Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]  (อ่าน 632610 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I [Sun & Jom] : ไม่เคย



       ฉันไม่เคยรู้คนที่สำคัญ นั้นมีค่าแค่ไหน ฉันไม่เคยรู้ วันที่สวยงามนั้นมีค่าเท่าไร ไม่เคยรู้เวลาที่เรามีกัน นั้นดีเท่าไร ไม่เคยรู้ว่าความคิดถึงมันทรมานแค่ไหน ไม่เคย ไม่เคย ไม่เคย...

   กระจกบานใสสะท้อนแสงไฟตามตึกรามบ้านช่องจนความมืดแทบถูกกลืนหาย ผมกำลังนั่งมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย มีเพลงจากไอพอตรุ่นเดอะคอยขับกล่อมไม่ให้เงียบเหงา ผมอยากปล่อยสมองให้หยุดคิดเรื่องราวต่างๆ ลงบ้าง เฮ้อ ทำไมผมต้องทำเรื่องแบบนั้นไปด้วย ไม่เข้าใจตัวเอง ในขณะที่ผมกำลังนั่งเหม่อจมกับความคิดของตัวเอง เสียงเปิดประตูจากด้านหลังก็ทำให้ต้องหันไปมอง คนที่เข้ามาสวมชุดขาวไปทั้งตัว ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่เป็นมิตร

   “ขอวัดความดันคนไข้หน่อยนะคะ” เสียงนุ่มดังขึ้น ผมถอดหูฟังวางไว้ที่โซฟาก่อนลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างๆ เตียงคนป่วยที่นอนซมไม่ได้สติ “ความดันปกติค่ะ แต่ไข้ยังมีอยู่นะคะ” หลังจากเก็บอุปกรณ์เสร็จ คุณพยาบาลชุดขาวก็ขอตัวออกไป โดยทิ้งให้ผมยืนมองคนไข้ที่นอนหลับอยู่บนเตียง

   ผมยื่นมือไปแตะแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ หน้ามันร้อน ตัวมันก็ร้อน คงเพราะพิษไข้ที่พยาบาลบอกเมื่อกี้ ผมรีบเอาผ้าชุบน้ำสะอาดในอ่าง บิดผ้าให้หมาดแล้วเช็ดตามซอกคอที่ผมชอบงับเล่นและได้คำชมว่าเป็นหมามาแทบทุกครั้ง ผมเช็ดตัวให้คนไข้แบบนี้มาค่อนคืน ทั้งที่คิดว่าไข้น่าจะลดลงบ้าง แต่มันกลับยังสูงอยู่ ผมยกแขนของซันแล้วเช็ดเพื่อระบายความร้อนตามที่หมอบอกไว้ตั้งแต่ตอนเย็น

   “กูเหนื่อยแล้วเนี่ย” ผมบ่นเบาๆ แม้จะรู้ว่าบ่นไปคนนอนหลับคงไม่ได้ยิน แต่ก็อยากบ่น ที่มันต้องมานอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ก็เพราะผม เพราะความเอาแต่ใจของผมเอง

   จำได้ว่าตอนบ่ายวันนี้ ผมอยากกินส้มตำมาก ชวนใครก็ไม่มีใครไป พอซันกลับมาจากมหาลัย ทั้งที่หน้ามันดูเหนื่อยจากการเรียน แต่พอผมชวน มันก็ยิ้มแล้วพาผมออกไปหาร้านอร่อยๆ อย่างที่เคยทำเป็นประจำ ผมยังจำได้ดี ตอนที่เรานั่งรออาหาร ซันพร้อมจะหลับทุกเมื่อ ผงกหัวไปหลายรอบ ใจหนึ่งก็นึกสงสารแต่อีกใจก็อยากกินส้มตำมาก

        ที่ซันมีอาการง่วงแบบนั้นเพราะมันกำลังเรียนปริญญาโทต่อพร้อมไอ้แทมผู้ซึ่งถูกบังคับให้เรียน ต่างจากซันที่พอออกจากงาน มันก็ขอพ่อกับแม่เรียนต่อเพื่อเพิ่มความรู้ ยิ่งช่วงนี้ใกล้จะสอบด้วย งานมันเลยเยอะ บางคืนผมนอนหลับไปหลายตื่นแต่ก็ยังเห็นไอ้ซันมันนั่งอ่านหนังสือ อันที่จริงมันเป็นคนเรียนเก่งมาก ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ ไม่เคยได้ดีด๊อกสักตัว 

   “ถ้ามึงไม่รีบหาย กูจะไม่ให้มึงเข้าห้องปีหนึ่งนะ รีบๆ หาย” ผมเช็ดหน้าแดงๆ ของมันแล้วโป๊ะผ้าไว้บนหน้าผาก 

   ส้มตำรสจัดจ้านพริกแทบจะล้นถ้วย ในตอนนั้นผมอยากกินอะไรเผ็ดๆ เลยสั่งแบบใส่ไม่ยั้ง แต่พอมาจริงๆ กินไปแค่คำเดียวก็ต้องวางเพราะมันไม่ไหว แค่กลืนคำเดียวยังแสบร้อนไปทั้งท้อง แต่ไอ้ซันมันกินได้เพราะชอบกินเผ็ด ผมนั่งมองคนพามากินส้มตำพริกด้วยความสงสาร ใบหน้ามันเป็นสีแดงเข้ม เหงื่อไหลตลอดเวลา สุดท้ายมันก็กินจนหมด

   พอกลับถึงห้องได้ไม่ถึงชั่วโมง คนกินเผ็ดก็เริ่มออกอาการ ไอ้ซันวิ่งลอกเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น จนหลังๆ แทบคลานออกมา มันทั้งท้องเสียและอาเจียนจนผมต้องรีบพามาส่งโรงพยาบาลตอนเย็น คุณหมอบอกว่ามันอาหารเป็นพิษรุนแรง ต้องแอดมิทเพื่อให้น้ำเกลือและยา


   ...ถ้ารู้ว่าผมทำแบบนั้นแล้วผมจะต้องมานั่งเสียใจ ผมจะไม่มีวันทำอีก


   เสียงครางเบาๆ กับการขยับตัวนอนงอเป็นกุ้งเรียกสติให้ผมกลับมาสนใจ ใบหน้ากวนๆ ที่ผมเห็นตลอดเวลากำลังบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แขนสองข้างมันกุมท้องเอาไว้จนผมใจคอไม่ดีต้องกดเรียกพยาบาลเข้ามา ผมเห็นไอ้ซันถูกฉีดยาไปสองเข็มไม่รู้ว่ายาอะไร แต่คุณหมอที่เข้ามาด้วยบอกให้ผมเช็ดตัวเพื่อลดไข้ ผมรีบทำทันที เช็ดมันเกือบทั้งคืน บางทีตาแทบปิดแต่พอหัวแตะแขนร้อนๆ ผมก็สะดุ้งขึ้นมาแล้วก็เช็ดต่อ

   กลางดึก คนป่วยที่ผมดูแลปรือตาขึ้นมา ผมอาบน้ำเพิ่งเสร็จก็รีบพุ่งเข้ามาหา ไอ้ซันมองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูพยายามมาก

   “ปวดท้องเหรอ” ถามพลางขมวดคิ้ว

   “เปล่า” เสียงแหบแห้งและการขมวดคิ้วทำให้ผมรู้ว่าไอ้ซันมันโกหกอยู่

   “อย่าโกหกกู ปวดท้องใช่มั้ย” ถามย้ำอีกรอบ คราวนี้คนป่วยยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้า

   “ครับ”

   “ขอโทษนะ ถ้ากูไม่เอาแต่ใจมึงก็คงไม่ต้องมานอนโรงพยาบาลแบบนี้” โคตรรู้สึกผิดเลย

   “ไม่ได้โกรธอยู่แล้ว อย่าคิดมาก”

   ยิ้มให้คนที่ปลอบผมในยามที่น้ำตาใกล้ไหล ไอ้ซันพยายามยื่นแขนมาเพื่อจะเช็ดน้ำตาให้ผม แต่เรี่ยวแรงที่น้อยนิดทำให้แขนมันตกลงข้างเตียงแทนจนผมเผลอขำออกมา

   “อวดเก่งนะมึง” ผมว่า มือก็ยกแขนที่ตกไปเมื่อกี้ขึ้นมาจับที่หน้าตัวเอง ฝ่ามือร้อนประกบที่แก้ม ไอร้อนที่ซึมเข้าไปทำให้น้ำตาแทบไหล “ขอโทษที่ทำให้มึงเจ็บ”

   “เมียกูเป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” นี่ถ้ามันไม่ป่วย ผมพุ่งศอกใส่มันแน่ๆ พูดอีกไม่กี่ประโยค ไอ้ซันก็ผล็อยหลับไปอีก คงเพราะฤทธิ์ยาและพิษไข้ ผมยืนมองพลางเช็ดตัวคนมีไข้อยู่ตลอด อยากให้มันหายไวๆ ผมโคตรคิดถึงอ้อมกอดของมันเลย



   
       เช้าวันใหม่ หลังจากผมอาบน้ำเพื่อเรียกความสดชื่นให้ตัวเองหลังจากอดนอนมาทั้งคืน ออกมาผมเห็นคนป่วยนอนหลับตาพริ้ม สองขาเดินเข้าไปหา ผมลากเก้าอี้มาข้างๆ เตียง ยื่นมือจิ้มจมูกโด่งๆ ผมชอบหน้ากวนๆ ของมันนอนหลับเพราะดูไม่มีฤทธิ์เดช ปากแดงๆ นี่ก็ไม่อ้ามาบ่น แบบนี้แหละที่ผมชอบ

   “อือ” เสียงแผ่วๆ ดังมาจากคนที่นอนอยู่ ผมลุ้นว่ามันจะลืมตาขึ้นมามองหรือเปล่า ลุ้นอยู่นานแต่มันก็ไม่ยอมลืมตาจนผมนั่งทิ้งตัวนั่งเก้าอี้ข้างๆ มันอีกรอบ “หิวน้ำ” เสียงบอกความต้องการของคนไข้ทั้งที่ตายังปิด ผมรีบเทน้ำใส่แก้วแล้วหย่อนหลอดลงไป
 
   “ค่อยๆ กินนะ” ผมประคองคนที่นอนยกตัวขึ้นมาหน่อยเพื่อให้กินน้ำได้สะดวก พอน้ำไหลลงคอไป ดวงตาที่ชอบจ้องจนผมเขินก็ลืมขึ้น “เอาอีกมั้ย หรืออยากกินข้าว ปวดท้องมั้ยหรือจะ...”

   “ฟังไม่ทัน” เสียงขัดที่แหบพร่าทำให้หยุดพูดทันที

   “ปวดท้องอยู่หรือเปล่า” ผมวางแก้วบนโต๊ะก่อนนั่งจ้องหน้าคนป่วยที่ยิ้มอ่อนๆ มาให้ หน้าตาไอ้ซันดูดีขึ้น คงเพราะได้นอนเต็มอิ่ม

   “นิดหน่อย” พยักหน้าให้กับคำตอบ พอดีกับคุณหมอและพยาบาลเดินเข้ามา ผมก็รีบถอยให้ทันที

   คุณพยาบาลตรวจเช็กนั่นนี่เสร็จก็ขอตัวออกไป เหลือแค่คุณหมอที่ยังยืนยิ้มอย่างอ่อนโยน

   “ไข้ลดลงแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกโรงพยาบาลได้ครับ” ผมยิ้มให้คุณหมอ ก่อนมองเลยไปยังคนป่วยที่นอนกระพริบตาปริบๆ

   “ขอบคุณครับ” บอกก่อนคุณหมอจะเดินออกไป ผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ไอ้ซันมองหน้าผมนิ่งๆ จนอดที่จะถามไม่ได้ “มองทำไม”

   “ยิ้มให้กูคนเดียวพอ” เบิกตากว้างให้สิ่งที่ได้ยินแล้วขำพรืดออกมา

   “มึงหึงกูเหรอ” ถามพร้อมเสียงหัวเราะ แต่คนป่วยกลับทำหน้าบึ้ง “เออน่า ก็แค่ยิ้ม อย่าติดนิสัยขี้หวงมาจากไอ้โชหน่อยเลย” พอนึกถึงวีรกรรมขี้หึงของไอ้โชก็ขยาดขึ้นมา เล่นตามไอ้กลอยเกรียนชนิดที่ว่า เงินมือถือเพิ่มล้านก็หมดภายในวันเดียวประมาณนั้น ตั้งแต่ถูกไอ้เด็กปีหนึ่งสามคนรุมตอมจนมาถึงบุรุษปริศนาส่งจดหมายมาให้ทุกวัน จนผมต้องตั้งชื่อโรคให้เพื่อนตัวเองว่ามันเป็นโรค ขี้หึงขึ้นสมอง หรือขี้หึงริซึ่ม

   “กูมีเมียคนเดียวจะให้หึงใครล่ะ” ไอ้ซันว่า

   “ปากดีแบบนี้วันนี้ก็ออกโรงพยาบาลได้แล้วละมั้ง” เหล่ตามองไอ้คนที่เอาแต่หัวเราะ เห็นว่าป่วยอยู่หรอกนะถึงยอมให้เนี่ย “เอ่อใช่ เมื่อวานพ่อกับแม่มึงมาเยี่ยมด้วยนะ ซื้อซุปไก่มาให้ด้วย”

   “เชี่ย” ผมหัวเราะมันบ้างหลังจากเห็นหน้าตาบิดเบี้ยว ไอ้ซันไม่ชอบซุปไก่สกัดถึงขั้นเกลียดอย่างรุนแรง เพราะมันเคยถูกบังคับให้กินแล้วอ้วก จากนั้นแค่เห็นมันยังไม่ปลื้ม

   “ล้อเล่น แม่มึงซื้อรังนกมาให้ต่างหาก นู้น” พยักพเยิดหน้าไปที่โซฟา กล่องรังนกสีแดงโดดเด่นจนคนป่วยยิ้มออกมา

   “ได้นอนบ้างหรือเปล่า” อยู่ๆ ไอ้ซันก็ถามออกมา ผมมองหน้ามันก่อนส่ายหน้าช้า “แล้วกินข้าวหรือยัง” ก็ยังส่ายหน้าอยู่ “รักกูมากสินะถึงไม่รักตัวเองน่ะ”

   “พออ้าปากได้ก็บ่นเลยนะ” ผมหน้ามุ่ยทันที

   “ก็เพราะเป็นห่วง ไปหาข้าวกินก่อน กูอยู่คนเดียวได้” ทำหูทวนลมจนมีเสียงเรียกชื่อนิ่งๆ “จอม”
 
   “เออๆ แม่ง ขี้บ่นจังวะ”

   “ที่บ่นก็เพราะห่วง”

   “รู้แล้วน่า พูดมาก งั้นกูไป...” ยังไม่ทันพูดจบ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมเสียงโวกเวกโวยวายไม่สนว่าที่ยืนอยู่มันคือที่ไหน เสียงแบบนี้ไม่ใช่คนอื่นแน่นอนนอกจาก

   “ไอ้เชี่ยติน ปากมึงนี่นะ” เสียงไอ้แทมดังมาก่อนตัว มันเบียดแทรกไอ้ตินเข้ามาหลังจากประตูเปิดออก “ไฮ คุณซันเพื่อนรัก ใกล้ตายหรือยัง” ดูปากมัน

   “จะตายเพราะมึงมานี่แหละ” ไอ้ซันตอบกลับนิ่งๆ พวกที่มาด้วยถึงกับหัวเราะ “มาทำไมแต่เช้าวะ”

   “เพราะกูห่วงมึงไงเพื่อน กะจะมาตั้งแต่เมื่อคืน แต่ขี้เกียจ อีกอย่างมึงหนังเหนียวไม่ตายง่ายๆ หรอก” ไอ้แทมทำหน้าลอยไปลอยมา พอเห็นถุงส้มที่วางอยู่มันก็หยิบมากิน ไอ้นี่ตลกแดกตลอด

   “เป็นไงบ้างมึง ไอ้จอมใช้ทั้งคืนเหรอ สภาพโคตรแย่” ผมกระโดดถีบขาคู่ใส่ไอ้ตินทันที ดีมันหลบทัน แต่มีคนโดนลูกหลง ไอ้กลอยเกรียนถึงขั้นจะล้ม ถ้าไม่ได้ไอ้โชรับไว้ แล้วแบบนี้ผมจะเหลือเหรอ...

   “ไอ้เหี้ยจอม เดี๋ยวมึงจะโดน” แม้มาแค่คำพูด แต่สายตามันฆ่าผมเรียบร้อย ส่วนไอ้เกรียนมันก็เบ้หน้าสำออยใส่แฟนมัน

   “อย่าได้ไปแตะเด็กมันนะมึง แค่มันฝันยังทำกูซวยเลยไอ้ห่า” ไอ้แทมพูดไปกินส้มไปอย่างน่าหมั่นไส้

   “ผมก็ขอโทษพี่ไปแล้วไงเล่า” ไอ้กลอยมันว่าก่อนมันจะเดินมายืนข้างเตียง “ผมซื้อเกลือแร่มาฝาก” มือขาวชูถุงเกลือแร่ให้ดู ไอ้ซันยิ้มแล้วขอบใจมันไป เห็นมีคนเต็มห้องผมเลยจะออกจากห้อง

   “ไปไหนวะไอ้จอม” ถูกไอ้ตินร้องทัก

   “หาข้าวกิน” ตอบไปแล้วเดินออกมาไม่ฟังเสียงคนสั่งให้ซื้อของกิน ขี้เกียจเดินก็ไม่ต้องกิน

   ผมลงมาที่ชั้นโรงอาหาร สั่งข้าวไปแล้วนั่งรอ ไอ้ตานี่ก็หนักซะจริงๆ พอนั่งอยู่เฉยๆ ดันง่วงมาซะงั้น มันเหมือนสติจะวูบอยู่ตลอด อยู่ๆ สมองผมก็หยุดทำงาน ภาพทุกอย่างกลายเป็นสีดำ...หิวจนท้องร้องแต่ตาเปิดไม่ขึ้น ได้กลิ่นข้าวขาหมูที่สั่งแต่ยกหัวไม่ขึ้น พอดีกับมีแรงเขย่าที่แขน ผมพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ปรือตาขึ้นมองเห็นแฟนเพื่อนมานั่งจ้องตาแป๋ว

   “พี่หลับโคตรนาน” เสียงไอ้กลอยปลุกให้ผมดันหัวตัวเองขึ้นมา

   “นานแค่ไหน” เสียงแหบเหมือนเพิ่งตื่นนอน

   “สามสิบนาที” แทบไม่อยากเชื่อ แต่พอดูนาฬิกาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ “ข้าวพี่เย็นแล้วหมด รีบๆ กิน”

   “มึงมานั่งนานแล้วเหรอ” ถามพร้อมกับยัดข้าวลงท้อง

   “เดินตามหลังพี่มาเลยเถอะ ถูกใช้ให้มาซื้อของ” ไอ้กลอยทำหน้ามุ่ย ของที่ถูกสั่งซื้อวางอยู่บนโต๊ะ “พี่ดูแลพี่ซันทั้งคืนเหรอ”

   “เออสิ งั้นใครจะดู ถามไม่คิดนะมึง”

   “เอ้า”

   “ปะ ขึ้นไปได้แล้ว” อิ่มแล้วผมก็รีบหิ้วไอ้กลอยขึ้นไป เห็นมือถือตัวเองมีมิสคอลอย่างเยอะ ส่วนใหญ่ก็ของไอ้โชกับไอ้ซัน “มือถือมึงล่ะ” เหล่ตามองคนที่เดินเคียงข้างมา

   “ฝากไว้ที่พี่โช” มิน่าล่ะ มันถึงกระหน่ำโทรหาผม “เดือดร้อนกูตลอด”

   พอมาถึงห้อง ไอ้กลอยก็ถูกแฟนมันบ่นจนพวกผมเอือม ส่วนผมก็ถูกสายตาดุจ้องมา มันไม่กล้าจะว่าผมเท่าไหร่ ไม่ใช่กลัวผมหรอก แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น เสียงบ่นกับเสียงโวยวายทำให้คนป่วยเริ่มหงุดหงิด

   “พวกมึงออกห้องกูไปได้แล้ว หนวกหูเหี้ยๆ” ไอ้ซันว่า

   “กูอุตส่าห์มาเยี่ยม ไล่กูเหรอ เสียใจ” สีหน้าและน้ำเสียงของไอ้แทมไม่น่าเชื่อถือสักนิด

   “เออกูไล่”

   “เชี่ย กูไปก็ได้” ไอ้แทมสะบัดหน้าทำงอน

   “นัดกิ๊กล่ะสิมึง กูรู้ทัน” ไอ้ตินขัดแล้วเตะขาเพื่อนมัน

   “เออ”

   ผมยืนดูเพื่อนตัวเองที่สติไม่ค่อยจะเต็มออกห้องไป ส่วนคู่รักที่บ่นกันเมื่อกี้ออกไปก่อนหน้าแล้ว พอพวกมันไป ห้องก็กลับมาเงียบงันอีกครั้ง ไอ้ซันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จนผมขำ

   “อะไร” มีเหวี่ยงด้วยเว้ย

   “เปล่า” ผมว่า

   “ทำไมมาช้าวะ ไปไหนมา” คิ้วเข้มขมวดเป็นปม

   “ก็กินข้าวนั่นแหละ”

   “กินหรือไปปลูกวะ นานเหี้ย”

   “กินแต่กูเผลอหลับที่โต๊ะ ไอ้กลอยไปปลุก” แค่นั้นแหละครับ หูผมก็ชาไป เริ่มเข้าใจความรู้สึกของไอ้เกรียนแล้วเวลาถูกบ่นหนักๆ “ขี้บ่นจังวะ”

   “กูบ่นเพราะ...”

   “ห่วง กูฟังจนจะจำขึ้นใจแล้ว”

   “จำแล้วก็ดี”

   ผมมองหน้าไอ้คนขี้งอน ท่าทางแบบนี้แสดงว่ามันกำลังงอนผมอยู่

   “กูง่วง” บอกพร้อมกับอ้าปากหาววอดๆ ไอ้ซันมองหน้าผม รอยยิ้มที่หายไปกลับมาอีกครั้ง ผมเห็นมันขยับตัวไปชิดขอบเตียงอีกฝั่ง

   “ขึ้นมานอนด้วยกันสิ” คนป่วยตบที่ว่างข้างๆ เบาๆ

   “กูนอนโซฟาได้” ผมบอก แต่คนป่วยย่นคิ้ว “เออๆ” ผมกลั้นยิ้มแล้วขึ้นเตียงไปนอนข้างๆ

   เตียงโรงพยาบาลขนาดเล็กไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยชายกับคนเฝ้าไข้นอนด้วยกัน ผมขยับตัวแทบชิดคนไข้ ไอ้ซันยกแขนที่มีสายน้ำเกลือโอบผมเอาไว้ อ้อมกอดอุ่นๆ กับกลิ่นที่คุ้นเคยทำให้ตาผมหนักอึ้งอีกครั้ง คราวนี้ผมคงนอนหลับได้อย่างสบายสินะ



   คนเอาแต่ใจหลับไปแล้ว ส่วนคนป่วยกำลังมองคนในอ้อมกอดอย่างรักใคร่และหวงแหน เขาไม่ใช่คนขี้บ่น ตั้งแต่เกิดจนโตมา ไม่บ่อยนักที่เขาจะบ่นกับใคร เพราะเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ แต่กับคนในอ้อมกอดทำแบบนั้นไม่ได้ นั่นเพราะมันดื้อ ไม่ใช่ดื้อธรรมดาซะด้วย ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นคนขี้บ่นขึ้นมา

   “มึงนี่นะ ชอบทำให้กูห่วงอยู่เรื่อย” ซันลูบผมนุ่มเบาๆ รอยยิ้มที่จุดประกายมุมปากเรียกสายตาของคนที่เข้ามาใหม่ได้เป็นอย่างดี ดวงตาคมจ้องมองคนที่เข้ามาพร้อมถาดยา

   “หลับปุ๋ยเชียวนะคะ” เสียงติดขำพูดขึ้น “คงไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อคืนก็เช็ดตัวจนถึงเช้า ไข้เลยลดลงไว” ซันเบิกตานิดๆ เมื่อได้ยิน จอมที่รู้จักไม่ใช่คนที่ทำอะไรแบบนั้น มันไม่เคยดูแลใคร ขนาดพ่อแม่ป่วยยังจ้างพยาบาลดูแล แต่กับเขาต้องทำในสิ่งที่ไม่เคย

   “เป็นพวกขี้กลัวเกินเหตุครับ” ซันว่า รอยยิ้มอ่อนโยนจนพยาบาลยังรู้สึกอิจฉานิดๆ แม้จะมีสามีอยู่แล้วก็ตาม

   “น่ารักจังนะคะ เขาคงรักคุณมากแน่ๆ” พยาบาลสาวบอกพร้อมกับขอตัวออกไปหลังจากคนป่วยทานยาอย่างทุลักทุเลเสร็จแล้ว

   เมื่อพยาบาลออกไป ซันก้มมองคนในอ้อมแขนอีกรอบ ฝ่ามืออุ่นเกลี่ยผมที่ปิดหน้าผากมนออก เขายื่นหน้าจูบเหม่งน้อยเบาๆ

   “ขอบคุณนะครับ”







   (กลอยประเกรียนอยากแจม)

   บนรถที่จุดหมายคือคอนโด ผมนั่งทำหน้ามุ่ยมาตลอดทาง นั่นเพราะถูกบ่นเรื่องไปซื้อของแล้วหายไปนาน ไม่ได้ไปไหนเลย แค่นั่งเฝ้าพี่จอมแค่นั้น ผมเดินตามหลังมาไม่นาน พอมาถึงที่โต๊ะก็เห็นพี่จอมนั่งผงกหัวแล้วก็คอพับไปเลย ผมตกใจรีบวิ่งไปหา กลัวจะเป็นอะไร ที่ไหนได้...หลับ

   “อะไรอีก” เสียงพี่โชดังขึ้น ผมหันไปมอง

   “บ่นอะไรอีกปีศาจ” ผมมองตามพี่โชไปด้านหน้า รถที่ติดยาวทำให้ชะโงกหน้าดู “เหมือนรถจะชนนะ”

   “รถติดขนาดนี้ยังมาชนอีก เมื่อไหร่จะถึงล่ะเนี่ย” ปีศาจขี้บ่นเริ่มอีกแล้ว ช่วงนี้พี่โชหงุดหงิดง่าย หรือว่าจะวัยทองก็ไม่รู้ สงสัยต้องหาน้ำเต้าหูมาให้กินเพื่อปรับฮอร์โมน

   ช่วงที่นั่งรอตำรวจเคลียร์สถานที่เกิดเหตุเพราะรถขยับไม่ได้เลย ผมนั่งคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็เอ่ยปากถามออกไป

   “เพื่อนพี่แม่งโคตรเล่นใหญ่อะ” พี่โชหันหน้ามามองอย่างสงสัย “ก็พี่ซัน เล่นโคตรใหญ่ กะอีแค่ท้องเสียเข้าโรงพยาบาล ทำเหมือนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”

   “คิดมาได้นะ” เริ่มเห็นรอยยิ้มของปีศาจมาบ้าง

   “ก็จริง ผมก็เคยเหอะ ท้องเสียเข้าโรงพยาบาลเนี่ย ไม่เห็นเป็นแบบพี่ซันเลย”

   “รู้ได้ยังไงว่าไม่เหมือน”

   “รู้สิ ก็ผมนอนแค่วันเดียว พี่เอาแต่นั่งทำงาน อีกวันก็กลับ” พูดถึงก็แอบน้อยใจ

   “พี่เช็ดตัวให้ตลอดเถอะ พอกลอยตื่นมาก็ร้องหาของกิน”

   “มั่ว” ไม่เห็นรู้ตัวเลย

   “ไม่มั่ว” ยืนยันหนักแน่นอีกต่างหาก

   “มั่ว โหย ช้าว่ะ รถติดขนาดนี้” รีบเปลี่ยนเรื่อง ผมเปิดประจกรถแล้วจะยื่นหน้าออกไปดู แต่พี่โชตะโกนว่ามอเตอร์ไซค์ ผมก็รีบดึงหัวกลับเข้ามาแบบไม่ทันระวังตัว...

   เต็มๆ หัวโขกกับกรอบประตูรถเต็มๆ โคตรเจ็บ เสียงดังโป๊กจนพี่โชทำหน้าตาตื่นตกใจถลาเข้ามาดู ผมเหล่ตามองก่อนร้องโอดโอยเต็มที่

   “เจ็บอะ เจ็บโคตรๆ” พยายามบีบน้ำตาแห้งๆ ให้ดูน่าสงสาร พี่โชหน้าซีดไปหมด มือก็ลูบคลำหัวตรงที่ผมชน “พี่โชเจ็บ”

   “ไปโรงพยาบาลมั้ย”

   “ไม่เอา” มุ่ยเมื่อพี่โชจะพาไปโรงพยาบาล พี่โชเลิกคิ้วก่อนหัวเราะร่วนจนผมแปลกใจ “ขำอะไร”

   “ว่าคนอื่นเล่นใหญ่ ตัวเองเล่นเล็กมากเลยนะ” เสียงพูดติดขำของปีศาจยิ่งทำให้ผมหน้ามุ่ย


   “ไม่พูดด้วยแล้ว รีบๆ ขับเลย อยากกลับแล้ว” กอดอกสะบัดหน้าออกนอกถนน รำคาญคนที่รู้ทัน เบื่อปีศาจด้วย ... แต่ผมรู้แล้วว่าทำไมคนป่วยถึงเล่นใหญ่ คงอยากให้อีกคนสนใจ เป็นวิธีการเรียกร้องความสนใจนั่นเอง ซึ่งผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ไอ้กลอยประเกรียนเป็นพวกตรงๆ ครับ       


........................................................................

มาเพราะความคิดถึง อั๊ยย่ะ  :o8: :o8:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
กลอยน่ารัก~~~~~~~~~~~

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ตอนนี้นี่อ้อนผัวอ้อนเมียกันใหญ่ อิจฉาา
กลอยมันเกรียนทุกตอนจริงๆ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ตอนเห็นขึ้นต้นนึกว่าจะดราม่าหนักซะแล้ว ที่ไหนได้พี่ซันป่วยนี่เอง ดีแล้วตอนพิเศษต้องหวานๆสิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อ่านไป ยิ้มไป เวลาเพื่อนๆ พี่โช เขาเจอกัน :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ซัน จอม  :mew1: :mew1: :mew1:
จอม ยิ้มให้หมอ ก็ไม่ได้
ซัน ก็ขี้หึงไม่แพ้พี่โช นะ
อยากรู้ ใครคู่พี่แทม พี่ติน  :ling1: :ling1: :ling1:
พี่โช กลอย หวานรัก พี่โชรักกลอยเกรียนสุดๆ เลย
ยังขำพี่โช อาละวาดใส่พี่แทม
"อย่าได้ไปแตะเด็กมันนะมึง แค่มันฝันยังทำกูซวยเลยไอ้ห่า"
พี่โช ยังหนุ่มแน่น แท้ๆ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ไม่น่าเป็นโรคนี้เลย โรคขี้หึงลิสึ่ม รักกลอยมาก ก็ยังงี้แหละ 
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 20:59:06 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ดีใจๆๆๆๆคนแต่งมาเพราะคิดถึง คนอ่านก็รออยู่ด้วยความคิดถึงจังเลยค่ะ :กอด1:
จอมน่ารักมากๆขนาดพยาบาลอิจฉา555+อ่านแล้วมีความสุขจังเลยค่ะขอบคุณมากๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ซัน จอม มุมที่น่ารักๆ  :-[

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
นางกลอยประเกรียน แย่งซีนตลอดๆๆๆ :katai5: :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TuiLoveKhaKing

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลอยนี่มันเกรียนทุกตอนจริงๆ 5555555

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
กลอยเกรียนก็เล่นใหญ่มากเช่นกัน ดูซิหัวโขกเลย ถถถ  :laugh:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
จอมน่ารักจัง
ขอตอนพิเศษอีกเยอะๆเลยนะคะ
ชอบมากเลย

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พี่จอมน่ารักอ่ะ กลอยแค่แจมยังกวนได้อีกนะ o13 o13

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ littlepink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักทุกคู่เลย

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
ตอนพิเศษดี๊ดี
ถ้าว่างมาต่ออีกนะคะ
คิดถึงทุกคนในเรื่องเลย

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I ตอนพิเศษ : Hello Halloween



       ฟักทอง ฟักทอง ฟักทอง ผมพูดวนคำๆ นี้มาหลายรอบมาก ที่วนหลายรอบเพราะตอนนี้ผมกำลังตามหามันอยู่ อาจารย์ประจำวิชาบอกให้พวกผมตามหาฟักทองแล้วดรออิ้งไปส่งภายในวันนี้ พระเจ้า แค่วันเดียวเท่านั้น หากไม่ทันคะแนนยี่สิบคะแนนจะหลุดลอย แม้มันจะดูน้อยนิด แต่คะแนนนั้นก็สามารถช่วยยื้อชีวิตของไอ้กลอยผู้นี้ได้

   ผมเดินมากับกลุ่มปากหมากลุ่มเดิม พวกมันเอาแต่จิ้มโทรศัพท์ยิกๆ จนไม่ยอมหาฟักทอง แล้วทำไมต้องวาดฟักทอง? ก็เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเดือนตุลาคม สำหรับผมก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่ง แต่กับกลุ่มคนมากมายหลายสิบล้านบนโลกอาจจะรู้จักว่ามันเป็นวันฮาโลวีน หรือวันปล่อยผีฝรั่ง ผมว่า อาจารย์ต้องดูหนังมากไปแน่ๆ ถึงได้มาลงกับนักศึกษาตาดำๆ แบบพวกผม

   “พวกมึงไม่ช่วยกูหาเลยรึไง” ผมเหวี่ยงใส่พวกไอ้สักที่มันไม่ยอมเงยหน้าจากมือถือของตัวเอง จะสนใจอะไรนักหนา หรือพวกมันจะโหลดหนังโป๊มาดูแล้วไม่ชวนผมวะ???

   “มึงก็หาไปก่อน กูกำลังคิดเลข” เป็นไอ้ต๋องที่ตอบออกมาแทน ผมทำหน้าฉงนจนมันต้องเงยหน้ามาตอบให้เข้าใจ “พวกกูกำลังคำนวณเลขหวย”

   เข้าใจในบัดดลเลยไอ้กลอย

   คะแนนยี่สิบคะแนนยังสู้เลขเด็ดไม่ได้ อยากจะบ้าตาย

   “พวกมึงเอาไว้คิดวันอื่นสิวะ ตอนนี้ต้องหาฟักทองก่อน” ผมส่ายหน้าให้เพื่อน จนโดนเสยหัวมาทีหนึ่งอย่างเจ็บแสบ

   “นี่สิ้นเดือน พรุ่งนี้หวยออก ไม่หาวันนี้จะให้หาวันไหน” ไอ้สักว่า

   “ใช่ ขืนหาพรุ่งนี้เจ้ามือปิดรับพอดี พวกกูอดแทง” นี่เสียงไอ้เคตอบ แต่ที่น่าตกใจคือไอ้ทูที่มันกำลังยื่นคอเข้าไปดูอย่างสนใจ

   “ไอ้ทู มึงสนใจหวยด้วยเหรอวะ” ถามอย่างสงสัย ไอ้ทูละสายตาจากมือถือไอ้สักมาจ้องหน้าผม

   “เลขมันเด็ดจริงๆ นะมึง ถูกมาแล้วห้างวดติด” ไอ้ทูว่าอย่างตื่นเต้น ห้างวดติดเลยเหรอเนี่ย แบบนี้ก็น่าสนนิดๆ เหมือนกันนะ

   “แล้วงวดนี้เลขอะไรวะ” ไม่ได้อยากรู้มากมายหรอกนะครับ แค่ฟังไปงั้นๆ

   “เห็นว่าเก้ามาแรง”

   “เก้าอะไรวะ”

   “ไอ้สักกำลังคิดเนี่ย”

   แล้วไอ้ทูก็เลิกคุยกับผมเพราะไอ้สักคำนวณได้แล้ว ผมส่ายหน้าให้กลุ่มเพื่อนอย่างระอา สรุปพวกมันชอบทุกอย่าง ทั้งหวย ทั้งบอล ผมละกลัวแทนจริงๆ หากวันไหนล้มมาเจ้ามือเอาเละแน่ เคยได้ยินข่าวแว่วๆ เรื่องเด็กวิศวะมันติดหนี้แล้วถูกเอาตัวไปขัดดอก หูย โคตรน่ากลัว

   แม้วันนี้จะเป็นวันใกล้หวยออก เอ้ย ฮาโลวีน นักศึกษามากมายก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีใครแต่งตัวเป็นผีมาสักคน ก็แหม ขืนแต่งมาถูกพาเข้าห้องมืดแน่ (ห้องมืดคือห้องของอาจารย์ที่ปรึกษาที่ชอบอยู่มืดๆ ไม่ยอมเปิดไฟเพราะกลัวเปลือง)
 
   “เชี่ย นั่นฟักทอง” ผมแหกปากดังลั่นเมื่อเห็นกลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งถือขนมฟักทองสังขยาออกมาจากโรงอาหาร ผมรีบพุ่งเข้าไปหา เด็กปีหนึ่งพากันตกใจจนเกือบจะวิ่งหนี “น้องซื้อมาจากไหนเหรอ” ทำตาเป็นประกายมองขนมในมือของรุ่นน้อง

   “ระ ร้านขนมหวานค่ะ เพิ่งเปิดใหม่” น้องคนที่ถือชี้เข้าไปในโรงอาหารกลางที่พวกผมไม่ค่อยได้มาสักเท่าไหร่เพราะงานล้นจนขยับลำบาก

   “จริงเหรอ ขอบใจนะ” ฉีกยิ้มส่งท้ายก่อนจะวิ่งเข้าไปในโรงอาหาร เสียงวี๊ดร้องเบาๆ ดังมาจากด้านหลัง คงมาจากน้องนักศึกษากลุ่มนั้นแน่ๆ พอผมหันไป น้องเขาก็ส่งยิ้มมาให้ทุกคน

   ผมเดินนำเข้าโรงอาหารไปก่อนพวกที่สุมหัวหาเลขเด็ด ร้านเป้าหมายมีฟักทองที่ตามหาอยู่จริงๆ รีบเดินไปซื้อพร้อมกับแจกยิ้มหวานให้แม่ค้าคนสวย พอเดินกลับมาที่กลุ่มเพื่อน พวกมันก็ยังคิดเลขไม่ลงตัว ไอ้สักทำหน้ามุ่ยคิ้วขมวดจนผมคิดว่า ถ้าส่งมันไปแข่งคิดเลขโอลิมปิกคงได้เหรียญกลับมาแน่ๆ จริงจังสุดๆ

   “พวกมึงสนใจงานบ้างไอ้ห่า คิดเลขหวยอยู่นั่นแหละ” เริ่มโมโห พอผมว่าไปไอ้ต๋องทำแค่เงยหน้าแล้วแลบลิ้นใส่ “พวกมึงไม่ต้องคิดให้ยุ่งยาก งวดนี้กูบอกเลยออกเจ็ดสาม” บอกอย่างเหลืออด ไอ้ทูถึงกับหัวเราะออกมา

   “เออๆ ถ้ากูซื้อเจ็ดสามแล้วไม่ออกนะ มึงเลี้ยงข้าวพวกกูด้วย”




   กว่าจะส่งงานเสร็จก็เกือบเย็น ไอ้ผมก็ไม่เท่าไหร่ แต่พวกคิดเลขมันยังคงวุ่นวายกับหวย พอจะส่งงานที อาจารย์เกือบจะปิดห้อง ยังดีที่ผมใส่เกียร์หมาไปถึงห้องก่อน โดนจิกด้วยหางตานิดๆ แต่ด้วยความที่ผมหล่ออาจารย์เลยยอมให้ส่ง เพราะผมหล่อเลยนะครับเนี่ย (เสยผม)

   วันนี้วันสิ้นเดือน ของในห้องหลายอย่างหมดไปแล้ว ขืนรอไปซื้อพร้อมพี่โชคงต้องรอเดือนถัดไป ผมเลยตัดสินใจไปซื้อคนเดียว ดีที่มีโอกาสได้สุดที่รักคืนมา แม้จะได้แบบชั่วคราวไม่ตลอดไปก็เถอะ เพราะช่วงนี้พี่โชงานหนัก อีกทั้งเดี๋ยวก็ฝน เดี๋ยวก็แดด เดี๋ยวก็หนาว เอาแน่เอานอนกับอากาศไม่ได้ ผมเลยได้สุดที่รักมาใช้ คงต้องขับระวังสักนิดไม่งั้นจะถูกยึดไปอีก

   ห้างซุปเปอร์สโตร์ใกล้คอนโดดูคึกคัดกว่าทุกวัน คงเพราะสิ้นเดือน แต่เอ...สิ้นเดือนก็เหมือนสิ้นใจคงไม่ใช่ หรืออาจจะเป็นวันฮาโลวีน ดูได้จากพนักงานบางคนแต่งตัวเหมือนผีบิดลูกโป่งแจกเด็กๆ แต่ผมว่า แต่งแบบนั้นไม่มีเด็กเข้าใกล้หรอก คงมีเฉพาะพวกจิตแข็งเท่านั้น

   ผมเข็นรถเข็นไปตามโซนต่างๆ จนมาหยุดที่โซนแป้งฝุ่น พอเห็นแล้วก็เกิดไอเดียบางอย่าง ผมหยิบแป้งเด็กกระป๋องสีฟ้าสูตรอ่อนโยนมาหนึ่งแพ็ค แล้วก็ออกตามหาของอื่นๆ ต่อ...พอได้ของครบก็จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตที่พี่โชให้ไว้ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะให้ไม่จำกัดวงเงิน แต่ปีศาจให้วงเงินมาไม่มาก เหตุผลเพราะกลัวผมเอาไปกินเหล้า บ้าแล้ว คิดได้ยังไง ถ้าผมจะกิน ต้องมีคนเลี้ยงสิ ไม่ออกเงินหรอก

   ขับรถกลับคอนโดด้วยความสุข ภาพบางอย่างที่ตั้งใจไว้ฉายเป็นเรื่องราวอย่างน่าสนใจ สนุกแน่วันนี้ ไอ้กลอยคนนี้ไม่ยอมตกเทรนแน่นอน

   ขนข้าวของที่ซื้อมาขึ้นห้อง เสร็จแล้วก็รีบทำกับข้าวไว้รอ พี่โชส่งข้อความมาบอกจะกลับค่ำหน่อย ช่างเหมาะกับแผนการที่คิดไว้ซะจริง ผมตั้งคอนเซปไว้แล้วว่า ฮัลโหล ฮาโลวีน อีน อีน อีน (จะแอ็คโค่ทำไมไอ้กลอยสุดหล่อ)

   ทำกับข้าวง่ายๆ ไว้สองสามอย่างก่อนจะรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะพี่โชออกจากบริษัทมาแล้ว จากที่นั่นมาคอนโดใช้เวลาราวๆ ชั่วโมงครึ่งบวกลบกับการจราจรที่แน่น แบบนี้ต้องทำเวลาสักหน่อย ผมอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเสร็จก็ออกมาด้านนอก แกะแป้งออกมาแล้วเทมันทั่วตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมว่า งานนี้มีเซอร์ไพร์ส.....

   แต่งตัวทุกอย่างเรียบร้อยก็โทรถามพี่โชว่าอยู่ที่ไหนแล้ว ปลายสายตอบว่ากำลังจะขึ้นลิฟต์ ผมก็ตาลีตาเหลือกวิ่งออกจากห้องทันที ไปแอบอยู่ซอกมุมตึกรอดูการเคลื่อนไหวของคนที่รอ พอประตูลิฟต์เปิดออกผมรีบผลุบเข้าซ่อน แต่ดันไม่ใช่พี่โชซะงั้น เป็นคนที่พักที่นี่เหมือนกัน พอพี่เขาเดินมาเห็นผมเข้า ถุงของใช้ที่หิ้วมาร่วงหล่นเต็มพื้นพร้อมเสียงกรีดร้อง ผมรีบวิ่งเข้าไปช่วยแต่พี่เขากลับถีบเข้าท้องมาเต็มๆ


   โคตรจุก


   อาจเพราะถีบผมได้ พี่เขาเลยเงียบลงแล้วด่าพอเป็นกษัย ผมก้มหัวขอโทษอีกหลายรอบจนพี่เขาเข้าห้องไป นี่ผมแต่งตัวได้น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ไปสมัครเป็นช่างเอฟเฟคเมืองนอกได้เลยนะเนี่ย รู้สึกยืดนิดๆ จนเสียงประตูลิฟต์ดังอีกรอบ คราวนี้น่าจะใช่ ผมรีบกระโดดตีลังกาม้วนหน้ากลับมุมตึกตามเดิม แม้อยากจะร้องใจแทบขาดแต่ก็ทำได้แค่งับปากตัวเองไว้ หัวผมชนกับขอบกระถางต้นไม้เต็มๆ ปูดแน่ๆ ไม่ต้องเดา

   ผมยื่นหน้าไปมองนิดๆ เห็นพี่โชเดินหล่อมาเคาะประตูห้อง แต่ผมอยู่ข้างนอกเลยไม่มีใครมาเปิด ใบหน้าหล่อนั่นเริ่มบึ้งตึง และคงทนรอไม่ไหวก็เลยเปิดเข้าไปเอง ผมได้ยินเสียงพี่โชเรียกผมแว่วๆ ก่อนประตูจะปิดลง ใกล้ได้เวลาสนุกแล้วสิ

   ยืนรออยู่ประมาณสิบนาที ป่านนี้พี่โชคงโวยวายลั่นห้อง เพราะมือถือผมก็ทิ้งไว้ในห้องไม่ได้เอาติดตัวมา โทรให้ตายก็ดังอยู่ในนั้น ผ่านไปอีกสิบนาทีผมก็ค่อยๆ เดินไปที่ประตูห้อง มีคนเดินผ่านมาผมต้องรีบหันหน้าเข้ากำแพง กลัวถูกถีบอีก เจ็บมาก ผมจะไม่ทนแบบนั้นอีก พอมาถึงประตูห้อง ผมก็ย่อตัวนั่งลงเพื่อคนด้านในจะมองผ่านช่องมองประตูไม่เห็น

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก เคาะไปหนักๆ แล้วเอาหูแนบบานประตู ได้ยินเสียงคนเดินมาใกล้ผมก็รีบผละออก ผ้าที่คลุมหัวไว้ถูกดึงมาคลุมจนมิดให้เหลือแค่ดวงตา ในนาทีที่ประตูกำลังจะเปิด หัวใจผมแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ มันตื่นเต้นปนกลัว หวังว่าพี่โชเห็นคงไม่เตะโด่งผมหรอกนะ

   ประตูเปิดออก ผมยืนอยู่ข้างกำแพงเห็นพี่โชยืนอยู่ด้วยใบหน้าบึ้งตึง


   “Trick Or Treat!!”


   “...”

   ผมแหกปากภายใต้ผ้าสีขาวคลุมทั้งตัว คนที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา ทำแค่มองนิ่งๆ ไม่กลัว ไม่ตกใจ ไม่โมโห???

   “เล่นอะไร” เสียงเย็นจนแอร์ยังเรียกทวด

   “ก็วันนี้วันฮาโลวีนไง ฮัลโหลฮาโลวีน” ผมยังพูดผ่านผ้าสีขาวที่คลุมหัวเหลือแค่ตา “เร็วๆ trick or treat”

   “คิดว่าตัวเองตลกหรือไง” พี่โชดูไม่รับมุก แถมยังเหวี่ยงใส่จนผมต้องยู่ปาก ไม่เล่นก็ไม่เล่นวะ

   ผมเปิดผ้าที่คลุมออก แล้วเดินแทรกคนที่ยืนหน้าประตูเข้าห้อง อารมณ์เสียจริงๆ กะจะอินเทรนสักหน่อย แต่ดันไม่รับมุกซะได้ ผมทิ้งตัวนั่งที่โซฟาแล้วกดเปิดทีวี ไม่สนคนที่เดินเข้าห้องนอนไป ได้ยินเสียงอีกทีคือมายืนบังการ์ตูนของผม เงยหน้าไล่มองตั้งแต่ขายาวๆ ไปถึงเป้ากางเกง ก่อนเลยไปถึงหน้าขาวๆ ที่ยิ้มให้

   “หลีก จะดูทีวี” ยิ้มไปก็ไม่ทันแล้วเว้ย ไอ้กลอยหมดอารมณ์แล้ว

   “คิดว่าตัวเองตลกหรือไง” คำถามเดิมถูกถามมาอีกรอบ ผมขมวดคิ้วแล้วจะลุกหนี พี่โชยื่นมือมาดันให้นั่งลงตามเดิม “แต่งเป็นผีอะไรล่ะเราน่ะ ผีแป้งเหรอ” ได้ยินเสียงขำก็ยิ่งทำให้โมโห

   “แคสเปอร์” ตอบพร้อมหน้าบึ้งๆ นั่นแหละ พี่โชเลิกคิ้วมองแล้วหัวเราะร่วน

   “เชี่ย นี่แคสเปอร์เหรอวะ แม่งขำว่ะ” มองคนที่ทิ้งตัวนั่งโซฟาขำจนน้ำหูน้ำตาไหล “นึกว่าผีแป้ง ตายเพราะลงถังแป้งซะอีก”
 
   “ยังอีก” พูดเสียงเรียบ ตาก็เหล่มอง “ยังไม่หยุดขำอีก”

   “เอ้า ก็มันน่าขำ คิดได้นะ แคสเปอร์ตกถังแป้ง”

   “ก็ตัวมันขาว จะเอาสีมาทามันก็ไม่ใช่หรือเปล่าวะ มีแป้งอย่างเดียวนี่แหละ” ผมเอาแป้งฝุ่นเทตั้งแต่หัวลงมา แต่มันไม่ยอมติดตัว เลยต้องเอาแป้งไปผสมน้ำแล้วประตามหน้า มันเลยแตกเป็นริ้วนิดๆ จนเริ่มตึง

   “เมียกู สมองไปหมดแล้ว” พี่โชยังหัวเราะไม่ยอมหยุด แถมยังดึงผมไปยีหัวซะแป้งฟุ้งกระจาย “อยากกินอะไรล่ะ” อยู่ๆ ก็ถามออกมา

   “อะไร” ผมถามเสียงห้วนอย่างคนอารมณ์บ่จอย

   “ก็ให้พี่เลือกไง อยากกินอะไรล่ะ ขนม?”
 
   “พิซซ่าเซ็ทใหญ่” บอกพร้อมรอยยิ้ม ความโมโหเมื่อกี้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้

   “แล้วกับข้าวบนโต๊ะล่ะ” พี่โชชี้ไปที่กับข้าวที่ผมเอาฝาชีครอบไว้

   “ใส่ตู้เย็นพรุ่งนี้ค่อยกิน ตอนนี้อยากกินพิซซ่า”

   “ครับๆ ผีแคสเปอร์ตกถังแป้ง แม่งจะขาวไปไหน” ผมมองตามคนที่ยังขำกับการแต่งผีของผม พี่โชลุกไปโทรศัพท์สั่งพิซซ่า ในระหว่างรอพี่แกก็เอามือถือมาถ่ายรูปผมโดยให้แต่งเหมือนตอนอยู่หน้าประตู ดีที่มีผ้าปิดหน้าตาบึ้งๆ ต่างจากคนถ่ายรูปที่เอาแต่หัวเราะ

   พอพิซซ่ามาส่ง ผมมองพี่โชที่ยังตอบพวกเพื่อนเลยออกไปรับเอง พนักงานพิซซ่าหน้าตางั้นๆ ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู แต่พอเห็นผมเปิดออกไปก็ผงะจนถาดพิซซ่าในมือเกือบร่วง ยังดีที่ผมคว้าไว้ทัน

   “อะ เอ่อ พะ พิซซ่าครับ” เสียงกับหน้าตาดูสั่นๆ

   “เท่าไหร่ครับ” ผมถามพร้อมตะโกนเรียกพี่โชให้ออกมาจ่ายเงิน

   “ทะ ทั้งหมดก็....” ผมไม่สนราคาเพราะพี่โชเป็นคนจ่าย พอได้ของก็เดินตัวปลิวเข้าห้อง

   พี่โชเดินกลับเข้ามาพร้อมรอยยิ้มขัน ฝ่ามือใหญ่ยื่นมาขยี้หัวผมอีกรอบจนต้องตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ ก็แป้งมันฟุ้ง เกิดโดนพิซซ่าก็หมดอร่อยพอดี

   “เอ่นอะไอไอ้อู้ (เล่นอะไรไม่รู้)” เคี้ยวพิซซ่าตุ้ยๆ จนโดนสายตาดุมอง ผมรีบยื่นพิซซ่าที่คาบอยู่ไปให้คนที่จ้องดุ ได้ยินเสียงขำในลำคอนิดๆ ก่อนหน้าหล่อๆ จะยื่นเข้ามากัดอีกส่วนเข้าปาก “อร่อยป่ะ”

   “อร่อยเพราะคนป้อนนี่แหละ”

   “ก็คนมันหล่อ”

   “อร่อยด้วย”

   สายตาโคตรเจ้าเล่ห์จนผมต้องเอาพิซซ่ายัดใส่ปากตัวเอง พี่โชหัวเราะออกมาก่อนจะยื่นรูปที่อัพลงโซเชียลให้ดู พี่แทมถามว่าใช้อะไรคิด ผมอยากจะบอกว่าก็สมองอันฉลาดนั่นแหละ ส่วนพี่ตินบอกช่างกล้า อะแน่นอน ไอ้กลอยประเกรียนซะอย่าง พี่ซันมาแค่หัวหอมหัวเราะ แต่พี่จอมนี่อย่างโหด บอกให้พี่โชเอาผมลงทอดได้เลยเพราะชุปแป้งไว้แล้ว เคี้ยวคงกรอบเพลินเลย

   “ปีหน้าผมจะเป็นผีเสื้อ” ผมบอกอย่างมาดมั่น แต่พี่โชที่กำลังจะกัดพิซซ่าถึงกับหยุดมอง

   “ผีเสื้ออะไร” มีถามกลับมาพร้อมคิ้วขมวด

   “เอ้า ก็ฮาโลวีนก็ต้องแต่งเป็นผีไง” อธิบายไปแต่คนฟังยังทำหน้าเครียด “โธ่ ก็ผีเสื้อไง ผีอะ ใส่เสื้อ เขาเรียกผีเสื้อ”
 
   “เมียกู สมองไปหมดแล้วจริง”

   โด่ คนแก่ไม่เข้าใจก็งี้แหละ ไม่เข้าถึงวันสำคัญว่ามันมีมนต์คลังแค่ไหน แคสเปอร์เพลีย





   เช้าวันต้นเดือน ผมมาเรียนด้วยสภาพนอนไม่เต็มอิ่ม ไม่ใช่เพราะถูกปีศาจจับขย้ำ แต่เพราะท้องอืด พิซซ่าถาดใหญ่ สปาเก็ตตี้ ปีกไก่ สลัด ไอศกรีม ชีสสติ๊ก และน้ำอัดลม ถูกยัดมาภายในคืนเดียว แค่ผมนอนลงของทุกอย่างก็ล้นมากองอยู่ที่คอจนอยากขย่อน แต่เพราะความเสียดายเลยต้องนั่งหลับเอา พี่โชขำหนักจนน้ำตาไหล

   คาบเช้าผมนั่งหลับๆ ตื่นๆ จนเลิก ช่วงบ่ายว่างเลยได้นอนเต็มอิ่ม ปล่อยให้พวกหาเลขคำนวณไป ขนาดผมบอกเลขไปแล้วมันยังหาจากเว็ปอื่นอยู่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้ตั้งแง่นะครับ อย่างที่เขาว่า คนรวยก็หวังกับหุ้น คนจนก็หวังกับหวย คนเราต้องมีความหวังเสมอ

   พอเรียนอีกทีก็บ่ายสาม ผมนั่งดูภาพสไลด์รูปจากอาจารย์อยู่หน้าห้อง เห็นพวกไอ้สักนั่งสุมหัว หูก็ยัดหูฟังไว้ตลอดเวลา ตาก็มองมือถือที่ยกหนังสือมากั้นไว้ ขณะที่อาจารย์กำลังอธิบายเรื่องราว อยู่ๆ เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นจนทุกคนตกใจ

   “อะไรของพวกเธอ” อาจารย์ประจำวิชาตวาดดังลั่น พวกที่โห่ร้องทำหน้าจ๋อยกันไปหมด ผมนั่งขำพวกมันอย่างสมน้ำหน้า โดนหักคะแนนแน่ไอ้พวกนี้

   หลังจากถูกเตือน พวกมันก็นั่งนิ่งขึ้น แต่หน้าตายิ้มราวกับคนบ้าก็ว่าได้ อย่างไอ้สักนี่ยิ้มแล้วก็พูดคนเดียวจนผมเริ่มกลัว ก็นั่งข้างกันนี่ครับ กลัวมันพูดกับสิ่งที่มองไม่เห็น ส่วนไอ้เคกับไอ้ต๋องก็พากันกลั้นยิ้มสุดพลัง มีไอ้ทูที่นั่งขีดเขียนอะไรสักอย่าง

   ในที่สุด คาบเรียนก็จบลง เพื่อนๆ ในห้องพากันกรูเข้ามาหาไอ้สักที่นั่งข้างผม ทำให้ผมถูกล้อมไปด้วยกลายๆ อีเข็มรีบล้วงเศษกระดาษออกมาก่อนใครเพื่อน

   “อีสัก ออกเลขไรมึง” โพยหวยนั่นเอง

   “เต็มๆ เลยพวกมึง” ไอ้สักว่า ผมก็เอนตัวไปดูกระดาษที่มันจดรางวัล “เจ็ดสาม ทั้งบนและล่าง เต็มๆ ไอ้เหี้ย กูรวยแล้ว” อยู่ๆ มันก็ตะโกนซะดังลั่น ก่อนเพื่อนในห้องจะโห่ร้องจนแสบแก้วหูไปหมด

   ว่าแต่ หวยออกเจ็ดสามทั้งบนและล่าง? เลขที่ผมบอกเมื่อวานเลขไรหว่า จำไม่ได้ด้วยสิ

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงนี่โคตรแม่น งวดหน้าออกเลขไรวะ” อีแป้นเขย่าตัวจนผมมึน

   “อะไรของพวกมึงวะเนี่ย”

   “เลขที่มึงบอกไง พวกกูแทงหมดทุกคน ได้ทุกคน กูรวยแล้ว”

   ผมมองพวกถูกหวยทั้งห้องด้วยความแปลกใจ ผมให้มั่วๆ ไปถูกด้วยเหรอวะ ไม่น่าเชื่อ

   “มึงอยากกินอะไร พิซซ่ามั้ยพวกกูเลี้ยงไม่อั้น” พอได้ยินคำว่าพิซซ่า ภาพเมื่อคืนก็ลอยมาจนอยากจะอ้วก

   “ไม่เอาเว้ย กูไม่กินพิซซ่า” แหกปากดังลั่นห้องพร้อมกับวิ่งหนี เพราะไอ้ผีแคสเปอร์นั่นทำให้พิซซ่าของโปรดถูกจดบันทึกว่างดไปอีกนานแสนนาน



   อวสานผีแคสเปอร์ (ตกถังแป้ง)   


...........................................................................

สวัสดีวันสิ้นเดือนค่าาา พากลอยประเกรียนมาเซย์ไฮวันฮาโลวีนแบบเบาๆ  :o8:

แล้วพบกันใหม่ค่าาาา  :mew1: :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เจ้าพ่อกลอยแคสเปอร์ให้หวยถูกด้วย :call: :call: :call:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สมเป็นกลอยประเกรียนจริงๆ 5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2016 12:43:48 โดย arij-iris »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ได้อีกอาชีพแล้วกลอย

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
งวดนี้ 73 ไปซื้อกันค่ะ
กลอยแม่นมาก 55

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
กลอยปะเกรียน เกรียนตลอด  :pandalaugh:

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
จากกลอยประเกลียนกลายเป็นเจ้าแม่กลอยให้หวยไปแล้ว 555 :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กลอยเกรียน ทั้งหน้าสงสาร ทั้งน่าขำ 55555

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ฮ่าๆๆๆๆ กลอยเกรียนเจ้าแม่แคสเปอร์ให้หวยนี่เอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด