#ซอโซ่ล่ามธีร์
ด่าน 15 (PART 1/2)
เริ่มต้นใหม่ที่เลเวล 1
“ตัวอย่างคงใกล้จบแล้ว เดี๋ยวโซ่ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะครับ”
“ได้ ๆ โซ่เอาป็อปคอร์นกับน้ำมา เดี๋ยวแพรวถือให้”
“แป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวโซ่มานะ”
“จ้า” เด็กสาวยิ้มขำกับความขี้เกรงใจของคนตรงหน้า
โซ่เป็นคนแรกที่แพรวไม่อยากเรียกพี่ทั้งที่อายุมากกว่า ผู้ชายคนนี้ให้ความรู้สึกต่างจากคนอื่น ทั้งเรื่องความใส่ใจและให้เกียรติผู้หญิง ก่อนหน้านี้เธอแอบลองใจด้วยการผูกเชือกรองเท้า เพราะอยากรู้ว่าโซ่จะมองคอเสื้อกว้าง ๆ ตอนแพรวก้มลงหรือไม่ ซึ่งเธอก็ได้คำตอบเป็นฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้ ๆ พร้อมใบหน้าที่หันซ้ายหันขวาเพื่อเช็กว่ามีใครกำลังมองหน้าอกเธอระหว่างที่ยืนบังให้หรือเปล่า
ตอนได้ยินชื่อเสียงผู้ชายคนนี้ในวงการเกม บอกตามตรงว่าตอนแรกแพรวมีอคติอยู่เล็กน้อย เธอไม่คิดว่าคน ๆ หนึ่งจะแสนดีไปได้ตลอดหรอก เว้นแต่ว่าจะสร้างภาพเก่ง ซึ่งหลายคนก็หลุดแสดงความเป็นตัวเองออกมาให้คนดูเห็นแล้วนักต่อนัก แต่วันนี้โซ่ได้คะแนนใจไปแล้วห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็คงต้องรอดูกันในระยะยาว
สถานการณ์ทุกอย่างราบรื่นดี ถ้าดูหนังจบแล้วเดินไปส่งขึ้นบีทีเอสจะให้ใจเพิ่มอีกสิบเลยเอ้า! แพรวยืนอมยิ้มเงียบ ๆ อยู่กับความคิด ก่อนจะสะดุ้งจนสุดตัวทันทีที่เห็นเจ้าของใบหน้าลูกครึ่งโผล่มายืนอยู่ข้างหน้าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
“อะไรเนี่ยพี่เชร์?”
“ไงจ๊ะแม่สาวน้อย”
“...มาดูหนังเหมือนกันเหรอ?”
“เปล่า พี่มาหาซื้อของขวัญอะ พรุ่งนี้เมียพี่ตั้บจะคลอดลูกแล้วแต่พี่ยังไม่มีอะไรให้หลานสักชิ้นเลยแพรว เนี่ย โคตรเครียด ทำไงดี ถ้าพี่ไปตัวเปล่าในขณะที่คนอื่นถือกล่องใหญ่ ๆ นี่อย่างเสียเชิงเลยนะ” พูดไปด้วยทำท่าประกอบไปด้วย พอเงยหน้าขึ้นอีกทีก็เห็นว่าน้องแพรวกำลังมองเหมือนอยากบอกว่า ‘แถต่อดิ หนูฟังอยู่’
“พี่เจนเพิ่งท้องได้ห้า-หกเดือนเองปะ รีบเหรอ?”
“จริง รีบคลอดเวอร์” ไม่ใช่แค่สีข้างที่ถลอก หน้าเขาก็เช่นกัน
“พี่เชร์มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ อย่าแถเยอะ รู้จักกันมากี่ปี ๆ หนูว่าหนูรู้ทันพี่นะ” เกลียดเด็กแม่งรู้มาก โตขึ้นจะเป็นอนาคตของชาติแบบไหนกัน
“ไปดูหนังกัน” แหลมยิ้มแป้นแล้น ก่อนจะลดระดับสายตามองตั๋วสองใบในมือที่อีกคนชูขึ้นมาตอกเบ้าหน้าจนดั้งยุบเข้าไปในกะโหลก
อู้ย แสบดาก“แพรวจะดูกับโซ่จ้ะ”
“ไอ้เช้ดเข้ ไอ้โซ่ก็มาเหรอเนี่ย?”
“ใช่ ถ้าไม่ได้หูหนวกพี่ก็คงได้ยินตอนหนูพูดออกไมค์ปะ?”
“เย็นชาเหลือเกิน หัวใจพี่นี่ชาไปหมด ชาลาลาล่าล้า...” แหลมยิ้มอ้อร้อ แต่อีกฝ่ายก็เลิกคิ้วมองขยี้เหมือนไม่ตลกมุกนี้ที่บาทนึงก็ไม่อยากให้ สงสัยงอนย้อนหลังที่ตอนนั้นจีบขำ ๆ เอาฮาเกิน ยอมรับก็ได้ว่าส้นตีนที่เล่นกับความรู้สึกคนอื่นไม่เข้าเรื่อง แต่ตอนนั้นแพรวก็ทำตัวเกรียนตลอดอะ ใครจะรู้ว่าอยากได้
“มีอะไรก็พูดมา หนังจะเข้าแล้ว”
“คืองี้แพรว พี่ธีร์มันทะเลาะกับไอ้โซ่เว้ย” การโกหกยังคงดำเนินต่อไป คราวนี้เด็กสาวเหมือนจะลังเล ชั่งใจว่าสิ่งที่เขาพูดมาจากเรื่องจริงหรือความตอแหลกันแน่
“ทะเลาะเรื่อง?”
“เดิม ๆ อะ พี่ธีร์แม่งพาล เล่นกากแล้วโทษว่าน้องใช้โปรเฉย เชี่ย โดนยิงตายเกมเดียวร้องยั้งหมา ไม่ใส่หมวกกันน็อกโดนเล็งระยะร้อยเมตรยังไงก็หัวแตกปะวะ เสื้อก่งเสื้อเกราะก็ไม่มีอีก ไก่แล้วพาลน้องนุ่งโคตรใช้ไม่ได้ เนี่ย ทะเลาะกันใหญ่โตลำบากพี่ต้องมาง้อไอ้โซ่ให้อีก”
“เอาจริงดิ ทำไมโซ่ไม่เล่าอะไรให้หนูฟังเลยอะ ดูปกติมาก”
“ใครจะไปเล่าให้ผู้หญิงที่เพิ่งคุยกันฟังล่ะวะแพร๊ว... นี่เดทแรกนะแม่สาวน้อย ขืนเล่าก็ทำลายบรรยากาศพอดีดิ คือนิสัยไอ้โซ่มันก็แมน ๆ ไง ไม่ขายพี่ขายน้องอยู่แล้ว ไม่ตุ๊ดเหมือนพี่ธีร์ที่จะเล่าทุกเรื่องในวงจรชีวิต ‘ธีร์รู้โลกรู้’ อะนะฉายาพี่เขา”
แพรวขมวดคิ้วเพราะคำพูดอีกฝ่ายค่อนข้างฟังขึ้น จริงด้วย ทั้งคู่เพิ่งรู้จักกัน มันคงประหลาดมากถ้าหมอนั่นจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง ภายใต้รอยยิ้มนั่นฝังความรู้สึกแย่ ๆ ไว้อยู่เหรอ
“ไปตรงนั้นดีกว่า ยืนตรงนี้ขวางทางคนเดินคนอื่นเขา” แหลมจับแขนรุ่นน้องให้เดินไปด้วยกัน ตะล่อมอย่างสุดความสามารถพลางมองหลังเป็นระยะ
“แล้วแพรวต้องทำไงวะพี่?”
“นี่ไงกำลังจะเล่า แต่ถ้าฟังจบแล้วห้ามเอาเรื่องนี้ไปถามพี่ธีร์กับไอ้โซ่นะ เดี๋ยวของขึ้นกันทั้งคู่ละเป็นเรื่อง ไอ้พี่ธีร์ยิ่งสตาร์ทติดง่ายอยู่แพรวก็รู้”
“ห่าเอ๊ย หนูจะได้ดูหนังกับโซ่แล้วอะ หนูรู้เลยว่าเค้าต้องถอดเสื้อให้หนูคลุมขา หนูเตรียมตัวมาดีแล้ว”
“เออรู้ว่าเสียดาย แต่อย่าสะดิ้งออกหน้าออกตาได้ไหมล่ะ เดี๋ยวโดเนทให้สามสิบบาท”
“ไม่เอา หนูไม่อยากได้”
“เดี๋ยวพาไปเลี้ยงตำซั่วปูปลาร้าเผ็ด ๆ ใส่แคปหมูให้ด้วย”
“หนูไม่หิว”
“ก็เอาไว้ไปตอนหิวสิวะ!!!”
เอาใจยากระดับแปด ไม่ใช่ธุระกูเลยนี่คือความเสือกล้วน ๆ พี่ธีร์ต้องได้แล้วอะจังหวะนี้ แค่คิดว่าผู้ชายมั่นหน้ามั่นโหนกอย่างพี่มันจะชอบไอ้โซ่ การไล่ kill คนในเกมจึงกลายเป็นเรื่องสนุกระดับสองไปเลยทีเดียว
*
เด็กหนุ่มยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำพลางมองตัวเองที่แต่งตัวแปลกไปกว่าทุกวัน แต่ผมที่พยายามเซตให้ดูดีกลับทำให้หมดความมั่นใจ... ไม่สิ ต้องบอกว่าความจริงแล้วโซ่ไม่เคยมีความมั่นใจเลยถึงจะถูก หน้าดูประหลาด ๆ หรือเปล่านะ ถ้าออกไปแล้วไม่เห็นแพรวคงใจแป้วแน่เลย โซ่กำลังภาวนาขอให้อีกฝ่ายยังอยู่โดยไม่หนีกลับบ้านไปก่อน
แต่แพรวนิสัยดีนะ แพรวคงไม่ทำแบบนั้นหรอก เจมส์บอกว่าผู้หญิงเล่นเกมจะมีสกิลติดตัวอย่างหนึ่งคือเธอจะสามารถสานต่อบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องเกมได้โดยไม่ถอนหายใจใส่หรือชักสีหน้า ซึ่งแพรวเป็นแบบนั้นเลย ทั้งคู่สามารถคุยเรื่องเรียน เรื่องอาหารที่ชอบ และเรื่องเกมที่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นจนไม่ทิ้งช่องว่างให้กับความเงียบ แพรวน่ะเก่งมากเลย เป็นแชมป์ RoV แล้วก็ได้ไปแข่งที่ต่างประเทศด้วย
ไม่มีเวลาแล้ว... โซ่หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกความมั่นใจ แต่พอเดินออกไปก็พบใครคนหนึ่งยืนพิงกับผนังตรงทางเดิน พร้อมถังป็อปคอร์นและน้ำหนึ่งแก้ว
“พี่ธีร์?”
“อ้าวน้องเด๋อ?”
“มาดูหนังเหมือนกันเหรอครับ?” เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหารุ่นพี่พลางมองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า วันนี้พี่ธีร์ก็ดูดีอีกแล้ว โซ่อยากดูเท่บ้างแต่เสื้อผ้าแบบนี้คงไม่เหมาะกับเขา
“เรียกว่าเกือบได้ดูคงดีกว่า” ชายหนุ่มถอนหายใจ “ก็ไอ้แหลมน่ะสิ”
“โซ่ช่วยถือไหมครับ มันคงเย็นมากเลย”
“โคตรเย็นเลยล่ะ แต่พี่ว่าจะโยนทิ้งถังขยะพอดี” พี่ธีร์กำลังอารมณ์เสีย โซ่จึงรีบเอาแก้วน้ำมาถือให้พร้อมมองฝ่ามือที่ขึ้นริ้วแดงเพราะความเย็น
“ทะเลาะกันเหรอครับ?”
“เปล่า” พี่ธีร์ทำหน้าเนือยพลางมองออกไปด้านนอก “มันหลอกให้พี่มาด้วยเพราะรู้ว่าแพรวมาเที่ยวกับเรา”
“หลอก?”
“อืม ไอ้แหลมมันชอบแพรวน่ะ พูดแล้วก็รู้สึกผิด”
“อะไรนะครับ?” โซ่เบิกตากว้างอย่างตกใจขณะมองสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของรุ่นพี่
“พี่ขอโทษว่ะโซ่ พี่ไม่รู้จริง ๆ ว่าไอ้แหลมมันวางแผนจะชวนแพรวมาดูหนังเหมือนกัน เรื่องของเรื่องคือต่างฝ่ายต่างหยั่งเชิงกันมานานแล้วพี่ไม่รู้ แพรวมันก็งอนที่ไอ้แหลมจีบเล่น ๆ ขำ ๆ เลยตั้งใจชวนเราประชดมัน แล้วพี่ก็เสือกโง่ ไม่รู้เรื่องก็ดีลแพรวให้เราต่อหน้าแม่งเฉย”
“โห แล้วพี่แหลมไม่ซึมแย่เลยเหรอครับเนี่ย ทำไงดี โซ่รู้สึกผิดจังครับ”
“ไม่ใช่เรา แต่มันเป็นความผิดของพี่ต่างหาก” พี่ธีร์กำมือป้องปากแล้วหันไปอีกทาง “ถ้าสองคนนั้นไม่ได้ลงเอยกัน คงเป็นตราบาปในใจพี่ไปตลอดชีวิตเลยโซ่”
“โซ่ด้วยครับ” เด็กหนุ่มชะเง้อมองข้างนอก ไม่รู้ป่านนี้ทั้งคู่จะเป็นอย่างไรบ้าง “พี่แหลมจะโกรธโซ่หรือเปล่านะ... ทำไงดี...”
“ไม่หรอก เห็นมันปัญญานิ่มอย่างนั้นแต่มันโคตรรักพี่น้องเลยนะ ถ้าเราบอกว่าจะจีบแพรว พี่เชื่อว่าไอ้แหลมคงยกให้ถึงใจมันจะเจ็บแทบตายก็ตาม” นี่เลยกูเล่นใหญ่ใส่เด็ก ถ้าเป็นน้องแพรวแม่งจับตอแหลได้ละ แต่นี่คือน้องเด๋อผู้ไม่ทันคน
“ไม่ครับไม่ พี่แหลมจะไม่มีวันเจ็บเพราะโซ่เด็ดขาดครับ เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนเกินไป ความชอบอาจจะเกิดขึ้นชั่วคราวหรือนานสักระยะหนึ่ง แต่โซ่เชื่อว่ามิตรภาพจะอยู่ได้นานกว่าครับ เพราะฉะนั้นโซ่จะไม่มีทางชอบคนเดียวกันกับเพื่อนเด็ดขาด ถึงชอบไปแล้วก็จะตัดใจ”
ตอนแรกแอบฟีลกู้ดนะ... แต่พอประโยคสุดท้ายนี่แอบเข้าหน้าเพราะนึกถึงเบลขึ้นมา ฉิบหายละ น้องเด๋อโคตรหนักแน่นในจุดยืน อนาคตไอ้ธีร์เริ่มริบหรี่ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไร
“ถึงเค้าจะชอบเราก็ช่าง?”
“ครับ โซ่ไม่สนใจหรอก โซ่รักเพื่อน”
เปรี้ยง!!!โอย กูเครียด
“แล้วถ้าเพื่อนไม่ชอบแล้วล่ะ จะสนไหม”
“ครับ?”
“ทำไมคิดไปไกลขนาดนั้นวะ เคยมีแฟนหรือก็ไม่ เล่นใหญ่จริง สนใจแต่เพื่อนแล้วความรู้สึกคนนั้นก็ช่างหัวมันใช่ปะ เป็นคนแบบนี้ใช่ปะ?” เมนส์มาอีกแล้ว น้องเด๋อยืนกระพริบตาปริบ ๆ เหมือนกำลังทบทวนตัวเองว่าพูดอะไรผิดไปหรือไม่
“พอเป็นเรื่องนี้แล้วพี่ธีร์ก็อินมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ” อินดิ เข้าตัวทั้งนั้น “โซ่อยากขอโทษพี่แหลมจัง โซ่ควรหัดสังเกตคนรอบตัวให้มากกว่านี้”
“จริง ระหว่างเล่นเกมมันก็ทิ้งปริศนาไว้ให้พวกเราไขอย่างเยอะ” ไม่มีเวลาแล้ว เขาควรทิ้งเรื่องนั้นไว้ข้างหลังแล้วปิดการขายเสียตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่เด็กมันจะไหวตัวทัน
“ปริศนาเหรอครับ?”
“ใช่ พวกคำพูดกำกวมน่ะ เช่น ‘อยากกินส้มตำจังโว้ย’ นั่นคือการขยี้ความหลังตอนมันไปนั่งกินส้มตำกับแพรว”
“โธ่...” โซ่กุมขมับ เห็นพี่แหลมเป็นคนตลกแต่ไม่คิดว่าจะไม่ทิ้งปมปริศนาไว้ด้วย
“กลับห้องไปนอนเถอะ เราสองคนควรปล่อยให้พวกมันไปเคลียร์ปัญหากัน”
“อ่า... ครับ...” เด็กหนุ่มตัวผอมยังคงงง เขาชะโงกหน้าออกไปอีกครั้งแต่ก็ไม่เจอพี่แหลมกับแพรว เหลือเพียงพี่ธีร์ที่ยืนอยู่กับป็อปคอร์นถังใหญ่ พร้อมสีหน้าเนือย ๆ ซึ่งคงมาจากการการโดนพี่แหลมเท “แล้วพี่ธีร์ล่ะครับ?”
“พี่เหรอ?” คนตัวสูงถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะล้วงตั๋วหนังสองใบออกมาจากกระเป๋าแจ็คเก็ต “คงต้องนั่งพาดขาสองเบาะแล้วว่ะ”
“โซ่เคยดูหนังคนเดียวนะครับ มันก็ไม่ได้แย่ แต่ป็อปคอร์นถังใหญ่แบบนี้ถ้าคนอื่นมองมาก็ทำใจนิดนึงนะครับ พวกเขาคงคิดว่าพี่ธีร์เหงา”
“เดี๋ยว ทำไมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าทั้งที่มือเราถือแก้วอยู่”
“โซ่ไม่อยากบอกให้พี่ธีร์ทิ้งตั๋วแล้วกลับห้องไปเล่นเกมน่ะครับ ราคาตั๋วกับป็อปคอร์นไม่ใช่สิบยี่สิบบาท”
“แต่มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เปล่าวะ”
พี่ธีร์แค่นหัวเราะแล้วเดินจากไป เหลือเพียงเด็กโง่ ๆ อย่างเขาที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ แพรวกำลังเคลียร์ปัญหาหัวใจกับพี่แหลม ส่วนพี่ธีร์ต้องดูหนังคนเดียว และโซ่ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี
“ดูด้วยกันเปล่า?”
เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบ ๆ ชี้หน้าตนเองระหว่างสบตากับคนตัวโตที่หันมาชวนด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาจึงพยักหน้าแล้ววิ่งไปหา ก่อนจะถูกแย่งแก้วน้ำไปและได้ถังป็อปคอร์นมาถือเอง
“พี่ธีร์ชอบหนังผีเหรอครับ?”
“โคตร ๆ เลยล่ะ”
“เหมือนกันเลย”
“ดูเทรลเลอร์เรื่องนี้ยัง ฉากผีผ่างโคตรได้เลยนะ”
“ดูแล้วครับ โซ่ชอบฉากที่ผีผู้หญิงก้มหน้าร้องไห้แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ หลอนมากเลยล่ะครับ เสียงเธอยังติดหูอยู่เลย” คนฟังลอบอมยิ้ม ธีร์ไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดที่หลอกล่อน้องเด๋อด้วยวิธีนี้ กลับกันแล้วเขายังรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อสิบนาทีก่อนเป็นเท่าตัว
เด็กเด๋อยังคงพูดจ้อเจื้อยและเขาสนุกที่จะเป็นผู้ฟัง ธีร์ไม่อยากตั้งใจจับผิดความรู้สึกตัวเองอีกแล้วว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้คือความเอ็นดูหรือความชอบกันแน่ เขาไม่อยากเครียดเพราะกดดันตัวเองมากเกินไป จึงคิดว่ามันคงดีกว่าถ้าจะให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมแต่ปล่อยให้ความรู้สึกมันเปลี่ยนแปลงอย่างที่ควรจะเป็น ให้มันค่อยเป็นค่อยไปกับความสบายใจดีกว่า
เพราะถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม ตอนนั้นเขาคงไม่มีความลังเลหลงเหลืออยู่ในใจอีกแล้ว
*
ตั้งแต่ปล่อยเทรลเลอร์หนังเรื่องนี้ธีร์ก็ตั้งใจว่าจะมาดูให้ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ดูเพราะแผนชั่วที่คิดเองและได้ไอ้แหลมเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ท่ามกลางความกดดันอึมครึมของเนื้อเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาเป็นความเงียบและเสียงฝีเท้าบดกับแผ่นไม้บนจอ ธีร์เอาแต่แอบมองคนข้าง ๆ ที่กำลังดูอย่างตั้งใจ และถ้าให้คำนวณความคุ้มค่า เขาคิดว่าวันนี้ดูไปแค่ยี่สิบบาทเท่านั้น
ยัดป็อปคอร์นเข้าปากเพื่อตั้งสติ ไม่อยากเอาแต่จ้องหน้าน้องอย่างนี้เดี๋ยวไก่จะตื่นเอา แต่มือเจ้ากรรมก็สร้างเรื่องให้จนได้ เพราะไอ้ป็อปคอร์นห่าเหวนี่แท้ ๆ ที่ทำให้คอแห้งเขาถึงได้เอื้อมไปหยิบแก้วน้ำ แต่ดันเป็นจังหวะที่อีกฝ่ายจับแก้วได้ก่อน มือของเขาถึงได้จับมือน้องเข้าเต็ม ๆ
“พี่ธีร์กินก่อนเลยครับ”
“ไม่เป็นไร เราก่อนเลย” แม้จะหันกลับไปมองจอเหมือนไม่คิดอะไร แต่ก็รู้สึกได้ว่าสัมผัสเมื่อครู่มันต่างจากการสกินชิพทุกครั้ง
น้องกำลังมองอยู่ว่ะ สุดท้ายเด็กเด๋อก็ยกแก้วขึ้นดื่มแล้ววางลงที่เดิม แต่ไอ้การแดกน้ำมันกลายเป็นเรื่องต้องเสียสละให้กันและกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ธีร์รู้สึกเหมือนเป็นควายธนูเลเวล 99 เพียงเพราะเขากำลังคิดว่าถ้าดื่มต่อจากน้องก็คือการจูบกันทางอ้อม
ปัญญานิ่ม No.01 is here“ป็อปคอร์นไหม?” ธีร์เอนตัวเข้าหาน้องพร้อมพูดเบา ๆ และเหตุผลเพราะไม่อยากรบกวนคนอื่น ใช่ แต่ก็แค่ครึ่งเดียว เพราะอีกครึ่งหนึ่งใจมันอยากเสนอหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เอง
น้องเด๋อไม่ได้ตอบ เด็กคนนี้เพียงหยิบป็อปคอร์นจากถังบนตักเขาแล้วหันไปสนใจหนังต่อ รู้สึกกากขึ้นมาเพราะอีกฝ่ายแทบไม่สนใจ ตั้งแต่เกิดมาธีร์กล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าไม่เคยแป้กเรื่องจีบสาว แต่คราวนี้เขารู้สึกเสียความมั่นใจไปถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์กับท่าทีเฉย ๆ ของน้องเด๋อ
เด็กมันอาจจะสนุกกับหนังอยู่ก็ได้ อย่าคิดเยอะ เอาเป็นว่าเก็บดีเทลหนังให้จบเรื่องก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที
“อย่าแตะต้องลูกกู ไอ้สาระเลว!!!!!!!!!!!!!”“พ่องตาย!!!” ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจพร้อมป็อปคอร์นที่กระจายออกจากถังเป็นวงกว้างประหนึ่งโปรยเหรียญงานบวช อีผีเปรตนรกแตกเอ๊ย!!! แม่งจะผ่างอะไรเอาตอนกูหันไปมองจอวะ!!!
พีเพิ่ลครึ่งโรงหนังล้วนหันมาให้ความสนใจเพราะเสียงแต๋วแตกซึ่งคาดว่ายืนอยู่สำเพ็งก็ยังได้ยิน ธีร์ลุกขึ้นโค้งศีรษะขอโทษรอบทิศพลางยิ้มเจื่อน ก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจแรง ๆ พลางทาบมือลงกับหน้าอกตนเอง เมื่อกี้ผีเต็ม ๆ เลยอีกระรอกแทะ
“...” พอตั้งสติได้ก็หันไปข้างตัวเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกมองอยู่ แล้วก็ใช่จริง ๆ น้องเด๋อนั่งมองนิ่ง ๆ เหมือนกำลังคิดอะไร
“มันติดตรงนั้นด้วยล่ะครับ ขอโทษนะ” เสียงน้องเบามาก แต่เขาก็ได้ยินคำพูดที่เป็นการขออนุญาต ก่อนมือนั้นจะเอื้อมขึ้นมาปัดเศษป็อปคอร์นออกจากไหล่และศีรษะเขา “ฉากเมื่อกี้น่ากลัวมากเลย โซ่เกือบปิดตาไม่ทันแน่ะ”
ไม่มีการล้อเลียนชวนให้อับอายไปกว่าเดิม ชายหนุ่มปัดผมตนเองและช่วงอกพลางชำเลืองมองคนข้าง ๆ ที่สนใจเขามากกว่าหนังบนจอแล้ว ธีร์ชอบเสียงน้องเด๋อตอนพูดเบา ๆ ว่า ‘มีเศษติดอยู่ตรงแก้มด้วยครับ... ตรงนี้’ และน้องก็เอานิ้วชี้เขี่ยออกให้เบา ๆ
ทุกอย่างดูเรียบง่าย แต่ธีร์กลับสัมผัสได้ถึงความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อีกฝ่ายมอบให้
เด็กคนนี้ทำให้เขารู้ว่าไม่ต้องห่วงหล่อตลอดเวลาก็ได้ ธีร์สามารถปล่อยให้ตัวเองเป็นผู้ชายกาก ๆ ที่ยื่นแบงก์พันให้แม่ค้าเพราะบ็อกเซอร์สีชมพูสิบสองตัว เป็นคนลามกที่ยืนกำเป้าให้ดู เพราะอยากเห็นน้องเด๋อในมุมที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน มุมที่ทำเหมือนรำคาญและรังเกียจ แต่สุดท้ายน้องก็หันมายิ้มเพราะรู้ว่าทั้งหมดที่เขาเป็นมันคือความบ้าบอคอแตกที่หวังเพียงเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม
“แป๊บเดียวเหลือก้นถังละ ไงล่ะ กินอย่างเก่ง”
“ตอนแรกคิดว่าจะกินไม่หมดแล้วเพราะถังมันใหญ่มาก ๆ แต่โซ่มองพี่ธีร์ผิดไป” เจ้าเด็กเด๋อกำลังยิ้ม ซึ่งธีร์เชื่อว่ามันเป็นโรคติดต่อ เขาถึงยิ้มออกมาขณะที่สบตากันอยู่
“ก้มหน่อย มีติดผมเราอยู่สองชิ้น” โซ่เลิกคิ้วมอง มันคงกระเด็นมาติดผมเขาด้วยสินะ เด็กหนุ่มตัวผอมทำตามที่รุ่นพี่พูดพลางคิดไปว่าวันนี้พี่ธีร์ใช้น้ำหอมของอะไร กลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ก็ชวนให้รู้สึกดีมากเลย “โซ่”
“ครับ”
“ชอบแพรวไหม?”
“ครับ?” โซ่เงยหน้ามองรุ่นพี่ในระยะใกล้ ท่ามกลางความมืดในโรงหนังที่บนหน้าจอยังคงดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ และเขารีบส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ไม่ครับไม่ โซ่ยังไม่ได้ชอบแพรวหรอกนะครับ เราเพิ่งรู้จักกันเอง”
“แน่นะ?”
“โซ่ไม่โกหกพี่ธีร์แน่นอนครับ” น้องเด๋อรีบปฏิเสธ อาจเป็นเพราะกลัวเขาเข้าใจผิดคิดว่าน้องมันจะไปแย่งไอ้แหลม หรืออะไรก็ตาม... แต่ฟังแล้วรู้สึกดีเป็นบ้า
“ดีแล้ว” คนร้าย ๆ หันไปมองจอพลางอมยิ้ม ทิ้งเด็กเด๋อให้อยู่กับความคาใจในคำถามเมื่อครู่
รู้สึกผิดกับแพรวเพราะดันสร้างงานสร้างอาชีพไว้ หวังว่าน้องมันจะเข้าใจเพราะทั้งคู่ยังไม่ได้เริ่มต้นไปไกลจนยากที่จะดึงกลับ ธีร์ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าปากผีอีก ไม่อย่างนั้นในอนาคตเขาอาจจะพลาดจนนึกเสียใจทีหลัง พอถึงตอนนั้นคงแก้ไขอะไรได้ยากแล้ว
“โซ่”
“ครับ?”
“พี่หนาวว่ะ ขอจับมือหน่อยดิ”
“ครับ? จับมือ... โซ่?” ไม่ใช่แค่น้องเด๋อที่งง ถ้าคนทั้งโลกได้ยินก็คงงงเช่นกันว่าคนหนาวห่าไรถึงขอจับมือถือแขน แถมบรรยากาศก็โคตร Awkward เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่ธีร์ก็ยังหน้าด้านหน้าทนพยักหน้าเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติ
“เออ มือพี่เย็นไปหมดแล้ว สงสัยเพราะกินน้ำเย็นเข้าไป แล้วเราไม่หนาวเหรอวะ?”
“นิดหน่อยครับ แต่ --” น้องยังคงงงและเขาจะไม่อธิบายใด ๆ อีก พี่จะจับมือ แล้วพี่ก็ต้องได้จับด้วย
ตอนมาดูหนังกับผู้หญิงทุกคน ทั้งแฟนและไม่ใช่แฟน บอกเลยว่าธีร์ไม่เคยขอสักครั้ง อินเนอร์มันส่งให้รุกและเขารู้ว่าจังหวะไหนถึงจะเหมาะสม จังหวะไหนที่ผู้หญิงจะเขินจนดูหนังไม่รู้เรื่อง แต่พอเป็นน้องเด๋อทฤษฏีเหล่านั้นก็ใช้ไม่ได้ ขืนอยู่ดี ๆ จับมือน้องคงงงฉิบหายว่าไอ้เชี่ยพี่ธีร์เป็นอะไร
“...” น้องยังคงมองหน้า และคนความอดทนน้อยไม่อยากรอคำตอบแล้ว ธีร์คว้ามืออีกฝ่ายไว้แล้วหันไปมองจออย่างหน้าตาเฉย ก่อนจะรู้สึกได้ถึงการเกร็งข้อมือของน้องซึ่งคงเกิดขึ้นเพราะไม่เคยถูกขอจับมือและโดนจับในเวลาถัดมาโดยที่ยังไม่ได้ให้คำตอบ
เขาค่อย ๆ สอดประสานเรียวนิ้วจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้อากาศวิ่งผ่าน แม้ว่าน้องจะไม่ได้ขยับนิ้วแม้แต่นิด แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ส่งผลไปจนถึงหน้าอกข้างซ้ายที่เต้นเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นึกถึงเมื่อสิบกว่าปีก่อนตอนรู้ว่าการใจเต้นกับใครสักคนเป็นอย่างไร ตอนนั้นธีร์ยังเด็กและไม่ประสีประสากับเรื่องของหัวใจ ไม่รู้วิธีไล่ต้อนอีกฝ่ายให้เขิน และควรถือไพ่ให้เหนือกว่า พอเป็นเด็กคนนี้แล้วทุกอย่างก็เป็นเส้นตรงจนธีร์ได้คำตอบบางอย่างให้ตัวเอง คำตอบที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
‘มันคงมีบ้างที่จะรู้สึกดีกับการทำให้อีกฝ่ายเขินหรือทำให้รู้สึกว่าผมอะหล่อมากนะ แล้วคุณก็ต้องเขินกับสิ่งที่ผมเป็นแล้วเดินตามหมากที่ผมวางไว้ ทั้งที่ความจริงไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้เปล่าวะ ถ้ารู้สึกดี ๆ กับใครสักคนจนอยากทำให้เขาเขินหรืออะไรก็ตาม... ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเหอะ ความสัมพันธ์ในระยะยาวมันไม่มีใครเป็นผู้ให้และผู้รับอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะเว้ย ทั้งสองฝ่ายควรเรียนรู้ที่จะเป็นผู้รับและผู้ให้’
‘มันไม่ตลกหรอกถ้าจะเขินกับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นอะ คุณมีอิสระที่จะรู้สึกอะไรก็ได้นะ แล้วเขาก็จะรู้สึกดีโคตร ๆ เวลาเห็นท่าทีที่คุณแสดงออกมาเพราะสิ่งที่เขาทำให้ ในขณะเดียวกันคุณก็ได้พิสูจน์กับตัวเองด้วยว่าหัวใจมันยังคงทำงานเก่งเพราะคน ๆ นี้อยู่’
ราวกับได้ย้อนไปเริ่มต้นใหม่ที่เลเวลหนึ่ง ด่านนี้ไม่มีผู้หญิงในแบบที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างที่เคยพบเจอ แต่กลับเป็นด่านที่มีน้องเด๋อเป็นบททดสอบทุกอย่างตลอดทาง
มือที่เคยเย็นเพราะอากาศในโรงหนังเริ่มชื้นไปด้วยเหงื่อ อีกฝ่ายคงรู้สึกถึงได้พยายามชักมือกลับและแน่นอนว่าเขาไม่ยอม ธีร์กระชับมือแน่นยิ่งกว่าเดิม เสียงกรีดร้องของนางเอกบนจอนั้นเบานักเมื่อเทียบกับหัวใจของผู้ชายคนนี้ที่กำลังตะโกนไม่หยุดเพราะความรู้สึกที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น
ชัดเจนโดยไม่ต้องพยายามคิดหาคำตอบ ชายหนุ่มปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาตญาณและบอกกับตัวเองว่าให้วางความรู้สึกผิดลงก่อนสักพักหนึ่ง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแล้วมันคือเรื่องจริงและเขาไม่อยากปฏิเสธมัน
ธีร์รู้สึกว่าความอบอุ่นที่ได้รับนั้นไม่ได้อยู่แค่ฝ่ามือ... แต่มันกำลังส่งมาถึงหัวใจเขาแล้ว
เขา... ชอบเด็กคนนี้จริง ๆ
จบพาร์ทแรก (PART 1/2)พระเอกเรื่องนี้จบเอกขี้โม้ต่อโทตอแหลคร้าพรี่ ๆ
ตอนยังไม่เข้าโรง เถียงกับน้อง ไอ่สาส กุไม่แน่ใจว่ากุชอบน้องไม๊ แต่พอเข้าโรงหนังปุ๊บ จับมือปุ๊บ เชี้ย กุโดนน้องอัลติใส่แน่ ๆ
#พี่ธีร์คือพระเอกที่โดนแซะเยอะสุดแห่งปี