Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก
ตอนที่ 6
[/size]
หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดกลางชื่อดัง บริเวณประตูทางเข้าที่มีคนเข้าออกตลอดเวลา พนักงานประจำร้าน chicken caféสองคน
กำลังยืนแจกใบปลิวแนะนำเมนูอาหารใหม่
“เบอร์เกอร์ปลาแซวม่อนกับซอสเปรี้ยว”เทนนิสพลิกอ่านกระดาษใบปลิวสำหรับโฆษณา รูปภาพแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโตถูกตกแต่ง
จนสวยและน่ากิน
“น่าอร่อยดี ราคาเปิดตัวแค่ 59 บาท”วีร์ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเดินมาหยุดข้างๆเพื่อน เมนูใหม่โฆษณาออกทางโทรทัศน์มาได้หลาย
วันแล้ว พวกเขาเลยทำหน้าที่นำใบปลิวมาแจก ยืนทำงานมาเกือบชั่วโมงมองเข้าไปในร้านลูกค้าเยอะเป็นปกติเหมือนทุกวัน เมนู
ใหม่น่าจะเรียกลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ ใบปลิวในมือหมดแล้ว จากนั้นพวกเขากลับเข้าร้านแยกย้ายทำงานของตัวเอง
“พี่เทนนิส สวัสดีค่ะ”เสียงหญิงสาวดังมาก่อนตัว
ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวที่เดินตรงเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้ม“สวัสดี เป็นไงบ้างไปเข้าอบรมหลายวันได้อะไรมาเยอะเลยสิ”เทนนิส
หยิบถ้วยกาแฟออกจากเครื่องล้างอัตโนมัติจัดถ้วยกาแฟสีขาวไว้บนชั้นตามขนาดของมัน
“สนุกดีค่ะ ได้กินกาแฟฟรีจนตอนกลางเกือบนอนไม่หลับและได้เจอเพื่อนต่างสาขาด้วย”ปลาเล่าเรื่องที่ได้มีโอกาสเข้าไปฝึก
อบรมที่ออฟฟิตหลัก เธอรู้สึกสนุกกับมัน
“ใครเป็นคนสอนชงกาแฟ”
“พี่แชมป์ค่ะ แกสอนเก่งมากเลย”ทั้งๆที่ปกติเธอเห็นแต่พี่แชมป์ถือเอกสารเดินไปเดินมาและนานทีจะเห็นเข้าร้าน ไม่นึกว่าจะชง
กาแฟเก่งขนาดนี้
“อืม ได้อาจารย์ดีถ้าอย่างนั้น วันนี้ก็พร้อมแสดงฝีมือได้แล้วซิ”
“ปลาคิดว่าน่าจะทำได้”เธอรู้สึกกังวลอยู่บ้างถ้าต้องทำจริงๆ
“วันนี้เอาเอกสารที่ไปอบรมมาไหม”
“ค่ะ นั่นปลาวางไว้บนเคราเตอร์ด้านหลัง”เธอชี้ไปมุมด้านหลังบริเวณหลบมุมกล้องวงจรปิด
“เอกสารเหมือนตอนที่พี่เข้าอบรมเลย ผ่านมาหลายปีแล้วยังใช้แบบเดิมอยู่อีก”เขาเปิดเอกสารข้างในอธิบายวิธีชงกาแฟหลาย
แบบ”แล้วจำสูตรกาแฟในนี้ได้ไหมดแล้วรึยัง”
“ยังไม่แม่น แต่ที่แน่ใจที่สุดคงเป็น Espresso และ Americano”
“ใช่กาแฟดำและกาแฟดำผสมน้ำร้อน ตอบอย่างนี้คนสอนคงช้ำใจตาย อย่าลืมนะพี่แชมป์ประจำสาขานี้”
“พี่เทนนิสอย่าขู่หนูสิ พี่แชมป์ยิ่งหน้ากลัวอยู่ด้วย”
“พี่ไม่ได้ขู่ แต่เดี๋ยวพี่เขาจะเรียกทดสอบหลังการอบรม ประมาณเทนเนอร์ติดตามผลนะ”มันเป็นการรักษามาตรฐานของพนักงาน
รวมไปถึงพนักงานที่ทำงานมานานอย่างเขาก็ต้องถูกทดสอบเหมือนกัน เขายิ้มให้รุ่นน้องเพื่อไม่ให้เธอต้องเป็นกังวลแล้วกลับไป
ทำงานตัวเองต่อ เทนนิสเช็คจำนวนนมสดในตู้เย็นก่อนเดินไปที่ห้องเย็นเอานมสดออกมาเพิ่ม นำแก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มร้อน
เครื่องดื่มเย็นฝาปิด น้ำตาล ช้อนคน ออกมากห้องเก็บของด้านหลังร้านออกมาเติม จากนั้นเขาล้างถ้วยกาแฟที่แช่อยู่ในอ่างล่าง
จานแล้วคว่ำถ้วยที่ล้างเสร็จใส่ในเครื่องล้างจานอัตโนมัติปล่อยให้เครื่องทำงานเอง ปลาและพนักงานคนอื่นอยู่ประจำหน้าเคา
เตอร์ เขามองรุ่นน้องทำหน้าที่ชงกาแฟอย่างตั้งใจถึงบางครั้งจะช้าไปบ้างแต่ก็ได้พนักงานคนอื่นคอยช่วยให้คำแนะนำ ทำงานอยู่
หลายชั่วโมงในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน เขากลับเข้าไปหลังร้านเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพักพนักงาน
“เทนนิส ถามหาพี่มีอะไรรึเปล่า”เท็นผู้จัดการร้านเดินเข้ามาชายหนุ่ม
“เรื่องที่ผมเคยบอกก่อนหน้าว่าจะเลิกทำงานที่นี่”
“ทั้งเทนนิสและวีย์ใช่ไหม”เท็นถามชายหนุ่มทั้งสองที่กำลังยืนเปลี่ยนเสื้อในห้องพักของพนักงาน
“ครับ”
“ได้ไม่มีปัญหา แต่พี่ขอเวลาสักพักนะถ้าออกตอนนี้พี่หาคนมาแทนไม่ได้ ยิ่งร้านกาแฟมันเป็นอะไรที่ยุ่งยากอย่างที่รู้”
“ได้ครับผมกับวีร์ไม่มีปัญหา”
“ขอบคุณจ้า กลับบ้านดีๆล่ะเด็กๆ”พูดเสร็จแล้วเธอเดินกลับออกไป
“โอ๊ย ปวดขาชะมัดยืนมาทั้งวัน”วีร์บ่นแล้วนั่งลงบนเก้าอี้หยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นเบาๆออกมาดูทำให้รู้ว่าคนที่โทรศัพท์มาบอกว่า
จะมารับหลังเลิกงานมาถึงแล้ว เขาปล่อยให้โทรศัพท์สั่นอยู่สักครู่แล้วส่งข้อความตอบกลับให้อีกฝ่ายรอก่อน
”วันนี้ร้านใหญ่คนลาเยอะเลย ฉันวิ่งวุ่นเลยตอนบ่าย แล้วผู้จัดการคนใหม่เหมือนจะมีปัญหากับฉันด้วย”วีร์ตัดสินใจพูดเรื่องที่เกิดขึ้น
“หืม ยังไง”เทนนิสรู้สึกแปลกใจที่มีคนมีปัญหากับเพื่อนของเขา
“ไอ้นั่นมันตะโกนว่าฉันไม่ยอมกดลบเมนูที่ complete แล้วฉันอยู่หน้าเคาเตอร์ต้องรับลูกค้าคิดเงินแล้วต้องจัดอาหารอีก”เขา
พยายามพูดช้าๆเพื่อระงับอารมณ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ พูดแล้วก็รู้สึกโมโหเรื่องเล็กแค่นี้ต้องตะโกนว่าเขาเสียงดังด้วยมันไม่ใช่เรื่อง
เลย
“แล้วนายไม่ตะโกนกลับไปบ้างว่าแทนที่เอาเวลาตะโกนว่านาย ทำไมไม่ลบมันออก”
“ฉันทำไปแล้ว รู้ไหมมันว่ายังไงต่อ”เขาถามอีกฝ่าย เทนนิสส่ายหน้าไม่อยากเดาเป็นคำตอบ “มันว่าฉันเป็นแค่พนักงานมันเป็นผู้
จัดการร้าน”เทนนิสมองหน้าเพื่อนเงียบๆอย่างเข้าใจความรู้สึก คงหมายถึงพวกเขาเป็นพนักงาน Past-time ไม่ใช่พนักงานประจำ
หรือมีความรู้แค่มัธยมปลายคงเทียบไม่ได้กับคนที่จบปริญญาตรีและเป็นผู้จัดการร้าน ก็ไม่ใช่ลูกจ้างอย่างพวกเขารึไงที่ทำงานให้
วันหยุดไม่มีคนก็ต้องมาช่วย ถ้ามีคนพูดกับเขาอย่างนี้เป็นเขาคงเดินหนีหรือทำอะไรมากกว่านั้น เพื่อนของเขาระงับอารมณ์ได้ดี
มาก ไม่รู้ว่าเรื่องเกิดตอนไหน เพราะร้านใหญ่จะตะโกนหรือเสียงดังเป็นปกติ เขามองแววตาเพื่อนยังหลงเหลือร่องรอยความไม่
พอใจปรากฏอยู่ มิน่าตอนที่พี่เท็นเข้ามาวีร์ถึงไม่มองหรือไม่สนใจเลย
“ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้วันหยุดแล้วพักให้หายเหนื่อยแล้วค่อยมาลุยกันต่อ”เขาพูดให้เพื่อนลืมทำงานเหนื่อยมาหลายชั่วโมงได้พัก
ผ่อนบ้างมันอาจจะดีขึ้น
“อืม ต่อไปพวกเราลดเวลางานดีไหม ฉันไม่อยากเจอหน้ามันบ่อย”ฟังจากน้ำเสียงอีกฝ่ายทำให้เทนนิสรู้ได้ว่าเพื่อนเขาไม่พอใจผู้
จัดการคนใหม่มากๆ
“ได้ตามนั้น ไม่มีปัญหาใกล้สอบแล้วด้วย รายงานก็เยอะเดี๋ยวก็จะสอบย่อยอีก”เทนนิสยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ไหนๆก็
ต้องออกอยู่แล้วลดเวลาทำงานที่แน่นให้เหลือน้อยลงบ้างก็ดี เพราะถ้าไม่มีคนทำงานอยากรู้ว่าผู้จัดการจะทำอย่างไร แต่ยังไง
เขาก็อยากให้ทุกอย่างจบด้วยดีทั้งสองฝ่าย
“ขอบใจนะ อาจจะงี่เง่าไปหน่อยแต่ฉันรู้สึกแย่กับมันจริงๆ”
“ไม่เป็นไร สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหมกลับเถอะ พี่ปาลรอนานแล้ว”
วีร์มองหน้าจอที่มีคนโทรเข้ามา พี่ปาลคงรอนานแล้ว“นายก็กลับดีๆล่ะ”เขาเก็บของลงกระเป๋าแล้วรีบเดินออกจากร้าน เทนนิส
มองเพื่อนที่เดินออกไปแล้ว เอาละดึกแล้วเขาก็คงต้องกลับแล้วเหมือนกัน พรุ่งนี้วันหยุดเขาจะนอนตื่นสายๆแค่คิดก็มีความสุขจะ
แย่แล้ว
ในบ้านหลังใหญ่หญิงสูงวัยและแม่บ้านกำลังช่วยกันจัดโต๊ะอาหารสำหรับมื้อเช้า อาหารถูกนำมาเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย
สมาชิกทุกคนในบ้านทยอยมานั่งรวมที่โต๊ะ
“ปืนตื่นเช้าเลยวันนี้มีธุระหรอลูก”ปรีญาวรรณถามลูกชายที่เดินลงมาจากชั้นบนมานั่งลงบนเก้าอี้ เธอมองลูกชายคนโตที่แต่งตัว
เหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
“ครับ ผมว่าจะออกไปทำธุระสักหน่อย”ชายหนุ่มตอบแล้วลงมือกินข้าว
“พักผ่อนบ้างนะลูก ตั้งแต่กลับมาแม่เห็นปืนทำงานตลอดเลย”เธอพูดกับลูกชายอย่างเป็นห่วงเพราะตั้งแต่กลับมาจากต่าง
ประเทศก็ถูกบังคับให้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัท
“ลูกมันต้องเรียนรู้งานคุณก็รู้เรากำลังมีปัญหา แล้วเปรียวยังไม่ตื่นอีกหรอ”อติพจน์ถามถึงลูกสาวอีกคนที่ควรจะมานั่งกินข้าวด้วย
กัน
“เมื่อคืนแจ่มบอกว่ากลับดึกค่ะ”เธอช่วยแก้ตัวให้ลูกสาว
“กลับดึกหรือกลับเช้า ผมได้ยินเสียงตอนตี 3 นี่เอง”เขาพูดอย่างรู้นิสัยลูกสาวคนนี้ดี ไม่รู้ว่าที่นิสัยเป็นแบบนี้เพราะส่งไปอยู่เมือง
นอกตั้งแต่เด็กๆหรือเป็นเพราะคนเลี้ยง
“ลูกต้องมีเพื่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยต้องปรับตัวบ้าง”เธอก็รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวเหมือนกัน ตั้งแต่กลับมาก็เที่ยวกลางคืนตลอด
กลับมาบางวันก็สว่าง
“เอาเถอะ คุณก็ช่วยช่วยดูแล้วกัน เพราะช่วงนี้ผมยังยุ่งเรื่องบริษัท”
“ผมอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะครับ”ชายหนุ่มรวบช้อนส้อมไว้ ถึงกับข้าวตรงหน้าจะอร่อยแค่ไหนแต่บรรยากาศมันไม่เหมือนบ้านก็
ทำให้ความยากอาหารลดลง พ่อที่ไม่สนใจลูกนอกจากตัวเองบังคับเขาในทุกๆเรื่อง แม่ที่ฟังแต่พ่อเถียงอะไรไม่ได้ น้องสาวที่ถูก
ส่งไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กไม่สนใจเรียนเอาแต่เที่ยว เขาน่าจะชินได้แล้วครอบครัวที่เหมือนจะมีครบทุกอย่างที่จริงไม่มีอะไร
เลยซักอย่าง
“ทำไมกินน้อยจังเลยหรือกับข้าวไม่อร่อย”ปรีญาวรรณถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นลูกชายกินเข้าไปไม่กี่คำ
“ไม่ครับกับข้าวฝีมือแม่อร่อยที่สุดเลยแต่ผมมีนัดเลยต้องรีบไป”ชายหนุ่มพยายามพูดให้มารดาไม่เป็นกังวล
“ไม่รู้ว่าจะรีบไปไหน”
“จะไปไหนได้ถ้าไม่ไปหาไอ้เด็กนั่น”อติพจน์พูดขึ้นมาอย่างรู้ดี
“คุณคะ นั่นหลานชายคุณนะคะ”
“ฉันไม่เคยคิดว่ามันเป็นหลาน”เขาเกลียดมันเหมือนที่เขาเกลียดพ่อของมัน ที่จริงมันน่าจะตายไปกับพ่อกับแม่มันในอุบัติเหตุ
รถยนต์นั่น ไม่น่าให้มันมานั่งถือหุ้นในบริษัทอย่างสบายใจได้เหมือนทุกวันนี้
ปืนขับรถออกมาจากบ้านตรงไปหาคนที่เขาส่งข้อความไปหาเมื่อคืนว่าจะไปหา เขาเข้าไปเรียนรู้งานในบริษัทตลอดหลาย
สัปดาห์เขารู้สึกเหนื่อยเบื่อหน่ายที่ต้องไปเจอสายตาของคณะผู้บริหาร พนักงานที่ดูถูกว่าเขาใช้ชื่อของพ่อเข้าไปทำงาน ระบบ
การทำงานในบริษัทค่อนข้างจะมีปัญหา คนในองค์กรขาดความสามัคคี คงเป็นเพราะผู้นำพ่อของเขามีความน่าเชื่อถือไม่มากพอ
ปัญหามันคงเกินจะแก้ไขพ่อจึงต้องเตรียมรับมือ
ขับรถออกมาได้สักพักก็ถึงหน้าบ้านคนที่เขานัดไว้ ไม่รู้ว่าจะตื่นรึยังเพราะตอนนี้เพิ่งจะเก้าโมง เขาจอดรถไว้หน้าบ้านแล้วใช้
กุญแจสำรองที่ได้มาเปิดเข้าไปในบ้านที่ยังเงียบอยู่เท่านี้ก็เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าของยังหลับอยู่ชั้นบน เขาเดินขึ้นไปชั้นบนบ้านที่
เขาเคยอยู่ก่อนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ บ้านที่ให้ความรักและความอบอุ่นในขณะที่เขาไม่เคยได้รับจากครอบครัวของเขา
ผ่านห้องนอนของคุณอาทั้งสองที่ปิดประตูไว้สนิท ห้องนอนเก่าของเขาที่แอบหนีความวุ่นวายกลับมาที่นี่บ่อยๆ จนมาหยุดเท้าที่
หน้าห้องนอนน้องชาย มือหนาหมุนลูกบิดแล้วผลักประตูเข้าไปข้างใน
ในห้องอากาศเย็นสบายเพราะเครื่องปรับอากาศยังทำงานอยู่ ชายหนุ่มเดินสำรวจห้องกว้างที่มีโต๊ะทำงานมีชั้นวางหนังสือสอง
สามหลังตั้งไว้รอบๆกั้นไว้เหมือนเป็นห้องทำงานเล็กๆ เขาเดินไปหยุดที่เตียงเดี่ยวที่ว่างอยู่นั่งลงมองคนนอนหลับสบายอยู่อีก
เตียง บ้านหลังนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายไม่ต้องคอยคิดหรือกังวลเรื่องต่างๆ ชายหนุ่มนั่งคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยจนคนที่นอน
บนเตียงขยับตัวแล้วลืมตาตื่น
“อ้าว พี่ปืนมาแต่เช้าเลย มีอะไรรึเปล่า”เทนนิสมองเห็นว่าเป็นคนใครก็ขยับตัวนอนตะแคงมองหน้าพี่ชายที่หายไปหลายสัปดาห์
อยู่ๆก็โผล่มาแต่เช้า ไม่ใช่ซิเมื่อวานส่งข้อความบอกว่าจะเข้ามาหา ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรแต่ดูจากสีหน้าทำให้รู้ได้ว่าคงเป็นเรื่องที่
ทำให้คนตรงหน้ารู้สึกลำบากใจ
“ไม่เช้าแล้วสายแล้ว ตื่นเถอะไปหาอะไรกินกัน”ปืนบอกคนที่ยังไม่ยอมลุกจากเตียง นอนหัวฟูส่งยิ้มมาให้ ถ้าเขาเป็นผู้หญิงคน
หลงเสน่ห์น้องชายเขาไม่ยาก ฉลาด ขี้เล่นนิดๆ มองโลกในแง่ดี หน้าตาดี
“เป็นอะไร มีเรื่องไม่สบายใจอะไรอีก”เทนนิสถามคนที่ท่อสังขารมาปลุกเขาชวนไปกินข้าวแต่เช้า บ้านไม่มีข้าวให้กินรึไงเดือด
ร้อนคนจะหลับจะนอน
“ฮึ ทำเป็นรู้ดีไม่มีอะไรหรอก”
“ฮ้าว ไม่รู้รึไงว่าวันนี้มันวันหยุด“คนบนเตียงลุกขึ้นนั่งมองอีกคนที่ทำหน้าไม่ทุกข์ที่มารบกวนคนอื่นแต่เช้า”เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็
ดึกแล้ว”เทนนิสลุกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำปากก็บ่นไปด้วย ปืนนั่งยิ้มกับท่าทางของน้องชายถึงปากจะบ่นแต่ก็
ยังรีบตื่น
เขาลุกเดินไปที่โต๊ะทำงานหยิบกรอบรูปอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู ในนั้นมีคุณอาทั้งสองน้องชายและเขาทุกคนกำลังยิ้มให้กล้อง วันเวลา
ของความสุขมันมักผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่เคยคาดคิด เขาจ้องมองภาพในความทรงนั้นอยู่สักพักจนได้ยินเสียงเรียกเขา
วางรูปลงที่เดิมแล้วออกไปจากห้อง
วันหยุดเทนนิสอยากอยู่บ้านแทนที่จะต้องนั่งเผชิญกับรถติด ควันพิษ และฝูงคนออกมาเดินห้างสรรพสินช่วงวันหยุด ห้าง
สรรพสินค้ามักจะมีโปรโมชั่นเรียกให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยช่วงวันหยุดมันเป็นการสนับสนุนให้คนไทยใช้เงินมากกว่าการ
อดออมนั่นเป็นเหตุผลที่คนไทยยังยากจนและมีหนี้สินภาคครัวเรือนเป็นอันดับแรก
เข้ามาในห้างสรรพสินกลางมหานครนานครั้งจะได้มีโอกาสมาสักครั้งคนยังเยอะเหมือนเดิม เทนนิสกวดสายตาไปรอบๆลานโปร
โมชั่นของห้างสินค้าลดราคา ป้ายสีแดงเขียนว่า SALE 50- 70% ตัวขนาดใหญ่พร้อมเชิญชวนให้คนเดินเข้าไปชมสินค้า ทำให้
หลายคนอดใจไม่ไหวเดินเข้าไปข้างใน
“อยากกินอะไร”เสียงของคนที่ยืนอยู่ข้างๆทำให้เทนนิสรู้ถึงจุดประสงค์ของการมาอยู่ที่นี่
“ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู สุกี้ทะเล ก๋วยเตี๋ยวไก่ แล้วก็”เทนนิสกำลังจะพูดชื่อกับข้าวต่อก็ถูกพี่ชายหยุดไว้
“พอก่อน นี่ไปอดยากมาจากไหน มิน่าทำไมถึงผอมอย่างนี้”ปืนยิ้มให้ท่าทางขี้เล่นของน้องชาย
“พูดเล่นไปกินหม้อร้อนบุพเฟ่ดีกว่า มีอะไรให้เลือกกินเยอะเลย”
“ได้ไม่มีปัญหา ตามใจเจ้ามือเลย”ชายหนุ่มพูดแล้วมองหน้าคนอายุน้อยกว่าทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจ
เทนนิสกอดอกหรี่ตามองพี่ชายที่สูงกว่าอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่“ถ้าตามใจเจ้ามือก็คงต้องกลับบ้านไปต้มบะหมี่กินคนละซอง
อ้อมีไข่ไก่ให้ด้วยสนใจปะ”เอาสิพี่ชายคุณจะหาอะไรกินที่นี่หรือจะกลับไปกินบะหมี่เลือกเอา
“ล้อเล่นน่า พี่พามาก็ต้องเลี้ยงสิ”
“พูดอย่างนี้ ให้สมกับที่แหกขี้ตาตื่น ฝ่ารถติดมาด้วยหน่อย”เทนนิสยิ้มอย่างผู้ชนะ คอยดูเถอะรบกวนเวลานอนในวันหยุดของเขา
เรื่องไม่จบแค่ที่ร้านอาหารบุพเฟ่นี่แน่นอน เขาเดินนำเจ้ามือเข้าไปในร้านอาหารที่ยังว่างอยู่หลายที่เพราะห้างสรรพสินค้าเพิ่งเปิด
ได้ไม่ถึงชั่วโมง ทั้งสองเลือกที่นั่งได้แล้วต่างแยกย้ายไปตักอาหาร เทนนิสเดินรอบเคาเตอร์อาหารที่มีของสดอยู่เต็มจนเลือกไม่
ถูก เขาเลือกหยิบอาหารใส่ถาดจนพอใจกลับมานั่งที่โต๊ะมีหม้อที่เต็มไปด้วยน้ำซุปตั้งอยู่บนเตาไฟฟ้าที่ถูกพนักงานเปิดไว้ให้แล้ว
เรียบร้อย
หนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาทีเป็นเวลาที่ทางร้านกำหนดเขาต้องกินให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด น้ำซุปในหม้อเริ่มเดือดเทนนิสใส่
เบคอนที่สไลด์เป็นชิ้นบางๆ เนื้อหมูเนื้อไก่หมักด้วยเครื่องปรุงพิเศษทางร้าน เนื้อปลาที่ถูกแล่ออกมาเป็นชิ้นๆวางอยู่บนถาดคอน
โดที่เรียงเป็นชั้นไว้ ตามด้วยปลาหมึก กุ้ง ข้าวโพดอ่อน ผักบุ้ง ผักกาดขาววุ่นเส้นและไข่ไก่ รอไม่นานผักและเนื้อสัตว์ในหม้อก็สุก
“จะบอกได้ยังว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ”เทนนิสลดปุ่มที่เตาให้ไฟเบาลงแล้วเริ่มตักเนื้อสัตว์ผักออกมาใส่จานไว้ เขาตักพริก
กระเทียมสับและบีบมะนาวลงในถ้วยน้ำจิ้ม จากนั้นคนทุกอย่างให้เข้ากัน
“ทำไมถึงคิดว่าพี่มีเรื่องไม่สบายใจ”
”เมื่อเช้าออกจากบ้านมาส่องกระจกบ้างรึเปล่า อืม เบค่อนกับหมูหมักอร่อย”
ปืนเลิกคิ้วขึ้นกับคำถามของน้องชาย“ทำไมมันดูแย่ขนาดนั้นนั้นเลยหรอ”
“ไม่หรอกแค่คิ้วแทบผูกโบว์ หน้าตาเหมือนคนอดนอน แล้วก็”
“พอเถอะ เรานี่ไม่น่าโตเลยตอนเด็กๆออกจะน่ารัก เดินตามพี่ตลอด”
“โตแล้วไม่น่ารักแต่ก็หล่อนะ แล้วก็ยังเป็นห่วงพี่ชายเหมือนเดิมเหมือนที่พี่เป็นห่วงผม”เขายิ้มให้พี่ชายที่บอกว่าหิวแต่นั่งกินผัก
จากหม้อไม่กี่ชิ้น
“ถ้าวันหนึ่งพี่ไม่สามารถรักษา Happy Mall ไว้ได้..”
“ช่างมันไม่เป็นไร ผมคิดว่าพี่ทำดีที่สุด ในขณะที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย”เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจเพราะถ้าพี่ชายไม่ช่วยเขาแม้แต่ที่
ซุกหัวนอนก็จะไม่มี
“พี่อยากจะทำ Mini Martหรืออะไรทำนองนั้น”ชายหนุ่มพูดความคิดของตัวเองออกมา เทนนิสหยุดกินแล้วมองหน้าพี่ชายรอฟัง
คำอธิบายเพิ่มเติม ถ้าลองพูดขึ้นมาพี่ชายเขาคงแน่ใจอะไรในหลายๆอย่าง
“ร้านสะดวกซื้อ ที่พ่อเคยคิดจะทำนะหรอ ผมว่าร้านกาแฟก็สนใจนะ”ถ้าจะเริ่มต้นทำอะไร ทำแบบเล็กๆเป็นความคิดที่ดี
“ใช่ พี่ลองศึกษาดูแล้วตั้งแต่ที่อยู่ที่โน่น และมีเงินก้อนหนึ่งได้จากเสี่ยงดวง”เขาไม่อยากเสียเวลาให้บริษัทนี้อีกแล้ว และรู้สึกดีที่
น้องชายเห็นด้วยกับความคิดของเขาแม้ทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นเริ่มต้นแต่ก็มีแนวโน้มจะเป็นไปได้ด้วยดี
“หมายความว่า Happy Mall คงต้องเปลี่ยนเจ้าของใช่ไหม”ไม่รู้สึกแปลกใจเลย เพราะคนที่บริหารเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนนั้น
และมักคิดว่าตัวเองรู้เก่งไปซะทุกอย่างแต่ที่จริงไม่ใช่
“ตอนนี้มีผู้ถือหุ้นหลายคนกำลังจะปล่อยถ้ามันตกไปกว่านี้ แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขา”
“พี่อยากได้คนร่วมหุ้นบริษัทใหม่ละสิ แต่ตอนนี้ผมมีแค่ 10 บาทที่เหลือติดไว้ก่อน”เทนนิสพูดติดตลกให้พี่ชายหายกังวล
“ได้”
“ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ก็บอก แต่กองทัพเดินด้วยท้อง ของในหม้อยังเหลืออยู่เยอะผมกินคนเดียวไม่หมด หรือจะเอาของ
หวานไหมกินแล้วจะได้หายเครียด”การได้พูดอะไรออกมาบ้างทำให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้น ปืนคิดถูกที่ออกมาหาอะไรกินข้างนอก
กับน้องชาย ทั้งสองกลับมาสนใจอาหารในหม้อต่อเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเป็นเรื่องทั่วไป สีหน้าเคร่งเครียดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
และอารมณ์ที่ผ่อนคลาย หลังจากกินจนอิ่มแล้วทั้งสองเดินย่อยดูเสื้อผ้า
“พี่เทนนิส”เสียงหญิงสาวดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหันมาสนใจเธอ หญิงสาวในกางเกงยีนสามส่วนเสื้อยืดสีขาวพิมพ์ลายกับ
รองเท้าผ้าใบสะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าไปหาชายหนุ่ม
“ธาร มาเที่ยวหรอ”
“ค่ะ พอดีมาดูหนังกับเพื่อนๆเพิ่งแยกกันเมื่อกี้ พี่เทนนิสมาเที่ยวหรอคะ สวัสดีค่ะพี่ปืน”เธอทักทายพี่ชายของพี่รหัส
“สวัสดีครับ”ปืนทักทายน้องรหัสคนสวยของน้องชาย
“ยังไงธารขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีนัดต่อ”เธอขอตัวแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ปืนยังมองตามร่างหญิงสาวจนลับตาไปในฝูงคน
“ไม่ตามไปล่ะตอนนี้ยังทันนะ”เขายิ้มให้พี่ชายอย่ารู้ทัน
หลังจากเดินย่อยได้สักพักพวกเขาตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าไปดูหนังต่างประเทศที่กำลังเป็นที่นิยม ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เขาไม่
เข้าโรงหนัง หนังเข้าโรงฉายมาแล้วสองสัปดาห์รอบฉายถูกลดจำนวนลง คนในโรงหนังก็น้อยลง ฉากซุปเปอร์ฮีโร่กำลังต่อสู้กับ
เหล่าร้ายด้วยพลังเหนือธรรมชาติ ต่อสู้กันอยู่นานสุดท้ายซุปเปอร์ฮีโร่ก็ชนะ หนังจบลงพวกเขากลับออกมาจากโรงหนัง
“หนังแอ๊คชั่นจริงๆ สู้กันทั้งเรื่องเลย”
“บ่นเหมือนเงินตัวเองเลย”
“ผมชอบไม่ได้บ่น มันคุ้มกับค่าตั๋วมากเลย สนุกจนลืมกินป๊อปคอนนี่เลย”เทนนิสยื่นป๊อบคอนที่เหลืออยู่เต็มกล่องให้พี่ชาย “ยิ่ง
ฉากพระเอกกระโดดตีลังกาลงมาจากตึกสูงมายืนหน้าโจร อย่างมัน”ชายหนุ่มพูดถึงฉากในหนังที่ทำให้เขาตื่นเต้นจนต้องพูดให้
คนที่ดูด้วยกันฟังอีกครั้ง ปืนทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีรับกล่องป๊อปคอนมาไว้ในมือแล้วป้อนให้น้องชายที่บ่นบอกว่าหนังสนุกจนลืม
กิน คนถูกป้อนมองหน้าพี่ชายอย่างเคืองๆเขารู้ว่าถูกพี่ชายแกล้ง
“ก็เห็นบ่นบอกว่าไม่ได้กินพี่เลยป้อนไง”ปืนพูดยิ้มให้อีกฝ่ายแต่ก็ได้รับสายตาเคืองกลับมาแทน
เดินลงมาจากชั้นของโรงหนังเทนนิสชวนอีกฝ่ายไปเดินดูของใช้ เขาจำได้ว่าโฬมล้างหน้าใกล้จะหมดแล้ว ไหนๆวันนี้ก็ออกมา
ห้างใหญ่กลางเมืองน่าจะซื้อไว้ เข้าไปในร้านขายยาตรงเคาเตอร์เวชสำอาง เทนนิสกำลังยืนอ่านรายละเอียดสินค้าด้านหลังโฬ
มล้างหน้า
“พี่ปืน สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ น้องแพร”
“ดีใจจังเลยค่ะได้เจอพี่ปืน”แพรยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอดีใจที่ได้เจอคนตรงหน้าเพราะหลายสัปดาห์ไม่มีโอกาสได้เจอไปหาที่ทำงาน
อีกฝ่ายก็ทำแต่งานจนไม่มีเวลาว่างให้เธอ วันนี้เธอรู้สึกเบื่อๆจึงได้ออกมาเดินซื้อของเดินเลือกดูเสื้อได้สักพักเห็นอีกฝ่ายมาที่ร้าน
ขายยาเธอถึงได้รีบตามเข้ามา
“น้องแพรมาซื้อของหรอครับ”
“ค่ะ พี่ปืนมาซื้อของกับใครคะ”แพรมองชายหนุ่มหน้าตาดียืนอยู่ข้างๆคนที่เธอชอบอย่างไม่เป็นมิตร เธอเห็นทั้งสองเดินเข้ามาใน
ร้านขายยาด้วยกันและท่าทางที่สนิทสนมทำให้เธอไม่ค่อยชอบใจ
“น้องชายพี่เอง”ปืนบอกอีกฝ่ายสั้นๆ
หญิงสาวมองเทนนิสตั้งแต่หัวจรดเท้า“เท่าทีรู้พี่ปืนไม่มีน้องชายนี่คะ แล้ว..”ยังพูดไม่ทันจบประโยคคนที่ถูกพากพิงก็พูดขึ้น
“พี่ปืน น้องเลือกของเสร็จแล้วเราไปเดินดูของร้านอื่นกันดีกว่า”เทนนิสหยิบของที่ต้องการใส่ตระกร้าแล้วเดินมาควงแขนพี่ชาย
พูดจาออดอ้อนเสียงหวาน ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวที่มองเขาด้วยท่าทางเหมือนกำลังตกใจที่เห็นเขาควงแขนปืน คนที่ถูกน้อง
ชายเดินเข้ามาควงแขนแปลกใจอยู่บ้างกับท่าทีและคำพูดของอีกฝ่ายแต่ก็พอจะเดาสถานการณ์ออกและให้ความร่วมมืออย่าง
โดยดี
“เอ่อ ครับ”ปืนยิ้มเกือบหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทีของน้องชายแกล้งผู้หญิงตรงหน้า
“พี่ปืนนี่มันอะไร นี่..นี่.พี่อย่าบอกนะว่าพี่ชอบผู้ชายคนนี้”แพรมองชายหนุ่มสองคนสลับกันไปมา ไม่พอทั้งสองยังกุมมือกันต่อ
หน้าเธอเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา เธอโกรธมากและรู้สึกขยะแขยงการกระทำของคนทั้งคู่ แต่เธอไม่ยอมปล่อยผู้ชายที่ชอบไป
หรอก ไม่รู้ว่าพี่ปืนไปหิ้วไอ้เด็กนี่มาจากไหน แต่เธอมาก่อนยังไงก็ไม่ยอมให้ใครมาแย่งได้
ปืนยังไม่ตอบคำถามฝ่ายหญิงก็ถูกน้องชายลากมาที่แคชเชียร์ เทนนิสจ่ายเงินแล้วไม่ลืมหันมามองหญิงสาวที่กัดริมฝีปากแน่น
ระงับอารมณ์โกรธมองมาที่เขาเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ใครบอกให้เธอแสดงท่าทีดูถูกเขาก่อนเขาก็แค่อยากแกล้งเล่นๆ
เท่านั้น ทั้งสองเดินออกจากร้านขายยา หญิงสาวเดินตามมาติดๆกระชากแขนเทนนิส
“แกไอ้วิปริต ไม่มีปัญหาหาแฟนแล้วรึไงถึงได้มาแย่งแฟนคนอื่น”แพรหมดความอดทนด่าอีกฝ่ายออกไป ทั้งสองคนยืนเผชิญกับ
เธอก้าวเข้าไปพยายามจะตบอีกฝ่าย แต่มีคนมายืนขวางเธอไว้
ปืนดึงน้องชายให้มายืนด้านหลัง ไม่อยากทั้งสองมีเรื่องกัน“พี่ว่าแพรเข้าใจอะไรผิดไปแล้วละ พี่กับแพรเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”เขา
พูดให้อีกฝ่ายเข้าใจ
“แต่เรากำลังจะมั่นกันนะคะ”แพรตัดสินใจพูดออกมาให้อีกคนตาสว่างเลิกยุ่งกับแฟนของเธอสักที พร้อมกับเตือนความจำของปืน
คำพูดของเธอทำให้เทนนิสแปลกใจอยู่บ้าง แต่คิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องสำคัญพี่ชายเลยไม่คิดที่เล่าให้เขาฟัง
“นั่นเป็นข้อตกลงของใหญ่ พี่ยังไม่ได้รับปาก”พูดจบปืนรีบดึงน้องชายออกมาก่อนที่มีอะไรมากกว่านี้ ปล่อยที่หญิงสาวยืนกระทบ
ส้นสูงกำมัดแน่นไม่พอใจอยู่คนเดียว
ในห้องผู้โดยสารมีเพียงเสียงเพลงช้าจังหวะเบาๆ
“พี่ขอโทษ ที่น้องแพรพูดกับเราไม่ดี”ปืนตัดสินใจพูดออกมาเมื่อมองซีกหน้าน้องชายที่กำลังแสดงออกว่าไม่พอใจที่อยู่เฉยๆมีคน
มาหาเรื่อง
“ยายป้านั่นเป็นใคร”เทนนิสตัดสินใจถามพี่ชาย
“พ่อจะให้พี่มั่นกับเธอ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ ไม่ได้เกิดจากความรัก”เขาเคยบอกปัดพ่อไปแล้วหลายครั้งแต่พ่อไม่เคยฟัง นี่
มันคือความสุขชั่วชีวิตของเขานะเขาต้องเป็นคนเลือกเองสิ เขายอมพ่อมามากแล้ว
“ถูกบังคับอีกแล้วละสิ”
“อืม”ชายหนุ่มพยักเป็นการยืนยันว่าเขาไม่ได้ชอบน้องแพรเห็นว่าเป็นน้องสาวเท่านั้น
“แล้วจะทำยังไง ไม่ใช่ป่านนี้โทรไปฟ้องพ่อพี่แล้วมั้ง”เทนนิสพูดแล้วหยุดก่อนที่จะคิดอะไรได้”เออแต่ก็ดีนะ”ถ้าเธอโทรไปฟ้อง
ว่าพี่ชายเขาชอบผู้ชาย บนใบหน้าใสมีรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมา จนคนที่กำลังขับรถอยู่อดทักขึ้นมาไม่ได้“คิดอะไรแผลงๆนะเรา”เขา
เดาความคิดน้องชายได้ว่ากำลังคิดทำอะไรแน่ๆ
“ทำไม ก็อยากมาทำท่าทางดูถูกแกล้งนิดหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย”
“หึหึ”ชายหนุ่มส่ายหัวกับน้องชาย
“เธอไม่เหมาะกับพี่ ผมว่าน้องธารน่าจะเหมาะกว่า”
ปืนเลิกคิ้วหนาขึ้นอย่างแปลกใจคำพูดของน้องชาย“พูดเหมือนจะเป็นพ่อสื่อให้อย่างนั้นแหล่ะ”
“ใช่ แต่พี่ต้องบอก่อนว่าชอบน้องธารรึเปล่า”เทนนิสหันหน้ามาพูดกับพี่ชายด้วยท่าทางดูจริงจัง