เรื่องราวความรักของผม มันอาจจะผิดแปลกไปจากคนทั่ว ๆ ไปเล็กน้อยถึงปานกลาง นั่นเพราะผม....มีแฟนเป็นผู้ชาย มันแปลกใช่มั้ยครับ ผมว่ามันแปลกสำหรับคนที่ไม่เปิดใจเท่านั้นล่ะครับ ส่วนอีกข้อที่ผมคิดว่าความรักของผมมันแปลก....นั่นก็คือ......แฟนผมอายุน้อยกว่าผม 20 ปี!
พวกคุณคุ้น ๆ ประโยคเหล่านี้หรือไม่? ถ้าไม่ แนะนำให้ไปอ่านเรื่องของเพื่อนผมก่อน ผมไม่เคยได้รู้ถึงความรู้สึกของเพื่อนผมเลย จนกระทั่งได้โดนสิ่งที่คล้าย ๆ กัน...... เวรกรรมของผมแท้ ๆ T^T
เรื่องมันเริ่มต้นจาก....
ผมกับเมธไปโรงเรียนของฟอนต์เพื่อรับฟอนต์ไปเที่ยวด้วยกัน จริง ๆ แล้วก็คือพวกเขาจะไปเดทกัน จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากจะไปเป็นกขคงจฯลฯ อะไรทั้งสิ้น แต่เมธเขาให้ผมไปด้วย เพราะเขากลัวโดนคนอื่นบอกว่าหลอกเด็ก (จริง ๆ เด็กหลอกผู้ใหญ่มากกว่า) ก็เลยเป็นไปด้วยประการฉะนี้ รอได้สักพักฟอนต์ก็เดินมากับผู้ชายคนหนึ่ง สูงกว่าฟอนต์เล็กน้อย แต่ร่างกายบึกกว่าเยอะ ผมล่ะทึ่งกับร่างกายของเด็กคนนี้จริง ๆ ขนาดผมเข้มงวดให้ฟอนต์ออกกำลังกายให้หุ่นดี ๆ ฟอนต์ยังทำไม่ได้ขนาดนี้เลย แสดงว่าเด็กคนนี้ต้องออกกำลังกายเยอะพอสมควร ผมเห็นทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันพร้อมเหล่มาทางผม ผมก็คิดว่าเขาคงจะเกรงผม เพราะผมเองก็หน้าตาออกจะดุ ๆ แต่เห็นแบบนี้ผมชอบเข้าไปเล่นกับเด็กนะ
“สวัสดีครับ คุณ...พ่อ”เด็กคนนี้ทักทายผมก่อนจะหันไปทักทายเมธ แต่อาจจะเพราะยังเกร็งผม จึงอาจจะยังหาคำเรียกผมไม่ถูกก็เป็นไปได้
“ครับ สวัสดี ตามสบายลูก เรียกพ่อก็ได้ จะได้เหมือนฟอนต์มัน”
“ครับ พ่อ”จากนั้นก็ได้ถามไถ่ถึงชื่อเสียงเรียงนาม สรุปว่าเจ้าเด็กคนนี้ชื่อ ภู ชื่อจริง นายภูวนัย ตระกูล พานิชยกุล อายุ 17 ปี บ้านเกิดอยู่ที่กรุงเทพ มีพ่อชื่อ เอ่อ....พอก่อนดีกว่า หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงได้รู้เรื่องของเด็กคนนี้เยอะนัก จริง ๆ ผมกับเมธก็รู้มาเหมือนกันแหละครับ เพราะตอนแนะนำตัว เจ้าเด็กนี่เล่นบอกมาทั้งตระกูล อยากรู้มั้ยครับว่าแนะนำว่ายังไงบ้าง
“ผมชื่อ ภู ชื่อจริง ชื่อนายภูวนัย นามสกุล พานิชยกุล อายุ 17 ปีเต็ม ปีหน้าจะ 18 แล้ว บ้านเกิดอยู่ที่กรุงเทพ พ่อชื่อนายภูวเนศ พานิชยกุล แม่ชื่อนางนันทกาล พานิชยกุล ผมเป็นลูกคนกลาง มีพี่ชาย 1 คน น้องสาว 1 คน ที่บ้านทำอาชีพ...”ดีที่ผมห้ามไว้ก่อน ไม่งั้นได้บอกมาทั้งตระกูลแน่ ๆ
ผมเห็นฟอนต์แอบขำ แต่ก็คงเพราะขำเพื่อนที่แนะนำตัวซะโอเวอร์ก็ได้ ฟอนต์บอกว่าจะพาภูไปด้วย จะได้ไปเป็นคู่ ๆ ไอ้ผมก็หันไปทางเจ้าภูสิครับ คู่ของฟอนต์มันเป็นคู่รัก แล้วคู่ของผมล่ะ คู่อะไรดี แต่ช่างเถอะ จะยังไงก็ได้ เพราะครั้งนี้บทของผมคงไม่ได้เยอะเท่าไรหรอก
ผมนั่งหน้ากับ....ภู ด้วยเหตุผลของภูที่ทำหน้าตาจริงจังราวกับตัวเองเป็นศาตราจารย์ ‘คู่รักเขานั่งข้างกันครับ’ ผมก็เออออตามไป จนไปถึงสถานที่เดทของพวกเรา เอ๊ย! ของเจ้าฟอนต์กับเมธ มันคือ...สวนสนุก ผมคิดภาพเจ้าเมธตอนเล่นเครื่องเล่นไม่ออกเลยจริง ๆ คงจะฮาน่าดู สถานที่นี้รู้สึกว่าเจ้าฟอนต์จะเลือกด้วยตัวเอง ก็เด็กนี่เนอะ คนหล่อมักจะคิดอะไร เอ่อ...เข้ากับวัยแบบนี้แหละ (ไม่อยากบอกว่าเด็ก เพราะผมก็หล่อเหมือนกัน^^) ผมบอกว่าให้แยก ๆ กันไป ผมจะได้ไม่ต้องไปขัดจังหวะอะไรพวกเขามาก ตอนนี้ผมรับสภาพที่เป็นอยู่ได้แล้ว ผมมีลูกเป็นเกย์ ผมมีลูกสะใภ้อายุเท่ากับผม และเป็นเพื่อนตัวเอง และที่ยอมรับมากที่สุด ลูกสะใภ้ไม่เคยทำหน้าที่ที่ดีของสะใภ้เลย วัน ๆ เอาแต่ด่าว่าผม T^T ผมแค่อู้นิดหน่อยเอง ผมเดินไปเรื่อย ๆ และคิดเรื่องของเจ้าฟอนต์ไปพลาง ๆ พอผมหันหลัง ก็ได้เห็น......ความว่างเปล่า ผมอยู่คนเดียวแล้วหรือนี่ ลูกทิ้งผมได้ลงคอ T^T (ทั้ง ๆ ที่ตัวเองบอกให้แยกไปเองแท้ ๆ) ตอนนั้นผมไม่อยากเป็นกขคงจฯลฯ แต่ตอนนี้ผมอยากเดินกับลูก T^T ผมผิดใช่ม้ายยย
เอ๊ะ! ใครมาจับมือผมล่ะ ไม่มีใครอยู่กับผมแล้วนี่ หรือว่า......ผีสวนสนุก กลางวันแสก ๆ จะมีผีได้ยังไง ท่องนะโมดีกว่า อาจจะช่วยได้ นะโม....
“คุณธิทำอะไรครับ เข้าญาณเหรอครับ”อยู่ ๆ เจ้าของมือก็ออกสำเนียงแว่วเสียงมาให้ได้ยินเป็นบุญหู คุ้น ๆ นะ เหมือนเคยได้ยิน ผมหันกลับไปมองก็ต้องตกใจถึงขีดสุด เพราะ.....ผมบ้า! ดันไปกลัวเพื่อนของลูกซะได้ แต่เอ๊ะ! เมื่อกี้เจ้าเด็กนี่เรียกผมว่าอะไรนะ
“ภูเรียกพ่อว่าอะไรนะ”
“เรียกว่าคุณธิครับ คุณไม่ใช่พ่อของผมซะหน่อย”นั่นไง ก็เพราะผมไม่ใช่พ่อมันน่ะสิ ถ้าใช่ป่านนี้ผมก็มีลูกอีกคนแล้ว - -
“อ้าว ซะงั้นนะ”แล้วอยู่ ๆ เจ้าเด็กนี่ก็ลากผมไปที่ไหนก็ไม่รู้ มือของภูใหญ่พอ ๆ กับของผม เด็กเจริญเติบโตได้เร็วขนาดนี้เชียว แต่สำหรับ ฟอนต์ก็ยังคงเป็นเด็กน้อยน่าตาจิ้มลิ้มอยู่วันยันค่ำน่ะแหละครับ ยกเว้นตอนดึกนะ ฟอนต์มันจะเป็นผู้ใหญ่เต็มมือ เอ๊ย! เต็มตัวเชียวล่ะครับ
“จะไปไหนน่ะภู อย่าบอกนะว่าจะพาพ่อไปปล้ำน่ะ เห็นแบบนี้พ่อยังซิงนะจ๊ะหนู ฮ่า ๆ”แล้วจู่ ๆ เจ้าเด็กภูก็หยุดเดิน หันมาทางผมแล้ว......หัวเราะ!
“ฮ่า ๆ คุณธิ ฮ่า ๆ ขอผมขำเดี๋ยวนึงนะ ฮ่า ๆ ๆ....”แล้วก็หัวเราะยาวไปเรื่อย ๆ จนคนอื่นเขามองว่าไอ้เด็กโข่งนี่ขำทำไม
“คุณธินี่ตลกจังเลยนะครับ ผมล่ะช้อบชอบ”ช้อบชอบงั้นเหรอ โฮะ ๆ เพื่อนลูกชอบ เอ๊ะ! เพื่อนลูกช้อบชอบ มันดีหรือไม่ดีหว่า มันดีสินะ โฮะ ๆ
“ว่าแต่คุณธิยังซิงจริงเหรอครับ ผมอยากจะลองเปิดดูซะหน่อย”
“โอ๊ย เจ้าหนู ซิงพ่อน่ะถูกเมียพ่อเปิดไปตั้งนานแล้ว”
“ผมหมายถึง.....”ว่าแล้วก็มองไปที่.....ร้านขายไอติม - - สงสัยคงอยากจะกิน
“อยากกินเหรอ”ไอ้ผมก็มองตามสายตาวิ๊ง ๆ ของเจ้าภูไป พอผมถามว่าอยากกินเหรอ ก็พยักหน้า พร้อมส่งสายตาว่า ‘เลี้ยงผมหน่อยนะ’ ไอ้ผมก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดี ก็เลย.....เดินไปที่ร้าน....ขายน้ำ ช่วยไม่ได้นี่ ผมไม่ได้อยากกินไอติมซะหน่อย ผมอยากกินน้ำหวานเย็น ๆ ชื่นใจมากกว่า
“โถ่คุณธิ ผมก็นึกว่าคุณจะมาซื้อไอติมให้ผม ผมงอนนะเนี่ย”ทำงอนนะเจ้าหนู ถ้าฟอนต์งอนมันจะน่ารักกว่านี้เยอะ จะบอกอะไรให้นะ เวลาฟอนต์งอนทีนึงจะทำหน้าแบบ เหมือนลูกลิงโดนขัดใจ ทำหน้ามู่ทู่ แก้มป่อง ๆ นั่งก้มหน้าก้มตา หันก้นน้อย ๆ ให้ผมอีก น่ารักน่าชังจะตาย นายน่ะเทียบไม่ติดหรอก เวลางอนทำไมหน้ายังหล่อเหมือนเดิมล่ะ ต้องหน้ามู่ทู่สิ ไม่ใช่หน้าหล่อ
“พ่ออยากดื่มน้ำนี่ อยากกินก็ไปเลือกเอา เดี๋ยวเลี้ยง”ว่าแล้วภูก็กระดิกหางพร้อมสะบัดก้นไปทางร้านขายไอติมทันที เวลานี้ไม่รู้ทำไมผมก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเล็ก ๆ อาจจะเพราะผมมีลูกคนเดียว เวลาเจอเด็กอีกคนมาอ้อน มาออเซาะเลยชอบล่ะมั้ง
เวลามันก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่เห็นเหมือนเวลาทำงานเลย 1 นาทีนี่เหมือนกับ 1 ชาติ -*- ผมและภูเดินมาที่รถซึ่งตอนนี้ไม่มีใครมารอผมเลย คงจะสนุกกันอยู่สินะ
“คุณธิครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“ไม่ได้ครับ พ่อขี้เกียจตอบ”
“โธ่ ไม่ตอบผมก็จะถามล่ะ คุณธิได้ลองหาคนใหม่ ๆ ดูบ้างมั้ยครับ”คนใหม่ ๆ งั้นเหรอ อืม.....
“คนใหม่ ๆ คืออะไร คนเก่า ๆ ไม่ดีเหรอ”ผมไม่เข้าใจคำว่า ‘คนใหม่ ๆ’ ของเจ้าภู อย่ามองผมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าผมน่ารักนะ ฮ่า ๆ ผมโง่ก็ได้ พอใจแล้วใช่มั้ย
“ฮ่า ๆ ผมก็นึกว่าจะเข้าใจ ทำหน้าตาซะ แต่คุณธิหน้าตาหล่อจังเลยนะครับ ตอนที่ผมมองเฉย ๆ ยังไม่ได้พูดคุยก็นึกว่าจะขรึม ๆ แต่พอได้คุยแล้วก็.....”ก็อะไร ทำไม เห็นแบบนี้ผมก็ขรึมนะ ขรึ๊มขรึมด้วยล่ะ
“อย่าบอกว่ารั่ว ฮา ตลก ต๊อง ปัญญาอ่อนเด็ดขาดนะ พวกนี้มีคนพูดไปแล้ว”ครับ ผมมักจะโดนเพื่อนบอกแบบนี้เสมอ ก็ทำไงได้ล่ะ ผมหน้าตาออกจะหล่อปานนี้ แต่คนหล่อก็อารมณ์ดีได้นะ
“บ้าครับ”ฮะ มันว่าผมบ้าหรือนี่ เดี๋ยวเถอะไอ้เด็กนิสัยไม่ดี ว่าผู้ใหญ่บ้า อยากร้องไห้จัง ผมไม่ได้บ้าน้าT^T
“ฮ่า ๆ ทำหน้าทำตา ผมหยอกเล่นน่ะครับ คุณธิน่ารักมากเลย ตรงใจผมม้ากมาก”ตรงใจภูม้ากมาก แปลว่าผมดีม้ากมากหรือเปล่า
“ผมอยากจะได้....”
“พ่อมาแล้วเหรอครับ รอนานมั้ย”อยู่ ๆ ฟอนต์ก็ตะโกนเสียงดังมาถามผม ผมก็จะหันไปถามว่าเมื่อกี้ภูจะพูดอะไร แต่ภูก็ส่ายหน้า พร้อมโปรยยิ้ม ภูเป็นคนยิ้มสวยนะ ฟันเรียงสวย ฟันขาวปิ๊ง ปากอมชมพู ใบหน้าคม ๆ จมูกโด่งเป็นสัน ตาเล็กแต่ใส คิ้วดกดำ ผิวขาวกระจ่าง หุ่นดีสมเป็นชาย ตรงนั้น....เฮ้ย! ผมจะไปมองน้องชายภูเขาทำไมนะ ว่าแต่จริง ๆ ต้องถามว่าผมจะสำรวจร่างกายภูทำไมมากกว่า
ผมสะบัดหัวสองสามที จนฟอนต์หาว่าผมสะบัดเหา T^T ผมขึ้นรถในตำแหน่งคนขับรถเหมือนเคย ให้สะใภ้เป็นสารถีบ้างก็ไม่ได้ ใช้พ่อตลอด มันช่างน่าเศร้านัก T^T
“พ่อ วันนี้ให้ภูเป็นกินข้าวที่บ้านด้วยนะ จะได้อยู่เป็นคู่ ๆ”คู่ ๆ อีกแล้ว ทำไมต้องคู่ ๆ ด้วย
“แล้วทางบ้านของภูเขารู้แล้วเหรอว่าจะไปกินข้าวบ้านเรา”
“รู้แล้วครับ ผมบอกว่าจะมาค้างที่บ้านของฟอนต์ เขาก็อนุญาตเลยครับ”สรุปแล้ววันนี้ก็ต้องอยู่กันเป็นคู่ ๆ คู่ ๆ และคู่ ๆ