บทส่งท้าย
เมธา Talk
มือถือของผมฟาดกับคอนโซลรถเลยเจ๊งไปแล้ว สายของน้องถูกตัดไป ผมพยายามต่อสายกี่รอบก็ไม่สามารถทำอะไรได้ รถถูกชนท้ายจนหลุดโค้งชนกับต้นไม้ ทำให้รถคันอื่นๆเสียหลักพุ่งชนตามมานับไม่ถ้วน
เพราะรถสปอร์ตที่ผมเปลี่ยนก่อนมาออกแบบให้ความปลอดภัยดี ผมจึงไม่เป็นอะไรมาก
จุกนิดหน่อยตอนหน้ารถทิ่มกับต้นไม้ใหญ่ ผมค่อยๆดึงตัวออกจากซากรถ
รถกว่าสิบคันที่หักเบี่ยง หลบสิบล้อ แล้วก็เบรกไม่ทัน ทำให้ถนนเส้นนี้เป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิง
ผมได้ยินเสียงรถตำรวจและสัญญาณจากรถพยาบาลมาไกลๆ
เสียงบีบแตรดังไม่หยุด มีคนบาดเจ็บ สัญชาตญาณของความเป็นหมอที่อยู่ในตัวผม พุ่งเข้าไปตามรถต่างๆค้นหาผู้บาดทันที มีคนใจดีลงมาช่วยผมปฐมพยาบาลอีกแรง
“ผมเป็นหมอครับ พาคนเจ็บมาทางนี้ให้หน่อยนะครับ”
“หมอๆ ทางนี้ช่วยลูกผมด้วย”ผู้ชายร่างท้วมอุ้มลูกสาวในชุดเจ้าหญิงออกมาจากรถ เลือดท่วมตัว
“วางไว้ตรงนี้เลยครับ”ผมดึงเสื้อกาวน์ที่ติดในรถมารองพื้นจากนั้นถีบให้ประตูหลังที่ยับยู่ยี่เปิดออก
หยิบกล่องเครื่องมือทางการแพทย์ออกมา ดีที่ผมมีนิสัยติดของพวกนี้อยู่ในรถเสมอ
“หมอครับทางนี้ครับ”
“ครับๆ”
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ผมปฐมพยาบาลแค่เบื้องต้น มีคนเจ็บตั้งแต่หัวแตก ข้อมือซ้น ไปจนถึงตอนนี้ตัวติดอยู่ที่รถ
เวลาเกือบสามชั่วโมง ตำรวจและเจ้าหน้าที่พยาบาลค่อยๆเข้ามาลำเลียงคนออกไป เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆก็มาช่วยด้วยอีกแรง
ผมนั่งหอบหายใจพักกับรถร่วมกตัญญูคันหนึ่ง หลังจากเห็นว่าทุกคนปลอดภัย
“เมฆ”
“แม่”
แม่ร้องไห้โผเข้ามากอดผมแน่น ตัวสั่นเหมือนลูกนก
“ฮือ ฮือ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย แม่ห่วงแทบตาย โธ่ เมธา ลูกนะลูก”โอ๋ๆ ผมลูบหลังปลอบเบาๆ
ผมลืมนึกถึงคนที่บ้านไปเลย ขาดการติดต่อไปสามชั่วโมง ทุกคนต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือน้องเรียกชื่อผมดังมาก
“น้องเป็นไงบ้างครับ”
“ทุกคนเป็นห่วงลูก แม่ทราบข่าวก็รีบให้คนขับรถตามมาเลย ไหนเล่าให้แม่ฟังสิ เกิดอะไรขึ้นห๊ะ แม่ร้อนใจไปหมดแล้ว”
“ไม่มีอะไรครับรถโดนชนท้ายนิดหน่อย ตอนนี้ ไม่เป็นไรแล้วครับ”
“ตาเมฆนะตาเมฆทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไม่โทรบอกแม่”อั่ก ผมโดนทุกอกรัว
“ขอโทษครับแม่ พอดีมือถือพังแล้วก็เมฆต้องช่วยคนเจ็บ แต่ว่าผมปลอดภัยนี่ครับ”
“แกน่ะปลอดภัยแต่คนที่บ้านกำลังจะตาย รู้มั้ยน้องร้องไห้หนักมาก ลูกบ้า ฮือ ฮือ”แม่ทั้งโกรธผม ทั้งดีใจปนกันไป ผมจับมือแม่ไว้แล้วหอมแก้มแม่
“ใจเย็นนะครับ เดี๋ยวผมไปให้การกับตำรวจก่อน แม่รออยู่ตรงนี้นะ”
ตอนนี้ผมหลับคอพักคออ่อนอยู่บนโซฟาในรถคู่กับแม่ แม่อาสาพาผมไปส่งหาน้อง ตอนแรกว่าจะโทรหาน้องแต่ไปๆมาๆ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เจอกัน ผมเลยคิดว่าไปหาเขาเลยดีกว่า
“น้องโทรมา จะรับมั้ย”
“ไม่ต้องครับ อีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านแล้ว”ผมค่อยถอดชุดเปื้อนเลือดออกแล้วใช้ผ้าเปียกเช็ดตัว
“บอกข่าวทางนั้นหน่อยมั้ย น้องจะเป็นห่วงเอานะ”
“ไม่เป็นไรครับ อยากเซอร์ไพร์ทน้อง”ผมแตะกล่องแหวนที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อตรงอกด้านซ้ายเบาๆ ของยังอยู่
เหมือนเป็นของนำโชคที่ทำให้ผมปลอดภัย
“นั้นแม่ตัดสายทิ้งนะ”
“ไม่ต้องครับ ปล่อยให้ดังไปแบบนั้น”
ถ้าตัดสายจะดูผิดสังเกตไป
แม่เงียบแล้วกดเบาเสียง ท่านทำหน้าไม่สบายใจเอามากๆ
“แม่ว่าเมฆทำไม่ถูก”
“ขอโทษครับแม่”
ผมขอโทษ
ไม่นานรถก็เลี้ยวเข้ามาใซอยบ้านน้อง ทุกอย่างเงียบสนิท รถจอดเงียบๆผมค่อยเปิดประตูรั้วเข้าไป
หญิงสาวหน้าตาไม่คุ้นเป็นคนมาเปิด เธอมองพบกับแม่สลับกัน สงสัยจะเป็นแม่บ้านใหม่ของน้าแพรว ข้างหลังมีผู้ชายตัวสูง คงจะเป็นสามีเธอคนสวน
ผมยกนิ้วขึ้นแตะปาก
“ชู่ว อย่าเสียงดังนะครับ”
สองคนอึ้งไปเงียบไม่พูดอะไร ในสวนหน้าบ้านผมเห็นเด็กชายตัวแสบของคน เล็กกับน้อยนั่งก้มหน้าเขี่ยดินเล่น
แม่กับผมเดินผ่านเข้าไปในตัวบ้าน
ประตูมุ้งลวดถูดปิดอยู่ เสียงน้องสะอื้น ดังออกมาเบาๆ
ผมค่อยๆก้าวแล้วเปิดประตูออก ทันทีที่น้องเงยหน้าขึ้นมา เราก็สวมกอดกัน
“พี่เมฆ ฮือ ฮือ”สุดที่รักของพี่ ผมค่อยๆประคองตัวน้องไปนั่ง น้องกอดผมแน่นเหมือนไม่ให้หลุดไปไหน
เขาเอามือลูบๆไปทั่วตัวผม เหมือนพยายามสำรวจว่าผมจริงๆใช่มั้ย
“ฮึก ฮึก”น้าแพรวยืนปิดหน้าร้องไห้อยู่ข้างๆ แม่ผมเดินไปปลอบน้าแพรว
ผมใช้มือใหญ่ของตัวเองลูบหลังเล็กที่โยกขึ้นลงเพราะแรงสะอื้น
“ฮือ ฮือ”
“ไม่ร้องนะครับไม่ร้องพี่อยู่ตรงนี้แล้ว”ผมจูบกระหม่อมบาง
“พี่เมฆ ฮือ ฮือ ดินกลัวไปหมด กลัวว่าพี่เมฆจะเป็นอะไร คนบ้าทำไมไม่รับโทรศัพท์ คนใจร้าย ฮือ ฮือ ทำให้ดินเป็นห่วง คนบ้า
ฮือ ฮือ”น้ำตา น้ำมูกไหลเต็มหน้า ผมดึงทิชชู่บนโต๊ะ เช็ดให้ช้าๆ
“พี่อยู่ตรงนี้แล้วไม่เป็นอะไร พอดี มือถือพังนิดหน่อย แล้วพี่ก็ช่วยคนเจ็บอยู่”
“พี่เมฆไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ แม่บอกว่าเกิดอุบัติเหตุ แต่ดินโทรไปอีก ก็ติดต่อใครไม่ได้เลย ดินเป็นห่วง ดินเป็นห่วง”
ครับ พี่รู้แล้วดินเป็นห่วงพี่ พี่รับรู้แล้วครับ ขอบคุณมากๆนะคนดี ผมจับศรีษะน้อง ก่อนจะก้มไปจุ๊บบางปากสีแดงสด
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว ขอทานะครับที่ทำให้เป็นห่วง”แม่และน้าแพรวถึงกับต้องเดินหันหลังออกจากห้องทันที
น้องพยักหน้ากอดจะสวมกอดผมแน่นอีกรอบ
“พี่เมฆ ดินเหมือนจะตาย ตอนที่สายตัดไปดินทำอะไรไม่ถูก อยากจะวิ่งไปหาพี่ตอนนั้นเลย”
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง ขอโทษครับ”ยอมรับผิดทุกประการ ที่ไม่ติดต่อมาหาน้องน้องไม่สบายใจมากๆ
ทั้งเสียใจและดีใจที่รู้ว่าน้องห่วงผมขนาดไหน กลับมาถึงบ้านเห็นเขาร้องไห้ กอดผมแน่นไม่ปล่อย
ยิ่งทำให้ผมมั่นใจในตัวน้องมากขึ้น
บางที...........แหวนที่อยู่ตรงหัวใจด้านซ้ายของผม
มันได้เจอ......เจ้าของแล้วจริงๆ
“ฮือ ฮือ”น้องร้องไห้อีกครั้ง ทั้งกอด แบบแทบจะโถมลงมาทั้งตัว
ดินสอ Talk
ผมอยากจะฆ่าพี่เมฆให้ตายกับมือ อยากจะทุบให้ตายไปตอนนี้เลย คนบ้า คนบ้า คนบ้า ทำไมทำกับผมแบบนี้
ผมดีใจที่เขาปลอดภัยแต่เสียใจที่เขาไม่ยอมติดต่อมา ผมทำอะไรไม่ถุกอยากจะเป็นลไปสักสิบรอบ คิดไปต่างๆนาๆ
ถ้าพี่เมฆไม่อยู่กับผมอีกคนผมจะทำอย่างไร ผมต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆ ผมอยากจะตายไปตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ
แต่พอเห็นโผล่เข้ามาในบ้าน ผมอยากจะทุบๆ ให้สมใจ แต่มือของผมก็ไม่ไป มันดันไปกอดพี่เมฆแน่น
ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ดีมากจริงๆ
“พรุ่งนี้เราไปทำบุญกันเถอะนะ”คิดเรื่องอื่นไม่ออกจริงๆนอกจากจะพาพี่เมฆไปทำบุญ
“ครับพรุ่งนี้ไปไหว้พระกัน”
“ฮึก ฮึก”มือผมสั่นไม่หาย จนพี่เมฆต้องเอามือตัวเองมาประคองจับมือผมไว้
“พี่ไม่เป็นไรแล้วครับ”เขาบีบมือผมให้แน่ใจ
“ดินกลัวนี่ครับ”
“เด็กน้อยของพี่”แก้มของผมร้อนผ่าวเพราะถูกจุ๊บเบาๆ
พี่เมฆค่อยๆ ล้วงเข้าไปในเสื้อ ก่อนจะดึงกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมา เขาวางมันตรงหน้าผม ก่อนจะค่อยๆเปิดออก
แหวนเพชรเรือนงามอยู่ตรงหน้า ผมยกมือปิดปาก ถ้าตอนนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แบบนี้ถ้าตอนนี้พี่เมฆไปอยูที่อื่น ถ้าตอนนี้แหวนวงนี้ไม่อยู่ต่อหน้าผม
“อยู่กับพี่ตลอดชีวิตนะ”
น้ำตาแห่งความดีใจ กังวลใจ เซร้าใจ ตกใจ ปนกันไปหมด
“ครับ”ผมพยักหน้ารัวๆ
“ห้ามหนีไปไหน ห้ามหาย ห้ามติดต่อไม่ได้เหมือนวันนี้อีกนะครับ”ผมบอกพี่เมฆ พี่เมฆหัวเราะรวน
แหวนเล็กถูกใส่เข้ามาในนิ้วนางข้างซ้ายของผม แหวนพอดีกับมือของผม อย่างไม่น่าเชื่อ พี่เมฆไปแอบวัดมาตอนไหน ผมไม่รู้มาก่อนเลย
“แหวนวงนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากคุณตา ท่านได้รับมาจากท่านทวด ท่านให้ยายไว้ก่อนจะเสีย ตอนนี้ท่านให้พี่เอามาดิน”ห๊า คุณตาเนี่ยนะ
“ท่านทราบหรอครับ”
“อื้อแม่พี่บอกท่านน่ะ”
“ขอบคุณนะครับ แหวนสวยมากเลย”ผมโผกอดพี่เมฆอีกรอบ
“หมูน้อย พี่ปลอดภัยแล้วนะครับไม่ต้องกังวลคิดมากอีกแล้วนะ ถือว่าฟาดเคราะห์ไป
พี่อยู่ตรงนี้อย่าร้องไห้อีกนะครับพี่ไม่ชอบเลย”
“อื้อ”ไม่ให้กังวลไม่ได้หรอก ต้องเดินทางไกลแบบนี้ตลอด ให้นั่งเครื่องบินมาก็ไม่ยอม
บอกว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุทางอากาศไม่มีสิทธืทำอะไรเสียอย่างเดียว แต่ถ้าเราขับรถแบบมีสติ เราก้พาตัวเองรอดพ้นอันตรายได้
คนแก่มีข้ออ้าง ความจริงแม่บอกว่าพี่เมฆกลัวความสูง
“ต่อไปไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ครับ ดินจะไม่งอแงแล้วดินจะไปหาพี่เมฆเอง”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่มาหาดินเอง”ดื้ออีกแล้ว
“นะครับ ปิดเทอมเจอกันครั้งหนึ่งก็ได้”
“ไม่เอาหรอก พี่คิดถึงดินแย่”
“ไม่ได้ครับ เพราะพี่คิดถึงดิน ให้เจอกันแค่ปิดเทอม พี่ทนไม่ได้หรอก ครั้งนี้พี่รีบรอดขับรถเร็วไปหน่อย ก็เลยเกิดเรื่อง
ต่อไปจะไม่ให้เป็นแบบนี้แล้ว”
“พี่เมฆดื้อ ดินเป็นห่วงนะรู้มั้ย ดินจะตายอยู่แล้ว”
“ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วครับ พี่สัญญา”
“สัญญาแล้วนะว่าจะไม่มีแบบนั้นอีก จะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต”
“พี่สัญญา ใช้แหวนนี้แทนใจ”พี่เมฆรวบข้อมือผมขึ้นก่อนจะดึงตัวเข้าไปจูบ
ผมเสียผลัดพรากจากคนรักตั้งแต่เด็ก เสียคนรักขณะกำลังเข้าช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จากนี้ไปผมจะไม่เสียใครอีกแล้ว ผมจะทะนุทนอมคนข้างตัวอย่างดี ไม่รู้วันนี้พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร แต่วันนี้ขอเป็นคนรักของคนรอบตัวตลอดไปก็พอ
มาอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต จนกว่าใครจะจากไปด้วยกันเถอะ
“ไปฉลองกัน”พี่เมฆดึงผมจากเก้าอี้
“ฉลองอะไร”
“ฉลองที่พี่ขอดินแต่งงานไง”
“ยังไม่ได้ขอเลยขี้ตู่”ผมโวยวาย
“ก็ขอให้อยู่ด้วยตลอดชีวิตนั้นแหละ ขอแต่งงานแล้ว”
“ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยขอใหม่สิ”
พี่เมฆลากผมออกไปหน้าบ้าน แม่ผม แม่พี่เมฆ แม่บ้าน คนสวน และไอ้สองแสบ ยืนพร้อมหน้า
เขาก้มลงคุกเข่ากับพื้น
“ทุกคนครับช่วยเป็นพยานด้วยนะครับ คุณดินสอครับ คุณยินดีจะใช้ชีวิตกับผมชั่วชีวิตมั้ยครับ”ผมยืนบิดอายม้วนเป็นขนมโปเต้โต้
“ฮิ้ววววววววววว”ไอ้สองแสบ ส่งเสียงกิ้วก้าวฮาแตก
“รับเลย รับเลย”แม่ผมกับปม่พี่เมฆยืนเชียร์
“ครับ”
“เย้”ทุกคนกระโดดดีใจ พี่เมฆลุกขึ้นจับผมยกเหวี่ยงไปรอบ
“มีเมียแล้วโว้ยยยยยย”
น่าขายหน้าที่สุดในโลก อายบ้านอื่นเขาจริงๆ ผมเอามือตีแขนพี่เมฆให้ปล่อยตัวลงแต่กลายเป็นว่าถูกจูบต่อหน้าไอ้สองแสบ
อุตส่าห์คีฟลุคโหด เสียหมด สาวแตกเลยดินสอเอ้ย
พวกมันสองตัวยกกล้องมือถือมาถ่ายกันรัวๆอย่างกับปาปารัซซี่ เข้าจะนะว่าสมัยนี้สมาร์ทโฟนราคาถุก แต่เด็กตัวแค่นี้มีกันแล้วหรอ
“พอแล้วครับ เหนื่อยมาทั้งคืนไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะนะครับ”ผมดึงตัวออกลากพี่เมฆขึ้นบ้าน
“อยากพักผ่อนน่ะอยาก แต่อยากกินอะไรมากกว่าหิวมากเลย”
“หรอครับ นั้นไปหาอะไรทานก่อนนะครับ”ผมดึงพี่เมฆไปกลางสนามหน้าบ้าน
“ผิดทางครับ ทางนี้”พี่เมฆชี้ไปบนบ้าน
“บนบ้านเนี่ยนะ”
“ก็พี่อยากกินดินนี่ครับ”โห้ยยย ผมนี่อยากก้มลงไป แล้วกำมาใส่ปากพี่เมฆจริงๆ
“ให้ตายเถอะ น่าจะรถคว่ำตายไปเลย”ผมบ่นงุบงิบ พี่เมฆกอดผมแล้วพาเดินไปกลางงานเลี้ยงเล็กๆ
“กินข้าวเพิ่มแรงก่อน แล้วค่อยไปกินดิน”เขากระซิบเบาๆ ผมเอาศอกถองทันที
“กินหินแทนมั้ย”พี่เมฆหัวเราะตัวงอ
งานเลี้ยงก็เริ่มสักที เราได้แขกมาเพิ่มอีกคนคือแม่พี่เมฆ แม่ผมเลยได้เพื่อนคุย
ส่วนพี่เมฆก็ไม่ยอมปล่อยผม จับนั่งตักแล้วสนทนากับไอ้สองแสบอย่างออกรส ถามเรื่องนู้นเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน
ผมนี่โดนเผาจนเละเป็นโจ๊ก
สองสามีภรรยา แม่บ้านและคนสวนคนใหม่ ช่วยกันปิ้งเนื้อและอาหารทะเลมาเสิร์ฟ
ผ่านเรื่องงร้ายๆไป ตอนนี้ผมรู้สึกว่าจะมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต
.....เหมือนแหวนวงนี้
แหวนเพชร บุษราคัมTHE END
ด้วยรักและห่วงใย...ฝ ฝ้าย
.................................................................
จบแล้วค่า ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ที่ติดตาม พี่เมฆกับดินสอมาตั้งแต่แรก
ติดตามอ่านตอนพิเศษได้เรื่อยๆนะคะ ฝ้ายเอามาลงบอร์ดทุกตอน
ส่วนใครสนใจสั่งหนังสือฝ้ายเปิดโอนเงินแล้วนะคะ หมดเขตสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
รายละเอียดตามนี้ค่ะ
ช่วยอุดหนุนด้วยนะคะ ^O^