะเว้ย"
"ฮ่าๆ กูเกิดมาสามสิบกว่าปีเพิ่งรู้ว่ามึงเป็นคนดีก็วันนี้แหล่ะว่ะ" ไอ้ป่านหัวเราะเยาะในความดีของผม ไอ้พี่เลว!!
"กวนตีนไอ้สัส!"
"เอ้าดื่มๆ ฉลองน้องกูเป็นคนดีซะทีว่ะ ชนแก้ว!!"
…
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
ผมกับไอ้ป่านมองไปที่ประตูพร้อมกัน
"นายครับ ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ"
"อืม... เดี๋ยวกูตามไป อย่าเพิ่งทำอะไรนอกเหนือคำสั่งกู"
"ครับนาย"
"ไอ้ป่านมึงรอกูอยู่นี่แหละไม่ต้องไป" ผมหันไปพูดบอกไอ้ป่าน
"ได้ไงๆ กูต้องไปอยู่แล้วอย่าพูดมาก"
"เออๆ เรื่องของมึงเหอะ พูดเหี้ยอะไรไม่เคยฟัง"
"หึหึ กูรู้ตัว"
ผมอยากถีบมันสักทีสองทีจริงๆ กวนตีนตลอด ที่ไม่อยากให้มันไปเพราะมันอยู่ที่นี่ผมไม่อยากให้มันมีปัญหาภายหลัง ไหนจะหลานผมอีก แต่คนอย่างไอ้ป่านมันเคยยอมใครซะที่ไหน น้องเป็นยังไงพี่ก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ โตมาด้วยกันขนาดนี้จะหลุดสันดานเดียวกันได้ยังไง
ผมเดินนำไอ้ป่านไปที่โกดังเก็บของด้านหลังร้าน มีลูกน้องผมสามสี่คนยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า พอมันเห็นผมก็รีบเปิดประตูทันที ภาพที่ผมเห็นคือไอ้ชลยืนก้มหน้ามองพื้นไม่สนใจใคร ส่วนอีกสองคนที่ผมเพิ่งเห็นหน้าวันนี้ครั้งแรกกำลังแหกปากด่าทอไอ้ชลไม่หยุดปาก พอผมเดินเข้าไปเสียงโว๊ยวายก็เงียบลงเพราะไอ้ต้นถีบเข้าที่หลังสามพ่อลูกอย่างเต็มตี
"เฮ้ยๆ กูบอกว่าไง" ผมพูดปรามไอ้ต้น
"นิดหน่อยเองนาย ผมปล่อยให้แหกปากมานานแล้วโคตรหนวกหูเลย"
"หึหึ... มึงนี่สอนไม่จำ เดี๋ยวไก่ตื่นกันพอดี" ผมพูดแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ที่เด็กในร้านเตรียมไว้ให้
"เอาไงต่อดีครับนาย" ไอ้ต้นถาม
"มึง.. มึงเป็นใครวะ?" ผมมองไปที่ไอ้คนที่ถาม สภาพแม่งดูไม่ได้เลยว่ะ
"กูควรเป็นคนถามว่ามึงเป็นใครมากกว่าไหม กล้าดียังไงสั่งเด็กในร้านกูให้มาขโมยของร้านกูวะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"กูกับพ่อเปล่าขโมย ไอ้ชล! ไอ้ชลมันเป็นคนทำเองทุกอย่าง"
"เฮ้ย! นายผมเปล่านะครับ ผมโดยบังคับครับนาย"
ตุบ!!
ผมขยับตีนเบาๆ ไอ้เด็กปากดีคนนั้นก็ลงไปนอนกองที่พื้นโดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก
"พ่อช่วยด้วยดิ" มันยังมีหน้าไปว๊ากพ่อมันอีก
"กูจะช่วยมึงยังไงล่ะ ตัวกูเองยังเอาไม่รอดเลย ห่านิ!!"
"พวกมึงสองคนนี่พอกันทั้งพ่อทั้งลูกเลยว่ะ หึหึ"
"ไอ้ชล!! มึงยังไม่มาช่วยกูอีก!!"
"เฮ้ย!!" พ่อเลี้ยงไอ้ชลร้องเสียงหลง
"กูแค่ง้างตีนเอง ยังไม่ทันได้ถีบเลยจะแหกปากทำไมวะ"
"มึง.. มึงจับกูกับลูกกูมาทำไม พวกกูทำอะไรผิด"
"ยัง.. ยังจะหน้าด้านอีก พวกมึงขโมยของจากร้านนายกูยังจะมาหน้าด้านอีก นายครับให้พวกผมสั่งสอนมันเลยไหมครับ" ไอ้ต้นพูด
"ชู่ว์... อย่าเสียงดังซิวะ" ผมปรามไอ้ต้น
"กูกับพ่อเปล่าขโมย ไอ้ชลมันทำของมันคนเดียวเลย มันหลอกให้กูกับพ่อมากูไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย" ไอ้คนลูกยังหน้าด้านแถต่อ
"เงยหน้าแล้วมองกู" ผมสั่งเสียงเรียบนิ่ง ไอ้สองพ่อลูกค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาผมสั่ง
"กูจะให้โอกาสพวกมึงได้ใช้ชีวิตต่อหลังจากออกไปจากร้านกู..."
"ทำไมกูกับพ่อต้องทำตามด้วยวะ กูทำ..."
พลั่ก!!
"โอ๊ยยย!!" ผมถีบเข้าที่ไหลของมันเต็มๆ
"เฮ้ย!! มึงทำลูกกูทำไมวะ!!"
"ก็ลูกมึงเสือกพูดสวนกู" ผมหยิบบุหรี่ขึ้นมา ลูกน้องผมรีบวิ่งเข้ามาจุดไฟให้ ขอสูบบุหรี่ดับอารมณ์หน่อยแล้วกันกลัวเผลอทำอะไรรุนแรงลงไป วันนี้เมียขอมาว่าห้ามมีเรื่องซะด้วย
"วันนี้กูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะพวกมึงทำให้กูเสียเวลาไม่ได้เห็นหน้าเมียกูหนึ่งวันเต็มๆ กูจะพูดให้พวกมึงสองพ่อลูกเข้าใจง่ายๆ แล้วกัน เรื่องที่พวกมึงสองคนสั่งให้ไอ้ชลมาขโมยของที่ร้านกู กูจะไม่เอาเรื่องกูจะถือซะว่าทำบุญ แต่พวกมึงต้องไสหัวออกจากบ้านไอ้ชลภายในคืนนี้โอเคไหม?"
"ทำไมกูต้องทำตามที่มึงพูดด้วย ไอ้ชลมันลูกกูหึ!! มึงเข้าใจอะไรผิดรึป่าว"
ไอ้ต้นมองมาที่ผม มันรู้งานดีจริงๆ ผมขยับมุมปากเพียงนิดเดียวไอ้พ่อเลี้ยงปากมาก็ถูกนวดสปาตีนจากไอ้ต้นพอหอมปากหอมคอ
"รู้รึยังว่าทำไมต้องทำตามที่กูบอก" ผมถามมัน
"มึงกล้าทำพ่อกู มึง!!"
ตุบ ตุบ!!
"กูว่าพอแล้วมั้งเดี๋ยวก็ตายคาตีนกันพอดี" ไอ้ป่านพูดจบก็มาแย่งบุหรี่ผมไปสูบซะงั้น ผมส่งสัญญาณให้ไอ้ต้นกับลูกน้องผมหยุด
"กูจะไม่แจ้งตำรวจให้จับพวกมึงข้อหาขโมยของร้านกู คืนนี้กลับไปเก็บของแล้วออกจากบ้านไอ้ชลไปซะ อ่อ... แล้วถ้าพวกมึงสองพ่อลูกยังไม่เลิกรังควานไอ้ชลกับแม่มันอีกกูจะให้พวกมึงเข้าไปนอนในตารางแล้วปล่อยให้แก่ตายอยู่ในนั้นกันทั้งพ่อทั้งลูก กูพูดแค่นี้หวังว่าพวกมึงคงเข้าใจแล้วนะ"
"ไอ้ชลมึง!!" ไอ้คนพ่อหันไปมองไอ้ชลด้วยความโกรธ
ตุบ!!
"กูจะไม่เตือนมึงเป็นครั้งที่สอง เพราะกูทำจริง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"แค่นี้เองเหรอนาย พวกผมยังไม่หายคันมือเลย"
"ไอ้ชลมานี่ดิ" ผมเรียก
"ครับนาย" มันตอบรับเสียงสั่น
"ต่อไปนี้ถ้าสองคนนี้มันยังมายุ่งกับมึงอีกให้ไปบอกไอ้ต้น"
"ครับนาย"
"หลังจากนี้ไอ้ต้นจะบอกมึงเองว่าต้องทำอะไรบ้าง"
"ครับนาย" ไอ้ชลตอบทั้งน้ำตา
"ไอ้ห่า เสือกร้องไห้อีก"
"ขอบคุณมากครับนาย ฮื้ออ.."
"ไอ้ต้นเดี๋ยวมึงจัดการตรงนี้ให้เรียบร้อย"
"ได้ครับนาย"
ผมลุกขึ้นแล้วเดินออกไปโดยมีไอ้ป่านเดินตามมาติดๆ ส่วนที่เหลือให้ไอ้ต้นกับเด็กๆ ที่ร้านจัดการต่อ พวกมันรู้ว่าต้องทำยังไง ผมกับไอ้ป่านนั่งดื่มกันอีกสักพักก็ขับรถกลับบ้าน
…
เช้าวันรุ่งขึ้นผมโดนหลานๆ ก่อกวนแต่เช้า กะว่าจะนอนต่ออีกนิดดันได้ยินเสียงข้อความดังผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู โจส่งข้อความมาหา ผมยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะกดโทรหาคนที่ผมคิดถึงมากที่สุด ผมกับโจคุยกันปกติ กวนมันไปบ้างพอให้หายคิดถึง เรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่ผมก็จะโทรหามันทันที แต่การโทรหาโจครั้งล่าสุดของผมกลับทำให้ผมเป็นห่วงมันมากขึ้นกว่าเดิม
"ครับ ได้ครับ"
"ถ้ากลับมาแล้วเข้ามาหาพ่อที่บ้านทีนะ พ่ออยากให้เราช่วยทำอะไรให้พ่อหน่อย"
"ผมจะกลับพรุ่งนี้เช้าครับ พอดีธุระเสร็จเร็วกว่าที่คิด"
"ขอบใจมาก ขอบใจที่รักและดูแลโจอย่างดีมาโดยตลอดนะ"
"ขอบคุณพ่อที่ไว้ใจผมและให้ผมดูแลโจเช่นกันครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลโจให้ดีที่สุด"
"เฮ้ออ.. ได้ฟังแบบนี้พ่อก็ดีใจมากแล้ว เอ้าๆ ไว้เข้ามาคุยกัน"
"ได้ครับ ผมจะรีบเข้าไปหาที่บ้านนะครับ"
"อืม.. โจมาพอดีเลย จะคุยกับโจต่อไหม?"
"ไม่เป็นไรครับ ระหว่างนี้ผมฝากโจไว้กับพ่อแล้วกันเดี๋ยวผมจะไปรับแฟนผมกลับพรุ่งนี้ครับ"
"หึหึ... เพิ่งเคยรู้สึกว่าโดนแย่งลูกไปจากอกมันรู้สึกอย่างนี้นี่เอง" พ่อโจพูดขำๆ
"ช่วยไม่ได้ครับ ผมรักของผม"
"พ่อคงต้องดีใจซินะ"
"ครับ" ผมตอบ
"อืม.. แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"
"ครับ สวัสดีครับ"
ผมวางสายจากพ่อโจแล้วรู้สึกกังวลนิดหน่อย สิ่งที่พ่อโจเล่าให้ผมฟังคร่าวๆ คงไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยแน่นอนและโจคงยังไม่รู้เรื่องนี้
"ฮัลโหลไอ้ป่านมึงอยู่ไหน?"
"บ้าน มีไร?"
"เดี๋ยวกูไปหามึง รอที่บ้านนั่นแหละ"
"เออ ตามนั้น"
TBC.
เกิดอะไรขึ้นหนอ รู้สึกถึงความเครียด 55555+ คนเขียนก็เครียดนะพูดเลย