+
บุพเพวายร้าย
50.80%
ผมกำลังยกไหว้อาจารย์หน้าทางเข้าโรงเรียนแล้ว ตาก็ต้องหันไปมองกับเสียงเรียกของคนที่เพิ่งมา
“ จุม จุม ไอ้จุม!”
คนหนึ่งเตี้ยกว่าผมผิวขาวหน้าเรียว น่ารักดี อีกคนสูงกว่าผมผิวสีแทนนับว่าหล่อ แต่ใส่ที่คาดผมสีชมพู สะพายกระเป๋าเล็กๆสีเขียว(รูปกบ)
รู้จักผมเหรอ?
“ นึกว่ามรึงจะป่วยยาว” คนตัวเล็กกพูดถามผม
“ นั่นดิ ไอ้จักรมันอยากไปเยี่ยมมรึงแทบตาย แต่ดันไม่มีเบอร์ พอไปถาม-จารย์แสงดาวบอกว่าไม่มีเบอร์มรึง ที่อยู่ก็ยังมีอีก นี่ว่าอาทิตย์นี้มรึงไม่มาว่าจะไปด้อมๆมองๆแถวๆคอนโดอีก”
“ ..........................”
“ ทำหน้าเอ๋อ อะไร หรือว่ามรึงเข้าโรงบาลจนสมองเสื่อม” จักรถาม
“ ต้องจูน ต้องจูน ซีซี่จัดให้” คนที่ผมยังไม่รู้จักชื่อ เอามือมานวดขมับผม
เขา 2 คนต้องสนิทกับผมพอดู
“ เป็นไง พูดอะไรมาสักคำดิว่ามรึงป่วยเป็นไร อย่าบอกว่า ไข้หวัด2009”(จักร)
“ แค่ไม่สบาย ตอนนี้หายแล้ว แต่ว่าความจำหายไป 8 เดือน” จักรและเพื่อนทำหน้าไม่เชื่อ แล้วก็หัวเราะก๊าก คงนึกว่าผมหลอก
“ ฮ่าๆ ไอ้จุม มรึงกุเรื่องที่มันน่าเชื่อกว่านี้หน่อยได้ป่ะ ประมาณว่าสักปี แต่นี่มันแค่ 8 เดือน” จักรว่าหัวเราะไปด้วย
“ ..............................” แต่พอเห็นหน้าจริงจังไม่พูดของผม ไม่ขำ เขา 2 คนที่เริ่มนิ่ง จ้องหน้าผม
“จุม จริงดิ” อีกคนที่ไม่ใช่จักรถาม ผมพยักหน้า
“ งั้นจุมมี่ก็จำซีซี่ไม่ได้ จำจักรไม่ได้ จำยูไม่ได้ จำใครไม่ได้” ซีซี่พูดอีกผมพยักหน้าตอบ
“ จริงดิ!” จักรหน้ายังไม่เชื่อ
“ จริง อาจารย์ที่ปรึกษาก็รู้เรื่องแล้ว” ผมบอก ส่วนเรื่องที่ผมความจำเสื่อมแม่บอกผมตั้งแต่อยู่โรงบาลแล้วว่าแจ้งให้โรงเรียนทราบแล้ว ใบรับรองแพทย์ยังอยู่ในกระเป๋าผมอยู่เลย
“ เดี๋ยวคุยกัน ไปเข้าแถวก่อน” จักรบอก พวกผมรีบวิ่งไปเข้าแถวหน้าเสาธงที่ตอนนี้แถวเริ่มเป็นระเบียบแล้ว ในแถวจักรและซีซี่ถามผมบ้างครั้งตอนที่อาจารย์เผลอ
หลังจากเข้าแถว จักรก็ลากผมขึ้นห้องแทบไม่ทัน แล้วถาม ตอนแรกก็แค่จักรกับซีซี่แต่ตอนนี้ผมถูกนักเรียนในห้องล้อมไว้ ผมจึงได้แต่นั่งเก้าอี้ตอบคำถามที่แทบจะตอบไม่ทัน
ซีซี่เป็นคนบอกชื่อแต่ละคนในห้องให้ผมฟังครับ
“ หมายความว่าจุมลืมแม้กระทั้ง เรื่องที่เรียนไปแล้วเหรอ?” เมถามผม เธอเป็นหัวหน้าห้องครับ
“ อ้าวงั้นเรื่องเรียนทำไง” (ยู)
“ เดี๋ยวติวให้เอาไหมจุม?” เสียงข้างหลังจักรถาม เสียงคุ้นมาก
“ ชิด?” ผมพูดเมื่อเห็นหน้าแล้ว
“ จำได้ด้วย ดีใจนะเนี่ย” ชิดว่าเดินเข้ามาในวง
“ อย่าบอกว่าจำไอ้ชิดได้คนเดียว” จักรว่าเหมือนจะไม่ชอบชิดครับ
“ไม่ใช่ เพียงแต่กรูกับจุมเจอกันก่อนหน้านี้” ชิดอธิบายแทนผม แล้วยิ้ม
จักรก้มลงมากระซิบข้างหูผมว่า ‘มันเป็นเกย์มรึงระวังก้นไม่ให้ดีเถอะ’ พอจักรเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าผม ผมว่าจะพูดบางอย่างออกไปแต่ก็เงียบ
“ ขอบคุณ แต่พี่.......วุฒิบอกว่าจะติวให้แล้ว” ผมบอก คิดได้ว่านั่นเป็นเรื่องที่ผมกับพี่วุฒิคุยกันก่อนที่จะเกิดเรื่องคืนนั้น
“ พี่จุมเรียนมหาลัย ถ้าไม่มีเวลาเราติวให้ก็ได้ ถือว่าเราได้ทบทวนไปด้วย” ชิดบอก
“ ไอ้ชิด กรูว่ามรึงอยากจะติวให้จุมเหลือเกิน มรึงคิดจะมากกว่าติวใช่ป่ะ?”
“ เออ” ชิดว่าเอาแขนค้ำโต๊ะตารงข้ามกับผมที่นั่งเก้าอี้ แล้วจ้องหน้าผมก่อนที่จะพูดว่า
“ ได้ป่ะ?”
“ เรื่องอะไร?” ผมถามไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร
“ เราชอบจุม เป็นแฟนกันไหม?”
“ ไอ้ฟาย!” จักรว่าดึงคอเสื้อชิดขึ้น ทั้งที่ตัวเตี้ยกว่าอย่างน้อย 5 เซน แต่ชิดไม่สะทกสะท้านดึงมือจักรออก แล้วยักไหล่ ก่อนที่หันหน้ามาผม
“ ก็แค่บอกความรู้สึก เอาไงก็แล้วแต่” ชิดพูดแล้วเดินออกไปนอกห้อง
ทำไมถึงมีแต่คนมาชอบผม ทั้งชิด ทั้งพี่แบงค์ และยังพี่วุฒิอีก ...
“ จุมมรึงอย่าไปเล่นกับมันมาก” (ยู)
“ มันคงเห็นว่าจุมดูซื่อๆ เลยคิดว่าจะเอาง่ายๆอย่าหวัง นางฟ้าคนนี้จะปกป้องจุมเอง”(ซีซี่)
“ เพราะชิดเป็นเกย์เหรอ?” ผมถาม ถ้าแค่เหตุผลนั้นมันก็ใจแคบเกินไป เป็นเกย์ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ดี
“ เปล่า แต่ว่ามันไม่จริงใจกับใครหรอก พวกกรูกลัวว่ามรึงจะโดนฟันแล้วเตะทิ้ง ...นิสัยมันเหี้ยใครๆก็รู้”จักรบอกอารมณ์ยังกรุ่นอยู่
“ ไม่ต้องห่วงหรอก เราคิดกับชิดก็แค่เพื่อน” ผมบอก
“ ก็ดี” (จักร)
“.............................”
* * * *
หลังคาบสุดท้ายเป็นคาบน้ำความสะอาดห้องตามเวร พวกที่ไม่ใช่เวรก็จะไปทำความสะอาดเขตรับผิดชอบของห้อง จักรบอกผมว่าเขตรับผิดชอบของห้องคือหน้าโรงเรียนครับเป็นด้านในติดกับรั้วโรงเรียนฝั่งซ้าย(ถ้าหันหน้าอออก)
พวกผมเก็บใบไม้ ใบหญ้า ถุงพลาสติกที่มีไม่กี้ชิ้นหากเทียบกับคนนับ 20 ไม่นานจักรก็ชวนออกมาหาอะไรกินหน้าโรงเรียนที่เป็นร้านริมถนนตลอดแนวหน้าโรงเรียน เป็นตึกแถวข้างในก็มีครับ
ผมหิวน้ำเลยซื้อชามะนาวแก้วหนึ่ง 20 บาท จักรก็หลอดมาใส่เพิ่มอีก3 หลอด แล้วตามกินกับผมหลังจากที่ผมกินไปครึ่งแก้วแล้ว ก่อนหน้านั้นไปจักรไปซื้อลูกชิ้นทอดครับ
“ ..กินมั้งดิ” ซีซี่ว่าแต่จักรกินหมดแล้ว (ยูกำลังเลียไอศครีมแท่งสีเหลี่ยมสีขาว)
“ หมดแล้วไอ้สิทธิ์ มรึงไปซื้อใหม่อีกแก้วดิ” จักรบอก ซีซี่เลยไปซื้อไปมาอีกแล้ว โดยฝากไส้กรอกอีสานไว้กับจักร และแน่นอนจักรกินรอไปพลางๆพร้อมลุกชิ้นทอดที่ให้ยูถือถือไว้
“ เอากิน” จักรใช้ไม้จิ้มไส้กรอกกอีสานยกป้อนผม ตอนแรกผมก็ตกใจนิดหน่อยเพราะไม่ชินแต่ก็กิน
“ อร่อยป่ะ?” จักรถาม
“ อร่อย” ผมบอก เพราะอร่อยจริงๆ
“ หวีดหวานกันเข้าไป เมียอยู่ที่นี่ทั้งคน” ซีซี่กลับมาพูดครับ แล้วดึงถุงไส้กรอกอีสานจากมือจักรไปแบบงอนแต่ไม่ได้จริงจัง
“ มรึงเป็นเมียกรูตอนไหน? ชอบยักเหยียดความเมียให้กรูอยู่เรื่อย”
“แล้วเมื่อคืนล่ะอะไร” ซีซี่ว่าแล้วดูดหลอดกินน้ำแดงในแก้วที่เพิ่งไปซื้อมา
“ ประสาท!” จักรว่า ผลักซีซี่ที่ตัวใหญ่กว่าให้ออกไปไกลๆ
ผมยิ้ม เพราะอยู่กับพวกจักรมีเรื่องให้อมยิ้มได้ตลอด... ผมมองเห็นรถพี่วุฒิที่กำลังจอดพอดี เลยบอกจักร ซีซี่ยูว่าพี่วุฒิมาแล้ว ก่อนที่จะเดินไป
พอผมเข้าไปนั่งในรถปั้บ พี่วุฒิก็ยื่นช่อดอกกุหลายสีแดงช่อเบ้อเริ้มให้แทบจะชนหน้าผม
“ พี่ให้” พี่วุฒิบอกผมรับมาอย่างงงๆและเหลือเชื่อที่พี่วุฒิซื้อดอกไม้ให้ผู้ชายอีกคนคือผม
“ พี่ซื้อให้ผม?” ผมว่าก้มมองกุหลาบสีแดงสดบนตัก
“ ใช่ ชอบไหม?” พี่วุฒิถามดูอารมณ์ดีกว่าเมื่อเช้า
“ เนื่องในโอกาสอะไรครับ?”
“ ซื้อกุหลาบให้เมีย ไม่ต้องมีโอกาส” พี่วุฒิว่าพร้อมถอยรถให้มีที่มากพอที่จะกลับรถ
“ ...................” ‘เมีย’ผมฟังบ่อยจนน่าจะชินแต่ไม่ยักชินสักที
แล้วก็เขินขึ้นมาเฉยๆ
“ เดี๋ยวไอ้แบงค์มันมีเรื่องจะคุยด้วย พี่เลยนัดเจอมันที่s ห้างc”(ร้านไอศครีมเค้กชื่อดังครับ)
พี่แบงค์!?
ไม่รู้ว่าพอผมเจอหน้าพี่แบงค์แล้วจะทำหน้ายังไงดี แล้วเรื่องที่พี่แบงค์จะคุยกับพี่วุฒิคือเรื่องอะไร คงไม่ใช่เรื่องที่บอกว่าชอบผม
“ จ้องมองจนกุหลาบมันช้ำหมดแล้ว รู้ว่าชอบแต่อย่าจ้องจนน่าเกลียด คนให้มันดีใจ” ผมหันไป พี่วุฒิยิ้มแต่ไม่ได้หันมาหาผม
ผมก็ชอบแหละครับแต่ที่จ้องเมื่อกี้ผมกำลังคิดเรื่องพี่แบงค์
“ ผมไม่ได้จ้อง”
“ แก้ตัว แต่พี่เข้าใจว่าเขิน”
“ ...............” พี่วุฒิคิดเข้าข้างตัวเอง ถ้าผมกำลังบอกว่ากำลังคิดเลยมองเพลิน คงจะถามอีกนั่นแหละว่าคิดเรื่องอะไร
ปล่อยให้อารมณ์ดีอย่างั้นแหละดีแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องคอยระวังอารมณ์แปรปวนของพี่วุฒิ..
หลังจากจอดรถในชั้นจอดรถแล้วพวกผมก็เดินเข้าลิฟท์มาโผล่กลางห้าง แล้วเดินต่อไปยังร้านS ตอนอยู่ในลิฟท์พี่วุฒิจับมือผมด้วยแต่ผมสบัดออก พี่วุฒิทำท่าไม่พอใจนิดหน่อยแต่ไม่ดื้อดึง
พี่ชนะและพี่แบงค์นั่งตรงริมกระจกด้านทางเดิน ผมจึงมองเห็นพี่เขาก่อนที่จะเข้าร้าน (พี่แบงค์และพี่ชนะยังอยู่ในชุดนิสิต) สายตาผมมองเห็นพี่แบงค์ พี่แบงค์เองก็กำลังจ้องมองผมเช่นกัน
“ มาเร็วอ่ะ” พี่ชนะว่าตรงหน้ามีน้ำแก้วเดียว
“ มาช้าก็ว่าเร็วก็ว่า” พี่วุฒิพูด ให้ผมเข้าไปนั่งด้านใน ส่วนตัวเองนั่งริมทางเดินในร้าน
“ เปล่า แค่พูดเฉยๆ” พี่ชนะว่า ผมและพี่วุฒิรับเมนูจากพนักงานร้านน่ารัก และผมก็สั่งไอศครีมวานิลลา 3 ลูกไม่เอากล้วย พี่วุฒิสั่งเหมือนผม พี่ชนะเลยว่าไม่มีหัวคิด..
“วุฒิมรึงหล่อวะ” พี่ชนะพูด ยิ้มเยาะ หลังจากที่จ้องหน้าแดงๆพี่วุฒิแล้ว (หน้าพี่วุฒิยังไม่ดีขึ้นครับ)
“ กรูก็ว่าจะไปคลีนิค แต่ขี้เกียจปล่อยมันตามธรรมชาติดีกว่า” พี่วุฒิบอกกินน้ำในแก้วจนหมด
“ เหี้ย ~ หน้าไหม้แดดอย่างงี้ มรึงจะไปจีบใครติด ไปที่นี่ดิ..กรูแนะนำ เข้าไปครั้งเดียวออกมาเด้งเหมือนเดิม”(พี่ชนะ)
“ กรูไม่คิดจะจีบใคร กรูมีเมียแล้ว” พี่วุฒิพูดพลางปรายหางตามาหาผม พี่ชนะหัวเราะคิกคัก ผมอาย
“ ไอ้ผัวแห่งปี” พี่ชนะพูดเหมือนแซว
“แล้ว แบงค์ มรึงมีเรื่องไรจะคุยกับกรู?” พี่วุฒิถามพี่แบงค์ที่ยังเงียบตั้งแต่มา (ผมนั่งตรงข้ามพี่ชนะ พี่วุฒินั่งตรงข้ามพี่แบงค์)
“ ตรงนี่คนเยอะ เดี๋ยวกรูบอกทีหลัง” พี่แบงค์ว่า
“ เรื่องอะไรวะ ที่ต้องคุยกันตอนไม่มีคน” พี่วุฒิถามสงสัย ถ้วยใสใส่ไอศครีมที่สั่งไปวางตรงหน้า พี่แบงค์ไม่คิดที่จะกิน ส่วนผมตักกินไปคำ พี่ชนะก็เอาช้อนมาตักของผมไปกินด้วย แล้วบอกผมเบาๆว่าถ้วยต่อไปจะสั่งเหมือนผม
“ แล้วทำไมมรึงนัดที่นี่”(พี่ชนะ)
“ กรูว่าจะคุยกับมันตั้งแต่อยู่ที่มอแล้ว แต่มันบอกกรูรีบไปรับจุม บอกว่าคุยกันตอนเย็น และเสือกนัดกรูมาที่นี่” พี่แบงค์บอก
“ กรูจะพาเมียกรูมากินไอติม กรูเลยคิดว่าให้มรึงมาคุยที่นี่เลยจะได้เสร็จ” เมียอีกแล้ว รู้สึกว่าพี่วุฒิจะชอบคำคำนี้เหลือเกิน
“ .............” (พี่แบงค์หันมองผม)
“ พูดอะไรก็พูดมา มรึงก็รู้ว่ากรูไม่ความลับกับพวกมรึง” ในที่นี้พี่วุฒิน่าจะหมายถึงพี่ชนะ และอาจจะรวมผมด้วย ..
“ .....................” พี่ชนะมองพี่แบงค์สับกับพี่วุฒิ สายตาไม่ไว้วางใจ ผมเองก็รู้สึกถึงบรรยายกาศเปลี่ยนแปลงของพี่แบงค์
“ ............................................”
“ มรึงไม่เอะใครใจเลยหรือวะ ว่าทำไมไอ้ชนะมันพาจุมกลับไปบ้านเมื่อวาน”(พี่แบงค์)
“ แบงค์!?” พี่ชนะพูดเป็นการห้ามไม่ให้พี่แบงค์พูดต่อจากนี้.....
“ ชนะอย่าห้าม มันบอกให้กรูพูดตอนนี้ กรูก็จะพูด กรูก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
“ ตรงนี้เนี่ยนะมรึง”(พี่ชนะ)
“ทำไม!?”เสียงพี่วุฒิเริ่มเปลี่ยนไป
“ กรูจะปล้ำจุม ไอ้ชนะเข้ามาเห็นก่อน เลยพาจุมกลับไปอยู่บ้าน”
“ เหี้ย ล้อเล่นอะไรอยู่เนี่ยพวกมรึง” จากที่ทำหน้าซีเรียสเมื่อกี้ พี่วุฒิเปลี่ยนไปยิ้มทันที
“ ..................” พี่ชนะหน้าซีด ผมด้วย ทั้งที่พี่วุฒิกำลังยิ้ม
“ ทำไมวะวุฒิ มันไม่น่าเชื่อขนาดนั้นเลยเหรอ?” พี่แบงค์ถามสีหน้าราบเรียบ
“ เออดิ บอกว่าเป็นไอ้ชนะยังน่าเชื่อกว่านี้เป็นเท่าตัว อย่างมรึงเนี่ยนะจะคิดปล้ำเมียกรู ไม่ มี ทาง ” พี่วุฒิบอกเน้นประโยคสุดท้ายว่า ‘ไม่มีทาง’
ผมเลิกลั่ก พี่ชนะด้วย
“ ก็ล้อเล่นนั่นแหละ เออ กรูเพิ่งนึกได้ว่าต้องไปธุระกับไอ้แบงค์ งั้น..”พี่ชนะหันหน้าไปหาพี่แบงค์แล้วยืนขึ้น
“... ไปกันแบงค์ กรูรีบ” พี่ชนะว่าต่อเดินออกไปแล้วดึงแขนพี่แบงค์ให้ลุกขึ้น แต่พี่แบงค์ไม่ลุกขึ้นและยังนั่งไม่ไหวติ่ง จ้องหน้าพี่วุฒิ
“ วุฒิ กรูรักจุม” พี่แบงค์พูด สีหน้าไม่มีล้อเล่นแม้แต่น้อย
“ แบงค์มรึงเมาหรือเปล่าเนี่ย วุฒิมรึงอย่าไปเชื่อ มันเมา” พี่ชนะพูดพยายามดึงตัวพี่แบงค์ให้ลุกขึ้น
“ ............อย่า ล้อ เล่น แบบ นี้ กรู ไม่ ชอบ ! ” พี่วุฒิพูดเน้นคำแต่ละคำ ผมเริ่มจำเคร้ารางที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้ ผมหันไปมองพี่แบงค์สายตาบอกว่าอย่าพูดอะไรอีกเลย
ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ รู้แต่ว่าพี่วุฒิเชื่อใจพี่แบงค์มาก และถ้าพี่แบงค์บอกว่าชอบผมและยังคิดจะปล้ำผมอีก คนอย่างพี่วุฒิต้องระเบิดแน่ๆ
“ กรูรักจุม และกรูไม่ได้ล้อเล่น”
พรวด! พี่วุฒิลุกขึ้นกระชากคอเสื้อพี่แบงค์
“ มรึง!” พี่วุฒิสถบ
“วุฒิ!!?” (พี่ชนะ)
“ กรูอยากให้มรึงรู้ไว้ เพราะกรูไม่อยากปิดปังมรึง!”
“ ชั่ว!” พี่วุฒิพูดเสียงดังกระชากคอเสื้อพี่แบงค์จนโต๊ะแทบล้ม แน่นอนแขกทั้งร้านจ้อมมองพวกผมเป็นตาเดียว มีหลายคนยืนขึ้นและเดินห่างออกจากโต๊ะพวกผมกลัวว่าโดนลูกหลง
“ กรูก็น่าจะไม่ต่างจากมรึงเท่าไร ยังไงกรูก็เพื่อนมรึงไม่ต่างกันมากหรอก” ผวักะ! พี่แบงค์โดนพี่วุฒิต่อยจนเซ แต่ไม่ล้ม ทว่าเก้าอี้ด้านหลังล้มเพราะพี่แบงค์ถลาไปชน! ผู้หญิงในร้านร้องด้วยความตกใจ ถึงผมไม่ร้องเหมือนผู้หญิงแต่ผมก็ตกใจมากครับ
“ ..............พี่ครับ!” ผมไปจับแขนพี่วุฒิที่จะเดินไปหาพี่แบงค์
“ปล่อย!”
“ วุฒิมรึงใจเย็นๆดิ” พี่ชนะว่าเข้ามาขวางระหว่างพี่วุฒิพี่แบงค์
“ มรึงจะให้กรูใจเย็น ทั้งที่มันคิดจะตีท้ายกรู!!” ยิ่งพูดพี่วุฒิก็ยิ่งจะเหมือนจะกระโจนไปหาพี่แบงค์
“ จุม พาไอ้วุฒิออกไปก่อน” พี่ชนะบอก ผมก็ดึงแขนพี่วุฒิให้ออกมาจากร้านเพราะตอนนี้คนมองกันใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะในร้านหรือคนนอกร้านที่มองผ่านกระจกเข้ามา
“ ปล่อยพี่จุม!!”“ ไม่ครับ” ผมบอกพยายามลากแขนพี่วุฒิออกมาแต่ พี่วุฒิไม่ค่อยขยับเท่าไร
“ หรือว่าชอบมัน!” พี่วุฒิหันมาทางผม
“ พี่ครับ ไปคุยกันที่บ้านเถอะครับ” ผมบอกไม่กล้าหันไปมองไหนเลย แต่พอได้ยืนเสียงพี่ชนะคุยกับใครอยู่น่าจะเป็นผู้จัดการร้าน
“ ไม่ จะคุยตอนนี้ เดี๋ยวนี้!!” พี่วุฒิยิ่งขึ้นเสียง
“ พี่ครับกลับเถอะ” ผมขอร้อง
“ กลับก็ได้ แต่หลังจากพี่ได้
กระทืบไอ้เพื่อนชั่วนี่ก่อน!” พี่วุฒิว่าจะกระโจนเข้าไปพาพี่แบงค์อีกทั้งที่ผมดึงแขนไว้ และยังมีพี่ชนะขวาง ผมหันไปมองเห็นพี่แบงค์ที่มีรอยช้ำสีแดงที่มุมปาก ใบหน้ารู้สึกผิดนั้นกำลังจ้องมองผม
ผมจะทำยังไงดี
ทุกอย่างมันหนักเหลือเกิน
“ พี่ครับกลับเถอะ” ผมขอร้องพี่วุฒิอีก คราวนี้พี่วุฒิสะบัดมือผมออกเต็มแรง แล้วจ้องพี่แบงค์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ตัวพี่วุฒิสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ
ผมคงจะต้อง...
“ พี่วุฒิกลับบ้านครับ!” ผมพูดเสียงดัง พี่วุฒิไม่ขยับ
“ ผมบอกให้พี่กลับบ้าน!” ผมพูดอีกเสียงดังกว่าเดิม คราวนี้ได้ผลพี่วุฒิหันกลับมา
“ กลับบ้านกับผม!” ผมบอกอีก คิดว่าตัวเองยนี่กล้านักที่คิดจะไปสั่งคนอย่างพี่วุฒิ
“ พี่ไม่กลับ!”
เห็นไหม ผมไม่มีความหมายสำหรับพี่วุฒิเลย....น้อยใจ
“ งั้นผมกลับคนเดียว!” ผมบอกวิ่งออกมาจากร้าน
“ จุม!?” เสียงพี่วุฒิ พอผมหันกลับไปมองพี่วุฒิกำลังวิ่งตามมา
“ จุม รอพี่ด้วย!” พี่วุฒิตะโกนตามหลังผม ผมยิ่งวิ่งเร็ว วิ่งไปสุดทางเดินแล้วลงบันได้
หมับ! พี่วุฒิดึงแขนผมเมื่อตามมาทัน
“ อย่าวิ่งหนีพี่ไม่ชอบ!” “ .....................” ผมไม่ตอบไม่หันกลับไปมองด้วย
“ งอนอะไร?” พี่วุฒิถามเสียงอ่อนลง
“ ............................”ไม่ได้งอนครับ แต่น้อยใจ และไม่ชอบคนใช้กำลัง..
“ งอนอะไร?!” พี่วุฒิถามเสียงกระชาก ผมหันไปพี่วุฒิจ้องตาคืนกลับมา
“ อยากกลับบ้าน” ผมบอก
“ ...ได้ ” พี่วุฒิพูดแล้วดึงแขนผมขึ้นบันไดไปชั้นเมื่อกี้ ก่อนที่จะเข้าลิฟท์แล้วลงไปชั้นที่จอดรถไว้
พอเข้ามาในรถพี่วุฒิก็ตบพวงมาลัยหลายครั้งโดยไม่ยอมไปสักที
“ แหม่งไอ้ เพื่อน ชั่ว!!” ถึงพี่วุฒิจะพูดเสียงดัง แต่น้ำเสียงพี่วุฒิสั่นเครือในบางช่วง ...คงจะเสียใจ
ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าผมก็หน้าตาธรรมดาแล้วพี่แบงค์มาชอบผมได้ยังไง ...หรือว่าเพราะอะไรกันแน่
“ นี่พี่ฝากปลาย่างไว้กับแมว!!” พี่วุฒิพูดจบหันมาจ้องผม
ผมสะดุ้ง!?
“ ที่มันบอกว่าปล้ำจุม จริงไหม?”
“ จะจริงครับ แต่สุดท้ายแล้วพี่เขาก็ไม่ได้ทำ เพราะผมร้องไห้” ผมบอกก้มหน้าลง
อย่างน้อยพี่แบงค์ก็หยุดเมื่อผมร้องไห้ แต่ พี่วุฒิไม่หยุด
“ ใครจะเชื่อ นี่ถ้าไอ้ชนะไปเข้าไป จุมไม่กลายเป็นเมียมัน...!!”
“ พี่เขาไม่ทำหรอกครับ” ผมบอกขยับตัวไปชิดประตูอีกด้น เพราะรู้สึกเหมือนไม่ไว้ใจพี่วุฒิขึ้นมา
“ หรือว่ายั่วมัน!!”“ ไม่ใช่นะครับ!? ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” ผมรีบบอก พอเห็นสายตาพี่วุฒิแล้วก็กลัวขึ้นมา มือเลยพยายามเปิดประตู แต่มันล็อก
“ ..........................”
“ พี่ครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” ผมบอกหน้าเย็นเฉียบ
“ แล้วไอ้แบงค์มันจะชอบจุมได้ยังไง!!” พี่วุฒิตะโกน ผมน้ำตาร่วงเพราะพี่วุฒิพูดเหมือนเป็นความผิดของผม
“ ผมไม่รู้”
“
รู้ไหมไอ้แบงค์มันเป็นคนยังไง มันเป็นคนที่จะไม่หักหลังเพื่อนเด็ดขาด แต่เมื่อกี้มันบอกพี่ว่ามันรักจุม ต่อให้โลกถล่มลงมาเรื่องแบบนี้มันไม่มีวันเกิดขึ้น!”
“ ผมไม่รู้” ผมส่ายหน้าตอบ ไม่รู้จริงๆครับ ที่ผมพาพี่วุฒิออกมาก็เพราะอยากให้พี่วุฒิใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยกลับไปคุยกับพี่แบงค์มันน่าจะดีกว่าตอนนี้ แต่ไม่ใช่ให้พี่วุฒิมาคาดคั้นเอาอะไรกับผม
ผมไม่รู้จริงๆ
“ เรื่องนี้มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่!” พี่วุฒิคว้ามือผมกระชากเข้าหาตัวเอง
“ พี่ปล่อย!”“ เดี๋ยวกลับถึงบ้านคุยกัน!” พี่วุฒิบอกปล่อยมือผม และเหยียบเร่งออกรถจนหลังผมแทบจะติดกับผนังเบาะเพราะต้านแรงเสียดทานที่รุนแรง
แต่ทางที่ไปกลับผมมั่นใจว่าไม่ใช่ทางกลับบ้าน มันเหมือนทางไปโรงเรียนมากกว่า หรือว่าทางไปคอนโด!!!!
“ พี่ครับ นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านผม!” ผมบอก
“ เออ จะกลับคอนโด” พี่วุฒิตอบเสียงห้วน
“ ไม่ครับ ผมจะกลับบ้าน!”
“ อย่ามาสั่งพี่ไม่ชอบ!”
“ อะไรพี่ก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ!”
“ พี่ชอบจุม”
“ ............” ผมพูดไม่ออก
“ พาไปคอนโดก็ไม่ได้พาไปทำอะไร แค่พาไปคุยกันให้รู้เรื่อง ที่บ้านมีแม่จุมไม่สะดวก”
“ ไม่ครับ ผมจะกลับบ้าน” พอคิดว่าพี่วุฒิจะผมไปคอนโด ผมถึงตัวสั่น ผมยอมรับว่ากลัว เพราะงั้นผมไม่มีทางจะไปที่นั่นแน่ แต่ผมจะทำยังไงดี ประตูพี่วุฒิก็ล็อกจะออกไปก็ออกไม่ได้
“ เรื่องไอ้แบงค์ จุมชอบมันไหม?” พี่วุฒิถาม ผมสังเกตเห็นว่าตอนนี้พวกผมจะถึงคอนโดแล้ว เลี้ยวข้างหน้าก็จะเข้าทางเส้นตรงแล้วขับเข้าไปก็เป็นคอนโด
มาถึงเร็วเร็วจนคิดอะไรไม่ออก
“ ไม่ครับ”
“ แน่ใจ”
“ ครับ ผมคิดกับพี่แบงค์เหมือนพี่ชาย พี่เขาดีกับผมมาก” ผมบอกกำลังคิดหาทางหนีกลับบ้าน
“ มันทำดีด้วยอกุศลล่ะสิ!!” “ แต่อย่างน้อยพี่เขาก็ดีกับผม!” ผมบอก
“ หมายความว่าพี่ทำเลวกับจุม”
“ ............” ผมไม่ตอบ
“ อยากให้เลวกว่านี้ไหมล่ะ?”
“ ..................” ผมไม่ตอบ พี่วุฒิเลี้ยวเข้าคอนโดพอดี
ผมคิดแผนออกแล้วตอนที่พี่วุฒิเปิดประตูรถ หลังจากรถจอดแล้วผมจะวิ่ง ...
ผมเตรียมพร้อม กำสายเป้แน่น เพราะกำลังตื่นเต้น ว่าตัวเองจะทำได้ไหม
“ ....................”
พอพี่พี่วุฒิจากรถ แล้วปลดประตูรถ ผมรีบเปิดก่อนที่จะพุ่งตัวออกไป แล้ววิ่งขึ้นบันไดไปชั้น1
“ จุม จะไปไหน?!!” พี่วุฒิร้องตาม ผมไม่ได้หันกลับไปมอง เอาแต่วิ่งจนถึงชั้นหนึ่ง แล้ววิ่งผ่านเคาร์เตอร์โอเปอเรเตอร์ก่อนที่ผลักประตูกระจกออกไปด้านนอก
“ จุม!” เสียงพี่วุฒิยังไล่ตามหลังและก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ขาผมจะถึงถนนอยู่แล้ว แขนก็ถูกกระชากอย่างแรงจนตัวถอยหลังก่อนที่วงแขนจะกอดรัดไว้ทั้งตัว
“ ปล่อยครับ!!” ผมร้องลั่นและดิ้น
“ วิ่งหนีพี่ทำไม!!??”“ ผมจะกลับบ้าน”
“ มาที่นี่สักนิดก็ไม่ได้หรอไง!”“ ไม่ครับ! ผมไม่ชอบที่นี่” ตอนนี้ผมไม่ดิ้นแล้วครับ เพราะดิ้นไปก็ไม่หลุดง่ายๆ อยากอ้อมแรงไว้รอพี่วุฒิเผลอดีกว่า
“ ทำไม!?”
“ ......................” ผมก็ตอบไม่ได้ บางครั้งผมมองบางมุมในห้อง ผมก็ขนลุกขึ้นมาเฉยๆ โดยเฉพาะห้องน้ำในห้อง ผมถึงกับร้องไห้หวาดผวากับสิ่งที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
“ อย่าวิ่งหนีไม่มีเหตุผลแบบนี้อีก”
“ ..............................” คนที่เดินพวกผมกำลังมองผมอยู่ ผมก้มหน้าหลบสายตาพวกเขา
“ กลับก็กลับ” พี่วุฒิบอกเปลี่ยนมาเป็นจูงผมแทน “ พี่จะพากลับบ้าน”
“ ผมจะกลับเอง”
“ อย่าดื้อจุม!”
ผมไม่ได้ดื้อเพียงแต่ผมคิดว่า พี่วุฒิจะพาผมกลับบ้านจริงไหม?
“ ....................ผมจะ..”
“ จุม!” พี่วุฒิพูดแทรก แล้วดึงแขนผมให้เดินตาม แต่ผมลังเล
“ อยากจะให้จะให้พี่อุ้มใช่ไหม?” พี่วุฒิหันมาถาม
“ ......................” ผมส่ายหน้าตอบ
“ จุมพี่สัญญา ว่าพี่จะพาจุมกลับบ้าน” พี่วุฒิบอก
พี่วุฒิสัญญานั่นหมายความว่าพี่วุฒิจะทำมันได้ใช่ไหม?
“ พี่สัญญาแล้ว ห้ามผิดสัญญานะครับ” ผมว่า
“ ถ้าพี่ผิดสัญญา พี่ให้จุมเตะช้างน้อยพี่ โอเคไหม?” พี่วุฒิถาม ผมเลยก้มลงไปมองเป้าพี่วุฒิโดยไม่รู้ตัว
“ ถ้าอยากมองขนาดนั้น ถึงบ้านเดี๋ยวถอดให้ดู”
“ ไม่ใช่นะครับ!!” 0_0 ผมปฏิเสธ รู้สึกสบายขึ้นแบบแปลกๆด้วย
“ แล้วจะกลับบ้านได้หรือยัง?”
“ ครับ” พยักหน้าตอบด้วย
พี่วุฒิกุมมือผมเดินเข้าประตูที่ผมวิ่งออกมาเมื่อกี้ แล้วพาผมไปที่รถ
* * * *
1. คำผิดตอน 50.20% ขอบคุณท่าน Narcissus
2. ท่าน padigree ชอบน้องจุม ระวัง Eพี่วุฒิเน้อ รายนั้นยิ่งหึงโหด55+
ปล.คงต้องหาที่วิ่งไล่จับให้น้องจุมกับพี่วุฒิ ประมาณหนังอินเดียว่างั้น