“ยากขนาดนี้เลยเหรอวะ การมีแฟนซักคนเนี่ย! / ยากขนาดนี้เลยเหรอวะ การมีแฟนซักคนเนี่ย!” ผมและสกายพูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เรามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ เพราะคำพูดของเราเหมือนกันทุกคำทุกพยางค์ โดยเฉพาะฟีลลิ่งที่สอดคล้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
“ฮ่าๆๆๆๆๆ / ฮ่าๆๆๆๆๆ” แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
มันน่าตลกที่เราพูดคุยกันไม่เคยเข้าใจทว่าอารมณ์และความรู้สึกเวลาอยู่ร่วมกันของเราต่างหากที่ไปด้วยกันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
“เลิกทำตัวเหมือนวัยรุ่นหัดแรดดีกว่า ไม่ต้องพูดคุยเหี้ยไรละ อยู่ไปงี้แหละ ค่อยๆ เรียนรู้กันไป เหมือนที่กูเคยไปอยู่กับมึงเมื่อก่อน” ผมสรุป
“ผมก็ว่างั้น” สกายยักไหล่พลางเก็บถ้วยจานไปล้าง “ว่าแต่ ผมต้องย้ายมาอยู่กับคุณเหรอ” มันตะโกนถามจากโซนในครัวออกมา
“ที่นี่กว้างกว่า สะดวกสบายกว่า มาอยู่นี่แหละ มึงจะได้เก็บตังค์ค่าคอนโดไว้ใช้ไง” ผมเดินไปนั่งเล่นที่โซฟา เปิดทีวีดูข่าวนั่นนี่ไปเรื่อย
“เสียดายที่นั่น..” มันพูดแล้วเงียบไป
ผมเดานะ มันไม่ได้เสียดายสถานที่ แต่มันเสียดายโมเม้นต์ร่วมกับไอ้จ้าวต่างหาก
“ถ้าเสียดายก็เช่าทิ้งไว้ เผื่อว่าวันไหนมึงงอนก็หนีไปที่นู่น กูจะได้มีที่ไปง้อง่ายหน่อย” ผมไม่ใช่คนใจแคบ ถึงจะเจ็บนิดๆ ที่ต้องเปิดแผลตัวเองแต่ก็ยังดีกว่าทำให้อีกคนต้องกังวัลใจ
“เอางั้นก็ได้ แต่ให้ผมช่วยออกค่าใช้จ่ายที่นี่ด้วยละกันนะ”
ผมตะโกนตอบไปอย่างเดือดดาล “เป็นเมียก็ต้องให้ผัวเลี้ยงสิ มึงจะมาแชร์มาหารค่าใช้จ่ายทำไมวะ” ว่าแล้วก็เอนตัวนอนบนโซฟา วันนี้ร่างกายดีขึ้นเยอะแต่ก็ยังรู้สึกเพลียๆ ถ้าได้พักอีกวันก็คงจะหายสนิท
ผมได้ยินเสียงรีบเร่งคว่ำถ้วยจานของมัน จากนั้นร่างมันก็พุ่งมาหาผมอย่างรวดเร็ว
“คุณพูดว่าอะไรนะ ผมเป็นเมียงั้นเหรอ” มันเท้าพนักพิงโซฟาตัวยาวที่ผมนอนอยู่แล้วชะโงกตัวมาถาม หน้ามันค่อนข้างเหวอเลยทีเดียว
“อือ” ผมตอบสั้นๆ
ไอ้หน้านิ่งขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียด “ใครกันแน่ที่เป็นเมีย คุณโดนผมกดไปแล้วนะ ยังจะกล้าพูดแบบนี้อีกเหรอ!” ดูมันจะมั่นใจอะไรผิดๆ นะ
ผมลุกขึ้นนั่งแล้วสาธยายให้มันฟัง “กูไม่ได้นับว่าใครเป็นผัวใครเป็นเมียจากการโดนกด”
“แล้วคุณนับยังไง” หน้ามันค่อนข้างซีเรียส
ผมดึงมือมันให้อ้อมมานั่งข้างๆ แล้วพูดต่อ “นับจาก.. วัยวุฒิ คุณวุฒิ พละกำลัง และสัญชาตญาณของสัตว์ตัวผู้” มันยังทำหน้างง ผมจึงอธิบายต่อ “ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้น มึงว่ากูปกป้องมึงได้มั้ย” มันคิดเล็กน้อยแล้วจำใจพยักหน้า “ถ้าร่างกายกูปกติดี มึงว่ามึงจะกดกูได้มั้ย” มันกลอกตาแล้วถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้า
ในขณะที่สกายกำลังจะเถียง ผมก็ถามขึ้นก่อน “ใครแก่กว่า”
“ค..คุณ”
“ใครจบก่อน ใครทำงานด้วยตัวเองก่อน ใครดูแลตัวเองได้โดยไม่ให้คนอื่นมาเอารัดเอาเปรียบ”
“...คุณ”
“ใครชนะพนัน”
“คุณ!”
“ใครที่จะเป็นเจ้านายตลอดสามเดือนต่อจากนี้”
“คุณ..คุณๆๆๆๆ” มันตอบรัวอย่างไม่พอใจ เห็นแล้วขำกับท่าทางเหมือนเด็ก ผมชอบให้สกายแสดงอารมณ์แท้จริงออกมามากกว่าเก็บกดเอาไว้ เห็นแล้วผมอารมณ์ดีทุกครั้งเลยนะ
“แล้วรู้รึยังว่าใครเป็นผัว”
“ผม!” มันตอบชัดถ้อยชัดคำ ไอ้ห่านี่ดื้อ!!! “ไม่ว่าคุณจะว่ายังไง ผมถือว่าครั้งแรกคือบทสรุป ไม่ว่าจากนี้สถานะจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน คุณก็เป็นเมียผม” ดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆ แต่ช่างเถอะ เมียก็เมีย ก็แค่ชื่อเรียกความสัมพันธ์ มันไม่ได้สำคัญไปกว่า.. จากนี้ใครจะจังหวะดีกว่ากันหรอก
“งั้นผัวก็นวดให้เมียหน่อยเถอะ เมียเมื้อยเมื่อย” ว่าแล้วก็นอนแผ่ลงอีกครั้งเพื่อให้มันนวด
สกายขมวดคิ้วนิดหน่อยที่ไม่เห็นว่าผมจะโวยวายอยากเป็นผัว “นอกจากโรคประจำตัวที่ชอบเป็นไข้ปวดหัว คุณมีจุดอ่อนที่อื่นอีกมั้ยเนี่ย ผมชักกลัวแล้วนะ” ถึงจะบ่นแต่ก็ลงไปนั่งที่พื้นแล้วเริ่มบีบแขนให้ผมอย่างเป็นงาน
“มีสิ” ผมใช้แขนด้านในที่ว่างมารองท้ายทอยเพื่อจะได้เห็นหน้ามันได้ถนัดขึ้น
“อะไรล่ะ บอกมาสิ” มันถาม
ผมมองจ้องใบหน้าหล่อใสของมันด้วยสายตาเอ็นดู “..ก็มึงไง” สกายเม้มปากทันทีที่ได้ยิน จากนั้นริ้วสีจางๆ ก็ระเรื่อขึ้นบนแก้มขาวๆ ของมัน “มึงเป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของกูนะ” ยิ่งพูดมันก็ยิ่งอึ้ง
“พูดจากำกวม” มันบ่น
ผมจึงอธิบาย “ก็เวลาที่กูคิดถึงความสุขของมึง ถึงแม้บางเรื่องกูจะรู้สึกขัดใจแต่แล้วก็ใจอ่อนทุกที นี่แหละจุดอ่อน”
มันยิ้มหมั่นไส้แล้วถามต่อ “แล้วจุดแข็งล่ะ”
“ก็เวลามึงอยู่ใกล้ๆ...” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วจับมือมันมากุมไว้ก่อนจะดึงมาจับมังกรยักษ์ที่อยู่กลางลำตัว “..กูก็แข็งทุกทีเลยว่ะ” สกายรีบดึงมือออกแล้วชกไหล่ผมทันที
“คุณนี่มันน่าฆ่า!” ว่าแล้วก็ลุกหนีเข้าห้อง
ผมรีบตามไปจนประชิดตัวแล้วโอบมันจากด้านหลัง “ก็แข็งจริงๆ ถ้ามีแรงกว่านี้กูคงปล้ำมึงแล้ว” กอดมันพลางโยกตัวไปมา จมูกของผมอยู่ในระดับกกหูมันและเมื่อก้มลงเล็กน้อยก็สามารถสูดดมตรงซอกคอขาวๆ ได้พอดิบพอดี ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อซึมซับกลิ่นตัวของมัน
ร่างหนาสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ดิ้นหนี “ดมเข้าไปสิ น้ำก็ยังไม่ได้อาบเนี่ย!”
ผมสูดดมแรงขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของมัน “หอม..” กระซิบพลางไล้ปลายจมูกไปตามลำคอของมัน “ยังไม่ได้อาบก็ไปอาบน้ำด้วยกันสิ”
“มีแผนอะไรอีกล่ะ” มันปลดมือผมออกแล้วหันมาประจันหน้า “บอกไว้ก่อนว่าตอนนี้คุณยังไม่แข็งแรงพอจะกดผมได้หรอกนะ” ยิ้มเหยียดแบบนั้นคืออะไร มึงคิดว่ามึงเป็นต่องั้นสิ
“ไม่ได้จะใช้แรง แค่ขอใช้สิทธิ์” ผมตอบนิ่งๆ
สกายเลิกคิ้วสูง “สิทธิ์อะไร”
“สิทธิ์ของผู้ชนะพนัน และสิทธิ์ของแฟนที่จะขอให้แฟนทำอะไรให้นิดๆ หน่อยๆ” สกายอ้าปากหวอคล้ายจะรู้ทัน
“..อะ อะไรของคุณ”
“มึงก็รู้ดีแก่ใจ ไปๆ กูเหนียวตัว อยาก..อาบน้ำแล้ว” ผมเว้นจังหวะนิดหน่อยที่คำว่าอยาก มองมันหื่นๆ จนไอ้หน้านิ่งกัดฟันกรอด
“ไหนบอกว่าจะไม่มีแผนอะไรแล้วไง” มันทวงคำสัญญาจากผม
ผมดึงแขนมันไปที่ห้องน้ำพลางตอบคำถาม “แผนเผินอะไร ไม่มี๊ ก็แค่อยากให้อาบน้ำให้ อยากให้สปาผิวให้ และ..อยากให้ช่วยอะไรนิดๆ หน่อยๆ” หน้ามันเหมือนกำลังเห็นผีแต่ผมไม่รอให้มันตั้งตัวได้หรอกนะ ผมลากมันเข้าห้องน้ำได้สำเร็จแล้วปิดประตูทันที “อย่าบอกนะว่าคนแพ้พนันจะเบี้ยวไม่ยอมทำตามที่ผู้ชนะสั่ง” ผมทำหน้าไร้เดียงสาราวกับเด็กที่อยากได้คำตอบจริงๆ
“มัน..มันกลางวันแสกๆ นะคุณ” หน้ามันเจื่อนเมื่อไม่สามารถตอบคำถามได้
“กลางวันสิดี จะได้เห็นชัดๆ ทุกรูขุมขน มึงจะได้ทำความรู้จักลูกชายกูอย่างใกล้ชิด” ว่าแล้วผมก็เปิดน้ำอุ่นใส่อ่างและถอดเสื้อผ้าออกจนหมด “ให้กูถอดให้มั้ย”
สกายยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ผมรู้ว่ามันไม่ได้รังเกียจ ไม่ใช่ทำไม่เป็นหรือเขินแต่อาการของมันในตอนนี้เป็นเพราะมันไม่ได้ตั้งตัวและไม่คิดว่าผมจะหน้าด้านขนาดนี้
ในช่วงที่มันยังตั้งสติไม่ได้ ผมเข้าไปกอดและรัดตัวมันแน่น “นะครับ ทำให้หน่อยนะ พี่จะได้หายป่วยเร็วๆ” ไม่ได้ขอเปล่า มือผมไวพอที่จะปลดกระดุมเสื้อนอนของมันออกอย่างรวดเร็ว
“ค..คุณ” มันรั้งมือผมไว้เบาๆ แต่ก็ไม่จริงจังสักเท่าไหร่ ผมจึงถอดเสื้อออกจากไหล่มันได้สำเร็จ
“อาบน้ำด้วยกันนะ อาบให้หน่อย ทำให้หน่อย..นะครับคนเก่ง” ว่าแล้วก็ดึงกางเกงมันลงไปกองกับพื้น
“ผมไม่เคยอายเลยนะเวลาโป๊ต่อหน้าใคร” สกายพูดหน้าตึงๆ เหมือนจะทั้งเขินและขัดใจ “แต่ครั้งนี้ ฮึ้ยย!” มันคำรามในลำคอแต่ก็เอื้อมหยิบฝักบัวแล้วเปิดน้ำ “งั้นก็ล้างตัวก่อน” ว่าแล้วก็ยกฝักบัวราดตัวผมแล้วลูบเอาเหงื่อไคลออก วูบแรกที่มือมันโดนตัว ผมนี่ร้อนวูบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“มือมึงนุ่มจัง”
“ไม่ต้องพูดมาก รีบอาบ เดี๋ยวไข้ก็ขึ้นอีก” มันว่าแล้วรีบลูบเนื้อตัวผมก่อนจะจุ่มมือลงอ่างเพื่อเช็คอุณหภูมิของน้ำจากนั้นก็ดันผมให้ลงไปในอ่าง
“เวลามึงห่วง กูโคตรรู้สึกดี” ผมมองมันราดน้ำตัวเองอย่างตื่นตา สกายไม่ได้เขินบิดไปมาหรือทำท่าเหมือนมีอารมณ์แต่เนื้อตัวมันขึ้นสีระเรื่อไปทั่วเหมือนคนพึ่งวิ่งมาเหนื่อยๆ แล้วเลือดลมสูบฉีด โดยเฉพาะตรงกลางลำตัวนั่น ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ถึงจะยังไม่ขยายแต่ก็ไม่ได้เล็กน้อยเลย
ไม่ปฏิเสธว่าผมก็ตื่นเต้นเพราะนี่ก็ครั้งแรกที่เรายืนเปลือยต่อหน้ากันและกัน แต่ไม่รู้สิ ผมรักมัน ผมอยากสัมผัส อยากให้มันอยู่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ ความรู้สึกพิศวาสพุ่งพล่านจนกลบฝังความอายไปหมดสิ้น
“ลงมาสิ” กระตุกแขนมันให้ลงอ่างด้วย
“คุณจะบ้าเหรอ อ่างเล็กนิดเดียวแค่นี้จะไปแช่สองคนได้ไง” มันทำเสียงดุ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาเปลี่ยนอ่าง เอาจากุชชี่ใหญ่ๆ มาลงเลย โอเคมั้ย” ผมทำหน้าทะเล้นใส่
สกายหนังหน้ากระตุกเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจใส่ “จะทำอะไรก็ทำเหอะ ยังไงผมก็ต้องยอมคุณอยู่ดีนั่นแหละ”
“ว่าง่ายแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” ผมยิ้มแล้วลุกมานั่งที่ขอบอ่าง ดึงแขนมันให้นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วโน้มตัวลงไปแนบกลีบปากชิดริมฝีปากสวยก่อนจะพูดเบาๆ “Blow me baby”
“!!!......”
หน้าสกายขึ้นสีจัดจนอยากกัด มันจ้องผมนิ่งแล้วค่อยๆ โน้มตัวลงเรื่อยๆ “อึก..!“ มันกัดต้นขาผม จะว่าเจ็บก็เจ็บ แต่เสียวมากกว่า “อึก อาห์ .. อือ..” มือใหญ่ของมันโอบล้อมเกาะกุมทั้งสองลูกกลมกลึงของผมอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ มันคลึงเล่นเบาๆ แล้วขยับขึ้นมาหยอกล้อแท่งรักที่ขยายตัวเต็มที่
ผมก้มมองหน้าสกายด้วยความพึงพอใจ มันสู้ตาผม หน้านิ่งที่เริ่มมีอารมณ์คุกกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ช่างดึงดูดสายตา ผมลากปลายนิ้วไล้ไปตามผิวไหล่เปลือยขึ้นไปถึงกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนของมัน ยิ่งสอดนิ้วเข้าไปยิ่งรู้สึกดีเพราะสัมผัสเข้ากับเส้นผมอ่อนนุ่มลื่นมือ “อะห์..” มันหลุดเสียงออกมาเบาๆ เมื่อผมขยุ้มเส้นผมนุ่มนั้นอย่างแรง
“สวย..” เอ่ยชมภาพงดงามตรงหน้าอย่างหลงใหล ดวงตาสวยซึ้งที่ตอนนี้ฉาบไว้ด้วยแรงพิศวาส
“ผมเป็นผู้ชาย” มันยืดตัวขึ้นมาประจันหน้าก่อนจะฉกปลายจมูกมาชนกัน เราคลอเคลียกันไม่นาน ริมฝีปากก็ดึงดูดเข้าหาและรุกไล่ระดมจูบกันและกันอย่างเร่าร้อน
ลิ้นอุ่นชื้นพัวพันเกี่ยวกระหวัดอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงดูดจ้วบจ้าบและฝ่ามือที่ลูบไล้กันไปทั่วอย่างสะเปะสะปะ มือข้างหนึ่งของสกายจับรูดส่วนกลางลำตัวของผมเป็นจังหวะสลับกับหยอกเย้าเล่นกับส่วนปลายที่มีของเหลวหนืดลื่นเอ่อออกมาไม่ได้ขาด
หัวใจผมเต้นโครมคราม ไม่เคยมีเซ็กส์กับใครแล้วรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน คงเป็นเพราะความแปลกใหม่ ไม่คุ้นชิน และโดยเฉพาะความรักที่ผมมีให้มันจึงทำให้ครั้งนี้มันพิเศษกว่าครั้งไหนๆ
“อ่าห์..เก่ง..โคตร” แล้วโพลงปากอุ่นชื้นก็ครอบครองส่วนกลางของผมไว้หมดทั้งลำ ไม่รู้ว่ามันเคยทำแบบนี้ให้ใครหรือเปล่าถึงได้คล่องขนาดนี้ ลูกชายของผมไม่ได้สั้นเลยนะแต่ส่วนปลายที่รู้สึกว่ากระทบเข้ากับบางสิ่งทำให้ผมรู้ว่าได้สอดเข้าไปในโพลงปากมันลึกขนาดไหน บอกอย่างไม่อายว่าถูกใจมากจริงๆ ขึ้นสุด ลงสุด แรงดูดและเรียวลิ้นที่ขยับไล้เลียไปพร้อมกันมันยิ่งกว่าที่ผมเคยได้รับจากสาวๆ ที่เคยผ่าน
“เก่งก็เสร็จซะทีสิ..” สกายคลายการครอบครองแล้วเงยหน้ามองผมแต่ก็ยังขยับมือขึ้นลงไม่ขาดตอน
ผมก้มมองคนเก่งของผมอย่างหื่นกระหาย “ถ้าเสร็จแล้วจะต่อให้อีกรอบมั้ยล่ะ..อืมห์..” มันก้มลงดูดเม้มส่วนปลายแท่งรักแรงๆ เหมือนเป็นการลงโทษก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“ชักไม่อยากให้คุณหายแล้วสิ..ผมว่าเวอร์จิ้นผมกำลังไม่ปลอดภัย”
ผมหรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ ปัดผมที่ตกลงมาบังตาให้มันอย่างนึกเอ็นดู “กูรักมึงมากนะสกาย รักเพิ่มขึ้นทุกวินาที กูเชื่อว่ากูจะดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของมึงได้ดีกว่าที่มึงคิด” ผมก้มลงไปจูบมันอีกครั้ง สกายแลกจูบกลับมาเร่าร้อนดูดดื่มไม่แพ้กัน
ผ่านไปสักพักมันก็ล่าถอยออกไปก่อนพร้อมกับจ้องตาผมราวกับหลงใหลอยู่ไม่น้อย “พูดจาดีๆ หวานๆ ก็เป็นเหรอครับเมีย อึ่ก!!” ผมฉกวูบเข้าไปกัดปากมันทันที กัดแล้วเคี้ยวดูดอย่างรุนแรง “อึก..อือห์ จ..เจ็บ เจ็บครับ” มันพยายามหลีกเร้นคมเขี้ยวของผม เอียงหน้าหลบซุกลงมาตรงซอกคอก่อนจะกระซิบข้างหูเสียงปร่า “ชอบความรุนแรง เดี๋ยวก็จัดแรงๆ ให้ซะเลย” มือที่สาวท่อนรักของผมอยู่เพิ่มแรงบีบและความเร็วในการชักนำจนผมรู้สึกเสียวสะท้านไปทั่วร่าง
ผมกัดฟันแล้วเอียงหน้าเข้าหาใบหูมันก่อนจะไล้เลียดูดเม้มจนทั่ว “เรื่องจัดแรงคงต้องรอให้กูหายก่อน แต่ตอนนี้.. ลงไปดูดต่อให้เสร็จเถอะ อึก..อือห์” มันเอียงหน้าลงกัดลำคอผมอีกครั้งพลางดูดแรงๆ เมื่อผมพูดจาหยาบโลนอย่างตั้งใจ
“เดี๋ยวก็กัดทั้งคอบนคอล่างให้ขาดหมดเลยนี่” มันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดกรอกหูก่อนจะค่อยๆ ย่อตัวลงจนหน้าอยู่ในระดับเดียวกับของรักที่มันขู่จะกัดเมื่อครู่ มันเงยมองหน้าผมอีกครั้ง สายตาเหมือนสัตว์ป่าที่เจอเหยื่อแต่ก็ยังไม่ผลีผลามไล่ต้อนแต่จะค่อยๆ ดูลาดเลาแล้วเล่นกับเหยื่อจนอ่อนแรง
ผมยิ้มหื่น “ถ้ากัดขาดแล้วมึงจะเสียใจนะ..อา..อาห์” สกายก้มลงครอบครอบมังกรยักษ์ของผมทันที สกิลการออรัลขั้นเทพจนต้องแหงนหน้าระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายทำได้ขนาดนี้ รู้แบบนี้จีบมันตั้งแต่เจอวันแรกแล้วนะ
ผ่านไปสักพักสกายก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นอีกจนกระทั่ง “อ่ะ อ่า อาห์ อาส์ ส..สุดยอด..” ผมปลดปล่อยออกมาสุดตัว แต่ที่มันพีคได้สุดก็เพราะของเหลวทั้งหลายพุ่งเข้าไปในปากของสกายและมันก็ไม่ได้หยุดครอบครองท่อนรักของผมในทันทีแต่ยังดูดเบาๆ ขยับขึ้นลงอยู่อย่างนั้นช้าๆ เอื่อยๆ ปล่อยให้ของเหลวค่อยๆ ไหลชโลมลูกชายที่อ่อนตัวลงเรื่อยๆ
“เก่งขนาดนี้ อย่าหวังว่ากูจะปล่อยมึงไปให้ใครนะ” ผมโยกเอวสวนเบาๆ เมื่อสกายกดริมฝีปากลงไปถึงโคนอีกครั้ง พร้อมกับกดหัวมันลงเพื่อซึมซับความฟินอีกรอบก่อนจะดันไหล่ออกแล้วเชยคางมันขึ้นรับจูบ
“อืม..” เสียงสกายครางรับเมื่อผมจูบและฉกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นมันอีกครั้ง “อือ.. เจ็บเข่าแล้ว” มันผลักอกผมออกแล้วนั่งลงแหมะลงไปบนพื้นก่อนจะเหยียดขาออกแล้วนวดหัวเข่าทั้งสองข้าง
“เดี๋ยวอาบน้ำให้นะ อาบเสร็จจะนวดให้” ผมทำหน้าระรื่นเพราะตอนนี้สบายตัวแล้ว
“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละ” สกายทำหน้าโหดใส่
ผมได้แต่ยิ้มกับความน่ารักของมัน “ป่ะ ลงอ่างเดี๋ยวขัดขี้ไคลให้นะ” พยุงมันขึ้นแล้วดันตัวมันลงไปแช่ในอ่าง
“อาบเฉยๆ ก็พอ เดี๋ยวคุณจะไข้ขึ้น เอาไว้หายแล้วค่อยขัด” สกายทำหน้าจริงจังและผมก็เห็นว่าถ้าขัดก็คงโดนโกรธแน่ๆ
“งั้นรีบอาบ แล้วจะไปนวดให้ที่เตียงนะ” ผมหุบยิ้มไม่ได้เลยตอนนี้ ลืมไปเลยว่าเคยดราม่า วะ ฮ่ะ ฮ่า
“ลั้ลลาเหลือเกิน” มันบ่นแล้วยกแขนขึ้นให้ผมฟอกครีมอาบน้ำตรงจั๊กกะแร้ ขนมันเยอะเหมือนกันนะ พอๆ กับผมนั่นแหละ เห็นแล้วนึกแปลกใจตัวเอง ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงขนลุกขยะแขยงแต่พอรักไปแล้ว ทำไมทุกอย่างมันถึงน่ารักน่าใคร่ไปหมด อยากเอาหน้าซุกดูว่าจะมีกลิ่นยังไง คิคิ โรคจิตขึ้นทุกวันนะกูเนี่ย เปลี่ยนไปเยอะเลยล่ะนิสัยของผม
อา.. มหัศจรรย์แห่งรักสินะ
พออาบน้ำเสร็จ ผมก็ลากมันมาที่เตียงแต่ยังไม่ให้ใส่เสื้อผ้า แค่พันเช็ดตัวไว้แค่นั้น จัดให้มันนอนคว่ำแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมตรงโคนขาของมัน บีบโลชั่นลงบนแผ่นหลังกว้างก่อนจะถูละเลงไปทั่ว
“ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดไปนะ” มันเอี้ยวตัวมามองแต่ผมดันให้คว่ำลงอย่างเดิม
“ผิดยังไง” ผมถามพลางนวดคลึงที่หัวไหล่ทั้งสองข้างอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ผมเจ็บเข่า แล้วมานวดไหล่ทำไมมิทราบ” แทบจะหลุดขำเพราะเสียงมันติดจะเคืองๆ
“ใส่เสื้อผ้าแล้วค่อยนวดเข่า ไม่งั้นถ้าเห็นอะไรเหนือเข่ามันล่อตาล่อใจ เดี๋ยวของกูจะขึ้นรอบสอง”
“...เฮ้อ..ปวดหัวว่ะ” มันบ่นแล้วกดหน้าลงกับหมอนอย่างเหนื่อยหน่าย
“เอาน่า รอกูหายแล้วค่อยว่ากัน เดี๋ยวจะจัดให้สาสมใจเลยทีเดียว” ไอ้หน้านิ่งหันมาชักสีหน้าใส่ทันที
“ที่บอกว่าปวดหัวเพราะความหื่นของคุณ ไม่ใช่เพราะคุณยังไม่หายแล้วทำอะไรผมไม่ได้ โว้ะ!!” ผมหลุดหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นมันแสดงอารมณ์
“อย่าทำหน้าเหวี่ยงแบบนั้นสิ...มันน่ารัก” ไม่ว่าเปล่า ผมกระโจนคร่อมทับร่างมันแล้วพุ่งจมูกไปฝังบนแก้มขาวๆ ก่อนจะสูดลมหายใจแรงๆ
ไอ้หน้านิ่งไม่ได้ตกใจหรือดิ้นหนี มันกัดฟันหลับตาแน่นเหมือนเหนื่อยเพลียกับความเป็นผม แต่ผมแอบเห็นนะว่ามันอมยิ้มเขินๆ “ผมคิดผิดรึเปล่าวะที่ยอมแพ้พนันคุณ ที่ยอมเป็นแฟนคุณและยอมเป็นของเล่นให้คุณเนี่ย”
“ก็มึงเป็นของเล่นชิ้นใหม่ กูเห่อกูก็เล่นบ่อยไง เดี๋ยวเบื่อก็เลิกเล่นเองแหละ” ผมแกล้งทำหน้าจริงจัง
“.........” มันเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาเสียงเครียด “ก็มีค่าแค่นี้เองสินะ...แต่ก็ยังดีที่ยังอยากเล่น” เห็นสีหน้านิ่งขึงของมันทำให้ผมเริ่มใจเสีย “สำหรับบางคนของเล่นอย่างผมก็เป็นที่ต้องการเพราะได้ผลประโยชน์ แต่กับบางคนขนาดอยากมีประโยชน์ให้เขายังไม่ต้องการเลย แค่อยากเจอหน้าอยากได้เห็นได้มั่นใจว่าเขาปลอดภัยแล้ว แค่อยากปลอบอยากทำประโยชน์ให้บ้างแต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย”
อ่าว ดราม่าเฉยเลยไอ้สัด กูกำลังอารมณ์ดี หมดกันเสียฤกษ์หมด ปากกูนี่นะ โอ้ย! อยากตบปากตัวเองซักร้อยที
“เหย กูล้อเล่น ถ้าไม่ชอบก็ไม่พูดแล้ว” ผมกลิ้งลงจากร่างมันลงมานอนข้างๆ มองใบหน้าหม่นเศร้านั้นอย่างรู้สึกผิด
“คุณก็เหมือนกัน ปูมหลังของเรามันก็ต่างอย่างเห็นได้ชัด ลูกเมียหลวงกับลูกเมียน้อย จะอยู่กันได้ยืดแค่ไหน อีกอย่าง ถ้าสัญญาหมด ผมก็ยังไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นยังไง อาจต้องรับพ่อมาอยู่ด้วยเพราะคาดว่าเมียใหม่เขาไม่น่าจะเลี้ยงพ่อต่อไปอีก”
“อ้าว ทำไมงั้นล่ะ”
“......” สกายยิ้มหยันก่อนจะพูดในสิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อหู “ที่ผ่านมาเขาได้เงินจากสัญญาพี่ดอทตั้ง 50% แต่ถ้าสัญญาหมด เขาจะขาดรายได้เดือนละหลายแสน แล้วคุณคิดว่าเขาจะเก็บคนที่นอนเป็นผักไม่มีประโยชน์เอาไว้อีกทำไมกัน”
ฉิบหาย ทำไมชีวิตมันรันทดได้ขนาดนี้วะ ที่กูดราม่ามาตั้งแต่ต้นคือยังน้อยกว่ามันเป็นร้อยเท่าเลยนะ
“เหยย มึงคิดมากไปรึเปล่า เขาอยู่กินกันมา จะทิ้งขว้างกันลงง่ายๆ เพราะเรื่องเงินเหรอ ไม่หรอกมั้ง” ตั้งคำถามไปก็ใช่ว่าจะมั่น บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ผมตัวหดเล็กกว่าเห็บหมาซะอีก
ไอ้หน้านิ่งเหลือบมองผมด้วยสายตาเย็นชาจนต้องลอบกลืนน้ำลายเพราะรังสีกดดันที่ส่งออกมาจากดวงตาคู่นั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นมุมดาร์กที่สุดของสกาย
“ไม่รู้อะไรก็อย่าพูด ทุกเรื่องที่เกิดกับผม คุณเดาไม่ออกหรอกว่ามันเหี้ยได้เหี้ยมากแค่ไหน!” น้ำเสียงเย็นยะเยือกบาดขั้วหัวใจ สายตาแข็งกร้าวและรังสีมืดทะมึนรอบตัวมันทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกตัว
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่งได้เรียนรู้จากแฟนคนนี้.. สกายเสพติดดราม่าเข้าเส้นจนยากจะเลิกซะแล้วล่ะ
*************************
ข้อความจาก นิยายหมายเลข9
ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของพาร์ทพี่ดินแล้ว เหลืออีกแค่ 3 ตอน ในเล้าเป็ดก็จะจบ แต่สามารถติดตามต่อได้ในรูปเล่มค่ะ
ปล. เรื่องความสัมพันธ์ของดินสกายจะมีตอนพิเศษของสกายออกมาเป็นอีก 1 ตอนยาวๆ ยังไงก็ช่วยรอติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด ขอบคุณทุกคอมเม้นต์และบวกเป็ดด้วยค่ะ