ปานตะวัน
บทพิเศษที่ ๔
Christmas Gifts
ตามธรรมเนียมของบ้านปานตะวันแล้วแม้ไม่ได้ฉลองเทศกาลคริสมาสแต่ก็ยังมีส่งของขวัญและการ์ดไปให้คนอื่นๆ อันที่จริงก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่มีธรรมเนียมอะไรทั้งนั้นแต่เพราะนี่เป็นคริสมาสปีแรกที่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าปานตะวันจึงริเริ่มกิจกรรมอะไรสักอย่างมาทำด้วยกัน
ปีนี้พวกเขาสามคนแลกการ์ดคริสมาสกัน ปานตะวันกับราเมศ(ในชุดซานต้า)แอบเอาการ์ดและของขวัญไปวางไว้ที่หมอนของหนูเจียตอนที่เด็กน้อยหลับ ส่วนหนูเจียนั้นแอบย่องมาวางการ์ดไว้ใต้หมอนและวางของขวัญไว้ที่ปลายเตียงพวกเขาตั้งนานแล้ว ปานตะวันอยากจะบอกว่าท่าทางตอนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าแอบย่องเข้าห้องนอนคุณน้าของหนูเจียนั้นน่ารักมาก
นอกจากแลกของขวัญกันเองแล้วพวกเขาทั้งสามยังได้ของขวัญจากคนอื่นด้วย
ปานตะวันได้กระเช้าขนมไทยที่จัดมาอย่างประณีตสวยงามจากหลง ได้คุกกี้โฮมเมดฝีมือแม่ชนกันต์มากล่องใหญ่ ได้หนังสือ เสื้อ นาฬิกาข้อมือจากครอบครัวของพี่เมศ ได้ผ้าพันคอถักเองจากแม่ของเขา การ์ดอวยพรจากน้องสาวสองคนและรองเท้ากีฬาใหม่เอี่ยมจากพ่อเลี้ยง
“มีคนให้ของนายเยอะไปหมดเลย”
ราเมศมองปานตะวันเก็บเศษกระดาษห่อลงถังขยะหลังแกะของขวัญและเก็บเข้าที่จนเรียบร้อยแล้ว ปานตะวันส่งเสียงอืมในลำคอจากนั้นก็ปีนขึ้นเตียง มุดไปในผ้าห่มแล้วโผล่มานอนมองราเมศตาแป๋ว
“มีคนให้ของผมเยอะแยะเลยเนอะ”
“อ่าฮะ”
“แล้วไหนของพี่เมศหว่า”
ราเมศต้องกลั้นยิ้มแทบแย่ เขามองเจ้าเด็กแสบลอยหน้าลอยตาไปมา
“เนี่ย ตะวันหาตั้งนานไม่เจอของพี่”
“แล้ว?”
“เอ้า อะไรอ่ะ ไม่มีของขวัญให้เหรอ” ราเมศแกล้งหรี่ตาเล็กน้อยขณะพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “นายก็ไม่มีให้พี่”
“มีดิ ทำไมจะไม่มี”
ว่าแล้วเจ้าแมวแสบก็หยิบกล่องของขวัญที่ห่อกระดาษสีฟ้าออกมาจากใต้เตียงแล้วดันไปตรงอกราเมศ “นี่ไง ให้แล้ว ไหนของตะวันอ่ะ”
“รอเดี๋ยว”
ราเมศคว้าเอวคนรักแล้วเหวี่ยงปานตะวันที่ปีนมาคร่อมบนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ออก เจ้าตัวหัวเราะร่วนขณะนอนแผ่กางแขนขาอยู่บนเตียง ราเมศลุกไปหยิบกล่องของขวัญมาสองกล่อง “กล่องสีน้ำตาลของพี่ กล่องสีขาวของมิ้นต์”
“พี่มิ้นต์ให้สองกล่องเหรอ”
“อ่าฮะ”
อันที่จริงราเมศก็แปลกใจอยู่นิดหน่อยที่มิ้นต์ให้ของขวัญพวกเขาสองกล่อง ตอนแรกเขาคิดว่าน้องสาวส่งมาผิดเลยส่งไลน์ไปถามแต่มิ้นต์บอกว่าเซอร์ไพรส์...อืม...ก็คงมีอะไรเซอร์ไพรส์จริงๆ นั่นล่ะ
ปานตะวันกับราเมศนั่งอยู่บนเตียง ต่างฝ่ายต่างลงมือแกะของขวัญ ของราเมศปานตะวันให้ช็อกโกแลตกล่องใหญ่ที่ดูจากราคาแล้วก็ค่อนข้างแพงอยู่ ที่สำคัญคือนอกจากช็อกโกแลตแล้วในกล่องยังมีตุ๊กตาแมวหน้าบูดอีกหนึ่งตัว อะไรน่ะ วูดูเหรอ?
“นั่นราเมศหมายเลขสอง”
“ฮะ!?”
“หน้าเหมือนพี่ออก ดูดิ หน้าบึ้งเหมือนกันเปี๊ยบ”
“ปานตะวัน!”
“ฮ่าๆๆๆ”
ราเมศฟาดก้นเจ้าเด็กร้ายกาจไปหนึ่งที ปานตะวันแกะกล่องของขวัญของเขาแล้วก็อุทานออกมาเบาๆ เมื่อพบเฟอร์เรโร่กล่องใหญ่ ดูเหมือนเขากับราเมศจะใจตรงกันเรื่องของขวัญ
“ชอบช็อกโกแลตใช่ไหมล่ะ”
“ช่าย โดยเฉพาะที่ซื้อให้พี่”
“คือซื้อมากะกินเองว่างั้น”
“เปล่า ซื้อมากินกับพี่เมศต่างหาก”
ปานตะวันลากเสียง คว้าเอาดาร์กช็อกโกแลตในกล่องที่เขาให้ราเมศมาชิ้นหนึ่งแล้วก็งับปลายเข้าไปด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้าน...
ราเมศหัวเราะเบาๆ ตอนที่ปานตะวันปีนมาคร่อมตัก แขนของอีกฝ่ายคล้องลำคอเขาไว้ ราเมศโอบแขนรอบเอวอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติจากนั้นก็งับช็อกโกแลตอีกด้านทันที
ความร้อนของริมฝีปากและปลายลิ้นทำให้ช็อกโกแลตละลาย เปื้อนริมฝีปาก แก้ม และปลายจมูก
พวกเขาจูบกันเหมือนริมฝีปากของอีกฝ่ายเป็นแม่เหล็กขั้วตรงข้าม ลมหายใจปั่นป่วน ปานตะวันไม่รอช้าเมื่อช็อกโกแลตชิ้นที่สองถูกป้อนถึงปาก
ชายหนุ่มไม่ได้งับแค่ช็อกโกแลต...แต่เขายังรับเอาปลายนิ้วของคนป้อนเข้าไปด้วย เสียงจุ๊บน่าอายดังขึ้นเมื่อปานตะวันไล้เลียนิ้วชี้เปื้อนคราบช็อกโกแลตของราเมศ ดวงตาสีนิลสองคู่ประสานกันไม่ลดละ ปานตะวันรู้สึกร่างกายร้อนผ่าว สายตาของราเมศ จูบของราเมศ ลมหายใจ เสียงครางทุ้มลึกในลำคอและปลายนิ้วที่ขยับอยู่ในปากของเขากำลังแผดเผาปานตะวันช้าๆ
“พอก่อน”
ปานตะวันส่งเสียงในลำคออย่างขัดใจเมื่อราเมศถอนนิ้วออกจากปากของเขาพร้อมกับดันตัวปานตะวันลงจากตัก
พอ? ทั้งที่อะไรๆ มันห้ามไม่ได้แล้วเนี่ยนะ!
“นายยังไม่ได้แกะของมิ้นต์”
“พรุ่งนี้ไม่ได้หรือไง”
“ไม่ได้”
ราเมศดูสนุกกับการที่เห็นเขาฮึดฮัด ปานตะวันเม้มปาก กลายร่างเป็นเด็กเอาแต่ใจอีกครั้ง เขาคว้ากล่องของพี่มิ้นต์ขึ้นมาแกะ พยายามเร็วให้ได้เท่าที่จะทำได้และพยายามไม่ให้ปลายนิ้วสั่นระริก ในที่สุดกล่องสีขาวเรียบหรูก็ปรากฏสู่สายตา ปานตะวันเลิกคิ้วเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่อง
“ลิปสติก? อะไรเนี่ย”
ราเมศเองก็งงเหมือนกัน
“แน่ใจนะว่าพี่มิ้นต์ส่งมา”
“มินต์บอกเซอร์ไพรส์”
“เออ ตูมใหญ่เลย”
ปานตะวันหัวเราะ หยิบเอาลิปสติกหลากสีมาหมุนเปิดดูอย่างชอบใจ “ทำไมผู้หญิงถึงได้ซื้อทีเดียวหลายแท่งนักนะ ทาหมดหรือไงก็ไม่รู้ แถมสีมันก็เหมือนๆ กันอีก”
“มิ้นต์บอกว่าแดงแต่ละเฉดไม่เหมือนกัน”
“นั่นแหละๆ” ปานตะวันโบกมือ เรื่องของเครื่องสำอางและความงาม เขาเข้าไม่ถึงจริงๆ “แต่ส่งมาแบบนี้ตะวันก็ใช้ไม่ได้นา...นอกจาก...”
“นอกจาก?”
“พี่เมศจะอยากลองอะไรใหม่ๆ”
ราเมศกล้าเอาหัวเป็นเดิมพัน เขารู้ว่าปานตะวันกำลังคิดอะไรพิสดารล้านแปดอีกแล้ว และมันก็จริงเสียด้วยเมื่อปานตะวันหยิบลิปสติกสีแดงมาแท่งหนึ่งแล้วบรรจงทาลงบนริมฝีปากตัวเอง พออีกฝ่ายหันมามันก็ดูน่าขันหน่อยๆ แต่ราเมศหัวเราะไม่ออกเมื่อเจ้าตัวแสบปีนกลับขึ้นมาแล้วจูบลงที่แก้มเขาแรงๆ จนมีรอยลิปอยู่ที่ผิวเนื้อ
ปานตะวันหรี่ตา
“ตื่นเต้นแปลกๆ แฮะ”
“เล่นบ้าอะไร”
“น่าๆ” ปานตะวันหัวเราะ จูบปิดปากคนช่างบ่นไปอีกราวสามนาที “ป๋าขี้บ่นจริงๆ”
“เรียกพี่ว่าอะไรนะ”
ความคับแน่นที่บดเบียดอยู่ที่สะโพกทำให้ปานตะวันรู้ตัวว่าเขาคุมเกมแล้ว ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ จูบไปใบหน้าราเมศก่อนจะลากริมฝีปากมาใบหู ขบเม้ม จูบยั่วเย้าแล้วก็เป่าลมฟู่ใส่หู
“เรียกว่า...อืม...ว่าอะไรน้า”
“ปานตะวัน”
“ดุอีกแล้ว ทำไมคุณป๋าดุแบบนี้ล่ะ” ปานตะวันจูบติ่งหูคนรัก กระซิบเสียงแผ่ว “อุตส่าห์เป็นเด็กดี”
“เด็กแสบ”
ราเมศว่าแต่มันก็ไม่ได้ดูดุดันเท่าไหร่หรอกเพราะตอนนี้เสียงของเขาแหบพร่าแล้วก็เต็มไปด้วยความต้องการ ปานตะวันรู้ดีเพราะเจ้าเด็กนั่นหัวเราะไม่หยุด น่าจับตีก้นนัก
“ตะวันต้องเป็นเด็กดีสิ” ว่าพลางถอดเสื้อและกางเกงนอนโยนไปข้างเตียงช้าๆ ราเมศมองตามการกระทำนั้นตาไม่กะพริบ “เป็นเด็กดีแล้วคุณซานต้าจะได้ให้รางวัลไง”
ไม่มีเหตุผลอะไรจะดึงสติราเมศได้แล้ว เขาคำรามแล้วก็กดร่างคนรักลงกับเตียงทันที
วันนี้ราเมศ ‘ให้รางวัล’ เด็กดีของเขาแบบร้อนแรงเป็นพิเศษ ปานตะวันครางจนเสียงหายตอนที่ราเมศปรนเปรอให้ด้วยริมฝีปาก รู้สึกมากจนน้ำตาซึม ลิปสติกถูกทามาที่ริมฝีปากเรื่อยๆ ให้ปานตะวันใช้มันประทับไปทั่วร่างกายแน่นหนั่นของคนรักในขณะที่ช็อกโกแลตก็ถูกเกลี่ยไปทั่วร่างขาวเพื่อให้ราเมศชิมรส
พรุ่งนี้พวกเขาต้องซักผ้าปูเตียงยกใหญ่แน่ๆ แต่ช่างมันเถอะ
“อ๊ะ...อ่า พี่เมศ”
คนบนตักบิดตัวเร่าเมื่อปลายนิ้วชุ่มสารหล่อลื่นกดสอดเข้าไปในร่าง ลูบไล้ในจุดที่ทำให้ปานตะวันตัวแดงเรื่อ
ราเมศมองลูกแมวของเขา ตามเนื้อตัวเปลือยเปล่ามีแต่คราบช็อกโกแลตสลับกับรอยจูบ บนคอของเด็กน้อยมีรอยรักหนึ่งรอยแต่ใต้ร่มผ้า...แทบจะไม่เหลือที่ว่าง ปานตะวันจิกปลายเท้าลงกับเตียงเมื่อราเมศหยอกเย้ายอดอกของเขา ราเมศมองใบหน้าของคนรักอย่างหลงใหล ลิปสติกเปื้อนแก้มและรอบปากปานตะวัน เลอะเทอะพอๆ กับช็อดโกแลตนั่นแหละ
แต่ทุกครั้งที่ปานตะวันเผยอปากหอบคราง เรียกชื่อเขา กระซิบถ้อยคำลามกที่ยามปกติคงไม่มีวันได้ยินด้วยริมฝีปากคู่นั้น ราเมศก็รู้สึกว่าขีดความอดทนเขาลดต่ำลงทุกที
ชายหนุ่มควานหาถุงยางที่ลิ้นชักหัวเตียง พวกเขาไม่เคยทำโดยปราศจากอุปกรณ์ป้องกัน ปานตะวันซีเรียสกับเรื่องนี้
“เด็กดี” ราเมศพยายามผ่อนคลายให้ปานตะวันมากเท่าที่จะทำได้ เขาแทรกตัวลงไปอย่างเชื่องช้า ปานตะวันหน้าบิดเบ้ ช่องทางคับแคบบีบรัด “เด็กดี ใจเย็นๆ”
ร่างกายของพวกเขาเข้ากันได้ดี ราเมศรู้ข้อนี้เพราะไม่นานหลังจากนั้นปานตะวันก็รับตัวตนของเขาเข้าไปจนหมด ตอนที่เขาเริ่มขยับสะโพกปานตะวันก็คว้าเขาไปจูบทันที ยิ่งจังหวะรุนแรงจูบก็ยิ่งลึกซึ้ง เมื่อใกล้ถึงปลายทางราเมศจึงพรมจูบไปทั่วใบหน้าคนรัก
“พี่รักนายนะ รักนายมากๆ”
“พี่เมศ...อึก...พี่เมศ”
ปานตะวันหอบหายใจ อาการเกร็งผ่อนคลายลงเช่นเดียวกับราเมศจากนั้นเจ้าแมวของเขาก็ยิ้ม กางแขนออก รองรับน้ำหนักตัวและไออุ่นของราเมศเอาไว้
ปานตะวันครางในลำคออย่างพึงพอใจตอนที่จมูกพวกเขาปัดไล้กัน ราเมศจูบขมับชื้นเหงื่อของคนรักก่อนจะลุกขึ้นทำความสะอาดร่างกายให้ตนเองและปานตะวันปิดท้ายด้วยการจับคนรักแต่งตัวเหมือนเล่นตุ๊กตา ราเมศจัดการเก็บกวาดของขวัญที่หมดเกลี้ยงในพริบตาไปทิ้งลงถังขยะ พวกเขาใช้ลิปสีแดงหมดไปเกือบครึ่งแท่งเห็นจะได้
“พี่เมศ มีคนไลน์มา”
ปานตะวันที่ซุกอยู่ในผ้านวมหลับตาพูดอย่างเกียจคร้าน ราเมศหยิบโทรศัพท์มาอ่านไลน์ระหว่างที่ปล่อยให้เจ้าลูกแมวหันมาซุก
MinTniM:พี่เมศ หนูส่งของขวัญไปผิดกล่อง นั่นลิปสติกหนู! อย่าเอาไปทำอะไรแผลงๆ นะยะ มันแพง!
ราเมศกะพริบตา ตัดสินใจปิดการแจ้งเตือนแล้วคว่ำหน้าโทรศัพท์ไว้ตรงหัวเตียงจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนแล้วคว้าปานตะวันมากอดไว้
“ชอบคริสมาสปีนี้ไหม”
“ชอบ ดีที่สุดเลย ทั้งขนม การ์ดแล้วก็...เมื่อกี้ด้วย”
เพื่อรอยยิ้มซุกซนของปานตะวันแล้วลิปสติกแท่งสองแท่งจะเป็นอะไรไป เอาไว้เขาซื้อยกเซ็ตใหม่ให้มิ้นต์เลยก็ได้ถือว่าเป็นรางวัลปลอบใจแล้วกัน
สุขสันต์วันคริสมาสนะทุกคน
************************************************
เมอร์รี่คริสมาสค่ะทุกคนนนน
จริงๆ อยากเขียนธีมวันนี้แบบอบอุ่นน่ารัก หิมะฟุ้ง แต่ไหงออกมาแบบนี้ก็ไม่รู้ 55555
เขียนไปก็คิดว่าตะวันสมควรโดนพี่เมศตีจริงๆ นั่นแหละค่ะ ดื้อซะ
ส่วนพี่มิ้นต์หลังเหตุการณ์วันนี้ก็ได้ลิปสติกเซ็ตใหม่จากพี่ชาย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...
ฮ่าๆๆๆๆ