บทที่5
เวลาการฝึกงานของมังกรผ่านไปได้สองวัน ก็ทำให้เขาได้เรียนรู้ขึ้นมา ว่าโลกความจริงนั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย คนที่คิดว่าความรู้ในตำราคือโลกกว้าง นั่นก็ไม่เท่ากับการสร้างภาพกบในกะลาให้กับตนเอง มังกรต้องรับมือกับการเข้าหาผู้คนใหม่ๆในทุกวัน รวมถึงทักษะการทำงานทางด้านต่างๆซึ่งไม่มีสอนในรั้วของมหาวิทยาลัย แต่กระนั้นสิ่งที่เขารู้สึกลำบากไม่เป็นรองจากเรื่องอื่นใดเวลานี้ ก็เห็นจะเป็นเรื่องการปรับตัวเข้ากับเจ้านายเจ้าระเบียบของเขา ..พสุธา
“แอ๊ดดด”
เสียงเปิดประตูไม้สุดหรูของห้องผู้จัดการพสุธาดังขึ้น ขณะเดียวกับเวลาที่คนร่างสมส่วนในชุดนิสิต ผูกเนคไทสีดำตรงตามระเบียบอย่างหาที่ติไม่ได้ (จะมีเพียงก็แต่กางเกงที่ใส่เป็นยีนสีดำขาเดฟ ซึ่งพสุธาได้อนุมัติให้ใส่ได้) ได้ย่างกรายเดินเข้าไปในห้องทำงานของบอสขี้เก๊กในสายตาเขา
“ดีมากครับ แต่งตัวเรียบร้อยดีมาก” พสุธาว่าพลางขณะนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่สีดำเข้ม ราวกับนายแบบที่มีพื้นหลังเสริมออร่าเป็นท้องฟ้าสีครามสดหลังกระจกบานใส
คนร่างสมส่วนนึกรู้สึกอึดอัดกับการใส่ไทมาทำงาน ถึงแม้ว่าเขาจะดูดีและโดเด่นเป็นพิเศษเกินหน้าเกินตาใครเมื่อได้อยู่ในชุดนิสิตแบบเต็มฟอร์ม แต่กระนั้นการแต่งกายลักษณะนี้ก็ใช่จะตรงกับจริตของมังกรนัก เหตุเพราะการใส่ไทแบบเต็มยศทำให้เขารู้สึกอึดอัดบริเวณต้นคอ
“ผมอึดอัด” มังกรว่าสั้นๆก่อนจะยกมือสวัสดีพสุธา
“ทำงานในบริษัทของผม ต้องแต่งตัวเรียบร้อยครับ”
เด็กฝึกใหม่หารู้ไม่ว่าบอสของเขากำลังยกคำว่าระเบียบมาอ้างเป็นธรรมเนียมปลูกปั้นเฉยๆ ซึ่งความจริงแล้วเขาแค่อยากจะเห็นเจ้าคนร่างเล็กกว่าใส่ชุดนิสิตผูกไทในทุกๆวันยามบ่าย ให้เขาได้เชยชมเป็นอาหารตา
“ครับ” คนร่างเล็กกว่าเอ่ยคำตอบเพียงสั้นๆ
“นี่โต๊ะทำงานใหม่ของนาย ..ฉันให้ลูกน้องสั่งซื้อไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” พสุธาว่าก่อนจะหันหน้าไปมองโต๊ะตัวใหม่ที่อยู่ด้านข้างของห้อง
โต๊ะทำงานไม้สีอ่อนที่คนร่างสมส่วนไม่คุ้นตา กับการจัดวางอุปกรณ์เครื่องเขียนและแฟ้มเอกสารอย่างเป็นระเบียบทำให้เขารู้สึกชาและเกร็ง เหตุเพราะเขาพึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แต่ผู้จัดการกลับตอบแทนให้เขายิ่งกว่าคนที่ทำงานมานานหลายปี เฉกเช่นมนุษย์เงินเดือนที่อยู่นอกห้องหลายคน
เขานึกขอบคุณ เกรงกลัว และเกรงใจพสุธาพร้อมๆกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยได้แต่หันไปสบตากับพสุธาก่อนจะเอ่ยถามสั้นๆ
“จะดีหรอครับคุณ”
“นี่คุณ! ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกผมพี่มอคค่า” คนร่างหนาขึ้นเสียง จนทำเอานิสิตฝึกงานใหม่ต้องสะดุ้งโหยง
“อะเอ่อ... คะ..ครับพี่ ..มอคค่า”
พสุธายิ้มให้ก่อนจะว่าต่อ
“นายจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยังไงหละ ไม่ชอบหรอ ผมจะได้ให้คนเปลี่ยนเป็นตัวอื่น ..หรือมันเล็กไป”
มังกรรีบฝืนยิ้มปฏิเสธอย่างสร้างภาพทันที เหตุเพราะไม่อยากจะต้องแบบรับความเกรงใจไปมากกว่านี้
“ชะ ..ชอบครับ .ชอบมากๆเลย”
พูดเสร็จนิสิตผูกไทพลันก็รีบเดินตรงเข้าไปทำแกล้งลูบโต๊ะไม้นั่น ก่อนจะทิ้งตัวหย่อนกายวางลงบนเก้าอี้ทำงานทันที เพื่อทำให้คนร่างใหญ่เชื่อสนิทใจว่าเขารู้สึกชอบโต๊ะตัวนี้จริงๆ
“มังกร” พสุธาเอ่ยเรียกชื่อเด็กใหม่ของเขาสั้นๆ
“ครับ”
“ที่แปลส่งให้ผมเมื่อวาน ถือว่าใช้ได้ไม่เลวเลยนะครับ ระดับการแปลของคุณผมเห็นว่าถ้าได้รับการฝึกหนักมากกว่านี้ วันหน้าคุณจะสามารถพอมาเป็นเลขาผมได้เลยหละ”
คนร่างสมส่วนถึงกับถลึงตากับคำว่าเลขา
“ดะ..เดี๋ยวสิครับ คุณ” ว่าได้ไม่ทันไร คนร่างใหญ่ก็กระแอมเสียงขึ้นมาทันที
“เอ๊ย ... เด๊ย่วสิครับพี่..” มังกรแก้คำพูดอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะว่าต่อ
“ให้ผมเป็นเลขาเดี๋ยวงานก็ได้ล่มหรอกครับ ผมแค่มาฝึกงาน ยังไม่คิดที่จะไปถึงขั้นนั้นหรอกนะ ผมคิดว่า..ฝีมือของผมยังไม่ถึงขั้นด้วย” มังกรเอ่ยถ่อมตนอย่างตรงไปตรงมาและไม่อ้อมค้อมนัก
พสุธาส่งยิ้มให้มังกรอีกครั้งก่อนจะอธิบายต่ออย่างยืดยาว
“ผมไม่ได้แต่งตั้งมั่วๆ ฝีมือของคุณ ขนาดโยนเอกสารให้วันสองวัน ยังแปลได้ขนาดนี้ ถึงจะมีผิดเยอะหน่อยในเรื่องของศัพท์ธุรกิจ แต่นั่นก็เป็นเพราะคุณยังไม่เคยทำ แต่พอมาดูเรื่องของใจความและการเรียกประโยคแทบจะไม่มีที่ติ ทั้งคำขึ้นต้นลงท้ายจดหมายทุกอย่างสมบูรณ์แบบ อีกอย่างนึง ดูจากสถาบันที่คุณจบมาผมก็รู้แล้ว ว่าเรื่องความรู้วัฒนธรรมและการเข้าสังคมจีนของคุณน่าจะเป็นสิ่งที่คุณถนัดที่สุด .. รอบด้านขนาดนี้ ในรอบเกือบสิบปีมาผมยังไม่ได้เคยเจอคนไหนแบบคุณเลยครับ ...
เด็กน้อยมังกรนิ่งงันกับคำพูดของพสุธาไปครู่หนึ่ง ในใจเขารู้สึกนึกดีใจและแทบจะลอยไปกับคำชมเหล่านั้น ความพยายามที่บ่มเพาะมาตลอดของเขาไม่สูญเปล่า คำพูดพสุธากำลังเป็นสัญญาณบอกว่าในอนาคตความฝันเขาอาจจะกลายเป็นจริงก็เป็นได้
“เลขาของผม ไม่ใช่คนที่จะมายืนหล่อยืนสวยแบบในโทรทัศน์ ผมต้องการคนที่รอบด้าน และพร้อมจัดการกับปัญหาที่เข้ามาได้แทนผม .. แต่ผมไม่ได้บังคับคุณหรอกนะครับ .. ถ้าคุณไม่อยากจะทำงานนี้ ผมก็ไม่ได้บังคับ”
พสุธาว่ากลายๆก่อนจะหยิบชีทห้าหน้ากระดาษเอสี่ขึ้นมา แล้วเดินมาที่โต๊ะทำงานใหม่ของมังกร
“นี่คือลิสต์คำศัพท์ที่ใช้บ่อยในบริษัทของผม ผมจะให้คุณศึกษาและท่องจำไปเรื่อยๆ ตอนเย็นผมจะทดสอบคุณด้วยการสัมภาษณ์เหมือนอยู่ในสถานการณ์จริงของล่ามบริษัทระดับต้น
คนร่างเล็กกว่าถึงกับกลืนน้ำลาย มองหน้ากระดาษเอสี่ที่วางไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วอยู่บนโต๊ะเขา
“เข้าใจดีนะครับ” พสุธาเอ่ยซ้ำ
“ครับ”
“ดีมากครับ”
“แล้วก็ นี่เป็นส่วนงานที่ให้ฝึกแปลของวันนี้นะครับ ผมขอให้เสร็จก่อนบ่ายสามโมง”
“คะ ...ครับ” เด็กน้อยในกำมือน้อมหัวรับคำสั่ง
“แล้วพอแปลเสร็จแล้ว ตอนบ่ายสามผมขอมอคค่าร้อนหนึ่งแก้วด้วย .. ขอหวานนะครับ ...ห้าโมงคุณก็ทำความสะอาดห้องผมให้เรียบร้อย แล้วหลังจากนั้นเราจะได้เริ่มฝึกสัมภาษณ์กัน”
พสุธาเอ่ยคำสั่งสุดท้ายกับเด็กใหม่ ที่ตอนนี้หน้าเหวอไปแล้วกับการเอาแต่ใจและสั่งงานแบบตะลุมบอน ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของเขา
“นี่ถ้ากูเป็นเลขา ... คงร่างแตกไปห้าวันแรกแหง” มังกรบ่นกับตัวเองเสียงเบา แต่นี่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ดูท่าความเบาของเขาจะสู้กับหูเรดาร์ของพสุธาไม่ได้
“จะนินทาผมก็ให้มันเบากว่านี้หน่อยครับ ..วันหลังก็อย่าหาว่าไม่เตือนแล้วกัน”
คนตัวเล็กกว่าถึงกับรีบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และก้มหน้าจุ่มลงไปกับกองคำศัพท์ธุรกิจใหม่ต่อทันที
............
....
และแล้วเวลาในห้องทำงานกว้างขวางและเย็นฉ่ำเพราะเครื่องปรับอากาศยามบ่ายนี้ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เด็กฝึกงานคนใหม่ถอนหายใจเสียงยาวทันทีเมื่อเขาได้ทำงานแปลให้กับบอสขี้เอาแต่ใจจนแล้วเสร็จ ก่อนจะหยิบกระดาษคำศัพท์ขึ้นมาดูให้ผ่านตาเป็นรอบที่สาม
เสียงพึมพำคำศัพท์ธุรกิจของเด็กฝึกงานใหม่ดังกระเพื่อมโสตประสาทของพสุธาทันทีในเวลาไม่ช้า บอสร่างหนาค่อยๆวางปากกาลงก่อนจะเคลื่อนสายตามามองนวลแก้มขาวที่กำลังสะกดเขาไว้ในชั่ววินาทีที่หันมา
กลีบปากสีชมพูฉ่ำอย่างคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งเผยให้เห็นอยู่ข้างนวลแก้มข้างซ้าย ยิ่งกลับทำให้พสุธาถึงกับต้องหาเรื่องพูดคุยกับเจ้าคนที่กำลังท่องคำศัพท์ที่เขามอบหมายไว้อยู่
“นี่คุณครับ”
“ครับ”
มังกรขานรับสั้นๆพร้อมกับหามาหาเจ้าของเสียง
“แปลเสร็จก็อย่าลืมชงกาแฟให้ผมด้วยสิครับ”
มังกรรีบมองดูนาฬิกาที่แขวนไว้อยู่บนกำแพง ก่อนจะทำหน้าตาตกใจให้กับเวลาที่ล่วงมาแล้วยี่สิบนาที เขาหันไปหาพสุธาก่อนจะเอ่ยคำสารภาพ
“แต่คุณ .. เอ้ย ..พี่ครับ ผมไม่เคยชงกาแฟนะครับ อย่างเก่งก็สั่งทรูคอฟฟี่ไม่ก็เซเว่นแหละครับ”
ชั่วชีวิตของเด็กฝึกงานคนใหม่นี้ ไม่มีครั้งใดเลยที่เขาได้รับประสบการณ์การชงกาแฟ อย่าว่าแต่สัดส่วนเลย แค่วิธีการชงธรรมดาเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องใส่อะไรบ้าง และในสัดส่วนเท่าใดอีกด้วย
“มันเป็นหน้าที่ของคุณ ...” พสุธาว่าสั้นๆก่อนจะแอบอมยิ้มเล็กๆที่มุมปากแล้วก้มลงตรวจสมุดบัญชีเล่มหน้าตึ้กต่อ
มังกรได้แต่นิ่งงันไปอย่างรู้สึกไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เขาก็ดูจะไม่มีทางเลือกนอกซะจากชงกาแฟอย่างสุดความสามารถให้สมใจแก่บอสของเขา
“ชงไม่เป็น ..ชงมั่วๆก็ได้วะ” นิสิตฝึกงานใหม่พูดกับตนเองเสียงค่อยอย่างระวัง
คนตัวเล็กกว่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานทันที พลันเดินไปที่มุมชงกาแฟของบอสพสุธา แล้วเริ่มเปิดฉากการชงกาแฟที่เขาไม่ได้เคยมีโอกาสซักครั้งเลยในชีวิต (จะมีก็ตอนนี้แหละนะ)
ทุกท่วงท่างุนงงผสมกับการเกาหัวไปมาของเด็กมังกร มีหรือจะหลุดรอดจากสายตาพสุธาไปได้ บอสร่างใหญ่วางสายตาออกจากตัวเลขในสมุดบัญชีทันที ก่อนจะหันมามีสมาธิกับแผ่นหลังกว้างพอสมควรของมังกร ที่เขยิบซ้ายป่ายขวาไปเรื่อย เหตุเพราะกำลัง งุกๆเงิ่นๆ ไม่เข้าใจกับวิธีการใช้เครื่องชงกาแฟอย่างดีเท่าไหร่นัก
ภาพเก่าในวันวาน ค่อยๆลอยขึ้นมาเรียกหวนความรู้สึกคิดถึงกับพสุธาอีกครั้ง
ครั้งแรกที่เขาได้เจอสล็อต สล็อตก็ไม่ได้ต่างไปจากมังกรเลยซักนิดเดียว แถมยังซุ่มซ่ามมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป อย่าว่าแต่หาวัตถุดิบมาชงเลย ครั้งแรกของสล็อตที่ยังอยู่ในความทรงจำของพสุธา ก็คือการทำเครื่องกาแฟหล่นจนเขาต้องหาซื้อเครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่า
แต่หลังจากที่เขาได้ค่อยๆสอนสล็อตให้ชงกาแฟ ภายหลังแล้วสล็อตก็กลับมีความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงรสกาแฟต่างๆขึ้นมา จนทักษะแซงหน้าคนที่เป็นครูสอนชงกาแฟให้
....
( “ พี่มอคค่าครับ กาแฟได้แล้ว ... ผมป้อนนะ”
“ฮ้ะ ป้อนกาแฟเนี่ยนะ”
“ใช่แล้วครับพี่”
“ทำยังไงอ่ะ”
“ใช้ช้อนเล็กๆนี่ไง .. ค่อยๆอ้าปากให้ผมนะครับพี่”)
....
เสียงของคนที่ได้ลาจากเขาไปนานนับปี กลับฟุ้งลอยขึ้นมาทักทายอีกครั้งในความทรงจำอันเก่าและสดใหม่ที่คราเดียวกัน พสุธาเริ่มปล่อยใจให้เหม่อลอยไปกับกลิ่นอายความหลังที่ดูท่ากำลังจะส่งผ่านมายังแสงแดด ซึ่งลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาอย่างอ่อนนวลและหรี่แสง
“ได้แล้วครับ”
เสียงเรียกความสนใจจากคนตรงหน้า และรอยยิ้มหวานที่ส่งมาอย่างเจื่อนๆเรียกสติคนร่างหนาให้กลับมาโดยพลัน
“อะ ...อื้ม ขอบใจนะ” พสุธาว่าสั้นๆก่อนจะรีบหยิบแก้วกาแฟนั่นมาทันที
“พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ” .. มังกรเอ่ยถามด้วยความสงสัย
นี่เป็นครั้งแรกที่คนตัวเล็กกว่ายอมเรียกบอสหนุ่มแน่นอายุสามสิบห้าว่าพี่ ซึ่งทำให้เขารู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่กระนั้นก็ยังซ่อนความดีใจ ให้เก็บไว้จนอยู่ลึกที่สุดของก้นบึ้งหัวใจ ...เท่าที่เขาจะฝืนใจเก็บไว้ได้
“ปะ ... เปล่า” พสุธาตอบพร้อมกับมอบรอยยิ้ม
“อ๋อครับ ...ไม่ได้ปวดหัวใช่มั้ยครับ เห็นเหนื่อยๆ ล้าๆ ... พี่ตรวจบัญชีมาตั้งสองชั่วโมงแล้ว ผมว่านอนพักซักหน่อย แล้วค่อยตื่นมาทำต่อดีกว่ามั้ย ... ทานกาแฟมีแต่จะทำให้ปวดหัวหนักขึ้นนะครับถ้าฝืน” มังกรเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นห่วง
ความเป็นคนใจดีและเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชังของมังกร ทำให้เขากล้าที่จะเอ่ยคำพูดเรื่องสุขภาพขึ้นมาตรงๆกับผู้จัดการคนใหม่คนนี้ มังกรไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขาได้ทำให้พสุธาประทับใจและเริ่มตราตรึงเขาไว้ในใจเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง
“ขอบคุณครับ แต่ผมยังไหว” บอสหนุ่มแน่นยิ้มให้มังกร ก่อนที่จะยกถ้วยกาแฟนั้นขึ้นจิบลิ้มรองรสชาติ
......
คนร่างเล็กกว่าถึงกับยืนลุ้นในท่ากำมือแน่น เหตุเพราะกลัวว่ารสกาแฟที่ตนปรุงแต่นั้นจะไม่ผ่าน
...............
......
แล้วแล้ว ....
พสุธาค่อยๆดึงถ้วยกาแฟออกจากริมฝีปากบนอย่างค่อยๆ ก่อนจะเอ่ยกับคนตรงหน้าพร้อมกับส่ายหน้า
“มันขมมากเลยครับ”
“ฮ้ะ! นี่ผมใส่น้ำตาลไปทั้งซองแล้วนะครับ”
“คุณคงจะใส่กาแฟมากไปหนะครับ เลยขมและข้นขนาดนี้ ... ยังไม่ผ่านนะครับ ไปชงให้ผมใหม่อีกถ้วยก็แล้วกัน”
มังกรร้องโอดครวญอย่างไม่เกรงกลัวคนตรงหน้าอีกต่อไปก่อนจะเดินห่อตัวกลับไปที่มุมชงกาแฟ พสุธาอดขำไม่ได้กับท่าทางใสสื่อบริสุทธิ์ของเด็กคนนี้ขณะที่เริ่มหยิบปากกาขึ้นมาตรวจเช็คบัญชีอีกครั้ง
........
...
เวลาได้ผ่านไปไม่นานนัก คนร่างสมส่วนก็เดินถือถ้วยกาแฟกลับมาเสิร์ฟนายของเขาอีก ครั้งนี้เขาระมัดระวังการชงเป็นอย่างที่ ทั้งยังกะอุณหภูมิของน้ำ ให้ไม่ร้อนจนเกินไปอีกด้วย หวังว่ากาแฟที่เขาตั้งใจชงครั้งใหม่นี้ จะถูกปากของผู้จัดการร่างใหญ่มากขึ้น แต่ดูท่าคำตอบที่ได้รับจะ ...
“ อืม ...” พสุธาว่าหลังจากที่ได้ยกแก้วกาแฟนั้นซดเข้าไปหนึ่งอึก
“ดีขึ้นนะคัรบ แต่เหมือนว่ายังหวานไม่พอ”
มังกรถึงกับถอนหายใจสั้นๆกับคำตอบว่าไม่ผ่านแบบอ้อมๆของพสุธา
“อยากรู้มั้ยครับ รสหวานของกาแฟเป็นอย่างไร” พสุธาว่าพลางขณะที่ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทำงาน เขาใช้มือขวาปิดสมุดบัญชีเล่มหนาใหญ่ลงโดยมีปากกาขั้นหน้าที่ทำงานค้างไว้อยู่ ก่อนจะเดินถือแก้วกาแฟ มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเด็กฝึกงานใหม่
“ยังไงหรอครับ” มังกรเอ่ยถามสั้นๆขณะที่มองไปยังถ้วยกาแฟ
“คุณลองดื่มสิ มันหวานมั้ย” พสุธาเอ่ยพลางยื่นแก้วกาแฟมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของคนตัวเล็กกว่า
มังกรค่อยๆใช้มือรับแก้วกาแฟจากมือหนาแบบผู้ชายของพสุธา แล้วจิบน้ำกาแฟลงคอไปทันที
“อึ้ก ..”
“ยังไม่ค่อยหวานจริงๆด้วย” คนตัวเล็กกว่าว่าพลางวางถ้วยแก้วกาแฟลงข้างกาย พร้อมกับหันตัวรีบจะไปชงกาแฟแก้วใหม่ให้กับผู้จัดการของเขาทันที
แต่แล้วมังกรก็ต้องหันร่างกลับมาทันควัน เมื่อคนร่างใหญ่ใช้มือทั้งสองจับบริเวณหัวไหล่แล้วหันตัวเขากลับมา
“แบบนี้หวานขึ้นมั้ย”
ไม่มีคำขอหรือคำว่ารีรอ พสุธาเอ่ยสั้นๆกับมังกรก่อนจะเคลื่อนริมกลีบปากหนา บรรจงประกบกับริมฝีปากบางของนิสิตผูกไทด์อย่างเบาแรง บอสหนุ่มแน่นค่อยๆส่งผ่านความรู้สึกละมุมให้แก่เด็กใหม่ของเขา ก่อนจะค่อยๆส่งมอบลมหายใจที่เต็มไปด้วยความใคร่ในเสน่หาอย่างเหลือจะทนในเวลาเดียวกัน
“อะ ...อือ...อื้อออออ ...
.....
“””””””””””””””””””””””””
จากคนเขียน : เขียนตอนนี้แล้วแฮปปี้มากๆ :) อยากรีบเปิดคำศัพท์จีนธุรกิจมาท่องเลย คริๆ