เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)  (อ่าน 27295 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อ้าวๆ. ตอนท้ายนั่นเสียงใครล่ะ
บอสงานเข้า
บอสคิดถึงแฟนเก่าบ่อยไปปะหมั่นไส้อะ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
กลัวใจบอสจิงๆ คิดถึงแต่แพนเก่า

ถ้ายังเป็นไปเรื่อย มังกรคงไม่มีที่ยืนน่ะนะ

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จะมีต้องมีเรื่องแน่ๆ

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
จะมีเรื่องอะไรรึป่าววววว มาต่อไวๆ นะคะ

ออฟไลน์ OngWangye

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
บทที่8 ตอนจบ (มือปืนคืนงานประชุม1)

มังกร


“คืนนี้ปิดบัญชีพสุธา!”

นี่ผมหูไม่ฝาดใช่มั้ยครับ กะจะมาผ่อนเบาในห้องน้ำซักหน่อย ดันมาได้ยินประโยคนี้เป็นอันต้องหดกันเลยทีเดียว ...นี่กรูหูฟาดเปล่าวะเนี่ย ..ผมพยายามหลอกตัวเองคิดว่าเสียงเมื่อซักครู่เป็นลมปากผ่านหูธรรมดาๆ เลยตั้งใจเงี่ยหูติดชิดกำแพงกั้นห้องน้ำฟังใหม่อีกครั้ง หวังลึกๆในใจว่ามันจะเป็นความเข้าใจผิดของผมเอง
....
“ครับเสี่ย .. ไม่พลาดแน่นอนครับ .....    สามคนเกินพอแล้วหละครับ ... ครับ .... สวัสดีครับ”

แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมฟังมาเมื่อซักครู่จะไม่มีผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย ผมรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จในทันทีก่อนจะรีบเดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ..แต่พอผมออกมาจากห้องน้ำแล้ว ..ประตูของห้องข้างๆก็ถูกเปิดอ้าออก  ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าของเสียงอีก

.......

ผมรีบเดินออกมาเพื่อตามหาตัวพี่พีท ในใจยังมีความโลเลอยู่พอสมควรว่าจะบอกสิ่งที่ได้ยินมาให้พี่พีทฟังดีมั้ย ผมร้อนใจมากเวลานี้ แต่ผมก็พึ่งรู้จักกับพี่พีทแค่ครั้งแรก ผมจะไว้ใจได้อย่างไร แล้วข้อความนั้นเป็นจริงเท็จอย่างไรผมก็ไม่ทราบ

ความโลเลของผมดูท่าจะไม่มีประโยชน์อะไร เมื่อในที่สุดพี่พีทกลับหายไปจากจุดที่บอกจะยืนรอผม  ..อ่าวกรรมละครับ หายไปแบบนี้ .. งั้นตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็คงต้องวิ่งไปหาพี่มอคค่าให้เร็วที่สุดแล้วเรา ..ผมคิด

ผมรีบวิ่งกลับไปยังทางเก่าสู่บริเวณที่จัดงานทันทีเพื่อตามหาพี่มอคค่า แล้วบอกสิ่งที่ได้ยินมาให้พี่มอคค่าไหวตัวทัน

ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวชีวิตของพี่มอคค่า ว่าไปสร้างศัตรูอะไรไว้ยังไงกับใครเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆการเป็นนักธุรกิจแนวหน้าและอยู่ที่สูง ก็เป็นธรรมดาที่จะเป็นเป้าหมายที่ถูกเล็งไว้ของศัตรูคู่แข่ง มันเป็นธรรมชาติของวงการธุรกิจและโลกมาเฟีย

แต่แล้ว ... ไม่อยู่!

เหล่าแม่ครัวยังคงเดินกันให้วุ่นอลหม่าน ฝ่ายผู้ชายที่ทำหน้าที่ยกของก็ยังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ทั้งฝ่ายแสงสีเสียง และฝ่ายจัดฉากบนเวทีล้วนเริ่มแสตนบายกันอย่างเพียบพร้อม ..แต่พี่พีทกับพี่มอคค่าหายไปไหนกัน

ผมตัดสินใจโทรศํพท์หาพี่มอคค่าทันที แต่ปลายสายก็ไม่ยอมรับสายแม้แต่ครั้งเดียว ..ในใจผมเริ่มไม่สงบ กลัวว่าคำพูดที่ได้ยินมาเมื่อซักครู่จะกลายเป็นจริง ถึงจะรู้จักกันได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ผมก็ยอมรับว่าความสัมพันธ์ที่ผมกับพี่มอคค่ามีให้กันเวลานี้ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง และรู้สึกรับไม่ได้ถ้าหากเหตุการณ์น่าหวาดเสียวนั้นจะเกิดขึ้นจริง

ขณะที่ผมกำลังร้อนใจเพราะโทรหาพี่มอคค่าไม่ได้ กุ๊กคนหนึ่งที่กำลังถือถาดข้าวผัดขนาดใหญ่ก็เดินผ่านหน้าผม ผมรีบสะกิดพี่ชายคนนี้แล้วถามถึงพี่มอคค่าอย่างไม่โลเลทันที

“พี่กุ๊กครับ ...”

“ว่าไงครับน้อง”

“พี่พอเห็นผู้จัดการพสุธามั้ยหรอครับ”

“อ๋อ” พี่กุ๊กทำสีหน้าอ๋อเหมือนรู้ดีว่าพี่มอคค่าไปไหน

“เมื่อกี้เหมือนว่าจะมีเลขาของผู้จัดการหลี่มาหนะ ผมเห็นคุณพสุธากับคุณเมธีดูรีบๆเหมือนจะขึ้นไปชั้นบนของโรงแรม .. ถ้าจำไม่ผิดก็คงชั้นสามแหละมั้งครับ”

ทันทีที่พี่กุ๊กว่าเสร็จผมก็รีบกล่าวขอบคุณ แล้วเดินเร็วไปยังบริเวณลิฟท์ของโรงแรมทันที เพื่อจะได้ขึ้นไปชั้นสองของตัวโรงแรมหาพี่มอคค่า ... ผมเดาว่าคุณเมธี คงจะเป็นชื่อจริงของพี่พีทแหละครับ

ใช้เวลาไม่นานนัก ผมก็ได้วิ่งมาจนถึงหน้าลิฟท์ริมรอบบี้ ลิฟท์ตอนนี้ยังอยู่ที่ชั้นสิบสามอยู่ คงต้องใช้เวลารออีกซักพักกว่าที่ลิฟท์จะลงมา ผมเริ่มเก็บอาการร้อนรนใจไว้ไม่อยู่ เลยต้องระบายออกมาด้วยการเดินไปเดินมา จนในที่สุดมารู้ตัวอีกที ก็เห็นชายชุดสูทหน้าตาหล่อเหลา ไว้เครานิดๆแต่สวมแว่นดำ กางเกงแสล็กสีดำและเข็มขัดติดแบรนด์ รองเท้าหนังสีดำมันวาว มายืนอยู่ข้างหลังของผมแล้ว คำพูดที่ได้ยินในห้องน้ำเมื่อสักครู่ยังคงวิ่งวนไปมาในสมองเหมือนจะไม่หนีหายไปไหน จนผมอดสงสัยในตัวผู้ชายคนนี้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของชายชุดสูทหน้าหล่อก็พอจะทำให้ผมสงบลงได้ ผมเริ่มไม่เดินไปเดินมาให้วกวน เริ่มเก็บอาการรนรานไว้หวังไม่ให้พิรุธได้เผยออกมา จนในที่สุดลิฟท์ก็ลงมาจอดอยู่ที่ชั้นm

“ตริ๊ง”

เสียงลิฟท์เปิดออก ซึ่งผมก็เป็นฝ่ายที่เข้าในลิฟท์ก่อน แล้วกดปุ่มเปิดรอให้ชายชุดสูทสีดำเข้มเดินเข้าตามมา ระหว่างทางที่เขาเข้าลิฟท์มา ผมก็ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้ตามมารยามแบบแผนของคนไทย ซึ่งพี่เขาก็มอบรอยยิ้มให้กับผมด้วยเช่นกัน หากแต่ดูแล้วรอยยิ้มหวานนั้นกลับเหมือนถูกฝืนให้ยิ้มอย่างเย็นๆหวิวๆ

ระหว่างที่ลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้นบน ไร้ซึ่งบนสนทนาใดๆระหว่างผมกับพี่ชุดสูทเลยแม้แต่ประโยคเดียว ผมรู้สึกเกร็งๆอยู่บ้าง แต่ก็พอจะเก็บอาการอยู่ เลยเอาแต่มองแป้นตัวเลขบนลิฟท์นึกขอให้เวลานี้ผ่านไปให้เร็วที่สุด

พลันนั้นผมกลับรู้สึกได้ว่าในโรงแรมนี้ช่างไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย ถ้าหากคำพูดที่ได้ยินในห้องน้ำเป็นความจริง งั้นพี่มอคค่าก็คงจะมีอันตรายทุกเมื่อ คนร้ายพร้อมจะลงมือได้ทุกที แล้วคนที่แต่งตัวดีๆก็ใช่จะไว้ใจได้ ผมเริ่มสงสัยไปเกือบจะทุกๆคนที่อยู่ในโรงแรมแห่งนี้ ..

“ตริ๊ง”

และแล้วลิฟท์ก็ได้มาจอดอยู่ที่ชั้นสามของโรงแรม ผมเดินออกมาจากตัวลิฟท์โดยที่ไม่ได้สนใจว่าชายชุดสูทนั่นมีปฏิกริยากับผมอย่างใดอีก บริเวณโถงขนาดใหญ่ที่มีทางเชื่อมทั้งด้านซ้ายและขวาถูกปูด้วยพรมสีแดงตามแบบฉบับของโรงแรมสุดหรูนี้ โคมไฟเล็กๆที่ประดิบติดอยู่ตามผนังส่องแสงไฟตามทางจนสุดทางตันของทางเดิน

ผมนึกแปลกใจที่ไม่เห็นแม้แต่พี่พีทหรือพี่มอคค่า ถ้าตามที่พี่กุ๊กบอกก็น่าจะยืนคุยกันอยู่ที่โถง ..หรือเค้าคุยกันอยู่ในห้องลับนะ

แต่แล้วขณะที่ผมกำลังคิดหาคำตอบอยู่คนเดียว เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นจากห้องทางด้านขวา

“แอ๊ดดด”

เสียงพูดคุยทั้งภาษาจีนและภาษาไทยตีกันยกใหญ่ออกมาจากห้องนั้น นักธุรกิจกลุ่มหนึ่งเดินออกมาโดยมีเจ๊ผู้ญิงใส่แว่น หุ่นเปรี้ยวทรวดทรงอรชรเดินนำ ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเจ๊คนนี้คงจะเป็นเลขาของผู้จัดการหลี่ ส่วนพี่มอคค่ากับพี่พีทก็อยู่ในกลุ่มวงนักธุรกิจนั้น เลยทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาอย่างสนิทว่าอย่างน้อยพี่มอคค่าก็ไม่ได้เป็นอะไรไป

.....

“อ้าว มังกร พี่ขอโทษๆ”

พี่มอคค่าเรียกชื่อผมขณะที่มอบรอยยิ้มสดใสมาให้ก่อนจะพูดอ่อนน้อมขอตัว แล้วเดินออกมาจากกลุ่มนักธุรกิจนั่น ซึ่งพี่พีทก็เดินตามมาติดๆ

“พี่ขอโทษๆ เมื่อกี้พอดีเลขาของคุณหลี่เค้ามา พี่เลยไม่อยากให้เขารอนานหนะ”

“พี่ขอโทษด้วยนะ เมื่อกี้ ... มอคค่ามันโทรตามเลยรีบมาเลยหนะ” พี่พีทเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ซึ่งผมเดาว่าพี่เขาคงจะรู้สึกผิดที่ทิ้งผมไว้ในห้องน้ำ ก่อนจะทำท่าเกาหัวยิกๆไปมา

“คร้าบผม ไม่เป็นไรครับพี่”

“อ้อ มานี่สิ เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักกับเลขา” พี่มอคค่าพูดต่อทันทีหลังจากที่ผมบอกไม่เป็นไรกับพี่พีท

ก่อนจะส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง แล้วคว้าข้อมือของผมจูงเดินไปหาเลขาสาวสวยร่างเปรี้ยวนั้นทันที โดยที่เจ๊แกก็ยิ้มทักทายให้ผมเช่นกัน

ผมหละร้อนใจ อยากจะดึงตัวพี่มอคค่ามาพูดกันสองต่อสองซะเหลือเกินตอนนี้ แต่ในเมื่อหน้างานบังคับให้ต้องพักเรื่องส่วนตัวไว้ก่อน ก็จำเป็นต้องดำน้ำตามไปก่อน แล้วรอจังหวะที่เหมาะสมค่อยพูดเรื่องส่วนตัวกับพี่มอคค่า

“คุณซือครับ นี่เป็นเลขาฝึกใหม่ของผม ชื่อมังกรครับ”

ดะ...เดี่ยวนะ นี่เล่นแนะนำกันแบบแต่งตั้งให้ผมเป็นเลขาเลยงั้นหรอคุณพี่ โหย มันไม่ใหญ่ไปเรอะ

คำอุ้มชูของบอสพสุธาแทบทำผมทรุดลงไปกองกับพื้น จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้เพราะจะไปเท่ากับฉีกหน้าไอบอสเจ้าระเบียบนี่ ผมเลยได้แต่น้อมหัวรับๆไปอย่างถ่อนตน

“ครับ ..ผมมังกรครับ”

“สวัสดีจ้า พี่ชื่อซือนะ”

ถึงผมจะไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับผู้หญิง แต่ความสวยของพี่ซือผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องเชยชมครับ คิ้วหนาที่ถูกกันแบบเป๊ะเวอร์ ดวงตากลมโดยไม่ต้องพึ่งบิ๊กอายราคาแพง เมคอัพที่จัดเต็มแต่กลับดูธรรมชาติจนเนียนไปกับใบหน้านวลขาว ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อน ประกอบกับท่าทางสง่างามและหุ่นสุดเปรี้ยว เนีjยสินะ ที่เรียกว่าเลขาใหม่ไฟแรง แซ่บทุกวงการ ..

“ครับพี่” 

“นี่เราเป็นเลขาที่เด็กมากเลยนะเนี่ย ดูพี่สิ กว่าจะเป็นเลขาได้ก็ปาไปเกือบสามสิบ” พี่ซือพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับเลขาของผู้จัดการระดับบิ๊กๆ ผมรู้สึกประหม่าเล็กๆ แต่โชคดีมากๆที่พี่ซ์อให้ความเป็นกันเองอย่างที่สุด จนผมไม่รู้สึกถึงความหยิ่งทะนงของการเป็นเลขาเจ้าของบริษัทใหญ่เลย

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะรู้สึกดีใจมากนัก ความร้อนรนที่อยู่ในใจแทรกขึ้นมาแทนที่ความรู้สึกดีใจที่ได้รู้จักกับพี่ซือ ผมรู้สึกหนักหน่วง อยากจะพักการทำความรู้จักและบอกให้พี่มอคค่าฟังถึงสิ่งที่ได้ยินมามากกว่า

“ตกใจหละสิว่าทำไมพี่หน้าจีนแต่พูดไทยได้” พี่ซือเอ่ยขึ้นต่อ

“คะ ครับพี่” ผมเออๆออๆไปอย่างเก้งๆกังๆ เพราะยังมีความตื่นเต้นที่ได้รู้จักกับคนระดับยักษ์ใหญ่แบบกระชั้นชิดขนาดนี้ ..ถ้าไม่นับบอสพสุธา นี่ก็คงจะเป็นคนที่สองในชีวิตของผม

“พี่เป็นลูกครึ่งหนะจ่ะ โตที่ไทยมาสิบสองปี แล้วพ่อแม่ก็จับส่งไปเรียนที่ไต้หวันตั้งแต่นั้นมาเลยหนะ ..” พี่ซือยังคงว่าด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ก่อนจะแนะนำตัวและชวนผมพูดคุยอีกซักเล็กน้อยโดยที่มีพี่มอคค่าและพี่พีทยืนขนาบข้างอยู่เหมือนคุมเชิงเด็กใหม่

ไม่นานนักหลังจากที่ผมพูดคุยทำความรู้จักกับพี่ซือ เจ๊แกก็หันไปพูดกับพี่มอคค่าเรื่องงานทันที

“พี่มอคค่าคะ งั้นเดี๋ยวซือไปเอาใบสัญญามาให้เลยดีกว่าไหมคะ เราจะได้เริ่มคุยกันเลย งานจะได้เสร็จเร็วๆหนะค่ะ
“อ๋อ..ได้สิครับ”

พี่ซือยิ้มให้กับพี่มอคค่าก่อนจะเดินไปยังลิฟท์ซึ่งมีเหล่านักธุรกิจที่ยังคุยกันจ้อแจ้ตามหลังเป้นกลุ่มเดินตามเข้าไป
...........

ทิ้งไว้เหลือแต่ผม พี่มอคค่า และพี่พีทที่อยู่บริเวณโถงกว้าง

ทันทีที่พี่ซือลงลิฟท์ไปแล้ว พี่พีทก็เดินเข้ามาหาผมทันที ผมมองดูปราดเดียวก็รู้เลยครับว่าพี่พีทคงจะต้องมาขอโทษผมเรื่องที่ทิ้งผมไว้ในห้องน้ำคนเดียวแหง ..แล้วก็เป็นจริงตามคาด ...

“นี่..มังกร ..พี่ขอโทษนะ พี่รีบมากจริงๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจทิ้งเรานะ”

พี่พีทเอ่ยอ้อนๆ ถึงออกจะขัดกับวัยของพี่แกไปซักหน่อยแต่ด้วยใบหน้าที่เด็กมากก็นับว่าอภัยได้ ฮาๆ

“ไม่เป็นไรครับพี่ๆ”

พี่พีทพยักหน้าให้ผมสองทีพร้อมกับแลบลิ้นทีหยอกทีจริง

ตาตี๋ๆกับเหล็กดัดฟัน และท่าทีทะเล้นๆของคนตรงหน้า อีกทั้งร่างกายฟิตปึ๋ง ..มองแล้วก็หน้ามันเขี้ยวเหมือนกันนะจะว่าไป เฮ้ย ไม่ได้ ..นี่ผมคิดอะไรกันอยู่

ผมกับพี่พีทเราหัวเราะให้กันอย่างขบขันเล็กๆโดยไม่ได้มีพี่มอคค่ามาแจมในวงด้วย เฮียแกคงจะเหงาเล็กๆที่เห็นผมหัวเราะกับพี่พีทอย่างมีความสุขเลยพูดแทรกขึ้นมาทันที

............
“เมื่อกี้มังกรโทรมาหาพี่ ..พี่คุยเรื่องสัญญาอยู่นิดหน่อย ... เรามีอะไรด่วนรึเปล่า”

คำถามของพี่มอคค่าทำให้ผมฉุกคิดได้ถึงเรื่องที่ต้องการจะบอกให้พี่เขาทราบทันที แต่เวลานี้มีพี่พีทอยู่ด้วย ..

ผมใช้เวลาไต่ตรองอยู่ไม่นานนัก ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะเก็บไว้ บอกไปไว้ยังไงกันก็ดีกว่าแก้ พี่มอคค่ารู้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นเรื่องดี ผมเลยตัดสินใจที่จะบอกไปอย่างตรงๆโดยไม่กังวลกับพี่พีทอีกว่าจะเป็นอะไรไหมถ้าหากพี่เขารับรู้เรื่องนี้ด้วย

“พี่มอคค่าครับ .. เมื่อกี้ตอนผมอยู่ในห้องน้ำ ..ผมได้ยินมีคนบอกว่า...

แต่แล้วแวบหนึ่งผมก็รู้สึกจุกขึ้นมาเล็กๆที่คอหอย จนพี่มอคค่าเป็นฝ่ายกระทุ้งให้มันออกมา

“พูดมาเลยครับมังกร”

......
 “คะ ....คืนนี้จะปิดบัญชีพี่”

.....
.....................
ผมนึกตกใจขึ้นมา ที่เหลือไว้แต่เพียงความเงียบที่ย่างกรายเข้ามาอยู่บริเวณโถง ไม่มีเสียงพูดคุยจากพี่พีทหรือพี่พสุธาอีก รวมไปถึงอาการตกใจหรือไม่เชื่อ ..ทำเอาผมเริ่มสับสนและงุนงงกับเหตุการณ์

ทันทีที่ผมพรั่งพรูออกไปจนจบประโยค พี่มอคค่าก็ลดสายตาต่ำลงทันที ก่อนจะหลับตาลงแล้วเอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ
“คิดไว้ไม่ผิด ว่าต้องส่งคนมาดักรอ”

ผมยังไม่เข้าใจนักกับคำพูดของพี่มอคค่า เลยหันไปหาพี่พีทหวังจะได้คำอธิบายจากคนที่รู้สึกผิดที่ทิ้งผมไว้ตรงห้องน้ำเมื่อซักครู่ แต่แล้วพี่พีทก็กลับมีสีหน้าไม่ต่างอะไรไปจากพี่มอคค่าเลยเวลานี้

พี่พีทมองหน้าพี่มอคค่าด้วยแววตาละห้อยปนรู้สึกสงสาร จนผมรู้สึกฉงนว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่

“กูว่า .. มึงคงต้องฉะกับเสี่ยสิงห์จริงๆแล้วหวะ ... ไม่อย่างงั้น ...”

พี่พีทเงียบไปก่อนที่จะพูดจนจบประโยค จนทำเอาผมยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก ผมมองซ้ายสลับขวา มองหน้าทั้งพี่พีทและพี่มอคค่า ต่างคนต่างเอาแต่เงียบกันไม่พูดไม่จาอยู่ซักพัก ...จนในที่สุดพี่มอคค่าก็เป็นฝ่ายเอ่ยต่อบทสนทนา

“ไม่อย่างงั้นอะไรวะ ...พูดเตือนสติกูหน่อย”

พี่มอคค่าพูดด้วยแววตาแข็งทื่อและเสียงเย็นเชียบจนผมรู้สึกหวั่นเกรง

“กูรู้ ..ว่ามึงไม่อยากจะทำร้ายใคร แล้วมึงก็เป็นพ่อพระคนนึงเท่าที่กูรู้จัก กูรู้ว่าที่มึงไม่เอาเรื่องไอเสี่ยสิงห์ มึงกลัวว่าบิ๊กกับ  บิ๊กเจอกันแล้วแม่งจะล้มละลายไปทั้งคู่ หรือไม่มึงก็กลัวว่ามึงจะล้มเพราะชั้นเชิง กูพูดถูกมั้ยวะ”

พี่พสุธากำหมัดไว้แน่นก่อนจะพยักหน้าตอบรับคำพูดของพี่พีท

“มึงคงจะไม่อยาก ....”

พี่พีทเอ่ยค้างขณะที่หันหน้ามาจ้องอยู่ที่ผม กลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกลุ้นละทึกไปกันใหญ่ว่าเรื่องนี้กำลังจะเกี่ยวพันธ์ถึงตัวผมหรือไม่ สายตาคู่นั้นถึงได้มองอย่างมีนัยยะบางอย่างที่ผมยังเข้าไม่ถึง

“มึงคงไม่อยากเสียมังกรไป ... แบบอุบัติเหตุของสล็อตใช่มั้ย ..เพื่อน”

.........................
..................
...

“””””””””””””””””””””””””””””””””

จากไรต์ : ช่วยด้วยขร่า เมนต์หายยย เรื่องนี้ต้องไม่ล่ม ต้องไม่ล่ม T-T ใจบ่ดี กลัวมาก ขอตุ๊ดแตกหนึ่งวัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2015 09:32:05 โดย OngWangye »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อ่อ พี่แกโทษตัวเองมาตลอดเลยสินะเลยคิดถึงแต่แฟนเก่าตลอดเวลา

มังกรงานเข้าสินะหนู  :hao7: 

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เป็นเรื่องแว้วว
สล็อตน่าจะตายเพราะเสี่ยสิงห์อะไรนี่ป่ะ?
รอนะจ๊า

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
เอาใจช่วยมังกร งานหินเลยนะนั่น :เฮ้อ:

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9

ออฟไลน์ OngWangye

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
บทที่9ตอน1 (งานเสี่ยงSay Hi)

... หลังจากที่พี่พีทเอ่ยประโยคอึมครึมนั้นออกมา พี่มอคค่าก็ไม่ได้พูดจะอะไรกับผมอีกเลยซักนิด นอกซะจากเพียงพาผมมานั่งรอที่ห้องรับแขกในโรงแรม .. เหลือแต่เพียงผมลำพังในห้องว่างเปล่าสีขาวนี้

ผมรู้สึกช็อค สงสัย ตกใจ และสับสนในเวลาเดียวกันกับคำพูดของพี่พีท ผมตั้งใจจะมาฝึกงานตั้งแต่ตอนแรก ไม่ได้คิดจะมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างที่กำลังเป็นอยู่ จากที่ฟังพี่พีทพูดมาก็รู้แล้ว ว่าถ้าผมยังอยู่กับพี่มอคค่าต่อไป ความเสียงในชีวิตก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นลำดับอย่างแน่นอน  นี่ขนาดแค่เริ่มต้นก็ดูท่าหนทางจะไม่ได้ง่ายๆอย่างที่วาดฝันไว้เลย

ผมนึกในใจว่าควรจะทำอย่างไร .. ผมควรจะถอนตัวจากการเป็นเด็กฝึกงานของบริษัทนี้ดีไหม หรือว่าควรจะสู้ต่อไปเพื่อความฝันดี

ในห้องที่ว่างเปล่าเพื่อนคนเดียวที่อยู่เป็นเพื่อนผม ก็คงจะเป็นไอโฟนห้าในมือเวลานี้ ผมจ้องมันอยู่ซักพักก่อนจะนึกไปถึงเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ที่คอยให้คำปรึกษาผมเสมอมา ..ไออ๋อง

ผมไม่มีทางเลือกนอกจากกดโทรศัพท์โทรหาปลายสายทันที

........... .... ตื้ดดดด

“ฮัลโหล ว่าไงไอเด็กโดนเลี้ยง” อ๋องว่าพร้อมกับเสียงหัวเราะ (ผมชอบมันก็ตรงที่เป็นคนรับโทรศัพท์เร็วนี่แหละครับ เพื่อนบางคนนี่โทรไปเหอะ ข้ามวันก็ยังไม่รับเลย)

“มึง .. กูมีเรื่องปรึกษาอีกแล้วหวะ ..ค่อนข้างยาวนิดหน่อย”

“เออๆ ว่าไง นี่กูกำลังว่างพอดี”

“คือ ...” คงจะเป็นเพราะผมตกอยู่ในสภาวะเรียบเรียงคำพูดไม่ถูกหนะครับ เลยได้แต่อ้ำๆอึ้งไปช็อตหนึ่ง

“อ่าว ไอดอก มึงก็พูดมาสิ มาอ้ำอึ้งแล้วกูจะตรัสรู้กับมึงมั้ยครับ”

“เออๆ คือ ....”

“ว่ามา”

“สรุปว่า เมื่อก่อน เคยมีเด็กฝึกงานเหมือนกูนี่แหละ สนิทกับพี่มอคค่า กูเดาว่าคงจะสนิทกันมากอ่ะมึง ... เหมือนกูมั้ง”

“แล้วไงต่อ”

“เค้าตายด้วยอุบัติเหตุ.. ซึ่งจากวันนี้กูได้ฟังจากปากเพื่อนของพี่มอคค่า อุบัติเหตุนั่นเหมือนจะเป็นฝีมือศัตรูของพี่มอคค่าหวะ”

“แล้วมึงรู้ได้ไงเค้าพูดจริง”

“คือเค้าพูดกับกูต่อหน้าพี่มอคค่า คือมันกำลังดราม่ากันอยู่อ่ะตอนนั้น แล้วเหมือนพี่พีท ..เพื่อนพี่มอคค่าอ่ะนะ พูดเตือนสติพี่แก พี่แกก็เลยทำท่าสลดเหมือนรู้สึกผิดๆ แล้วก็เอากูมาทิ้งไว้ห้องรับแขกก่อนจะไปคุยงานต่อเลยอ่ะ ดูเค้าเศร้าๆด้วย”

“มึงเลยกลัว?...ใช่มั้ย?”

“อืม ... จะไม่กลัวได้ไง”

“กลัวตายหรือกลัวอะไร”

“กูคิดอยู่ว่ามันจะคุ้มมั้ย”

อ๋องเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มว่าต่อ

“มึงก็เรียนเอกจีน .. กูคงไม่ต้องพูดอะไรมาก กูจะไม่ยัดเยียดให้มึงตัดสินใจตามกู แต่มึงฟังกูนะไอมังกร”

ผมเงียบพร้อมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนรักคนนี้

“ไอวงการอย่างนี้มันก็อยู่แล้วเปล่าววะ ที่ต้องมีอะไรแบบนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับมึง มึงจะสู้เพื่อความฝัน หรือจะถอยมาเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ มึงคิดเองว่าอันไหนคือตัวของมึง”

คำพูดของอ๋องทำให้ผมเริ่มได้สติเล็กๆกลับคืนมาจากความกลัว

“กูอยู่กับมึง กูรู้ ว่ามึงเป็นคนสู้แค่ไหน .. มึงดูอย่างพวกประวัติศาสตร์จีนดีๆดิ เจ๊บูเช็กเทียนเงี้ย ... กว่าจะสึกออกมาจากการเป็นชี สู้กับพระสนม ฮองเฮา ทั้งยาพิษ ลอบฆ่าสารพัดจะมี แต่ละวันนี่เสี่ยงตายแบบชิบหายวายวอด ขึ้นบัลลังก์เสร็จก็ต้องสู้กับขุนนางอีก ..แต่พระนางก็เลือกจะสู้เปล่าวะ สุดท้ายแม่งเป็นไง ..ได้เป็นฮ่องเต้หญิง”

“แต่คนที่ล้มเหลวก็มีเปล่าวะมึง ไม่น้อยด้วย ...”

“ใช่ มีทั้งคนที่สู้แล้วชนะ สู้แล้วล้มเหลวแบบตายไร้ศพก็มี ... แต่มึงครับ”

“......”

“ชีวิตมึง มึงต้องตัดสินใจเอง ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆทุกคนเกิดมามันก็ต้องตายหมดเปล่าวะ สำหรับกู ..ถ้ามันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง กูก็จะเสี่ยง .. เพราะมันคือความฝันหนิ ยังต้องมีเหตุผลอะไรวิเศษไปกว่านี้อีกวะเพื่อน”

คำพูดของอ๋องทำให้หมอกความที่บดบังความคิดผมเริ่มค่อยๆจางหายไป

“ขอบใจหวะมึง ..กูว่ากูเริ่มคิดออกแล้วหละว่าจะทำยังไงต่อ”

“กูไม่โอเคที่จะเห็นมึงตายนะไอมังกร แต่กูก็ไม่โอเคด้วยที่จะเห็นมึงถอดใจเป็นไก่กระดูกอ่อน .. มึงต้องทำให้ได้!”

“เออ ก็ได้วะ กูสู้ก็ได้เว่ย!” คำพูดของไออ๋องประหนึ่งไฟมาเติมตะเกียงให้ผมก็ไม่ปานครับ ไม่ได้จะเวอร์นะ แต่มันรู้สึกฮึดขึ้นมาจริงๆ

“เออ ไอเชี่ย ให้มันได้อย่างนี้ดิวะเพื่อนกู” อ๋องหัวเราะอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทำให้ผมเบิกบานใจกว่าเก่ามาก ผมสามารถหัวเราะกับอ๋องได้เหมือนอย่างทุกวันที่เคยเป็น

“แล้วนี่มึงเป็นยังไงบ้าง ไปฝึกงงฝึกงานรึยัง”

“ได้แล้วหละ ไว้กูค่อยเล่าให้ฟังแล้วกัน”

“เฮ้ยดีๆ ไว้ว่างๆมานัดเที่ยวกันมึง” ผมรู้สึกยินดีด้วยเช่นกัน ที่เพื่อนผมเริ่มได้ฝึกงานเจ๋งๆอย่างที่มันเคยวาดฝันแล้วเกริ่นให้ผมฟังไว้บ้างแล้ว

“จัดไปครับไอมังกรเพื่อนเลิฟฟ ... แต่มึงต้องคอยระวังตัวเองดีๆด้วยละกันช่วงนี้ อย่าประมาทหละมึง”

“เออ กูเข้าใจละ ...ขอบใจมึงมากนะเว่ย”

“เออ แล้วเจอกัน”

............ตู้ดดดดดดด.....

ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้ผมยอมรับว่าคงอาจจะถอนตัวไปจากการฝึกงานครั้งนี้แล้วหละครับ โชคดีเหลือเกินที่ได้คำแนะนำชี้ทางสว่างจากไอเพื่อนบ้าคนนี้ นึกแล้วก็ขำชะมัด คนอะไรพูดเก่งชิทหาย พูดทีเอาผมรู้สึกอยากจะสู้ขึ้นมาเลย

....

“แอ๊ดดดด”

หลังจากที่ผมวางสายโทรศัพท์กับไออ๋องไปได้ไม่นานเท่าไหร่นัก เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจก็ดังขึ้น พี่มอคค่าเดินถือแก้วกาแฟเล็กสีขาวเดินมาที่ผม ขณะที่ส่งรอยยิ้มฝืนๆมาให้อย่างไม่สบายใจนัก

คนร่างสูงทอดกายทิ้งก้นนั่งลงบนโซฟาข้างตัวผม ก่อนจะยื่นแก้วกาแฟถ้วยเล็กนั้นมาให้แล้ว่า

“พี่ชงกาแฟมาให้ครับ”

นี่เป็นครั้งแรกที่พี่มอคค่าเป็นฝ่ายชงกาแฟให้ผม แถมที่ยิ่งน่าพิศวงก็คือเฮียแกถึงกับมาเสิร์ฟให้ถึงที่ ผมยิ้มตอบรับพร้อมกับขอบคุณ ก่อนจะหยิบถ้วยกาแฟนั้นมาจิบ ...มอคคค่าหวานกำลังพอดี ..อร่อยจัง

“ขอบคุณนะครับพี่”

ไม่มีคำตอบใดๆตอบกลับมาจากคำว่าขอบคุณ นอกซะจากรอยเยิ้มมัวๆบนดวงตา และยิ้มจืดๆบนใบหน้าอันหล่อเหลาเท่านั้น

“พี่ ... “ ผมเรียกคนที่ดูท่ากำลังจะเหม่อลอยอยู่ แต่ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆตอบกลับมา

“พี่มอคค่า ...”  ............. เงียบ

“คุณพสุธา!” ผมแกล้งขึ้นเสียงเล็กๆจนคนข้างๆสะดุ้งโหยงขึ้นมา

“คะ..ครับ”

พี่มอคค่าดูเลิ่กลั่กขึ้นมาทันทีกำเสียงเรียกชื่อดังของผม ผมเดาว่าสิ่งที่พี่พีทพูดคงจะกระทบกับจิตใจของพี่มอคค่าไม่น้อย ถึงทำให้พี่เขามีอาการเหม่อลอยอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ท่าทีเศร้าๆกับดวงตาละห้อยกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าการตัดสินใจของผมมันชัดเจนมากขึ้น

“พี่โอเครึเปล่า” ผมถามไปอย่างเป็นพิธี ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคือไม่โอเค

“โอเค ..” คนข้างๆผมดูพยายามกล้ำกลืนฝืนตอบด้วยสีตาตกก่อนจะเอ่ยต่อ

“คือ .... พี่ต้องเป็นฝ่ายถามเรามากกว่า .. คือ ..”

พี่มอคค่าหลับตาลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเรียบเรียงคำพูดแล้วพูดกับผมต่อ

“เรื่องมันเป็นอย่างที่พีทว่าจริงๆ .. พี่คิดว่า ...”

“ขอบคุณนะครับที่ชงกาแฟมาให้ เดี๋ยวผมชงกาแฟให้พี่บ้างดีกว่า เอามอคค่าแบบอร่อยๆเลยนะ วันนี้ผมจะทำให้สุดความสามารถเลย”

ผมพูดแทรกขณะที่พี่มอคค่ายังว่าไม่จบ ผมเดาและรู้ว่าพี่เค้าจะพูดอะไรต่อ ..ซึ่งก็คงจะเป็นคำพูดขอโทษ ให้ผมถอนตัว หรือไม่ก็ไล่ผมออกไปเลย ไม่ใช่เป็นเพราะไม่ต้องการผม แต่เพราะไม่อยากให้ผมต้องมาเสี่ยงชีวิตกับสิ่งที่จะเจอในวันถัดๆไป แต่กระนั้นถึงแม้ว่าผมจะยังไม่มั่นใจกับการตัดสินใจของตนเองถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ผมก็เลือกไปแล้ว ..ที่จะทำความฝันของตนเองต่อ แล้วไม่ทิ้งหนีหายไปจากผู้ชายคนนี้ คนที่ผมเริ่มจะมีความรู้สึกดีๆให้

 ผมไม่รู้ว่ามันคือความรัก หรือความชอบ หรือเป็นเพราะความทะเยอะทะยานที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้เวลานี้ แต่นั่นแหละครับ เหตุจะไปสำคัญอะไรเท่ากับผลลัพธ์หละ ..จริงมั้ย

....

“มังกร ...”

พี่มอคค่าเอ่ยเรียกชื่อผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงลอยๆ ซึ่งผมก็ไม่ปล่อยให้ช่องว่างนั้นมาทำลายความตั้งใจของผมเด็ดขาด

“วันนี้เอาหวานน้อยหรือขมเลยดีน้อ” ผมพูดแทรกทันทีก่อนจะหันกลับไปมองสีหน้าคนที่นั่งอมทุกข์อยู่ตรงโซฟา

พี่มอคค่าเผยรอยยิ้มให้ผมเห็นอีกครั้ง ครั้งนี้ดูรอยยิ้มนั่นจะไม่ต้องฝืนเหมือนครั้งแรกมากนัก ก่อนจะตอบคำถามผมด้วยน้ำเสียงที่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย

“เอาหวานน้อยแล้วกันครับ”

...

“ได้เลยครับพี่”

“””””””””

“แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง”

เวลาช่วงสิบนาทีที่ไร้ซึ่งบทสนทนา ทิ้งให้เหลือเพียงแต่เสียงกระทบกันของช้อนกาแฟและถ้วยกาแฟ  ก่อนที่เสียงรองเท้าหนังจะดังขึ้นกระทบกับพื้นเป็นระยะ ขณะที่ผมกำลังยืนชงกาแฟอยู่ พี่มอคค่ากำลังเดินเข้ามาหาผมจากด้านหลังสินะ ...

“มังกร” เสียงเบานุ่มเรียกชื่อผมขึ้นมา ก่อนที่สองแขนจากคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง จะสอดรอดบริเวณช่องแขนของผม กลายมาเป็นอ้อมกอดอันอบอุ่นประหนึ่งไออุ่นที่เริ่มจะอุ่นครุอยู่ในถ้วยแก้วกาแฟมอคค่าตรงหน้า

ผมวางถ้วยแก้วกาแฟตรงหน้าลง ก่อนจะใช้มือทั้งสองวางลงบนแขนของพี่มอคค่า ที่โอบกอดผมไว้อยู่บริเวณช่องท้อง ผมมองผิวสีขาวนวลของพี่มอคค่า ก่อนจะลูบไล้ไปมาอย่างทะนุถนอม .. ทำไมกันนะ ..ผมกลับยิ่งรู้สึกไม่อยากจะทิ้งคนๆนี้ไปไหนเลย ...

“มังกร .. “ พี่มอคค่าเรียกชื่อผมอีกครั้ง ก่อนจะโอบผมเข้าไปกอดรัดแน่นมากขึ้น

“พี่มอคค่า .. อย่าเอาแต่กอดผมสิ เดี๋ยวกาแฟก็หายร้อนหรอก”

ผมพยายามพูดให้พี่มอคค่าลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ และลบความคิดที่จะผละให้ผมออกไปจากตัวพี่เขาให้เร็วที่สุดแม้จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายก็ตาม

ความรู้สึกแปลกประหลาด ที่เหมือนกำลังจะบอกว่าน้ำกาแฟที่ทิ้งไออุ่นจนลอยฟุ้งขึ้นมากำลังจะยิ้มให้กับผมและพี่มอคค่า ทำให้ผมรู้สึกแสนจะมีความสุขเวลานี้ คนร่างสูงค่อยๆคลายอ้อมกอด ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยกาแฟถ้วยน้อย แล้วเอียงใบหน้าหล่อคมนั่นมาส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับผมอย่างสุดจะกระชากหัวใจ (... คือมุมข้างๆทำไมมันหล่อขนาดนี้วะเนี่ย กูจะละลายยย)

...........

...
“”””
เดี๋ยวจะรีบมาต่อนะครับ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2015 13:21:55 โดย boboman »

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
แอร๊ย เค้ากอดอ่ะ มือไวใจเร็วมากอ่ะ

ออฟไลน์ maykiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Noina_Pn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :ling1:   กำลังเคลิ้มๆเชียว

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
 :o12:  อ๊ากกกกกกกกก เขินแทนเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย มาต่อเร็วๆนะคะ แอบอ่านตลอด วันนี้ไม่ไหวล้ะ ฟินทะลุปรอท  :o8:  :-[  :impress2:

ออฟไลน์ BoolinMini

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
เราไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมอคค่าต้องการเริ่มใหม่กับมังกร หรือแค่เอามังกรมาเป็นตัวคนเก่า เพราะเราดูๆมา มอคค่าเหมือนยังไม่พร้อมเริ่มต้นใหม่จริงนะ เหมือนเอามาเป็นตัวแทนเพราะความรู้สึกว่ามังกรคล้ายคนรักเก่า ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา หรือลักษณะนิสัย ถ้าเป็นอย่างที่เราคิดจริง คนที่เสียใจที่สุดคงเป็นมังกร

ออฟไลน์ wishper

  • The Reluctant Herose@_@
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ปล่อยให้เค้าอยาก แล้วจากเค้าไป   งือๆๆๆๆๆ
ค้างครับพี่น้อง~
 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ OngWangye

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
บทที่9ตอน2 งานเสี่ยงSayhi

“ก๊อกๆๆ”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ผมฝ่ายเดียวที่ตกใจสะดุ้งตัวโหยง (จะไม่สะดุ้งได้ไงครับ ก็เมื่อกี้ห้องมันยังเงียบๆหวานๆอยู่เลยหนิ กำลังฟินส์เลย) แต่พี่มอคค่าก็คงจะสะดุ้งตกใจไม่แพ้ผมเช่นกัน

“แอ๊ดด”  พี่มอคค่ารีบปล่อยมือผมออกจากอ้อมกอดทันทีเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น ..ซึ่งก็แอบทำผมเซ็งอยู่พอตัว ..ใครนะมาขัดเวลาแบบนี้ของผมกับบอสพสุธาได้

“อ้าวซือ”

“ค่ะ” พี่ซือปิดประตูก่อนจะว่าต่อด้วยน้ำเสียงแจ่มใส

“พี่มอคค่าคะ เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงผู้จัดการจะเดินทางมาถึงแล้วนะคะ”

“ฮ้ะ? อะไรนะครับ .. ที่นัดไว้น่าจะเป็นตอนสองทุ่มหนิครับ” สีหน้าของคนร่างสูงดูเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างรวดเร็วเมื่อพี่ซือเอ่ยจนจบประโยค

“เอ๊ะ ..แต่ในเอกสารของหนูเขียนเป็นห้าโมงเย็นนะคะพี่”

“เฮ้ยจริงเปล่าน้องซือ” คนร่างสูงถึงกับระเบิดอุทานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด

พี่ซือพยักหน้าอย่างงุนงงก่อนจะเอ่ยถามพี่มอคค่าต่อ

“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะพี่”

“รึว่า ... น้องซือครับ พี่ขอดูชื่อเมลของน้องซือหน่อยได้ไหม”

“อ๋อ ..ได้ค่ะได้”

พี่ซือรีบหยิบไอโฟนหกขึ้นมา กดพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในเครื่อง ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นชื่ออีเมลของพี่แกแหละครับ แล้วยื่นให้พี่มอคค่าทันที

พี่มอคค่าทำท่าคิ้วขมวดขณะที่อ่านอีเมลของพี่ซือ ในขณะที่พี่ซือกำลังยืนรอด้วยท่าทีสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ..ส่วนผมก็ได้แต่ยืนงงกับเหตุการณ์ เพราะไม่รู้กำหนดนัดหมายอะไรเลยแม้แต่น้อย

“พี่สะเพร่าไปจริงๆ” พี่มอคค่าว่าสั้นๆก่อนจะยื่นมือถือคืนให้พี่ซือ

“ครั้งแรกที่เราตกลงกันไว้คือห้าโมงเย็นใช่มั้ยซือ”

“ใช่ค่ะพี่”

“แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีเมลหนึ่งส่งมาบอกว่าขอแก้ไขเวลานัดเป็นสองทุ่ม ... พี่ลืมดูตรงตัวอักษรพิมพ์เล็กหลังสุดของเมลไป .. พี่สะเพร่าไปจริงๆ”

“พี่มอคค่าคะ ...หรือว่า”

“ใช่ ... มันคงคิดจะทำให้ผู้จัดการของน้องซือไม่เชื่อใจพี่อีกต่อไป โดยการทำให้นัดแรกมีปัญหา .. พี่ไม่คิดว่าเสี่ยแกจะเล่นถึงขั้นของละเอียดขนาดนี้”

“แต่เค้าจะไปเอาแบบฟอร์มและข้อมูลของบริษัทซือมาได้ยังไงคะ”

“น้องซือยังเด็กอยู่ ...ขอแค่มีสายลับซักคนหนึ่งที่เข้าไปแฝงตัวอยู่ในองค์กร นั่นก็เท่ากับว่าต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แม้แต่คนในก็เชื่อใจไม่ได้”

“งั้นหมายความว่า ..มีคนแอบอ้างใช้เมลของซือ แล้วแก้ตรงตัวอักษรตัวไอกับแอล ทำให้พี่เข้าใจผิดใช่มั้ยคะ”

“ใช่...”

พี่ซือถึงกับอึ้งและเงียบไปทันทีเมื่อได้ฟังคำสอนจากรุ่นพี่ใหญ่อย่างบอสพสุธา

“ซือขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้บอกพี่ตั้งแต่แรกที่เจอว่าผู้จัดการจะมาตอนห้าโมงเย็น”

“ไม่ ...น้องซือไม่ผิด คนผิดก็คือตัวพี่เอง ที่ไม่รอบคอบเอาเลย”

“แล้วพี่มอคค่าจะทำยังไงต่อหรอคะ”

พี่มอคค่ายืนใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบพี่ซือ

“พี่คงต้องให้พีทเร่งงาน .. ทุกอย่างต้องเสร็จภายในห้าโมงเย็น”

“แต่เท่าที่ซือดูก็คิดว่าน่าจะทันนะคะ”

“อืม พี่ก็ว่าอย่างนั้น .. ตอนแรกพี่ตั้งใจจะไปเดินเล่นที่ทะเลก่อน ..ดีที่น้องซือมาบอก ..ฝ่ายนั้นคงไม่คิดว่าเราสองคนจะได้เจอกันก่อนเวลานัดพบ ..ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ปืนนัดแรกที่ทำให้พี่เสียเครดิตก็คงจะสัมฤทธิ์ผล”

“งั้น ให้ซือช่วยถ่วงเวลาผู้จัดการไว้มั้ยคะ ซือทำได้นะพี่”

“พี่คงต้องขอเราช่วยหน่อยแล้วหละ เอกสารพี่ยังอยู่ที่โรงแรมอยู่เลย”

“ไม่ต้องห่วงค่ะพี่มอคค่า ซือจะจัดการให้ทุกอย่างเอง แต่คงจะยื้อผู้จัดการไว้ได้ถึงแค่ห้าโมงครึ่ง”

“แค่นั้นก็เหลือเฟือแล้วน้องซือ”

“ค่ะ .. งั้นเดี๋ยวซือจะรีบไปจัดการทันทีเลยค่ะ”

พี่ซือว่าด้วยน้ำเสียงรีบเร่งก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ผมแล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที ..ทิ้งไว้ให้เหลือเพียงผมกับพี่มอคค่า

ความจริงแล้วในใจผมยังนึกสงสัยอยู่เบาๆ ว่าทำไมพี่มอคค่าถึงสนิทกับพี่ซือจัง จะว่าต่อมความเสือกมันทำงานแบบตู้มๆก็ถูกแหละครับ แต่เวลานี้คงจะไม่ใช่เวลาให้ต่อมเสือกสุดเลิฟนี่ทำงานแบบจัดเต็ม ... ผมควรจะรีบคิดแล้วตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ ...(ทั้งๆที่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเค้าเท่าไหร่มากนักหรอกนะ)

แต่จากที่ฟังก็พอจะจับประเด็นได้ว่า พี่มอคค่าคงจะพลาดตรงเรื่องชื่ออีเมล คงมีคนคิดจะดักลู่ทางไว้ ทำให้พี่มอคค่าเสียชื่อ หรือที่เรียกกันว่า discredit ด้วยมารยาทพื้นฐานง่ายๆนั่นคือการตรงต่อเวลา

ถึงอาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ลุงผมก็เคยสอนเสมอตอนอยู่ต่างจังหวัด ว่าเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพียงแค่สองสามนาทีก็สามารถที่จะตัดสินคนได้รางๆ ผมเลยเข้าใจถึงความเครียดของพี่มอคค่าเวลานี้

แต่งั้น ... แล้วเรื่องที่จะปิดบัญชีหละ ... หรือว่า

นี่จะเป็นแผนซ้อนแผน ...

ที่เห็นได้ชัดเวลานี้แน่นอนคือพี่มอคค่าสติเริ่มจะแตก เพราะต้องเทสมาธิไปกับเรื่องเอกสารและการจัดงานต้อนรับ แน่นอนว่าจะต้องมีช่องโหว่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ..

แต่ฝ่ายนั้นจะลงมือยังไง ด้วยวิธีไหน และลงมือเมื่อไหร่ ...ไม่มีใครทราบแน่นอน

ขณะที่ผมกำลังใช้ความคิดและประมวลทุกอย่างเข้าในสมอง จู่ๆพี่มอคค่าก็เรียกขานชื่อผมขึ้นด้วยน้ำเสียงทื่อๆจนผมต้องเหลียวมอง

“มังกร”

ท่าทีอ่อนโยนของพี่มอคค่าดูเลือนรางหายไปหลังจากที่ได้พูดคุยกับพี่ซือ พี่มอคค่าหันมาทางผมด้วยสายตาแข็งๆก่อนจะเอ่ยสั้นๆด้วยน้ำเสียงแสนเรียบ

“กลับโรงแรมไปซะนะ เดี๋ยวพี่ให้พีทไปส่ง”

ฮ้ะ? อ่าวเฮ้ยไหงเป็นงี้เลยวะ .... ผมสะดุ้งโหยงจนตูดแทบจะเด้งขึ้นมาจากโซฟา ..ใครจะกลับก็บ้าละครับ

“เฮ้ยพี่ ..ใจเย็นดิ .. คือผม ..”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! พี่บอกให้กลับก็กลับสิ!”

...แต่ไม่ทันที่ผมจะพูดจนจบ พี่มอคค่ากลับเกรี้ยวกราดฟาดเสียงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนจนผมรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ ... ความโกรธของผมพุ่งทะยานขึ้นมาทันที นึกโมโหนักว่าทำไมไอคนตรงหน้ามันแก่แล้วแต่ถึงกับไร้เหตุผลอย่างนี้ แต่นั่นก็คงจะเป็นเพราะความเป็นห่วงที่มีให้ผม ผมเลยเลือกที่จะสกัดกั้นอารมณ์โกรธไว้ทั้งหมด แล้วค่อยๆพูดกับพี่มอคค่าอย่างอารมณ์เย็น

“พี่ครับ .. ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ..ผมอยู่นี่เผื่อมีอะไรที่ผมจะช่วยพี่ได้”

ผมไม่รู้จะสรรหาข้ออ้างอะไรมาดับอารมณ์สติแตกของคนตรงหน้าได้ ก็เลยได้แต่พูดออกไปตามตรงด้วยเสียงออดอ้อน

“ไม่ได้! พี่บอกให้กลับก็กลับ .. หรือถ้าไม่กลับพี่จะให้คนขับรถมาจับตัวเราไปส่งที่กรุงเทพ!”

แต่ดูท่าอารมณ์เย็นของผมจะใช้ไม่ได้ผล คนตรงหน้ากลับประชดประชันมาหนักกว่าเก่าจนผมก็เริ่มจะมีน้ำโหมเหมือนกัน

“เฮ้ยพี่ ใจเย็นดิ   .. นี่พี่เป็นอะไรของพี่เนี่ย”

“พี่ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นมังกร พี่ก็เป็นพี่เนี่ยแหละ”

“พี่จะรนรานอะไรกับเหตุการณ์ที่มันยังไม่เกิดนักหนา!”

“แกเป็นเด็กจะไปเข้าใจผู้ใหญ่ได้ยังไง โดยเฉพาะความเหี้ยมโหดที่ขยี้ได้ทั้งชีวิตคน!”

“พี่ก็พูดกับผมดีดีดิวะ! จู่ๆมาไล่ผมไปเงี้ย ผมเสียใจนะพี่!”

“ถ้าไม่อยากให้พี่ไล่อีก ..ก็กลับไปโรงแรมกับพี่ พี่จะไปเอาเอกสาร ส่วนเราก็อยู่ที่โรงแรมไป เดินทะเลคนเดียวชิลๆไป เหงาหน่อยแต่คงไม่ตาย”

คำว่าตายที่พี่มอคค่าเอ่ยขึ้นมากลับทำให้ผมสะอึกขึ้นมาอย่างไม่รู้ต้นเหตุ

“ผม – ไม่ -  ไป!”

“เฮ้ย ! อย่ามาดื้อได้ป๊ะวะ! คนร่างสูงเริ่มขึ้นเสียงใส่ผม

“ผมไม่ได้ดื้อ! พี่อย่ามาพูดเหมือนผมเป็นเด็กห้าขวบได้ป๊ะ ผมโตแล้วนะเว่ยพี่ สามสิบห้าแล้วดูคนให้มันเป็นหน่อยดิ”

“นี่คุณกล้าสอนผมงั้นหรอครับ!” ครั้งนี้คนตรงหน้าถึงกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้หน้าผม

“ผมไม่กลับ! ผมจะรออยู่ที่นี่ พี่ได้ยินมั้ย! ผมจะรออยู่ที่นี่!” 

ผมยังคงยืนยันคำตอบเช่นเดิม .. ยังไงผมก็จะไม่กลับโรงแรม ผมจะรออยู่ที่นี่!

.......
 หลังจากที่ความเงียบเข้าคืบคลานมาเยี่ยมเยือนเราสองคนราวสองนาทีเศษได้ พี่มอคค่าก็หลับตาลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะว่าต่อด้วยน้ำเสียงฝืนๆสงบสติอารมณ์

“กลับ ไป รอ ผม ที่ โรง แรม นะ ครับ” คำทุกคำล้วนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ และฟังดูมีน้ำหนักเลยเกิน

..............

ผมรู้ว่าคนตรงหน้าผมกำลังเป็นห่วงผม เป็นห่วงมาก และเป็นห่วงมาก แต่การทิ้งให้พี่มอคค่าต้องเผชิญปัญหาคนเดียวไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะทำเลยซักนิดเวลานี้ ไม่ ผมจะไม่ไปไหน จะยังไงก็จะอยู่ทีนี่ ..ผมไม่ได้พูดอะไรตอบพี่มอคค่าไป นอกซะจากสั่นหัวอย่างคนหัวดื้อ

“ไม่ไป ...ใช่มั้ย” เสียงเรียบเย็นชาของคนตรงหน้ากลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกกลัวมากกว่ายามที่เขาเกรี้ยวกราดฟาดอารมณ์

พี่มอคค่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะโทรหาใครซักคน ..แล้วว่า “ พาคุณมังกร เลขาของผม .. ไปส่งที่โรงแรมที่ผมเช็คอินไว้ .. พวกนายต้องทำให้ตัวคุณมังกรไปถึงโรงแรมนั่นให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม! ส่วนผมจะไปคุยกับคุณพีท แล้วจะรีบตามไปทันที ..ผมไปถึงโรงแรม ผมจะต้องเห็นคุณมังกรอยู่ที่นั่น เข้าใจมั้ย!

พี่มอคค่ากระแทงเสียงใส่โทรศัพท์ก่อนจะวางสายลงอย่างไม่ใยดีนัก

สายตาเย็นชาถูกหยิบยื่นและมอบให้กับผม คนตรงหน้าผิดไปเป็นคนละคน ..ไม่มีแล้วเวลานี้ บอสพสุธาที่แสนจะอ่อนโยน ..ผมรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆในภวังค์ ..ทำไม พี่มอคค่าต้องทำกับผมแบบนี้ ..ผมไม่ใช่วัวใช่ควายนะ ที่จะจูงให้ทำอะไรก็ทำ ..ผมก็เป็นคน ที่มีหัวใจ ...ทำไม .. ทำไม ..

ผมจะไม่ร้องไห้ ..ผมต้องเข้มแข็ง .. ผม ...

....................

“”””””””””””””””””””””””””””

จากไรเตอร์ : เย่ มาต่อให้จบตอนแล้ว คุณผู้อ่านที่รักเริ่มมาเมนต์แล้ว ดีใจมั่กๆ ตอนแรกคิดว่าเรื่องนี้จะล่มรึเปล่า 55555 ไม่อยู่สามวันนะคร้าบ ไปรับน้องคณะนะ แช่แว้บ ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2015 23:26:52 โดย OngWangye »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ JAROEN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-9
ยอมๆ ไปก่อนนะมังกร อิอิ เดียวค่อยเอาคืน  :beat: :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เถียงกันซะงั้น -*-
ดูท่าบอสแกสติแตกจริงๆ นะเนี่ย

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด