Part 27
.~.บทสรุปของความรักระหว่างจิ้งจอก กับแมว .~.
หลายวันต่อมาที่บ้านอาร์ต
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า” พัดทักทายพ่อแม่ของอาร์ตเมื่อมาถึงบ้าน
“สวัสดีจ้ะ”
“ผมอยากขออนุญาตพาอาร์ตไปเรียนแคนาดากับผม...”
“แคนาดา?” ซันซึ่งแอบอยู่ใต้บันไดพูดเบาๆ
“ไม่ได้การแล้ว...ไอ้จิน” เขารีบคาบข่าวออกจากบ้านไปส่งให้เพื่อนซี้ทันที
“ว่าไงนะ แคนาดาเหรอ?”
“เออซิวะ คราวนี้แกหมดหวังแน่”
“แล้วพ่อแม่แกว่าไง”
“จะว่าไงได้ ได้ไปฟรีแม่ไม่มีขัดข้องอยู่แล้ว”
“ไม่ได้นะเว้ย แกจะให้น้องแกไปอยู่กับคนที่ไหนก็ไม่รู้งั้นเหรอ”
“ทำไงได้ ตอนนี้เขาเป็นแฟนกัน แกอย่าลืมสิ ตัดใจเหอะ” ซันพูดด้วยน้ำเสียงซีเรียส
จินก้มหน้าลง และไม่พูดอะไรต่อไป
“ไม่ต้องร้องไห้หรอกนะ ถึงยังไงนายก็ยังมีน้องชายที่น่ารักอยู่ทั้งคน” เรย์โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ตบไหล่จินเบาๆ
“ฮือๆๆ ฉันอยากจะบ้าตาย ทำไมฉันต้องไปรักไอ้บ้านั่นด้วย โธ่โว้ย!!!”
จินลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าปล่อยพลังปีศาจอกหักเหมือนเคย
“อึ๋ย...” ซันและเรย์กอดกันกลมอยู่ที่ซอกหนึ่งของบ้าน
วันสอบปลายภาควันสุดท้าย
“เย้! สอบเสร็จซะที” เจ้ยโหวกเหวกหลังจากเดินออกจากห้องสอบเป็นคนสุดท้าย
“วันนี้เราไปกินฟูจิกันดีกว่า”
“อืม...จริงสิปิดเทอมนี้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันดีกว่า”
“เอ่อ...”
“อะไร”
“ฉันต้องไปแคนาดา”
“แคนาดา? ที่มีใบเมเปิ้ลเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ แล้วคนก็พูดสองภาษา
คือภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศส แล้วก็ยัง...”
“นี่...มันก็มีแค่แคนาดาเดียวนั่นแหละ จะร่ายยาวทำไมกัน แกก็รู้จักดีอยู่แล้วนี่”
“แล้วแกจะไปยังไง ไปกับใคร แล้วไปอยู่ที่ไหน”
“พัด” ผมตอบเพียงคำเดียว แต่นั่นก็สามารถอธิบายได้ทุกคำถามของเพื่อนรัก
ผมหันไปเห็นจินยืนอยู่ใกล้ๆ จึงเริ่มทักทายเขา
“ทำข้อสอบได้ไหม?” ผมถาม
“ได้อยู่แล้ว” เขาทำสายตามั่นใจ
“ก็ดีแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ” ผมไม่มีอะไรจะพูดกับเขาอีก เพราะถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ก็ไม่สามารถรักษาแผลใจของผมได้
“นายจะไปจริงๆ เหรอ”
“อืม...ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วนี่”
“ฉันหมายถึง...แคนาดา...”
“เอ๋?”
“นายจะไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงกัน นายเป็นคนไทยนะ นายเหมาะกับปลาร้ามากกว่าอาหารใดๆ ในโลกนี้”
“นายพูดอะไร”
“นายมันก็แค่แมวไทยสีสวาท จะไปอยู่ที่อื่นได้ยังไง เดี๋ยวก็กลายเป็นแค่แมวขี้เรื้อนที่นั่นหรอก ไม่กลัวเหรอ?”
“นายจะพูดแค่นี้ใช่ไหม งั้นฉันไปนะ แล้วเจอกัน”
“โชคดีนะ”
เป็นคำสุดท้ายที่เขาพูดกับผม และมันอาจเป็นคำสุดท้ายสำหรับการยืนอยู่ที่ไทยครั้งนี้ของผมก็ได้
‘ลาก่อนนะ...จินของฉัน’
ที่บ้านของอาร์ต
“แกเสร็จรึยัง นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว” แม่ตะโกนเรียก
“ครับ...” ผมรีบวิ่งลงจากบันไดพร้อมสัมภาระพะรุงพะรังไปหมด
“แล้วพี่ชายแกตื่นรึยัง น้องชายจะไปต่างประเทศครั้งแรก และอาจจะเป็นครั้งเดียวของสมาชิกในครอบครัวเรา
มันยังไม่ตื่นอีกเหรอ”
“ช่างเถอะครับแม่ เรื่องแค่นี้ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้นี่ครับ”
“เอ้าเร็วๆ เข้า เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก”
พ่อกับแม่ช่วยกันแบกสัมภาระออกจากบ้านไป ทิ้งให้ซันนอนอุตุอยู่อย่างนั้น
“พี่แกนี่มันแย่จริงๆ เลยนะ มันไม่ได้สนใจน้องเลยใช่ไหม”
“แม่ครับ เรารีบไปกันเถอะ บ่นอยู่ได้”
ซันงัวเงียเดินลงบันไดมา
“แม่ครับ มีอะไรกินตอนเช้าบ้างครับ” เขามองไปรอบๆ บ้าน แต่ไม่มีแม้แต่เงาของแมวสักตัว
“ไปไหนกันหมดนะ” แล้วเขาก็คิดขึ้นได้ว่า วันนี้เป็นวัน...
“ซวยแล้วไง!” เขาวิ่งไปที่โทรศัพท์ก่อนทำสิ่งอื่น
“หวัดดีคร้าบ...บ้านตระกูลคิมคร้าบ...” จินทำเสียงเหมือนยังไม่ตื่นดี
“เฮ้ย! ตื่นได้แล้วไอ้จิน อาร์ตไปแล้ว”
“ไปแล้ว? แกหมายถึงไปค...แค...น...นา...”
“เออซิวะ! ฉันอาบน้ำเสร็จ จะนั่งแท็กซี่ไปรับแกที่หน้าบ้านนะ”
“ไม่ต้องอาบเอิบมันแล้ว ออกมาเดี๋ยวนี้เลย” เขาวางโทรศัพท์ไป
“อะไรเหรอจิน” เรย์เดินงัวเงียมาถามจิน
“เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก อยู่บ้านคนเดียวนะ”
“ไปไหน?”
“ไปแอร์พอร์ต”
“ไปทำไม?”
“ไม่ต้องถามมาก เดี๋ยวไม่ทัน” เขารีบวิ่งออกไปรอซันหน้าบ้าน
ไม่ถึงสามนาทีซันก็มาถึง
“เร็วเข้า” ซันเรียกจินขึ้นแท็กซี่
“ฉันไปด้วย” เรย์กระโดดขึ้นรถตามมา
“จะไปไหนกัน?” แอนนี่ที่เพิ่งออกจากบ้านเห็นดังนั้นก็ขอไปด้วยอีกคน
ที่สนามบิน
“ไปแล้วก็เมลหรือโทรมาหาฉันบ้างนะ อาร์ต” เจ้ยจับมือเพื่อน
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่ลืมแกหรอก ก็แกเป็นเพื่อนซี้คนเดียวของฉันนี่นา”
“โชคดีนะ” เจ้ยกอดเพื่อนซี้เป็นครั้งสุดท้าย
“พ่อ...แม่...ดูแลตัวเองด้วยนะครับ ตอนที่ผมไม่อยู่ก็ช่วยดูแลพี่ชายอย่าให้ไปกินเหล้าบ่อยนักนะครับ”
“จ้ะ...ลูกเองก็ดูแลตัวเองให้ดีนะ อย่าให้โดนฝนบ่อยๆ ล่ะ เวลาไม่สบายก็ดื่มน้ำอุ่นให้มากๆ “
แม่พูดพร้อมกับลูบหัวลูกชายเบาๆ
“ครับ”
“พ่อรักลูกนะ”
“ผมก็รักพ่อครับ” ผมเริ่มน้ำตาคลอ
“ฝากดูแลอาร์ตด้วยนะจ๊ะ” แม่หันไปพูดกับพัดที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ผมรับรองครับ” เขารับคำ
“ผมต้องไปแล้วนะครับ”
“จ้ะ...”
แม่เองก็เริ่มน้ำตาคลอเช่นกัน ผมเข้าใจแม่ดี แม่คงเป็นห่วงผมมาก เพราะไม่เคยไปไหนไกลๆ
อย่างนี้ผมเดินห่างออกไปทุกๆ ผมหันกลับไปมองเห็นแม่ซบที่ไหลของพ่อ ส่วนเจ้ยโบกมือให้
มันขาดอะไรบางอย่างไปใช่ไหม ผมไม่ได้บอกจินเรื่องนี้
เพราะหวังว่าเรื่องระหว่างเราสองคนจะจบลงเพียงแค่...ผมเจ็บปวดคนเดียวเท่านั้น
“หยุด เดี๋ยวนี้ ไอ้หน้าแมว!”
เสียงนั้น...ผมหันกลับไปมองตามต้นตอของเสียง เห็นจินวิ่งกระหืดกระหอบมาในชุดนอน
ตามมาด้วยพี่ซัน เรย์และแอนนี่
“นายจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“อะไรอีก”
เขาวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง และไปพูดอะไรบางอย่าง เจ้าหน้าที่คนนั้นเดินมาหาผมและพูดว่า...
“ขอโทษนะครับ คุณคนนี้เขาบอกว่าคุณเป็นโรคติดต่อชนิดร้ายแรง
เราคงต้องตรวจสอบหลักฐานการตรวจสุขภาพชองคุณอย่างละเอียดอีกครั้งครับ”
“ว่าไงนะ! นายพูดบ้าอะไรของนาย” ผมจึงจำเป็นต้องให้เขาตรวจอีกครั้ง
“เรียบร้อยแล้วครับ ไม่มีปัญหาอะไร”
“งั้นผมก็ไปได้แล้วใช่ไหมครับ?”
“เชิญครับ”
“ไม่ได้นะ เอ่อ...กระเป๋านายนี่มีของผิดกฎหมาย ตรวจดูดิ”
“นี่ฉันไม่มีเวลามาให้นายล้อเล่นนะ เครื่องจะออกแล้ว ลาก่อนนะ”
“ไม่ได้นะ!!!” เขาวิ่งตามมา แต่โดนซันฉุดเอาไว้
“แกมันไม่ได้เรื่องเลยว่ะ พูดออกไปได้...เรื่องงี่เง่าพวกนั้น
ถ้าแกมีปัญญาแค่นี้ ก็ปล่อยน้องฉันไปกับเขาเถอะ เขาคงทำให้น้องฉันมีความสุขได้” ซันพูด
“ฉันรักน้องแก แกเข้าใจไหมว่าฉันรักเขา”
“แกพูดกับฉัน มันจะมีความหมายอะไร หมดเวลาของแกแล้ว ฉันเสียใจด้วยว่ะ”
“ไม่! ฉันไม่ให้เขาไป” เขาพูดกับซันก่อนที่จะ...
โป๊ก! จินขว้างบางอย่างมาโดนหัวผม มันคือ...เจ้าอียอตัวเดิมที่ถูกซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว
“นี่มันหมายความว่า...”
“ฉันให้นายเอง”
“แล้วทำไมนายถึงได้เหยียบมันซะจมดินเลยล่ะ”
“เพราะฉันไม่อยากเห็นมันเป็นแค่เครื่องประดับของไอ้มือถือนั่น”
“งั้นฉันก็ขอบใจนะ มันอาจจะช้าไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้บอก ฉันต้องไปแล้วนะ”
ผมหันหลังให้เขาและเดินต่อไป
“ฉันรักนาย!!!” เขาตะโกน
คำพูดนั้นทำให้ผมหยุดเดิน ก่อนหันกลับไปมองเขา หน้าตาที่จริงจังขนาดนั้นผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“นายจะแกล้งฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน ฉันกำลังจะไปให้ไกลจากนายไง เลิกทำตัวงี่เง่าซะทีได้ไหม ฉัน...”
“ฉันรักนาย หัวใจฉันบอกว่าฉันรักนาย ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่เมื่อเมื่อเห็นนายเดินไปกับคนอื่น
โปรดเห็นใจฉันบ้างได้ไหม ขอโอกาสให้ฉันสักครั้ง ครั้งนี้แค่ครั้งเดียว
ฉันจะไม่ทำให้นายต้องเจ็บปวดอีกต่อไป ได้โปรดเถอะ...อาร์ต...”
หัวใจของผมแทบจะหยุดเต้น ผมหายใจไม่ออกแล้ว นี่คือความรู้สึกอะไรกันนะ
แววตาจริงจังนั่นกำลังมองผมอย่างไม่กระพริบ ผมรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวไปหมด
“ไปหาเขาเถอะ” พัด พูดเบาๆ
“...” ผมมองหน้าเขา
“เขารักอาร์ตมาตั้งนานแล้ว อาร์ตก็รักเขามากไม่ใช่เหรอ”
“แล้ว...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พัดเคยบอกอาร์ตว่าอาร์ตจะรักใครไม่สำคัญ แต่จำเอาไว้ว่าพัดรักอาร์ตก็พอแล้ว”
เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้ผมอย่างทุกครั้ง แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังเป็นคนที่เข้าใจผมดีที่สุด
“ขอบใจนะ”
“ยินดีครับ”
จินเดินเข้ามาหา
“ฉันจะดูแลแมวตัวนี้เอง” เขาพูดกับพัด
“ถ้านายทำให้เขาเสียใจเมื่อไหร่ ผมจะกลับมารับเขาคืน”
พัดหันมายิ้มให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินจากไป
“มันต้องอย่างนี้สิ ถึงจะมาเป็นเขยตระกูลฉันได้” ซันกระซิบที่ข้างหูของจิน
“ไปกันเถอะ” เขาพูดพร้อมกับโอบไหล่ผมไว้
“ไปไหน?”
“ไปในที่ๆ หัวใจเรียกร้อง”
“แหวะ! เลี่ยนมากเลยอ่ะ”
ผมโยนกระเป๋าเดินทางทิ้ง จินก้มหน้ามาหาและบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาที่หน้าผากของผม
แล้วผมก็กอดคอไปกับเจ้าตัวความรักข้างๆ นี่ ที่ตอนนี้มันเป็นของผม
“อ้าว...นี่มันก็หมายความว่ากินฟรี เรียนฟรีและการไปเมืองนอกครั้งแรก
และครั้งสุดท้ายของครอบครัวเราสิ้นสุดลงแล้วใช่ไหมเนี่ย” แม่พูด
“เอาน่าคุณ ถึงยังไงลูกเราก็มีความสุขกับคนที่รักนะ เรามาร่วมยินดีกับลูกเถอะ เย้!” พ่อพูด
“แล้วที่ฉันไปโม้กับคุณสมศรีเพื่อนข้างบ้านเราล่ะ ฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหน ฮือๆๆๆ” แม่คร่ำครวญ
ทุกคนมองคู่รักคู่ใหม่ด้วยแววตาปิติ ยกเว้นแต่แม่ของผมเท่านั้นที่ยืนซึม
กับการสูญเสียขุมทรัพย์อันมหาศาลที่ล่องลอยจากไปต่อหน้าต่อตา
เทอมสองของทุกคนเริ่มขึ้นแล้ว
“แกยกสาวๆ พวกนี้ให้ฉันหมดเลยจริงๆ เหรอ?” ซันพูด
“อืม...แค่นี้เอง เดี๋ยวฉันหาไหม่ก็ได้” จินตอบ
“อะแฮ่ม! ว่าไงนะ” ผมทำหน้าขู่
“แหะๆๆ พูดเล่นจ้ะที่รัก” เขาทำท่าแง้วๆ อยู่ที่แขนผม
พัดกลับจากแคนาดาแล้ว ผมกับเขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิม
พูดถึงจินเจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ผมต้องแยกจากเขาอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความอวดดีของเขา
แต่เป็นเพราะการเรียนที่ตกต่ำลงอย่างชนิดที่ไม่น่าให้อภัย เขาเลยต้องกระเด็นกลับห้อง F เหมือนเดิม
“แกกลับมาที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว ทุกคนให้อภัยแกเสมอนะจิน” พี่ซันพูดเชิงปลอบใจ
“ฉันก็ว่าที่นี่น่ะเหมาะกับฉันที่สุดแล้ว”
“พี่! จิน! พูดอย่างนั้นได้ยังไง ถ้ามีความคิดอย่างนั้นปีนี้มีหวังอาจโดนซ้ำชั้นทั้งคู่”
“ไม่หรอกน่า...พวกเราเอาตัวรอดได้” พี่ซันพูด
“ไม่ได้!!! ต่อไปพี่กับจินต้องมาติวกับผมทุกวัน”
“ว่าไงนะ” พี่ซันช็อก
“ดีจ้ะ...เราจะได้เจอกันทุกวันเลยเนอะ วันนี้เราก็กลับบ้านด้วยกันนะ” จินพูด
“อืม...”
“อ้าว...แล้วพี่ล่ะ ฉันกลายเป็นส่วนเกินไปแล้วเหรอเนี่ย”
“ใช่!!!” คู่รักพูดพร้อมกัน
แล้วผมก็ได้กลับบ้านพร้อมจินทุกวัน
ผมสามารถเอาใบหน้าแนบแผ่นหลังและกอดเอวของเขาได้อย่างไม่เคอะเขินอีกต่อไป
ท้ายที่สุดเจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็ต้องสยบให้กับแมวน้อยจนได้
ผมได้เรียนรู้แล้วว่า ความรัก คือสิ่งที่สวยงามอย่างที่ใครๆ พูดจริงๆ ด้วย
ถ้ามีโอกาสคว้ามันไว้ ก็อย่าปล่อยให้มันหลุดมือไป
‘ฉันรักเธอนายจิ้งจอกเจ้าเล่ห์…’ ผมสงเสียงจากหัวใจเบาๆ และเขาก็ย่อมได้ยินด้วยหัวใจเช่นกัน...
The end
ขอบคุณทุกคนนนนที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจกัน...เรื่องราวความรักใส ๆ คงช่วยบรรเทาพิษรัก
และลบคราบน้ำตาจากความเศร้าในบอร์ดลงได้บ้างงงงง .... ชีวิตยังต้องเดินอีกยาวไกล....
อย่าท้อนะครับบบบบ..... เป็นกำลังใจให้ทุกคน....อยากให้ทุกคนพบรักที่สวยงามครับบบบบ.....